ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Beautiful Stupid Love น่ารักเกินไปผู้ชายคนนี้

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 56


    THE★ FARRY


    บทนำ

     

                ฉันรู้สึกว่าชีวิตของฉันไม่ได้เกิดมาเพื่อเรียนเลยค่ะคุณ =__= ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาฉันก็ไม่เคยเรียนได้อันดับต้นๆ ของห้องเลยสักครั้ง เกรดก็อยู่ประมาณสามจุดหกกว่าๆ การแข่งขันวิชาการระดับประเทศก็ไม่เคยไปแข่งกับเขาเลย ผิดกับพี่ชายของฉันลิบลับ ฮีแกได้เกรดสี่ตั้งแต่อนุบาลหนึ่งยันปีหนึ่ง คณะแพทย์ ส่วนการแข่งขันนั้น ไม่ว่าจะเป็นรางวัลโครงงานวิทยาศาสตร์ เพชรยอดมงกุฎ หรือแม้แต่โอลิมปิก ฮีแกกวาดมาเรียบ

     

                ณ จุดนี้ ฉันรู้สึกเฟลกับชีวิตตัวเองมาก T V T ฉันอยากเรียนเก่งแบบพี่ชายบ้างอ่า พ่อแม่ฉันจะได้ภูมิใจในตัวฉันมากกว่านี้ ถึงแม้ว่าท่านจะชอบบอกฉันว่า คุณค่าคนไม่ได้ตัดสินที่เกรด แต่ฉันก็สัมผัสออร่าความเศร้าจากตัวท่านได้ ฉันเคยพยายามลองถามฮีแกนะว่า ได้กินอะไรบำรุงพิเศษรึเปล่า ฮีแกตอบมาว่า กินความรู้แค่วันละแปดชั่วโมงเท่านั้นเอง

     

                ห๊ะ!! คนบ้าอะไรกินความรู้วันละแปดชั่วโมง เอาจริงๆนะความรู้มันกินได้ซะที่ไหนกัน =..= ในเมื่อถามพี่ชายแล้วไม่ได้คำตอบที่ต้องการ ฉันเลยลองถามเพื่อนที่เรียนเก่งๆดู ส่วนใหญ่ก็แนะนำมาว่า ลองลงเรียนพิเศษดูสิ พอหลายคนแนะนำมา ฉันเลยรบเร้าแม่ให้จองคอร์สเรียนคณิตให้หน่อย แต่เมื่อไปเรียนแล้ว ฉันรู้สึกง่วงมากกกกก นั่งในห้องแอร์เย็นๆ เรียนกับแผ่นที่สะดุดโคตรบ่อย อาจารย์ในแผ่นก็แรปยิ่งกว่านักร้องอาร์แอนด์บี สรุปคือฉันหลับตลอดทั้งคอร์สเลยจ้า -_- ฉันคิดว่าการเรียนคงไม่เหมาะกับฉันจริงๆนั่นแหละ T { } T แต่ฉันยังไม่อยากไปเลี้ยงควายตั้งแต่มอสามหรอกนะ อนาคตฉันต้องยาวไกลกว่านี้สิ!

     

             ศนิปภาคย์! หยุดเหม่อแล้วตอบคำถามของครูเดียวนี้ ระบบนิเวศน์ประกอบด้วยอะไรบ้าง?

     

                “ศนิปภาคย์!!เสียงโหดๆของอาจารย์จินตหลา อาจารย์วิทยาศาสตร์สุดโหดเรียกฉันให้กลับมาสนใจสิ่งรอบข้างอีกครั้ง


     

                คะ! เอ่อ...ฉันพยายามเปิดหาคำตอบในหนังสือ ขณะที่สายตาเพื่อนทั้งห้องจ้องมาที่ฉันราวมีกับฉันยืนอยู่ใต้สปอร์ตไลท์

     

                พอๆหยุดเปิดเลย ครูบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าเหมอ ถ้าเธอเหม่อแล้วเรียนรู้เรื่องแบบพี่ชายเธอก็แล้วไป แต่นี่เธอเหม่อแล้วเรียนไม่รู้เรื่องอีก หัดทำตัวให้ได้ครึ่งหนึ่งของพี่ชายบ้างสิเจ๊แกทิ้งระเบิดตู้มใหญ่ใส่ฉัน ก่อนที่จะกลับไปสอนต่อท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนทั้งห้อง ฉันเม้มริมฝีก่อนจะนั่งลงที่เดิม แต่บังเอิญ หูเจ้ากรรมดันไปได้ยินคำพูดที่เสียดแทงจากเพื่อนกลุ่มข้างๆ


