คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter : I
Title : O n c e …
Couple : KrisLay [KRAY]
Author : BabyGumz*
◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇
การจากลาอาจเป็นเรื่องที่สุดแสนเจ็บปวด
แต่การได้กลับมาพบกันอีกครั้ง … เป็นผลลัพธ์ที่แสนมีคุณค่า
◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇
เสียงตะกุกตะกักที่หน้าประตูห้องทำให้คนที่กำลังเคลิ้มใกล้หลับลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง มือบางเอื้อมไปหยิบนาฬิกาปลุกที่วางอยู่บนโต๊ะเล็กๆ ข้างเตียง
เข็มของนาฬิกาบอกเขาว่านี่มันจะตีสามแล้ว เขาดึงผ้าห่มออกจากตัวก่อนจะลากสลิปเปอร์สีม่วงคู่โปรดแล้วรีบออกไปทักทายคนที่อยู่ด้านนอก
“กลับดึกอีกแล้วนะฮะ” คนเป็นน้องเอ่ยทักพร้อมกับหาวหวอดๆ
“อื้อ ช่วงนี้ตารางงานมันเยอะน่ะ” พี่ชายตัวเล็กเงยหน้าจากออแกไนซ์จดงานขึ้นมาคุยกับเขา จางอี้ชิงพยักหน้าก่อนจะหายตัวเข้าไปในห้องครัวเล็กๆ
แล้วกลับออกมาอีกครั้งพร้อมนมอุ่นๆ เขายื่นมันให้กับคนที่กำลังเขียนงานขยุกขยิก
“ขอบใจนะ” มินซอกรับมา “แล้วทำไมเรายังไม่นอนอีก หรือเพราะพี่ทำเสียงดังให้เราตื่น”
คนถูกถามส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มหวานที่ถึงแม้ว่าตากำลังจะปิดก็ตาม “ผมกำลังเคลิ้มใกล้จะหลับอยู่พอดี”
“อ๋า ถ้าอย่างนั้นรีบไปนอนเถอะ อีกแป๊บพี่ก็จะไปอาบน้ำนอนแล้วล่ะ พรุ่งนี้มีงานต่ออีกตอนเช้า”
อี้ชิงถอนหายใจ ทำไมพี่ชายญาติสนิทของเขาต้องมาทำงานเป็นผู้จัดการบ้าบออะไรพวกนี้ด้วยนะ ดูสิแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนเอาเสียเลย เขาลุกขึ้นเดินเข้าไปจูบแก้มของพี่ชายเบาๆ พร้อมบอกราตรีสวัสดิ์
วันนี้อี้ชิงไม่มีเรียน เขากำลังคิดว่าจะใช้เวลาทั้งวันอยู่กับกองแผ่นหนังทั้งหลายแหล่ที่เพิ่งซื้อมาเมื่อสองวันที่แล้ว มือบางกำลังจะเอื้อมไปกดรีโมทเพื่อเปิดโทรทัศน์ ใบหน้าหวานเอี้ยวหันกลับมามองพี่ชายที่เดินไปเดินมาเก็บของลงกระเป๋า
“สายแล้วๆ”
เขาไม่ชอบเห็นพี่มินซอกต้องทำอะไรแบบนี้เลย ไม่อยากจะเห็นพี่เหนื่อยไปมากกว่านี้ ดูสิตอนนี้พี่ชายของเขาผอมลงไปกว่าเมื่อก่อนตั้งเยอะ
“พี่ไปก่อนนะ ไม่รู้จะกลับดึกหรือเปล่า นอนได้เลยนะ” อี้ชิงยิ้มตอบก่อนที่พี่ชายของเขาจะเปิดประตูเดินออกจากห้องไปแล้ว แรงสั่นจากโทรศัพท์มือถือเรียกความสนใจจากคนตัวบางได้เป็นอย่างดี
… แพคฮยอน~
“ว่าไงเรา”
‘ฮยองอยู่ที่ห้องป่าวอ่ะ’
“อื้อ ทำไมหรอ” คนถูกถามย่นคิ้ว ลูกศิษย์ตัวเล็กของเขาจะมาไม้ไหนกันอีกนะ
‘คืองี้อ่ะ ที่บ้านไม่มีใครอยู่เลยอ่ะ พยอนไปอยู่ด้วยคนดิ’
“แล้วเราไม่มีเรียนหรือไง”
แพคฮยอนส่ายหน้ารัวๆ ซึ่งรับรองว่าคนปลายสายไม่มีทางเห็นมันอยู่แล้ว ‘ไม่มีๆ วันนี้โรงเรียนหยุดไง’
“งั้นก็ตามใจ”
‘อาอี้น่ารักที่สุด!’
