คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : STRAWBERRY ❤ Prologue
STRAWBERRY ❤ Days
{ PROLOGUE . }
เสียงนกร้องขับขานเป็นจังหวะเพลงไพเราะ และพระอาทิตย์ที่สาดแสงอ่อน ๆ ต้อนรับยามเช้าที่สดใส
อากาศในยามเช้าเป็นอะไรที่บริสุทธิ์ชื่นใจ .. จนน่าจะออกมาเดินเล่นมากกว่านอนอุดอู้อยู่ในเตียงนอนใต้ผ้าห่มหนานุ่มนั่น
หากแต่ร่างเล็กกลับยืนเคาะประตูบ้านไม้สีขาวรัว ๆ อย่างร้อนรน .. สลับกับเสียงตะโกนเรียกชื่อของคนในบ้าน
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ กลับมาจากภายในนั้น นั่นยิ่งทำให้อีอินฮยองรู้สึกร้อนใจมากขึ้นไปอีก
เธอยกนาฬิกาข้อมือสีชมพูใสขึ้นมาดูเวลา เจ็ดโมงสี่สิบห้าแล้วนะ .. ขืนช้ากว่านี้มีหวังต้องไปโรงเรียนสายแน่ ๆ
“มินฮวาน .. มินโฮโอป้า ตื่นได้แล้วค่ะ !”
เธอร้องเรียกชื่อบุคลลในบ้านเป็นรอบที่สิบได้แล้วมั้ง .. ตอนนี้เธอเป็นกังวลจริง ๆ นะ
ใจหนึ่งก็อยากไปโรงเรียนก่อน แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากปล่อยเพื่อนรักทิ้งไว้คนเดียวอย่างนี้
“โอ๊ย ! ทำยังไงดีนะ ฉันพังประตูเข้าไปเลยดีมั้ย ?” พึมพำกับตัวเองด้วยสีหน้าอย่างกับคนจะร้องไห้
แต่เมื่อบานประตูสีขาวถูกเปิดออก .. แม้คนที่ยืนตรงหน้าจะไม่ใช่เพื่อนของเธอ แต่ก็ทำให้อินฮยองรู้สึกใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง
“อ้าว .. อินฮยอง มาทำไมแต่เช้า ?”
ชเวมินโฮที่อยู่ในสภาพเพิ่งตื่นนอนก็ยังคงดูดีไม่สร่าง
แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่อินฮยองจะมาชื่นชมนะ .. เธอรีบพุ่งผ่านคนร่างสูงตรงหน้าเข้าไปในบ้าน วิ่งตรงขึ้นไปบนชั้นสอง
ร่างเล็กไขลูกบิดเข้าไปในห้องนอนที่หน้าห้องมีบอร์ดสีขาวเขียนชื่อเจ้าของห้องไว้ ‘ชเวมินฮวาน ♥’
ไม่รอช้า .. เมื่อเปิดประตูเข้าไปได้แล้ว เธอก็เข้าไปเขย่าตัวคนที่นอนกอดหมอนข้างอยู่บนที่นอนทันที
“มินฮวาน ๆ ตื่นได้แล้ว !”
“อินฮยองเหรอ ?”
หนุ่มน้อยผมทองยังคงนอนอยู่อย่างนั้น แต่สายตากลมโตจ้องไปยังอินฮยองปริบ ๆ
แม้จะเป็นในช่วงเวลาร้อนรน .. แต่อินฮยองก็อดใจเต้นตึกตักกับคนตรงหน้าขึ้นมาไม่ได้
“จะแปดโมงแล้วนะ เรากำลังจะไปโรงเรียนสายแล้ว !”
“แปดโมง !!” มินฮวานเด้งตัวขึ้นนั่งอย่างอัตโนมัติ คว้านาฬิกาตรงหัวเตียงขึ้นมาดู แล้วก็ต้องตาเบิกโพลง
“แปดโมงแล้วจริง ๆ ด้วย .. ทำไงดี ? อินฮยอง เราต้องไปสายแน่ ๆ” กลายเป็นเด็กหนุ่มที่เป็นฝ่ายร้อนรนขึ้นมาแทน
“รีบเปลี่ยนชุดสิ เดี๋ยวฉันลงไปรอข้างล่างนะ”
“อื้ม ห้านาทีนะ .. ห้านาทีแล้วเราไปโรงเรียนพร้อมกัน”
.
.
.
