ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ◤ FT Island・SHINee ❤ สตรอเบอร์รี่! เดย์ ' ๐๑ ◥

    ลำดับตอนที่ #10 : STRAWBERRY ❤ Chapter 01 { Guest คิมซองอึน . ชเวซึงฮยอน }

    • อัปเดตล่าสุด 15 มิ.ย. 52


    STRAWBERRY Days

    { CHAPTER 01 . }




    โจยัง โทรศัพท์ดังนี่ .. ไม่รับเหรอ ?

     

    ยูนาที่กำลังทอดไข่ดาวเป็นอาหารอย่างง่าย ๆ ให้ตัวเองและคนอื่น ๆ ในบ้านร้องตะโกนถามมาจากในครัว

    เมื่อได้ยินเสียงเพลงท่อนฮุคที่คุ้นเคยจากโทรศัพท์มือถือเครื่องสีชมพูของเพื่อนสนิทดังติดต่อกันหลายรอบแล้ว

    หากแต่ว่าไร้ซึ่งคนรับสายใด ๆ .. ทั้ง ๆ ที่โทรศัพท์เครื่องนั้นก็อยู่ข้างตัวของโจยังเพียงเอื้อมมือเท่านั้นเอง

     

    จะให้ฉันรับได้ยังไงเล่า คนที่โทรมาน่ะ .. คิมแจจุงนะ

     

    น้ำเสียงของโจยังที่ตะโกนกลับมาออกแนวหวาด ๆ ไม่ใช่น้อย

     

    แน่ล่ะ .. จะไม่ให้กลัวได้ไง ก็ คิมแจจุง คนที่ว่านี่คือชื่อผู้ชายคนที่เป็นคู่หมั้นของคิมโจยังน่ะสิ

    แล้วการที่เธอหนีการหมั้นกับลูกชายนักธุรกิจไฮโซชื่อดังแบบนั้นมา .. จะไม่ให้เธอกลัวได้ยังไงกันล่ะ ?

     

    คนที่อารมณ์แปรปรวนไปมาอย่างเขา .. ถ้ารู้ว่าเธออยู่ที่ไหนจะต้องมาตามตัวกลับไปแน่ ๆ

    ไม่เอาด้วยหรอก โทรศัพท์ที่มีบอกตำแหน่งที่อยู่ปลายทางแบบนี้ ไม่มีทางที่คิมโจยังจะกดรับมันโดยเด็ดขาด !!

     

    แย่เลยนะ ยูนาว่า พลางตักไข่ดาวที่เป็นรูปทรงสวยงามลงไปในจานกระเบื้องข้างตัว

     

    อืม .. โจยังค่อยถอนหายใจออกมาได้เมื่อเสียงโทรศัพท์เงียบหายไปในที่สุด ก็ฉันยังไม่อยากหมั้นนี่นา

     

    ยูนาเดินถือจานใส่ไข่ดาวสี่ใบวางลงบนโต๊ะตรงหน้าโจยังที่กำลังยุ่งวุ่นวายกับโทรศัพท์มือถืออย่างหมกมุ่น

    ตอนนี้เธอกำลังเปลี่ยนมันเป็นระบบสั่น .. แต่ยังไม่ทันจะได้เปลี่ยนมันเลยด้วยซ้ำ เสียงริงโทนก็ดังขึ้นอีกครั้ง

     

    เขาโทรมาอีกแล้วอ่ะ .. ยูนา

     

    โอ๊ย ~ เจ๊ หนวกหูเว้ย !!” เสียงของซงซึงฮยอนดังมาจากในห้องนอนที่ชั้นล่างใกล้ ๆ กันนั้น

     

    เอาไงดีล่ะ ?

     

    ถอดแบตไปเลยก็แล้วกัน ยูนาเสนอความเห็นไปในที่สุด

     

    และเสียงริงโทนที่น่ารำคาญก็ยุติลงได้ .. เพราะเสียงโวยวายอย่างรำคาญใจของซงซึงฮยอนนั่นเอง


    .

    .

    .

    l'Heure Café { เลอ คาเฟ่ . }

    ที่นี่คือคาเฟ่เล็ก ๆ แสนหวานที่ตั้งอยู่หน้าหมู่บ้านสตรอเบอร์รี่ .. ห่างจากกันเพียงแค่หนึ่งช่วงถนนเท่านั้นเอง

    เป็นร้านคาเฟ่น่ารัก สดใส สไตล์วัยรุ่น .. ที่ไม่ว่าใครก็ต้องอยากเข้ามานั่งสัมผัสบรรยากาศภายในร้านด้วยกันทั้งนั้น

     

    และขณะนี้ .. เจ้าของร้านก็กำลังนั่งอ่านทาเล็บที่นิ้วมือเรียวยาวของตัวเองอยู่ที่โต๊ะลูกค้าหน้าร้านอย่างสบายอารมณ์

    บนโต๊ะไม้สีน้ำตาลอ่อนนั้น มีแก้วใส่ชามะลิกลิ่นหอมฟุ้งและเค้กส้มสีส้มอ่อนสวย ที่มีเนื้อส้มประดับอยู่ข้างบนดูน่าทาน

    แต่ดูเหมือนว่าคิมยองแอจะไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งบนโต๊ะนั้นเลยแม้แต่น้อย เธอเอาแต่หมกหมุ่นกับการทาเล็บอยู่คนเดียว

    จนเมื่อเสียงกระแอมไอดังมาจากบาริสต้าหนุ่มหล่อหน้าหวาน .. เธอจึงเงยหน้าขึ้นมองพลางขมวดคิ้วมุ่น

     

    มีอะไร .. คิมซองเจ

     

    น้ำเสียงดุ ๆ นั้นไม่ได้ทำให้คิมซองเจรู้สึกกลัวเลย ตรงกันข้าม ใบหน้าหวานนั้นยังคงระบายยิ้ม

     

    นูน่าเข้ามาทาเล็บข้างในดีกว่ามั้ยครับ ?

