ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : การพบกัน...ยัยไอติม&FIRST KISS
" โอ๊ย!เจ็บนะโว้ย" ในขณะที่ฉันจะด่าไอ้คนที่ผลักประตูมาโดนฉัน คนๆนั้นก็พูดขึ้นมาก่อนว่า
" อ้าว!ยัยไอติมเธอมาทำอะไรตรงนี้ล่ะ" หมอนั่นพูดพลางมองมือที่ฉันกุมหัวอยู่ แล้วระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ฉันเลยมองหน้าเค้าที่ป่านนี้ไส้ในท้องคงขดเป็นเลขแปดแล้วมั้ง แต่ตอนนี้ฉันเริ่มงงแล้วอ่ะ เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นเนี้ย แล้วอีตาบ้าที่ยืนขำฉันอยู่เป็นใครว่ะ ตอนนี้ฉันควรโกรธเค้าไม่ใช่หรอ แล้วไอ...ติมนี่มันใคร!!!!
" นี่...ฉันว่านายเพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลบ้ารึไง ถึงได้มาหัวเราะคนอ่นอย่างนี้"
" เปล่านี่...ยัยไอติม" หมอนั่นพูดพลางยืนเอามือ กอดอก โธ่!คิดว่าเท่นักรึไง ไอ้ขี้เก๊ก
" แล้วที่นายเปิดประตูมาโดนฉันแล้วยังไม่มาขอโทษอีก"
" ก็เธออยากซุ่มซ่ามเองทำไม ประตูมันอยู่ดีๆดันเอาหน้ามาชนได้ ยัยไอติม"
" นี่นาย..." ฉันพูดขึ้นพลางกำหมัดยกขึ้นมาต่อยหน้าหมอนั่น แต่หมอนั่นดันรับหมัดฉันได้ น่าเจ็บใจชะมัด แต่ฉันไม่ยอมแพ้หรอก ฉันใช้มืออีกข้างต่อยหมอนั่น แต่หมอนั่นดันรับได้อีก ฮือ...อีตานี่ไปฝึกเล่นกังฟูรึไงฟะ แล้วไม่ทันที่ฉันจะด่าหมอนั่น หมอนั่นก็...อุ๊บ!คงไม่ต้องบอกใช่มั้ยว่าฉันโดยขโมยจูบแรก!!!! ท่ามกลางความตกใจของฉันแล้วก็....ไม่ไหวแล้วทำไมฉันมองอะไรไม่ค่อยเห็นเลย แต่พอฉันตั้งสติที่เตลิดไปถึงระนอง ระยอง ยะลา แล้วจึงผลักหมอนั่นออกจากตัว ก่อนต่อยหมอนั่น แล้ววิ่งออกมา ฮือ...แวบนึงฉันเห็นหมอนั่นทำหน้าเศร้า แต่คงเป็นไปไม่ได้ ฉันคงตาฝาดไปเอง หึ...นายคิดว่าแกล้งคนอื่นแบบนี้คิดว่าสนุกนักใช่มั้ย ฮือ ฮือ ตอนนี้หัวใจฉันกำลังร้องไห้ ฉันวิ่งหน้าเข้าห้องน้ำ แล้วเข้ามือขึ้นมาถูปาก ฉันว่าตอนนี้ปากฉันบวมเจ่อหมดแล้ว แต่มันน่าเจ็บใจนัก ไอ้คนบ้า คนเลว คนฉวยโอกาส เฮ้อ! กลับมาขึ้นบ้านแล้ว เหนื่อยชะมัด
" กลับมาแล้วค่า~" ฉันรีบตรงมาที่ห้อง แล้วทิ้งตัวลงบนที่นอนพร้อมกับน้ำตาบ้าๆที่มันล้นเอ่อออกมา ทำไมฉันถึงอ่อนแออย่านี้นะ ทั้งที่สัญญากับเค้าไว้ แล้วอย่างนี้ฉันจะไปสู้หน้าเค้าได้ไงเนี้ย
ทำไมไม่รับสักที ทำไมไม่รับสักที
ฉันมองโทรศัพท์อยู่นาน ก็ตอนนี้ฉันไม่มีเวลามาคุยโทรศัพท์อย่างมีความสุขหรอกนะ ทุกคนคงเข้าใจใช่มั้ยว่าตอนที่โดนขโมยจูบแรกน่ะมันเป็นยังไง แต่ไอ้มือถือบ้าเนี้ยมันไม่ยอมหยุดร้องซะที มันคงนึกว่าอายุขวบสองขวบรึไง ว่าแล้วฉันเลยกดรับ(คือรำคาญไง)
" ฮาโหล"
" นี่ไอ้มิ แกเป็นถึงขนาดนี้เลยหรอ"
" เปงอารายว่ะ"
