สุสานหัวใจ Ivy Graveyard - นิยาย สุสานหัวใจ Ivy Graveyard : Dek-D.com - Writer
×

    สุสานหัวใจ Ivy Graveyard

    เขาใช้สมองนำทางหัวใจ เธอใช้หัวใจนำทางสมอง การรักใครสักคน ระหว่างสมองกับหัวใจเราควรเลือกสิ่งใด

    ผู้เข้าชมรวม

    3,977

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    3.97K

    ความคิดเห็น


    59

    คนติดตาม


    3
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  15 ส.ค. 55 / 09:10 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ผู้ชายดีๆ มักเป็นคนที่ "รักเธอมาก" แต่เธอไม่รัก

    ผู้ชายเลวๆ มักเป็นคนที่ "รักเธอ(มั้ง)" แต่เธอรักทั้งใจ
    คห.ในyoutube
      

    บทนำ

    ริมถนนสายบันเทิงยามราตรี หญิงชายคู่หนึ่งประคองกันและกันเดินบนทางเท้า แสงไฟจากเสาไฟฟ้าข้างทางและจากบรรดาร้านค้ายังเปิดสว่างแบบไฟล่อแมลงให้ติดกับดัก ทั้งคู่กำลังเดินเซไปข้างหน้า เสียงเพลงออน เดอะ ฟลอร์ของเจนนิเฟอร์ โลเปซฟิชเชอร์ริ่งพิทบูลล์ดังกระหึ่มอยู่ด้านหลัง ชายหนุ่มหยุดพักเพื่อให้หญิงสาวที่เขาช่วยประคองได้โก่งคอคายของเก่าออกมา เขาย่นจมูกเมื่อได้กลิ่นเหม็นเปรี้ยวของอาหารที่ถูกสำรอกปนเปกับกลิ่นเหล้าอย่างดีโชยออกมาจากทั้งคู่ เขาทำท่ารังเกียจก่อนจะช่วยพยุงให้เธอเดินต่อไป เสียงดนตรีที่กระหึ่มค่อยๆเบาลง ผู้ชายกับผู้หญิงอีกคู่วิ่งออกมาจากงานเลี้ยงคืนสู่เหย้าที่สนุกจนทำให้ลืมโลก ทั้งสองงอตัวอย่างเหนื่อยหอบแต่ดีใจที่ตามมาทัน

    ดูแลเธอดีๆล่ะ อย่าให้เสียชื่อเข้าใจมั้ย ไอ่น้องชาย ชายหนุ่มอีกคนพูดพร้อมตบบ่าน้องชายอย่างหนักจนอีกฝ่ายถึงกับเข่าทรุดเซเกือบจะล้ม

    เราทำถูกใช่มั้ยค่ะที่ปล่อยให้ทั้งสองคนไปด้วยกัน หญิงสาววิ่งตามมาชำเลืองมองหน้าเพื่อนสาวที่เมามากอาจถึงขั้นจำเลขที่บ้านไม่ได้

    ก็นี่มันแผนของเธอตั้งแต่แรกไม่ใช่เหรอ ชายหนุ่มพูด

    พี่ด้วยนั้นแหละ

    อย่าห่วงน่า เรื่องจะจบอย่างมีความสุข

    แน่นอนเรื่องจะจบลงแบบนั้น ทั้งสองยุติการสนทนาและมองดูคนทั้งคู่ค่อยๆเดินโซซัดโซเซไกลออกไป