     

    เรื่องของฉันน่า นี่มันร้านของฉันนะ .. อย่างกับว่าฉันจะแคร์เวลาใครมองอย่างนั้นแหละ

     

    เถียงซองเจกลับไปก่อนจะนั่งทาเล็บต่อไปอย่างไม่แคร์สื่อและสายตาใครใด ๆ ทั้งสิ้น

    นั่นทำให้ซองเจพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย .. เจ้านายคนนี้ดื้อด้านจริง ๆ เลย

     

    กริ๊งงงงงง ~

     

    เสียงกระดิ่งลมที่แขวนอยู่ที่หน้าบานประตูสีชมพูอ่อน เรียกความสนใจจากคนในร้านให้หันไปมอง

    โดยเฉพาะพยองยอลซเว .. ผู้มีหน้าที่เป็นพนักงานเสิร์ฟเพียงคนเดียวในร้าน เธอรีบวิ่งออกจากหลังร้านไปต้อนรับทันที

     

    สวัสดีค่ะ เลอคาเฟ่ยินดีต้อนรับค่ะ

     

    โค้งหัวทักทายอย่างสุภาพ .. หากแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าเป็นคนคุ้นเคยจากในหมู่บ้านนั้นเอง

     

    ออนนี มาคนเดียวเหรอคะ แล้วโอป้าล่ะ ? ถามถึงชเวมินโฮที่มักจะอยู่กับอิมยูนาอยู่ตลอดเวลา

     

    อ๋อ ~ มินโฮน่ะเหรอ .. ไม่รู้สิ ยังไม่ได้เจอกันเลย ยูนาตอบพลางหัวเราะออกมาเบา ๆ

     

    อิมยูนา !” เสียงร้องเรียกดังมาจากเคาน์เตอร์ทำกาแฟ .. บาริสต้าหนุ่มหน้าหวานร้องทักเพื่อนสนิทอย่างร่าเริง

     

    วันนี้จะเอาเหมือนเดิมมั้ย ?

     

    หญิงสาวพยักหน้า เค้กก็แบบเดิมนะ .. ฝากบอกคยูฮยอนด้วยล่ะ

     

    คยูฮยอน ได้ยินมั้ย ?

     

    ซองเจตะโกนถามพาติซิเอร์โจคยูฮยอนที่ง่วนกับการทำเค้กอยู่ในครัว

    เงียบไปสักพักก่อนที่จะมีเสียงตะโกนกลับมาเป็นการยืนยันว่าเขาได้ยินและรับรู้ดีแล้ว

     

    นั่งรออยู่ไม่นานนัก มอคค่าปั่นและบราวนี่ชีสเค้กก็มาเสิร์ฟให้ลูกค้าสาวคนนี้ถึงที่โดยบาริสต้าหน้าหวานคนนี้

    ก็อิมยูนาเป็นเพื่อนสนิท และเป็น .. คนพิเศษของเขานี่นา อย่างน้อย ๆ ก็อยากทำให้เธอประทับใจ

     

    ขอบคุณมากนะ

     

    แค่รอยยิ้มบาง ๆ จากใบหน้านั้นของเพื่อนสาวคนนี้ .. ก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาแล้ว

     

    อ้าว .. อิมยูนา .. นี่ยูนาใช่มั้ยเนี่ย ?

     

    แย่ล่ะสิ !!”


    .

    .

    .

    เราส่งขายสตรอเบอร์รี่ไปต่างประเทศเลยดีมั้ยคะ ?

     

    โจยังออกความเห็นขณะเดินดูไร่สตรอเบอร์รี่ไปกับจงฮุนและยอลจอง อืม .. ซึงฮยอนด้วยก็ได้มั้ง

    ถึงแม้ว่าเขาจะเอาแต่เดินฟังเพลงจากไอริเวอร์มิกกี้เม้าส์สีดำนั่นก็ตามที นี่ใจคอจะไม่สนใจอะไรเลยหรือยังไงกันเนี่ย !?

     

    ไร่เราไม่ได้ใหญ่โตขนาดนั้นนะโจยัง .. แค่ส่งขายแถว ๆ นี้ก็พอแล้ว

     

    ว้า ~ แต่น่าเสียดายนะคะ ไร่เราสตรอเบอร์รี่หวานอร่อยออกจะตายไป

     

    ก็เก็บไว้ให้พวกเรากินกันเองไง ไม่ดีเหรอ ?

     

    จงฮุนพูดติดตลก .. ส่งยิ้มให้กับลูกจ้างสาวในไร่สตรอเบอร์รี่พลางตบไหล่เธอเบา ๆ

    แม้จะเป็นการกระทำเพียงแค่วินาทีเดียวเท่านั้นจริง ๆ หากแต่ เจ้าตัวจะรู้บ้างมั้ยนะ

    ว่ากำลังทำให้คน ๆ หนึ่งใจเต้นไม่เป็นส่ำเพราะการกระทำแบบนั้นของเขา .. ชเวจงฮุน !!


    .

    .

    .

    ออนนี .. เอ่อ สวัสดีค่ะ

     

    ยูนากล่าวทักทายหญิงสาวสวยตรงหน้าอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก ไม่ใช่ว่ารังเกียจ แต่กลัวมากกว่า

    เพราะเธอคือพี่สาวแท้ ๆ ของคิมโจยังเพื่อนรักน่ะสิ .. เธอพลาดไปแล้ว เธอไม่น่ามาเจอกับคิมซองอึนเลย !

     

    นั่งคุยกันหน่อยได้มั้ย ?

     

    แม้จะอยากตอบปฏิเสธออกไปใจจะขาด แต่ร่างกายกลับพยักหน้ารับออกไป

     

    เมื่อนั้น .. คิมซองอึนก็ร้องเรียกเพื่อนชายที่มาด้วยให้มานั่งร่วมโต๊ะกับอิมยูนา

    และเมื่อเห็นหน้าคนที่มากับซองอึนชัด ๆ ยูนาก็แทบอยากจะเป็นลมไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด

    ทำไมต้องเป็นท๊อป ! ทำไมต้องเป็นพี่ชายของคิมแจจุงคนนั้นด้วย กรี๊ดด !! ยูนาอยากจะบ้า !!!

     

    สวัสดีค่ะ เอ่อ .. โอป้า

     

    ชเวซึงฮยอน หรือที่ทุกคนเรียกกันติดปากว่าท๊อป เพียงแค่พยักหน้าโดยไร้ซึ่งคำพูดใด ๆ

    ใบหน้าหล่อโหดของเขา .. ดูช่างน่ากลัวจับใจยูนาในเวลานี้ยิ่งนัก

    แม้เขาจะไม่ได้มีเจตนาใด ๆ แต่ก็ทำให้ยูนารู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

     

    นี่ .. ยูนา ใครเหรอ ? ซองเจกระซิบถามยูนาที่นั่งเหงื่อตกอยู่อย่างนั้น

     

    ออนนีของโจยังน่ะ กระซิบตอบกลับไปเช่นกัน ถ้ายังไง .. ฉันขอคุยกันแค่สามคนนะ

     

    ซองเจพยักหน้าเข้าใจ เขายิ้มบาง ๆ ให้กับยูนา ก่อนจะเดินหายเข้าไปในหลังร้าน

    ดูจากสีหน้าของยูนาแล้ว .. ดูเธอจะวิตกกังวลยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก แต่เขารู้ดีว่าไม่ควรเข้าไปยุ่ง

     

    ตรงกันข้ามกับยอลซเวที่นั่งถัดจากโต๊ะของยูนาแค่โต๊ะเดียวเท่านั้น

    บอกตรง ๆ ว่าไม่ได้ตั้งใจจะฟังหรอกนะ แต่แหม ~ อยู่ใกล้แค่นี้ มันบังเอิญได้ยินพอดีต่างหากล่ะ

     

    เรื่องของโจยัง ..”