     

                ฉันไม่อยากเชื่ออ่ะ ศนิเป็นน้องสาวพี่โฮชิจริงหรอ ไม่เห็นเรียนเก่งเหมือนกันเลย

     

                “แรงอ่ะ เราว่านะศนิต้องโดนเก็บมาเลี้ยงแน่ๆเลย

     

                ยังไม่ทันจะหันไปดูหน้าคนพูด อาจารย์จินตหลาก็สั่งงานให้ทำไปเรื่อยๆก่อนจะหมดคาบ พอหันไปอีกทีคนที่พูดเรื่องของฉันก็เปลี่ยนหัวข้อคุยแล้ว ฉันเกลียดเวลามีใครสักคนเปรียบเทียบฉันกับพี่ชาย ซึ่งทุกๆคนรอบตัวฉันชอบทำอย่างนั้น 

     

                จบมอสามพวกแกจะไปต่อไหนอ่ะ เกรซ เพื่อนคนหนึ่งในโต๊ะถามขึ้น ฉันไม่สนิทกับเกรซเลย อันที่จริงฉันไม่สนิทกับใครในโต๊ะนี้ด้วยซ้ำ เพราะว่าอาจารย์จินตหลาสุ่มนักเรียนที่ไม่ค่อยสนิทกันให้มานั่งโต๊ะเดียวกัน เพื่อประสิทธิภาพในการเรียนที่เต็มที่ โชคร้ายที่โต๊ะที่ฉันนั่งด้วยมีแต่เด็กเก่งๆ

     

                คนแรกคือ เกรซ เรียนได้ที่สี่ของห้อง เกรดไม่เคยต่ำกว่าสามจุดเก้า วิชาที่ถนัดที่สุดคือ วิทยาศาสตร์  คนที่สองคือ ปิงปอง เรียนได้ที่สองของห้อง เกรดไม่เคยต่ำกว่าสามจุดเก้าห้า เซียนคณิตกับคอมพ์ ส่วนคนที่สามคือ หลิง เรียนได้ที่หนึ่งของห้อง เกรดไม่เคยต่ำกว่าสี่จุดศูนย์ศูนย์ วิชาที่ถนัดที่สุดคือทุกวิชา ฉันไม่อยากจะบอกหรอกนะว่าฉันรู้จักกับหลิงมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่เวลาเราอยู่ที่โรงเรียน เราไม่เคยคุยกันเลย เพราะระดับการเรียนของฉันมันต่างกับเขามากละมั้ง  หลิงจะมีนิสัยไม่ดีอยู่อย่างหนึ่ง เขาชอบเทียบตัวเองกับคนที่ด้อยกว่า ซึ่งคนที่โดนเขาเทียบบ่อยที่สุดก็คือฉัน แต่อย่าหวังเลยว่า เขาจะแสดงอาการนี้ออกมาต่อหน้าคนอื่น

     

                คงจะต่อห้องวิทย์ฯที่นี่แหละปิงปองตอบ ห้องวิทย์ฯที่เขาหมายถึงไม่ใช่ห้องทั่วไปในสายวิทย์ของโรงเรียนฉันนะ แต่เป็นห้องพิเศษสำหรับเด็กที่มีความสามารถพิเศษทางด้านวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เรียกให้อินเตอร์ก็ห้องกิ๊ฟเต็ดอ่ะ ห้องวิทย์ฯของโรงเรียนฉันเนี่ยมีคุณภาพมากเลยนะ มีทุนสนับสนุนให้เรียนถึงปริญญาโท และทุนไปเรียนต่อต่างประเทศด้วย พี่ชายฉันก็เรียนห้องวิทย์ฯที่นี่แหละ แต่ตอนนี้เขาเรียนจบไปแล้ว

     

                “แล้วหลิงล่ะเกรซถามหลิงต่อ

     

