คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ
ฉันรู้สึกว่าชีวิตของฉันไม่ได้เกิดมาเพื่อเรียนเลยค่ะคุณ =__= ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาฉันก็ไม่เคยเรียนได้อันดับต้นๆ ของห้องเลยสักครั้ง เกรดก็อยู่ประมาณสามจุดหกกว่าๆ การแข่งขันวิชาการระดับประเทศก็ไม่เคยไปแข่งกับเขาเลย ผิดกับพี่ชายของฉันลิบลับ ฮีแกได้เกรดสี่ตั้งแต่อนุบาลหนึ่งยันปีหนึ่ง คณะแพทย์ ส่วนการแข่งขันนั้น ไม่ว่าจะเป็นรางวัลโครงงานวิทยาศาสตร์ เพชรยอดมงกุฎ หรือแม้แต่โอลิมปิก ฮีแกกวาดมาเรียบ
ณ จุดนี้ ฉันรู้สึกเฟลกับชีวิตตัวเองมาก T V T ฉันอยากเรียนเก่งแบบพี่ชายบ้างอ่า พ่อแม่ฉันจะได้ภูมิใจในตัวฉันมากกว่านี้ ถึงแม้ว่าท่านจะชอบบอกฉันว่า คุณค่าคนไม่ได้ตัดสินที่เกรด แต่ฉันก็สัมผัสออร่าความเศร้าจากตัวท่านได้ ฉันเคยพยายามลองถามฮีแกนะว่า ได้กินอะไรบำรุงพิเศษรึเปล่า ฮีแกตอบมาว่า กินความรู้แค่วันละแปดชั่วโมงเท่านั้นเอง
ห๊ะ!! คนบ้าอะไรกินความรู้วันละแปดชั่วโมง เอาจริงๆนะความรู้มันกินได้ซะที่ไหนกัน =..= ในเมื่อถามพี่ชายแล้วไม่ได้คำตอบที่ต้องการ ฉันเลยลองถามเพื่อนที่เรียนเก่งๆดู ส่วนใหญ่ก็แนะนำมาว่า ลองลงเรียนพิเศษดูสิ พอหลายคนแนะนำมา ฉันเลยรบเร้าแม่ให้จองคอร์สเรียนคณิตให้หน่อย แต่เมื่อไปเรียนแล้ว ฉันรู้สึกง่วงมากกกกก นั่งในห้องแอร์เย็นๆ เรียนกับแผ่นที่สะดุดโคตรบ่อย อาจารย์ในแผ่นก็แรปยิ่งกว่านักร้องอาร์แอนด์บี สรุปคือฉันหลับตลอดทั้งคอร์สเลยจ้า -_- ฉันคิดว่าการเรียนคงไม่เหมาะกับฉันจริงๆนั่นแหละ T { } T แต่ฉันยังไม่อยากไปเลี้ยงควายตั้งแต่มอสามหรอกนะ อนาคตฉันต้องยาวไกลกว่านี้สิ!
“ศนิปภาคย์! หยุดเหม่อแล้วตอบคำถามของครูเดียวนี้ ระบบนิเวศน์ประกอบด้วยอะไรบ้าง?”