คนถูกชมแอบยกยิ้ม แพคฮยอนก็เป็นเสียอย่างนี้ ตั้งแต่ที่เขาเริ่มเป็นคุณครูสอนเด็กหนุ่มตัวเล็กให้เล่นเปียโนจนมาถึงตอนนี้ก็เกือบสองปีแล้ว เจ้าเด็กนั่นชอบที่จะมาขลุกอยู่กับเขา มานอน มาดูหนัง มาอ่านหนังสือเพราะแพคฮยอนไม่มีพี่น้อง พ่อแม่ของแพคฮยอนเองก็รู้จักกับเขาเป็นอย่างดีจนอี้ชิงกลายเป็นที่ไว้วางใจเสมือนพี่ชายคนหนึ่งในครอบครัว และก็เหมือนกับเขาถึงแม้จะมีพี่มินซอกที่เป็นญาติสนิทแต่ก็เพราะด้วยหน้าที่การงานของพี่ชายแก้มป่องเลยทำให้ไม่ค่อยได้เจอกันเสียเท่าไร ดังนั้นเจ้าลูกศิษย์ตัวเล็กก็เลยกลายเป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งน้องชาย เป็นครอบครัวของเขาไปอีกคน
ไม่ทันได้รอนาน เสียงเคาะประตูที่ดังมาจากด้านหน้าทำให้คนตัวบางต้องหยุดมือทุกอย่างแล้วรีบไปเปิดประตูบานหนา
“ทำไมมาถึงเร็วขนาดนี้ล่ะ”
คนถูกถามยิ้มจนตาหยี ไม่ต้องบอกอี้ชิงก็พอจะเดาได้ว่าที่จริงแล้วแพคฮยอนน่ะออกจากบ้านมาจนใกล้จะถึงคอนโดที่เขาอาศัยอยู่อยู่แล้วสินะ พอใกล้จะถึงคงคิดได้ว่าควรจะโทรมาบอกเสียก่อน คนเป็นพี่ส่ายหน้าให้กับความเจ้าเล่ห์ของน้องชาย
“มินซอกฮยองล่ะฮะ” คนมาใหม่แทรกตัวจากประตูบานหนาเข้ามาภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดกว้างที่มันถูกแบ่งสันปันส่วนออกเป็นห้องต่างๆ อย่างดี ทั้งห้องนอนสองห้อง ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องน้ำอย่างละหนึ่งพร้อมกับระเบียงที่อยู่ติดกันกับห้องนั่งเล่น เด็กหนุ่มเอาถุงขนมที่เพิ่งซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเข้าไปเก็บที่เคาท์เตอร์ในห้องครัว
“ออกไปทำงานได้สักพักแล้วล่ะ” อี้ชิงบอก เขากลับมานั่งที่พื้นพรมหน้าโซฟาเหมือนกับตอนแรก
“แล้วนี่พี่กำลังทำไรอยู่อ่ะ” เด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักเดินตามมาด้วยกัน แพคฮยอนนั่งเอาคางเกยไหล่ของพี่ชายตัวบางไว้
“ดูหนัง เราอยากดูเรื่องอะไรล่ะ”
คนถูกถามค่อยๆ คลานเข่าไปยังกองแผ่นดีวีดีที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล แพคฮยอนยู่ปากอย่างใช้ความคิด
“ไม่เห็นมีอะไรน่าดูเลยอ่ะ ออกไปเดินเล่นกันเหอะ” เขารีบคลานกับมานั่งทำตาละห้อยอยู่ข้างหน้าของพี่ชายตัวบาง
“ไปก็ได้ ไม่เห็นต้องทำหนาหมาหงอยขนาดนั้นเลย” อี้ชิงเอื้อมมือไปยีกลุ่มผมสีคาราเมลจนยุ่งเหยิง “พี่ไปหยิบของก่อนแป๊บนึงนะ” ไม่พูดเปล่าคนโตกว่าเดินหายเข้าไปในห้องก่อนจะกลับออกมาพร้อมกับกระเป๋าสตางค์และเสื้อคลุมสีน้ำเงินหนึ่งตัว
