ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Love OR Money เสน่ห์รักเงินตรา ( WonHyuk Fiction)

    ลำดับตอนที่ #2 : Love OR Money ... Part 1

    • อัปเดตล่าสุด 27 ม.ค. 56


    Part …1

     

     

     

    ในคืนที่สายฝนโปรยปราย  ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มคนหนึ่งทรุดลงกับพื้นปูนอย่างหมดแรงในซอยเปลี่ยวไร้ผู้คน สภาพของเขาสะบักสบอมและบาดเจ็บจากการถูกลอบทำร้ายโดยศัตรูทางธุรกิจ ร่างสูงนั่งตากฝนอยู่อย่างนั้นเพราะไร้ซึ่งเรี่ยวแรงแม้แต่จะหาที่หลบฝน ใบหน้าคมก้มต่ำมองดูหยดน้ำฝนที่ตกลงสู่พื้นอย่างเหนื่อยล้า ก่อนจะแปลกใจที่หยดน้ำหายไปและแทนที่ด้วยร่างเล็กๆ ที่ยืนอยู่หน้าตัวเอง  

     
     

    “เอ่อ.... คุณฮะ” เสียงหวานเอ่ยถามเบื้องหน้า

     
     

    “เสียงนี้”

     
     

    “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ เหมือนคุณจะบาดเจ็บอยู่นี่นา” มือเล็กยื่นร่มกางให้กับชายหนุ่ม

     
     

    “มือนี้”

     
     

    ถ้าคุณไม่รังเกียจ ให้ผมช่วยมั้ย” เอ่ยอีกครั้งพร้อมส่งรอยยิ้มหวานไปให้

     
     

    ชีวอนไล่มองร่างเล็กที่ยืนอยู่ด้านหน้าของตนขึ้นไปเรื่อย จนสบกับดวงหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม และแววตาใสบริสุทธิ์ น้ำเสียงหวานที่เจือความห่วงใย สร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้หัวใจที่แสนเย็นชาของเขาเต้นแรงขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ

















    ตึกสูงตะหง่านกลางกรุงโซล ห้องพักสุดหรูที่ถูกตกแต่งเป็นอย่างดี กินพื้นที่กว้างครอบคลุมสองชั้นบนสุดของตัวอาคาร และในตอนนี้ ร่างสูงสง่ายืนนิ่งคิดไปถึงยามครั้งแรกที่ได้สบกับดวงตาสดใส ได้ยินเสียงหวานๆที่แสดงความห่วงใย และรอยยิ้มที่แสนบริสุทธิ์ที่ร่างเล็กส่งมาให้กับตนเอง

     

     

    กายหนาทรุดลงบนเตียงขาวสะอาดที่มีร่างของคนที่ตนเองประมูลมานอนหลับสนิทอยู่ สายตาคมกวาดมองไปทั่วดวงหน้าที่สวยหวานหมดจดไร้ริ้วรอย ดวงตาปิดสนิท จมูกโด่งรั้นได้รูป ริมฝีปากอวบอิ่มสีเชอร์รี่ ความงามที่เขาต้องเสียเงินมากมายเพื่อครอบครองมัน ใบหน้าคมเข้มค่อยโน้มลงหวังชิมความหวานจากริมฝีปากที่แสนยั่วยวนตรงหน้า ริมฝีปากหนาสัมผัสกลีบปากบางหนุ่มอย่างอ่อนโยน แต่เพียงชั่ววินาทีเดียวเท่านั้น ร่างเล็กก็รู้สึกตัวขึ้นมาเสียก่อน ร่างสูงจึงผละลุกจากเตียงมาจ้องมองปฏิกิริยาของอีกคน

     

     

    “อื้อ~~” ดวงตาที่ปิดสนิทค่อยๆลืมขึ้นอย่างช้าๆ

     

     

    “ฟื้นแล้วหรอ” เสียงทุ่มเอ่ยถามไม่ดังนักเพราะกลัวจะทำให้อีกคนตกใจเสียก่อน

     

     

    “ที่นี่ คือ....”  มือเล็กยกกุมศีรษะของตนเองก่อนจะทันได้เอ่ยถาม

     