มินโฮยืนมองเด็กน้อยทั้งสองวิ่งออกไปขึ้นรถบัสพร้อมกัน พลางอมยิ้มขำกับความเปิ่นเป๋อของน้องชายตัวเอง
แต่จริง ๆ จะไปโทษว่าเป็นความผิดของมินฮวานก็ไม่ได้นะ .. เขาเองก็ผิดที่ชวนมินฮวานนั่งดูหนังแล้ววิจารณ์ผลงานศิลปะในหนังด้วยกันทั้งคืนน่ะ
ร่างสูงยืนหาวหวอด ๆ อยู่หน้าประตู .. แต่เขาก็ไม่คิดจะปีนขึ้นเตียงกลับไปนอนอีกแล้วล่ะ
ในเมื่อตื่นนอนมาแล้วจะให้กลับไปนอนอีกทีมันก็ดูกระไรอยู่ และเขาคิดว่าตัวเองคงจะนอนไม่หลับแน่ ๆ
ตัดสินใจจะไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วไปนั่งวาดรูปอยู่ในห้องวาดรูปที่มองเห็นทิวทัศน์ในไร่สตรอเบอร์รี่ดีกว่า
“ชเวมินโฮ ?” เสียงเรียกของหญิงสาวแฝงไปด้วยความเกรงใจนิด ๆ .. นั่นทำให้มินโฮหันขวับไปมองทางต้นเสียงทันที
หญิงสาวผมยาวประบ่า สะพายกระเป๋ากล้องอันใหญ่โตอยู่ที่ไหล่ข้างซ้าย .. กำลังยืนมองหน้าเขาอยู่ที่หน้าประตูบ้าน
สายตาของชายหนุ่มมองเธออย่างสงสัยเล็ก ๆ ใบหน้านิ่งขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะ .. “อ๊ะ ! อิมยูนาใช่มั้ย ?”
รอยยิ้มสดใสระบายอยู่บนใบหน้าของเด็กสาว เธอพยักหน้าพลางยิ้มรับ
“ฉันกำลังจะไปถ่ายรูปที่ไร่สตรอเบอร์รี่ .. ถ้ายังไง .. ไปด้วยกันมั้ย ?” เป็นคำเชิญชวนที่ไม่ได้มีเจตนาเคลือบแฝงใด ๆ ทั้งนั้น
อาจเป็นเพราะรอยยิ้มนั้น ?
อาจเป็นเพราะความสดใสของเธอ ?
ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุใด แต่ชเวมินโฮก็ยิ้มรับกลับไป “อื้ม .. เข้ามานั่งรอในบ้านก่อนก็แล้วกันนะ”
.
.
.
เพียะ .. !!!
“ผู้ชายอย่างนาย ไปตายเลยไป๊ !!”
ใบหน้าหวานของชายหนุ่มหันไปตามแรงตบอันรุนแรงของหญิงสาวที่กำลังร้องไห้น้ำตานองหน้า
เธอสาวเท้าเดินออกไปจากที่ตรงนั้น แม้จะเสียใจ .. แต่ก็ไม่เสียดายเลยที่เดินจากผู้ชายเลว ๆ พรรค์นี้มาได้
คนที่ทำเพื่อนเธอท้องแล้วไล่ให้ไปทำแท้งแบบนี้น่ะ ไม่สมควรที่จะเรียกว่า ‘ผู้ชาย’ เลยด้วยซ้ำ
เขาเป็นคนพรรค์ไหนกัน .. ถึงปล่อยให้อดีตคู่รักที่ทำแท้งต้องนอนเจ็บปวดอยู่คนเดียว เลวที่สุด !!
“อะไรวะ ? อยู่ ๆ ก็มาตบ” อีฮงกีบ่นอย่างหงุดหงิด จับแก้มเนียนที่บัดนี้เป็นรอยมือแดง ๆ อย่างเห็นได้ชัดเจน
คิดแล้วก็น่าแค้นใจจริง ๆ .. ที่เขาโดนตบมันไม่สมควรเลยนะ
แค่ที่เพื่อนของยัยนั่นปากสว่างไปบอกพ่อแม่เขา จนโดนไล่ออกจากบ้านมันก็ซวยพอแล้ว
“ก็นายมันไม่แมนไง” เด็กสาวร่างเล็กในชุดลายสตรอเบอร์รี่สีสันจี๊ดจ๊าดที่นั่งอย่างหมิ่นเหม่อยู่บนขอบน้ำพุย้อนเข้าให้อย่างคนหงุดหงิด
หงุดหงิด ? ใช่ .. เธอหงุดหงิดเพราะการได้รู้จักกับผู้ชายชั่ว ๆ อย่างฮงกี
และ หงุดหงิดเป็นที่สุดกับไอ้ชุดลายสตรอเบอร์รี่ที่อีตาดีไซน์เนอร์คิมคีย์บอมยัดเยียดให้เธอใส่เนี่ย !
