คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : STRAWBERRY ❤ Chapter 01 { Guest คิมซองอึน . ชเวซึงฮยอน }
STRAWBERRY ❤ Days
{ CHAPTER 01 . }
“โจยัง โทรศัพท์ดังนี่ .. ไม่รับเหรอ ?”
ยูนาที่กำลังทอดไข่ดาวเป็นอาหารอย่างง่าย ๆ ให้ตัวเองและคนอื่น ๆ ในบ้านร้องตะโกนถามมาจากในครัว
เมื่อได้ยินเสียงเพลงท่อนฮุคที่คุ้นเคยจากโทรศัพท์มือถือเครื่องสีชมพูของเพื่อนสนิทดังติดต่อกันหลายรอบแล้ว
หากแต่ว่าไร้ซึ่งคนรับสายใด ๆ .. ทั้ง ๆ ที่โทรศัพท์เครื่องนั้นก็อยู่ข้างตัวของโจยังเพียงเอื้อมมือเท่านั้นเอง
“จะให้ฉันรับได้ยังไงเล่า คนที่โทรมาน่ะ .. คิมแจจุงนะ”
น้ำเสียงของโจยังที่ตะโกนกลับมาออกแนวหวาด ๆ ไม่ใช่น้อย
แน่ล่ะ .. จะไม่ให้กลัวได้ไง ก็ ‘คิมแจจุง’ คนที่ว่านี่คือชื่อผู้ชายคนที่เป็นคู่หมั้นของคิมโจยังน่ะสิ
แล้วการที่เธอหนีการหมั้นกับลูกชายนักธุรกิจไฮโซชื่อดังแบบนั้นมา .. จะไม่ให้เธอกลัวได้ยังไงกันล่ะ ?
คนที่อารมณ์แปรปรวนไปมาอย่างเขา .. ถ้ารู้ว่าเธออยู่ที่ไหนจะต้องมาตามตัวกลับไปแน่ ๆ
ไม่เอาด้วยหรอก โทรศัพท์ที่มีบอกตำแหน่งที่อยู่ปลายทางแบบนี้ ไม่มีทางที่คิมโจยังจะกดรับมันโดยเด็ดขาด !!
“แย่เลยนะ” ยูนาว่า พลางตักไข่ดาวที่เป็นรูปทรงสวยงามลงไปในจานกระเบื้องข้างตัว
“อืม ..” โจยังค่อยถอนหายใจออกมาได้เมื่อเสียงโทรศัพท์เงียบหายไปในที่สุด “ก็ฉันยังไม่อยากหมั้นนี่นา”
ยูนาเดินถือจานใส่ไข่ดาวสี่ใบวางลงบนโต๊ะตรงหน้าโจยังที่กำลังยุ่งวุ่นวายกับโทรศัพท์มือถืออย่างหมกมุ่น
ตอนนี้เธอกำลังเปลี่ยนมันเป็นระบบสั่น .. แต่ยังไม่ทันจะได้เปลี่ยนมันเลยด้วยซ้ำ เสียงริงโทนก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“เขาโทรมาอีกแล้วอ่ะ .. ยูนา”
“โอ๊ย ~ เจ๊ หนวกหูเว้ย !!” เสียงของซงซึงฮยอนดังมาจากในห้องนอนที่ชั้นล่างใกล้ ๆ กันนั้น
“เอาไงดีล่ะ ?”
“ถอดแบตไปเลยก็แล้วกัน” ยูนาเสนอความเห็นไปในที่สุด
และเสียงริงโทนที่น่ารำคาญก็ยุติลงได้ .. เพราะเสียงโวยวายอย่างรำคาญใจของซงซึงฮยอนนั่นเอง
.
.
.
l'Heure Café { เลอ คาเฟ่ . }
ที่นี่คือคาเฟ่เล็ก ๆ แสนหวานที่ตั้งอยู่หน้าหมู่บ้านสตรอเบอร์รี่ .. ห่างจากกันเพียงแค่หนึ่งช่วงถนนเท่านั้นเอง
เป็นร้านคาเฟ่น่ารัก สดใส สไตล์วัยรุ่น .. ที่ไม่ว่าใครก็ต้องอยากเข้ามานั่งสัมผัสบรรยากาศภายในร้านด้วยกันทั้งนั้น
และขณะนี้ .. เจ้าของร้านก็กำลังนั่งอ่านทาเล็บที่นิ้วมือเรียวยาวของตัวเองอยู่ที่โต๊ะลูกค้าหน้าร้านอย่างสบายอารมณ์
บนโต๊ะไม้สีน้ำตาลอ่อนนั้น มีแก้วใส่ชามะลิกลิ่นหอมฟุ้งและเค้กส้มสีส้มอ่อนสวย ที่มีเนื้อส้มประดับอยู่ข้างบนดูน่าทาน
แต่ดูเหมือนว่าคิมยองแอจะไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งบนโต๊ะนั้นเลยแม้แต่น้อย เธอเอาแต่หมกหมุ่นกับการทาเล็บอยู่คนเดียว
จนเมื่อเสียงกระแอมไอดังมาจากบาริสต้าหนุ่มหล่อหน้าหวาน .. เธอจึงเงยหน้าขึ้นมองพลางขมวดคิ้วมุ่น
“มีอะไร .. คิมซองเจ”
น้ำเสียงดุ ๆ นั้นไม่ได้ทำให้คิมซองเจรู้สึกกลัวเลย ตรงกันข้าม ใบหน้าหวานนั้นยังคงระบายยิ้ม
“นูน่าเข้ามาทาเล็บข้างในดีกว่ามั้ยครับ ?”