     

    เอ่อ .. ฉันไม่รู้ค่ะ ยูนากลั้นใจตอบออกไปเสียงดังลั่น หารู้ไม่ว่านั่นมันมีพิรุธชัด ๆ

     

    นี่ปิดบังอะไรฉันอยู่หรือเปล่า ? ซองอึนจ้องหน้าเพื่อนน้องสาวอย่างสงสัย

     

    เธอยังไม่ทันจะได้ถามอะไรเลยนะ แล้วทำไมต้องรีบตะโกนกลับมาแบบนั้นด้วย แบบนี้มันน่าสงสัยชัด ๆ !

     

    ทางด้านยูนาก็ได้แต่สั่นหัวปฏิเสธอยู่ท่าเดียว บอกไม่ได้ .. ไม่ว่ายังไงก็บอกไม่ได้

    เธอไม่อยากให้โจยังไปแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง .. คิมแจจุงคนนั้น !!

     

    ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับโจยังเลยค่ะ ขอโทษนะคะ

     

    ยูนา !”

     

    ฉันไม่รู้จริง ๆ ค่ะ ยังคงปฏิเสธหัวชนฝาแม้จะรู้สึกกดดันมากแค่ไหนก็ตาม

     

    อย่าให้ฉันได้โกรธนะ .. ฉันรู้ว่าเธอรู้ว่าโจยังอยู่ที่ไหน

     

    ไม่รู้จริง ๆ ค่ะออนนี .. ฉันสาบานได้ แอบไขว้นิ้วไว้ข้างหลังอย่างที่คนโกหกเขาทำกัน

     

    แต่ซองอึนคิดว่ายูนาต้องรู้แน่ ๆ ว่าน้องสาวของเธอหนีคู่หมั้นไปอยู่ที่ไหน เพียงแต่ไม่ยอมบอกเท่านั้น

    ทำยังไงดี .. โอ๊ย ~ เธอไม่รู้ว่าจะทำยังไงคนตรงหน้าถึงจะบอกความจริงออกมา

     

    ไม่เข้าใจด้วยว่าคิมโจยังจะหนีคิมแจจุงไปทำไม ในเมื่อเขาก็ออกจะเพอร์เฟคท์เกินกว่าผู้ชายคนไหน ๆ

     

    ท๊อปที่นั่งนิ่ง ๆ ก็ไม่ได้ช่วยเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นไปได้ซองอึนไม่อยากจะมากับเขาเลยนะ

    แต่เพราะว่าแม่นั่นแหละ .. ที่เอาแต่เซ้าซี้ให้อีตานี่มาด้วยกันอย่างโน้นอย่างนี้ ซองอึนน่ะ .. เกลียดเขาจะตายไป !

    แม่ของเธอคงอยากจะจับคู่เธอกับท๊อป เหมือนกับที่จับคู่โจยังกับแจจุงล่ะสินะ

     

    เธอเกลียดท๊อป .. ทำไมแม่ไม่จับคู่เธอกับแจจุงนะ ไม่ได้สิ นั่นน่ะ .. คู่หมั้นน้องสาวนะ !

     

    ถ้าเธอไม่บอก ฉันก็จะไม่ปล่อยให้เธอกลับไปไหนทั้งนั้น

     

    แต่ .. ออนนีคะ เย็นนี้ฉันมีธุระนะ ยูนาประท้วงด้วยน้ำเสียงโอดครวญ

     

    เธอมีธุระจริง ๆ นะ .. เย็นนี้เธอมีนัดกับเจ้าของแกลลอรี่ชื่อดังเพื่อมาคุยกันเรื่องจัดแสดงภาพถ่ายของเธอด้วย

    ถ้าผิดนัดคราวนี้แล้วล่ะก็ .. รับรองได้ว่าเธอไม่มีโอกาสได้โชว์ผลงานที่แกลลอรี่นี้ตลอดชีวิตแหง ๆ

     

    ถ้าเธอไม่ยอมบอก ฉันก็ช่วยไม่ได้จริง ๆ

     

    ไม่มีทางเลือกให้กับอิมยูนาเลยแม้แต่นิดเดียว ..


    .

    .

    .

    ขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงที่แดดสาดเปรี้ยงมายังไร่สตรอเบอร์รี่แห่งนี้ แดดทอแสงแรงกล้ามากจนแสบตาไปหมด

    คนอื่น ๆ ต่างก็พกหมวกออกมาด้วยทั้งนั้น โดยเฉพาะซงซึงฮยอนที่ถึงขนาดพกแว่นกันแดดอันใหญ่ออกมาด้วย

    แต่โจยังนี่สิ .. เธอไม่ได้เตรียมหมวกออกมาด้วยเหมือนอย่างคนอื่น ๆ .. แย่จริง ๆ เลย ! เธอลืมไปได้ยังไงกันเนี่ย ?

     

    แต่จะให้กลับไปเอาแค่หมวกใบเดียวนี่นะ แบบนั้นก็เหนื่อยแย่เลยสิ !

    ไร่สตรอเบอร์รี่แม้จะไม่ใหญ่ แต่ก็กว้างขวางใช่ย่อย แถมยังอยู่ห่างจากบ้านของเธอไม่ใช่น้อย ๆ เลย

     

    มีทางเดียวเท่านั้น .. คือ .. คิมโจยังต้องอดทน .. แดดแค่นี้เอง เธอไม่เป็นไรหรอกน่า

     

    ตุ้บบบ ~

     

    อ่ะ .. คะ ?

