ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    PROMISE OF LOVE

    ลำดับตอนที่ #8 : Part 8

    • อัปเดตล่าสุด 17 ต.ค. 51


    *~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*

    PROMISE OF LOVE

     

    part 8

    *~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*

     

     

     

     

    เด็กชายอายุประมาณ  10  ขวบ  ซึ่งกำลังเดินเล่นในตลาดนอกวังดูของที่ร้านนั้นทีร้านนี้ทีอย่างสนุกสนาน  ในมือข้างหนึ่งถือขนมที่เพิ่งซื้อมา  เดินกินไปด้วย  ดูของไปด้วยไม่ทันได้ดูทางจึงเป็นเหตุให้เดินชนใครคนหนึ่งเข้าอย่างจัง  และดูเหมือนว่าอีกฝ่ายก็หาได้มองทางเช่นเดียวกันไม่  จนร่างบางของเด็กชายที่ถือขนมในมืออยู่ล้มลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น  ส่วนขนมในมือนั้นบัดนี้มันหล่นกระจายอยู่เต็มถนนไปหมด  เด็กชายร่างบางได้แต่มองดูขนมของตนอยู่อย่างนั้นพลางนึกเสียดายอยู่ในใจ  หากจะให้เขาซื้อมากินอีกเห็นทีคงจักไม่ได้เสียแล้ว  เนื่องจากเงินอันน้อยนิดที่ขอพ่อมาได้นั้นหมดไปแล้ว ยังไม่ทันที่จักได้คิดอะไรมากกว่านั้น  เขาเห็นมือใครสักคนยื่นมาตรงหน้าเขา  เมื่อเงยหน้าขึ้นเขาก็พบกับใบหน้าที่แสดงความห่วงใยอย่างจริงใจปราศจากแววตาเสแสร้งเช่นพวกผู้ใหญ่ที่มองมายังเขาของเด็กผู้ชายร่างโปร่ง

    เอ่อ  ข้าขอโทษ  เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง  เจ็บอะไรตรงไหนไหม  เด็กชายร่างโปร่งกล่าวถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง  เนื่องจากเขาเองก็ผิดที่เดินไม่ดูทางมัวแต่มองไปรอบๆจนเพลินทำให้เกิดชนเข้ากับอีกคน

    ข้าไม่เป็นไรหรอก  แค่นี้เอง  เล็กน้อย  เจ้าอย่าห่วงเลย  เด็กชายร่างบางที่เพิ่งลุกขึ้นยืนกล่าวตอบเด็กชายที่ให้เขายืมมือในการทรงตัวลุกขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริง  พลางส่งยิ้มที่ทำให้โลกทั้งใบราวกับหยุดหมุน  แววตาที่มองไปยังอีกฝ่ายนั้นหาได้มีแววความเจ็บปวดใดใดไม่  ทำให้เด็กอีกคนค่อยยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ

    ว้า  ดูสิ  ขนมที่เจ้าซื้อมาหล่นกระจัดกระจายหมดเลย  มา  เดี๋ยวข้าจักซื้อให้เจ้าเอง  ว่าแต่ชื่อของเจ้าเล่า  ข้าทางุจิ  จุนโนะสุเกะ  เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ  จุนโนะกล่าวกับเด็กอีกคนอย่างสนิทสนม  พลางแนะนำตัวเองเสร็จสรรพ  แล้วยิ้มจนตาปิดไปให้อีกฝ่าย

    ข้าอุเอดะ  ทัตสึยะ  ยินดีที่ได้รู้จัก  เอ่อ  แต่ข้าไม่เป็นไรหรอก  เจ้าไม่จำเป็นต้องซื้อให้ข้าหรอก  อุเอดะกล่าวแนะนำตัวเองกลับไป  พลางบอกปฏิเสธว่าไม่เป็นไร  ถึงแม้ว่าเขาจักยังเสียดายขนมนั้นยังไม่หายก็ตาม  แต่เขาก็เกรงใจจุนโนะ  เนื่องจากเพิ่งรู้จักกันเท่านั้น

    ไม่เป็นไรหรอก  งั้นถือซะว่า  ข้าเลี้ยงเจ้าเนื่องในโอกาสที่เรารู้จักกันไง  จุนโนะกล่าวพลางดึงมืออุเอดะให้เดินตามเข้าไปในร้านขายขนมโดยไม่ฟังคำทัดทานจากอีกฝ่ายแม้แต่น้อย