ชุดบ้าอะไร ทุเรศสิ้นดี .. ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ หมู่บ้านสตรอเบอร์รี่ แห่งนี้ .. ตาบ้านี่ก็ออกแบบแต่ชุดลายสตรอเบอร์รี่ให้เธอใส่
ตอนนี้เธออย่างกับสตรอเบอร์รี่เดินได้ลูกยักษ์ก็ไม่ปาน
“ใครถามความเห็นเธอไม่ทราบ ?” ฮงกีนั่งลงข้าง ๆ คีย์ที่กำลังนั่งออกแบบเสื้อผ้าไปคนเดียวเงียบ ๆ
“อ้าว ! ก็นายถาม .. ฉันก็ตอบสิ ใครจะไปรู้ว่าไม่อยากได้คำตอบ” ซอนคูซึลยังคงย้อนกลับไปโดยไม่ได้เกรงกลัวผู้ชายคนนี้เลยแม้แต่น้อย
“ใจเย็น ๆ น่า” คีย์วางดินสอลงข้างตัวแล้วเอ่ยปากห้ามทัพ “มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจากันดีกว่านะ”
“ใครมันจะไปใจเย็นได้เหมือนนายล่ะ”
คูซึลอดที่จะแขวะคีย์ขึ้นมาไม่ได้
ให้ใจเย็นน่ะมันก็ได้อยู่หรอก .. แต่แบบคีย์นี่มันน่าจะเรียกว่า ‘ความรู้สึกช้า’ มากกว่านะ
“เซ็งหว่ะ ต่อไปฉันจะไม่นอนกับผู้หญิงงี่เง่าแบบนั้นอีกแล้ว .. โอ๊ย ~ แสบชะมัด”
ว่าพลางแตะแก้มข้างที่เป็นรอยแดงนั้นเบา ๆ ผู้หญิงผอมบางอย่างยัยนั่นมือหนักจริง ๆ เลยเถอะ ให้ตาย !
คูซึลเบ้ปากอย่างคนไม่ชอบใจ ในสถานการณ์อย่างนี้ .. แทนที่จะสำนึก
แต่ดันคิดถึงแต่เรื่อง นอน กับผู้หญิงนี่นะ ?
ที่โดนตบมันยังน้อยไปเลยด้วยซ้ำกับไอ้ผู้ชายหน้าภาชนะหุงต้มคนนี้ !
.
.
.
“ไม่นี่ .. ฉันไม่เจอโจยังเลย” คิมจงฮยอนกรอกเสียงลงไปตามสายพลางไขว้นิ้วอย่างคนโกหก
ก็ตอนนี้เขากำลังโกหก .. โกหกจริง ๆ นะ
ปลายสายของเขาก็คือซองอึน .. คิมซองอึน .. หญิงสาวสไตลิสต์ในวงการบันเทิงที่เขานั้นสนิทสนมด้วย
ผู้กำลังตามหาน้องสาว .. คิมโจยัง ที่ถูกจับหมั้นและหนีออกมาจากบ้านโดยไม่ได้บอกเล่าเก้าสิบให้ใครรู้เลยแม้แต่น้อย
แต่เขารู้ .. แหงล่ะ !
ก็โจยังหนีมาอยู่ที่หมู่บ้านเดียวกับเขาเลยนี่นา เห็นแก่น้องที่ต้องเจอชะตาชีวิตที่น่าสงสารหรอกนะ
เขาถึงไม่ยอมบอกซองอึนว่าเธออยู่ที่นี่น่ะ ไม่อย่างนั้นซองอึนต้องมาตามตัวกลับให้วุ่นแน่เลย แบบนั้นก็น่าสงสารโจยังแย่
( เหรอ ? ถ้ายังไงรู้ข่าวก็โทรบอกฉันด้วยนะ )
ซองอึนถอนหายใจออกมาเล็ก ๆ บอกลาจงฮยอนก่อนที่จะวางสายไป
ชายหนุ่มเก็บโทรศัพท์มือถือเครื่องสีเงินเล็กจิ๋วไว้ในกระเป๋ากางเกงตามเดิม แปดโมงกว่า ๆ แล้ว
ถ้าไม่รีบออกบ้านตอนนี้จะไปไม่ทันคิวถ่ายละครนะ .. คิดได้ดังนั้นก็ตะโกนเรียกตัวปัญหาที่มัวแต่ชักช้าอยู่ทันที
“อีแทมิน ออกมาได้แล้ว”
“เออ รู้แล้ว” หนุ่มน้อยเดินหน้าบึ้งออกมาจากบ้าน ช่างดูขัดกับใบหน้าน่ารักนั้นจริง ๆ เลย
“รีบไปเถอะนะ เดี๋ยวจะสาย” จงฮยอนยังคงระงับอารมณ์ไว้ได้เป็นอย่างดี
แม้คนตรงหน้าจะเด็กกว่าเขามากถึงห้าปี .. แต่เขาก็ชาชินเสียแล้วกับการที่เด็กคนนี้จะทำตัวไม่มีมารยาทแบบนี้
คนที่เป็นแค่ผู้จัดการส่วนตัวจน ๆ อย่างเขาจะบ่นอะไรได้ล่ะ .. ก็ทำได้แค่ก้มหน้ารับชะตากรรมเลวร้ายนี้เท่านั้นแหละ
“พูดมากอยู่ได้” แม้แทมินจะบ่นกระปอดกระแปด แต่ก็เดินตามจงฮยอนไปขึ้นรถตู้ที่จอดอยู่ในโรงจอดรถแต่โดยดี
.
