ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MyTeacher ❥{KRISLAYxCHANBAEK}

    ลำดับตอนที่ #2 : My Teacher ❥ O n e [rewrite]

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ย. 57





     

    บทที่ 1

                บรรยากาศในตอนเปิดเรียนวันแรกนี่มันทำให้รู้สึกดีจริงๆเลย คุณว่าไหม ลมพัดอ่อนๆ มองไปทางไหนก็เห็นหลายๆคนคุยกับเพื่อน ผมอยากจะโพสต์เฟสบุ้คแล้วติด -รู้สึกสนุกสนาน ซะจริงๆ ถ้าไม่ติดว่า.... ตอนนี้ผมรอไอ้เพื่อนรักมา 2 ชั่วโมงกว่าแล้ว และอีกครึ่งชั่วโมงก็จะเป็นเวลาเรียนคลาสแรกในปีการศึกษานี้ อ้อ ลืมผมจะแนะนำตัว ผมชื่อ..

                “จาง อี้ชิง!!!!!!! นี่แกยืนทำไรอยู่ ถ้าฉันไม่เดินหาวันนี้ก็คงได้เจอกันหรอกมั้ง นัดไว้ดิบดีแท้ๆ อย่าลืมสิฉันเป็นคนเกาหลี!! พูดจีนก็ไม่คล่อง โรงเรียนก็ใช่ว่าจะเล็กๆ แกไม่เป็นห่วงเพื่อนแกเลยใช่มั้ย ห๊า!!!”นี่ไงเพื่อนตัวดีที่ผมพูดถึง เป็นไงล่ะตัวดีจริงๆ มาถึงก็ด่าผมฉอดๆ ผมผิดอะไรเนี่ย?

                “อะไรของแกวะ”

                “ก็แกบอกเองว่าให้รอที่หอศิลป์ตอน 6 โมง นี่มันแปดโมงแล้วแกมายืนทำไมตรงนี้”

                “...............”ผมมองหน้าเพื่อนตัวเล็ก มันเข้าใจอะไรผิด หรือผมอึนเอง

                “มองหน้าแบบนี้หมายความว่าไง”ผมพอจะรู้ละ.... แบคฮยอนแหงนหน้ามองตัวอักษรบนตึกช้าๆ ก่อนจะหันกลับมายิ้มแห้งๆให้ผม หึๆ ก็มันนั่นแหละที่รอผิดที่!

                “ก็แหม....ใครจะไปรู้ล่ะ นี่มันโรงเรียนศิลปะนะ มันก็หอศิลป์หมดและ เนอะ”ยังมีหน้ามาพูด

                “นอกจากจะไม่แข็งแรงภาษาจีนแล้ว อังกฤษก็ยังไม่ผ่านเลยนะแกน่ะ”ผมพูด แบคฮยอนเกาะแขนผมก่อนที่เราจะเดินไปที่ตึกเรียนพร้อมกัน โรงเรียนที่พวกเราเรียนคือโรงเรียนศิลปะและการดนตรีประเทศจีน เป็นโรงเรียนชั้นท็อป 3 ของประเทศ มีการสอบเข้าที่โหดพอตัว แบคฮยอนสนิทกับผมมาก พวกเราอยากหาประสบการณ์และทำตามความฝันของเขา ก็เลยจัดการย้ายตัวเองจากโซลมาอยู่ที่นี่แทน

     

                ผมไม่ค่อยจะมั่นใจในตัวแบคฮยอนเท่าไหร่เพราะหมอนี่เป็นลูกคุณหนู เคยมีชีวิตสุขสบาย และไม่เคยทำงานหนักๆมาก่อน ก็กลัวว่ามันจะร้องไห้หาแม่ซะก่อนจะจบ

                ส่วนผมหน่ะหรอ ผมไม่ได้มีความฝันที่แสนจะยิ่งใหญ่แบบแบคฮยอนหรอก ผมเป็นแค่เด็กจีนธรรมดาๆคนนึง ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยไปวันๆ แต่ผมมาเรียนที่นี่ก็เพราะ ผมได้แรงบันดาลใจมาจากคนคนนึงยังไงหล่ะ...............

