คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : 😞+ .คนมีฟอร์ม.+😞
+.คนมีฟอร์ม.+
ไม่นานนัก แทคยอนก็โอบอุ้ม พาร่างอ่อนแรงของคนรัก เข้ามาในบ้านพักที่อยู่กลางไร่ เขาวางร่างบอบช้ำของนิชคุณลงบนเตียงนุ่มภายในห้องนอน ตวัดผ้าห่มผืนหนาคลุมให้ ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะมีรอยแย้มแต้มเติมลงบนใบหน้า เมื่อเห็นว่าร่างภายใต้ผ้าห่มผืนหนานั้นดูกระปุ๊กลุ๊กราวกับลูกแมวน้ำตัวน้อย
อื้อหือออออ เมียใครเนี่ย ตั้ลล๊าคคคค ..
พินิจมองเจ้าตัวอ้วนกลมที่หลับอยู่ ใบหน้าขาวผ่องผุดผาด เปลือกตาบางปกปิดความงามของดวงตาคู่กลมใส ทำให้แม้ว่าในยามหลับเช่นนี้ นิชคุณก็ยังดูงดงาม
ร่างสูงใหญ่คลานขึ้นเตียงช้าๆ เอนกายลงนอนเคียงข้าง ใช้มือนาบลงบนแก้มตอบของตนเองแล้วจรดข้อศอกตักฉากกับที่นอน ตะแคงกายมองดู เมียรัก ด้วยความเอ็นดู ปลายนิ้วอีกข้างไล้ไปตามโครงหน้าหวานก่อนจะจรดลงบนริมฝีปากบวมช้ำ
ทว่า .. ลมหายใจอุ่นของนิชคุณที่คลอเคลียอยู่ข้างแก้มตอบ ทำให้กายแกร่งตื่นได้อย่างง่ายดาย ถอนหายใจหนัก เม้มปากแน่น ใจเต้นระส่ำร่ำร้องการปลดปล่อยจนปวดร้าวไปทั่วร่าง นึกอยากโอบรั้งร่างบางเข้ามาโอบกระชับแนบอก แล้วจุมพิตเพื่อขโมยความหวานที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน โพรงปากที่เผยอออก แต่กลัวว่ามันจะเป็นการรบกวนการพักผ่อนของคนรักมากเกินไป
เขาอยากให้นิชคุณได้พักจึงได้แต่หักห้ามใจ รีบลุกขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการรังแกคนหลับ ตาเรียวเหลือบมองนาฬิกา เห็นว่าใกล้เวลาอาหารค่ำจึงเดินเข้าครัว ..
แต่ ห้องครัวคือแสนสนธยาสำหรับอคแทคยอนอย่างแท้จริง ..
เปิดตู้เย็นกวาดตามองไปที่ชั้นวาง เพื่อหาวัตถุดิบในการทำอาหาร ก่อนจะกรอกตาขึ้นแล้วถอนหายใจสุดเซ็ง .. เมื่อในนั้นมีเพียงแค่ ไข่ 3 ฟองและไส้กรอกรมควันหนังเหี่ยวอีกครึ่งแพค
ไข่ กับ ไส้กรอกจะเอาไปทำอะไรกินได้บ้างหล่ะ??? ..
ขมวดคิ้วคิดแมนู หวนนึกถึงริมฝีปากบวมช้ำของนิชคุณแล้วหนักใจ
“ไข่ตุ๋นไส้กรอกแล้วกัน คุณจะได้กินง่ายๆ” แทคยอนยิ้มกว้างก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะหุบฉับ เหมือนดอกไม้เหี่ยวเฉา เพราะอคแทคยอนทำ ‘ไข่ตุ๋น’ ไม่เป็น !!!!
อย่าว่าแต่ไข่ตุ๋นเลย แม้แต่ไข่ดาวเขายังไม่คิดจะทำเองสักครั้ง ในชีวิตของเขาวันๆ หนึ่ง เวลาหมดไปกับการจับจอบ ดายหญ้า หว่านปุ๋ยในไร่ ชีวิตเคยจับตะหลว ถือกระทะเสียที่ไหนกัน ..