    ราว-จา-ปาย-หนาย หญิงสาวผมกระเซิง สีน้ำตาลอ่อน รูปร่างได้มาตรฐานหญิงไทย ใบหน้าไม่มีอะไรโดดเด่น นอกจากดวงตาสีน้ำตาลที่มีความมุ่งมั่น จริงจัง และฉลาดอย่างที่ ผู้ชายร้ายๆเกลียด การแต่งตัวแสนจะมีศิลปะแบบ ศิลปินจิตหลุดโลก ฉันชอบแบบนี้ เธอชอบพูดประโยคนี้เวลาถูกทักเรื่องรสนิยมการแต่งตัว เสื้อกั๊กยีนส์เก่าๆสวมทับเสื้อยืดแขนสั้นบ้างยาวบ้างตามแต่สภาพอากาศของวันนั้นกับกระโปรงพลิ้วๆแบบสาวชาวเล สีของมันจะแสบสันต์หรือแสนหวานตามอารมณ์ เธอคือหนึ่งในสมาชิกชมรมผู้คงแก่เรียน รักการอ่านและงานศิลปะทุกแขนงแต่เอาดีไม่ได้สักอย่างยกเว้นเรื่องภาษาต่างประเทศที่มีความชำนาญใช้งานได้ถึงเจ็ดภาษา ด้วยรูปร่าง หน้าตาและความเป็นศิลปินจึงทำให้เธอโดดเด่นมากแต่ไม่ใช่ในแบบดึงดูดผู้คนให้เข้าหามันกลับผลักพวกเขาให้หลีกและหลบหน้า อาจเพราะพวกเขาไม่อยากถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดเวลาอยู่ใกล้เธอ มีเพื่อนตายเพียงหนึ่งย่อมดีกว่ามีเพื่อนกินนับร้อย ปรัชญาการคบคนของเธอ แม้จะมีความเป็นตัวของตัวเองสูงจนถูกมองว่าแปลกประหลาดแต่เธอก็มีภายในที่เหมือนผู้หญิงทุกคน หมายถึงจิตใจซึ่งเกลียดเป็น และรักเป็น ไม่มีผู้หญิงคนไหนโดยเฉพาะผู้หญิงในสังคมของเธอที่ไม่หลงเสน่ห์ผู้ชายอย่างเขา ก็ผู้ชายที่กำลังช่วยพยุงเธอ ถ้าเธอเป็นขั้วบวก เขาคงเป็นขั้วลบ เขาซึ่งมีหัวแบบหัวกามเทพ ผมหยักศกสีน้ำตาลเข้มรับกับคิ้วหนารูปคันธนู ดวงตาสีน้ำตาล     สวยเปล่งประกายแห่งความเชื่อมั่นในตัวเองมากถึงระดับที่เรียกได้ว่าเย่อหยิ่ง การแต่งกายไร้ที่ติตั้งแต่ทรงผมจนถึงรองเท้าที่สวม เนี้ยบจนเกือบเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นเกย์ เขาคือเทพบุษสุดหล่อที่มาจากตระกูลร่ำรวย ดีพร้อมทุกอย่างยกเว้นสิ่งเลวร้ายเพียง    สองสิ่งคือ หนึ่ง เขากลัวความผูกพันธ์ที่เป็นดังเชือกผูกมัดปีกแห่งอิสระซึ่งผู้ชายประเภทนี้รักและหวงแหน และสอง เขาเกลียดผู้หญิง อย่างเธอ ตอนที่พระเจ้าสร้างคนอย่างยายหวานใจพระองค์คงกำลังเมา เขาเคยพูดประโยคนี้ให้เพื่อนสนิทฟัง

                    สำหรับงานเลี้ยงคืนนี้พระเจ้าอาจจะไม่ได้เมาอย่างที่เขาเคยกล่าวหาหากแต่พระองค์กำลังทำให้เขาได้เรียนรู้ว่าแม้แต่นางแม่มดอัปลักษณ์ก็กลายเป็นนางฟ้าโฉมงามได้เวลาที่คนเราเมา

    ราว-จา-ปาย-หนาย-หรา-เท้-ร๊าก เธอถามซ้ำน้ำเสียงยานครางแทบจะฟังไม่ได้ศัพท์

    ไปในที่ที่มีแค่เธอกับฉัน เขาตอบด้วยเสียงล่องลอยเหมือนไม่ใช่เสียงของตัวเอง

    ฉ้าน-รัก- ร๊าก-คุณ เธอพูดมองหน้าเขาด้วยดวงตาหยาดเยิ้ม เขามองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอแล้วยิ้มอย่างไม่เข้าใจว่าที่เธอพูดนั้นมันมีความหมาย ทั้งสองหยุดเดินและเอนพิงรถสปอร์ตคันงามเพื่อพยุงตัว เธอทำท่าจะไถลลงไปกองพื้น เขาจึงโอบแขนรอบตัวเธอและพาเข้าไปนั่งในรถแล้วเดินอ้อมไปอีกทางนั่งลงประจำที่คนขับ รถถูกสตาร์ทเสียงเครื่องยนต์คำรามโอ้อวดก่อนจะขับไปยังจุดมุ่งหมายปลายทาง

