ซานต้ามาแล้ว santa claus is coming to town - ซานต้ามาแล้ว santa claus is coming to town นิยาย ซานต้ามาแล้ว santa claus is coming to town : Dek-D.com - Writer

    ซานต้ามาแล้ว santa claus is coming to town

    ผู้เข้าชมรวม

    689

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    689

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 ธ.ค. 49 / 18:25 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ซานต้ามาแล้ว หรือ Santa Claus Is Coming to Town เป็นหนึ่งในเพลงยอดนิยมของเทศกาลคริสต์มาส ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ชอบกันมากว่า 70 ปีแล้ว เพราะเป็นเพลงที่แต่งขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.1934 (พ.ศ.2477) ไม่กี่ปีหลังจากที่พวกเรามีรัฐธรรมนูญที่จะถูกฉีกทิ้งเป็นฉบับแรก



      ที่ไหนกำลังเปิดเพลงคริสต์มาส ลองฟังๆ ไปสักประเดี๋ยวก็ต้องได้ยินเพลงนี้ ฝรั่งอเมริกันร้องกันมาตั้งแต่สมัยคุณทวดจนถึงคุณเหลน และไม่มีท่าว่าจะเบื่อง่ายๆ

      เป็นเพลงน่ารักสำหรับเด็กๆ เนื้อเพลงบอกว่า… คอยดูให้ดีนะ อย่าร้องไห้ อย่าหน้างอ จะบอกให้ว่าทำไม ก็แซนตาคลอสกำลังจะมาเมืองเราน่ะซิ

      You"d better watch out/Better not cry/Better not pout/I"m telling you why/Santa Claus is coming to town.

      ซานต้ากำลังทำรายการ ตรวจทานถ้วนถี่ คราวนี้ซานต้าจะรู้ว่าเด็กคนไหนเกเร คนไหนเป็นเด็กดี

      He"s making a list, checking it twice/Gonna find out who"s naughty and nice/Santa Claus is coming to town.

      แน่นอนว่า ใครเป็นเด็กดีก็ย่อมจะได้ของขวัญจากซานตาคลอส ซานตาคลอสนั้นคือนักบุญนิโคลัสแห่งไมรา (Saint Nicholas of Myra)

      ชื่อ Nicholas มาจากคำว่า "ไนกี้" nike ในภาษากรีกแปลว่า "ชัยชนะ" (เหมือนชื่อรองเท้ากีฬายี่ห้อดัง)

      ตามประวัตินักบุญผู้นี้เป็นชาวกรีกซึ่งได้ตำแหน่งบิชอปหรือพระผู้ใหญ่ในคริสต์ศาสนาที่เมืองไมรา อันเป็นเมืองท่าแถบเอเชียไมเนอร์

      นักบุญผู้มีชื่อเล่นว่า Saint Nick นี้ มีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่สี่ ตามประวัติว่าเป็นผู้มีความเมตตากรุณาอย่างยิ่ง ชอบช่วยเหลือคนตกยากและเด็กๆ เมื่อมรณกรรมไปแล้วจึงได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญในศาสนาคริสต์

      กรีกและรัสเซียถือว่าเซนต์นิโคลัสเป็นนักบุญประจำชาติของตน นอกจากนั้นชาวคริสต์ในยุโรปยังถือว่าท่านเป็นนักบุญผู้คุ้มครองเด็กๆ เจ้าสาว นักเดินทาง พ่อค้า และโรงจำนำ

      ประการหลังแปลกสักหน่อย แต่เป็นเพราะมีเรื่องเล่าว่า นักบุญนิโคลัสเคยเปลี่ยนถ่านสามก้อนให้เป็นทองคำเพื่อช่วยเหลือผู้ที่กำลังลำบาก

      โรงรับจำนำเมืองฝรั่งในครั้งกระโน้น จึงมีเครื่องหมายเป็นทองก้อนกลมสามลูกตามเรื่องเล่า เพื่อให้คนรู้ว่า ธุรกิจนี้ช่วยเหลือคนยากไร้ เหมือนกับที่นักบุญนิโคลัสเคยช่วยนั่นเอง

      ในภาพวาดของยุโรป นักบุญนิโคลัสมีรูปร่างสูง ผอม และใส่เสื้อคลุมสีน้ำตาล ชาวสแกนดิเนเวียนรวมนักบุญนิโคลัสเข้ากับเรื่องราวของเทพโอดิน ทำให้เกิดความเชื่อว่านักบุญผู้นี้เหาะเหินได้ พร้อมกันก็นำรางวัลมาให้คนดี และทำโทษคนไม่ดี

