คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Cupid # 3
Cupid 3
“ เทพคิวปิด (Cupid) หรือ เทพอีรอส (Eros) ในภาษากรีก และ เทพอามอร์ (Amor) ในภาษาโรมัน เป็นกามเทพ หรือเทพแห่งความรัก เป็นโอรสของเทพเจ้ามาร์และเทพีวีนัส โดยคิวปิด ถือกันว่าเป็นเทพเจ้าที่มีรูปลักษณะงามที่สุดในบรรดาเทพทั้งหลาย และมีฤทธิ์ที่จะบันดาลให้ใครรักใครก็ได้” ผมอธิบายท่อนนี้จบก็หันไปมองหน้าของอันนาที่นั้งโต๊ะของผมอยู่ ผมยิ้มให้กับอันนาเล็กน้อยอันนาก็ยิ้มตอบผมกลับมา อ่ามันทำให้หัวใจของผมตื้นเต็มยังไงไม่รู้
“ ไม่ใช่แค่นั้นนะครับยังมีตำนานของคิวปิดด้วยนะครับ มีอยู่กันว่า นางไซคี ผู้มีรูปโฉมงดงาม เป็นที่เลื่องลือ ผู้ที่ได้พบเห็นต่างก็ลุ่มหลงเทิดทูนจนลืมที่จะบูชาเทพีวีนัส เทพีแห่งความงาม มารดาของคิวปิดไป ทำให้เทพีวีนัสเกิดความไม่พอใจ จึงสั่งให้คิวปิดไปทำให้ไซคีไปหลงรักชายที่เลวทรามต่ำช้าสักคนหนึ่ง
คิวปิดได้ฟังดังนั้นจึงรีบไปทำตามคำสั่งแม่ โดยลอบเข้าไปในห้องนอนของไซคี ขณะนางไซคีกำลังหลับอยู่ ตั้งใจจะยิงศรตามคำสั่งแม่ แต่เมื่อเห็นรูปโฉมของนาง คิวปิดกลับตกตะลึง และกลับทำลูกศรในมือทิ่มแทงตัวเอง คิวปิดจึงหลงรักไซคีนับแต่บัดนั้น แต่ก็ทำอะไรเปิดเผยไม่ได้ ทุกคนคงสงสัยใช้ไหมครับ ว่าทำไมคิวปิดถึงไม่เปิดเผยตัวกับนางไซคีเพราะคิวปิดเองก็กลัวว่าเทพีวีนัสจะทำร้ายไซคี คิวปิดเลยไปสร้างปราสาทอยู่ท่ามกลางหุบเขาผมเองก้สงสัยเหมือนถ้าอย่างนั้นเรื่องต่อจากนี้ให้ปติมาเป็นคนอธิบายก็แล้วกันนะครับ ” ไอ้แน่วที่อธิบายต่อจากผมก็ส่งต่อการอธิบายให้แก่ไอ้บอยผมสังเกตเห็นพอมันยืนไมค์ให้ไอ้บอยเสร็จรีบวิ่งออกไปข้างนอนส่งสัยจะไปเข้าห้องน้ำมั้ง ผมก็หันไปทางอันนาก็เห็นอันนากำลังตั้งใจฟังที่ไอ้บอยอธิบายอยู่
“ เอาละครับเรามาต่อกันเลยดีกว่านะครับ ทุกคนหลายๆคนในห้องอาจสงสัยใช่ไหมละครับว่าทำไมคิวปิดถึงไม่ยอมเปิดเผยตัวตยเองเขาเองเพราะว่าเขาต้องการพิสูจน์ความรักของนางไซคีนั้นเองว่าจะรักเขาที่หน้าหรือไม่ ทางฝั่งของนางไซคีเมื่อพี่สาวได้ออกเรือนกันไปหมด พ่อแม่ของนาง จึงต้องอ้อนวอนบวงสรวง เทพอพอลโล เทพแห่งการพยากรณ์ว่า เมื่อไรนางไซคีจึงจะได้พบเนื้อคู่ และเนื้อคู่เป็นใคร อยู่ที่ไหน เทพอพอลโล ก็พยากรณ์ว่า คู่ครองของนางไซคีไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นอมนุษย์ และรอคอยนางที่ยอดเขา แต่นางจะต้องไม่มองดูคู่ครองของเธอโดยเด็ดขาด
