ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    🍇ไร่ปลูกรัก🍇

    ลำดับตอนที่ #9 : หายนะที่กำลังเกิดขึ้น

    • อัปเดตล่าสุด 9 เม.ย. 58


     

     

     

     

     

    หายนะที่กำลังเกิดขึ้น

     

     

     

           “พี่แทคคค พี่คุณเป็นไงบ้างพี่” เพราะสายตาเย็นชา และใบหน้าเรียบเฉย นิ่งสนิทที่ตวัดมองกลับมา ทำเอาจางอูยองถึงกับชะงัก อึ้ง ขนหัวลุก เลือดในกายเย็นเฉียบ รู้สึกหายใจติดขัด

     

    “คุณเกือบแย่” แม้น้ำเสียงนั้นจะตอบกลับมาแบบเรียบๆ  แต่มันทำให้คนได้ฟังขนหัวลุกรู้สึกถึงแรงกดดัน  เมื่อได้เห็นใบหน้าที่เปื้อนยิ้มตลอดเวลา นั้นเปลี่ยนเป็นเรียบเฉย และความเคร่งเครียดบางอย่างที่กำลังแผ่ออกมาจากพ่อเลี้ยงแทคยอน 

     

    พี่แทคเปลี่ยนไป  ไม่ใช่สิ  นี่หล่ะ พี่แทคตัวจริง ...

     

     จางอูยองเกือบลืมไปแล้วว่า พ่อเลี้ยงอคแทคยอน ไม่ใช่แค่ชาวสวน ชาวไร่ ธรรมดา

    เพราะท่าทีใจดี ตลอดจนบุคลิกลักษณะ แสนซื่อ ที่เจ้าตัวมักจะแสดงออกมาอยู่เสมอ มันคือเปลือกที่สร้างขึ้นปกปิดตัวตนอย่างแนบเนียนต่างหาก  แต่คนที่นอนพริ้มตาหลับเพราะเหนื่อยอ่อนจากการรักษา คือคนที่กะเทาะเปลือกที่ห่อหุ้มความร้ายกาจให้แตกออก

     

    “คะครับ  ดีแล้วเนอะ” ยิ้มรับเจื่อนๆ ไม่กล้าแม้จะเงยหน้าขึ้นสบตา

     

    “ใช่ แต่ข้าจะไม่ยอมให้มันมีครั้งต่อไป เอ็งมาก็ดีแล้วอูยอง ข้าฝากดูคุณหน่อย ข้าจะไปสะสาง เรื่องยุ่ง ๆ แล้วจะรีบกลับ”

     

    “ครับ ครับ ไม่ต้องห่วงครับ พี่รีบไปเถอะ”  อูยองรีบรับปาก โดยไม่จำเป็นต้องเดาเลยว่าพี่ชายจะสะสาง เรื่องยุ่งๆที่ใด  ..

    เขาไม่กล้าห้าม ไม่แม้แต่จะคิด ได้แต่ก้มหน้าสวดภาวนาขออย่าให้เกิดหายนะร้ายแรงขึ้นภายหลัง ..

     

    .

    .

    .

     

     

    “ข้ามาขอพบพ่อเลี้ยงเกา หลีก!!!      

     

    “เข้าไปไม่ได้ครับ พ่อเลี้ยงกำลังพักผ่อนอยู่”

     

    เสียงเอะอะของคนงาน และเสียงทุ้มจัดที่ดังกังวานแต่คุ้นหู เรียกให้เจ้าของไร่ ละสายตาจากหนังสือพิมพ์ธุรกิจ เงยหน้ามองก่อนจะเค้นยิ้ม

     

    “อ้าว นึกว่าใครที่ไหน สวัสดี  พ่อเลี้ยงอค ลมอะไรหอบเอ็งมาถึงไร่ของข้าได้หล่ะ”

     

    “ข้ามีเรื่องอยากจะบอกกับเอ็งเป็นครั้งแรก และครั้งสุดท้าย เลิกใช้ยา และสารเคมีซ่ะ ก่อนที่ข้าจะหมดความอดทน”

     

    “ ฮ่า .. ฮ่า  .. ที่บุกเข้ามาหาข้าถึงในไร่ เพราะต้องการจะขอร้องเรื่องแค่นี้เหรอ”

     

    “ข้าไม่ได้มาขอร้อง .. ” นัยน์ตาคมเรียวกร้าวดุจดจ้อง “ ..  แต่ข้ามาสั่ง!!