" ก็ที่พูดยานคางแบบนี้ไง"
" เปล่านี่...ฉันสบายดี" ฉันพยายามทำเสียงให้สดใสแต่ยังไงมันก็สั่นอยู่ดี"
" งั้นก็ดีแล้ว แกผักผ่อนเยอะๆนะ เออนี่แกรู้เปล่าไอ้แอนมันร้องไห้โทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุทำให้แกมาเจอเรื่องไม่ดีอย่างนี้ เออ!เอาเถอะ แกไปนอนซะ เดี๋ยวฉันไปดูไอ้แอนก่อน"
" อืม...แกไปดูไอ้แอนเถอะ ฉันไม่เป็นไรหรอก ฝากบอกไอ้แอนด้วยว่าไม่ต้องคิดมาก แล้วค่อยเจอกันวันจันทร์ บาย" ฉันวางมือถือลงแล้วคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ แล้วสมองของฉันก็ผุดภาพนั้นขึ้นมา เอาอีกแล้ว!อย่ามาหลอกหลอนกันเลย ฉันกลัวแล้ว แล้วฉันก็...
ปึง~ปึง
เสียงอารายอ่ะ หรือว่าจาเป็นเสียงการตัดสินจากยมบาล ฮือ...ขอร้องล่ะค่านู๋ยังไม่อยากตาย นู๋ยังมีเรื่องต้องทำอีกเยอะ นู๋ยังไม่อยากจากใครตอนนี้ นู๋ยังมีชีวิตที่สดใส แล้วอีกอย่างอันนี้สำคัญมาก นู๋ยังไม่ได้เจอเค้าคนนั้นเลย เค้าก็คงอยากเจอนู๋เหมือนกัน เค้าเคยสัญญากับ...'มิกิ...มิกิ' ทำไมท่านยมบาลเสียงเหมือนแม่จัง
" ยัยมิกิ! ถ้าไม่ออกมาแม่จะพังประตูแล้วนะ"
ฮะ!แม่ อ้าว...ฉันหลับไปหรอเนี้ย โอ๊ย...ปวดหัวจัง ฉันพยายามยันตัวขึ้นจากเตียง แล้วไปเปิดประตูให้แม่
" แม่มีอะไรรึเปล่าค่ะ ทำยังกับจะทำสงครามในห้องนู๋งั้นแหละ" ฉันพูดกับแม่ด้วยเสียงที่เป็นหญิงสุดๆ ไม่งั้นฉันก็โดนตีก้นลายแน่ๆ ก็หวังให้ลูกคนนี้น่ารัก เรียบร้อย เป็นกุลสตรีไทยนี่เจ้าค่ะ
" ก็ไม่มีอะไรหรอก แม่แค่มาดูนึกว่ายังไม่กลับมา"
" นู๋กลับมาตั้งนานแล้ว แต่เผลอหลับมากไปหน่อยเลยเพิ่งตื่นตอนแม่ปลุกนี่แหละ"
" อ้าวงั้นหรอ...งั้นรีบไปกินข้าวไป"
" ค่า~เดี๋ยวหนูลงไปกิน" เฮ้อ...ไปล้างหน้าดีกว่า
" เฮ้ย!ทำไมตาบวมอย่างนี้ว่ะ" ฉันอุทานด้วยความตกใจ ก็ตาฉันบวมอย่างกับโดนผึ้งต่อย แต่ก็สมควรอยู่หรอก ไม่ๆๆๆ เราต้องไม่คิดถึงมัน แล้วฉันก็ลงมากินข้าวฝีมือแม่ที่ขนาดแม่ช้อยยังอายเลย ก็แบบว่านี่สิกินไม่ได้เลยอ่ะ อย่างวันนี้สิไข่เจียวไหม่เกรียม ข้าวไม่สุก แต่ฉันก็ทนกินมาตั้ง 14 ปีแน่ะ ว่าแล้วอยู่ดีๆท้องที่ร้องอยู่ก็อิ่มขึ้นมาทันที ฉันว่าฉันนี่พูดมากจริงๆ ไปอาบน้ำดีกว่า คิดถึงที่นอนนุ่มๆจัง
" อ้าว!ยัยไอติมเธอมาทำอะไรตรงนี้ล่ะ" หมอนั่นพูดพลางมองมือที่ฉันกุมหัวอยู่ แล้วระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ฉันเลยมองหน้าเค้าที่ป่านนี้ไส้ในท้องคงขดเป็นเลขแปดแล้วมั้ง แต่ตอนนี้ฉันเริ่มงงแล้วอ่ะ เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นเนี้ย แล้วอีตาบ้าที่ยืนขำฉันอยู่เป็นใครว่ะ ตอนนี้ฉันควรโกรธเค้าไม่ใช่หรอ แล้วไอ...ติมนี่มันใคร!!!!