     

     

                “แบคฮยอน นี่มันซอมบี้บุกตึกเรียนหรอ” ผมถามแบคฮยอนที่ก็งงเหมือนกับผม ก็แหงหละ มีใครไม่รู้ยืนออกันเต็มทางเดินและหน้าลิฟต์ในตึกหอศิลป์ ดูเหมือนจะเป็นพวกนักข่าวนะเพราะพวกเขามีกล้อง เอ๊ะหรือเป็นซาแซงกลุ่มใหญ่? ถึงแม้ในตึกจะมีพื้นที่กว้างมากๆ แต่ตอนนี้เนืองแน่นไปด้วยคนแปลกหน้าเต็มไปหมดจนไม่สามารถจะแทรกตัวเข้าไปได้ .............แล้วนี่...ผมจะขึ้นไปเรียนยังไง?

                “บ้าหรออี้ชิง นี่มันนักข่าว ซอมบี้ซอมเบ้ออะไรเล่า ไม่มีหรอก” นักข่าวงั้นหรอ แต่พวกเขามาทำไมในวันธรรมดาแถมเป็นเวลาเรียนแบบนี้ด้วยเนี่ย

     

                ตุ้บ!! โอ้ย!!!!!!!!!

                “หืมนังซอมบี้! คนตัวเท่าควายไม่เห็นรึไงวะชนได้! เป็นไงบ้างอี้ชิง เจ็บมั้ย”

                ไหนบอกไม่ใช่ซอมบี้ไงแบคฮยอน? ใครสักคนวิ่งชนผมล้มกองกับพื้น แถมตะโกนโหวกเหวกโวยวายอย่างกับแผ่นดินไหว

     

                “อาจารย์คริสตอบคำถามด้วยค่ะ”

                “อาจารย์คริสกล้องนี้หน่อยค่ะ”

                “คุณครูคริส กล้องนี้ค่ะกล้องนี้”

                คริสงั้นหรอ? พี่อี้ฟานรึเปล่า!!!! พี่อี้ฟาน......จริงๆงั้นหรอ นี่แหละคือคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมมาสอบเข้าโรงเรียนนี้หล่ะ

     

                พี่อี้ฟานหรือพี่คริส คุณครูสอนวิชาวาดภาพ คนที่ผมชอบมาตั้งแต่ยังไม่ขึ้นม.ปลาย อา......พูดแล้วก็เขินจัง พี่คริสเป็นคนเก่งมาก เขามีใบหน้าที่เพอร์เฟ็กต์ รูปร่างที่ดูดี และความสามารถในการวาดรูปที่เป็นเลิศ! เขาหน่ะถูกจองตัวให้มาสอนที่โรงเรียนนี้ด้วยค่าตัวที่สูงลิบลิ่วตั้งแต่ยังไม่จบมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ และถ้าได้เห็นภาพวาดของเค้า ทุกคนจะต้องไม่แปลกใจแน่ๆ เค้าเป็นคนมีพรสวรรค์ในด้านศิลปะมากๆ แต่ถึงเขาจะเป็นครูสอนที่นี่ แต่ก็มีไม่กี่คนหรอกที่เห็นเขาป้วนเปี้ยนไปมาในโรงเรียน นักเรียนที่เรียนที่นี่บอกว่ามีแค่นักเรียนสาขาศิลปะการวาดภาพเท่านั้นที่จะได้เจอกับพี่คริส น่าเสียดายที่ผมเลือกเรียนสาขาดนตรีและมิวสิคเคิล ผมหมดสิทธิ์จะได้เรียนในคลาสของพี่คริสแล้วใช่มั้ยT^T

     