                หืม.. ก็คงจะไปลองเตรียมฯกับมหิดลฯละมั้ง แต่ก็อยู่ที่นี่แหละพูดจบหลิงก็ก้มหน้าทำการบ้านต่อไป เกรซก็หันมายิ้มแห้งๆให้ฉันเป็นนัยว่า ฉันคงไม่ต้องถามเธอละมั้ง เพราะน้ำหน้าอย่างเธอก็คงตายรังอยู่แถวๆนี้แหละ ไม่ได้ไปเรียนที่อื่นหรอก ฉันก็ได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆกลับไป


     

                แล้วศนิล่ะ แล้วเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดฝันก็เกิดขึ้น จู่ๆปิงปองที่ไม่เคยคุยกับฉันเลย กลับถามฉัน Y ______ Y ใครไม่ได้บันทึกภาพนี่พลาดสุดเลยจ้า
     

                เราหรอ?” เล่นตัวนิดนึง > W <

     

                “อืม

     

                “ห้องวิทย์ฯเหมือนกันฉันตอบด้วยสีหน้าสดใสสุดๆ แต่หลิงที่กำลังทำการบ้านอยู่กลับหัวเราะขึ้นมาดื้อๆซะงั้น

     

                ฮ่าๆ ศนิอยากสอบเข้าห้องวิทย์หรอ เกรดถึงรึเปล่าหลิงถามขณะที่หัวเราะน้ำตาไหล

     

                เกรดถึงจ้า เสียใจด้วยฉันจิกตาใส่หลิงก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงกวนตีนที่สุดท่าที่จะทำได้

     

                “หรอ? แล้วสมองอ่ะถึงป่ะโดนมุกนี้เข้าไปฉันเงิบเลยจ้า กลับบ้านไม่ถูกเลย ฉันพ่นลมออกมาทางจมูกก่อนจะทำการบ้านของตัวเองต่อไป เจอมุกนี้มาฉันก็เล่นต่อไม่ถูกเลย หลิงหัวเราะไปสักพักก่อนจะหยุด แล้วเริ่มสนใจฉันที่เงียบเกินเหตุ

     

                ศนิเราขอโทษเหมือนจะสำนึกได้หลิงเลยเขย่าแขนฉันรัวๆ

     

                ไม่ให้อภัยย่ะ!

     

                โกรธเราหรอ?” หลิงพยายามเอียงคอเพื่อมองหน้าฉันที่กำลังทำงานอยู่

     

                โกรธมากด้วยฉันตอบก่อนจะทำงานต่อไป หลิงทำหน้าเศร้าก่อนจะมองหน้าเพื่อนในโต๊ะประมาณว่า ฉันจะเอายังไงกับยัยนี่ดี แน่นอนย่ะ ร้อยวันพันปีฉันไม่เคยแสดงออกว่าโกรธใครแบบจริงจัง พอเจอฉันเงียบหน่อยก็ไปต่อไม่ถูกเลยสิ หึ! -__,-

     

                “นักเรียน เหลืออีกหน้านาทีเอางานมาวางตรงโต๊ะครูนะ เดี๋ยวครูไปเข้าห้องน้ำแปปนึงอาจาร์จินตหลาสั่งก่อนเดินออกไปจากห้อง ทันทีที่อาจารย์จินตหลาออกไป หลิงก็ลุกขึ้นยืน และทำสิ่งที่ฉันไม่คิดว่าคนอย่างเขาจะยอมทำ

     

                ทุกคน! ถ้าศนิสอบห้องวิทย์ฯติดด้วยคะแนนที่มากกว่าเรา เราจะยอมเป็นแฟนศนิเลยตอนนี้ทั้งห้องก็มีเสียงฮือฮา พวกผู้ชายก็ผิวปากแซว ฉันก็ทำได้มองหน้าหลิงด้วยสายตาที่แสดงออกถึงความขยะแขยง

     

                พูดลอยๆอย่างงี้ใครก็พูดได้ดิ แน่จริงสาบานกับศาลโรงเรียนป่ะล่ะ?”