    เราไปหาที่นั่งกินขนมกันดีกว่า  ข้ามีที่ที่ชอบไปอยู่ที่หนึ่งด้วย  ตามข้ามาแล้วกัน  จุนโนะกล่าวจบพลางดึงมือเล็กให้เดินตามไปยังสถานที่นั้นอย่างไม่มีขัดขืนแต่อย่างใด

     

    ภาพที่อุเอดะเห็นนั้นคือ  ต้นไม้ใหญ่มีใบอยู่เต็มต้น  แล้วข้างๆต้นไม้นั่นก็คือ  ลำธารที่มีน้ำใสสายเล็กๆไหลพาดผ่าน  และหญ้าสีเขียวขจีทั่วบริเวณ  บรรยากาศสดชื่นยิ่งนัก  สถานที่นี้ทำให้ร่างเล็กตกหลุมรักตั้งแต่พริบตาแรกที่เห็นเลยทีเดียว  ทั้งที่เขาอยู่เมืองนี้มานาน  หากแต่เขาไม่เคยพบเห็นสถานที่เช่นนี้มาก่อน

     

    ภาพนั้นยังคงอยู่ในความทรงจำของเขามิเคยลืมเลือน  หลังจากวันนั้นเขาก็มานั่งกินขนมที่ใต้ต้นไม้กับจุนโนะทุกวัน  แล้วตั้งแต่เมื่อใดนะ  ที่ความรู้สึกของเขานั้นเริ่มเปลี่ยนไปจากเดิม  ความรักและมิตรภาพความเป็นเพื่อน ถูกเปลี่ยนเป็นความรักที่ต้องซ่อนเร้นมิอาจให้เจ้าตัวล่วงรู้ได้เลย  ความรักที่เจ็บปวดทรมาน  ดั่งคำโบราณว่าไว้  .........

    *::* ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์  แสนขื่นขม  ระทมชั่วนิรันดร์ *::*

    ...............ข้ารักเจ้า  ทางุจิ  จุนโนะสุเกะ............

     

     

    *~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*

     

     

    คาซึยะจัง  ทำอะไรอยู่ครับ  หืม  เจ้าชายจินทรงตรัสถาม  เมื่อเห็นว่าเจ้าชายคาซึยะทรงทำอะไรบางอย่างกับถังไม้ทรงกลมอยู่  เห็นว่าทรงกำลังยื่นมือลงไปในถังใบนั้น  พลางหัวเราะคิกคักแล้วมองเข้าไปในถังด้วยแววพระเนตรเป็นประกายหากแต่มันแฝงไว้ด้วยความอ่อนโยน

    อะ  ท่านพี่  ดูนี่สิเพคะ  จุนโนะไปพบเข้าจึงนำมาให้คาซึยะเพคะ  เจ้าชายน้อยเมื่อทรงได้ยินพระสุรเสียงทุ้มอันคุ้นเคยเรียก  จึงทรงละสายพระเนตรจากถังใบนั้นขึ้นมาสบเนตรกับเจ้าของเสียง  และยังเรียกเจ้าชายจินให้ดูสิ่งที่อยู่ในถังด้วยแววพระเนตรระยิบระยับ  และรอยแย้มพระสรวลที่ระบายอยู่ทั่วใบพระพักตร์บ่งบอกได้ว่าเจ้าตัวเล็กทรงรู้สึกตื่นเต้นเพียงใดที่จักนำเสนอสิ่งสิ่งนั้นเพียงใด

    หืม  อะไรหรือครับ  เจ้าชายทรงเดินมาใกล้และก้มหน้าลงดูสิ่งที่อยู่ในถังข้างกายคนรักตัวเล็ก  และเมื่อทอดพระเนตรเห็นสิ่งสิ่งนั้นกับท่าทางน่าเอ็นดูของผู้ที่นั่งอยู่ข้างๆ  ก็ทรงทำให้เจ้าชายจินอดที่จักอมยิ้มออกมามิได้ น่ารักจริงนะเจ้า  เข้าใจแล้วว่าเหตุใดเจ้าตัวเล็กของพระองค์จึงมีท่าทางรักใคร่และเอ็นดูเจ้าสิ่งนี้เหลือเกิน  ดูเอาเถิดตาก็มอง  ปากก็คลี่ยิ้มหวานพลางยื่นมือลงไปลูบๆคลำๆที่กระดองของมันเสียอีก  เห็นทีเจ้าตัวเล็กของพระองค์คงจักได้เพื่อนเล่นเป็นเต่าน้อยตัวเล็กๆนี่แทนพระองค์เสียแล้วกระมัง