     

    “ทำไมข้าต้องฟังเอ็ง ไร่เอ็งไม่ใช้ยา มันก็เรื่องของเอ็ง แต่ที่นี่มันเป็นไร่ของข้า ... ” เจ้าของไหล่ ยักไหล่ ตีหน้าขรึม  “ ..  ข้ามีสิทธิจะทำอะไรก็ได้ ข้าจะใช้ยา ใช้จะเคมี ส่วนใครที่มันโง่ ก็ปล่อยให้มันตายห่าไปสิ ข้าไม่ได้เดือดร้อนอะไร เอ็งไสหัวออกจากข้าไปได้แล้ว ” 

     

    “ไอ้ก็อตฟรีย์!!!   แทคยอนคำรามด้วยความเดือดดาล  หมัดหนักตรงเข้ากระแทกเสยที่ปลายคางคนที่พูดจาเห็นแก่ตัวจนเลือดกลบปาก คนงานในไร่ตื่นตะลึง เมื่อเห็นว่าผู้เป็นนายถูกทำร้าย ลูกน้องคนสนิทที่อยู่ขนาบข้าง รีบควักปืนออกมาเหนี่ยวไกผู้บุกรุก แต่ช้ากว่าแทคยอนที่ตอนนี้จ่อปลายกระบอกปืนมาที่ขมับของเจ้าของไร่ ก่อนจะแสยะยิ้มบางๆ 

     

    “ก็เอาสิ อยากแลกกันไหมหล่ะ” 

    แทคยอนพูดคำว่า แลก ที่หมายถึงการที่ร่างถูกคมกระสุนเจาะจนพรุน ด้วยท่าทีเมินเฉยเพราะไม่ได้อาทรร้อนใจต่อความเป็น ความตายเลยสักนิด .. 

    ในทางกลับกัน เขากลับรู้สึกสนุก และมีความสุขที่ได้เห็นศัตรูทำหน้าตาหวาดผวา เหมือนที่ พ่อเลี้ยงใจชั่วอย่าง ก๊อตฟรีย์ เกา กำลังทำอยู่ตอนนี้

     

    “ว่าไงพ่อเลี้ยงเกา อยากแลกม่ะ .. ” ถามทั้งที่กำลังง้าง เรียวปากแสยะยิ้ม “..ว่าไง!

     

    “ถอยสิ ถอยไปให้หมด ข้าบอกให้พวกเอ็งถอยออกไป!!  ... ” เจ้าของไร่ระล่ำระลักบอกลูกน้องที่ยังคงยืนดูเชิง “ ... เปิดทางให้มันไป ไม่ได้ยินเหรอหูแตกรึไง ข้าบอกให้เปิดทาง!!

     

    “ไปส่งที่รถหน่อยสิพ่อเลี้ยงเกา .. ” ออกคำสั่ง ปลายกระบอกปืนในมือ เปลี่ยนตำแหน่งจากขมับเป็นกลางหลังหนา  “ .. เดินไป!!  ใช้ปลายกระบอกดันเบา ๆ เป็นเชิงบังคับให้อีกฝ่ายออกเดินนำหน้า เพื่อใช้เป็นโล่มนุษย์บังคมกระสุนของลูกน้องเจ้าของไร่ ที่พร้อมจะสาดเข้าเจาะร่างของเขาทุกวินาที

     

            จนกระทั้งทั้งคู่เดินมาหยุดอยู่ที่รถยนต์คันหรูที่จอดติดเครื่องรอไว้อยู่ก่อนแล้ว เขาจึงสั่งให้หยุดเดิน รีบฉวยจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังเผลอ ออกแรงผลักร่างสูงใหญ่นั้นใส่เหล่าลูกน้องที่เดินตามออกมาคุ้มกันเป็นพรวน ก่อนที่เขาจะรีบผลุบเข้าไปนั่งประจำตำแหน่ง แล้วเหยียบคันเร่งพุ่งทะยาน ออกไปจากไร่ของศัตรู ...