    ****************************************************************************

    แสงสีทองสว่างจ้าของอาทิตย์ยามเช้าส่องลอดบานหน้าต่างกระจกปิดสนิทมีม่านบางๆแต่งริมผ้าด้วยลูกไม้สีขาวแต้มลายปักรูปดอกไม้สีแดงช่วยบังตาและแสงแดด ปกติก่อนตะวันจะขึ้นม่านจะถูกผูกรวบอย่างเรียบร้อยอยู่กลางบานหน้าต่างที่เปิดกว้างเตรียมต้อนรับเช้าวันใหม่ แต่...วันนี้...ต่างออกไป

    ไม่...ไม่จริง...เป็นไปไม่ได้!!!” นายสงกานต์ ราชานนท์ตื่นก่อนนานแล้วหากแต่เขายังไม่ยอมรับความจริง เขาสบัดหัวไล่ความมึนงง และยังเมาค้าง ชำเลืองมองผู้หญิงที่ยังคงหลับหนุนแขนของเขาซึ่งตอนนี้มันชาจนเกือบจะไร้ความรู้สึก เขาเกร็งแขนและค่อยๆผลักหัวของเธอออกเบาๆ บ้าฉิบ!” เสียงสบถของเขาทำให้เธอเริ่มขยับตัว เขาจึงรีบแกล้งหลับ

    ปวดหัว!” นางสาวหวานใจ รสสุคนธ์พูด ค่อยๆลืมตาขึ้น กะพริบตาสองสามทีเพื่อปรับให้ชินแสง เธอค่อยๆยันตัวขึ้น ยกมือกุมหัวที่เต้นตุบๆก่อนจะค่อยๆมองสำรวจตัวเอง ไม่มีเสื้อผ้าสวมอยู่สักชิ้นและยิ่งไปกว่านั้นมีผู้ชายนอนอยู่บนเตียงของเธอ

    ใคร?” เธอถามตัวเองเริ่มคลั่ง ฉันฝัน!... ฝันดี?... เธอพูดแล้วสบัดหัวไล่ความคิดนั้น ไม่!-ไม่! ฝันร้ายต่างหาก!!!” แล้วก็จ้องมองที่ผู้ชายเปลือยคนนั้นอีก สงกานต์อยากจะแกล้งหลับต่อไปแต่คงเป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดนักถ้าหากหวานใจเกิดบ้าคลั่งขึ้นมา เขาควรลืมตาไว้ เตรียมพร้อมป้องกันตัวด้วยดวงตาหวาดๆ คิ้วเข้มขมวดลงจนชนกัน เขาควรจะทำอย่างไร ยิ้มให้เธออย่างสดชื่นหรือแสร้งโกรธเพื่อกลบเกลื่อนแล้วก็ชิ่ง สมองซีกซ้ายยังไม่สร่างเมา เขาคิดอะไรไม่ออกนอกจากตีหน้าใสซื่อแต่เป็นการกระทำที่ผิดพลาดยิ่งกระตุ้นต่อมคลั่งในตัวเธออย่างจัง

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เธอร้องเสียงดังลั่น

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เขาร้องเสียงดังลั่นเช่นกันจึงประเมินไม่ได้ว่าใครตกใจมากกว่ากัน เสียงร้องของทั้งสองดังแทบทำให้หลอดไฟบนเพดานหล่นแตก เมื่อหมดแรงจะร้องและต่างก็ปวดแก้วหู ทั้งสองจึงหยุดมองหน้ากันราวกับอีกฝ่ายเป็นมนุษย์ต่างดาวที่หลงเข้ามาในโลกของตัวเอง

    เธอจะทำอะไรฉันเขาถามด้วยน้ำเสียงฟังงี่เง่าพลางดึงผ้าห่มแนบชิดตัวมากขึ้น กลัวว่าจะโดนอีกฝ่ายจู่โจม ไม่มี คำตอบจากเธอ สิ่งที่เขารับรู้คือแรงถีบแบบสุดแรงเกิด เขาพลัดตกจากเตียงนอนลงหงายหลังกุมท้องเปลือยล่อนจ้อน

    ช่วยด้วย!!!” สิ่งต่อมาที่หวานใจคิดออกเพื่อแก้ไขสถานการณ์ไม่คาดฝันคือร้องขอความช่วยเหลือที่ไม่มีวันมาถึง

    จะบ้ารึไง...เงียบ!” เขายืนตะโกนแข่งกับเสียงร้องอย่างสติแตกของเธอ

    ช่วยด้วยยย!!!”  