    “เป็นอะไรหรือเปล่า” ร่างสูงถามอีกครั้งเพราะเห็นท่าทางไม่ดีนักจากคนบนเตียงกว้าง “หรือ....ว่าไอ้พวกบ้านั่นจะใช้ยากับนาย” ชีวอนสบถกับตัวเองอย่างเจ็บใจ ก่อนจะเอ่ยถามอีกคนอย่างห่วงใย “ไหวหรือเปล่า ให้ตามหมอมั้ย”

     

     

    “ไม่เป็นไรฮะ ผมไม่เป็นอะไร ขอโทษนะฮะ”

     

     

    “ขอโทษเรื่องอะไร...

     

    แต่ช่างมันเถอะ!   นายนอนพักผ่อนไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวฉันไปหาน้ำมาให้กิน” พูดเสร็จก็หันหลังตั้งใจจะออกไปหาน้ำมาให้อีกคนดื่ม แต่.....

     

     

    “เดี๋ยวฮะ” ฮยอกแจเอ่ยเรียกอีกคน มือเล็กที่ตั้งใจจะคว้าข้อมือหนาแต่กลับพลาดไปคว้าเข้าที่เนคไทของร่างสูงแทน ใบหน้าคมจึงย่อลงมาจนเกือบชิดใบหน้าหวานของตนเอง

     

     

    “เอ่อ...” ฮยอกแจถึงกลับพูดไม่ออกเมื่อได้ใกล้ชิดกันจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนของคนตรงหน้า

     

     

    “นายดึงฉันทำไม” เสียงเข้มเอ่ยถามพร้อมกับจัดท่าให้ร่างเล็กนอนลงดีๆ ก่อนดึงผ้าห่มมาคลุมให้จนชิดอก

     

     

    “ขอโทษฮะ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมแค่ยากขอบคุณนะฮะ” ใบหน้าหวานแต้มรอยยิ้มเล็กน้อย ที่ตั้งใจจะมอบให้กับอีกคน “คุณช่วยผมไว้ใช่มั้ยฮะ”

     

     

    “ทำไมถึงคิดอย่างนั้น” ร่างสูงถามอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

     

     

    “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันฮะ” ร่างเล็กมองขึ้นไปบนเพดานสีขาวสะอาดก่อนเอ่ยตอบอีกคนพร้อมรอยยิ้ม

     

     

    “ใช่ ชั้นช่วยนาย” ชีวอนมองใบหน้าที่แสนบริสุทธิ์ของฮยอกแจก่อนจะเอ่ยตอบ

     

     

    “ขอบคุณมากนะฮะ ขอบคุณที่ช่วยผมไว้ ทั้งที่เราไม่เคยเจอกันมาก่อน” ร่างเล็กหันมาขอบคุณร่างสูงอย่างจริงใจ

     

     

    “ห๊ะ!!! อะไรนะ ไม่เคยเจอกันอย่างนั้นหรอ หมายความว่ายังไง นายจำไม่ได้หรอ” ชีวอนมองอีกคนอย่างแปลกใจ

     

     

    “ผมจำอะไรไม่ค่อยได้หรอกฮะ จำได้แค่ว่าถูกพาตัวขึ้นรถมา จากนั้นผมก็เบลอไปหมด รู้แต่ว่าตัวเองกลัว กลัวอะไรสักอย่าง เท่านั้นเอง”

     

     

    “แค่นั้นเองหรอ ที่นายจำได้”

     

     

    “อ๊ะ เดี๋ยวก่อนนะฮะ”  ฮยอกแจที่พึ่งนึกได้รีบกระโดลงมาจากเตียงทันที แต่ด้วยฤทธิ์ยาที่ยังไม่หมดทำให้ร่างเล็กเกือบจะล่วงลงพื้นดีที่ได้วงแขนแข็งแรงของใครบางคนมาประคองเอาไว้

     

     

    “จะรีบไปไหน”

     

     

    “ขอโทษทีนะฮะ แต่ผมรู้สึกปวดหัวจังเลย” ฮยอกแจจับไปที่ขมับของตนเองอีกครั้ง ทั้งที่ยังอยู่ในอ้อมแขนของใครอีกคน