ทั้งสองหนุ่มใช้บริการของแท็กซี่ให้มาส่งที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกับคอนโดของเขา คนอายุมากกว่าส่งธนบัตรให้กับคนขับรถก่อนจะหันมาดันตัวน้องชายให้รีบลงจากรถเพราะยังมีผู้โดยสารอีกหลายคนที่รอเรียกใช้บริการรถสาธารณะนี่อยู่
“ไปไหนก่อนดี” นิ้วเล็กจิ้มเข้าที่ริมฝีปาก ทันทีที่นึกออก แพคฮยอนก็ลากมือพี่ชายตัวบางให้เดินดุ่มๆ ตามเขาไปที่ร้านขายเสื้อผ้า
“อาอี้ๆ อาอี้ว่าตัวไหนสวยอ่ะ” คนถูกถามเอียงคอมองคนตรงหน้าที่กำลังเอาเสื้อยืดสองตัวทาบกับตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่อย่างใช้ความคิด
“ขาวม่วง” อี้ชิงตอบ ก่อนจะหันไปสนใจเครื่องประดับที่อยู่ในตู้โชว์ แพคฮยอนทำปากยื่น อันที่จริงแล้วน่ะ เขาชอบตัวสีกรมท่ามากกว่าอีกนะ
สุดท้าย คนอายุน้อยกว่าก็ยื่นมันทั้งสองตัวให้กับพนักงานของร้าน
“ดูอะไรอยู่อ่ะ” คนเป็นน้องเกยคางไว้กับไหล่ลาดของพี่ชายแล้วจึงยื่นหน้าไปดูบ้าง “อะไรอ่ะ น่ากลัวจะตาย” อี้ชิงเลิกคิ้ว น่ากลัวหรอ มันก็ไม่ได้ดูน่ากลัวขนาดนั้นสักหน่อย คิ้วเรียวค่อยๆ ขมวดเข้าหากัน ความรู้สึกบางอย่างกำลังรบกวนจิตใจเขา
ไม่รู้ทำไมเหมือนกันถึงได้สนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ราวกับว่ามีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้เขาสนใจ
สองหนุ่มเดินเล่นกันอยู่พักใหญ่จนในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะกลับคอนโดเพราะพี่มินซอกโทรมาตาม บอกว่ามีเรื่องอยากจะขอคำปรึกษาจากเขา
มือบางกดเลขรหัสที่เครื่องสี่เหลื่ยมหน้าห้องก่อนจะเปิดประตูเข้าไป มินซอกนั่งรออยู่ที่โซฟาตัวยาวสีเข้มอยู่ก่อนแล้ว ใบหน้าของพี่ชายญาติสนิทดูมีเรื่องให้คิดมากมายหลายอย่าง
“มินซอกฮยองงง~” ไม่พูดเปล่า แขกคนประจำของที่นี่รีบตรงดิ่งเข้าไปกอดพี่ชายแก้มป่อง
“ว่าไงเรา ไม่ค่อยได้เจอกันเลย”
“แน่สิฮะ เห็นพี่อี้ชิงบอกว่าฮยองงานยุ่ง” คนเป็นพี่พยักหน้าน้อยๆ
“ว่าแต่พี่มีอะไรจะปรึกษาผมหรอ” อี้ชิงเดินกลับออกมาจากห้องครัว เขาเดินกลับมาพร้อมกับแก้วใส่น้ำผลไม้
“อื้อ พี่มีเรื่องอยากให้เราช่วยน่ะ” มินซอกยกน้ำในแก้วขึ้นดื่มเล็กน้อย ใจจริงก็ไม่อยากจะรบกวนอี้ชิงสักเท่าไร เขาไม่อยากจะแย่งเวลาส่วนตัวของน้อง แต่มันเป็นงานเร่งด่วน เขาไม่รู้จะไปหาใครที่ไหน และอีกอย่างอี้ชิงก็น่าจะทำงานนี้ได้สบายๆ
“พี่อยากให้เรามาช่วยพี่ทำงานน่ะ พอดีว่าที่โมเดลลิงจะมีทีมงานแล้วก็นายแบบมาใหม่”