    เฮ้ย...เงียบซิวะ!!!” เขายกมือสองข้างขึ้นปิดหูตัวเอง เมื่อมือสองข้างเปลี่ยนไปทำหน้าที่ใหม่ ของรักที่เขาพยายามกุมปิดไว้ในตอนแรกก็เผยให้เห็นเต็มสองตา มันเป็นภาพอุจาดตาที่สุดสำหรับสาวโสดเคยเวอร์จิ้นอย่างเธอแต่คงเป็นภาพศิลปะเรือนร่างที่งดงามที่สุดสำหรับคนรักงานศิลป์  

    ออกไปปป!!!” เธอร้องลั่นเริ่มปาข้าวของพุ่งไปทุกทิศทุกทาง เขาวิ่งพล่านไปทั่วห้องมองหาเสื้อผ้าของตัวเอง สวมมันอย่างรีบร้อนและเผ่นแน่บออกจากห้อง เธอกระโดดลงจากเตียงนอนไปปิดประตูลงกลอนแน่นแล้วหันหน้ากลับมาสำรวจร่างกายตัวเอง รู้สึกประสาทเสีย มือ แขนและขารู้สึกชาวาบราวถูกแช่อยู่ในห้องที่อุณหภูมิติดลบ เธอพิงร่างกับประตูห้องค่อยๆทบทวนและตั้งคำถาม

     ‘เกิดอะไรขึ้นเธอถามตัวเองและกำลังร้องไห้ เขาเคยพูดว่าเกลียดฉัน เธอคิดถึงคำพูดร้ายๆที่ผ่านมาของสงกานต์นับตั้งแต่ได้รู้จักกัน เธอชอบเขาตั้งแรกครั้งแรกที่ได้ร่วมกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่ด้วยกันและยังคงชอบเขาเรื่อยมาตลอดระยะเวลาที่เรียนอยู่ในรั้วมหาลัยเดียวกัน

    ทำไม?’ เธอรู้จักเขาแต่คงรู้จักไม่ดีพอ เธอเคยรักเขา เคยเลิกรักเขาและสุดท้ายก็ยังคงรักเขา เธอกำลังร้องไห้ เขาเกลียดฉัน เธอพูดมันออกมาด้วยเสียงเบาและสั่นเครือ

                    สงกานต์วิ่งออกจากอาคารที่พักของหวานใจพลางทบทวนเหตุการณ์ กุญแจรถ?’ เขาคลำหากุญแจรถในกระเป๋ากางเกงโชคดีที่มันยังอยู่

    ฉันพลาด?”

    บ้าเอ้ย!” เขาสบถและทุบพวงมาลัยรถเพื่อระบายอารมณ์ก่อนจะบิดกุญแจรถสตาร์ทเครื่องยนต์

    ฉันกับยายบ้านนอก ติสท์แตกนั้น?”

    โลกนี้มันบ้าไปแล้ว!” เขานั่งอยู่ในรถพยายามควบคุมสติอารมณ์ เขาลองสูดหายใจเข้าออกช้าๆยาวๆเพื่อลดอัตราการเต้นของหัวใจให้ช้าลงจนอยู่ระดับปกติ เขาลองหลับตาและพยายามไม่คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาเคยพูดว่า ฉันเกลียดผู้หญิงแบบเธอ พอหลับตาแทนที่สมองจะทำงานช้าลงมันกลับดึงภาพต่างๆออกมาจากความทรงจำอย่างเร็วจี่ ถ้าเธอมาเรียกร้องให้ฉันรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ฉันจะบอกเธอไปว่า ฉันเมามาก ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น ฉันไม่มีสติ ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้และ ฉันจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับเธอบนเตียงนั้นไม่ได้ ดังนั้นฉันไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เข้าใจมั้ย ยายบ้านนอกติสท์แตก เขาคิดฟุ้งซ่าน ไม่-ต้อง-รับ-ผิด-ชอบ  ความคิดนี้กำลังทำให้เขารู้สึกแย่จนพะอืดพะอม เขาลองสบัดหัวแรงๆราวกับว่ามันจะขับไล่ภาพเมื่อคืนออกจากหัว ฉัน-ไม่-ได้-ตั้ง-ใจ-ให้-มัน-เกิด-ขึ้นเขาคิดแต่เป็นความคิดที่ขัดแย้งกับความรู้สึกอย่างรุนแรง ถึงกระทั่งตอนนี้เขายังหาคำอธิบายให้ตัวเองไม่ได้ว่าเพราะอะไรเขาจึงไร้ประสิทธิภาพในการควบคุมตัวเอง เขารู้แก่ใจดีว่าการดื่มเหล้าแค่นั้นไม่ถึงกับทำให้เมาปลิ้น เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นเขาคงจำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ไม่ครบทุกรายละเอียดอย่างนี้