     

     

    “นายอย่าเพิ่งลุกเร็วแบบนี้สิยาในตัวของนายยังไม่หมดฤทธิ์เลย” ชีวอนเอ่ยดุร่างเล็กในอ้อมกอดไม่จริงจังนัก ก่อนจะประคองอีกคนนั่งลงบนเตียงกว้าง

     

     

    “แต่ผมพึ่งนึกได้นี่ฮะ”

     

     

    “นึกอะไรได้อีกอย่างงั้นหรอ” น้ำเสียงของชีวอนดูแสดงอารมย์มากขึ้นกว่าเดิม แต่เพราะความกังวลใจของร่างเล็กทำให้ฮยอกแจไม่สังเกตเห็น

     

     

    “มินโฮ มินโฮญาติของผมอยู่ที่นั่นด้วย บางทีเขาอาจจะยังอยู่ที่นั่น ผมต้องไปช่วยเขา”

     

     

    “ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะนายเนี่ย” ร่างสูงแอบถอนหายใจด้วยความผิดหวัง

     

     

    “เอ๋ !

     

     

    “นายช่วยจำเรื่องของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าก่อนได้มั้ย หรือว่ามันไม่สำคัญเลยสำหรับนาย เฮ้อ~~ ~ ช่างมันเถอะ” ชีวอนถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะเดินไปหยิบซองเอกสารมายื่นให้กับร่างเล็กที่นั่งกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง “เมื่อกี้นายพูดถึงชื่อของใครนะ ลี มินโฮ ใช่รึเปล่า”

     

     

    “คุณรู้จักด้วยมินโฮด้วยอย่างงั้นหรอฮะ” ฮยอกแจถามอีกคนอย่างแปลกใจ

     

     

    “ใช่ รู้จัก รู้จักดีเลยด้วย” ร่างสูงหันหลังให้กับคนถามสายตาคมมองภาพบรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองหลวงอย่างเฉยชา

     

     

    “หรือว่าคุณเป็นเพื่อนกับมินโฮ” เอ่ยถามทั้งที่ไม่แน่ใจนักว่าคนอย่างพวกเขาจะรู้จักกับคนระดับนี้ได้

     

     

    “ฉันว่านายอ่านเอกสารที่อยู่ในซองนั่นก่อนดีกว่า” ชีวอนปลายตามองไปที่ซองเอกสารสีน้ำตาลที่อีกคนรับจากมือของเขาไปวางไว้ข้างตัวอย่างไม่ใส่ใจนัก

     

     

    “ทำไมหรอฮะ” มือเล็กเอื้อมไปคว้าซองเอกสารข้างตัวมาถือไว้ก่อนจะค่อยๆเปิดออก และหยิบเอกสารในซองขึ้นมาถือไว้

     

     

    “อ่านสิ แล้วเดี๋ยวฉันจะเล่าให้นายฟัง” ร่างสูงย้ำอีกครั้งพร้อมกับเสสายตาไปทิศทางเดิม ไม่ได้มองไปที่ร่างเล็ก

     

     

    “ฮะ” สายตาหวานไล่อ่านไปเรื่อยๆ พร้อมกับฟังสิ่งที่ร่างสูงพูดไปด้วย

     

     

    “ธุรกิจของฉันก็คือธุรกิจเงินกู้ แล้วหนึ่งในลูกค้าของฉันก็คือญาติของนาย  ลี มินโฮ หมอนั่นกู้เงินจากบริษัทของฉันไป 5 ล้านวอน จากนั้น มันก็หายตัวไปพร้อมกับเงิน”

     

    “หายตัวไป เขาหนีพวกคุณอย่างงั้นหรอ”

     

    “ใช่ มันหนีไปพร้อมกับเงินของฉัน”

     

     

    “ไม่จริงหรอก คุณโกหก”

     

     

