ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    All About Short Fictions [Fic: Wonder Girl-Yuri-MinAhn]

    ลำดับตอนที่ #4 : Just Pretend: Act 4

    • อัปเดตล่าสุด 13 ส.ค. 52


    />

    Act 4: Beyond Acting



    มินซอนเยกำลังกังวลอย่างหนัก....


    สาวหน้าหวานขยับตัวอย่างยากลำบากบนโซฟาระหว่างที่กำลังรอปาร์คเยอึน และอานโซฮีเพื่อที่จะไปงานปาร์ตี้ Victory Celebration ในคืนนี้

    ใน คืนนี้คงเป็นการทดสอบการแสดงของเธอและอานโซฮีอย่างแท้จริง หลังจากเมื่อคราวที่แล้วที่พวกเธอได้เปิดตัวว่าเป็นแฟนกัน ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะง่ายไปเสียหมด... แต่ตอนนี้มันไม่ได้ง่ายอย่างที่เธอคิดไว้เสียแล้ว ในเมื่อหนังสือพิมพ์บันเทิงแทบทุกฉบับได้ลงข่าวเรื่องที่เธอได้ยืนยันความ สัมพันธ์ของเธอกับอานโซฮี--เธอรู้ว่าทุกสายต้องจับจ้องมาที่พวกเธอ... จ้องมองและรอคอยที่จะหาหลักฐานมายืนยันว่าเธอและหญิงสาวแก้มป้องนั้นเป็น มากกว่าพี่น้อง...


    แล้วสิ่งนี้มันก็ทำให้เธอเริ่มที่จะกังวลและ คิดหนัก ถึงแม้ว่าดูสาวหน้ากลมไม่ได้มีท่าทีเครียดอะไรกับเรื่องนี้แต่ว่าเธอก็อดที่ จะไม่มั่นใจไม่ได้ว่าเธอนั้นจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่าอานโซฮีเป็นคนที่เธอนั้น สนใจแบบนั้นได้มั้ย?


    เธอพยายามนึกถึงหญิงสาวที่เธอเคยควงด้วย เธอยังคงจำได้ว่าเธอคนนั้นดูดีและน่ารักถึงเพียงใด เธอยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้อย่างดี ยังจำได้ว่าเธอมองหญิงสาวคนนั้นอย่างไร ยังจำได้ว่าเธออยากจะกอดคนๆนั้นถึงขนาดไหน...


    แล้วเธอจะรู้สึก กับอานโซฮีแบบนั้นได้ยังไงเธอรู้ว่าสาวหน้ากลมนั้นน่ารักมากกว่าใครๆที่เธอเคยรู้จัก แต่คำว่าพี่น้องก็ยังคงทำให้เธอรู้สึกแย่อยู่
    แล้วเธอจะทำอย่างนั้นได้ จริงๆหรือเนี้ยเหมือนกับว่าเธอกำลังเล่นตลกโชว์อยู่อย่างไงอย่างงั้น? คิ้วโค้งมนขมวดแน่นจนแทบจะเป็นเส้นเดียวกัน
    ขอบคุณ พระเจ้า... ถ้าเธอรู้ว่าสิ่งนี้มันกำลังทำให้เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนขนาดนี้ เธอน่าจะยกเลิกแผนการทั้งหมดไป เพราะว่าเธอเริ่มไม่มั่นใจว่าเธอจะแสดงได้ดีสักเท่าไหร่นัก...


    เสร็จแล้วเหรอไอ้ตัวสร้างแต่ปัญหา

    ใบหน้าเรียวหวานหันไปมองปาร์คเยอึนที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องของเธอ
     “แกน่าจะเคาะประตูซะบ้างนะ มารยาทนะ รู้จักบ้างมั้ย?”


