ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นายวิดวะ นางสาววิดยา

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 28 ม.ค. 62


    บทนำ

                8 โมงเช้าวันอังคาร ถึงจะนานที่ผ่านมา”เสียงเพลงที่ส่งออกมาจากหูฟัง ช่างเข้ากับบรรยากาศในยามเช้าที่ธารต้องแบกร่างมาเรียนทั้งๆที่เธอเพิ่งได้นอนตอนตี 4 แต่ก็ต้องเบิกตาตื่นขึ้นมาเรียนในตอน 8 โมงเช้าวันอังคารในคาบเรียนศาสนาที่ช่างขัดแย้งกับความธรรมะธัมโมในใจของเธอซะเหลือเกิน แต่เกรดที่ใครเขาก็ว่ากันว่าAชัวร์ๆทำให้เธอมานั่งอยู่ในห้องนี้

                “ขอนั่งด้วยนะครับ”ผู้ชายหน้าตาจัดว่าดีมากคนหนึ่งเดินเข้ามานั่งข้างๆเธอ ก่อนที่เธอจะได้ออกปากตอบรับอะไรไป เขาก็นั่งลงข้างๆเธอแล้ว แล้วจะถามทำไม? ธารคิดในใจ

                หลังจากนั้นไม่นานอาจารย์ก็เข้ามาอธิบายรายละเอียดของวิชา ธารลงมือจดข้อมูลเหล่านั้นอย่างตั้งใจตรงกันข้ามกับผู้ชายข้างตัวของเธอที่นอกจากจะนั่งเขี่ยโทรศัพท์มือถืออย่างไม่สนใครแล้วยังนั่งฮัมเพลงสบายอารมณ์จนสร้างความรื่นเริงให้กับเธอไม่น้อย ไม่น้อยกับผีอะไร!!!! นายคนนี้ตั้งใจจะกวนประสาทเธอใช่ไหม ถ้าอยากมีนักเธอจะจัดให้!

                “ไอ้คุณธนิน! มึงมาไม่รอกูเลยนะ”ยังไม่ทันที่ธารจะได้จัดอย่างที่เธอตั้งใจ ใครบางคนก็โผล่เข้ามานั่งอีกข้างของเธอที่ว่างอยู่ ทำไมไม่ไปนั่งข้างกัน!

                “ก็มึงมาสาย กูอยากมาเรียนเช้าๆกับเขาบ้าง”ธนินเท้าคางตอบเพื่อน โดยแขนทั้งสองข้างของเขาทับอยู่บนสมุดของธาร หน้าของธารแดงขึ้นเรื่อยๆกับตัวป่วนที่เพิ่มขึ้นอีก1หน่อ ถ้าไม่มีเสียงบอกเลิกคาบของอาจารย์เธออาจจะทำอะไรที่รุนแรงออกมาอย่างแน่นอน

                ธารรีบโกยของบนโต๊ะเข้ากระเป๋า และเดินรีบออกมาจากโต๊ะที่นั่งอย่างยากลำบากเพราะมีผู้ชายตัวใหญ่นั่งขวางไม่ยอมให้เธอออกอยู่ทั้งซ้ายและขวา

                “ขอทางหน่อยนะคะ”เธอยิ้มหวานให้ผู้ชายที่มาสาย เขาดูงงเล็กน้อยก่อนจะขยับตัวให้เธอผ่านออกมา

                 เดินออกมาได้ไม่เท่าไหร่โทรศัพท์มือถือก็สั่นอย่างรุนแรงจนธารต้องหยุดรับโทรศัพท์ รายชื่อที่โชว์อยู่ทำให้เธอแปลกใจเล็กน้อย

                “ว่าไง ตัวแสบ”รอยยิ้มและคำพูดของธารทำให้ธนินที่เดินตามออกมาหยุดฟังอยู่ห่างๆ

                “คาบต่อไปว่าง เดี๋ยวไปส่ง รออยู่นั้นแหละเดี๋ยวไปรับ”ธารกดวางสาย และวิ่งออกไปนอกห้องอย่างอารมณ์ดี ธนินวิ่งตามธารไปอย่างไม่เข้าใจตัวเอง ทั้งๆที่สมองของจะร้องเตือนว่าเขามีคาบเรียนต่อ แต่ดูเหมือนร่างกายจะไม่ฟังตามคำสั่งนั้นเลย

                “ไอ้นิล นั่นแกจะไปไหน!”เสียงเรียกของเพื่อนก็ดูจะไร้ผลเมื่อเขาออกสตาร์ทรถและขับตามหญิงสาวไป

                ธนินจอดรถหน้าตึกคณะวิทย์ สายตายังมองตามธารที่วิ่งเหยาะๆด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม จนเขานึกหมั่นไส้

    ในคาบเรียนไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเจอเธอ เขาเคยเจอเธอเมื่อปีที่แล้วตอนทำงานกีฬาเฟรชชี่ เธอลงแข่งขันเปตองให้กับคณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งที่ผ่านมาเป็นรองคณะวิศวะของเขามาตลอด แต่เมื่อเธอก้าวเข้ามาแข่งดูเหมือนว่าทุกอย่างจะตรงกันข้ามไปหมด คณะของเขาแพ้อย่างราบคาบ ความเก่งของเธอทำให้เขาประทับใจสุดๆ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หลังจากแข่งครั้งนั้นเธอก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลย เขาเคยแอบถามคนในทีม แต่ก็ไม่มีใครรู้จักเธอเลย รู้แค่มาแข่งแทน แต่ 1 ปีผ่านไปเธอก็มานั่งอยู่ในวิชาเรียนที่เขาติดว่าจะไม่เรียนแล้วซะอย่างนั้น เขาเลยยกเลิกความคิดที่จะเลิกเรียนวิชานี้ไปโดยปริยาย

    ในที่สุดเธอก็หยุดอยู่ตรงหน้าผู้ชายคนหนึ่ง หน้าตาหล่อบัดซบนั้นมันอะไรกัน แล้วไอ้รอยยิ้มพิมพ์ใจของทั้งคู่นั้นมันยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดงิดสุดๆ ไอ้หนุ่มนั้นมันอยู่คณะเขานี่หว่า ดูจากเครื่องแต่งกายแล้วมันเพิ่งอยู่ปี 1 กินเด็กซะด้วย ไอ้หนุ่มนี่ต้องได้เจอเขาจัดหนักแน่นอน

    ธารมองหน้าเมศ น้องรหัสสมัยมัธยมของเธอด้วยความรู้สึกดีใจ ชุดนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่เมศอยากเข้าเรียนมาตลอดตอนนี้อยู่บนร่างของเมศแล้ว น้องของเธอโตขึ้นขนาดนี้แล้วเหรอเนี้ย

    ใบหน้าหล่อก้มลงมองพี่สาวที่มีน้ำตาคลอๆทั้งที่เมื่อก่อนออกจะห้าวขนาดนั้นแท้ๆ แต่นั้นยิ่งทำให้พี่รหัสคนนี้ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่ เมศส่งยิ้มหล่อสยบให้ธาร ซึ่งไม่มีผลกับธารแม้แต่น้อย แต่กับคนรอบข้างที่เดินผ่านไปผ่านมากลับต้องหยุดมองรอยยิ้มกับหน้าหล่อๆนั้น ก่อนจะหันไปซุบซิบกันอย่างออกรส

    “อ้าว ธารมาทำอะไรตรงนี้ว่ะ”บทซาบซึ้งเป็นอันต้องจบลงภายในเวลาไม่นาน เมื่อณดลเพื่อนสนิทของธารที่บังเอิญเดินผ่านมาทักขึ้น

    “ดล มาพอดี ฉันจะแนะนำน้องรหัสสุดรักสุดหวงของฉันให้รู้จัก”ธารกอดคอเมศอย่างสนิมสนม

    “นี่เมศ น้องรหัสตอนมัธยมของฉัน ตอนนี้อยู่วิศวะเลยนะ”ธารยังโม้ไม่เลิกจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นสายตาไม่เป็นมิตรที่ณดลส่งไปให้เมศ ณดลไม่ถูกชะตากับเมศมาตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งๆที่เขากับเมศไม่เคยเจอหน้ากันตรงๆมาก่อน มีแต่เขาที่เคยแอบไปซุ่มดูเมศโดยที่ธารไม่รู้ เพราะเธอห้ามเขาไม่ให้เขามายุ่งกับไอ้เด็กนี่ตั้งแต่ไหนแต่ไร

    “เมศ แล้วนี่ดล เพื่อนสนิทสุดๆของพี่”เมศรับรู้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจากตัวของณดล เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไรคนๆนี้ถึงไม่ชอบเขาทั้งๆที่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสองคนเจอกัน แต่ถ้ามาหาเรื่องเขา เขาก็พร้อมมีเรื่องเสมอ

    “มาทำไม”เป็นคำทักทายแรกที่ณดลมีให้เมศ

    “มาหาพี่ธารครับ ไม่ทราบว่าพี่มีปัญหาอะไรกับผมหรือเปล่าครับ”

    “ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”ณดลทำหน้าตาใจดีตามแบบฉบับของเขาตอบกลับไป แต่น้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

    “ก็พี่ดูไม่ชอบผม ถ้ามีอะไรในใจก็พูดออกมาได้เลยนะครับ”ธารมองหน้าเมศทีณดลที

    “ถ้าจะให้บอกก็ได้นะ นายน่ะเคยรู้ไหม”ธารที่ยืนฟังอยู่นานรีบตะครุบปากของณดลไว้ ก่อนที่เรื่องบางเรื่องที่เธอไม่อยากให้ใครบางคนรู้จะแพร่งพรายออกมา

    “ดลไปเรียนเถอะ ธารจะคุยกับน้อง”ไม่รอให้ณดลตอบ ธารก็จูงมือเมศเดินออกมา

    หลังจากทั้งลากทั้งจูงเมศออกมาจากณดล ธารก็มาหยุดที่ร้านกาแฟข้างๆตึก บรรยายกาศน่าอึดอัดคละคุ้งไปทั่วบริเวณ จนธนินที่แอบตามมาเงียบสัมผัสได้