" นี่...ฉันว่านายเพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลบ้ารึไง ถึงได้มาหัวเราะคนอ่นอย่างนี้"
" เปล่านี่...ยัยไอติม" หมอนั่นพูดพลางยืนเอามือ กอดอก โธ่!คิดว่าเท่นักรึไง ไอ้ขี้เก๊ก
" แล้วที่นายเปิดประตูมาโดนฉันแล้วยังไม่มาขอโทษอีก"
" ก็เธออยากซุ่มซ่ามเองทำไม ประตูมันอยู่ดีๆดันเอาหน้ามาชนได้ ยัยไอติม"
" นี่นาย..." ฉันพูดขึ้นพลางกำหมัดยกขึ้นมาต่อยหน้าหมอนั่น แต่หมอนั่นดันรับหมัดฉันได้ น่าเจ็บใจชะมัด แต่ฉันไม่ยอมแพ้หรอก ฉันใช้มืออีกข้างต่อยหมอนั่น แต่หมอนั่นดันรับได้อีก ฮือ...อีตานี่ไปฝึกเล่นกังฟูรึไงฟะ แล้วไม่ทันที่ฉันจะด่าหมอนั่น หมอนั่นก็...อุ๊บ!คงไม่ต้องบอกใช่มั้ยว่าฉันโดยขโมยจูบแรก!!!! ท่ามกลางความตกใจของฉันแล้วก็....ไม่ไหวแล้วทำไมฉันมองอะไรไม่ค่อยเห็นเลย แต่พอฉันตั้งสติที่เตลิดไปถึงระนอง ระยอง ยะลา แล้วจึงผลักหมอนั่นออกจากตัว ก่อนต่อยหมอนั่น แล้ววิ่งออกมา ฮือ...แวบนึงฉันเห็นหมอนั่นทำหน้าเศร้า แต่คงเป็นไปไม่ได้ ฉันคงตาฝาดไปเอง หึ...นายคิดว่าแกล้งคนอื่นแบบนี้คิดว่าสนุกนักใช่มั้ย ฮือ ฮือ ตอนนี้หัวใจฉันกำลังร้องไห้ ฉันวิ่งหน้าเข้าห้องน้ำ แล้วเข้ามือขึ้นมาถูปาก ฉันว่าตอนนี้ปากฉันบวมเจ่อหมดแล้ว แต่มันน่าเจ็บใจนัก ไอ้คนบ้า คนเลว คนฉวยโอกาส เฮ้อ! กลับมาขึ้นบ้านแล้ว เหนื่อยชะมัด
" กลับมาแล้วค่า~" ฉันรีบตรงมาที่ห้อง แล้วทิ้งตัวลงบนที่นอนพร้อมกับน้ำตาบ้าๆที่มันล้นเอ่อออกมา ทำไมฉันถึงอ่อนแออย่านี้นะ ทั้งที่สัญญากับเค้าไว้ แล้วอย่างนี้ฉันจะไปสู้หน้าเค้าได้ไงเนี้ย
ทำไมไม่รับสักที ทำไมไม่รับสักที
ฉันมองโทรศัพท์อยู่นาน ก็ตอนนี้ฉันไม่มีเวลามาคุยโทรศัพท์อย่างมีความสุขหรอกนะ ทุกคนคงเข้าใจใช่มั้ยว่าตอนที่โดนขโมยจูบแรกน่ะมันเป็นยังไง แต่ไอ้มือถือบ้าเนี้ยมันไม่ยอมหยุดร้องซะที มันคงนึกว่าอายุขวบสองขวบรึไง ว่าแล้วฉันเลยกดรับ(คือรำคาญไง)
" ฮาโหล"
" นี่ไอ้มิ แกเป็นถึงขนาดนี้เลยหรอ"
" เปงอารายว่ะ"
" ก็ที่พูดยานคางแบบนี้ไง"
" เปล่านี่...ฉันสบายดี" ฉันพยายามทำเสียงให้สดใสแต่ยังไงมันก็สั่นอยู่ดี"