ครั้นจะวิ่งกลับไปสั่งให้อูยองทำให้ แลววิ่งกลับมาคงจะเสียเวลาไม่ใช่น้อย มีหวังนิชคุณหิวจนไส้กิ่ว คิดได้ดังนั้นจึงถอนหายใจอีกเฮือก เพื่อเรียกความฮึกเหิม
“เอาหว่ะ แค่ไข่ตุ๋นใส่ไส้กรอก มันคงไม่อยากเท่าไหร่หรอก ...” ท้ายประโยคแผ่ว สีหน้าส่อเค้าความกังวลใจ “ .. มั้ง ”
ก่อนอื่นต้องตีไข่ก่อน
“ตีไข่ ตีไข่ ๆๆ” เปิดตู้หยิบชามขนาดใหญ่ ออกมาตอกไข่ใส่แล้วตีจนขึ้นฟอง
ตีไข่แล้วทำไงต่อ???? .. คิ้วขมวดเป็นปม นิ้วโป้งกับนิ้วชี้หมุนวนข้างขมับพลางใช้ความคิด ว่า ไข่ตุ๋นที่เคยกินมันมีรูปแบบเป็นอย่างไร
นุ่ม ลื่น หยุ่น ..
“อาใช่ นุ่ม ใส่น้ำๆๆ” เทน้ำใส่สองแก้วแล้วคนต่อ ติดแก๊สตั้งหม้อนึ่ง วางชามไข่ลงไปอย่างทุลักทุเล แล้วกำลังจะปิดฝา พลันสายตาก็เหลือบเห็นไส้กรอกเหี่ยว เกือบจะโยนลงไปทั้งแท่ง แต่คิดได้ก่อนจึงนำมาหั่นให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ทว่า เสียงหวีดจากไอน้ำของหม้อตุ๋นดังขึ้น ทำให้คนที่ทำไม่เป็นยิ่งลนลาน
.. น้ำเดือนแล้ว!!
ร่างสูงสะดุ้งโหยง ร้องจ๊าก เมื่อคมมีดบาดแฉลบปลายนิ้ว จนเลือดหยด
งื่อออ .. เจ็บสึด!
ดูดความเค็มเผื่อนเพื่อห้ามเลือดที่ปลายนิ้ว ก่อนจะกอบไส้กรอกที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ชามไข่แล้วปิดฝา ลากเก้าอี้มานั่งมองเหมือนลุ้นหวย
.
.
.
เพราะความร้าวระบม ปลุกให้นิชคุณค่อยๆ ลืมตาตื่นอย่างช้าๆ ตากลมช้ำที่ผ่านการร้องไห้อย่างหนักกวาดมองไปรอบห้องที่ไม่คุ้นตา แล้วถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อไม่พบหน้าคนใจร้าย ..
ค่อย ๆ ยันกายขึ้นนั่ง กัดฟันฝืนความปวดระบมพาร่างกายอันบอบช้ำของตนเดินเข้าห้องน้ำอย่างยากเย็นแสนเข็ญ เพื่อหวังจะชำระคราบคาวของคนใจร้ายให้หมดไปจากกาย
ขาเรียวสั่น ฝืนความเจ็บแสบที่แล่นเข้าสู่จุดบอบช้ำจนแทบทรงตัวไม่อยู่ เอื้อมมือคว้าผนังห้องน้ำไว้ เพื่อพยุงไม่ให้ล้มลง ค่อยๆ หมุนตัวไปยืนอยู่หน้ากระจก
นิชคุณน้ำตาไหลพราก กลืนก้อนแข็งที่วิ่งขึ้นมาจุกที่ลำคอจนคับแน่นอย่างยากลำบาก เมื่อเห็นเงาของตนเองที่สะท้อนอยู่ในกระจก ..
ผิวเนื้อนุ่มเต็มไปด้วยรอยแดงจ้ำ ทั่วร่างโปร่งเต็มไปด้วยรอยประทับของคนใจร้ายที่จงใจตราเอาไว้บนร่างกายของเขา สะอื้นอึก ๆ พร้อมกับค่อย ๆ หย่อนกายลงในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ แบรนด์หรู น้ำวนอุ่นช่วยทำให้ความปวดร้าวบรรเทาลงเล็กน้อย มือเรียวขัดถูตามร่างกาย ที่เปรอะเปื้อนคราบพิศวาสของคนเห็นแก่ตัว แต่ยิ่งถู ยิ่งขัด มันกลับยิ่งเป็นการตอกย้ำ หยั่งรากฝังลึกลงในจิตใจเขามากยิ่งขึ้น
ในตอนนี้เขาไม่เหลือความภาคภูมิใจใด ๆ ในตนเองอีกแล้ว เพราะทุกตารางนิ้วบนร่างกายตนถูกตีตราด้วยความป่าเถื่อน
หรือนี่คือการทำโทษที่เขาทำผิด?? ..
