การชาร์ตแบตเตอรี่อย่างถูกหลัก วิชาการ - การชาร์ตแบตเตอรี่อย่างถูกหลัก วิชาการ นิยาย การชาร์ตแบตเตอรี่อย่างถูกหลัก วิชาการ : Dek-D.com - Writer

    การชาร์ตแบตเตอรี่อย่างถูกหลัก วิชาการ

    อีกหนึ่งในคำถามยอดฮิตก็คือ ชาต์แบตเตอรี่อย่างไรให้ใช้งานได้นานๆ

    ผู้เข้าชมรวม

    653

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    653

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  7 มี.ค. 50 / 21:05 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      อีกหนึ่งในคำถามยอดฮิตก็คือ ชาต์แบตเตอรี่อย่างไรให้ใช้งานได้นานๆ

      แน่นอนครับว่าการชาร์ตแบตเตอรี่อย่างถูกวิธีนั่นจะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ไม่ให้เสื่อมสภาพเร็วเกินไป แต่ผู้ใช้งานมักจะสับสนว่าวิธีชาร์ตที่ถูกต้องนั้นต้องทำอย่างไร เพราะบางคนก็บอกว่าต้องแบตฯ หมดแล้วค่อยชาร์ต บางคนก็บอกว่าชาร์ตได้เลยไม่ต้องรอให้แบตฯ หมดแต่ต้องชาร์ตให้เต็มแล้วค่อยเอามาใช้ หรือบางคนก็บอกว่าชาร์ตยังไงก็ได้จะเสียบเข้าเสียบออกกี่ครั้งก็ได้ตามใจ

      ในหัวข้อนี้ผู้เขียนจะมาไขความจริงเกี่ยวกับแบตเตอรี่ให้กระจ่าง ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าแบตเตอรี่แบบชาร์ตไฟใหม่ได้ ที่มีใช้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีอยู่ 4 ประเภทครับ ซึ่งแต่ละประเภทก็มีวิธีดูแลรักษาและการชาร์ตที่ต่างกัน ดังนั้นควรดูให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่ของคุณเป็นแบตฯ ประเภทไหน โดยดูจากข้อความที่ติดอยู่บนตัวแบตเตอรี่ หรือถ้าไม่สามารถถอดออกมาดูได้ก็ให้สอบถามไปยังผู้ผลิตอุปกรณ์ว่าแบตเตอรี่ที่แถมมานั้นเป็นแบบใด

      แบตเตอรี่แบบ Nickel-cadmium (Ni-Cd หรือ Ni-Cad)

      - ใช้ไฟให้หมดเกลี้ยงก่อนแล้วจึงค่อยทำการชาร์ตไฟใหม่
      - ไม่ควรชาร์ตแบบเร็ว (Quick Charge)
      - นำแบตเตอรี่ออกจากที่ชาร์ตทันทีหลังจากชาร์ตเต็มแล้ว

      แบตเตอรี่แบบ Nickel metal hydride (NiMH)

      - การชาร์ตเหมือนกับ Ni-Cd ทุกประการ  แต่สามารถใช้งานกับเครื่องชาร์ตแบบเร็ว (Quick Charge) ได้
      - ไม่ควรใช้กับเครื่องชาร์ตที่ไม่ตัดไฟเมื่อแบตเตอรี่เต็มหรือเครื่องชาร์ตที่จ่ายกำลังไฟน้อยกว่ามาตรฐาน
      - ในอุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่ NiMH หลายก้อนพร้อมกัน เมื่อแบตเตอรี่หมด ต้องนำแบตเตอรี่มาชาร์ตไฟใหม่ทันที
      -
      ในการใช้งานครั้งแรก หรือการใช้งานแบตเตอรี่เก่าเก็บไว้ไม่ได้ใช้งาน ต้องชาร์ตแบตเตอรี่ให้เต็มและใช้งานให้หมดไฟ 3-4 ครั้ง เพื่อกระตุ้นเซลล์แบตเตอรี่จึงจะได้ความจุแบตเตอรี่เต็มเหมือนปกติ

      แบตเตอรี่แบบ Lithium ion (Li-Ion)

      - เป็นแบตเตอรี่ที่ไม่เกิด Memory Effect และไม่ต้องดูแลรักษาระหว่างใช้งานมากเหมือนแบตเตอรี่ชนิดอื่นๆ
      - สามารถชาร์ตได้บ่อยครั้งตามต้องการโดยไม่มีผลทำให้แบตเตอรี่เสื่อม
      - สามารถชาร์ตแบตเตอร์รี่ค้างเอาไว้นานตามต้องการโดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อม
      - อายุการใช้งานของแบตเตอรี่แบบ
      Li-Ion ไม่ขึ้นกับวิธีการชาร์ต และจำนวนครั้งที่ชาร์ต เพราะแบตเตอรี่แบบนี้จะเสื่อมลงเองตามระยะเวลา โดยเริ่มเสื่อมตั้งแต่วันผลิตออกจากโรงงาน

      -
      แบตเตอรี่แบบ Li-Ion ไม่ควรใช้งานจนกระทั้งแบตเตอรี่หมดไฟ

      แบตเตอรี่แบบ Lithium ion polymer (Li-Poly หรือ LiPo)  

      - การดูแลรักษาและอายุการใช้งานเหมือนกับ Lithium ion (Li-Ion) (สามารถชาร์ตไฟได้บ่อยตามที่ต้องการ และมีอายุการนับตั้งแต่วันที่ผลิตโดยที่รูปแบบการใช้งานและการชาร์ตจะไม่ส่งผลให้อายุการใช้งานสั้นลง)

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×