“เรื่องของฉันน่า นี่มันร้านของฉันนะ .. อย่างกับว่าฉันจะแคร์เวลาใครมองอย่างนั้นแหละ”
เถียงซองเจกลับไปก่อนจะนั่งทาเล็บต่อไปอย่างไม่แคร์สื่อและสายตาใครใด ๆ ทั้งสิ้น
นั่นทำให้ซองเจพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย .. เจ้านายคนนี้ดื้อด้านจริง ๆ เลย
กริ๊งงงงงง ~
เสียงกระดิ่งลมที่แขวนอยู่ที่หน้าบานประตูสีชมพูอ่อน เรียกความสนใจจากคนในร้านให้หันไปมอง
โดยเฉพาะพยองยอลซเว .. ผู้มีหน้าที่เป็นพนักงานเสิร์ฟเพียงคนเดียวในร้าน เธอรีบวิ่งออกจากหลังร้านไปต้อนรับทันที
“สวัสดีค่ะ เลอคาเฟ่ยินดีต้อนรับค่ะ”
โค้งหัวทักทายอย่างสุภาพ .. หากแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าเป็นคนคุ้นเคยจากในหมู่บ้านนั้นเอง
“ออนนี มาคนเดียวเหรอคะ แล้วโอป้าล่ะ ?” ถามถึงชเวมินโฮที่มักจะอยู่กับอิมยูนาอยู่ตลอดเวลา
“อ๋อ ~ มินโฮน่ะเหรอ .. ไม่รู้สิ ยังไม่ได้เจอกันเลย” ยูนาตอบพลางหัวเราะออกมาเบา ๆ
“อิมยูนา !” เสียงร้องเรียกดังมาจากเคาน์เตอร์ทำกาแฟ .. บาริสต้าหนุ่มหน้าหวานร้องทักเพื่อนสนิทอย่างร่าเริง
“วันนี้จะเอาเหมือนเดิมมั้ย ?”
หญิงสาวพยักหน้า “เค้กก็แบบเดิมนะ .. ฝากบอกคยูฮยอนด้วยล่ะ”
“คยูฮยอน ได้ยินมั้ย ?”
ซองเจตะโกนถามพาติซิเอร์โจคยูฮยอนที่ง่วนกับการทำเค้กอยู่ในครัว
เงียบไปสักพักก่อนที่จะมีเสียงตะโกนกลับมาเป็นการยืนยันว่าเขาได้ยินและรับรู้ดีแล้ว
นั่งรออยู่ไม่นานนัก มอคค่าปั่นและบราวนี่ชีสเค้กก็มาเสิร์ฟให้ลูกค้าสาวคนนี้ถึงที่โดยบาริสต้าหน้าหวานคนนี้
ก็อิมยูนาเป็นเพื่อนสนิท และเป็น .. คนพิเศษของเขานี่นา อย่างน้อย ๆ ก็อยากทำให้เธอประทับใจ
“ขอบคุณมากนะ”
แค่รอยยิ้มบาง ๆ จากใบหน้านั้นของเพื่อนสาวคนนี้ .. ก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาแล้ว
“อ้าว .. อิมยูนา .. นี่ยูนาใช่มั้ยเนี่ย ?”
“แย่ล่ะสิ !!”
.
.
.
“เราส่งขายสตรอเบอร์รี่ไปต่างประเทศเลยดีมั้ยคะ ?”
โจยังออกความเห็นขณะเดินดูไร่สตรอเบอร์รี่ไปกับจงฮุนและยอลจอง อืม .. ซึงฮยอนด้วยก็ได้มั้ง
ถึงแม้ว่าเขาจะเอาแต่เดินฟังเพลงจากไอริเวอร์มิกกี้เม้าส์สีดำนั่นก็ตามที นี่ใจคอจะไม่สนใจอะไรเลยหรือยังไงกันเนี่ย !?
“ไร่เราไม่ได้ใหญ่โตขนาดนั้นนะโจยัง .. แค่ส่งขายแถว ๆ นี้ก็พอแล้ว”
“ว้า ~ แต่น่าเสียดายนะคะ ไร่เราสตรอเบอร์รี่หวานอร่อยออกจะตายไป”
“ก็เก็บไว้ให้พวกเรากินกันเองไง ไม่ดีเหรอ ?”
จงฮุนพูดติดตลก .. ส่งยิ้มให้กับลูกจ้างสาวในไร่สตรอเบอร์รี่พลางตบไหล่เธอเบา ๆ
แม้จะเป็นการกระทำเพียงแค่วินาทีเดียวเท่านั้นจริง ๆ หากแต่ เจ้าตัวจะรู้บ้างมั้ยนะ
ว่ากำลังทำให้คน ๆ หนึ่งใจเต้นไม่เป็นส่ำเพราะการกระทำแบบนั้นของเขา .. ชเวจงฮุน !!
.
.
.
“ออนนี .. เอ่อ สวัสดีค่ะ”
ยูนากล่าวทักทายหญิงสาวสวยตรงหน้าอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก ไม่ใช่ว่ารังเกียจ แต่กลัวมากกว่า
เพราะเธอคือพี่สาวแท้ ๆ ของคิมโจยังเพื่อนรักน่ะสิ .. เธอพลาดไปแล้ว เธอไม่น่ามาเจอกับคิมซองอึนเลย !
“นั่งคุยกันหน่อยได้มั้ย ?”
แม้จะอยากตอบปฏิเสธออกไปใจจะขาด แต่ร่างกายกลับพยักหน้ารับออกไป
เมื่อนั้น .. คิมซองอึนก็ร้องเรียกเพื่อนชายที่มาด้วยให้มานั่งร่วมโต๊ะกับอิมยูนา
และเมื่อเห็นหน้าคนที่มากับซองอึนชัด ๆ ยูนาก็แทบอยากจะเป็นลมไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด
ทำไมต้องเป็นท๊อป ! ทำไมต้องเป็นพี่ชายของคิมแจจุงคนนั้นด้วย กรี๊ดด !! ยูนาอยากจะบ้า !!!
“สวัสดีค่ะ เอ่อ .. โอป้า”
ชเวซึงฮยอน หรือที่ทุกคนเรียกกันติดปากว่าท๊อป เพียงแค่พยักหน้าโดยไร้ซึ่งคำพูดใด ๆ
ใบหน้าหล่อโหดของเขา .. ดูช่างน่ากลัวจับใจยูนาในเวลานี้ยิ่งนัก
แม้เขาจะไม่ได้มีเจตนาใด ๆ แต่ก็ทำให้ยูนารู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“นี่ .. ยูนา ใครเหรอ ?” ซองเจกระซิบถามยูนาที่นั่งเหงื่อตกอยู่อย่างนั้น
“ออนนีของโจยังน่ะ” กระซิบตอบกลับไปเช่นกัน “ถ้ายังไง .. ฉันขอคุยกันแค่สามคนนะ”
ซองเจพยักหน้าเข้าใจ เขายิ้มบาง ๆ ให้กับยูนา ก่อนจะเดินหายเข้าไปในหลังร้าน
ดูจากสีหน้าของยูนาแล้ว .. ดูเธอจะวิตกกังวลยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก แต่เขารู้ดีว่าไม่ควรเข้าไปยุ่ง
ตรงกันข้ามกับยอลซเวที่นั่งถัดจากโต๊ะของยูนาแค่โต๊ะเดียวเท่านั้น
บอกตรง ๆ ว่าไม่ได้ตั้งใจจะฟังหรอกนะ แต่แหม ~ อยู่ใกล้แค่นี้ มันบังเอิญได้ยินพอดีต่างหากล่ะ
“เรื่องของโจยัง ..”