     

    เอาไปใส่สิ แม้จะเป็นคำพูดสั้น ๆ ง่าย ๆ แต่ก็ทำให้โจยังอดที่จะประทับใจไม่ได้

     

    หมวกแก๊ปสีขาวมียี่ห้อวางนิ่งอยู่บนหัวของเธอในเวลานี้ ในขณะที่บนหัวของเจ้าตัวคนให้กลับไม่มีอะไรป้องกันแสงแดดเลยแม้แต่น้อย

     

    เอ่อ .. คุณหัวหน้าเอาคืนไปเถอะนะคะ

     

    โจยังถอดหมวกยื่นส่งคืนให้กับจงฮุนที่เดินข้าง ๆ แต่เขากลับเอามันไปใส่ไว้บนหัวของเธอตามเดิม

     

    เถอะน่า พลางลูบหัวโจยังผ่านหมวกแก๊ปใบนั้นเบา ๆ แต่แค่นั้นก็ทำเอาโจยังเขินไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

     

    คิมโจยัง !!”

     

    เสียงเรียกดังสนั่นของหญิงสาว ทำให้ทุกสายตาหันมองไปยังต้นเสียงที่มาแทบจะพร้อมเพรียงกัน

    แม้กระทั่งซงซึงฮยอนที่เปิดเพลงฟังเสียงดังยังได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อของโจยังอย่างชัดเจน

     

    ออนนี .. น้ำเสียงของโจยังขาดห้วงไปในทันที

     

    คนที่ยืนมองหน้าเธออย่างโกรธเคืองในเวลานี้ก็คือ .. พี่สาวของเธอ และ พี่ชายของคู่หมั้นของเธอ

    และยังมี .. อิมยูนา ที่ยืนยกมือขอโทษขอโพยเธออยู่ข้างหลังบุคคลทั้งสอง สีหน้าของยูนาก็อยากร้องไห้ไม่แพ้กัน

     

    โจยัง กลับบ้านเดี๋ยวนี้ !”

     

    เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้าคือภาพที่ผู้ชายคนนั้นกำลังมายุ่งวุ่นวายกับน้องสาวของเธอ

    อารมณ์ของซองอึนก็พุ่งขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก นี่ตกลงน้องสาวเธอหนีคู่หมั้นมาหาผู้ชายคนนี้เหรอเนี่ย !?

     

    มันไม่ใช่นะคะ ออนนี .. คนเป็นน้องสาวรีบแก้ตัวทันที เธอเข้าใจดีว่าพี่สาวโกรธเพราะอะไร

     

    แต่มันไม่ได้มีอะไรระหว่างเธอกับชเวจงฮุนเลยนะ .. ไม่มีความนัยลึก ๆ เลยแม้แต่นิดเดียว

     

    แล้วมันหมายความว่ายังไง !”


    .

    .

    .

    อารมณ์ของซองอึนค่อยกลับเป็นปกติเมื่อได้ฟังเรื่องราวจากปากของน้องสาวจนจบ

    หากแต่เธอก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดีว่ายัยน้องสาวจะหนีคู่หมั้นมาทำไม .. คิมแจจุงน่ะ เทพบุตรชัด ๆ

     

    เธอนี่มันโง่จริง ๆ เลย ซองอึนอดที่จะด่าน้องสาวตัวดีไม่ได้

     

    ขอโทษค่ะ ตอบกลับมาได้แค่นั้น ก่อนจะก้มหน้างุดลงไปเหมือนเดิม

     

    ให้ฉันโทรไปบอกแจจุงมันมั้ย ? ท๊อปหันไปพูดกับซองอึนพลางหยิบโทรศัพท์มือถือสีฟ้าโลลี่ป๊อปขึ้นมา ( โฆษณาหน่อย ~ )

     

    ไม่นะคะ ท๊อปโอป้า .. ไม่เอา ห้ามบอกแจจุง โจยังแทบจะอ้อนวอนคนตรงหน้า

     

    ถ้าแจจุงรู้จะต้องมาตามเธอแน่ ๆ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้น .. เธอก็ต้องกลับไปหมั้นกับเขาอย่างเดิม !

    ถ้าเป็นอย่างนั้น ทุกสิ่งที่เธอทำมาก็สูญเปล่าน่ะสิ อุตส่าห์หนีมาได้แล้วแท้ ๆ เชียว

     

    จะให้ฉันปิดแจจุงไว้เนี่ยนะ

     

    ค่ะ ..

     

    โอ๊ย ~ เธอนี่มันยุ่งวุ่นวายจริง ๆ เลยโจยัง แล้วจะให้ฉันทำยังไง

     

    แต่โจยังก็ได้แต่สั่นหัวอย่างไม่รู้คำตอบ เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะทำยังไงดี

     

    งั้นฉันจะย้ายมาอยู่กับเธอที่นี่

     

    จบประโยคปุ๊บ โจยังกับยูนาก็เงยหน้าขึ้นมามองซองอึนอย่างตื่นตะลึง .. นี่พวกเธอหูฝาดไปหรือเปล่า ?

     

    ฉันกับท๊อปจะย้ายมาอยู่ที่นี่ .. กับเธอ .. คิมโจยัง เน้นย้ำอีกครั้งเพื่อความชัดเจน

     

    ไม่ได้นะคะ !” โจยังรีบย้อนกลับไป ถ้าพี่สาวมาอยู่ที่นี่สักวันแจจุงก็ต้องตามมาแน่ ๆ

     

    ทำไมจะไม่ได้ ซองอึนส่งสายตามุ่งร้ายไปทางน้องสาว .. มีสิทธิ์อะไรมาห้ามไม่ให้เธออยู่ที่นี่กัน

     

    เมื่อเห็นสายตาจากผู้เป็นพี่สาวแล้ว โจยังก็ก้มหน้ากลับลงไปอย่างเก่า น่ากลัวจริง ๆ เลยสิน่า !

    ไร้ซึ่งคำพูดใด ๆ จากปากของคิมโจยังอีก แม้กระทั่งยูนาก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา

     

    ฉันจะปิดแจจุงไว้ก็ได้ .. แต่ฉันกับท๊อปจะตามมาอยู่ดูความประพฤติของเธอที่นี่ !”

     

    ออนนี ..

     

    ถ้าเธอไม่กลับ ฉันก็จะไม่กลับเหมือนกัน !!”

     

    นี่มันก็แย่ไม่ต่างจากการที่เธอต้องหมั้นกับคิมแจจุงเลยนะ !


    .

    .

    .