    น่ารักหรือไม่เพคะท่านพี่  จุนโนะไปพบมันเข้าเมื่อรุ่งสางของวันนี้นี่เอง  และก็นำมาให้กับคาซึยะนี่แหละเพคะ  อ้อ  แล้วคาซึยะจะตั้งชื่อให้มันด้วยนะเพคะ  แต่ยังคิดไม่ออกเลย  ท่านพี่ช่วยคาซึยะคิดได้หรือไม่เพคะ  เจ้าชายน้อยทรงตรัสถามออกมาด้วยพระสุรเสียงใส  หากแต่ประโยคสุดท้ายนั้นช่างเบาราวกับเสียงกระซิบยิ่งนัก  เนื่องจากพระองค์รู้ดีว่าท่านพี่ทรงมีเวลาจักอยู่เล่นกับพระองค์น้อยนิดเหลือเกิน  จึงรู้สึกเกรงใจอีกฝ่ายที่ตนถามเช่นนั้นออกไป

    ได้สิครับ  เอ...... จะให้ชื่อว่าอะไรดีนะ  ชื่อว่าคิน  ดีหรือไม่เจ้า  เจ้าชายจินทรงตอบรับเพราะรู้ดีว่าช่วงนี้พระองค์หาได้มีโอกาสอยู่กับคนตรงหน้าเท่าใดนัก  ดีเพียงใดแล้วที่เจ้าตัวเล็กไม่น้อยใจอย่างที่เคยเป็น

    คินที่มาจากชื่อ  จินและคาซึยะ  อย่างไรเล่า  เป็นอย่างไร  เจ้าชอบหรือไม่  เจ้าชายทรงตรัสถามด้วยพระสุรเสียงอ่อนโยน  ไม่แพ้แววพระเนตรที่ส่งไปให้คนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

    คินหรือเพคะ  อืม.....  ซึยะว่ามันฟังดูห้วนๆอย่างไรพิกล  แต่คินก็คินเพคะ  เพราะเป็นชื่อที่ท่านพี่ทรงตั้งให้ทั้งที  ความจริงแล้วไม่ว่าชื่อใด  พระองค์ก็ชอบทั้งนั้น  เหตุเพราะเป็นชื่อที่ท่านพี่ทรงตั้งให้ด้วยใจ  ถึงแม้ว่าจักหาใช่ชื่อที่มาจากชื่อพระองค์กับท่านพี่ก็ตาม

     

    เจ้าชายพะยะค่ะ  แคว้นคุซาโนะบุกโจมตีหัวเมือง  NewS  พะยะค่ะ  เป้าหมายค่อไปคือยามาชิตะ  ข้าเตรียมไพร่พลไว้พร้อมแล้ว  รอเพียงคำสั่งจากเจ้าชายเท่านั้นพะยะค่ะ  ร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของโคคิกล่าวขึ้น หลังจากที่วิ่งตามหาเจ้าชายจินเสียเกือบทั่ววัง  จนในที่สุดก็เจอทรงอยู่กับเจ้าชายน้อย   ศาลากลางอุทยานนั่นเอง

    เจ้า  ว่าอย่างใดนะ  คุซาโนะอีกแล้วหรือนี่  เจ้าชายจินทรงถามกลับไป  ก่อนที่จักพึมพำกับองค์เอง  แล้วจึงหันไปหาเจ้าชายน้อยที่ทรงประทับนั่งอยู่ข้างๆ  และกำลังทอดพระเนตรมายังตัวพระองค์เช่นเดียวกัน