.
.
“อากาศดีเนาะ” เสียงนุ่ม ๆ ของอีแจจินที่เอ่ยปากพูดขึ้นทำให้เด็กสาวที่วิ่งจ๊อกกิ้งอยู่ข้าง ๆ เคลิ้มไปได้หลายวินาที
“อื้ม .. อากาศดี๊ ~ ดี ปกติฉันก็ชอบออกมาวิ่งตอนเช้า ๆ แบบนี้ล่ะ”
เสียงหวานเออออเห็นด้วยกับคำพูดของผู้ชายรูปหล่อข้าง ๆ แถมยัง .. สร้างเรื่องเพิ่มขึ้นไปอีกนิดหน่อยด้วยล่ะ
ในความเป็นจริง .. ยัยคิมจูฮยอนจะนอนหลับจนถึงเที่ยง ๆ บ่าย ๆ โน่นล่ะ ถ้าไม่ใช่เรื่องงานเธอจะไม่ยอมลุกเลยด้วยซ้ำไป
และตอนนี้ .. ถ้าไม่ใช่เพราะคนข้าง ๆ .. ไม่มีทางที่จูฮยอนจะลุกออกจากเตียงในเวลาเช้าที่อากาศแสนจะน่านอนแบบนี้หรอก
“เหรอ ? เหมือนกันเลย” แจจินส่งยิ้มไปให้กับจูฮยอน “งั้นคราวหน้าเรามาวิ่งด้วยกันบ่อย ๆ นะ”
จูฮยอนพยักหน้าแรง ๆ อย่างดีอกดีใจ “เอาสิ เรามาวิ่งด้วยกันบ่อย ๆ เลย”
กับนักร้องโนเนมอย่างอีแจจินคนนี้แล้ว .. ไม่ว่าอะไรเธอก็ทำได้ จริง ๆ นะ .. ก็เธอชอบเขานี่นา !
“นั่น ..”
พูดได้แค่นั้นแล้วเสียงของควอนซองชิลก็เงียบหายไปกับสายลม .. ทำให้พยองยอลซเวที่กำลังล็อกบ้านต้องหันไปมองทันที
“ออนนี .. มีอะไรคะ ?” ยอลซเวร้องถามอย่างแปลกใจ มองไปก็ไม่เห็นอะไรนอกจากคนมาวิ่งจ๊อกกิ้งยามเช้า
“นั่นอีแจจิน” ว่าพลางชี้มือเรียวไปยังผู้ชายที่วิ่งจ๊อกกิ้งเคียงข้างเด็กสาวผมยาวที่เป็นนางแบบนิตยสารวัยรุ่นชื่อดัง
นางแบบวัยรุ่นกับนักร้องไอด้อล .. ว้าว ๆ ~ นี่ถ้าปาปารัซซี่มาเห็นต้องเป็นข่าวแน่ ๆ เลยสินะ
หรือว่าเธอจะแอบถ่ายรูปไปขายให้กับนิตยสารกอซซิปอะไรทำนองนั้นดีนะ ? อืม .. ไม่เอาดีกว่า ยอลซเวไม่อยากทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อน
“อ้อ อื้ม .. แจจินโอป้าของออนนี” น้องสาวแกล้งแหย่ ทำให้หญิงสาวเขินอายหน้าแดงขึ้นมา
“บ้า ! ของพี่ที่ไหนกันล่ะ .. ดูนั่น เขามากับคิมจูฮยอนนะ”
“ก็ไม่ใช่ว่าเขาเป็นแฟนกันสักหน่อยนี่คะ ซองชิลออนนีสวยกว่าตั้งเยอะ”
ยอลซเวหยอดเข้าให้อย่างเข้าข้างผู้ที่เปรียบได้กับพี่สาวตัวเองคนนี้ .. แต่เธอก็ว่าออนนีคนนี้สวยกว่าจริง ๆ นะ
อย่างผู้หญิงคนนั้น .. คิมจูฮยอนก็น่ารักดีอยู่หรอก แต่ชอบทำตัวกระแดะเวลาอยู่ต่อหน้าแจจินยังไงก็ไม่รู้ เธอสังเกตนะ !