    สาวร่างสูงยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจในคำพูดของอีกฝ่ายเท่าใดนัก โซฮียังไม่เสร็จเหรอ?”
    ยังไม่เห็นมาเลย...คนผมสั้นเอ่ยขึ้นเบาๆ


    ก่อนที่มินซอนเยจะได้พูดอะไรอีก เธอก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาเบาๆ คนผมสั้นหันไปตามเสียง--แล้วเธอก็แทบจะหยุดหายใจ
    ตาคมสวยเบิกกว้างเมื่อได้เห็นคนตรงหน้า ก่อนที่เธอจะรู้สึกว่าหัวใจเธอได้หล่นวูบลงไปกองกับพื้นที่ๆเธอแน่ใจว่าเธออ้าปากไปถึง... 
    คนผมสั้นกระพริบตาไปมาอย่างไม่อยากเชื่อ

    โอ้ย ให้ตายเถอะนี่ใช่อานโซฮีจริงๆเหรอ?



    สาวหน้าเรียวสวยไม่สามารถรับรู้อะไรได้ต่อไปเธอยังคงไม่อยากจะเชื่อจะเห็นสาวแก้มป่อง--ในมุมแบบนี้-- อานโซฮีในแบบที่เธอไม่คิดว่าเธอจะได้เห็น เธอเคยเห็นเวลาที่สาวหน้ากลมตื่นเต้นหรือไม่ก็ยิ้ม แน่ละว่าเธอรู้ว่าหญิงสาวนั้นดูสวยน่ารัก เพียงแต่เธอไม่เคยเห็นอีกฝ่ายในแบบนี้...


    ว้าว... โซฮี เธอดูดีมากๆเลยล่ะคนผมสั้นได้ยินปาร์คเยอึนเอ่ยชม


    ดูดี?! มิ นซอนเยอดที่จะคิดไม่ได้ว่าสายตาของปาร์คเยอึนนั้นผิดปกติดีหรือเปล่า  แค่คำว่าดูดีมันไม่เพียงพอสำหรับสาวหน้ากลมที่ได้ยืนอยู่ต่อหน้าเธอในตอนนี้ หรอก...


    คนผมสั้นไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าอะไรที่ทำให้สาวแก้มป่องดู แตกต่างออกไปจากทุกๆวันที่เคยเห็น เธอไม่เคยคิดว่าเพียงแค่สายตาของอานโซฮีที่มองมาที่เธอนั้นจะทำให้เธอนั้น แทบหยุดหายใจ....


    ทรงผมของหญิงสาวที่ดูต่างไปจากที่เคยเป็น บัดนี้ได้สยายเป็นลอนสวยประลำคอของเธอซึ่งทำให้ลำคอนั้นดูขาวนวลมากขึ้นกว่า เดิม ชุดที่เธอใส่เป็นเพียงแค่เสื้อคลุมยาวสีน้ำเงินเข้มตัดกับผิวขาว ทำให้ดูมีเสน่ห์อย่างเหลือล้น... แม้ว่าจะเป็นการแต่งตัวสไตล์ธรรมดาที่สาวแก้มป่องชอบ
    แต่วันนี้เธอก็ดูแปลกไปอยู่ดี....


    มินซอนเยหลับตานิ่งเมื่อความรู้สึกแปลกประหลาดได้โจมตีเข้ามาหาเธออย่างรุนแรง
    นี่คืออานโซฮี ให้ตายสิ แกกำลังคิดอะไรอยู่!


    โซฮี...ในที่สุดสาวผมสั้นก็หาเสียงของตัวเองพบ เธอรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เสียงของตัวเองนั้นแหบพร่า
    เธอดู....สวยเหลือเกิน สาว หน้าหวานขมวดคิ้วเมื่อความคิดหนึ่งแทรกเข้ามาในสมอง หากเธอยังคงนิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกไป ซึ่งมันก็ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก   “เธอดูน่ารักมากๆเลย

    ขอบคุณค่ะพี่ซอนเยสาวแก้มป่องยิ้มบางๆให้คนผมสั้น


    มิ นซอนเยกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากก่อนที่เธอจะตัดสินใจเบือนหน้าไปทางอื่นแทน โชคดีที่เธอนั้นไม่ได้แสดงออกท่าทีอะไรออกไปมากนัก หากเธอกำลังพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่นึกถึงว่าหญิงสาวหน้ากลมที่ยืนอยู่ ข้างๆเธอนั้นดูดีถึงเพียงไหน เธอพยายามที่จะไม่นึกถึงริมฝีปากอวบอิ่มที่น่าจูบนั่น...