คนถูกขอให้ช่วยพยักหน้าตามช้าๆ คิ้วเรียวย่นเข้าหากันเล็กน้อย มีนายแบบใหม่ก็ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเขาเลย
“สองคนนั้นย้ายมาจากจีนน่ะ พี่ก็เลยอยากให้เราเป็นคนกลางช่วยประสานงานให้พี่สักหน่อย” มินซอกยิ้มแหยๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าน้องชายหน้าหวานของเขาจะยอมหรือเปล่า แต่ด้วยความเป็นพี่เป็นน้องกันมินซอกเชื่อว่าอย่างไรแล้วอี้ชิงต้องยอมช่วยเขาแน่นอน
“มินซอกฮยองอยากได้ลูกน้องอีกป่าวฮะ” แพคฮยอนทำหน้าทะเล้นจนพี่ชายตัวบางอดจะใช้กำปั้นเขกเข้าที่ศีรษะนั่นไม่ได้ “ผมเจ็บนะ” เด็กน้อยเบะปาก น้องเล็กยกมือขึ้นมาคลำศีรษะของตัวเองป้อยๆ
“เอาสิ ไว้วันไหนไม่มีเรียนก็ไปช่วยอี้ชิงด้วยอีกแรง”
“จะไม่วุ่นวายหรอฮะ” อี้ชิงเอ่ยถาม แต่จะว่าไปเจ้าตัวยุ่งก็คงจะไม่มีเวลาไปทำงานกับเขาได้ตลอดเวลาอยู่แล้วล่ะนะ
“ไม่หรอก สองคนที่มาใหม่นั่น คนเป็นน้องรู้สึกว่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้าตัวยุ่งเลย”
“ผมไม่ใช่เจ้าตัวยุ่งนะ!” เสียงนั้นดังมาจากห้องครัว น้องเล็กของห้องรู้สึกหิวเลยเดินไปหยิบขนมมาทานโดยไม่ลืมหยิบมาเผื่อพี่ๆ ด้วย
เสียงประกาศจากทางสนามบินทำให้คนที่มารออยู่ก่อนแล้วเตรียมพร้อม วันนี้เป็นวันเสาร์แพคฮยอนก็เลยได้โอกาสติดสอยห้อยตามพี่ชายทั้งสองคนมาทำงานด้วย
“อีกเดี๋ยวก็คงออกมาแล้วล่ะ” อี้ชิงพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มบางๆ คนที่เขาจะต้องทำงานด้วยตลอดสามเดือนนี้จะหน้าตาเป็นอย่างไร จะเป็นคนนิสัยแบบไหนกันนะ
“โฮ.. ฮยองๆ ดูดิผู้ชายคนนั้นดิ เท่เป็นบ้าเลย!” พี่ชายทั้งสองคนหันไปมองตามสายตาของเจ้าตัวยุ่ง เป็นมินซอกที่ก้าวเร็วๆ ไปยังคนสองคนที่อยู่ด้านหน้า เขาโค้งให้กับชายหนุ่มที่แพคฮยอนเพิ่งออกปากชมไปเมื่อครู่
“สวัสดีครับ ผมตัวแทนของ…” อี้ชิงไม่รู้ว่าพี่ชายของเขากำลังพูดอะไรกับผู้ชายสองคนที่อยู่ตรงหน้า รู้สึกเหมือนสมองมันอื้ออึงไปหมด รูปร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อยืดสีเข้มกับกางเกงยีนส์สีอ่อนทำให้คนตัวบางใจเต้นแบบแปลกๆ อยากจะรู้นักว่าดวงหน้าภายใต้กรอบแว่นตากันแดดสีดำนั้นจะเป็นแบบไหนกันนะ นัยน์ตาสีน้ำผึ้งกระพริบหลายๆ ครั้ง
“พี่อิ้งชิงๆ”
“อ อื้อ ว่าไง” คนตัวบางละสายตาจากภาพตรงหน้าก่อนจะหันมาคุยกับน้องชายตัวเล็ก
“มินซอกฮยองเรียกน่ะฮะ ผมสะกิดพี่ตั้งหลายทีแน่ะ”
คนเป็นพี่พยักหน้ารับสองสามครั้ง
