คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #34 : คู่เดทอลเวง
“ฉันก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งคุณไม่ควรจะมาสนใจ ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ” อะไรดลใจให้ฉันพูดออกไปก็ไม่รู้ หรือบางทีมันอาจจะเป็นคำพูดที่มาจากจิตใต้สำนึก ที่ฉันรู้สึกน้อยอกน้อยใจที่เขาทำท่าทีหมางเมินเหมือนกับคนที่ไม่เคยรู้จักกัน ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าตัวเองต้องการอะไร
จากนั้นฉันก็รีบหันหลังแล้วเดินจ้ำอ้าวหนีไป แต่กลับถูกเขาเข้ามาคว้าแขนเอาไว้ก่อนและดึงเอาไว้จนฉันเสียหลักเซล้มลงไปในอ้อมแขนของเขา
“เดี๋ยวก่อนสิ! มาพูดกันให้รู้เรื่องก่อน”
“ทำอะไรของคุณ ปล่อยนะ!”
“ไม่! จนกว่าคุณจะบอกผมก่อนว่าคุณคือใครกันแน่”
ในตอนที่เขาพยายามต้อนฉันให้จนมุม โชคดีที่มีระฆังพักยกมาช่วยเอาไว้ได้ เมื่อมีพนักงานโรงแรมคนหนึ่งออกมาตามเขาพอดิบพอดี
“จีเอ็มคะ ลูกค้าที่นัดไว้มาถึงแล้วค่ะ” เมื่อได้ยินดังนั้น เทมส์จึงยอมปล่อยมือจากฉัน และหันไปคุยกับพนักงานคนดังกล่าวด้วยท่าทางไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
“ขอบคุณมากครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” จากนั้นเขาก็หันมาคุยกับฉัน และมองหน้าอย่างเอาเรื่อง “วันนี้คุณอาจรอดไปได้ แต่เรื่องของเรามันจะไม่จบอยู่แค่นี้หรอกนะ”
บทที่ 8
วันรุ่งขึ้นของการฝึกงาน พอฉันมาถึงที่โรงแรม Royal Meridian ฉันก็ได้แต่มองซ้ายมองขวาก่อนจะเข้าไปเซ็นชื่อเข้างานในตอนเช้าราวกับว่าเป็นนักโทษที่กำลังหลบหนีคดี อีกทั้งยังต้องคอยแอบมองดูด้วยว่า เทมส์จะมามาดักรอฉันที่หน้าห้องครัวเบเกอรี่หรือไม่
ครั้นพอเมื่อทางสะดวกฉันจึงรีบวิ่งเข้าไป แล้วเก็บตัวอยู่แต่ในห้องครัวเกือบทั้งวัน
“เป็นอะไรไปน่ะเฟิร์น?” พี่แก้วถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง เพราะเห็นวันก่อนฉันบอกจีเอ็มว่าเป็นหวัดและไม่สบาย
“ไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะพี่แก้ว เฟิร์นก็แค่รู้สึกสนุกกับการทำงานก็แค่นั้น”
“เออ...พี่จะบอกว่ามีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อย คือปกติที่ครัวเราจะต้องส่งคนไปประจำที่สเตชั่นขายขนมของห้องอาหาร แต่วันนี้คนที่อยู่ประจำดันลาคลอดซะได้ ถ้ายังไงเฟิร์นช่วยไปอยู่ที่หน้าร้านแทนจะได้รึเปล่า” พี่แก้วอธิบายถึงหน้าที่ใหม่ที่ไหว้วานให้ฉันช่วยทำแทน ซึ่งปกติแล้วในแต่ละวัน ทุกครัวไม่ว่าจะครัวไทย ครัวจีน ครัวญี่ปุ่น และครัวเบเกอรี่ ต่างก็ต้องส่งคนไปประจำที่ห้องอาหารหลัก ที่มีการเปิดขายบุฟเฟต์ในตอนกลางวัน โดยจะต้องมีการโชว์ประกอบอาหารกันสดๆ ที่นั่น เพื่อลูกค้าที่มาจะได้รู้สึกว่าอาหารนั้นดูสดใหม่น่ารับประทาน
“ไม่เอาหรอกพี่ เป็นแค่เด็กฝึกงานจะออกไปยืนหน้าร้านได้ยังไงล่ะคะ”
“เราออกจะหน้าตาดี พูดจาน่ารัก ออกไปรับลูกค้าหน่อย เผื่อยอดขายแผนกเราจะได้เพิ่มบ้าง”
เมื่อพี่แก้วบอกแบบนั้นฉันจึงยอมออกไปยืนช่วยขายขนมข้างนอก ฉันก็จำต้องออกไปยืนยิ้มให้กับทุกคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติ แต่แล้วรอยยิ้มของฉันก็ต้องเจื่อนลง เมื่อหันไปมองเห็นเขาคนนั้นกำลังยืนกอดอกมองหน้าฉันอยู่ด้วยท่าทางเคร่งขรึม
“เป็นอะไรไป เวลาลูกค้าเดินผ่านไปผ่านมาคุณควรจะต้องทำหน้ายิ้มแย้มสิ” เทมส์ทำเสียงดุ ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาฉันด้วยมาดนิ่งๆ ในลุคของจีเอ็มสุดเฮี้ยบที่ใครๆ ต่างให้ความเคารพยำเกรง
“แต่ว่าคุณเป็นจีเอ็มไม่ใช่ลูกค้านี่คะ” ฉันแกล้งพูดประชดกลับไป โดยไม่ได้สึกนึกเลยสักนิดว่าตอนนี้สถานะของฉันกับเขามันต่างกันขนาดไหน
“แบบนั้นคุณยิ่งต้องยิ้ม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริหาร ว่าคุณมีหัวใจในด้านการบริการที่ดี”
เมื่อเขาพูดแบบนั้นฉันจึงหันไปยิ้มแบะปากอย่างไม่เต็มใจ ต้องบอกว่ามันเป็นรอยยิ้มที่น่าเกลียดที่สุดเท่าที่ฉันจะปั้นยิ้มออกมาได้ และทันใดนั้นเขาก็หลุดหัวเราะออกมากับท่าทางของฉัน
ความคิดเห็น