    เธอ ปาร์คเยอึนแล้วก็อานโซฮี ได้เดินเข้าไปในผับหรู  แม้ว่าทุกๆคนนั้นจะไม่ได้เอ่ยอะไรแต่เธอก็ยังคงรู้สึกถึงสายตาที่กำลังจ้อง มองมาอยู่ดี แล้วสาวแก้มป่องก็กระซิบขอเธอไปหาอะไรดื่มเล็กน้อย ก่อนที่คนผมสั้นจะพูดอะไร ร่างบางๆก็เดินไปแล้ว


    แล้ววันนี้ดูอาน โซฮีดูสดใสร่าเริงมากกว่าที่เธอเคยเห็น แววตาของสาวแก้มป่องแวววาว วันนี้สาวหน้ากลมดูสวยน่ารักอย่างไร้ที่ติ  นี่เป็นสิ่งที่คนผมสั้นหยุดคิดไม่ได้เลย แล้วสิ่งนี้ก็คือปัญหาที่แท้จริงของเธอ....


    แล้วสาวใบหน้าเรียวสวยต้องทำหน้านิ่วอย่างไม่พอใจนักเมื่อเห็น คิมจุนซู นักแสดงที่เธอพอจะรู้ว่ามีชื่อเสียงในด้านลบเท่าใด
    ไอ้บ้านั่น... มินซอนเยมองอย่างไม่พอใจนักเมื่อดูชายหนุ่มผู้นั้นแสดงท่าทางออกมาอย่าง โจ่งแจ้งว่าชอบสาวหน้ากลมถึงเพียงไหน เธอดูออกได้จากแววตา และมือของไอ้บ้านั่นที่กำลังเอื้อมมือไปจับมือของหญิงสาวหน้ากลม

    นี่โซฮีคงไม่ได้ชอบไอ้หมอนั้น.....ใช่มั้ย?


    เธอไม่ได้ใส่ใจด้วยซ้ำว่ามีใครบางคนได้เดินเข้ามาหาเธอก่อนที่เธอจะรู้สึกถึงมือของใครบางคนที่กำลังเกี่ยวแขนของเธอไว้....
    มินซอนเยหันหน้าไปมองคนๆนั้น ก่อนที่จะแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนที่เดินมาหาเธอนั้นเป็นแฟนเก่าของเธอเอง....


    เอ่อ...สวัสดี ฮวายอน
    หญิงสาวยิ้มบางๆ นี่แค่ทักทายเหรอ? จะไม่จูบฉันหน่อยเหรอ?”


    มิ นซอนเยนิ่งงันไปเมื่อได้ยินที่อีกฝ่ายพูด ดูเหมือนว่าคนรักเก่าของเธอยังคงพยายามทำทุกวิธีทางที่จะทำให้ทุกอย่างกลับ มาเป็นเหมือนเดิม แม้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอได้จบลงไปตั้งนานแล้ว คนผมสั้นเหลือบไปจ้องมองอานโซฮีโดยอัตโนมัติเพื่อที่จะขอความช่วยเหลือ หากสาวหน้ากลมยังคงยืนคุยกับคิมจุนซูอยู่.... สาวหน้าเรียวหวานพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา


    บอกความจริงฉันมาเถอะเธอได้ยินเสียงของฮวายอนพูดออกมาเบาๆ เธอเขยิบเข้ามาใกล้เกินความจำเป็นจนเธอรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆของอีกฝ่าย
    คนผมสั้นค้นพบว่าตัวเองได้ผงะถอยออกไป หากเธออกคิดไม่ได้ว่าเธอจะหลบหนีมั้ย? หากว่าอีกฝ่ายเป็นสาวแก้มป่อง....

    ความจริง?  ใบหน้าเรียวสวยขมวดเข้าหากันด้วยความมึนงง
    เธอกำลังพูดเรื่องอะไนน่ะ?”