    “ฮึ โกหกงั้นหรอ อยากฟังต่อมั้ยล่ะ” ร่างสูงยิ้มเยาะแกมสมเพชเมื่อนึกไปถึงใครอีกคน “มินโฮมันเอาเงิน 5 ล้านวอนของฉันไปแล้ว มันก็ไปกู้เงินของนายทุนซึงฮยอนอีก 10 ล้าน เพื่ออะไรนายรู้ไหม หมอนั่นเอาเงินไปเล่นการพนันที่บ่อนคาสิโนไงล่ะ เล่นจนโดนโกงซะหมดตัว แล้วสุดท้ายมันก็ขายนายให้กับไอ้พวกบ้านั่น ไอ้พวกที่จับนายไปประมูลไม่ต่างจากสิ่งของไร้ค่าไง”

     

     

    “งั้นมินโฮอาจจะอยู่ที่นั่น เขาอาจจะถูกประมูลเหมือนผม ผมต้องไปช่วยเขา” ร่างเล็กฟื้นกายที่ไร้แรงลุกขึ้นเพื่อจะออกไปช่วยญาติของตนเอง แต่ติดที่มือหนารั้งข้อมือบางไว้ก่อน ชีวอนจับร่างเล็กให้หันมาเผชิญหน้ากับตนเองก่อนจะพูดความจริงที่รู้ว่าคนตัวเล็กคงไม่อยากรับรู้เท่าไหร่ได้ฟัง

     

     

    “นี่!  นายจะไปไหน แล้วฉันจะบอกอะไรคนอย่างหมอนั่นน่ะไม่มีใครเอาหรอก คงมีแต่พวกที่อยากลองของแปลกเท่านั้นแหละที่อยากจะได้มันไป หรือว่าบางทีร่างกายสกปรกพวกนั้นอาจจะหาเงินได้ก็ได้ อย่างน้อยฆ่าทิ้งแล้วเอาอวัยวะภายในของมันออกมาขายก็คงจะแลกเงินมาได้นิดหน่อย”

     

     

    “นี่คุณ ปล่อยผมนะ ผมจะไปหามินโฮ ผมต้องไปช่วยเขา” ฮยอกแจพยายามสะบัดตัวเองให้หลุดออกจากคีบเหล็กที่บีบรัดต้นแขนของตัวเองไว้

     

     

    “นายจะกลับไปหามันอีกทำไม มันหักหลังนาย มันขายนายเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด” ร่างสูงตะคอกเสียงดังใส่อีกคนอย่างลืมตัว

     

     

    “มินโฮไม่มีวันทำแบบนั้นกับผมแน่ เขาเป็นพี่ชายของผมนะ” แต่อีกฝ่ายก็เถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้

     

     

    “แต่มันก็ทำไปแล้ว มันขายนายได้ยินไหม คนที่มันกล้าขายพี่น้องของตัวเองได้นะมันเลวสิ้นดี แล้วนายจะยังคิดกลับไปหามันอีกอย่างงั้นหรอ”

     

     

    “แต่ มินโฮเป็นญาติเพียงคนเดียวของผมนะ

     

     

    ผม....” ฮยอกแจจนต่อถ้อยคำที่จะพูด ทั้งที่ลึกๆ แล้วร่างเล็กก็รู้ดีว่าสิ่งที่อีกคนพูดเป็นเรื่องจริง ร่างเล็กจึงได้แต่เสสายตาไปอีกทางเพราะไม่กล้าสบดวงตาคมที่จ้องมองตัวเองอยู่

     

     

    “ญาติงั้นหรอ นายยอมรับซะเถอะ ว่าไอ้มินโฮมันหักหลังนาย มันทรยศนายเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ถ้านายกลับไปหามันคนที่จะเจ็บปวดก็คือนาย”

     

     

    “ไม่จริง ผมไม่เชื่อ คุณโกหกผมใช่ไหม” เสียงหวานอ่อนลงแต่ก็ยังคงไม่ยอมรับความจริง

     

     

    “ถึงนายจะไม่ยอมรับ แต่สิ่งที่มันทำกับนายก็เป็นเรื่องจริง มันคือเรื่องจริงเข้าใจซะบ้างสิ ” ร่างสูงเริ่มโมโหอีกฝ่ายที่ไม่ยอมเชื่อคำพูดของเขา

     

     

    “หยุดพูดนะ ผมไม่อยากฟัง”ร่างเล็กส่ายหัวไปมาอย่างแรงเพราะไม่อยากรับรู้และได้ยินอะไรอีก