แต่ความผิดที่แอบไปพบพ่อเลี้ยงไร่ข้างๆ นั้นร้ายแรงจนต้องถูกทำโทษด้วยความป่าเถื่อนถึงเพียงนี้เชียวหรือ .. อคแทคยอนใจร้ายกับเขาเหลือเกิน .. ใจร้ายอย่างไม่น่าให้อภัยที่สุด!!
เขาพยายามรวบรวมเรี่ยวแรงที่เหลือเพียงน้อยนิด พยุงร่างกลับมาค้นตู้เสื้อผ้า ส่วมใส่ชุดที่นุ่มที่สุด นอนคู้ลงบนที่นอนนุ่ม แล้วหลับตาลงอย่างอ่อนล้า
.
.
.
“เอ ไข่ตุ๋นสุกรึยังน๊า ~ ” เปิดฝาหม้อ ใช้ทัพพีในมือคนไข่ตุ๋น ตักชิม ก่อนจะทำหน้าปุเลี่ยน ๆ .. จืดสนิท! .. ใส่ซอส เติมซีอิ้ว เหยาะพริกไท แล้วคนให้ไอ้ก้อนเหลวๆ แตกออก
อ้าว ชิบ(หาย)!! ... นี่คนจนไข่ตุ๋นกลายเป็นอ๊วกหมาไปหล่ะ แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ตักใส่ปาก แล้วกลืนเลยจะได้ไม่ต้องเคี้ยว
นับหนึ่งถึงสิบแล้ว จัดการยกลงจากเตา แล้วเดินประคองไข่ตุ๋นเข้ามาในห้องนอนพร้อมกับฉีกยิ้มหวานโชว์เหงือก เอาใจเมีย
“คุณจ๋า ~ .. ” เสียงทุ้มจัดเรียกชื่ออย่างอ่อนโยน ตาเรียวกวาดมองคนที่นอนคู้แล้วถอนหายใจ เคลื่อนกายของตนขึ้นไปนั่งบนเตียง ใช้ปลายนิ้วสะกิดที่ต้นแขนเบา ๆ
“ .. คุณลุกขึ้นกินอะไรลองท้องหน่อย”
“อืม!!” คนหลับนึกรำคาญ จึงพยายามพลิกกายหนี แต่แค่ขยับ ความเจ็บแปร๊บก็เลยงานจนต้องนิ่วหน้า น้ำตาคลอ “อือ”
“คุณ ตื่นก่อน ลุกไหวไหม? ”
แม้กายจะร้าวระบมจนแทบทนไม่ไหว แต่เพราะเสียงเรียกที่คุ้นหูดึงสติอ่อนล้าให้วิ่งแล่นเข้าร่าง นิชคุณลืมตาตื่นแทบทันที รีบถดกายหนีห่าง มือหนาที่กำลังจะแตะที่ตัวเขาอีกครั้ง ตากลมมองอีกฝ่ายด้วยความหวาดระแวง
“จะทำอะไร!”
“แทคแค่อยากประคอง”
“ไม่ต้อง ฉันไม่เป็นไร ” นิชคุณเค้นบอกเสียงแผ่ว พยายามยันกายขึ้นนั่ง แต่ใบหน้าหวานบิดเบี้ยว บ่งบอกถึงความเจ็บปวดที่ตนฝืนไม่ได้
“ให้แทคช่วยเถอะ”
“อยากช่วย? .. ” นิชคุณทวนคำเสียงแผ่ว เรียวปากซีด เค้นยิ้ม “ .. งั้นก็ช่วยไปให้พ้นหน้าฉัน ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย ไสหัวไป! ”
คนถูกไล่ส่ายหัว เมื่อเห็นคนหน้างอสูดปาก น้ำตาคลอ เขาตรงเข้าช่วยประคองหลังบางแล้วใช้หมอนใบใหญ่รองหลังให้
“แทครู้ว่าคุณโกรธ แต่อย่าเพิ่งดื้อจะได้ไหม เอาไว้หายก่อนแล้วเดี๋ยวแทคให้คุณเตะก็ได้ ”
นิชคุณเมินหน้าหลบ ไม่มีแรงจะต่อล้อต่อเถียงหรือแสดงท่าทีขัดขืนใด ๆ อีก เขาอ่อนล้า และกำลังสับสนกับที่ทีอ่อนโยน จนอยากนอนพักมากกว่า
“แทคทำไข่ตุ๋นมาให้”
“ไม่หิว ไม่อยากกิน นายออกไปเถอะ”
“นะ แค่นิดเดียวก็ได้ กินรองท้องหน่อยจะได้กินยา .. ” เสียงทุ้มจัดทอดอ่อน อ้อนวอนอย่างเอาใจ ตาเรียวอ่อนโยนมองสบตาแป๋วแหวว มือหนาจับช้อนตักไข่เตรียมจะป้อน “ .. อ้าปากนะครับ”
นิชคุณนิ่งอึ้งมองท่าที่อ่อนโยนของคนตรงหน้าด้วยความสับสน ความโกรธกรุ่นค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็น ความน้อยใจ
ทำไมไม่ใจร้าย ไร้เหตุผลอย่างเก่าหล่ะ ถ้ายอมฟังกันสักนิด เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นหรอก ..