    หน้าบ้านเดี่ยวหลังเล็กที่เพิ่งจะมีคนเช่าหลังนี้ คิมซองอึนกำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ที่สวนหน้าบ้าน

    ข้าง ๆ ก็มีชเวซึงฮยอนที่นอนบนเปลเล่นโทรศัพท์มือถือของตัวเองพลางเหลือบสายตามองซองอึนไปด้วย

     

    แม่คะ .. หนูเจอโจยังแล้วนะ

     

    ( จริงเหรอลูก อยู่ที่ไหน บอกแม่มาที .. แม่จะไปหา )

     

    หนูบอกไม่ได้ค่ะแม่ .. แต่แม่ไม่ต้องห่วงนะ หนูจะพาโจยังกลับไปเอง

     

    ( เร็ว ๆ นะลูก .. แม่ไม่อยากให้งานหมั้นของแจจุงกับโจยังต้องเลื่อน )

     

    ในหัวของแม่สนใจแค่เรื่องหมั้นของโจยังสินะ .. นี่เธอควรจะดีใจหรือสงสารน้องสาวของเธอดีนะ

     

    ค่ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ ซองอึนว่า ไม่ลืมที่จะย้ำเตือนแม่ แล้วแม่อย่าบอกใครนะว่าหนูรู้ว่าโจยังอยู่ที่ไหน

     

    ( รู้แล้วน่า แม่ไม่บอกใครหรอก )

     

    รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของซองอึน ถึงแม่เธอจะวุ่นวายไปสักหน่อย แต่ก็เป็นคนที่รักษาคำพูดมากเลยนะ

    ซองอึนมั่นใจได้ว่า .. จะยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ถ้าเธอไม่ได้เป็นคนบอกเองอย่างแน่นอน

     

    ซองอึนปิดฝาพับโทรศัพท์มือถือแล้ววางมันลงบนโต๊ะหินอ่อน เหม่อมองออกไปยังบ้านหลังเล็กที่ห่างออกไปไม่ไกล

     

    นั่นเป็นบ้านของคิมโจยัง .. บ้านหลังเล็กแค่นั้นแล้วอยู่กันตั้งสี่คน บอกให้ย้ายมาอยู่ด้วยก็ไม่ย้าย

    แต่จะว่าโจยังก็ไม่ได้นะ ก็เธอมีเป้าหมายจะพาโจยังกลับบ้านนี่นา ไม่แปลกหรอกที่โจยังจะไม่อยากย้ายมาอยู่ด้วย

     

    นี่ ไม่ให้บอกไอ้แจจุงมันจริง ๆ เหรอ ?เสียงตะโกนถามมาจากคนที่นอนอยู่บนเปล

     

    ยังไม่ต้องบอกตอนนี้ ซองอึนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

     

    บอกไอ้แจจุงไปก็จบเรื่องแล้ว

     

    ประโยคนี้ทำให้ซองอึนหันขวับไปทางเพื่อนร่วมบ้านทันทีทันใด สายตาดุ ๆ ส่งไปทางผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่ชอบใจนัก

     

    โจยังไม่ให้บอกแจจุงก็อย่าบอกสิ นายเงียบไปเลยจะได้มั้ย !”

     

    แต่ท๊อปเพียงแค่ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ .. ก็แค่เสนอความเห็น ไม่ตกลงก็ไม่ตกลงสิ !

     

    แล้วถ้าฉันรู้ว่านายเอาไปบอกแจจุงเมื่อไหร่ ฉันเอานายตายแน่ ยังไม่วายที่จะหันไปขู่ท๊อปอีก

     

    หน้าหล่อโหดของท๊อปไม่ได้ทำให้ซองอึนกลัวอย่างคนอื่น ๆ เลยสักนิดเดียว

    ตรงกันข้าม .. ยิ่งเห็นยิ่งทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดแถมพาลเอาได้ง่าย ๆ

     

    ถ้าฉันจะตาย ฉันขอตายกับเธอนะ คำพูดทีเล่นทีจริงของท๊อปทำให้ซองอึนหน้าร้อนขึ้นมา

     

    ฉันไม่ตายกับนายหรอก !!”

     

    พูดได้แค่นั้น แล้วซองอึนก็คว้าโทรศัพท์เดินหนีเข้าบ้านไป


    .

    .

    .

    ควันบุหรี่ที่หน้าร้านของเลอคาเฟ่ แม้จะไม่ได้สร้างความรบกวนให้ใคร แต่สร้างความหงุดหงิดให้กับคนที่ยืนมองอยู่ไม่ไกลมาก

    จางมียืนมองโจคยูฮยอนที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่หน้าร้านจากอีกฟากของมุมถนนอย่างหงุดหงิดใจมากว่าสามนาทีแล้ว

     

    เขาไม่ใช่คนที่เธอรู้จัก .. เขาไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตของเธอเลยแม้แต่น้อย

    จางมีก็รู้แค่ว่าเขาเป็นพาติซิเอร์ของร้านเลอคาเฟ่ที่ยอลซเวทำงานอยู่ก็เท่านั้น

    แต่เธอไม่ชอบเอาเสียเลย ไม่ชอบมาก ๆ .. จางมีเกลียดคนที่สูบบุหรี่แบบนี้เป็นที่สุด

     

    นี่นาย !” จางมีเดินข้ามไปหาคยูฮยอนถึงอีกฟากถนน นั่นเรียกความสนใจจากเจ้าตัวที่ยืนอยู่หน้าร้านได้เป็นอย่างดี

     

    คยูฮยอนมองหน้าหญิงสาวทั้งงุนงงและสับสน เธอคนนี้ดูเหมือนจะเคยเป็นลูกค้าที่ร้าน

    เขาเองก็รู้แค่ว่าเธออาศัยอยู่ในบ้านเช่าของหมู่บ้านสตรอเบอร์รี่ตรงกันข้ามนี้เท่านั้นเอง

     

    ฉันเหรอ ? โจคยูฮยอนชี้นิ้วมาที่ตัวเองด้วยท่าทางงุนงง

     

    นายนั่นแหละ จางมีตะคอกใส่เสียงดัง หยุดสูบบุหรี่เดี๋ยวนี้เลยนะ

     

    คยูฮยอนนิ่งไปสักพักหนึ่ง .. ในใจอดที่จะขำกับท่าทางของหญิงสาวผมยาวตรงหน้าไม่ได้

    ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่อยู่ ๆ ก็มาบอกให้เขาเลิกสูบบุหรี่เนี่ยนะ ? จะว่าแปลกใจก็แปลกใจ แต่จะขำก็ขำอยู่

     

    ทำไม .. ฉันต้องทำตามที่เธอสั่งด้วย

     

    ก็ ..