                ร่างโปร่งที่สมบูรณ์แบบของอู๋อี้ฟานเคลื่นไปยังลิฟต์ตัวนึง เขาไม่ได้ตอบคำถามหรือแม้แต่จะมองกล้อง คริสเป็นคนอารมณ์ดี แต่ก็ไม่ได้ชอบพบปะผู้คนมากๆ เรียกได้ว่าเป็นคนนิ่งๆแต่อารมณ์ดีเสียมากกว่า หูทั้งสองข้างของเขาเสียบหูฟังราคาแพง และมือทั้งสองข้างก็เต็มไปด้วยอุปกรณ์ศิลปะที่ต้องใช้ในการสอนช่วงเช้านี้

     

                บอดี้การ์ดคนหนึ่งกดเปิดลิฟต์เพื่อให้คริสเข้าไปอย่างสะดวกสบาย เสียงของนักข่าวยังไม่ได้เงียบหายไปแต่คงอีกไม่นานที่โรงเรียนจะอยู่ในภาวะปกติ

     

     

                “อี้ชิงเราไปเรียนกันเถอะ” ผมลากอี้ชิงที่ยืนเอ๋ออ้าปากค้างอยู่นานนับนาที จะอึ้งอะไรนักหนากับอิแค่ครูสอนศิลปะหน้าตาเอ่อ.......ก็ดี แต่ช่างเถอะ ผมไม่คิดว่าอี้ชิงจะเป็นไปกับคนอื่นๆด้วย ใครๆต่างก็กรี๊ดกร๊าดพ่ออี้ฟานสุดหล่อ สำหรับผม คริสอิสนอทมายสไตล์

                “เป็นอะไร แกชอบพี่คริสเหมือนนังเด็กพวกนั้นรึไง ดูๆจะตามขึ้นลิฟต์อีก”

                “อะไร๊!! บ้า เปล๊า แกเรียนอะไรนะ”

                “ประสานเสียงเบื้องต้นอ่ะ”

                “ไปเลยยย ตึกนู้น”

                “ไกลนะอี้ชิง ส่งหน่อยๆ” ผมออดอ้อนอี้ชิงสุดแรงเกิด ผมไม่อยากเดินกลับไปตึกนั่นคนเดียวเลยซักนิด ก็มันมีแต่พวกผู้หญิงหน้าตาสวยๆแต่จิก แถมยังมีพวกรุ่นน้องมาเต๊าะผมด้วย

                “นี่ไอ้เพื่อนบ้า คลาสแกห้านาทีแต่ของฉันเลยมาสิบนาทีแล้ว รีบไปเลย ชิ่วๆ”ด่าและไล่ผมเสร็จอี้ชิงก็รีบวิ่งขึ้นลิฟต์ไปเลย T^T แก๊บซองงง นี่มันอะไรกันเนี่ย ถึงผมจะเข้มแข็งแต่นี่มันไม่มากไปหรอ ผมต้องเดินไปเรียนคนเดียวเลยนะ! ไม่ทนน~

     

     

                “นักเรียนจางเอกดนตรีคลาสสิค นักเรียนจางอยู่ในห้องมั้ยครับ คุณจาง อี้ชิง!

                “เอ่อครับมาครับ ผมเอง ผมจางอี้ชิงครับ พอดีข้างล่างการจราจรติดขัดนิดหน่อย แหะๆ”ผมเกท้ายทอยแก้เก้อ เข้าเรียนวันแรกก็สายซะแล้ว จะรอดมั้ยน่ะอี้ชิง

                คลาสวันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก อาจารย์ให้นักเรียนในคลาสทำความรู้จักกัน โดยวันนี้ไม่ได้เรียนพร้อมกันทั้งห้องแต่เป็นการเรียนตามสาขาโดยรวมนักเรียนสาขาเดียวกับผมทั้งปี 1 2 และ 3 นับว่าเป็นการเรียนที่แปลกใหม่ในโรงเรียนมัธยมปลาย......