    ก็เรื่องของเธอกับโซฮีไง แม้ว่าทุกๆคนจะคิดจริงๆว่าพวกเธอนั้นคบกันจริงๆแต่ว่าฉันรู้ว่ามันไม่ใช่ความจริงใช่มั้ยล่ะ?
    บางทีมันอาจจะเป็นแผนของเธอสองคนที่จะกั้นตัวเธอออกจากบรรดาแฟนคลับของเธอก็ได้สาวผมแดงเพลิงสันนิษฐาน
    ให้ตายสิ ซอนเย เรื่องแค่นี้เธอน่าจะบอกฉันนะ


    มินซอนเยนิ่งเงียบไป เธออดที่จะแปลกใจไม่ได้เมื่ออีกฝ่ายนั้นเดาได้ถูกกับเหตุผลที่เธอทำแบบนี้...

    ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดเรื่องอะไรคนผมสั้นเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นๆ เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะควบคุมอารมณ์

    ไม่ เอาน่า ซอนเย เธอไม่ไว้ใจฉันเหรอ? ฉันรู้ดีว่าเธอไม่ได้ชอบโซฮีจริงๆหรอก ฉันหมายถึงว่า โซฮีก็เป็นคนดีนะ แต่ว่าเธอน่ะ.... เธอก็รู้นี่ เธอจะชอบยัยเด็กนั่นได้ยังไง? ดูยัยนั่นออกจะ.....จืดชืด น่าเบื่อยังไงก็ไม่รู้


    สาวใบหน้าหวานนิ่งเงียบเมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูดออกมา เธอแทบไม่อยากจะเชื่อว่าคำพูดเหล่านั้นออกมาจากปากของคนที่เธอเคยรัก!

    คน ผมสั้นจ้องมองอีกฝ่ายนิ่งราวกับว่าไม่เคยมองอีกฝ่ายในด้านนี้มาก่อน แล้วเธอก็รู้ว่าเธอนั้นงี่เง่าขนาดไหนที่เคยคบกับผู้หญิงคนนี้...

    สาวใบหน้าเรียวสวยสะบัดแขนให้ออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย ฉันว่าเธอน่ะเข้าใจผิดแล้วล่ะเธอเอ่ยออกมาเสียงแข็ง
    โซฮีเป็นคนที่น่ารักที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาแล้ว เค้าก็เป็นคนเดียวที่ไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกเบื่อเวลาที่ฉันอยู่กับเค้า


    คนผมสั้นเห็นแววตาที่แสดงออกถึงความเจ็บปวดของอีกฝ่าย แต่ตอนนี้เธอไม่ใส่ใจอะไรทั้งนั้น
    ขอตัวนะ...สาวหน้าหวานบอกลาเพียงสั้นๆ ก่อนที่จะปล่อยให้ฮวายอนยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น...


    แล้วขาของมินซอนเยก็ก้าวยาวๆตรงเข้าไปหาสาวแก้มป่องที่ยังคุยอยู่กับชายหนุ่มคนนั้นอย่างควบคุมไม่อยู่ 
    คนผมสั้นค่อยๆเลื่อนมือเข้าไปโอบเอวบางๆของอานโซฮีก่อนที่จะดึงร่างบางเข้ามาใกล้ๆกับเธอเกินกว่าที่จำเป็น
    เพราะ เธอต้องการแสดงให้ฮวายอนเห็นว่าความจริงนั้นเป็นอย่างไร แล้วที่สำคัญเธอต้องแสดงละครให้คนอื่นๆเห็นว่าพวกเธอนั้นเป็นคู่รักกันจริงๆ
    เธอยิ้มบางๆให้กับคิมจุนซู
    สวัสดีค่ะ จุนซู  ไม่ได้เจอกันนานเลยนะค่ะ


    เอ่อ... อืม หวัดดีครับ ซอนเย ฉันแค่อยากจะถามเรื่องข่าวลือของพวกเธอนั้นแหล่ะ ไม่มีอะไรหรอกชายหนุ่มพูดอย่างอึกอักเมื่อเห็นสายตาคมสวยจ้องมองมาเมื่อเขาหันไปยิ้มบางๆ ให้อานโซฮี


    เรื่องจริงก็เหมือนกับที่เค้าได้ลือกันน่ะค่ะมินซอนเยตอบเย็นๆ คุณคงไม่ว่าอะไรใช่มั้ยถ้าฉันจะพาแฟนของฉันไปที่อื่นเราอยากจะคุยกันนิดหน่อยน่ะ


    โอ้... ไม่ๆ ไม่เป็นไร  ผมรู้สึกยินดีที่ได้คุยกับคุณนะครับ โซฮีชายหนุ่มผงกหน้าให้ทั้งสองก่อนที่จะเดินออกไปอย่างไม่เต็มใจนัก

    ขอบคุณมากๆเลยค่ะ พี่ซอนเยอานโซฮีเอ่ยออกมาเบาๆขณะที่พวกเธอกำลังเดินออกไป
    พี่รู้ได้ยังไงว่าฉันต้องการความช่วยเหลือน่ะ?”