“จะไปไร่สตรอเบอร์รี่กันหรือเปล่าคะ ?”
เสียงหวานใสทำให้หญิงสาวทั้งสองที่กำลังมองตามคนวิ่งยามเช้าต้องละสายตามามองเธอแทน
“จ้ะ มีโซจะไปด้วยกันมั้ย ?” ซองชิลเอ่ยปากชวนเธอไปด้วยทันที
เธอรู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวน่ารักคนนี้ .. ทั้งเรียบร้อย น่ารัก แถมยังอ่อนหวานสมเป็นกุลสตรีเป็นที่สุด
ช่างเหมาะสมกับโอวอนบิน .. ลูกพี่ลูกน้องของเธอเสียจริง ๆ เลย แต่นายวอนบินนี่สิ จะชอบมั้ยนะ ?
“ไปค่ะ” หญิงสาวยิ้มรับอย่างเบิกบาน
แผนของเธอสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้วล่ะ .. ก็แผนตีซี้เพื่อนสนิทและลูกพี่ลูกน้องของวอนบินไง
ถ้าทำแบบนี้แล้ว เขาก็จะต้องหันมาสนใจเธอบ้างไม่มากก็น้อยแหละ อุตส่าห์ยิ้มให้ตั้งแต่วันแรกที่เขาย้ายเข้ามา
แต่ดันไม่ได้รับการสนใจ ผู้หญิงน่ารักอย่างเธอก็เสียเซลฟ์เป็นนะ !
.
.
.
“ออนนี .. อยากกินสตรอเบอร์รี่”
เสียงโอดครวญจากหญิงสาวที่เพิ่งลุกมาจากเตียงในสภาพผมยุ่งแต่สุดแสนจะเซ็กซี่ ( ? )
เรียกความสนใจจากหญิงสาวอีกคนที่กำลังนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ให้หันมาสนใจเธอได้
เว็บเพจที่สุดแสนจะคุ้นตา .. วันนี้ออนนีก็เข้าดูเสื้อผ้าแบรนด์ kQ2 อีกแล้วเหรอ ? ดูได้ทุกวันเลยน่ะ
“ยังมีเหลือในตู้เย็นอยู่มั้ง ลองไปดูสิ”
รยูจางมีว่า มองตามน้องสาวต่างพ่อคนนี้แล้วก็อดที่จะนึกขำกับสภาพหลังตื่นนอนของเธอไม่ได้
“มีนิดเดียวเอง”
คิมซองซูเดินไปเปิดตู้เย็นสีเทาเล็กนั่นแล้วก็ต้องบ่นออกมาอีกครั้งหนึ่ง
สตรอเบอร์รี่แช่เย็นในตู้เย็นมี่แค่ไม่กี่สิบลูกเอง เธอเสพติดสตรอเบอร์รี่เป็นอาหารหลักเลยนะ
เพราะฉะนั้น .. แค่นี้สำหรับซองซูแล้ว .. มันไม่พอหรอก
“งั้นก็ออกไปซื้อที่ไร่สิ” จางมีเสนอความเห็นพลางคลิกเมาส์เลื่อนดูเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ในเว็บไปมา
“ก็ฉันอยากกินเย็น ๆ นี่คะ .. ซื้อมาแล้วก็ต้องแช่ กว่าจะเย็น”
“งั้นพี่ไม่รู้แล้วล่ะ ก็แล้วแต่เธอละกัน”
ซองซูยืนมองสตรอเบอร์รี่ในตู้เย็นอย่างนั้น .. น่าเศร้าใจจัง เธอจะเอายังไงดีนะ ?
“ฉันกินแค่นี้ก่อนก็ได้ .. แล้วตอนเที่ยง ๆ เราออกไปซื้อสตรอเบอร์รี่ที่ไร่กันนะออนนี”
“ได้เลย”
ซองซูหยิบจานใส่สตรอเบอร์รี่ออกมานั่งกินบนโต๊ะอย่างช้า ๆ .. จะกินไว ๆ ได้ไงล่ะ เดี๋ยวก็หมดพอดี
อืม ~ ไม่ว่ายังไงเธอก็ชอบกินสตรอเบอร์รี่จริง ๆ นะ ได้ย้ายมาอยู่ในที่ที่มีไร่สตรอเบอร์รี่แบบนี้ สวรรค์ !
“ซองซู .. เดี๋ยวพี่ออกไปข้างนอกแป๊ปนึงนะ”
“ออนนีจะไปไหน ?”