                รุ่นน้องคนหนึ่งหน้าตาจิ้มลิ้มเข้ามาทักทายผมด้วยความเคอะเขิน เธอชื่อซูฮยอน เอกโวคอลเหมือนกับแบคฮยอนแต่สาขาเดียวกับผม ที่สำคัญเป็นคนเกาหลี ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่เพราะแต่ละปีจะมีโควต้ารับนักเรียน 150 คนจากเกาหลีมาเรียนที่นี่ ซึ่งแบคฮยอนก็เป็นหนึ่งในนั้น

                .

                .

                .

                .

                .

                .

     

                คลาสแรกที่ไร้อี้ชิงผ่านไปได้ด้วยดี เพราะผมเข้ากับคนง่ายหรอกนะ’^’! ยอมรับก็ได้ว่าการไม่มีอี้ชิงอยู่ข้างๆมันลำบากมากๆ 150 คนที่สอบเข้าโรงเรียนนี้มาได้มีสาขาเดียวกับผมแค่ 3 คน และ พวกเขาก็อยู่ปี 3 ส่วนปี 2 เน่าๆแบบผมก็ได้แต่ถูๆไถๆภาษาจีนไปบ้าง ยังดีที่ครูจุนมยอนเป็นคนเกาหลี ผมเลยสบายไปหนึ่งคลาส

               

                คลาสที่สองที่ไร้อี้ชิงT^T กำลังใกล้เข้ามา ผมเลือกที่จะไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าให้กะปรี้กะเปร่า ตอนนี้ผมมีเพื่อนที่นั่งข้างๆกันในคลาสแรก เราชอบอะไรคล้ายๆกันและเขาพอจะพูดเกาหลีได้บ้าง เค้าคือซิ่นเฉิง แต่เอกของซิ่นเฉิงคาบสองนี้ไม่ตรงกับผมและ ผมขอยืนยันว่าการไม่มีอี้ชิงอยู่ข้างๆมันลำบากสุดๆไปเลย

     

     

     

                ฉ่า! ฉ่า!

                ผมกวักน้ำลูบหน้าตัวเอง ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าที่ห้อง ตารางสอนบอกว่า ผมต้องไปเรียนที่ห้อง1402 ตึกแกลลอรี่ วิชานี้เป็นภาคทฤษฎี และจะเริ่มขึ้นอีกใน 10 นาที ผมควรไปหาอี้ชิงและกอดเค้าแรงๆสักทีดีมั้ย ตอนนี้ผมต้องการเขาเหลือเกิน............. ไม่ใช่เวลา เมื่อคิดได้อย่างนั้นผมจึงเดินไปที่ลิฟต์ทันที

                ติ๊ง

                ลิฟต์เปิดออกในชั้น 4 ซึ่ง ไม่ใช่ชั้นที่ผมจะลงหรอก แต่เพราะมีใครสักคนที่ต้องการจะลงไปข้างล่างจากชั้นนี้ ซึ่งอันทีจริงผมก็ไม่ต้องสนใจเค้าก็ได้ เพราะเค้าเป็นแค่รุ่นน้องปี 1 หัวแดง ตัดทรงกะลา ใบหน้าคม หูกางนิดนึง ปากสีแดงระเรื่อ ตัวสูงและไหล่กว้าง ผมควรจะกรี๊ดแต่ไม่เลย ทำไมแบคฮยอนต้องเจออิเด็กบ้านี่ที่นี่ตอนนี้ด้วยเนี่ย!!

     

                ความหลังของผม!

     

     

                ...............................

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    #ฟิคพี่คริสสอนศิลป์

     รีไรท์นิดนึงค่าเรางงๆประโยค แต่เนื้อหาเหมือนเดิมค่ะ
    ขอบคุณทุกคอมเม้นน้าจะกลับมาอัพแน่นอน ♥♥

     

     


    themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×