     

     

    “คนอย่างนั้นปล่อยให้ตายๆ ไปซะได้ก็ดี” น้ำเสียงเรียบเย็นถูกกระซิบแผ่วเบาข้างใบหูขาวอย่างเอาแต่ใจ จนคนฟังถึงกับทนรับไม่ได้

     

     

    “ไม่!!!!!! ” ฮยอกแจกรีดร้องและพยายามดิ้นรนให้หลุดจากมือหนาของร่างสูงที่จับข้อมือบางของตนเองไว้ มือเรียวสะบัดอย่างแรงจนปลายเล็บบาดเข้าที่ใบหน้าใต้ดวงตาคมจนได้เลือด มือเล็กข้างหนึ่งล่วงลงข้างลำตัว ดวงตากลมโตปล่อยให้หยดน้ำตาไหลริน “หยุดซะที  คุณมันไม่รู้อะไรเลย  ไม่รู้อะไรเลยสักนิด   ทั้งๆ ที่เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับคุณด้วยซ้ำ เพราะคุณน่ะมันก็เป็นแค่ “คนอื่น” สำหรับพวกเรา”  ไร้เรี่ยวแรงจะต่อต้าน ไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืน ร่างเล็กร้องไห้อย่างหนักกับสิ่งที่ได้รับรู้ ความจริงมันเจ็บปวด เจ็บปวดจริงๆ

     

     

    “ลี ฮยอกแจ 

     

     

    นาย...”

     

     

    ชีวอนนิ่งงันกับคำว่า “คนอื่น” ใช่! เขามันก็เป็นแค่คนอื่นเท่านั้นสินะ ร่างสูงยิ้มเยาะให้กับตัวเองอย่างสมเพช มือหนาแตะที่ใบหน้าของตนเองบริเวณที่รู้สึกแสบเบาๆ และเมื่อลดมือลงสายตาก็เหลือบไปเห็นรอยเลือดสีแดงเข้มของตนเองติดอยู่ปลายนิ้ว  ชีวอนกำหมัดแน่น ด้วยความโกรธ คนอย่างเขาไม่เคยถูกใครทำแบบนี้มาก่อน แล้วร่างเล็กนี่เป็นใครถึงกล้ามาทำกับเขาแบบนี้

     

     

    “ลี ฮยอกแจ เมื่อกี้นายบอกว่าฉันเป็นคนอื่นอย่างงั้นหรอ” ร่างสูงกระชากข้อมืออีกคนขึ้นมาสบกับตนเอง ก่อนจะจับโยนลงเตียงกว้างอย่างแรง แล้วขึ้นคร่อมร่างเล็กทันที มือหนาจับข้อมือเล็กทั้งสองข้างรวบไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวของตนเท่านั้น “มันไม่จริงหรอกนะรู้มั้ย  ความสัมพันธ์ของเราสองคน มันยิ่งกว่าความสัมพันธ์ระหว่างนายกับมินโฮซะอีกรู้รึเปล่า” สายตาคมแข็งกร้าว และน้ำเสียงเหยียบเย็นจนคนที่อยู่ด้านล่างถึงกับตัวสั่นด้วยความกลัว มือหนาฉีกกระชากชุดนอนของร่างเล็กออกจนเผยผิวกายขาวเนียน บริสุทธิ์

     

     

    “อ๊ะ ผมเจ็บ ปล่อยผมนะ” ฮยอกแจร้องบอกอีกฝ่ายเมื่อเนื้อผ้าที่ฉีกขาดบาดที่ผิวเนื้อจนขึ้นรอยแดง

     

     

    “สถานะของนายมันก็ไม่ต่างจากสินค้าชิ้นหนึ่งเท่านั้น ฉันซื้อนายมาด้วยจำนวนเงินมหาศาล เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ ชีวิตของนายเป็นของฉันเท่านั้น”

     

     

    “ไม่นะ ผมไม่....” ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยอะไรอีก ปากเล็กก็ถูกทาบทับด้วยริมฝีปากหนาของอีกคน ลิ้นร้อนเข้าชิมความหวานภายในอย่างง่ายได้ เพราะความไม่ประสาของอีกฝ่าย ลิ้นหนากวาดต้อนความหวานทั่วโพรงปากเล็กอย่างได้ใจ