     

    “ไอ้แทคยอน!!  เอ็งกับข้า เราต้องได้เห็นดีกัน  ร่างสูงใหญ่ของเจ้าของไร่ สั่นเทิ้มด้วยความโกรธก่อนจะคำรามลั่น แววตาอาฆาต...

     

     

    .

    .

    .

     

    แหง่ะ !!   ..  ตาขวากระตุก

    โบราณว่าจะมีเรื่องซวย!! ..

     

    พ่อเลี้ยงสุดห่ามเพราะเพิ่งกลับจากไปหาเรื่อง รีบบึ่งรถกลับไปที่โรงพยาบาล ใบหน้านิ่งเฉยเริ่มซีดเผือดส่อเค้าความไม่สบายใจอย่างหนัก

    เปล่า ..

    อคแทคยอนไม่ได้กลัวคำขู่อาฆาตจากเจ้าของไร่ข้างๆเลยสักนิดเดียว แต่ลางสังหรณ์บางอย่างกำลังจะบอกว่า เขาอาจจะได้รับศึกหนักในไม่กี่นาทีนี้แล้วและมันน่ากลัวกว่าการถูกขู่ฆ่ามากกก ..

     

    Rrrrr

     

    "วะ ว่าไงอูยอง"
     

     

    "พี่คุณรู้สึกตัวแล้วครับ และตอนนี้ก็ ดะเดี๋ยว ครับๆ .."

     

    "อูยอง เกิดอะไรขึ้น?? ทำไม มีอะไรเหรอ??? " ขมวดคิ้วงงงวงกับเสียงแทรกที่ปลายสายก่อนจะย่นตาปี๋เมื่อมีเสียงหนึ่งตวาดแว๊ด

     

    "นี่ฉันป่วยอยู่นะ !!!! นายอยู่ไหนเนี่ย  รีบกลับมาเดี๋ยวนี้!!!!"
     

     

    เห็นหน้ายมบาลกับโลงจำปา เฮ้ยไม่ใช่  หน้าคู่หมั้นที่โรงพยาบาลลอยมาเลยครับ

    นึกอยากจะเลี้ยวรถกลับไปให้ลูกน้องไอ้ไร่ข้างๆยิงตายหล่ะเกิ๊นน  ..

     

    “คือ บะ แบบว่าเอิ่มม ข้า ข้า .. ”  กรอกตาไปรอบรถเพื่อหาเหตุผล แล้วบังเอิญว่าเห็นใบองุ่นติดเข้ามาในรถ  “ ... ข้ากลับมาตัดองุ่นในไร่ให้เอ็งกินไง ฮี่ๆ”

     

    แถสิ วินาทีนี้ ยังไงก็ต้องแถ

    ขอตอแหลแบบหน้าด้านเอาตัวรอดไปก่อน จะให้บอกว่าเพิ่งหาเรื่องไร่ข้างๆ ให้เขาขู่ฆ่ามาเหรอ  .. เหอ เหอ..  แทคยอนไม่โง่นะ  

     

    “จริงเหรอ?!

     

    “จริงจ๊ะ”

     

    “เอาลูกใหญ่ ๆ พวงโตๆนะเข้าใจไหม”

     

    “จ๊ะ เข้าใจจ๊ะ คอยเดี๋ยวน๊า” รับคำด้วยน้ำเสียงจริงจังที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะรีบเลี้ยวรถกลับไร่ของตัวเอง เดินตรงดิ่งไปคว้าองุ่นพวงใหญ่สองสามพวงแล้วบึ่งรถกลับโรงพยาบาล ชนิดที่เรียกว่า ถ้าผู้กำกับ Fast and Furious 7  มาเห็นทักษะการขับรถ อาจมีจดหมายเรียกตัวพ่อเลี้ยงแทคยอนไปแคสติ้งเป็นนักแสดง Fast and Furious ภาค 8 ก็เป็นด้ายยย

     

    .

    .

    .