“เอ่อ .. ฉันไม่รู้ค่ะ” ยูนากลั้นใจตอบออกไปเสียงดังลั่น หารู้ไม่ว่านั่นมันมีพิรุธชัด ๆ
“นี่ปิดบังอะไรฉันอยู่หรือเปล่า ?” ซองอึนจ้องหน้าเพื่อนน้องสาวอย่างสงสัย
เธอยังไม่ทันจะได้ถามอะไรเลยนะ แล้วทำไมต้องรีบตะโกนกลับมาแบบนั้นด้วย แบบนี้มันน่าสงสัยชัด ๆ !
ทางด้านยูนาก็ได้แต่สั่นหัวปฏิเสธอยู่ท่าเดียว บอกไม่ได้ .. ไม่ว่ายังไงก็บอกไม่ได้
เธอไม่อยากให้โจยังไปแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง .. คิมแจจุงคนนั้น !!
“ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับโจยังเลยค่ะ ขอโทษนะคะ”
“ยูนา !”
“ฉันไม่รู้จริง ๆ ค่ะ” ยังคงปฏิเสธหัวชนฝาแม้จะรู้สึกกดดันมากแค่ไหนก็ตาม
“อย่าให้ฉันได้โกรธนะ .. ฉันรู้ว่าเธอรู้ว่าโจยังอยู่ที่ไหน”
“ไม่รู้จริง ๆ ค่ะออนนี .. ฉันสาบานได้” แอบไขว้นิ้วไว้ข้างหลังอย่างที่คนโกหกเขาทำกัน
แต่ซองอึนคิดว่ายูนาต้องรู้แน่ ๆ ว่าน้องสาวของเธอหนีคู่หมั้นไปอยู่ที่ไหน เพียงแต่ไม่ยอมบอกเท่านั้น
ทำยังไงดี .. โอ๊ย ~ เธอไม่รู้ว่าจะทำยังไงคนตรงหน้าถึงจะบอกความจริงออกมา
ไม่เข้าใจด้วยว่าคิมโจยังจะหนีคิมแจจุงไปทำไม ในเมื่อเขาก็ออกจะเพอร์เฟคท์เกินกว่าผู้ชายคนไหน ๆ
ท๊อปที่นั่งนิ่ง ๆ ก็ไม่ได้ช่วยเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นไปได้ซองอึนไม่อยากจะมากับเขาเลยนะ
แต่เพราะว่าแม่นั่นแหละ .. ที่เอาแต่เซ้าซี้ให้อีตานี่มาด้วยกันอย่างโน้นอย่างนี้ ซองอึนน่ะ .. เกลียดเขาจะตายไป !
แม่ของเธอคงอยากจะจับคู่เธอกับท๊อป เหมือนกับที่จับคู่โจยังกับแจจุงล่ะสินะ
เธอเกลียดท๊อป .. ทำไมแม่ไม่จับคู่เธอกับแจจุงนะ ไม่ได้สิ นั่นน่ะ .. คู่หมั้นน้องสาวนะ !
“ถ้าเธอไม่บอก ฉันก็จะไม่ปล่อยให้เธอกลับไปไหนทั้งนั้น”
“แต่ .. ออนนีคะ เย็นนี้ฉันมีธุระนะ” ยูนาประท้วงด้วยน้ำเสียงโอดครวญ
เธอมีธุระจริง ๆ นะ .. เย็นนี้เธอมีนัดกับเจ้าของแกลลอรี่ชื่อดังเพื่อมาคุยกันเรื่องจัดแสดงภาพถ่ายของเธอด้วย
ถ้าผิดนัดคราวนี้แล้วล่ะก็ .. รับรองได้ว่าเธอไม่มีโอกาสได้โชว์ผลงานที่แกลลอรี่นี้ตลอดชีวิตแหง ๆ
“ถ้าเธอไม่ยอมบอก ฉันก็ช่วยไม่ได้จริง ๆ”
ไม่มีทางเลือกให้กับอิมยูนาเลยแม้แต่นิดเดียว ..
.
.
.
ขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงที่แดดสาดเปรี้ยงมายังไร่สตรอเบอร์รี่แห่งนี้ แดดทอแสงแรงกล้ามากจนแสบตาไปหมด
คนอื่น ๆ ต่างก็พกหมวกออกมาด้วยทั้งนั้น โดยเฉพาะซงซึงฮยอนที่ถึงขนาดพกแว่นกันแดดอันใหญ่ออกมาด้วย
แต่โจยังนี่สิ .. เธอไม่ได้เตรียมหมวกออกมาด้วยเหมือนอย่างคนอื่น ๆ .. แย่จริง ๆ เลย ! เธอลืมไปได้ยังไงกันเนี่ย ?
แต่จะให้กลับไปเอาแค่หมวกใบเดียวนี่นะ แบบนั้นก็เหนื่อยแย่เลยสิ !
ไร่สตรอเบอร์รี่แม้จะไม่ใหญ่ แต่ก็กว้างขวางใช่ย่อย แถมยังอยู่ห่างจากบ้านของเธอไม่ใช่น้อย ๆ เลย
มีทางเดียวเท่านั้น .. คือ .. คิมโจยังต้องอดทน .. แดดแค่นี้เอง เธอไม่เป็นไรหรอกน่า
ตุ้บบบ ~
“อ่ะ .. คะ ?”