     

     

    “อือ...” เสียงร้องประท้วงเมื่อเริ่มขาดอาการหายใจจากร่างเล็กดังขึ้นชีวอนจึงจำต้องถอนริมฝีปากออกแม้จะเสียดายความหวานที่พึ่งได้ลิ้มลองเป็นครั้งแรก จ้องมองใบหน้าหวานที่ขึ้นสีแดงกล่ำ ร่างเล็กหันหน้าหลบสายตาที่จ้องมองราวกับจะกลืนกินเขาลงไปทั้งตัว

     

     

    “แล้วนายรู้ไหมว่าสินค้าแบบนายเขามีไว้ทำอะไร” ร่างสูงกระซิบแผ่วเบาข้างใบหู จากนั้นก็ก้มลงซุกไซร้ซอกคอขาวอีกคน อย่างลืมตัวเพราะกลิ่มหอมอ่อนๆ จากกายเล็กที่โชยเข้าจมูกจนทำให้อยากจะสูดดมใกล้ๆ ร่างสูงยกใบหน้าขึ้นมากระซิบอีกครั้ง “ฉันจะเป็นคนสอนมันให้นายเอง เพราะยังไงนายก็ไม่มีแรงขัดขืนฉันหรอกจนกว่ายาบ้านั่นจะหมดฤทธิ์”

     

     

    “คุณจะทำอะไรผม” ฮยอกแจเอ่ยถามเสียงสั่นด้วยความกลัว เพราะไม่เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ในชีวิตของตัวเองเลยสักครั้ง

     

     

    “ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ฉันจะทำให้นายมีความสุขจนลืมไม่ลงเลยล่ะ” ชีวอนยกใบหน้าคมขึ้นมาจ้องมองโครงหน้าหวานอีกครั้ง พร้อมกับมอบรอยยิ้มร้ายให้กับอีกคน “แล้วนายก็จะได้รู้ว่าหน้าที่ของนายคือ...อะไร?”









     

     

    ร่างเล็กนอนกอดตัวเองสั่นเทาอยู่บนเตียงกว้าง ร่างกายเปลืยเปล่าไร้สิ่งปกคลุม ตามร่างขาวเนียนปรากฎร่องรอยแดงช้ำหลายจุดกระจายอยู่ทั่วเรือนร่าง หยาดน้ำตาไหลรินจากดวงตาคู่สวยไม่ขาดสาย แรงยวบลงอีกฝากฝั่งของเตียงนอนทำให้ร่างเล็กรู้ว่าตนเองไม่ได้อยู่บนเตียงกว้างเพียงลำพัง

     

     

    ดวงตาคมกวาดมองเรือนกายที่เคยสะอาดและบริสุทธิ์ บัดนี้เรือนร่างที่เคยตั้งใจจะทนุถนอมและปกป้องกลับแปดเปื้อนด้วยความเลวร้ายที่ตนเองเป็นผู้มอบให้กับมือ มือหนาตั้งใจจะลูกหัวสวยเพื่อปลอบโยนแต่กลับไม่กล้า จึงเปลี่ยนมาคว้าผ้าห่มผืนหนาที่กองอยู่ปลายเตียงและยกขึ้นมาคลุมร่างเปลือยเปล่าไว้แทน

     

     

    “ปล่อยผมไปได้หรือยัง ในเมื่อคุณได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วก็ควรจะปล่อยผมไปเสียที ผมต้องไปหามินโฮ ต้องไปช่วยเขา” เสียงหวานเอ่ยขึ้นแผ่วเบาแต่ชีวอนก็ได้ยินมันอย่างชัดเจนร่างสูงกำหมัดแน่น แต่พยายามที่จะระงับอารมณ์ของตนเอง เขาไม่เข้าใจเลยสักนิด ทั้งๆที่รู้ว่าถูกทรยศแล้วทำไมยังคิดจะไปช่วยคนเลวๆพรรณนั้นอยู่ได้ แต่คำพูดที่เอ่ยออกมากลับไม่ใช่สิ่งเดียวกับความคิดของตนเองแม้แต่น้อย