“ไข่ตุ๋นสูตรพิเศษ แทคทำเอง”
“นี่ไข่ตุ๋นเหรอ?! .. ” เหลือบตามองของเหลวที่อยู่ในช้อนแล้วเม้มปากแน่น ไม่กล้ากิน “.. เละหยั่งกะอ๊วกหมา ถ้าไม่อยากเห็นฉันอ๊วกแตกตาย นายกินเองเหอะ ”
พ่อครัวยิ้มเจื่อน หน้าสลด ลุกขึ้นยืน เตรียมจะออกวิ่งแต่ต้องชะงักเมื่อถูกรั้งชายเสื้อไว้
“จะไปไหนหล่ะ??? ”
“ไปเอาข้าวเย็นให้คุณที่บ้านใหญ่ คอยเดี๋ยวนะ แทคไปไม่นานหรอก ”
“ไกลไหม”
ริมฝีปากหยักคลี่ยิ้มน้อย ๆ ตาเรียวทอดมองใบหน้าหวานของคนรักด้วยความหลงใหล ไม่รู้ว่าเจ้าตัวน้อยจะรู้ไหมว่าเขาดีใจแค่ไหนที่ได้ยินคำถามธรรมดาแต่เต็มไปด้วยความห่วงใยแบบนี้
“ยิ้มทำไม! ฉันแค่ถามว่าไกลไหม ..” นิชคุณจิกตามองกอดอกแน่น จิปาก เชิดหน้า ไม่อยากมองรอยยิ้มของแทคยอน เพราะเขาไม่ชอบรอยยิ้มที่เหมือนจะรู้ทันความคิดของเขาไปเสียทุกอย่างของแทคยอนแบบนี้เอามากๆ ทำเหมือนรู้ว่าเขาห่วง เฮ้ย! ไม่ห่วง ก็แค่อยากรู้ว่า ไกลไหม วิ่งไปวิ่งกลับจะเหนื่อยรึเปล่าแค่นั้นเอง
“ .. นี่ไม่ได้กลัวว่านายจะวิ่งไปวิ่งกลับจนเหนื่อยตายกลางไร่หรอกนะ .. หึ่ยย .. งั้นอยากไปไหนก็ไปเลยป่ะ ”
แทคยอนยิ้มกว้างมากขึ้น กับท่าทีฟอร์มจัด จนอดใจไม่ไหวจึงโน้มตัวลงงับที่ปลายจมูกแดงเบาๆ
“ไม่ไกลครับ ไปแป๊ปเดียว ขากลับแทคจะขี่อีแต๋น ไม่เหนื่อยตายกลางไร่แน่ๆ ”
“ก็ไปสิ”
“เดี๋ยว”
“หืม?? .. ” แทคยอนย่นคิ้ว เมื่อถูกรั้งไว้อีกครั้ง “ .. ว่าไงครับ”
ตากลมพินิจที่รอยแผล “มือไปโดนอะไรมา”
“อ่อ นี่เหรอ มีดบาด” แทคยอนตอบแบบส่งๆ ว่าแล้วก็จะดูดอีกจ๊วบ แต่ถูกมือเรียวพาดเพี้ยะที่ท่อนแขนก่อนที่นิ้วจะถึงปาก “สกปรก!”