“พี่จะไปซื้อเสื้อผ้ากับเจ้าของแบรนด์เขาหน่อยนะ สนใจตัวไหนมั้ยล่ะ ?”
ซองซูสั่นหัว “ตอนนี้ยังไม่อ่ะค่ะ ออนนีไปเถอะ”
จางมีเดินขึ้นไปหยิบกระเป๋าสตางค์ในห้องนอนตัวเองก่อนจะออกจากบ้านไป
นอกจากจะได้อยู่กับไร่สตรอเบอร์รี่ที่เป็นสวรรค์แบบนี้แล้ว ยังได้อยู่ใกล้เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังอีก
เวลาสั่งซื้อสินค้าก็ไม่ต้องเสียค่าขนส่ง .. แถมยังได้เห็นสินค้าจริง ๆ อีกต่างหาก โชคดีจริง ๆ เลยสิน่า
คิดได้แล้วก็กัดสตรอเบอร์รี่เข้าปากไปอย่างสุขใจ .. หวานชุ่มฉ่ำจริง ๆ เลย ♥
.
.
.
ไร่สตรอเบอร์รี่แม้จะไม่ได้กว้างขวางสุดลูกหูลูกตาอย่างไร่ทั่ว ๆ ไป เพราะอาณาบริเวณมีจำกัด
แต่ก็เป็นไร่เล็ก ๆ ที่อบอุ่นและละลานตาไปด้วยสีแดงสดของลูกสตรอเบอร์รี่และสีเขียวขจีสวยงามของดอกใบ
เป็นภาพที่ทำให้หมู่บ้านจัดสรรเล็ก ๆ นี้ .. สวยงามและมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้จริง ๆ
“คุณหัวหน้าคะ หนอนค่ะหนอน”
หญิงสาวกวักมือเรียกหัวหน้าคนงานในไร่ที่กำลังเดินดูความเป็นไปของผลผลิตอย่างตื่นเต้น
นั่นทำให้ชเวจงฮุน .. ต้องรีบวิ่งเข้าไปหาคิมโจยังทันที ก็คิดว่าเธอจะกลัวหนอนน่ะสิ แต่ที่ไหนได้ ..
“ดูสิคะ น่ารักจังเลย” พลางใช้มือเขี่ยเจ้าหนอนตัวกลมดุ๊กดิ๊กที่อยู่บนใบไม้ไปมา
“น่ารักเหรอ ?” จงฮุนถามอย่างสงสัย มองเจ้าหนอนที่โจยังกำลังเขี่ยเล่นสลับกับมองหน้าเธอ
หญิงสาวพยักหน้า “ค่ะ .. ดูสิคะ มันน่ารักนุ่มนิ่มดีออกจะตาย”
ไม่อยากจะเห็นด้วยกับความคิดของผู้หญิงคนนี้หรอกนะ .. จงฮุนไม่ได้กลัวหนอน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันน่ารัก
ที่แน่ ๆ คือเขาไม่คาดคิดว่าผู้หญิงที่เป็นคุณหนูอย่างโจยังจะชอบเจ้าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้น่ะสิ .. มันไม่เข้ากันเลยนะ !
“สองคนนั้นน่ะ ทำงานกันสิคร้าบบ”
ดูท่าว่าวอนบินจะอิจฉาหรือเปล่านะ .. ก็แค่ยืนดูเจ้าหนอนน้อยด้วยกัน ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย
“ไปขัดจังหวะคนอื่นเขาแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน ห๊า !”
ยอลซเวเดินเข้ามากอดคอเพื่อนซี้จากทางด้านหลัง แล้วยังไม่วายตบหัวเพื่อนไปอีกหนึ่งที
เป็นผู้หญิงที่ไม่สมกับเป็นผู้หญิงเลยจริง ๆ ก็แหม .. วอนบินเป็นเพื่อนสนิทสุด ๆ ของเธอนี่นา
“วอนบินโอป้า .. สวัสดีค่ะ” มีโซได้ทีรีบเอ่ยทักทายชายหนุ่มทันที หากแต่เขาเพียงแค่พยักหน้ารับเท่านั้น
ไร้ซึ่งปฏิกิริยาตอบรับอย่างเป็นมิตรใด ๆ เล่นเอามีโซยิ้มเก้อไปเลยทันที
“นี่ .. เธอมาทำไมกันเนี่ยยอลซเว .. เธอก็เหมือนกันซองชิล เกะกะ !”
คำบ่นจากปากของชายหนุ่มทำให้สองสาวที่ถูกเอ่ยนามถึงกับเบะปากอย่างขัดใจ
แหม ~ ไร่นี้เป็นของนายคนเดียวหรือยังไงกัน ? พวกเธอก็ไม่ได้มาเกะกะการทำงานอะไรสักหน่อย
ขนาดชเวจงฮุนที่เป็นหัวหน้าคนงานยังไม่ว่าสักนิดเลยนะ ขี้บ่นจริง ๆ เลยเชียว !