    ท่านพี่ไปเถิดเพคะ  อย่าได้ห่วงทางนี้  คาซึยะสัญญาเพคะ  ก่อนที่เจ้าชายจินจักทรงตรัสอะไรออกมา เจ้าชายน้อยที่ดูเหมือนว่าจักทรงเข้มแข็งและแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก  ทรงตรัสขึ้นเสียก่อน  พร้อมทั้งให้สัญญาที่รู้กันเพียงสองพระองค์เช่นที่เคยให้ไว้ในการศึกครั้งก่อนให้อีกฝ่ายสบายใจ  และดูคล้ายความนัยนี้จักส่งผ่านไปถึง  เจ้าชายจินก็ทรงพยักพระพักตร์รับ  และกล่าวสัญญาที่รู้กันเพียงสองพระองค์ว่าจักกลับมา  ไปให้เจ้าชายน้อย  ก่อนที่เจ้าชายจินจักทรงดำเนินจากไปนั้นได้หันมาสบตากับเจ้าของดวงหฤทัย  พร้อมกับส่งแย้มพระสรวลให้กัน  เป็นรอยแย้มพระสรวลที่แสดงความรู้สึกที่ทั้งสองพระองค์นั้นมีให้กัน

     

     

    *~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*

     

     

    ที่นี่  ที่ใดกันนะ  ร่างสูงกล่าวพึมพำกับตัวเอง  พลางลูบต้นแขนทั้งสองข้างของตัวเอง  เนื่องจากอากาศที่เย็นจัดรอบกาย  ทั้งที่เขาเองก็เดินไปยังทิศเดียวกับที่ท่านแม่ของแม่หญิงโทโมะชี้ให้แล้ว  แต่เหตุใดยิ่งเดิน  รอบกายยิ่งมืด  และดูเหมือนว่าอากาศจักเย็นลงมากกว่าเดิมเสียอีก  บัดนี้เขาไม่มีเรียวแรงเหลือพอที่จักเดินต่อไปแล้ว  ทำได้แค่เพียงนั่งชันเข่าขึ้นแล้วกอดตัวเองอยู่เช่นนั้น  เวลาผ่านไปนานเท่าใดเจ้าตัวก็หารู้ไม่

    ยูอิจิ  ยูอิจิ  มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทิศใดทิศหนึ่ง  เป็นเสียงเรียกที่ยูอิจิจำได้ไม่มีวันลืม  ถึงแม้เจ้าของเสียงนั้นจักจากเขาไปตั้งแต่เขายังเด็กอยู่ก็ตาม

    ท่านพ่อ  ท่านพ่อใช่หรือไม่ครับ  ร่างสูงถามขึ้นพลางหันหน้ามองซ้ายมองขวาเพื่อหาที่มาของเสียงนั้น

    ยูอิจิ  มาเถิดเวลาของลูกในโลกนี้หมดลงแล้ว  มากับพ่อ  แล้วลูกจักไม่หนาวอีก  เสียงพ่อกล่าวขึ้นอีก ในขณะที่รอบกายยูอิจิยังไม่คลายความมืดลงเลยแม้แต่น้อย

    แต่... ท่านพ่อ  ข้าอยากอยู่ช่วยท่านจินก่อนครับ  ยูอิจิร้องขอต่อท่านพ่อ  เขารู้ดีว่าขณะนี้ทั้งท่านจินและแคว้นกำลังลำบาก  อย่างน้อยเขาก็อยากที่จักตอบแทนบุญคุณของแคว้นบ้าง....  เป็นครั้งสุดท้าย

    ยูอิจิ  โชคชะตาได้ถูกกำหนดแล้ว  และลูกย่อมไม่มีสิทธิ์ต่อรองใดใด  มาเถิด  ถึงเวลาของลูกแล้ว  เสียงท่านพ่อกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนไม่เปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อนเลย

    ครับ  แต่ข้ามีสิ่งหนึ่งที่จักต้องทำก่อนไป  ใช้เวลาไม่นานหรอกครับ  แล้วข้าจักตามไป  ยูอิจิกล่าวจบจึงลุกเดินก้าวไปข้างหน้าสู่ความมืดมิด  หากแต่มันคือทางออกจากความมืดมิดและความหนาวเย็นที่เขากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้............................................

    ......................................................

    ...................................

    ...................