“ศนิปภาคย์!!” เสียงโหดๆของอาจารย์จินตหลา อาจารย์วิทยาศาสตร์สุดโหดเรียกฉันให้กลับมาสนใจสิ่งรอบข้างอีกครั้ง
“คะ! เอ่อ...” ฉันพยายามเปิดหาคำตอบในหนังสือ ขณะที่สายตาเพื่อนทั้งห้องจ้องมาที่ฉันราวมีกับฉันยืนอยู่ใต้สปอร์ตไลท์
“พอๆหยุดเปิดเลย ครูบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าเหมอ ถ้าเธอเหม่อแล้วเรียนรู้เรื่องแบบพี่ชายเธอก็แล้วไป แต่นี่เธอเหม่อแล้วเรียนไม่รู้เรื่องอีก หัดทำตัวให้ได้ครึ่งหนึ่งของพี่ชายบ้างสิ” เจ๊แกทิ้งระเบิดตู้มใหญ่ใส่ฉัน ก่อนที่จะกลับไปสอนต่อท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนทั้งห้อง ฉันเม้มริมฝีก่อนจะนั่งลงที่เดิม แต่บังเอิญ หูเจ้ากรรมดันไปได้ยินคำพูดที่เสียดแทงจากเพื่อนกลุ่มข้างๆ
“ฉันไม่อยากเชื่ออ่ะ ศนิเป็นน้องสาวพี่โฮชิจริงหรอ ไม่เห็นเรียนเก่งเหมือนกันเลย”
“แรงอ่ะ เราว่านะศนิต้องโดนเก็บมาเลี้ยงแน่ๆเลย”
ยังไม่ทันจะหันไปดูหน้าคนพูด อาจารย์จินตหลาก็สั่งงานให้ทำไปเรื่อยๆก่อนจะหมดคาบ พอหันไปอีกทีคนที่พูดเรื่องของฉันก็เปลี่ยนหัวข้อคุยแล้ว ฉันเกลียดเวลามีใครสักคนเปรียบเทียบฉันกับพี่ชาย ซึ่งทุกๆคนรอบตัวฉันชอบทำอย่างนั้น
“จบมอสามพวกแกจะไปต่อไหนอ่ะ” เกรซ เพื่อนคนหนึ่งในโต๊ะถามขึ้น ฉันไม่สนิทกับเกรซเลย อันที่จริงฉันไม่สนิทกับใครในโต๊ะนี้ด้วยซ้ำ เพราะว่าอาจารย์จินตหลาสุ่มนักเรียนที่ไม่ค่อยสนิทกันให้มานั่งโต๊ะเดียวกัน เพื่อประสิทธิภาพในการเรียนที่เต็มที่ โชคร้ายที่โต๊ะที่ฉันนั่งด้วยมีแต่เด็กเก่งๆ
คนแรกคือ เกรซ เรียนได้ที่สี่ของห้อง เกรดไม่เคยต่ำกว่าสามจุดเก้า วิชาที่ถนัดที่สุดคือ วิทยาศาสตร์ คนที่สองคือ ปิงปอง เรียนได้ที่สองของห้อง เกรดไม่เคยต่ำกว่าสามจุดเก้าห้า เซียนคณิตกับคอมพ์ ส่วนคนที่สามคือ หลิง เรียนได้ที่หนึ่งของห้อง เกรดไม่เคยต่ำกว่าสี่จุดศูนย์ศูนย์ วิชาที่ถนัดที่สุดคือทุกวิชา ฉันไม่อยากจะบอกหรอกนะว่าฉันรู้จักกับหลิงมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่เวลาเราอยู่ที่โรงเรียน เราไม่เคยคุยกันเลย เพราะระดับการเรียนของฉันมันต่างกับเขามากละมั้ง หลิงจะมีนิสัยไม่ดีอยู่อย่างหนึ่ง เขาชอบเทียบตัวเองกับคนที่ด้อยกว่า ซึ่งคนที่โดนเขาเทียบบ่อยที่สุดก็คือฉัน แต่อย่าหวังเลยว่า เขาจะแสดงอาการนี้ออกมาต่อหน้าคนอื่น