“นี่จางอี้ชิง และแพคฮยอน น้องชายและผู้ช่วยของผม ถ้ามีอะไรสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือยังไงบอกผม อี้ชิง หรือแพคฮยอนก็ได้นะครับ” มินซฮกบอกพร้อมรอยยิ้ม ชายหนุ่มตัวโตทำแค่พยักหน้ารับ
.. จะยิ้มรับสักหน่อยก็ไม่ได้หรอ
“ส่วนนี่ก็คริส แล้วก็จื่อเทา”
“หวัดดีตัวเล็ก” เด็กหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งผิวสีน้ำผึ้งก้มหน้าลงมาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยทักทายคนที่อายุน้อยที่สุด แพคฮยอนชิ้นิ้วมาที่ตัวเอง ริมฝีปากได้รูปของคนตัวสูงกว่าเขากระตุกยิ้มเพียงน้อย เจ้าตัวยุ่งเบะปาก … มาเรียกเขาว่าตัวเล็กได้ไงกัน ยังไม่ทันจะรู้จักกันเลยนะ!
“ผมว่าพวกคุณเดินทางมาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนกันก่อนจะดีกว่านะครับ”
คนที่เพิ่งเดินทางมาถึงพยักหน้ารับ มินซอกเดินนำหน้าไปยังที่จอดรถให้อีกสี่คนที่เหลือเดินตาม แพคฮยอนที่กำลังจะคล้องแขนพี่ชายหน้าหวานให้เดินไปด้วยกันเกือบจะหน้าทิ่มเมื่อมีแรงหนักๆ ทิ้งตัวลงที่ไหล่ของเขา คนตัวเล็กที่เทาเรียกสะบัดหน้าหันมองคนข้างๆ อย่างรวดเร็ว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่แพคฮยอนเริ่มรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ จุดขึ้นอีกครั้ง สองขาของเขาถูกคนตัวสูงกว่าออกแรงลากให้เดินไปด้วยกัน
อี้ชิงมองภาพตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ แต่ก็คิดว่าอาจเป็นเพราะวัยเดียวกันก็คงจะทำให้เด็กทั้งสองคนนั้นปรับตัวเข้าหากันและทำงานด้วยกันได้ง่ายขึ้น ในขณะที่ตัวเองกำลังจะก้าวขาวเดินตาม เสียงทุ้มของใครอีกคนกลับหยุดเขาเอาไว้เสียก่อน
“เดี๋ยว..”
คนตัวบางชะงักเท้าแต่ยังไม่ทันจะหันกลับไปถาม ลมร้อนที่กระทบเข้ากับใบหูของเขาทำให้เขารู้สึกขนลุก ประโยคที่เอ่ยจากปากคนตัวโตนั่นทำให้นัยน์ตาสีน้ำผึ้งเบิกโพลง
“ยินดีที่ได้พบ … เล่ย เล่ย”
ฺTBC.
◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇◇
มันคืออะไรก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าอยากเขียน หลายๆ คนอาจจะพอเดาเรื่องได้
แต่ก็นั่นแหะค่ะ ฟิคเรื่องแรกสำหรับ KRAY ของเราไม่มีความซับซ้อนใดๆ ทั้งสิ้น
มีแค่ความรู้สึกที่อยากจะเขียน แค่นั้นจริงๆ
ไม่รู้ว่าออกมาจะเป็นยังไง อ่านแล้วชอบไม่ชอบติชมกันได้เลยนะคะ
ความคิดเห็นของทุุกคนจะเป็นแรงขับเคลื่อนและกำลังใจให้กับไรเตอร์
ได้เป็นอย่างดีทีเดียวเลยล่ะ ขอให้สนุกและมีความสุขกับ Once… และ KRAY นะคะ
★ พี่ไข่ดาวกับน้องกระต่าย ★
ฺBabyGumz*
@babygum_z
http://babygumz.wordpress.com
ความคิดเห็น