     

    ท่านคาซึยะ  ท่านคาซึยะเพคะ  ท่านยูอิจิ  ฮึก  ฮืออออ ....  ท่านยูอิจิแย่แล้วเพคะ

     

     

    *~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*

     

     

    หมู่บ้านยามาชิตะ  ยามค่ำคืน

    ภายในห้องนอนที่เงียบสงัดและมืดสลัวมีเพียงแสงสว่างจากดวงจันทราที่ส่องแสงลอดเข้ามา  ช่วยให้มองเห็นสิ่งต่างๆภายในห้องนั้นได้อย่างชัดเจน  ชายหนุ่มเดินตรงมายังฟูกนอนซึ่งภายในผ้าห่มผืนหนามียอดดวงใจของเขานอนสงบนิ่งจมลงสู่นิทรากาลแห่งความฝัน  เขาคุกเข่าและก้มลงจุมพิตบางเบาที่กลีบปากอิ่มสีเชอรี่ด้วยความทะนุถนอม  ละจากริมฝีปากอิ่มจึงเลื่อนใบหน้าไปข้างใบหูคนที่กำลังหลับใหลกระซิบเสียงอ่อนโยนแผ่วเบาว่า  ........ข้ารักท่าน .......

     

    ใครกันนะที่มากระซิบอยู่ข้างหู  หรือนางจักฝันไปเอง  พยายามลืมตาขึ้นมา  มองไปรอบตัวก็หาได้มีใครอยู่ในห้องไม่  นางยังจำได้ดีถึงสัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปาก  ความอบอุ่นยังคงตราตรึงอยู่ในความรู้สึก  แผ่ซ่านเข้าไปถึงหัวใจ  แล้วยังเสียงกระซิบอ่อนโยนนั้นอีก  ช่างเป็นน้ำเสียงที่คุ้นเคยยิ่งนัก  จู่ๆที่ดวงตาโตคู่สวยนั้น  พลันมีน้ำใสหลังไหลกันออกมาอย่างไม่ขาดสาย  เพียงผู้เดียวที่อยู่ในใจนางเวลานี้คือ  นากามารุ  ยูอิจิ  เจ้าของดวงใจของ  ยามาชิตะ  โทโมฮิสะ

    ...........................................................

    ...........................................

    ...........................

    ไม่มีอีกแล้ว  ทหารจมูกโตที่คอยมากวนใจนาง  ยามมาตรวจราชการที่นี่ ..............................

    ไม่มีอีกแล้ว  คนที่คอยบอกว่ารักให้นางรำคาญ(เสียง)ใจ(ที่มันเต้นแรง)...................................

    ไม่มีอีกแล้ว  คนที่ไม่มีมารยาทไม่รู้จักพี่ไม่รู้จักน้อง  หากแต่เขากลับค่อยๆมีอิทธิพลในใจของนางขึ้นทีละนิด...................

    ไม่มีอีกแล้ว  ยอดดวงใจของข้า......................................ยูอิจิ

     

     

    *~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*

     

     

     

    เจ้าว่าเช่นใดนะ  ฮิโระ  พี่ยู.......  เจ้าชายน้อยทรงกล่าวถามฮิโระ  เมื่ออีกฝ่ายนำความอาการล่าสุดของยูอิจิมาทูลบอก  เจ้าชายน้อยตรัสจบจึงทรงรีบวิ่งไปหายูอิจิที่ห้องตรวจทันที

     

    เมื่อมาถึง  เจ้าชายน้อยทรงเห็นเพียงร่างไร้วิญญาณของพี่ชายสุดที่รักนอนสงบนิ่งไร้การเคลื่อนไหวแต่อย่างใดอยู่บนเตียงคนไข้  ในที่สุดพระองค์ก็มาไม่ทัน  ไม่ทันได้ล่ำลากันเป็นครั้งสุดท้าย  พี่ยู  พี่ชายคนสำคัญในชีวิตของพระองค์  บัดนี้ได้จากพระองค์ไปอย่างไม่มีวันกลับเสียแล้ว  ร่างบางวาดเช็ดน้ำพระเนตรออกจากดวงเนตรคู่สวยซึ่งฉ่ำไปด้วยน้ำใสๆมากมาย  พระองค์ต้องเข้มแข็ง  พระองค์จักต้องไม่อ่อนแอ  ในเมื่อสัญญากับท่านพี่แล้วว่าจักอยู่ดูแลทางนี้  พระองค์ต้องทำให้ดีที่สุด  ร่างบางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ  และค่อยๆผ่อนลมหายใจออกมาอย่างช้าๆ ก่อนที่จักสั่งให้บรรดาทหารและนางกำนัลจัดเตรียมทำพิธีศพให้พี่ยู  และจะมีพิธีฝังศพพี่ยูในวันพรุ่ง