     

            จอดรถเทียบบันไดทางขึ้น ฝึกยิ้มปั้นหน้ากับเงาสะท้อนที่ห้องพักฟื้นอีกสองสามท่า ก่อนจะตรวจดูความเรียบร้อยของเสื้อผ้า หน้าผม  และพวงองุ่นที่อยู่ในมือ

     

    ยืนเขย่งเท้าเหมือนนักบัลเล่ต์ เพื่อมองดูสถาณการณ์ภายใน ว่าควรจะเสี่ยงชีวิตเข้าไปหาที่ตายรึไม่อยู่นอกห้องพักฟื้น

     

    เป๊ะเลย!!  

    ข้าวของในห้องกระจัดกระจายแบบนี้  แถมอูยองยังนั่งน้ำตาคลออย่างน่าสงสารที่มุมห้อง อ่า .. นี่มันนรกชัด ๆ

     

            แทคยอนรีบสไลด์เท้าออกด้านข้างให้ห่างจากประตูมากที่สุด แล้วยืนกุมพระเครื่องที่ห้อยไว้ในคอ  .. คุณพระคุณเจ้า ช่วยลูกช้างด้วยให้มีชีวิตรอดกลับออกมาด้วยเถิดสาธุ

     

     

     “โอ๊ย! น่าเบื่ออ่ะ เบื่ออออออ!!!!!!   นี่อคแทคยอนยังไม่มาอีกเหรอครับ?!!!!!

     

    “ฮือ ..”

     

            “มาแล้วจ๊า มาแล้ว เอ็งตื่นนานรึยังเอ่ย” คนที่ถูกถามหาสะดุ้งโหยง รีบประคององุ่นเข้ามาในห้องแล้วหันไปสบตากับอูยองที่นั่งน้ำตาคลอปากสั่นระริก

     .. โถ ไอ้น้องรัก เอ็งคงเพิ่งเคยเจอฤทธิ์เดชของนิชคุณตอนป่วยใช่ไหม

     

    “นานแล้ว ว่าแต่นายหายไปไหนมา!!

     

    “ตะ ตัดองุ่นจ๊ะ” แทคยอนย่นคอเมื่อคู่หมั้นแผดเสียงใส่

     

    “จริงเหรอ??

     

    “จริงซี่ นี่ไงหลักฐาน เอ็งจะกินเลยม่ะ”

     

    “ก็แล้วไป ฉันตื่นมาเจอคุณอูยอง แต่ถามอะไรก็ไม่ตอบ ได้แต่หลบหน้านั่งสะอื้นอึกๆ  ทำท่าผวา เหมือนฉันเป็นยักษ์เป็นมาร หึ่ย!  น่าโมโห ”

     

    โธ่พ่อคุณ พ่อทูนหัว .. ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยว่าระดับเสียงหลายร้อยเดซิเบลที่แผลลั่นโรงพยาบาล กับตาเหลือกโปนมันน่ากลัวมากขนาดไหน .. ดีนะที่เขาไม่ใช่คนขวัญอ่อนไม่งั้นหัวใจวายตายไปแล้ว

     

    “ส่งองุ่นมาสิ”

     

    “จ๊ะ จ๊ะ ” คนไม่ขวัญอ่อนรีบลนลาน ยืนจานที่ใส่องุ่นให้ แต่แล้ว

     

    เพล้ง

    แผละ!

     

    จานองุ่นหลุดมือ แล้วลาโลก 

    อคแทคยอนอยากลาตาย  ..  ส่วนจางอูยองปล่อยโฮ

     

    “อคแทคยอนนนนนนนน!!!!

     

    “จ๋า”

     

    “แกตายยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!

     
    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



    คุยกัน คุยกัน

    ฟิคอะไรเวิ้นเว้อ เรื่องไม่เดิน 55555 ทนอ่านกันไปเถอะค่ะ !
    พยายามฝืนใจอ่านกันหน่อยเนอะ  กานกะว่าจะเลิกเวิ้นแล้วค่ะ แต่มันอดไม่ได้ทุกที
    จะพยายามปรับเรื่องให้เร็วขึ้นตอนหน้านะค่ะ สัญญา คิคิ .. 

    enjoy reading

    kanka



     

     



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×