     

                เอาดิว่าแล้วหลิงก็พนมมือก่อนจะกล่าวคำสาบาน

     

                ผม ธนัตช์ อัศวเศรษฐ์จะยอมเป็นแฟนกับศนิปภาคย์ ภานุมาศเดชา ถ้าเธอสอบติดห้องวิทย์ฯของโรงเรียนนี้ได้ด้วยคะแนนดีกว่าผม หากผมไม่ยอมปฏิบัติตามขอให้ฟ้าผ่าผมตายสิ้นคำสาบาน จู่ๆฝ่าก็ผ่าลงมาทั้งๆที่ท้องฟ้าแจ่มใส ทั้งหมดนี้เกิดใกล้เคียงกันราวกับว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในโรงเรียนได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว



     

              “นายเตรียมโดนฟ้าผ่าตายได้เลย - -++” ทันทีที่ออกจากห้องฉันก็ขู่หลิง ก่อนจะใช้ไหล่ของตัวเองกระแทกแขนของเข่าก่อนจะเดินออกไป คือมันต้องใช้ไหล่กระแทกไหล่ถูกป่ะ แต่ความสูงฉันไม่ถึงจ้า =___= ฉันสูงแค่ร้อยหกสิบสองเอง ส่วนหลิงนั้นสูงร้อยเจ็ดสิบกว่า บางทีฉันก็สงสัยนะว่า หลิงจะแข่งสูงไปสังเคราะห์แสงกับต้นไม้หรือยังไง ยิ่งอยู่หมอนี่ก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ที่พูดทั้งหมดเนี่ยไม่ได้อิจฉาเลยนะ -^-



     

                ทันทีที่ฉันกลับถึงบ้าน จิตสำนึกของฉันสั่งให้ฉันตรงดิ่งไปเคาะประตูห้องของพี่ชาย มันเหมือนมีเรื่องอะไรบางอย่างติดค้างในใจฉัน (แน่นอนว่า ไม่ใช่เรื่องที่หลิงสาบาน!) เป็นความรู้สึกที่ฉันไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความรู้สึกอยากเอาชนะ ยังไงล่ะ J   

                ก๊อกๆ

                พี่เปิดให้นิหน่อย -o-” ฉันเคาะประตูพลางส่งเสียงเรียกพี่ชาย

               “ไม่ได้ล็อค เสียงอนุญาตจากพี่ชายดังมาจากอีกฝากของประตู ฉันเปิดประตูเข้าไปก็พบกับพี่ชายของตัวเองกำลังนั่งต่อเลโก้อยู่บนเตียง บอกไปก็ไม่มีใครเชื่อว่าไอเด็กที่ต่อเลโก้คนนี้แหละเรียนได้เกรดสี่ตั้งแต่อนุบาล แล้วก็สอบติดคณะแพทย์ฯ มหาวิทยาลัยมหิดล =[]=!

                “มีไรอ่ะฮีแกหยุดจัดการกับเลโก้ก่อนจะหันมาพูดกับฉันด้วยท่าที่สบายๆ

                นิอยากสอบติดห้องวิทย์อ่ะ .____.” ฉันพูดเสียงอ่อยๆ

                ทำไมนิถึงอยากสอบ นิรู้ใช่ไหมว่า สอบแล้วนิจะต้องขยันมากๆ - -++”

                “นิรู้ แต่วันนี้นิรู้สึกอะไรบางอย่างอ่ะ นิไม่อยากใช้ชีวิตแบบนี้อีกแล้ว นิอยากเรียนเก่งบ้าง -3-”

                นิอยากเรียนเก่งไปทำอะไรอ่ะพี่ชายฉันถามอย่างด้วยน้ำเสียงจริงจัง

                นิยังไม่รู้หรอกว่าจะเรียนเก่งไปทำอะไร แต่นิรู้สึกว่านิต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว นิอยากเอาชนะคนที่เคยว่านิว่าเรียนไม่เก่งอ่ะ

                “หืมมม? ถึงพี่จะไม่ค่อยเห็นด้วยกับเหตุผลนิก็เถอะ แต่พี่ก็จะช่วยนิแล้วกันณ จุดนี้ฉันอยากบอกว่า ฉันยิ้มจนแก้มแทบจะปริออกมากอยู่แล้ว >____<

                “แต่ต้องมีข้อแม้ว่า นิห้ามบ่นอะไรทั้งสิ้นนะ พี่ชายพูดก่อนจะยืนนิ้วก้อยออกมาให้เกี่ยวสัญญา ฉันพยักหน้าก่อนจะเกี่ยวก้อยกับเขา


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×