     

    คาซึยะจังครับ  ไปพักผ่อนที่ห้องก่อนไม่ดีกว่าหรือครับ  จุนโนะทูลถามอย่างเป็นห่วง  เนื่องจากเขาเห็นสีพระพักตร์ของคนตัวเล็กนั้นซีดเผือดราวกับคนจับไข้

    ไม่เป็นไรหรอกจุนโนะ  คาซึยะจักไปทูลบอกท่านลุงและท่านป้าเรื่องพี่ยูเสียก่อน  เจ้าชายน้อยทรงตรัสตอบ  อย่างไรเสียพระองค์ก็ปรารถนาที่จักบอกความแก่ท่านลุงท่านป้าด้วยองค์เอง  ถึงแม้ว่าพระองค์นั้นจักลำบากพระทัยก็ตาม  หากแต่มันเป็นหน้าที่ที่พระองค์จักต้องทำด้วยองค์เอง  เนื่องจากพระองค์รู้อยู่ว่าท่านลุงและท่านป้าทรงรักและเอ็นดูพวกพี่ยูมากเพียงใด  นั่นยิ่งต้องทำให้พระองค์เป็นฝ่ายกราบทูลความด้วยองค์เอง  หาใช่ผู้อื่นไม่

    ครับ  จุนโนะตอบรับ  ถึงแม้ว่าเขาจักเป็นห่วงเจ้าชายน้อยเพียงใด  แต่เขาก็ไม่สามารถขัดความตั้งใจของอีกฝ่ายได้  ทำได้แค่เพียงคอยดูแลอยู่ข้างๆกายเท่านั้น

     

     

    *~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*

     

     

    เป็นความจริงหรือ  คาซึยะ   ยูอิจิได้.......  พระราชินีอายะทรงถามเจ้าชายน้อยด้วยพระสุรเสียงอันสั่นคลอน

    ครับ  พี่ยู...เขา...ออกเดินทางไกลแล้วครับ  เจ้าชายน้อยทรงทูล  พยายามหลีกเลี่ยงที่จักใช้คำว่า  ตาย  เพื่อไม่ให้เสียดแทงใจผู้ฟังมากเกินควร  แต่ถึงอย่างไรมันก็ทำให้หยดน้ำใสๆร่วงลงมาจากดวงเนตรของพระราชินีอายะได้อย่างไม่ยากเย็น

    แล้วสั่งให้ทหารไปบอกจินแล้วหรือยัง  พระราชาทรงถามเจ้าชายน้อยด้วยเสียงราบเรียบ  แต่หากเป็นคนที่รู้จักพระองค์ดี  ย่อมรู้ว่าพระองค์ทรงพยายามกลั้นพระสุรเสียงไว้ให้เป็นปกติที่สุด

    ยังครับ  ข้าไม่อยากให้ท่านพี่ทรงเป็นกังวลเรื่องทางนี้จนไม่มีสมาธิในการรบครับ  เจ้าชายน้อยทรงตอบตามความรู้สึก

    ดีแล้ว  งั้นคาซึยะ  ลุงฝากเรื่องยูอิจิให้เจ้าจัดการด้วยนะ  พระราชาทรงตรัสกับเจ้าชายน้อย  พลางโอบบ่าของพระราชินีไว้หลวมๆ  แล้วจึงพาพระราชินีไปบรรทมที่เตียง

    งั้น  ข้าขอตัวตัวคาซึยะจังไปพักผ่อนก่อนนะครับ  จุนโนะทูลกับพระราชา  หลังจากที่เงียบอยู่นาน  เมื่อพระราชาพยักพระพักตร์อนุญาต  จุนโนะจึงพาเจ้าชายน้อยกลับห้องบรรทมทันที

     

     

    *~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*

     

     

     

    หลายวันต่อมาลางร้ายค่อยๆขยายตัวขึ้น  เมื่อศัตรูในที่มืดเริ่มปรากฏตัวขึ้นมาเพื่อทำลายแคว้นอาคานิชิให้ล่มสลายลง.................