     

    ก็เพราะว่าเธอไม่ชอบ .. มันก็แค่นั้นเอง .. แต่พอเธออ้าปากจะพูด คยูฮยอนก็ทิ้งเศษบุหรี่ที่เหลือลงไปบนพื้น

    ใช้เท้าขยี้จนไฟดับไป ทิ้งลงบนพื้นที่หน้าร้านแบบนี้ .. ถ้ายองแอมาเห็นมีหวังถูกด่าจนหูแฉะ แต่เขาไม่เคยจะสนใจหรอก

     

    ขอบใจที่หวังดี

     

    คยูฮยอนพูดทิ้งท้าย หมุนตัวหันขวับผลักบานประตูเข้าไปในร้าน .. รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นที่ริมฝีปาก

     
    .

    .

    .

    อ้าว .. ยูนา จะรีบร้อนไปไหนน่ะ ?

     

    มินโฮที่เพิ่งกลับมาจากโรงเรียนพร้อมกับมินฮวานและอินฮยองร้องถามหญิงสาวที่วิ่งออกมาจากในบ้านหลังเล็กอย่างรีบร้อน

    ที่ไหล่สะพายกระเป๋าใบใหญ่สีน้ำตาลแทนที่จะเป็นกล้องถ่ายรูปคู่ชีพอย่างเช่นทุกที

    แม้กระทั่งการแต่งตัววันนี้ก็ดูมีภูมิฐานมากขึ้น .. ถ้าให้มินโฮเดาแล้วล่ะก็ เธอคงจะมีนัดคุยงานแน่ ๆ เลยสิท่า

     

    มีธุระน่ะ ขอโทษนะ คุยไม่ได้ ฉันไปก่อนล่ะ

     

    เอ่อ .. เดี๋ยวสิ

     

    แต่อิมยูนาก็วิ่งไปขึ้นรถเมล์ที่มาจอดรออยู่ก่อนแล้ว เธอเพียงแค่โบกมือให้ทั้งสามคนอย่างเร่งรีบ .. แล้วรถเมล์ก็เคลื่อนตัวออกไป

     

    ออนนีเขารีบร้อนไปไหนกันนะ ? อินฮยองเปรย ๆ ออกมา

     

    ไม่รู้สิ มินฮวานส่ายหัว

     

    ว่าแต่ .. มินฮวาน เดี๋ยวเราไปหาอะไรกินที่เลอคาเฟ่ด้วยกันมั้ย ? อินฮยองเอ่ยปากชวนเพื่อนสนิทอย่างเริงร่า

     

    แล้วแต่ฮยอง คนโดนชวนตอบกลับมาอย่างชัดเจน เล่นเอาคนชวนทำหน้างอนไปทันที

     

    ไม่ว่าอะไรชเวมินฮวานก็จะต้องแล้วแต่ฮยอง ๆ แบบนี้ตลอดเลย .. ขนาดเธอที่เป็นเพื่อนสนิทเขาก็ยังดูไม่สนใจ

    คิดแล้วอินฮยองก็อดน้อยใจขึ้นมาเล็ก ๆ ไม่ได้ ทั้งน้อยใจมินฮวาน แล้วก็น้อยใจตัวเองอย่างไม่มีเหตุผล

     

    มินโฮเมื่อเห็นสีหน้าหงอยของเพื่อนสาวของน้องชาย .. เขาก็อดไม่ได้ที่จะเห็นใจเธอขึ้นมา

     

    นายไปกับอินฮยองเถอะ

     

    แล้วฮยองล่ะครับ ฮยองไม่ไปด้วยกันเหรอ ?

     

    ไปกับอินฮยองเถอะน่า มินโฮยังคงยืนยันคำพูดเดิมของตนเอง

     

    ก็ได้ครับ

     

    อินฮยองแอบก้มหัวขอบคุณให้มินโฮเล็กน้อย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามินโฮโอป้าคงกำลังช่วยเธออยู่

    ถึงแม้ว่าที่มินฮวานไปกับเธอจะเป็นเพราะมินโฮก็เถอะ แต่อีอินฮยองก็รู้ดีว่า .. แค่นี้มันก็เพียงพอแล้ว

     

    แล้วอย่าไปเถลไถลที่ไหนนะ มินโฮป้องปากตะโกนบอกคนทั้งคู่ที่เดินมุ่งหน้าไปทางร้านคาเฟ่

     

    คร้าบบบบ~” มินฮวานป้องปากรับคำผู้เป็นพี่ชาย ก่อนจะกระโดดวิ่งตามหลังอินฮยองไป


    .

    .

    .

    โคมไฟในสวนหน้าบ้านหลังเล็กของกลุ่มคนงานในไร่สตรอเบอร์รี่สว่างขึ้นเมื่อหญิงสาวเดินออกมาจากในบ้าน

    นั่งลงไปบนม้านั่งยาวสีเขียวสะท้อนแสงเพียงลำพัง .. สายตาทอดยาวเหม่อออกไปโดยไม่มีจุดหมาย

    ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาแรง ๆ เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ .. วันนี้เป็นวันที่แย่จริง ๆ เลยสำหรับคิมโจยัง

     

    ออกมาทำอะไรคนเดียวล่ะ ?

     

    น้ำเสียงดังมาก่อนที่เจ้าตัวจะนั่งลงไปข้าง ๆ หญิงสาวที่ม้านั่งตัวนั้น ระยะห่างแม้ไม่ได้ใกล้ .. แต๋โจยังกลับรู้สึกว่าเขาช่างอยู่ใกล้เธอเหลือเกิน

     

    คือโจยัง .. ยังไม่ทันที่เธอจะได้ตอบ เสียงเรียกชื่อของเธอก็ดังขึ้น

     

    คิมโจยัง !”

     

    โอ๊ย ~ ออนนีอีกแล้ว โจยังบ่นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ หากแต่ใบหน้ายังคงรักษารอยยิ้มไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

     

    คะ .. ? ออนนีมีอะไรกับโจยังหรือเปล่า ?

     

    คิมซองอึนเดินเคียงคู่มากับชเวซึงฮยอนคนเดิม .. ผลักรั้วไม้สีขาวสะอาดเข้ามาหาคนทั้งคู่ที่กำลังนั่งอยู่ที่ม้านั่ง

    ชเวจงฮุนก้มหัวทักทายผู้มาใหม่ทั้งสองคนอย่างมีมารยาท ท๊อปเองก็พยักหน้ากลับไปเล็กน้อย แต่ซองอึนกลับไม่สนใจ

     

    ก็เธอไม่ชอบใจผู้ชายคนนี้เลยน่ะสิ .. กล้าดียังไงมายุ่งกับน้องสาวสุดที่รักของเธอ

    สำหรับซองอึนแล้ว ผู้ชายคนเดียวที่คู่ควรกับคิมโจยังก็คือคิมแจจุงเท่านั้นแหละ !