“ไม่เป็นไรหรอก คนเยอะ ๆ น่ะสนุกดี” จงฮุนตะโกนมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำเอาสาว ๆ เคลิ้มไปได้
“แล้วซึงฮยอนล่ะคะ โอป้า .. ซึงฮยอนอยู่ไหน ?” ยอลซเวร้องถามถึงลูกจ้างในไร่อีกคน
พอพูดถึงซงซึงฮยอนปุ๊บทุกสายตาต่างก็เหลียวมองไปรอบ ๆ ทันที
ไม่มี .. ไม่อยู่อีกแล้ว ซึงฮยอนต้องอู้งานอีกแล้วแน่ ๆ เลยใช่มั้ยเนี่ย ?
“งั้นเดี๋ยวฉันไปตามหาให้เองค่ะ คงจะหนีไปเล่นกีตาร์อีกแล้วนั่นแหละ”
แล้วยอลซเวก็เดินดุ่มออกไปจากไร่สตรอเบอร์รี่ทันที .. แต่ก็ไม่ลืมที่จะเด็ดผลสตรอเบอร์รี่ติดไม้ติดมือไปด้วยสองสามลูก
แค่นี้คงไม่เสียหายอะไรมากมายหรอกใช่มั้ย ? แค่สองสามลูกเองนะ ( แต่ถ้าทำทุกวันมันก็เป็นร้อย ๆ ลูกเลยนะ ! )
ร่างเล็กเดินดุ่มไปเรื่อย ๆ อย่างไม่ได้ใส่ใจกับเป้าหมายมากนัก เธอกัดสตรอเบอร์รี่เข้าปากไปพลางฮัมเพลงไปพลางอย่างคนอารมณ์ดี
“มาขโมยสตรอเบอร์รี่ในไร่เจ๊ไปกินอีกแล้วเหรอ .. ยอลซเว ?”
“ไม่ได้ขโมยนะ แค่หยิบมาเฉย ๆ” เจ้าตัวรีบหาข้ออ้างแถไปเรื่อย ๆ ทันที
ซึงฮยอนแค่นเสียงหัวเราะในลำคออย่างดูถูกนิด ๆ .. ยัยคนนี้ก็ชอบมาขโมยสตรอเบอร์รี่ในไร่เจ๊ยอลจองจริงๆ เลย
แต่ช่างมันเถอะ เขาไม่สนใจอยู่แล้ว .. ก็ดีเหมือนกัน ถือว่าเป็นการแก้แค้นที่ยอลจองบังคับให้เขามาทำงานที่นี่ก็แล้วกันนะ !
“โดดมาเล่นกีตาร์อีกแล้วเหรอ ?”
ยอลซเวนั่งลงไปข้าง ๆ ซึงฮยอนที่นั่งพิงต้นไม้ใหญ่พร้อมกับกีตาร์ที่วางอยู่ข้าง ๆ ตัว
“ในไร่คนก็เยอะแล้ว .. ไม่เห็นจะมีงานอะไรให้ทำเลย น่าเบื่อ” บ่นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
ยอลซเวหัวเราะออกมาเบา ๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก .. ลองซึงฮยอนบ่นให้เธอฟังอย่างนี้ก็แปลว่าเขาอารมณ์ดีนะ
จะว่ายอลซเวเป็นคนเดียวที่ซึงฮยอนกล้าพูดกล้าบ่นให้ฟังก็คงไม่ผิดนัก เพราะอะไรน่ะเหรอ ? ไม่รู้สิ
อาจเพราะว่ายอลซเวเป็นพวกเซ้าซี้มั้ง .. ก็เธอเล่นตื๊อจะคุยกับเขาตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้าเลยนี่นา
“ฉันอยากฟังเพลงของแจจินโอป้านะ” ยอลซเวร้องขอเพลงจากซึงฮยอนที่เอื้อมมือไปหยิบกีตาร์มา
“อยากฟังก็ไปขอฮยองเองสิ” ซึงฮยอนบ่นอย่างหงุดหงิด แล้วเริ่มต้นดีดกีตาร์เป็นทำนองเพลงอื่นแทน
“ใจร้าย !”
.
.
.