    ธนินแอบมานั่งอยู่ตรงมุมหนึ่งของร้าน เขาแอบตามมาเงียบๆ และก็รับรู้ได้ถึงความบาดหมางที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ได้อย่างชัดเจนแม้จะไม่ค่อยได้ยินว่าทั้ง 3 คนพูดอะไรกัน หนังสือพิมพ์ถูกยกขึ้นมาปิดหน้าเลียนแบบละครที่เขาเคยเห็นในโทรทัศน์ หูคอยแอบฟังอย่างเก็บรายละเอียด

    “พี่รู้ไหมว่าทำไมเพื่อนพี่ไม่ชอบผม”เมศเปิดประเด็นแทบจะทันทีที่ถึงโต๊ะ

    “ไม่รู้สิ แกหล่อไปมั้ง ดลมันเลยหมั่นไส้”ธารพูดติดตลกที่เธอรู้ว่ามันไม่ตลกเลยสักนิดเดียว เมศจ้องมองเธออย่างจับผิด

    “มองอะไรขนาดนั้นย่ะ ฉันไม่ใช่นักโทษสักหน่อย”

    “ก็เจ๊ทำตัวมีพิรุธอ่ะ”

    “ไม่มีพิรุธเลยย่ะ ไม่มี๊”จังหวะนั้นสายตาของเมศเหลือบไปเห็นหนังสือพิมพ์ที่เดินเข้ามาใกล้เขากับธารมากขึ้นเรื่อยๆ จากมุมร้านที่ห่างไปหลายช่วงโต๊ะ ตอนนี้กลับขยับเข้ามาอยู่ห่างไปแค่ 1 ช่วงโต๊ะ

    “เจ๊ไม่มีพิรุธเท่าไอ้คนข้างหลังนั้นหรอก”ทันทีที่เขาพูดจบ หนังสือพิมพ์เดินได้ก็ลุกขึ้นยืนและแกล้งทำเป็นรับโทรศัพท์เสียงดังและเดินออกไปนอกร้านท่ามกลางสายตางงงวยของคนทั้งร้าน โดยเฉพาะธาร

    ธนินวิ่งออกมาหลบนอกร้าน มือของเขากุมอยู่ที่อกด้านซ้าย ตอนนี้หัวใจของเขาเต้นตุบๆอย่างรุนแรงชนิดที่แทบจะหลุดออกมาจากขั้ว สายตามองว่าจะมีใครตามออกมาจากร้านไหม เมื่อพบว่าไม่มีก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขามั่นใจว่าเขาเนียนพอที่ทั้งสองคนนั้นจะจับไม่ได้ว่าเขาแอบฟัง

    สิ่งที่ธนินคิดกับความเป็นจริงนั้นตรงข้ามกับความจริงแบบสุดๆ ธารกับเมศนั่งมองหน้ากันแบบงงๆ ก่อนจะยิ้มแห้งให้กัน

    เมศสัมผัสได้ว่าไม่ว่ายังไงเจ๊ธารของเขาก็ไม่มีทางตอบข้อสงสัยของเขาแน่ เขาเลยเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่อง

    “เจ๊วันนี้พาไปทัวร์หน่อยสิ”

    “ได้ แต่เอารถแกไปนะ น้ำมันรถมันแพง”ยังงกไม่เปลี่ยนเมศแอบคิดในใจ

    “ผมยังไม่ได้เอารถมาอ่ะเจ๊ ว่าจะเอามาใช้ปีหน้า”

    “ไม่น่าเชื่อ อย่างแกนี่นะไม่อยากเอารถมาใช้ร่อนไปร่อนมา”ธารพูดตามความจริง เมศเป็นคนชอบเที่ยวมาก รถมอเตอร์ไซต์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตเมศ

    “เจ๊ก็พูดไป”เมศหัวเราะเบาๆ ไม่ใช่ว่าเขากลายเป็นคนไม่ชอบเที่ยวไปแล้ว แค่เขาอยากจะอ้อนพี่สาวคนโปรดมารับมาส่งเหมือนเมื่อก่อนสัก 1 ปีก็เท่านั้น

    “ฉันจะพาไปเที่ยวก็ได้ แต่แค่วันนี้เท่านั้นแหละ วันหลังแกต้องไปไหนมาไหนคนเดียว”ถึงธารจะพูดแบบนั้นแต่เมศรู้ดีว่าถ้าเขาออกปากขอร้องธารก็ใจอ่อนให้เขาทุกที


    ตอนแรกจบแล้วววววว เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของเราหากมีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยมาณที่นี้ด้วยนะคะ คอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้เราด้วยน้า

    ปล.เราเป็นคนที่นานๆจะมาอัพนิยายที ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่ด้วย ยังไงก็เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ และก็ต้องขอโทษนักอ่านทุกคนที่เราไม่มีกำหนดเวลาอัพที่แน่นอน ขอโทษจริงๆจากใจค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×