    มินซอนเยยิ้มบางๆเมื่อได้ยินเช่นนั้นก่อนที่จะยักไหล่ แล้วไอ้หมอนั้นทำอะไรให้เธออึดอัดหรือเปล่า?”
     
    อาน โซฮีอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดกับหนุ่มคนนั้นอืม...พี่เค้าก็ดูน่ารักแล้วก็ดูเป็นมิตรดี แต่ว่าฉันไม่อยากจะเสียมารยาทปลีกตัวออกก่อนน่ะค่ะ
    หญิงสาวเอ่ยออกมา ที่จริงพี่ไม่มีอะไรจะพูดกับฉันใช่มั้ยค่ะ?”

    เอ่อ...อืมคนผมสั้นสารภาพ

    โอ้ย พี่ซอนเย....อานโซฮีมองอีกฝ่ายอย่างซึ้งใจ ฉันไม่รู้จะขอบคุณพี่ยังไงดี

    สาวใบหน้าเรียวสวยส่งยิ้มหวานให้อีกฝ่าย ได้เสมอเลย....

    พี่เริ่มรู้สึกอึดอัดแล้ว เธอจะว่าอะไรมั้ยถ้าเราจะออกไปยืนสูดอากาศตรงระเบียงหลังร้านน่ะ?”

    ไม่ค่ะ พี่พูดถูก ฉันเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออกแล้วล่ะ พวกเค้าเชิญแขกมาเยอะเกินไปหรือเปล่าเนี้ย?”

    ฉันเห็นพี่คุยอยู่กับพี่ฮวายอนด้วยแหล่ะเสียงใสๆเอ่ยขึ้นขณะที่เธอจับระเบียงหินอ่อน
    อ่อ...ใช่มินซอนเยตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก

    ดูวันนี้พี่เค้าสวยเป็นพิเศษเลยนะค่ะ พี่ว่ามั้ย?” สาวแก้มป่องถามยิ้มๆ
    โซฮีดูสวยกว่าอีกคนผมสั้นตอบแบบไม่ทันคิดก่อนที่เธอจะนิ่งค้างไป แต่ดูสาวแก้มป่องไม่ได้สังเกตอะไรเท่าใดนัก....

    พวกเค้าไปหมดแล้ว พี่ซอนเย ไม่ต้องเล่นละครแล้วล่ะ

    สาวหน้าหวานกำลังจะเอ่ยปากบอกว่าเธอหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ แต่เธอต้องหยุดคำพูดนั้นไว้
    เธอเพียงแต่ยิ้มบางๆให้สาวแก้มป่อง ก่อนที่ความรู้สึกแปลกๆจะเข้ามาก่อกวนภายในจิตใจ ....


    แล้วคนผมสั้นก็ต้องแปลกใจ เมื่ออยู่ๆเธอก็เลื่อนนิ้วมือเรียวยาวไปสัมผัสแก้มนุ่มๆของอีกฝ่ายโดยที่เธอไม่ได้คาดคิด..

    แล้วสิ่งนี้ก็ทำให้แก้มป่องๆนั้นแดงขึ้นมาเรื่อๆ หากสาวแก้มป่องยังคงยิ้มบางๆอยู่ แม้ว่าเธอจะแปลกใจกับการกระทำของอีกฝ่ายก็ตาม

    นี่มันคงเป็นช่วงเวลาที่บ้าคลั่ง.....หรือไม่ก็เป็นความจริงที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน?