ฮันยอลจองเดินถือถ้วยใส่กาแฟและชานมสีขาวขุ่นที่มีควันพวยพุ่งและส่งกลิ่นหอมเตะจมูกออกมาวางบนม้านั่งริมระเบียง
ชายหนุ่มที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์หน้าเศรษฐกิจพับหนังสือพิมพ์เก็บทันทีเมื่อผู้เป็นภรรยาเดินออกมา
“จะเอาเค้กสตรอเบอร์รี่ด้วยมั้ยคะ ?” ยอลจองถามคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มสดใส
“กินแต่สตรอเบอร์รี่ ไม่เบื่อเหรอ ?” อีจินกีถามพลางยกกาแฟร้อน ๆ ขึ้นมาจิบ
“ก็มันอร่อยออกจะตายนี่คะ .. แล้วตกลงจินกีจะกินมั้ยคะ ?”
ชายหนุ่มสั่นหัว เขาไม่อยากกินสตรอเบอร์รี่กับกาแฟหรอกนะ มันแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้
ยิ่งมองออกไปเห็นไร่สตรอเบอร์รี่สีแดงสดนั่นยิ่งอยากจะอ้วก ถ้าไม่ใช่เพราะภรรยาสุดที่รักเป็นคนขอมานะ
อย่าหวังว่าเขาจะยอมให้ใครมาสร้างไร่สตรอเบอร์รี่ในหมู่บ้านจัดสรรสุดหรูของเขาหรอก !
หญิงสาวเดินกลับเข้าไปในบ้านอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะออกมาในอีกไม่กี่นาทีพร้อมกับเค้กสตรอเบอร์รี่ชิ้นเล็กในมือ
นั่นทำให้จินกีต้องรีบเบือนหน้าหนีทันที .. พักนี้ไม่รู้เป็นอะไร เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับสตรอเบอร์รี่เลยจริง ๆ นะ
“เราเปิดไร่สตรอเบอร์รี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวดีมั้ยคะ ?”
อยู่ ๆ ยอลจองก็เสนอความคิดเห็นขึ้นเมื่อเธอมองออกไปเห็นไร่สตรอเบอร์รี่ของตัวเอง
“อย่าเลยยอลจอง เดี๋ยวคนมากันเยอะแล้วเราจะลำบากเปล่า ๆ”
แต่ในใจของจินกีน่ะคิดว่า .. เดี๋ยวพวกผู้ชายมันจะแห่กันมายุ่งกับฮันยอลจองที่รักของเขาน่ะสิ !
“ก็ได้ค่ะ ๆ .. แต่อืม ~ วันนี้อากาศดี .. ออกไปเดินเล่นที่ไร่สตรอเบอร์รี่กันมั้ยคะ ?”
“แล้วแต่ยอลจองเถอะนะ”
แล้ววันนี้ .. เขาก็หนีสตรอเบอร์รี่ไปไม่พ้นจริง ๆ .. อีจินกี !
TBC *
กว่าจะได้ฤกษ์เข็นบทนำมาลง .. ไม่รู้ทุกคนจะลืมไร่สตรอเบอร์รี่นี้ไปแล้วหรือยัง ?
บทของบางคนอาจถูกเปลี่ยนแปลง ก็ .. ขอให้ยอมรับมันด้วยนะคะ ( หัวเราะกลบเกลื่อน * )
เรื่องนี้แต่งไปต้องยอมรับเลยว่าคนแต่งรู้สึกสนุกมาก จริง ๆ น้ะ ! จำคาแรคได้หมดแล้วด้วยล่ะ !!
ตัวละครออกมาครบแล้วจริง ๆ นะ .. ขาดคุณพี่ซองอึนที่มาแค่เสียง -0-
แต่ตอนหน้านี่คงไม่ได้ออกกันทุกคนแบบนี้แล้วล่ะ เอาน่า ๆ อ่านไปชิว ๆ ค่ะ ~
รอตอนที่ 1 อย่าจดจ่อมากนะคะ
เพราะมันจะอยู่ที่อารมณ์คนแต่ง .. ตอนนี้กำลังหาที่เรียนด้วยเนี่ย ฮ่า ๆๆ !!
แต่จะพยายามหาเวลาว่างมาแต่งให้มากที่สุดค่ะ รักฟิคเรื่องนี้จริง ๆ น้ะ ไม่ทิ้งแน่นอน *
ว่าแต่ .. ยูอยากทำคาแรคกับภาพเรื่องนี้ใหม่จังเลย T^T’
มีใครว่างจะทำให้ยูบ้างมั้ยอ่ะ ไม่มีค่าตอบแทนนอกจากคำขอบคุณ
โบนัสอ่ะ ฮ่า ๆๆ . ชอบที่โบนัสทำจริง ๆ น้ะ ( อ้อนวอน * )
ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ ไม่ต้องเม้นยาวกันมากก็ได้
แค่รู้ว่ามีคนอ่านก็จะขอบคุณมาก ๆ แล้ว . รักคนอ่านจริงจังเลยน้ะ ♥
Sei ryo+.+
ความคิดเห็น