     

    ฉันก็แค่แวะมาหา

     

    เจอโจยังแล้วก็กลับไปได้แล้วค่ะ โจยังย้อนเข้าให้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย นั่นทำให้ซองอึนมองเธออย่างไม่พอใจเล็ก ๆ

     

    พูดกับพี่แบบนี้ได้ยังไงกัน

     

    ก็แค่อารมณ์ขุ่นเคืองเล็ก ๆ มันพาไป โจยังจึงตัดสินใจสงบปากสงบคำไว้ไม่พูดอะไรอีก

    จงฮุนมองลูกจ้างสาวที่นั่งนิ่งอยู่ข้าง ๆ อย่างนึกเห็นใจ .. หากแต่เขารู้ดีว่าถ้าพูดอะไรออกไปซองอึนก็คงไม่สนใจ

    เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคิมซองอึนจะต้องทำท่าเหมือนไม่ชอบใจเขาด้วย นี่เขาทำอะไรผิดไปอย่างนั้นเหรอ ?

     

    หนูง่วงแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ

     

    ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้สึกง่วงอย่างที่ตัวเองว่าเลยแม้แต่น้อย แต่คิมโจยังก็เดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่อหลีกหนีปัญหา

    ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะพูดกับใครทั้งนั้นแหละ .. โดยเฉพาะกับพี่สาวของเธอคนนี้แล้ว ไม่อยากจะพูดด้วยเลยจริง ๆ

     

    โจยัง คิมโจยัง !” ซองอึนตะโกนเรียกน้องสาว แต่เธอก็ไม่ยอมหันกลับมา บ้าจริง !”

     

    โจยังคงจะเหนื่อยน่ะครับ

     

    จงฮุนแก้ตัวแทนลูกจ้างสาวที่เดินหนีหายเข้าไป แต่สายตาที่ส่งกลับมากลับทำให้เขาต้องถอนหายใจ

    สรุปว่าคิมซองอึนเกลียดเขาจริง ๆ สินะเนี่ย ..

     

    ฉันไม่ได้ถามความเห็นนาย ซองอึนว่า สะบัดหน้าหนีชายหนุ่มที่นั่งอยู่ที่ม้านั่งอย่างรำคาญใจ

     

    กลับได้แล้ว ประโยคนี้เธอหันไปพูดกับท๊อป ไม่รอฟังคำตอบก็เดินหนีออกมาจากบ้านหลังนี้ก่อนแล้ว


    .

    .

    .

    ซองอึนก้าวเท้าเดินฉับ ๆ ออกมาจากบ้านของโจยังด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว อีตาคนข้าง ๆ ก็ไม่ได้ช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลย

    ไม่เคยล่ะ .. ที่จะให้คำแนะนำดี ๆ หรือพูดคุยออกความเห็น .. แถมตอนนี้ยังเอาแต่ฮัมเพลงอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอีก

    ไม่ได้รู้เลยใช่มั้ยว่าคนเขาอยู่ในอารมณ์ไหน ! คิดแล้วคิมซองอึนก็อยากจะด่าเข้าให้ เสียแต่ว่าพูดไปคนข้าง ๆ ก็คงไม่รู้สึกอะไร

     

    คิมซองอึน เฮ้ !”

     

    ขณะที่ซองอึนและท๊อปกำลังจะเปิดประตูเข้าไปในบ้านของตัวเอง ก็มีเสียงตะโกนเรียกชื่อดังมาจากบ้านข้าง ๆ

    หญิงสาวชะงักไปนิดหนึ่ง แล้วเพ่งมองเข้าไปในบ้านหลังข้าง ๆ โดยอาศัยเพียงแสงสว่างราง ๆ จากโคมไฟสีเหลืองอ่อนที่หน้าบ้านเท่านั้น

     

    อ๊ะ ! จงฮยอน

     

    ชายหนุ่มวิ่งออกมาจากในบ้านตรงเข้ามาหาเพื่อนสนิทสาวแทบจะเรียกได้ว่าด้วยความรีบร้อนอย่างแท้จริง

    สีหน้าเซ็งของซองอึนแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้างเมื่อได้เห็นหน้าของเพื่อนสนิทคนที่เรียกได้ว่าคุ้นเคย

     

    เธอมาอยู่ที่นี่ได้ไงเนี่ย ?

     

    ฉันก็ตามโจยังมาน่ะสิ

     

    นี่เจอโจยังแล้วเหรอ ? จงฮยอนแทบจะเรียกได้ว่าแปลกใจ

     

    นายรู้ แต่นายปิดไม่ยอมบอกฉัน

     

    อดไม่ได้ที่ซองอึนจะเกิดอาการงอนคนตรงหน้าเล็ก ๆ แต่ก็เข้าใจอยู่หรอก .. เขาคงช่วยโจยังสินะ

     

    ขอโทษ ชายหนุ่มยกมือไหว้อย่างคนรู้สึกผิด ก็ฉันสงสารโจยังนี่นา

     

    สงสารโจยัง .. แล้วไม่สงสารเธอบ้างเลยหรือยังไงกัน ? เธอไล่ตามหาน้องสาวแทบจะทั่วทุกที่ เหนื่อยก็เหนื่อย

    แต่กลับกลายเป็นว่าอยู่ใกล้แค่เอื้อมเท่านั้นเอง คิดแล้วก็น่าเคืองจริง ๆ .. มีแต่คนช่วยโจยัง แต่ไม่มีใครช่วยซองอึนเลยนี่นะ !?

     

    จงฮยอน คุยกับใครอยู่อ่ะ ?