“เอาไปใส่สิ” แม้จะเป็นคำพูดสั้น ๆ ง่าย ๆ แต่ก็ทำให้โจยังอดที่จะประทับใจไม่ได้
หมวกแก๊ปสีขาวมียี่ห้อวางนิ่งอยู่บนหัวของเธอในเวลานี้ ในขณะที่บนหัวของเจ้าตัวคนให้กลับไม่มีอะไรป้องกันแสงแดดเลยแม้แต่น้อย
“เอ่อ .. คุณหัวหน้าเอาคืนไปเถอะนะคะ”
โจยังถอดหมวกยื่นส่งคืนให้กับจงฮุนที่เดินข้าง ๆ แต่เขากลับเอามันไปใส่ไว้บนหัวของเธอตามเดิม
“เถอะน่า” พลางลูบหัวโจยังผ่านหมวกแก๊ปใบนั้นเบา ๆ แต่แค่นั้นก็ทำเอาโจยังเขินไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
“คิมโจยัง !!”
เสียงเรียกดังสนั่นของหญิงสาว ทำให้ทุกสายตาหันมองไปยังต้นเสียงที่มาแทบจะพร้อมเพรียงกัน
แม้กระทั่งซงซึงฮยอนที่เปิดเพลงฟังเสียงดังยังได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อของโจยังอย่างชัดเจน
“ออนนี ..” น้ำเสียงของโจยังขาดห้วงไปในทันที
คนที่ยืนมองหน้าเธออย่างโกรธเคืองในเวลานี้ก็คือ .. พี่สาวของเธอ และ พี่ชายของคู่หมั้นของเธอ
และยังมี .. อิมยูนา ที่ยืนยกมือขอโทษขอโพยเธออยู่ข้างหลังบุคคลทั้งสอง สีหน้าของยูนาก็อยากร้องไห้ไม่แพ้กัน
“โจยัง กลับบ้านเดี๋ยวนี้ !”
เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้าคือภาพที่ผู้ชายคนนั้นกำลังมายุ่งวุ่นวายกับน้องสาวของเธอ
อารมณ์ของซองอึนก็พุ่งขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก นี่ตกลงน้องสาวเธอหนีคู่หมั้นมาหาผู้ชายคนนี้เหรอเนี่ย !?
“มันไม่ใช่นะคะ ออนนี ..” คนเป็นน้องสาวรีบแก้ตัวทันที เธอเข้าใจดีว่าพี่สาวโกรธเพราะอะไร
แต่มันไม่ได้มีอะไรระหว่างเธอกับชเวจงฮุนเลยนะ .. ไม่มีความนัยลึก ๆ เลยแม้แต่นิดเดียว
“แล้วมันหมายความว่ายังไง !”
.
.
.
อารมณ์ของซองอึนค่อยกลับเป็นปกติเมื่อได้ฟังเรื่องราวจากปากของน้องสาวจนจบ
หากแต่เธอก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดีว่ายัยน้องสาวจะหนีคู่หมั้นมาทำไม .. คิมแจจุงน่ะ เทพบุตรชัด ๆ
“เธอนี่มันโง่จริง ๆ เลย” ซองอึนอดที่จะด่าน้องสาวตัวดีไม่ได้
“ขอโทษค่ะ” ตอบกลับมาได้แค่นั้น ก่อนจะก้มหน้างุดลงไปเหมือนเดิม
“ให้ฉันโทรไปบอกแจจุงมันมั้ย ?” ท๊อปหันไปพูดกับซองอึนพลางหยิบโทรศัพท์มือถือสีฟ้าโลลี่ป๊อปขึ้นมา ( โฆษณาหน่อย ~ )
“ไม่นะคะ ท๊อปโอป้า .. ไม่เอา ห้ามบอกแจจุง” โจยังแทบจะอ้อนวอนคนตรงหน้า
ถ้าแจจุงรู้จะต้องมาตามเธอแน่ ๆ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้น .. เธอก็ต้องกลับไปหมั้นกับเขาอย่างเดิม !
ถ้าเป็นอย่างนั้น ทุกสิ่งที่เธอทำมาก็สูญเปล่าน่ะสิ อุตส่าห์หนีมาได้แล้วแท้ ๆ เชียว
“จะให้ฉันปิดแจจุงไว้เนี่ยนะ”
“ค่ะ ..”
“โอ๊ย ~ เธอนี่มันยุ่งวุ่นวายจริง ๆ เลยโจยัง แล้วจะให้ฉันทำยังไง”
แต่โจยังก็ได้แต่สั่นหัวอย่างไม่รู้คำตอบ เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะทำยังไงดี
“งั้นฉันจะย้ายมาอยู่กับเธอที่นี่”
จบประโยคปุ๊บ โจยังกับยูนาก็เงยหน้าขึ้นมามองซองอึนอย่างตื่นตะลึง .. นี่พวกเธอหูฝาดไปหรือเปล่า ?
“ฉันกับท๊อปจะย้ายมาอยู่ที่นี่ .. กับเธอ .. คิมโจยัง” เน้นย้ำอีกครั้งเพื่อความชัดเจน
“ไม่ได้นะคะ !” โจยังรีบย้อนกลับไป ถ้าพี่สาวมาอยู่ที่นี่สักวันแจจุงก็ต้องตามมาแน่ ๆ
“ทำไมจะไม่ได้” ซองอึนส่งสายตามุ่งร้ายไปทางน้องสาว .. มีสิทธิ์อะไรมาห้ามไม่ให้เธออยู่ที่นี่กัน
เมื่อเห็นสายตาจากผู้เป็นพี่สาวแล้ว โจยังก็ก้มหน้ากลับลงไปอย่างเก่า น่ากลัวจริง ๆ เลยสิน่า !
ไร้ซึ่งคำพูดใด ๆ จากปากของคิมโจยังอีก แม้กระทั่งยูนาก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
“ฉันจะปิดแจจุงไว้ก็ได้ .. แต่ฉันกับท๊อปจะตามมาอยู่ดูความประพฤติของเธอที่นี่ !”
“ออนนี ..”
“ถ้าเธอไม่กลับ ฉันก็จะไม่กลับเหมือนกัน !!”
นี่มันก็แย่ไม่ต่างจากการที่เธอต้องหมั้นกับคิมแจจุงเลยนะ !
.
.
.