      ชาวดัชต์ซึ่งเรียกว่า นักบุญนิโคลัสว่า Sante Klaas นำความเชื่อเรื่องนี้ติดตัวไปอเมริกา พาให้ชาวคริสต์ซึ่งย้ายมาจากดินแดนอื่นร่วมเชื่อไปด้วย

      คนอเมริกันรับนักบุญนิโคลัสมาจากดัชต์ เลยไม่ยอมเรียกว่า "คุณพ่อคริสต์มาส" หรือ Father Christmas อย่างอังกฤษ แต่เรียกอย่างดัชต์ เพียงแต่สะกดให้ง่ายขึ้นว่า Santa Claus แทนที่จะเป็น Sante Klaas อย่างเดิม

      อเมริกันไม่เปลี่ยนชื่อท่านเฉยๆ ยังเปลี่ยนรูปร่างจากชายผอม-สูง มาเป็นคุณตาอ้วนกลม หนวดเคราขาว แก้มแดง อารมณ์ดีขนาดหัวเราะโฮ่-โฮ่-โฮ่ได้ยินกันทั่วๆ ในตรุษคริสต์มาส ส่วนสูทสีแดงที่เห็นกันจนชินตาในรูปวาดหรือในภาพยนตร์นั้น มาจากสีโฆษณาเครื่องดื่มโค้กหรือโคคา-โคลาในอดีต

      ปีนี้ซานต้าจะมาให้หรือไม่ให้ของขวัญเด็กคนไหนบ้างก็ไม่ทราบ แต่คุณ "ผู้อ่านรุ่นใหญ่" บ่นมาให้ฟังว่า ดูข่าวว่าในเมืองใหญ่บางแห่ง บรรดาร้านรวงไม่กล้าแต่งร้านฉลองคริสต์มาส เพราะกลัวคนก่อการร้าย แล้วรู้สึกเศร้าใจพิกล

      คงเป็นเพราะความที่เป็นคนไทย เห็นใครสนุก รื่นเริง หรือฉลองวันสำคัญอะไร ก็พลอยมีใจร่วมสนุกไปกับเขาด้วย ไม่ได้เคยคิดรังเกียจว่าไม่ใช่วันของเรา หรือไม่ใช่วันของศาสนาเรา ร่วมรื่นเริงยินดีได้เสมอ



      เพราะแท้จริงแล้ว แม้จะต่างศาสนา ต่างเผ่าพันธุ์ ต่างเชื้อชาติ เราก็เป็นมิตรและปรารถนาดีต่อกันได้อยู่แล้ว ในเมื่อมิตรฉลองวันสำคัญในช่วงเวลาอันสุขสันต์ เราก็พลอยสุขไปด้วยได้-การร่วมยินดีเมื่อมิตรเป็นสุข เป็นลักษณะหนึ่งของกัลยาณมิตรที่ศาสนาพุทธสอนไว้

      ในความจริงแล้ว วันคริสต์มาสเป็นวันแห่งศาสนา จุดประสงค์แท้จริงคือให้คนได้เข้าวัดวา และทำบุญทำทาน ให้ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้อื่น เช่นเดียวกับวันสำคัญของศาสนาอื่นๆ

      แต่กลุ่มคนที่ได้ประโยชน์ช่วยกันทำให้วันสำคัญนี้กลายเป็นเรื่องค้าขายและหากำรี้กำไรไปเสียหมด บางทีการลดความเว่อร์ตามร้านรวงและสถานที่ต่างๆ อาจจะเป็นการดีก็ได้

      ส่วนซานตาคลอสจะมาหรือไม่มา ยังน่าสงสัย

      เพราะหากซานต้าทำ "รายการ" อย่างที่ว่า ตรวจดูความประพฤติของผู้ใหญ่เหมือนที่ทำกับเด็ก ซานต้าก็คงพบว่ามีผู้ใหญ่เกเรมากมายในปีที่ผ่านไป เอารัดเอาเปรียบกัน รังแกกัน ทะเลาะกัน รวมไปถึงฆ่าแกงกันไม่เว้นแต่ละวัน

      ดู "รายการ" แล้ว คงมีไม่กี่เมืองในโลกนี้ที่ซานต้าจะนึกอยากไปเยือน

      เอ๊ะ...หรือเราควรจะร้องเพลง Santa Claus is NOT coming to town กันดี?

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×