    คน ผมสั้นจ้องมองสาวใบหน้ากลมนิ่ง ก่อนที่เธอจะไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมอยู่ๆเธอถึงเลื่อนฝ่ามือไปจับหลังคอ ของหญิงสาวก่อนที่จะเลื่อนใบหน้าเข้าไปจูบอีกฝ่ายเบาๆ

    แล้วเธอก็จูบ หญิงสาวแก้มป่อง ริมฝีปากอุ่นๆสัมผัสกันอย่างนุ่มนวลและอ้อยอิ่ง เนิ่นนานพอที่จะลิ้มรสความหอมหวานของอีกฝ่าย ลิ้นอุ่นๆแตะริมฝีปากอิ่มของสาวหน้ากลมเบาๆ...

    แล้วเธอก็รู้สึกว่า ทุกอย่างหยุดนิ่ง เหมือนกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างได้อันตธานหายไปหมด หากเธอยังคงรู้สึกถึงสัมผัสอุ่นๆอันนุ่มนวลตรงริมฝีปาก....

    และแล้วเธอก็รู้สึกตัวว่าเธอได้ทำอะไรลงไปเธอกำลังจูบอานโซฮีคนผมสั้นผงะตัวออกอย่างตกใจ มือของเธอเลื่อนออกจากคอขาวนวลของอีกฝ่ายแทบจะทันที...

    แล้ว เธอก็จ้องมองสาวหน้ากลมนิ่ง แก้มป่องๆแดงเข้ม ตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจ แล้วอย่างอื่นในสายตาของสาวตรงหน้าที่เธอไม่สามารถอธิบายได้เท่าใดนักเหมือนกับว่ากังวล? หรือว่าเสียใจ?

    ให้ตายสิ.... เราทำอะไรลงไปน่ะ?


    พี่ขอโทษ! คนผมสั้นร้องออกมา น้ำเสียงของเธอแสดงถึงความกังวลและตกใจ
    พี่ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นนะพี่แค่...เอ่อ มันเป็นเรื่องผิดพลาดแล้วพี่จะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกเด็ดขาด พี่สัญญา
    สายตาคมของคนผมสั้นเหลือบไปเห็นคนหลายคนที่มองมาทางเธอและอานโซฮี แม้ว่าตรงนี้จะไกลขนาดไหนแต่เธอมั่นใจว่า
    พวกเค้าต้องเห็นเธอจูบโซฮีอย่างแน่นอน....

    มัน เป็นแค่การแสดงอย่างหนึ่ง.... เพราะว่าพี่เห็นคนพวกนั้นมองมาที่เรา แล้วเราก็ต้องหาเหตุผลว่าทำไมเราต้องออกมาที่นี้...คนผมสั้นให้เหตุผล เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหญิงสาวแก้มป่องจะไม่สังเกตใบหน้าที่เริ่มแดงเข้ม ของเธอ...

    โซฮียกโทษให้พี่ได้มั้ย?”

    ดูเหมือนสาวหน้ากลมจะนิ่งเงียบไปสักพักก่อนที่เธอจะพูดอะไรออกมา
    ไม่เห็นต้องขอโทษเลยนี่ค่ะ พี่ซอนเย มันก็แค่จูบเฉยๆ แล้วอีกอย่างนี่ก็เป็นแค่การแสดง พี่ซอนเยไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ

    สาวหน้าหวานไม่เห็นสีหน้าของอีกฝ่ายเพราะว่าความมืดนั้นบดบังใบหน้าขาวนวลของอีกฝ่ายที่เบือนหน้าไปอีกทางหนึ่ง
    แต่เธอรู้สึกได้ว่าน้ำเสียงของอานโซฮีนั้นแปลกไป ดูเหมือนจะสั่นๆ? แต่เธอก็ไม่ใส่ใจนักในตอนนั้น
    เธอเพียงแต่รู้สึกโล่งอกที่เธอหาเหตุผลมาอ้างได้สำเร็จ....


    แต่เธอเพิ่งจะรู้สึกถึงปัญหาที่แท้จริงในตอนนี้


    มันไม่ใช่ที่เธอเผลอไปจูบอานโซฮี....  แต่ปัญหาที่แท้จริงของเธอก็คือ เธอยังคงอยากจูบสาวแก้มป่องอยู่...




    แล้วนี่เธอควรจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไรดี?



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×