หน้าบ้านเดี่ยวหลังเล็กที่เพิ่งจะมีคนเช่าหลังนี้ คิมซองอึนกำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ที่สวนหน้าบ้าน
ข้าง ๆ ก็มีชเวซึงฮยอนที่นอนบนเปลเล่นโทรศัพท์มือถือของตัวเองพลางเหลือบสายตามองซองอึนไปด้วย
“แม่คะ .. หนูเจอโจยังแล้วนะ”
( จริงเหรอลูก อยู่ที่ไหน บอกแม่มาที .. แม่จะไปหา )
“หนูบอกไม่ได้ค่ะแม่ .. แต่แม่ไม่ต้องห่วงนะ หนูจะพาโจยังกลับไปเอง”
( เร็ว ๆ นะลูก .. แม่ไม่อยากให้งานหมั้นของแจจุงกับโจยังต้องเลื่อน )
ในหัวของแม่สนใจแค่เรื่องหมั้นของโจยังสินะ .. นี่เธอควรจะดีใจหรือสงสารน้องสาวของเธอดีนะ
“ค่ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ” ซองอึนว่า ไม่ลืมที่จะย้ำเตือนแม่ “แล้วแม่อย่าบอกใครนะว่าหนูรู้ว่าโจยังอยู่ที่ไหน”
( รู้แล้วน่า แม่ไม่บอกใครหรอก )
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของซองอึน ถึงแม่เธอจะวุ่นวายไปสักหน่อย แต่ก็เป็นคนที่รักษาคำพูดมากเลยนะ
ซองอึนมั่นใจได้ว่า .. จะยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ถ้าเธอไม่ได้เป็นคนบอกเองอย่างแน่นอน
ซองอึนปิดฝาพับโทรศัพท์มือถือแล้ววางมันลงบนโต๊ะหินอ่อน เหม่อมองออกไปยังบ้านหลังเล็กที่ห่างออกไปไม่ไกล
นั่นเป็นบ้านของคิมโจยัง .. บ้านหลังเล็กแค่นั้นแล้วอยู่กันตั้งสี่คน บอกให้ย้ายมาอยู่ด้วยก็ไม่ย้าย
แต่จะว่าโจยังก็ไม่ได้นะ ก็เธอมีเป้าหมายจะพาโจยังกลับบ้านนี่นา ไม่แปลกหรอกที่โจยังจะไม่อยากย้ายมาอยู่ด้วย
“นี่ ไม่ให้บอกไอ้แจจุงมันจริง ๆ เหรอ ?” เสียงตะโกนถามมาจากคนที่นอนอยู่บนเปล
“ยังไม่ต้องบอกตอนนี้” ซองอึนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“บอกไอ้แจจุงไปก็จบเรื่องแล้ว”
ประโยคนี้ทำให้ซองอึนหันขวับไปทางเพื่อนร่วมบ้านทันทีทันใด สายตาดุ ๆ ส่งไปทางผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่ชอบใจนัก
“โจยังไม่ให้บอกแจจุงก็อย่าบอกสิ นายเงียบไปเลยจะได้มั้ย !”
แต่ท๊อปเพียงแค่ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ .. ก็แค่เสนอความเห็น ไม่ตกลงก็ไม่ตกลงสิ !
“แล้วถ้าฉันรู้ว่านายเอาไปบอกแจจุงเมื่อไหร่ ฉันเอานายตายแน่” ยังไม่วายที่จะหันไปขู่ท๊อปอีก
หน้าหล่อโหดของท๊อปไม่ได้ทำให้ซองอึนกลัวอย่างคนอื่น ๆ เลยสักนิดเดียว
ตรงกันข้าม .. ยิ่งเห็นยิ่งทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดแถมพาลเอาได้ง่าย ๆ
“ถ้าฉันจะตาย ฉันขอตายกับเธอนะ” คำพูดทีเล่นทีจริงของท๊อปทำให้ซองอึนหน้าร้อนขึ้นมา
“ฉันไม่ตายกับนายหรอก !!”
พูดได้แค่นั้น แล้วซองอึนก็คว้าโทรศัพท์เดินหนีเข้าบ้านไป
.
.
.
ควันบุหรี่ที่หน้าร้านของเลอคาเฟ่ แม้จะไม่ได้สร้างความรบกวนให้ใคร แต่สร้างความหงุดหงิดให้กับคนที่ยืนมองอยู่ไม่ไกลมาก
จางมียืนมองโจคยูฮยอนที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่หน้าร้านจากอีกฟากของมุมถนนอย่างหงุดหงิดใจมากว่าสามนาทีแล้ว
เขาไม่ใช่คนที่เธอรู้จัก .. เขาไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตของเธอเลยแม้แต่น้อย
จางมีก็รู้แค่ว่าเขาเป็นพาติซิเอร์ของร้านเลอคาเฟ่ที่ยอลซเวทำงานอยู่ก็เท่านั้น
แต่เธอไม่ชอบเอาเสียเลย ไม่ชอบมาก ๆ .. จางมีเกลียดคนที่สูบบุหรี่แบบนี้เป็นที่สุด
“นี่นาย !” จางมีเดินข้ามไปหาคยูฮยอนถึงอีกฟากถนน นั่นเรียกความสนใจจากเจ้าตัวที่ยืนอยู่หน้าร้านได้เป็นอย่างดี
คยูฮยอนมองหน้าหญิงสาวทั้งงุนงงและสับสน เธอคนนี้ดูเหมือนจะเคยเป็นลูกค้าที่ร้าน
เขาเองก็รู้แค่ว่าเธออาศัยอยู่ในบ้านเช่าของหมู่บ้านสตรอเบอร์รี่ตรงกันข้ามนี้เท่านั้นเอง
“ฉันเหรอ ?” โจคยูฮยอนชี้นิ้วมาที่ตัวเองด้วยท่าทางงุนงง
“นายนั่นแหละ” จางมีตะคอกใส่เสียงดัง “หยุดสูบบุหรี่เดี๋ยวนี้เลยนะ”
คยูฮยอนนิ่งไปสักพักหนึ่ง .. ในใจอดที่จะขำกับท่าทางของหญิงสาวผมยาวตรงหน้าไม่ได้
ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่อยู่ ๆ ก็มาบอกให้เขาเลิกสูบบุหรี่เนี่ยนะ ? จะว่าแปลกใจก็แปลกใจ แต่จะขำก็ขำอยู่
“ทำไม .. ฉันต้องทำตามที่เธอสั่งด้วย”
“ก็ ..”