“หมากับแมวมันก็เลียแผลตัวเอง ไม่เห็นเป็นไร”
“นี่ฉันมีผัวเป็นหมาตั้งแต่เมื่อไหร่ อุ๊ป! . .” นิชคุณเหวอ มือเรียวรีบตะปบปิดปากตนทันควัน
“คิคิ”
“ห้ามหัวเราะนะ”
“คร๊าบบ งั้นแทคไปล่ะ จะรีบไปรับกลับ ” ทว่ายังไม่ทันจะแทคยอนจะได้ขยับไปไหน ไฟฟ้าภายในบ้านก็พร้อมใจกันดับพรึ่บ คนที่กลัวความมืด นั่งแหกปากลั่น
“ว๊ากกกกกก” มือเรียวรีบคว้าแขนหนาๆของแทคยอนมากอดไว้แน่น “ .. แทคทำไมไฟดับ”
“อ่อ บ้านหลังนี้ตั้งระบบตัดไฟอัตโนมัติหน่ะ ”
“งื่ออออ มืดตึ๊ดตื๋อเลย”
“นี่คุณยังไม่เลิกกลัวความมืดเหมือนตอนเด็กๆ อีกเหรอ”
“ของแบบนี้มันเลิกกันได้ง่ายๆรึไงเล่า” คนถูกล้อเลียนแหวใส่ด้วยความหงุดหงิด
“เดี๋ยวแทคไปเอาไฟฉายก่อน คุณคอยเดี๋ยวนะ”
“ม่ายยย!!!” นิชคุณร้องเสียงหลงรีบโผเข้าคว้าคอคนที่กำลังจะผละหนี “ .. ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นหล่ะ นั่งอยู่กับฉันตรงนี้”
“ไม่มีไฟห้องมันมืดนะ คุณไม่กลัวเหรอ”
“...”
“แทคไปเอาแป๊ปเดียว”
“งั้นนายต้องร้องเพลงด้วย ฉันไม่อยากอยู่เงียบๆ” นิชคุณบอกเสียงอ่อย ปล่อยมือออก “ร้องดังๆ นะ”
“โอเค .. ”แทคยอนอาศัยความเคยชินในความมืดเดินออกจากห้องไปโดยไม่ลืมร้องเพลง “ .. ผีฟ้าเอยหมู่เฮาเต้นรำ เลือดดดข้าต้องการเลือดดดดด
“อ๊ากกก ไอ้บ้า เปลี่ยนเพลงโว๊ยยย!!!!” นิชคุณว๊าก ใจเต้นตุบๆ กลัวว่ามุมมืดๆของห้องจะมีสัตว์ประหลาดออกมา เหมือนในหนังสยองขวัญ
“คิคิ .. แล้วคุณจะฟังเพลงอะไรอ่า” แทคยอนถามกลับในความมืด ในขณะที่มือก็ควานหาไฟฉายในลิ้นชัก
“ไม่รู้เว่ย จะร้องอะไรก็ร้อง อ่อ อย่าลืมเอาพลาสเตอร์ปิดแผลมาด้วยนะ”
“เป็นห่วงแทคเหรอ”
“ไม่!” ตอบกลับแบบชัดถ้อยชัดคำ
แทคยอนยิ้มแล้วส่ายหัว ก่อนจะฮัมเพลง “มีฟอร์มแบบเนี๊ยนะ แบบเนี๊ยนะ แบบเนี๊ยนะ ยิ่งเวลาเธอนั้นหยิ่งหนะน่ารักซะน่ารักซะ..เวลาเธอมองค้อนเหมือนศรรักมันปัก โอ๊ย โอ๊ย ฉันยิ่งเป็นหนัก อยากชูปีดูปีดูคนน่ารักรักคนมีฟอร์ม.”