    หวานใจเมาล้มลงนอนหน้าห้องพักทั้งที่ยังไม่ไขประตู เขาเดินย้อนกลับไปช่วยเธอและเปิดประตูห้องเข้าไป พาไปนอนที่เตียง ทั้งเขาและเธอล้มลงไปพร้อมๆกัน เธอหลับไปทันทีที่ตัวสัมผัสฟูกนุ่ม เขาล้มคว่ำลงบนฟูกหนานุ่ม บนเตียงมือข้างหนึ่งพาดอยู่บนลำตัวของเธอเฉียดส่วนสำคัญไปนิดเดียว เขาผงกหัวขึ้น

    ยายบ้านนอกนี้ถ้าจะเมาเอาเรื่อง เขาพูดเสียงออแอ้มองใบหน้าของเธอซึ่งห่างจากใบหน้าของเขาเพียงหนึ่งฝ่ามือ

    มองใกล้ๆยายนี้หน้าตาก็ใช้ได้แฮะ ถ้าเลิกทำผมทรงรังนก ฟูฟ่อง เธอจะดูเป็นยังไง เขาพูด ยังคงมองใบหน้าของเธอในหัวเริ่มจินตนาการถึงความงามที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้เปลือกของทรงผมและเครื่องแต่งกายอาร์ตติสซะจิตหลุด เขาค่อยๆเอื้อมมือไปปัดผมที่ปรกใบหน้าของเธอเผยให้เห็นผิวเรียบเนียนใสไร้เครื่องสำอาง ตอนนี้แก้มแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์เหล้าที่ฉูบฉีดเลือดให้วิ่งผล่านไปทั่วร่าง เขาค่อยๆเคลื่อนมือจากเส้นผม แม้จะกระเซิงไม่เป็นทรงหากแต่นุ่มลื่นเพราะไม่เคยผ่านการทำร้ายผมด้วยสารเคมี เขาได้กลิ่นหอมจางๆคล้ายกลิ่นดอกไม้ พยายามนึกว่าเป็นกลิ่นของดอกอะไรที่เขารู้จักแต่นึกไม่ออก เขาขยับตัวเข้าไปใกล้เธออีกเพื่อสูดกลิ่นหอมนั้นเผื่อจะนึกชื่อดอกไม้ออก เขาเข้าใกล้เธอเกินไปแล้ว

     ฉันกำลังทำบ้าอะไรว่ะ!!!” เขาได้สติรีบดึงตัวเองออกห่างจากตัวเธอลุกนั่งพรวดพราดแต่ยังอยู่บนเตียงเดียวกันและยังใกล้เธอมากเกินไป ใจของเขาเต้นรัวแรงแทบจะได้ยินเสียงของมันดังออกมาข้างนอกอกเพียงเพราะเขากำลังมองดูริมฝีปากของเธอ ริมฝีปากนั้นบางแต่ดูนุ่มด้วยเนื้อหนัง สีแดงชุ่มชื่นเหมือนผลเชอรี่สุก เขากำลังเม้มปากเผลอเลียริมฝีปากขณะจินตนาการว่าถ้าได้กินเชอรี่สุกตอนนี้จะสุขใจสักแค่ไหน

    บ้าฉิบ!” เขาหยุดความคิดของตัวเองด้วยการสบถเสียงดังและสั่นหัวแรงๆ เสียงของเขาดังพอทำให้เธอตื่น เธอบิดตัวด้วยท่าทางอึดอัดก่อนจะค่อยๆลืมตาปรือ ดวงตาหยาดเยิ้มสมบูรณ์แบบฉบับของคนเมาปลิ้น เธอมองใบหน้าของเขาและยิ้มหวานทำให้ตาหยีแล้วก็พาดแขนทั้งสองลงบนไหล่ของเขาที่ตกตะลึงนั่งนิ่ง

    เท้-ร๊ากกก เธอพูดลากเสียงยาวแล้วโอบแขนทั้งสองข้างรอบคอของเขา ดึงให้เขาโน้มตัวลงมา เขาพยายามขืนตัวไว้อย่างสุดจะทานทน