ก็เพราะว่าเธอไม่ชอบ .. มันก็แค่นั้นเอง .. แต่พอเธออ้าปากจะพูด คยูฮยอนก็ทิ้งเศษบุหรี่ที่เหลือลงไปบนพื้น
ใช้เท้าขยี้จนไฟดับไป ทิ้งลงบนพื้นที่หน้าร้านแบบนี้ .. ถ้ายองแอมาเห็นมีหวังถูกด่าจนหูแฉะ แต่เขาไม่เคยจะสนใจหรอก
“ขอบใจที่หวังดี”
คยูฮยอนพูดทิ้งท้าย หมุนตัวหันขวับผลักบานประตูเข้าไปในร้าน .. รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นที่ริมฝีปาก
.
.
.
มินโฮที่เพิ่งกลับมาจากโรงเรียนพร้อมกับมินฮวานและอินฮยองร้องถามหญิงสาวที่วิ่งออกมาจากในบ้านหลังเล็กอย่างรีบร้อน
ที่ไหล่สะพายกระเป๋าใบใหญ่สีน้ำตาลแทนที่จะเป็นกล้องถ่ายรูปคู่ชีพอย่างเช่นทุกที
แม้กระทั่งการแต่งตัววันนี้ก็ดูมีภูมิฐานมากขึ้น .. ถ้าให้มินโฮเดาแล้วล่ะก็ เธอคงจะมีนัดคุยงานแน่ ๆ เลยสิท่า
“มีธุระน่ะ ขอโทษนะ คุยไม่ได้ ฉันไปก่อนล่ะ”
“เอ่อ .. เดี๋ยวสิ”
แต่อิมยูนาก็วิ่งไปขึ้นรถเมล์ที่มาจอดรออยู่ก่อนแล้ว เธอเพียงแค่โบกมือให้ทั้งสามคนอย่างเร่งรีบ .. แล้วรถเมล์ก็เคลื่อนตัวออกไป
“ออนนีเขารีบร้อนไปไหนกันนะ ?” อินฮยองเปรย ๆ ออกมา
“ไม่รู้สิ” มินฮวานส่ายหัว
“ว่าแต่ .. มินฮวาน เดี๋ยวเราไปหาอะไรกินที่เลอคาเฟ่ด้วยกันมั้ย ?” อินฮยองเอ่ยปากชวนเพื่อนสนิทอย่างเริงร่า
“แล้วแต่ฮยอง” คนโดนชวนตอบกลับมาอย่างชัดเจน เล่นเอาคนชวนทำหน้างอนไปทันที
ไม่ว่าอะไรชเวมินฮวานก็จะต้องแล้วแต่ฮยอง ๆ แบบนี้ตลอดเลย .. ขนาดเธอที่เป็นเพื่อนสนิทเขาก็ยังดูไม่สนใจ
คิดแล้วอินฮยองก็อดน้อยใจขึ้นมาเล็ก ๆ ไม่ได้ ทั้งน้อยใจมินฮวาน แล้วก็น้อยใจตัวเองอย่างไม่มีเหตุผล
มินโฮเมื่อเห็นสีหน้าหงอยของเพื่อนสาวของน้องชาย .. เขาก็อดไม่ได้ที่จะเห็นใจเธอขึ้นมา
“นายไปกับอินฮยองเถอะ”
“แล้วฮยองล่ะครับ ฮยองไม่ไปด้วยกันเหรอ ?”
“ไปกับอินฮยองเถอะน่า” มินโฮยังคงยืนยันคำพูดเดิมของตนเอง
“ก็ได้ครับ”
อินฮยองแอบก้มหัวขอบคุณให้มินโฮเล็กน้อย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามินโฮโอป้าคงกำลังช่วยเธออยู่
ถึงแม้ว่าที่มินฮวานไปกับเธอจะเป็นเพราะมินโฮก็เถอะ แต่อีอินฮยองก็รู้ดีว่า .. แค่นี้มันก็เพียงพอแล้ว
“แล้วอย่าไปเถลไถลที่ไหนนะ” มินโฮป้องปากตะโกนบอกคนทั้งคู่ที่เดินมุ่งหน้าไปทางร้านคาเฟ่
“คร้าบบบบ~” มินฮวานป้องปากรับคำผู้เป็นพี่ชาย ก่อนจะกระโดดวิ่งตามหลังอินฮยองไป
.
.
.
โคมไฟในสวนหน้าบ้านหลังเล็กของกลุ่มคนงานในไร่สตรอเบอร์รี่สว่างขึ้นเมื่อหญิงสาวเดินออกมาจากในบ้าน
นั่งลงไปบนม้านั่งยาวสีเขียวสะท้อนแสงเพียงลำพัง .. สายตาทอดยาวเหม่อออกไปโดยไม่มีจุดหมาย
ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาแรง ๆ เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ .. วันนี้เป็นวันที่แย่จริง ๆ เลยสำหรับคิมโจยัง
“ออกมาทำอะไรคนเดียวล่ะ ?”
น้ำเสียงดังมาก่อนที่เจ้าตัวจะนั่งลงไปข้าง ๆ หญิงสาวที่ม้านั่งตัวนั้น ระยะห่างแม้ไม่ได้ใกล้ .. แต๋โจยังกลับรู้สึกว่าเขาช่างอยู่ใกล้เธอเหลือเกิน
“คือโจยัง ..” ยังไม่ทันที่เธอจะได้ตอบ เสียงเรียกชื่อของเธอก็ดังขึ้น
“คิมโจยัง !”
“โอ๊ย ~ ออนนีอีกแล้ว” โจยังบ่นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ หากแต่ใบหน้ายังคงรักษารอยยิ้มไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
“คะ .. ? ออนนีมีอะไรกับโจยังหรือเปล่า ?”
คิมซองอึนเดินเคียงคู่มากับชเวซึงฮยอนคนเดิม .. ผลักรั้วไม้สีขาวสะอาดเข้ามาหาคนทั้งคู่ที่กำลังนั่งอยู่ที่ม้านั่ง
ชเวจงฮุนก้มหัวทักทายผู้มาใหม่ทั้งสองคนอย่างมีมารยาท ท๊อปเองก็พยักหน้ากลับไปเล็กน้อย แต่ซองอึนกลับไม่สนใจ
ก็เธอไม่ชอบใจผู้ชายคนนี้เลยน่ะสิ .. กล้าดียังไงมายุ่งกับน้องสาวสุดที่รักของเธอ
สำหรับซองอึนแล้ว ผู้ชายคนเดียวที่คู่ควรกับคิมโจยังก็คือคิมแจจุงเท่านั้นแหละ !