     

    เช้านี้ก็เป็นเหมือนทุกเช้า  ที่เจ้าชายคาซึยะจักต้องทรงคอยดูแลพระราชาและพระราชินีซึ่งพระวรกายไม่ค่อยจักสู้ดีนัก  เนื่องจากพระชันษาที่มากขึ้นทุกวันและความตึงเครียด  วิตกกังวลในเหตุการณ์ต่างๆของบ้านเมืองคอยรุมเร้า

     

    เมื่อเจ้าชายน้อยทรงรับพระกายาหารเป็นเพื่อนพระราชาและพระราชินีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  จึงเรียกให้นางกำนัลไปเอาโอสถมาให้พระราชาและพระราชินีทรงเสวยดังเช่นทุกวัน

    มากิ  เดี๋ยวให้คนไปเอาพระโอสถมาให้ท่านลุงและท่านป้านะ  เจ้าชายน้อยทรงหันไปสั่งกับมากินางกำนัลของพระราชินี

    เพคะ  มากิตอบรับก่อนค่อยๆเดินค้อมหลังออกไปจากห้องบรรทมของพระราชาและพระราชินี

    แล้วจุนโนะสุเกะล่ะจ๊ะ  คาซึยะ  ไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอกรึ  พระราชินีทรงถาม  เนื่องจากเห็นว่าวันนี้เจ้าชายน้อยทรงมาองค์เดียว  ทั้งที่เมื่อก่อนที่ใดมีคาซึยะที่นั่นย่อมมีจุนโนะสุเกะเสมอ

    อ๋อ  ครับ  จุนโนะไปเตรียมทหารสำหรับตรวจราชการตามหัวเมืองต่างๆกับท่านโคอิจิครับ  เมื่อท่านพี่ไม่ทรงอยู่เช่นนี้แล้ว  หน้าที่ตรวจราชการตามหัวเมืองต่างๆหรืออย่างน้อยการจัดเวรทหารให้ไปตรวจราชการก็ย่อมตกเป็นหน้าที่ของจุนโนะทหารคนสนิทของเขา  และท่านโคอิจิทหารคนสนิทของท่านลุง

    อืมม  จ่ะ  พระราชินีทรงตอบรับ

     

    จากนั้นความเงียบก็เข้าครอบครองทุกอนูภายในห้อง  ไม่มีใครพูดอันใดกันแม้สักคำ  โดยเฉพาะเจ้าชายน้อย เนื่องจากพระองค์ยังคงรู้สึกผิดกับท่านลุงท่านป้าเรื่องที่พระองค์กับท่านพี่นั้นรักกัน  และทำให้การหมั้นหมายของท่านพี่และเจ้าหญิงฮารุกะนั้นเป็นอันต้องถูกยกเลิกไป

     

    ส่วนทางพระราชานั้นก็ทรงเฝ้ามองและสังเกตการณ์ทุกอากับกิริยาของเจ้าชายน้อยซึ่งเมื่อไม่กี่ปี่ก่อนนั้น  ถูกส่งตัวมาเป็นเครื่องบรรณาการจากแคว้นเล็กๆที่ชื่อ  คาเมนาชิ  เด็กตัวเล็กๆที่พระองค์เอ็นดูเป็นพิเศษ  เนื่องจากคนตัวเล็กคนนี้ทำให้ลูกชายที่แสนเอาแต่ใจพระองค์เองเช่นจินต้องเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น  จนพระองค์เองและอายะอดที่จะแปลกใจกับการเปลี่ยนแปลงของลูกชายมิได้  คนที่จินรักและต้องการที่จักใช้ชีวิตร่วมกับคนนี้

    ความจริงแล้ว  พระองค์ทรงไม่คิดรังเกียจคาซึยะเลยแม้แต่น้อย  หากแต่กฎมณเฑียรบาลกำหนดไว้แล้ว  ว่าให้เจ้าชายรัชทายาทอภิเษกกับเจ้าหญิงเท่านั้น  เนื่องจากแคว้นนั้นนั้นจำเป็นที่จักต้องมีโอรสหรือธิดาที่กำเนิดจากผู้เป็นราชินีเท่านั้น  พระองค์ไม่สามารถที่จักทำอันใดได้เลย