    เธอเธอ-จะ-จะ-จะทำอะไร เขาตื่นเต้นจนพูดติดอ่างแต่ความหวังโชติช่วงก็ดับวูบลงเมื่อแขนของเธอค่อยๆเลื่อนไหลออกจากตัวเขา ลงไปวางอย่างไร้เรี่ยวแรงและไร้ทิศทาง เธอเหมือนจะหลับไปอีก เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ใจยังคงเต้นรัว ยังคงมองอยู่ที่ใบหน้าของเธอและเลื่อนไปมองเสื้อกั๊กสวมทับเสื้อยืดมันดูน่าอึดอัดและกระโปรงตัวยาวคลุมเข่านั้นก็รุ่มร่ามน่าจะทำให้ร้อน เธอขยับตัวอย่างอึดอัดอีก เขาเริ่มจินตนาการและเคลื่อนมือไปที่เสื้อกั๊กยีนส์

    ฉันแค่จะช่วยให้เธอไม่อึดอัด เขาพูดและถอดเสื้อตัวนั้นออกให้เธอ เมื่อไม่มีเสื้อหนาหนักเช่นนั้นปกคลุมตัวด้านบนทำให้เขาเห็นจังหวะการกระเพื่อมขึ้นลงขณะที่เธอหายใจเข้าออก เขาอยากหยุดมองแต่ในหัวจินตนาการเตลิดไปไกล เขาพยายามควบคุมตัวเองและเปลี่ยนที่พักสายตาไปไว้ตรงอื่นไม่ใช่หน้าอกของเธอ เขาพาดวงตาของเขากลับมาหยุดตรงริมฝีปากของเธออีกครั้ง

    จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันจูบเธอ เขาถามตัวเองแต่กำลังคาดหวังให้เธอตอบ

    ฉ้าน ร๊าก ร๊าก ร๊าก คูนนน เธอละเมอพูดเสียงยานคราง เขาถือว่านั้นคือคำตอบอนุญาตแล้วเขาก็ทำตามใจต้องการเลิกสนใจสมองที่พยายามส่งเสียงเตือนภัย นายจะต้องยุ่งยากในภายหลังเสียงนั้นดังขึ้นในหัว ยายนี้ร้ายกว่าที่เห็น นายกำลังติดกับดักเสียงนั้นเตือนอีกแต่เขาไม่สนใจ ทันทีที่ริมฝีปากของเขาสัมผัสกับริมฝีปากของเธอมันเหมือนมีดาวนับล้านระเบิดอยู่ในหัวและใจเหมือนถูกระเบิดตูมขยายทางให้เลือดไหลเวียนได้มากขึ้นเร็วขึ้นดีขึ้นจนรู้สึกได้ถึงความร้อนในร่างกาย เขาบดริมฝีปากลงหนักขึ้นแต่ไม่ถึงกับรุนแรงกำลังเต็มไปด้วยความรู้สึกราวลิ้มรสชาดของผลเชอรี่สุกเคลือบน้ำผึ้งกลิ่นหอมยวนใจ เขายังคง ลุกล้ำเข้าไปเหมือนเธอจะตอบสนองสัมผัสแผ่ว เบาในตอนแรกและ   เริ่มฝืนมันเมื่อเขายังคงลุกล้ำเข้าไปในดินแดนอันหวงห้ามของเธอ แต่ทว่าเขาปล่อยใจไปไกลเกินกว่าจะถอยกลับ ไม่ ฟังเสียงเตือนในหัว ไม่สนการปฏิเสธจากตัวเธอ เขาบังคับและในที่สุดก็ควบคุมให้เธอเกิดความรู้สึกร่วมไปพร้อมๆกัน เขารู้ว่ากำลังทำผิดต่อเธอแต่เขาก็ไม่สามารถหยุดมันได้

    ความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างสงกานต์กับหวานใจครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปีแรกของการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย หลังจากเหตุการณ์คืนนั้นผ่านไป เมื่อหวานใจพยายามบอกตัวเองให้ ลืมและทำเป็นว่าไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้น สงกานต์จึงสนองตอบด้วยการไม่ชอบหวานใจมากขึ้นและประกาศให้เธอรู้ว่าเขาเกลียดผู้หญิงแบบนี้ ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองยังคงดำเนินต่อไปมีเรื่องราวทั้งที่สุขและทุกข์ เกิดขึ้นมากมาย ให้คนทั้งคู่ได้เรียนรู้ ได้รู้ว่าความรักที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไร

    ความรักที่แท้จริงนั้นย่อมไม่มีสิ่งชั่วร้ายเจือปน”- ขงจื้อ



     



     

     


    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น