“ฉันก็แค่แวะมาหา”
“เจอโจยังแล้วก็กลับไปได้แล้วค่ะ” โจยังย้อนเข้าให้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย นั่นทำให้ซองอึนมองเธออย่างไม่พอใจเล็ก ๆ
“พูดกับพี่แบบนี้ได้ยังไงกัน”
ก็แค่อารมณ์ขุ่นเคืองเล็ก ๆ มันพาไป โจยังจึงตัดสินใจสงบปากสงบคำไว้ไม่พูดอะไรอีก
จงฮุนมองลูกจ้างสาวที่นั่งนิ่งอยู่ข้าง ๆ อย่างนึกเห็นใจ .. หากแต่เขารู้ดีว่าถ้าพูดอะไรออกไปซองอึนก็คงไม่สนใจ
เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคิมซองอึนจะต้องทำท่าเหมือนไม่ชอบใจเขาด้วย นี่เขาทำอะไรผิดไปอย่างนั้นเหรอ ?
“หนูง่วงแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ”
ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้สึกง่วงอย่างที่ตัวเองว่าเลยแม้แต่น้อย แต่คิมโจยังก็เดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่อหลีกหนีปัญหา
ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะพูดกับใครทั้งนั้นแหละ .. โดยเฉพาะกับพี่สาวของเธอคนนี้แล้ว ไม่อยากจะพูดด้วยเลยจริง ๆ
“โจยัง คิมโจยัง !” ซองอึนตะโกนเรียกน้องสาว แต่เธอก็ไม่ยอมหันกลับมา “บ้าจริง !”
“โจยังคงจะเหนื่อยน่ะครับ”
จงฮุนแก้ตัวแทนลูกจ้างสาวที่เดินหนีหายเข้าไป แต่สายตาที่ส่งกลับมากลับทำให้เขาต้องถอนหายใจ
สรุปว่าคิมซองอึนเกลียดเขาจริง ๆ สินะเนี่ย ..
“ฉันไม่ได้ถามความเห็นนาย” ซองอึนว่า สะบัดหน้าหนีชายหนุ่มที่นั่งอยู่ที่ม้านั่งอย่างรำคาญใจ
“กลับได้แล้ว” ประโยคนี้เธอหันไปพูดกับท๊อป ไม่รอฟังคำตอบก็เดินหนีออกมาจากบ้านหลังนี้ก่อนแล้ว
.
.
.
ซองอึนก้าวเท้าเดินฉับ ๆ ออกมาจากบ้านของโจยังด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว อีตาคนข้าง ๆ ก็ไม่ได้ช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลย
ไม่เคยล่ะ .. ที่จะให้คำแนะนำดี ๆ หรือพูดคุยออกความเห็น .. แถมตอนนี้ยังเอาแต่ฮัมเพลงอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอีก
ไม่ได้รู้เลยใช่มั้ยว่าคนเขาอยู่ในอารมณ์ไหน ! คิดแล้วคิมซองอึนก็อยากจะด่าเข้าให้ เสียแต่ว่าพูดไปคนข้าง ๆ ก็คงไม่รู้สึกอะไร
“คิมซองอึน เฮ้ !”
ขณะที่ซองอึนและท๊อปกำลังจะเปิดประตูเข้าไปในบ้านของตัวเอง ก็มีเสียงตะโกนเรียกชื่อดังมาจากบ้านข้าง ๆ
หญิงสาวชะงักไปนิดหนึ่ง แล้วเพ่งมองเข้าไปในบ้านหลังข้าง ๆ โดยอาศัยเพียงแสงสว่างราง ๆ จากโคมไฟสีเหลืองอ่อนที่หน้าบ้านเท่านั้น
“อ๊ะ ! จงฮยอน”
ชายหนุ่มวิ่งออกมาจากในบ้านตรงเข้ามาหาเพื่อนสนิทสาวแทบจะเรียกได้ว่าด้วยความรีบร้อนอย่างแท้จริง
สีหน้าเซ็งของซองอึนแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้างเมื่อได้เห็นหน้าของเพื่อนสนิทคนที่เรียกได้ว่าคุ้นเคย
“เธอมาอยู่ที่นี่ได้ไงเนี่ย ?”
“ฉันก็ตามโจยังมาน่ะสิ”
“นี่เจอโจยังแล้วเหรอ ?” จงฮยอนแทบจะเรียกได้ว่าแปลกใจ
“นายรู้ แต่นายปิดไม่ยอมบอกฉัน”
อดไม่ได้ที่ซองอึนจะเกิดอาการงอนคนตรงหน้าเล็ก ๆ แต่ก็เข้าใจอยู่หรอก .. เขาคงช่วยโจยังสินะ
“ขอโทษ” ชายหนุ่มยกมือไหว้อย่างคนรู้สึกผิด “ก็ฉันสงสารโจยังนี่นา”
สงสารโจยัง .. แล้วไม่สงสารเธอบ้างเลยหรือยังไงกัน ? เธอไล่ตามหาน้องสาวแทบจะทั่วทุกที่ เหนื่อยก็เหนื่อย
แต่กลับกลายเป็นว่าอยู่ใกล้แค่เอื้อมเท่านั้นเอง คิดแล้วก็น่าเคืองจริง ๆ .. มีแต่คนช่วยโจยัง แต่ไม่มีใครช่วยซองอึนเลยนี่นะ !?
“จงฮยอน คุยกับใครอยู่อ่ะ ?”