     

     

    “นายได้ไปจากที่นี่แน่ฮยอกแจ แต่นั้นหมายถึงนายจะต้องคืนเงินทั้งหมดให้ฉันเท่านั้น ทั้งเงินที่ไอ้มินโฮมันโกงไป และเงินค่าตัวของนายเมื่อคืนด้วย” ท่าทางและคำพูดที่ร่างสูงแสดงออกมานั้น ฮยอกแจไม่สามารถคาดเดาความคิดของร่างสูงได้แม้แต่น้อย

     

     

    “เงินทั้งหมดงั้นหรอฮะ” ร่างเล็กค่อยๆพยุงกายที่ไร้เรี่ยวแรงของตนขึ้นมาเพื่อมองหน้าของใครอีกคนได้ถนัดตายิ่งขึ้น

     

     

    “ใช่! ทั้งหมด รวมๆแล้วก็ประมาณ ร้อยยี่สิบล้านวอน” ร่างสูงจ้องมองท่าทางของอีกคนที่ตั้งใจฟังเขาเป็นอย่างดี ฮยอกแจที่ได้ยินจำนวนเงินก็ถึงกับนิ่งงันไปทันที “ถ้านายต้องการจะไปจากที่นี่ ทางเดียวที่นายทำได้ก็คือคืนเงินทั้งหมดนั่นให้ฉัน”

     

     

    “ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้หรอก” ฮยอกแจเอ่ยกับอีกคนอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ตนได้ยิน เงินจำนวนมหาศาลขนาดนั้นเขาไปหามาจากที่ไหนกันล่ะ

     

     

    ร่างสูงจ้องมองอีกคนที่กำลังก้มหน้าและใช้ความคิดกับตนเอง เขารู้ว่าร่างเล็กนั้นจำเรื่องราวในคืนนั้นไม่ได้ แต่จะให้ทำยังไง ในเมื่อเขาอยากครอบครองคนๆนี้  อยากเป็นเจ้าของร่างกายและหัวใจดวงนี้ อย่างน้อย ถ้าเขาทำแบบนี้ ร่างเล็กนี้ก็ยังเป็นของเขา

     

     

    “ร้อยยี่สิบล้าน.....ไม่มีทางหรอกที่ผม” ยังไม่ทันได้เอ่ยจบเสียงเข้มก็แทรกขึ้นมาทันที

     

     

    “ไม่ต้องคิดมากหรอกนะ ฉันมีค่าตอบแทนให้นาย”

     

     

    “ค่าตอบแทน”

     

     

    “ใช่ ทุกครั้งที่นายนอนกับฉัน ฉันจะจ่ายให้นายครั้งละสามแสนวอน เริ่มตั้งแต่วันนี้เลย” ถ้าเงินของฉันมันจะสามารถรั้งนายไว้ได้ ฉันก็จะทำ ร่างสูงเซ็นต์เช็คเงินสดระบุจำนวนเงินพร้อมกับลายเซ็นต์ของตนลงไป ก่อนจะโยนลงบนเตียงสีขาว และหันหลังเดินออกจากห้องไป กระดาษใบเล็กที่มีมูลค่าสามแสนวอนปลิวไปตกอยู่ตรงหน้าร่างเล็กพอดี ดวงตาหวานจ้องมองมันอย่างไม่อยากเชื่อ นี่เขาเป็นตัวอะไรไปแล้ว ร่างกายของเขามันกลายเป็นสินค้าที่ใช้เงินซื้อได้อย่างงั้นหรอ นายมันมีค่าแค่นั้นจริงๆใช่ไหม ลี ฮยอกแจ ร่างเล็กซบใบหน้าลงบนหมอนใบโตอีกครั้งก่อนระบายความเจ็บช้ำทั้งหมดออกมาเป็นหยาดน้ำตาเปรอะเปลื้อนหมอนสีขาวจนเป็นวง ฮยอกแจร้องไห้จนเหนื่อนหอบและเผลอหลับไปอย่างหมดแรงและน่าสงสาร



     







    G Minor!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×