“คงจะต่อห้องวิทย์ฯที่นี่แหละ” ปิงปองตอบ ห้องวิทย์ฯที่เขาหมายถึงไม่ใช่ห้องทั่วไปในสายวิทย์ของโรงเรียนฉันนะ แต่เป็นห้องพิเศษสำหรับเด็กที่มีความสามารถพิเศษทางด้านวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เรียกให้อินเตอร์ก็ห้องกิ๊ฟเต็ดอ่ะ ห้องวิทย์ฯของโรงเรียนฉันเนี่ยมีคุณภาพมากเลยนะ มีทุนสนับสนุนให้เรียนถึงปริญญาโท และทุนไปเรียนต่อต่างประเทศด้วย พี่ชายฉันก็เรียนห้องวิทย์ฯที่นี่แหละ แต่ตอนนี้เขาเรียนจบไปแล้ว
“แล้วหลิงล่ะ” เกรซถามหลิงต่อ
“หืม.. ก็คงจะไปลองเตรียมฯกับมหิดลฯละมั้ง แต่ก็อยู่ที่นี่แหละ” พูดจบหลิงก็ก้มหน้าทำการบ้านต่อไป เกรซก็หันมายิ้มแห้งๆให้ฉันเป็นนัยว่า ฉันคงไม่ต้องถามเธอละมั้ง เพราะน้ำหน้าอย่างเธอก็คงตายรังอยู่แถวๆนี้แหละ ไม่ได้ไปเรียนที่อื่นหรอก ฉันก็ได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆกลับไป
“แล้วศนิล่ะ” แล้วเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดฝันก็เกิดขึ้น จู่ๆปิงปองที่ไม่เคยคุยกับฉันเลย กลับถามฉัน Y ______ Y ใครไม่ได้บันทึกภาพนี่พลาดสุดเลยจ้า
“เราหรอ?” เล่นตัวนิดนึง > W <
“อืม”
“ห้องวิทย์ฯเหมือนกัน” ฉันตอบด้วยสีหน้าสดใสสุดๆ แต่หลิงที่กำลังทำการบ้านอยู่กลับหัวเราะขึ้นมาดื้อๆซะงั้น
“ฮ่าๆ ศนิอยากสอบเข้าห้องวิทย์หรอ เกรดถึงรึเปล่า” หลิงถามขณะที่หัวเราะน้ำตาไหล
“เกรดถึงจ้า เสียใจด้วย” ฉันจิกตาใส่หลิงก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงกวนตีนที่สุดท่าที่จะทำได้
“หรอ? แล้วสมองอ่ะถึงป่ะ” โดนมุกนี้เข้าไปฉันเงิบเลยจ้า กลับบ้านไม่ถูกเลย ฉันพ่นลมออกมาทางจมูกก่อนจะทำการบ้านของตัวเองต่อไป เจอมุกนี้มาฉันก็เล่นต่อไม่ถูกเลย หลิงหัวเราะไปสักพักก่อนจะหยุด แล้วเริ่มสนใจฉันที่เงียบเกินเหตุ
“ศนิเราขอโทษ” เหมือนจะสำนึกได้หลิงเลยเขย่าแขนฉันรัวๆ
ไม่ให้อภัยย่ะ!
“โกรธเราหรอ?” หลิงพยายามเอียงคอเพื่อมองหน้าฉันที่กำลังทำงานอยู่
“โกรธมากด้วย” ฉันตอบก่อนจะทำงานต่อไป หลิงทำหน้าเศร้าก่อนจะมองหน้าเพื่อนในโต๊ะประมาณว่า ฉันจะเอายังไงกับยัยนี่ดี แน่นอนย่ะ ร้อยวันพันปีฉันไม่เคยแสดงออกว่าโกรธใครแบบจริงจัง พอเจอฉันเงียบหน่อยก็ไปต่อไม่ถูกเลยสิ หึ! -__,-
“นักเรียน เหลืออีกหน้านาทีเอางานมาวางตรงโต๊ะครูนะ เดี๋ยวครูไปเข้าห้องน้ำแปปนึง” อาจาร์จินตหลาสั่งก่อนเดินออกไปจากห้อง ทันทีที่อาจารย์จินตหลาออกไป หลิงก็ลุกขึ้นยืน และทำสิ่งที่ฉันไม่คิดว่าคนอย่างเขาจะยอมทำ
“ทุกคน! ถ้าศนิสอบห้องวิทย์ฯติดด้วยคะแนนที่มากกว่าเรา เราจะยอมเป็นแฟนศนิเลย”ตอนนี้ทั้งห้องก็มีเสียงฮือฮา พวกผู้ชายก็ผิวปากแซว ฉันก็ทำได้มองหน้าหลิงด้วยสายตาที่แสดงออกถึงความขยะแขยง
“พูดลอยๆอย่างงี้ใครก็พูดได้ดิ แน่จริงสาบานกับศาลโรงเรียนป่ะล่ะ?”