ทั้งพ่อและแม่ จึงไปส่งนางไซคีที่ยอดเขาและทิ้งไว้เพียงลำพัง เทพเสฟไฟรัส เทพประจำลมตะวันตก จึงพัดพาเธอไปยังปราสาทที่กามเทพคิวปิดเนรมิตไว้ ห้อมล้อมด้วยหุบเขาซึ่งมีธรรมชาติอันสวยงาม ตกกลางคืนคิวปิดก็มาครองคู่อยู่กับไซคี โดยนางมองไม่เห็นว่าเขามีหน้าตาเป็นอย่างไร ทั้งนี้ เนื่องจากคิวปิดขอคำมั่นสัญญาจากนางไซคีว่า จะไม่จุดไฟหรือพยายามมองเห็นตัวเขาว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ไซคีก็รับปาก พอรุ่งสางคิวปิดก็จากไป
ต่อมานางไซคีได้เชื้อเชิญพี่สาวทั้งสองของนางมาเที่ยวยังปราสาท แต่เมื่อพี่สาวของนางมาพบเห็นปราสาทที่งดงาม ก็รู้สึกอิจฉาในโชคลาภวาสนาของน้องสาว จึงยุยงให้ไซคี ลอบดูตัวสามี โดยวางแผนไว้ว่า หากพบเห็นว่าเป็นอมนุษย์ที่น่าเกลียดก็ให้ฆ่าเสีย นางก็เชื่อในคำยุยงนั้น โดยซ่อนตะเกียง และมีดเอาไว้ใต้เตียง เมื่อคิวปิดหลับไป นางจึงลอบจุดตะเกียงส่องดูสามี และพบว่าสามีของนาง เป็นชายหนุ่มรูปงามกว่าชายใด ๆ ที่เธอเคยพบมา
แต่ทันใดนั้น น้ำมันตะเกียง ก็หยดลงต้องกายคิวปิดจึงตื่นขึ้น และเมื่อเห็นว่าภรรยาของตน ละเมิดคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ คิวปิดจึงบอกนางว่า “ความรักไม่อาจดำรงอยู่ได้ ถ้าปราศจากความไว้วางใจ ข้าจะลงโทษเจ้า ด้วยการจากเจ้าไปตลอดกาล” จากนั้นคิวปิดก็บินจากไป พร้อมกันนั้นปราสาท และอุทยานที่งดงาม พลันอันตรธานหายไปด้วย
ไซคีเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น นางพร่ำโทษตัวเองที่ผิดคำสัญญา นางจึงตัดสินใจ ละทิ้งบ้านเกิดเมืองนอน เพื่อติดตามหาคิวปิด นางจึงซัดเซพเนจรรอนแรม จนพบเข้ากับวิหารเทพีดิมิเทอร์ เทพีเเห่งพืชผล ซึ่งของบูชานั้น วางระเกะระกะไม่มีระเบียบเพราะชาวไร่ต่างเหนื่อยล้าจากการทำงาน ไซคีจึงจัดระเบียบ ของเซ่นสรวงจนเรียบร้อย เทพีดิมิเทอร์พอใจมาก จึงบอกให้ไซคีไปที่วิหารของเทพีวีนัสเพื่อขออภัยโทษ
แต่เทพีวีนัส ผู้ซึ่งมีความริษยาแรง จึงหาทางกลั่นแกล้งไซคีต่าง ๆ นานา โดยให้ไซคีผ่านภารกิจทั้ง 3 อย่างเสียก่อน โดยภารกิจแรก นางไซคีต้องแยกเมล็ดข้าว ข้าวบาร์เล่ย์ ข้าวโพด ถั่ว และธัญญาหารชนิดต่าง ๆ ที่ปะปนอยู่ในฉางแยกออกมาให้เสร็จก่อนค่ำ เพื่อให้นกพิราบของพระนางกิน ไซคีถึงกับท้อแท้ใจ เพราะนางเป็นแค่หญิงมนุษย์ธรรมดา ไม่มีทางจะทำสิ่งที่เกินความสามารถเช่นนี้ได้แน่นอน ในขณะนั้นคิวปิดที่คอยเฝ้ามองดูแลไซคีอยู่ห่าง ๆ ตลอดเวลาก็ส่งมดฝูงใหญ่มาช่วยงานไซคี โดยมดทั้งหมด ต่างแยกธัญญาหารอย่างเรียบร้อย และรีบกลับไปก่อนค่ำ