    โอสถมาแล้วเพคะท่านคาซึยะ  มากิถือถาดที่มีแก้วใส่โอสถ  2  ใบวางอยู่ข้างใน  เดินเข้ามาในห้องบรรทม

    โอสถเพคะท่านลุง  เจ้าชายน้อยทรงหยิบแก้วโอสถจากมากิมาถือไว้  และค่อยๆป้อนพระราชาอย่างใจเย็น  จากนั้นจึงนำโอสถอีกแล้วไปป้อนพระราชินี  เมื่อโอสถถูกดื่มจนหมดแล้ว  เจ้าชายน้อยก็ทรงจัดแจงให้พระราชาและพระราชินีทรงพักผ่อนสักพัก  ก่อนที่จักพาออกไปเดินเล่นที่อุทยานด้วยกัน

     

    ท่านลุงเพคะ  ทรงเป็นอันใดหรือไม่เพคะ  เจ้าชายน้อยทรงสังเกตเห็นความผิดปกติของพระราชาที่ทรงไอติดกันอยู่หลายครา  จึงหยิบแก้วน้ำที่วางอยู่ข้างๆเตียงนำไปป้อนพระราชา  แต่ทันทีที่น้ำถูกกลืนลงพระศอไป  มันกลับทำให้พระราชาทรงคลื่นไส้  แล้วอาเจียนเอาพระกายาหารที่รับไปเมื่อครู่ออกมาจนหมด  และที่ทำให้เจ้าชายน้อยทรงตกพระทัยมากขึ้นอีกเท่าตัวนั่นก็คือ  พระโลหิต  มันปะปนออกมากับอาหารที่ออกมากับอาเจียน

     

    มากิ  มากิ  ไปตามหมอหลวงคิมุระมาบัดเดี๋ยวนี้เลย  เจ้าชายน้องเห็นท่าไม่ดีจึงรีบให้มากิไปตามหมอหลวงมา

    เอ่อ ...  มากิที่ดูเหมือนจักตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่งะๆเงิ่นๆ  จนถูกเจ้าชายน้อยทรงเอ็ดเอา  จึงได้สติแล้วรีบออกไปตามหมอหลวงทันที

    ท่านลุงเพคะ  ทรงดื่มน้ำแล้วอาเจียนออกมานะเพคะ  อ๊ะ... ท่านป้า  เจ้าชายน้อยทรงพร่ำบอกกับพระราชาพลางถือแก้วน้ำป้อนให้  และเมื่อหันไปเห็นพระราชินีที่ทรงบรรทมอยู่ข้างๆพระราชานั้นต้องทำให้เจ้าชายน้อยรีบวิ่งไปดูพระราชินีทันที

    ท่านป้าเพคะ  ดื่มน้ำเข้าไปมากๆนะเพคะ  แล้วอาเจียนเอาพิษออกมา  เจ้าชายน้อยบอกกับพระราชินี อาการเช่นนี้พระองค์ทรงเคยเห็น  มันเป็นอาการของคนที่ถูกวางยาพิษ  ไม่ผิดแน่

    มีใครอยู่ข้างนอกบ้างไหม  เข้ามาในนี้เดี๋ยวนี้เลย  ร่างบางตะโกนร้องเรียกผู้ที่อยู่ข้างนอกห้องให้เข้ามาข้างใน  เมื่อมีคนเข้ามาก็บอกให้ไปเอานมสดมาเร็วที่สุด

    ท่านลุงท่านป้าเพคะ  ทำใจดีๆไว้นะเพคะ  โอยยยย  เหตุใดหมอหลวงจึงมาช้านัก  ร่างบางทรงกล่าวกับพระราชาและพระราชินี  ก่อนที่จักพร่ำกับองค์เอง

    ท่านคาซึยะเพคะ  นมสดมาแล้วเพตะ  ริซาโกะและโมโมโกะ  นางต้นห้องที่ถูกใช้ให้ไปเอานมสดมา  ร้องบอกขึ้น

    เอานมมานี่  ริซาโกะเจ้าเอานมสดไปป้อนให้ท่านป้าที  ค่อยๆนะ  ส่วนโมโมโกะ  เจ้าไปเอานมมาอีกนะ เร็วๆด้วย  เจ้าชายน้อยทรงสั่งงานรัว

     

     

     

     

     

    To be con ……….. Part  9

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×