     

    อีแทมิน มีมารยาทหน่อย

     

    หญิงสาวเอ่ยปรามเด็กหนุ่มคนที่เดินออกมาใหม่ .. สีหน้าผงะไปนิดหนึ่งเมื่อเห็นว่าคนที่ผู้จัดการของเขาคุยด้วยคือใคร

     

    ขอโทษครับ นูน่า อีแทมินก้มหัวขอโทษคนตรงหน้าพลางพูดขอโทษอย่างเกรงใจเป็นที่สุด

     

    ใคร ๆ ก็รู้ว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มที่แสนจะไร้มารยาท หากแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคิมซองอึนแล้ว .. เขาแทบจะเปลี่ยนเป็นคนละคน

     

    งั้นฉันเข้าบ้านก่อนนะ

     

    ท๊อปกระซิบบอกกับซองอึนแบบที่เรียกได้ว่าชิดหูเลยทีเดียว นั่นทำให้หญิงสาวหน้าร้อนขึ้นมาอีกครา

    เธอถอยห่างออกจากคนข้าง ๆ แล้วหันไปตวาดใส่ ทั้งโกรธทั้งเขินเล็ก ๆ แต่ท๊อปก็เพียงหัวเราะออกมาเท่านั้น

     

    แย่ที่สุดเลย ซองอึนบ่นพึมพำอย่างไม่ชอบใจ แต่คนที่ไม่ชอบใจยิ่งกว่าคือร่างสูงตรงหน้าเธอต่างหาก

     

    ใช่ว่าคิมจงฮยอนจะไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ .. เขาคือคนที่ติดหนึบกับซองอึนไม่ว่าจะไปที่ไหนมาเป็นเวลากว่าครึ่งปีแล้ว

    แม้จะไม่ชอบใจ แต่จงฮยอนก็ทำอะไรไม่ได้ เขาได้แต่เก็บความขุ่นเคืองไว้ภายในใจอย่างนี้เท่านั้น

     

    นูน่าจะย้ายมาอยู่ที่นี่เหรอครับ? แทมินดูไม่ได้สนใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเลย เขาถามออกไปในสิ่งที่ตนเองสงสัย

     

    เธอพยักหน้าพลางยิ้มบาง ๆ ให้แทมิน อื้ม ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ จนกว่าโจยังจะกลับ

     

    และแทมินก็พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ แต่จงฮยอนกลับไม่ได้สนใจกับประโยคคำพูดที่ออกมาจากปากของซองอึน

    ตอนนี้ที่เขาสนใจยิ่งกว่าคือเรื่องที่เพื่อนสนิทของเขาจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ .. กับผู้ชายที่ชื่อชเวซึงฮยอนคนนั้นสองต่อสอง !!

     

    รับไม่ได้หว่ะ !”

     

    อุทานออกมาอย่างคนที่ไม่พอใจที่สุดในชีวิต .. ทั้งซองอึนและแทมินต่างก็หันมองไปทางเขาด้วยความสงสัย

     

    จงฮยอน .. เป็นอะไร ?

     

    เปล่า แล้วเขาก็เดินหนีกลับเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้ซองอึนกับแทมินยืนงงด้วยกันสองคน

     

    เขาเป็นอะไรของเขากันนะ

     

    เป็นบ้าเพราะแอบรักนูน่าข้างเดียวมั้ง

     

    ห๊ะ ?

     

    แต่แทมินก็เดินหายลับกลับเข้าไปในบ้านตามผู้จัดการไปอีกคนแล้ว

     

    อะไรกันเนี่ย ?

     

    ซองอึนได้แต่บ่นพึมกับตัวเอง และรู้ว่าเธอจะไม่ได้รับคำตอบใด ๆ เลย

    วันนี้ .. เป็นวันที่น่าปวดหัวสำหรับคิมซองอึนจริง ๆ เลยสิน่า !

     

     

     

    TBC *

     


    ยู๊ฮิ้ว ~ มาแล้วกับแช้ปแรกของเรื่องสตรอเบอร์รี่

    และแล้ว .. เราก็ได้สมาชิกใหม่ที่หมู่บ้านตัลกีอีกสองคน >0< { ปรบมือ ~ แปะ ๆๆ !! . }

     

    ตอนนี้ขอเป็นตอนเด่นของโจยังกับซองอึนนิดนึงนะคะ

    ขอโทษหลาย ๆ คนที่ไม่ได้ออกด้วยนะคะ พยายามจัดสรรแล้วแต่มันไม่ได้จริง ๆ

    แต่ก้ไม่ต้องกลัวค่ะ , ทุกตอน ทุกคาแรคเตอร์ยูจะให้สลับบทบาทกันเด่นอย่างแน่นอน

    สำหรับใครที่ไม่ได้ออกตอนนี้แล้วจะไม่เม้นก็ไม่เป็นไรนะคะ ^^”

    ไม่ต้องเม้นเนื้อเรื่อง จะเม้นแค่ว่าได้อ่านแล้วก็ไม่ว่ากัน เพราะมันอาจจะ .. ยาวไป หรือเปล่า ?

     

    ตอนนี้สำนวนมันอาจจะแปลก ๆ ไม่ค่อยได้เรื่องยังไงก็ขออภัยค่ะ

    แต่งแบบรีบ ๆ ไม่ได้ย้อนกลับไปอ่านด้วยเพราะอยากเอามาลงให้อ่านกันไว ๆ >< ~

    ยังไงก็หวังว่าทุกคนจะยังชอบเรืองนี้กันอยู่นะคะ สนุกก็ว่า ไม่สนุกก็ติกันมาได้เต็มที่เลยค่ะ

     

    ขอบคุณโบนาสึสำหรับโปสเตอร์คาแรคงาม ๆ -0-

    แต่เดี๋ยวขอดูทำเลจัดสรรนิดนึง แล้วจะเอามาลงให้พวกเราชาวไร่สตรอเบอร์รี่ได้เห็นกันแน่นอนจ่ะ.

     

    แล้วก็คำบรรยายใต้ภาพก็ยังคงต้องขอติดไว้ ช่วงนี้คงไม่ได้มาอัพบ่อย ๆ

    เพราะยูเปิดเรียนมหาลัยแล้ว แย่จริงจัง* .. แต่จะกลับมาอัพตอนสองต่อแน่ ๆ จ่ะ ไม่นานเกินรอ มั้ง.

     

    สำหรับใครที่อยากรีเควสขอคาแรคเตอร์เสริมคนไหน วงไหน ยังไง , รบกวนอีเมล์มาก็แล้วกันนะคะ -0-
    ตอนนี้ยูก็ยังไม่ได้อ่านเม้นเก่า ๆ ของทุกคนเลย ขอโทษอย่างจริงจัง

    คงไม่ได้ตอบ และอ่านช้า ~ แต่สัญญาว่ารับรู้ทุกคอมเม้น และขอขอบคุณมาก ๆ จริง ๆ ค่ะ

     

    คิดถึงทุกคนนะคะ >3<

    Ps . รูปแช้ป 1 คือเลอคาเฟ่นะจ่ะ ~


    Sei ryo+.+

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×