เทพีวีนัสกริ้วมาก เพราะรู้ว่าไซคีไม่ได้ทำเอง และคนที่ช่วยเหลือนางก็คือโอรสของพระนางนั่นเอง จึงสั่งให้ไซคี ไปเก็บขนแกะทองคำมาให้พระนาง ซึ่งแกะขนทองฝูงนั้นโหดร้ายมาก แต่เทพประจำแม่น้ำก็ช่วยเหลือไซคี บอกเคล็ดลับจนไซคีสามารถผ่านภารกิจที่สองได้สำเร็จ เมื่อไซคีผ่านทั้งสองภารกิจมาได้ เทพีวีนัสถึงกับกริ้ว และคิดแผนการร้ายกาจที่สุดขึ้นมาได้ โดยรับสั่งให้ไซคี นำผอบไปขอเครื่องประทินโฉมจากเทพีเปอร์เซโฟนี มเหสีของ เทพฮาเดส แห่งยมโลกมาถวายพระนาง ซึ่งหมายถึง การส่งไซคีไปตายนั่นเอง
ไซคีท้อถอยหมดกำลังใจอย่างมากเมื่อรู้ความหมายของเทพีวีนัส นางจึงคิดว่า ดีเหมือนกัน ในเมื่อสามี ไม่เหลียวมองตนอีกต่อไปแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ดังนั้น ไซคีจึงขึ้นไปยังยอดผา เตรียมตัวกระโดดฆ่าตัวตายไปสู่ยมโลก แต่ยังไม่ทันที่ไซคีจะทำตามความตั้งใจ คิวปิดที่เฝ้ามองนางอยู่ จึงเอ่ยปลอบประโลมนางอย่างอ่อนโยนด้วยความรักและสงสาร ทว่าทิฐิก็ยังทำให้คิวปิดไม่ยอมปรากฏกาย เมื่อไซคีได้ยินเสียงปลอบใจปริศนานั้นก็ทำให้มีกำลังใจสู้ต่อ คิวปิดบอกวิธีต่าง ๆ ในการไปนรก อย่างปลอดภัยให้กับไซคี พร้อมกับย้ำเตือนนางไม่ให้นางเปิดผอบเครื่องประทินโฉมนั้นเป็นอันขาด
แต่ไซคีไม่สามารถอดใจได้ เพราะคิดว่าเครื่องประกอบความงามนั้น จะทำให้เธองดงามกว่าเดิม เพื่อว่าสามีของเธอจะเกิดความยินดีเมื่อได้พบหน้าเธออีกครั้ง เมื่อเปิดผอบขึ้น เธอก็ล้มสลบลงทันที เพราะเครื่องประกอบความงาม ที่อยู่ในผอบก็คือเวทมนตร์แห่งความหลับใหลในยมโลก
เมื่อนางไซคีสลบไปแล้ว เทพคิวปิดก็รีบเข้ามาช่วยเหลือนำเวทมนตร์แห่งความหลับใหลนั่น เก็บใส่ผอบอย่างเดิม และปลุกไซคีให้ฟื้นขึ้น และก็บอกให้ไซคีเห็นโทษของความอยากรู้อยากเห็นที่เกิดขึ้นกับนางจากนั้นคิวปิดได้ทูลขอมหาเทพซุส ช่วยเกลี้ยกล่อมให้เทพีวีนัสยกโทษให้ไซคี และ บันดาลให้นางไซคี ได้ความเป็นอมตะ เซ่นเหล่าทวยเทพทั้งหลาย ตั้งแต่นั้นเทพคิวปิดและนางไซคีจึงได้ครองคู่อย่างเป็นสุข