“เจอรึยางงแทคค”
“เจอแล้วๆๆ” แทคยอนเดินฉายไฟกลับเข้ามาภายในห้องนอน เอื้อมมือประคองชามไข่ แล้วตักเข้าจ่อปากคนรัก “ .. คุณกินก็ฝืนใจกินอ๊วกหมาสักคำนะ จะกินยา แล้วนอน อ้ามมม”
นิชคุณจำใจกลืนของเหลวในช้อน หรี่ตามองอีกนิดเพือความแน่ใจอีกนิด แล้วเผลอยิ้มบางๆ เพราะรสชาติมันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ติดจะอร่อยด้วยซ้ำไป
“อิ่มแล้ว”
“งั้นกินยานะ” แทคยอนยิ้ม ส่งยาพร้อมน้ำเปล่าให้ ก่อนจะจัดหมอนกับผ้าห่ม “นอนได้แล้ว”
“ไม่ ส่งมือมาก่อน ”
แทคยอนยิ้มส่งมือให้อย่างว่าง่าย
นิชคุณแกะพาสเตอร์ยาออกแล้วแปะลงบนปลายนิ้วของแทคยอน ก่อนจะล้มตัวลงนอน โดยไม่ลืมรั้งให้แทคยอนให้ล้มตัวลงนอนด้วย มือเรียวกอดกระชับท่อนแขนหนา เรียวขาสวยเพรียวเกาะเกี่ยวไม่ให้อีกฝ่ายลุกหนีแล้วทิ้งตนไว้ในความมืดเพียงลำพัง
แทคยอนกลั้นขำมองคนที่กอดตนแน่นอย่างเอ็นดู "หายโกรธแทคแล้วเหรอ"
"ยัง"
"อ้าวแล้วมานอนกอดแทคทำไมหล่ะ"
"กลัว"
"ฮ่าๆๆ " แทคยอนระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น เออหนอ ...นี่กลัวจนลืมไปแล้วว่างอนอยู่ และดูท่าจะกลัวมากเสียด้วยถึงกอดแน่นไม่ยอมปล่อย
"ไม่ตลก!" นิชคุณเงยหน้าแดงช้ำของตัวเองมองคนช่างล้ออย่างเอาเรื่อง
"ขอโทษ.." แทคยอนถอนหายใจเบาๆ ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยที่แก้มแดงๆเบาๆ "..แทคขอโทษ ในทุกๆเรื่อง ที่ทำลงไป ขอโทษที่ทำอาหารแย่ๆให้กิน ขอโทษที่ล้อเลียน ขอโทษที่ไม่มีเหตุผล ..และ "
ประโยคสุดท้ายมาพร้อมๆกับการกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น ริมฝีปากประทับลงบนกลีบปากบวมช้ำ "... และขอโทษที่รังแกคุณ"
คนที่อยู่ในอ้อมกอดไม่ได้มีคำพูดใดๆ เพียงแต่ซุกกายเข้าหาความอบอุ่น
พ่อเลี้ยงหนุ่มตวัดผ้าห่มขึ้นคลุมทั้งเขาและคนข้างกาย ที่ตอนนี้กำลังผ่อนลมหายใจสม่ำเสมอแสดงให้เห็นว่าหลับไปแล้ว
"ฝันดีครับ" เขากระซิบบอกก่อนจะหลับไหลตามเจ้าตัวเล็กไปอีกคน
+ .........+ + ......... + + ......... + + ......... + + ......... + + ......... + + ......... + + ......... ++
คุยกัน คุยกัน
‘I'm sick’ มันคือเหตุผลที่แต่งฟิคได้ เอิ่มมมม ‘ป่วง’ 555
ช่วงนี้ชีวิตดราม่าหนักมากก ไอ้ครั้นจะเขียนฟิคให้มาม่าอีกก็กระไรอยู่ .. สงสารฮอท T^T
.. งื่ออ ฮอทต้องสู้นะ! .. บ่ายไม่มีใครเลย บ่ายมีแต่เรานี่หล่ะ ทุกวันนี้เหมือนบ่ายทำงานให้พวกแอนตี้ตัวเองยังไงก็ไม่รุ ตั้งแต่ผู้บริหารยันโคดี้ บุคลากรในบริษัท แมร่งทำห่าอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง โปรโมทก็ห่วย ประสานงานก็แย่ แล้วนี่บอกจะฟ้องก็ไม่รู้ว่า ฝ่ายกฎหมายมันตื่นมาทำงานกันรึยัง .. เกลียด !!
แต่ถ้าคิดบวกแบบโลกสวย ‘Positive Thinking’ เลื่อนก็ดี น้องจะได้มีเวลาพักจิบน้ำขิงบ้าง วงไม่ดังก็เงี๊ยะหล่ะ มีแต่งานคอน ฯ ต่างประเทศ รับแต่เงินเยน เงินหยวน เงินดอล เงินวอนเคยได้รับรึเปล่าก็ไม่รู้ แถมปู่ยังไม่หายดี ด้งก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัดผมรึยัง ชานนูนอยังไม่ได้ใช้ตังค์เลย แถมหนูนิชกะแฟนก็ยังแข่งกันโคฟเป็นซาลาเปาอีก นี่ต้องให้เวลาแทคคุณฟิตหุ่นหน่อย sit-up แบบคู่รักไรงี้ sitไปจุ๊บไป ฟินจะตาย 555
enjoy reading
kanka
ความคิดเห็น