“เอาดิ” ว่าแล้วหลิงก็พนมมือก่อนจะกล่าวคำสาบาน
“ผม ธนัตช์ อัศวเศรษฐ์จะยอมเป็นแฟนกับศนิปภาคย์ ภานุมาศเดชา ถ้าเธอสอบติดห้องวิทย์ฯของโรงเรียนนี้ได้ด้วยคะแนนดีกว่าผม หากผมไม่ยอมปฏิบัติตามขอให้ฟ้าผ่าผมตาย” สิ้นคำสาบาน จู่ๆฝ่าก็ผ่าลงมาทั้งๆที่ท้องฟ้าแจ่มใส ทั้งหมดนี้เกิดใกล้เคียงกันราวกับว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในโรงเรียนได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว
“นายเตรียมโดนฟ้าผ่าตายได้เลย - -++” ทันทีที่ออกจากห้องฉันก็ขู่หลิง ก่อนจะใช้ไหล่ของตัวเองกระแทกแขนของเข่าก่อนจะเดินออกไป คือมันต้องใช้ไหล่กระแทกไหล่ถูกป่ะ แต่ความสูงฉันไม่ถึงจ้า =___= ฉันสูงแค่ร้อยหกสิบสองเอง ส่วนหลิงนั้นสูงร้อยเจ็ดสิบกว่า บางทีฉันก็สงสัยนะว่า หลิงจะแข่งสูงไปสังเคราะห์แสงกับต้นไม้หรือยังไง ยิ่งอยู่หมอนี่ก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ที่พูดทั้งหมดเนี่ยไม่ได้อิจฉาเลยนะ -^-
ทันทีที่ฉันกลับถึงบ้าน จิตสำนึกของฉันสั่งให้ฉันตรงดิ่งไปเคาะประตูห้องของพี่ชาย มันเหมือนมีเรื่องอะไรบางอย่างติดค้างในใจฉัน (แน่นอนว่า ไม่ใช่เรื่องที่หลิงสาบาน!) เป็นความรู้สึกที่ฉันไม่เคยรู้สึกมาก่อน ‘ความรู้สึกอยากเอาชนะ’ ยังไงล่ะ J
ก๊อกๆ
“พี่เปิดให้นิหน่อย -o-” ฉันเคาะประตูพลางส่งเสียงเรียกพี่ชาย
“ไม่ได้ล็อค” เสียงอนุญาตจากพี่ชายดังมาจากอีกฝากของประตู ฉันเปิดประตูเข้าไปก็พบกับพี่ชายของตัวเองกำลังนั่งต่อเลโก้อยู่บนเตียง บอกไปก็ไม่มีใครเชื่อว่าไอเด็กที่ต่อเลโก้คนนี้แหละเรียนได้เกรดสี่ตั้งแต่อนุบาล แล้วก็สอบติดคณะแพทย์ฯ มหาวิทยาลัยมหิดล =[]=!
“มีไรอ่ะ” ฮีแกหยุดจัดการกับเลโก้ก่อนจะหันมาพูดกับฉันด้วยท่าที่สบายๆ
“นิอยากสอบติดห้องวิทย์อ่ะ .____.” ฉันพูดเสียงอ่อยๆ
“ทำไมนิถึงอยากสอบ นิรู้ใช่ไหมว่า สอบแล้วนิจะต้องขยันมากๆ - -++”
“นิรู้ แต่วันนี้นิรู้สึกอะไรบางอย่างอ่ะ นิไม่อยากใช้ชีวิตแบบนี้อีกแล้ว นิอยากเรียนเก่งบ้าง -3-”
“นิอยากเรียนเก่งไปทำอะไรอ่ะ” พี่ชายฉันถามอย่างด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“นิยังไม่รู้หรอกว่าจะเรียนเก่งไปทำอะไร แต่นิรู้สึกว่านิต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว นิอยากเอาชนะคนที่เคยว่านิว่าเรียนไม่เก่งอ่ะ”
“หืมมม? ถึงพี่จะไม่ค่อยเห็นด้วยกับเหตุผลนิก็เถอะ แต่พี่ก็จะช่วยนิแล้วกัน” ณ จุดนี้ฉันอยากบอกว่า ฉันยิ้มจนแก้มแทบจะปริออกมากอยู่แล้ว >____<
“แต่ต้องมีข้อแม้ว่า นิห้ามบ่นอะไรทั้งสิ้นนะ” พี่ชายพูดก่อนจะยืนนิ้วก้อยออกมาให้เกี่ยวสัญญา ฉันพยักหน้าก่อนจะเกี่ยวก้อยกับเขา
ความคิดเห็น