สำหรับตำนานรักของคิวปิดและไซคีนี้ หากเราถอดความหมายจริง ๆ ก็จะพบว่า คู่รัก หรือแม้แต่สามีภรรยาจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ด้วยกันได้ก็ต่อเมื่อมีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และหากเกิดอุปสรรคใด ๆ ขึ้นมา ก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรค และในที่สุดก็จะพบกับความสุขที่แท้จริงนั่นเอง นี่แหละครับสำหรับตำนานของนางไซคีและคิวปิด เป็นไงบ้างละครับ คู่ครองบ้างทีเป็นจำเป็นต้องรักกันมากของแค่เข้าใจและ ซื่อสัตย์ให้กันกันก็พอแล้ว สำหรับวันนี้กลุ่มพวกผมก็ขอจบการรายงานเพียงเท่านี้ครับ ของคุณทุกคนที่ติดตามรับฟังครับผม ” ไอ้บอยบอกจบการรายงานผมก็มองไปยังโต๊ะของผมก็ไม่เห็นอันนานั่งอยู่แล้ว ไปไหนของเขากันนะ ตอนนี้ผมพร้อมแล้วครับที่จะบอกให้อันนารู้ว่าผมคิดยังไงกับเขา ถึงแม้ว่าเวลาจากผมจะเจ็บ ผมก็ขอเก็บความสุขเหล่านี้ไว้ก่อนแล้วกัน
ผมเดินตามหาอันนาทั่วโรงเรียนก็ไม่เจอ ไปไหนของเขานะ เป็นรู้สึกเป็นห่วงอันนาจังเลย เกิดไปเจอปีศาจอีกต้องทำยังไง มือก็ยังไม่หายดี
“ เฮ้ย ! เอ็งหาอะไรวะไอ้เก่ง ข้าเห็นเอ็งหาตั้งแต่เรียนวิชาประวัติศาสตร์เสร็จแล้วนะโว๊ย ” ไอ้โอมถามผม
“ อันนา ” ผมบอกไป
“ อันนาไหนวะ หน้าตาเป็นยังไง ” ไอ้แน่วถามผม
“ ตัวเล็กๆ ผิวขาวๆ เสื้อผ้าก็ใส่สีขาวทั้งชุด พวกเอ็งเห็นบ้างไหม?วะ ” ทำไมใจมันร้อนรนกระวนกระวายอย่างนี้ก็ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับอันนาหรือเปล่า
แวบ !!
“ เก่งกาจ ช่วยอันนาด้วย อันนาปะทะกับปีศาจหลังโรงเรียน ” ผมไม่รู้หรอกครับว่าใครเป็นคนมาบอก เพราะเท่าที่ผมสังเกตเขาก็บาดเจ็บเช่นกัน พวกผมรีบวิ่งไปหลังรวดเร็ว ก็เห็นอันนากำลังยิงเจ้าปีศาจด้วยธนูผมมองไปที่มือของอันนาทำให้ผมใจหายมากเลยครับ เลือดออกที่มือเยอะมาก
“ หยุด ! เดี๋ยวนี้นะ เดส ” เนยวิ่งไปหาปีศาจ ผมก็วิ่งไปหาอันนา พร้อมกับพยุงร่างที่บอบบางของเขาขึ้นมากอดไว้ เงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่ชื่อเดส ตามคำเรียกของไอ้เนยมัน ถ้าผมมีพลังอย่างมันผมสาบานเลยว่าจะทำให้มันเจ็บพอๆกับที่มันทำให้อันนาเจ็บ
แวบ !!!
เดสมันใช้เสื้อคลุมของมันคลุมร่างของไอ้เนยไปพาหายตัวทั้งมันและไอ้เนย
““ ไอ้เนย ” พวกที่เหลือตกใจกันใหญ่ ผมก็มันห่วงมันเหมือนกันแต่ดูเหมือนว่ามันรู้จักกับไอ้ปีศาจตนนี่ได้ยังไงแต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดของผมคือร่างบางที่กำลังบาดเจ็บ หาตัวไอ้เนยได้เชื่อเถอะว่าพวกผมต้องคาดคั้นเอาคำตอบแน่ๆ
ความคิดเห็น