" งั้นก็ดีแล้ว แกผักผ่อนเยอะๆนะ เออนี่แกรู้เปล่าไอ้แอนมันร้องไห้โทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุทำให้แกมาเจอเรื่องไม่ดีอย่างนี้ เออ!เอาเถอะ แกไปนอนซะ เดี๋ยวฉันไปดูไอ้แอนก่อน"
" อืม...แกไปดูไอ้แอนเถอะ ฉันไม่เป็นไรหรอก ฝากบอกไอ้แอนด้วยว่าไม่ต้องคิดมาก แล้วค่อยเจอกันวันจันทร์ บาย" ฉันวางมือถือลงแล้วคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ แล้วสมองของฉันก็ผุดภาพนั้นขึ้นมา เอาอีกแล้ว!อย่ามาหลอกหลอนกันเลย ฉันกลัวแล้ว แล้วฉันก็...
ปึง~ปึง
เสียงอารายอ่ะ หรือว่าจาเป็นเสียงการตัดสินจากยมบาล ฮือ...ขอร้องล่ะค่านู๋ยังไม่อยากตาย นู๋ยังมีเรื่องต้องทำอีกเยอะ นู๋ยังไม่อยากจากใครตอนนี้ นู๋ยังมีชีวิตที่สดใส แล้วอีกอย่างอันนี้สำคัญมาก นู๋ยังไม่ได้เจอเค้าคนนั้นเลย เค้าก็คงอยากเจอนู๋เหมือนกัน เค้าเคยสัญญากับ...'มิกิ...มิกิ' ทำไมท่านยมบาลเสียงเหมือนแม่จัง
" ยัยมิกิ! ถ้าไม่ออกมาแม่จะพังประตูแล้วนะ"
ฮะ!แม่ อ้าว...ฉันหลับไปหรอเนี้ย โอ๊ย...ปวดหัวจัง ฉันพยายามยันตัวขึ้นจากเตียง แล้วไปเปิดประตูให้แม่
" แม่มีอะไรรึเปล่าค่ะ ทำยังกับจะทำสงครามในห้องนู๋งั้นแหละ" ฉันพูดกับแม่ด้วยเสียงที่เป็นหญิงสุดๆ ไม่งั้นฉันก็โดนตีก้นลายแน่ๆ ก็หวังให้ลูกคนนี้น่ารัก เรียบร้อย เป็นกุลสตรีไทยนี่เจ้าค่ะ
" ก็ไม่มีอะไรหรอก แม่แค่มาดูนึกว่ายังไม่กลับมา"
" นู๋กลับมาตั้งนานแล้ว แต่เผลอหลับมากไปหน่อยเลยเพิ่งตื่นตอนแม่ปลุกนี่แหละ"
" อ้าวงั้นหรอ...งั้นรีบไปกินข้าวไป"
" ค่า~เดี๋ยวหนูลงไปกิน" เฮ้อ...ไปล้างหน้าดีกว่า
" เฮ้ย!ทำไมตาบวมอย่างนี้ว่ะ" ฉันอุทานด้วยความตกใจ ก็ตาฉันบวมอย่างกับโดนผึ้งต่อย แต่ก็สมควรอยู่หรอก ไม่ๆๆๆ เราต้องไม่คิดถึงมัน แล้วฉันก็ลงมากินข้าวฝีมือแม่ที่ขนาดแม่ช้อยยังอายเลย ก็แบบว่านี่สิกินไม่ได้เลยอ่ะ อย่างวันนี้สิไข่เจียวไหม่เกรียม ข้าวไม่สุก แต่ฉันก็ทนกินมาตั้ง 14 ปีแน่ะ ว่าแล้วอยู่ดีๆท้องที่ร้องอยู่ก็อิ่มขึ้นมาทันที ฉันว่าฉันนี่พูดมากจริงๆ ไปอาบน้ำดีกว่า คิดถึงที่นอนนุ่มๆจัง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น