“อีแทมิน มีมารยาทหน่อย”
หญิงสาวเอ่ยปรามเด็กหนุ่มคนที่เดินออกมาใหม่ .. สีหน้าผงะไปนิดหนึ่งเมื่อเห็นว่าคนที่ผู้จัดการของเขาคุยด้วยคือใคร
“ขอโทษครับ นูน่า” อีแทมินก้มหัวขอโทษคนตรงหน้าพลางพูดขอโทษอย่างเกรงใจเป็นที่สุด
ใคร ๆ ก็รู้ว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มที่แสนจะไร้มารยาท หากแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคิมซองอึนแล้ว .. เขาแทบจะเปลี่ยนเป็นคนละคน
“งั้นฉันเข้าบ้านก่อนนะ”
ท๊อปกระซิบบอกกับซองอึนแบบที่เรียกได้ว่าชิดหูเลยทีเดียว นั่นทำให้หญิงสาวหน้าร้อนขึ้นมาอีกครา
เธอถอยห่างออกจากคนข้าง ๆ แล้วหันไปตวาดใส่ ทั้งโกรธทั้งเขินเล็ก ๆ แต่ท๊อปก็เพียงหัวเราะออกมาเท่านั้น
“แย่ที่สุดเลย” ซองอึนบ่นพึมพำอย่างไม่ชอบใจ แต่คนที่ไม่ชอบใจยิ่งกว่าคือร่างสูงตรงหน้าเธอต่างหาก
ใช่ว่าคิมจงฮยอนจะไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ .. เขาคือคนที่ติดหนึบกับซองอึนไม่ว่าจะไปที่ไหนมาเป็นเวลากว่าครึ่งปีแล้ว
แม้จะไม่ชอบใจ แต่จงฮยอนก็ทำอะไรไม่ได้ เขาได้แต่เก็บความขุ่นเคืองไว้ภายในใจอย่างนี้เท่านั้น
“นูน่าจะย้ายมาอยู่ที่นี่เหรอครับ?” แทมินดูไม่ได้สนใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเลย เขาถามออกไปในสิ่งที่ตนเองสงสัย
เธอพยักหน้าพลางยิ้มบาง ๆ ให้แทมิน “อื้ม ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ จนกว่าโจยังจะกลับ”
และแทมินก็พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ แต่จงฮยอนกลับไม่ได้สนใจกับประโยคคำพูดที่ออกมาจากปากของซองอึน
ตอนนี้ที่เขาสนใจยิ่งกว่าคือเรื่องที่เพื่อนสนิทของเขาจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ .. กับผู้ชายที่ชื่อชเวซึงฮยอนคนนั้นสองต่อสอง !!
“รับไม่ได้หว่ะ !”
อุทานออกมาอย่างคนที่ไม่พอใจที่สุดในชีวิต .. ทั้งซองอึนและแทมินต่างก็หันมองไปทางเขาด้วยความสงสัย
“จงฮยอน .. เป็นอะไร ?”
“เปล่า” แล้วเขาก็เดินหนีกลับเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้ซองอึนกับแทมินยืนงงด้วยกันสองคน
“เขาเป็นอะไรของเขากันนะ”
“เป็นบ้าเพราะแอบรักนูน่าข้างเดียวมั้ง”
“ห๊ะ ?”
แต่แทมินก็เดินหายลับกลับเข้าไปในบ้านตามผู้จัดการไปอีกคนแล้ว
“อะไรกันเนี่ย ?”
ซองอึนได้แต่บ่นพึมกับตัวเอง และรู้ว่าเธอจะไม่ได้รับคำตอบใด ๆ เลย
วันนี้ .. เป็นวันที่น่าปวดหัวสำหรับคิมซองอึนจริง ๆ เลยสิน่า !
TBC *
ยู๊ฮิ้ว ~ มาแล้วกับแช้ปแรกของเรื่องสตรอเบอร์รี่
และแล้ว .. เราก็ได้สมาชิกใหม่ที่หมู่บ้านตัลกีอีกสองคน >0< { ปรบมือ ~ แปะ ๆๆ !! . }
ตอนนี้ขอเป็นตอนเด่นของโจยังกับซองอึนนิดนึงนะคะ
‘ ขอโทษหลาย ๆ คนที่ไม่ได้ออกด้วยนะคะ ’ พยายามจัดสรรแล้วแต่มันไม่ได้จริง ๆ
แต่ก้ไม่ต้องกลัวค่ะ , ทุกตอน ทุกคาแรคเตอร์ยูจะให้สลับบทบาทกันเด่นอย่างแน่นอน
สำหรับใครที่ไม่ได้ออกตอนนี้แล้วจะไม่เม้นก็ไม่เป็นไรนะคะ ^^”
ไม่ต้องเม้นเนื้อเรื่อง จะเม้นแค่ว่าได้อ่านแล้วก็ไม่ว่ากัน เพราะมันอาจจะ .. ยาวไป หรือเปล่า ?
ตอนนี้สำนวนมันอาจจะแปลก ๆ ไม่ค่อยได้เรื่องยังไงก็ขออภัยค่ะ
แต่งแบบรีบ ๆ ไม่ได้ย้อนกลับไปอ่านด้วยเพราะอยากเอามาลงให้อ่านกันไว ๆ >< ~
ยังไงก็หวังว่าทุกคนจะยังชอบเรืองนี้กันอยู่นะคะ สนุกก็ว่า ไม่สนุกก็ติกันมาได้เต็มที่เลยค่ะ
ขอบคุณโบนาสึสำหรับโปสเตอร์คาแรคงาม ๆ -0-
แต่เดี๋ยวขอดูทำเลจัดสรรนิดนึง แล้วจะเอามาลงให้พวกเราชาวไร่สตรอเบอร์รี่ได้เห็นกันแน่นอนจ่ะ.
แล้วก็คำบรรยายใต้ภาพก็ยังคงต้องขอติดไว้ ช่วงนี้คงไม่ได้มาอัพบ่อย ๆ
เพราะยูเปิดเรียนมหา’ลัยแล้ว แย่จริงจัง* .. แต่จะกลับมาอัพตอนสองต่อแน่ ๆ จ่ะ ไม่นานเกินรอ มั้ง.
สำหรับใครที่อยากรีเควสขอคาแรคเตอร์เสริมคนไหน วงไหน ยังไง , รบกวนอีเมล์มาก็แล้วกันนะคะ -0-
ตอนนี้ยูก็ยังไม่ได้อ่านเม้นเก่า ๆ ของทุกคนเลย ขอโทษอย่างจริงจัง
คงไม่ได้ตอบ และอ่านช้า ~ แต่สัญญาว่ารับรู้ทุกคอมเม้น และขอขอบคุณมาก ๆ จริง ๆ ค่ะ
♥ คิดถึงทุกคนนะคะ >3< ♥
Ps . รูปแช้ป 1 คือเลอคาเฟ่นะจ่ะ ~
Sei ryo+.+
ความคิดเห็น