ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] SNSD&SJ : สภาวะทิ้งตัว

    ลำดับตอนที่ #3 : Situation 1 : New Project (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 2 ม.ค. 56


     

     

    สภาวะทิ้งตัว  :  Situation 1 – New Project

     

    >> หอพักโซนยอชิแด <<

     

    “ออนนี่~~~!    เร็วๆ ค่ะ  รถมารอแล้วนะคะ”  เสียงมักเน่ประจำวงอย่างซอฮยอนดังมาจากหน้าประตูห้อง  ร้องเรียกพี่ๆ ทั้งแปดคนของเธอที่ตอนนี้ยังไม่มีใครออกมาจากห้องกันเลยซักคน

     

     

    “มาแล้วๆ!  ฮโยยอนร้องพร้อมกับเป็นคนแรกที่ออกมาจากห้องอย่างไม่รีบเร่ง    หลังจากนั้นคนที่ตามออกมาเป็นคนต่อไปก็คือแทยอนกับซันนี่  ตามด้วย ทิฟฟานี่ ยูริ ยุนอา และซูยองตามลำดับ

     

     

    หากแต่ทั้งหมดนี้ก็ยังไม่สามารถออกเดินทางได้อยู่ดี  เพราะว่า.....

     

     

    “....................อ้าว?    แล้วเจ้าหญิงน้ำแข็งของเราล่ะ?  แทยอนถามเมื่อมองไปรอบๆ แล้วไม่เห็นแม้แต่เงาของคนที่ว่านี้    เธอหันไปมองทางซูยองที่เป็นรูมเมทของเจสสิก้าแทนคำถาม

     

     

    “รายนั้นน่ะยังแต่งหน้าอยู่ในห้องเลยแทงกูเอ๊ย~    ตื่นสายตามเคย”  ซูยองบอกพลางพยักเพยิดไปทางห้องของเธอกับเจสสิก้า    ทุกคนพากันถอนหายใจกันเป็นแถบ

     

     

    “เชื่อเขาเลย    สิก้า!  ออกมาได้แล้ว!

     

     

    “เดี๋ยวซี่!!!   แป๊บนึง!!!  เสียงเจ้าหญิงน้ำแข็งตะโกนดังออกมาจากห้องตอบโต้เสียงเรียกของแทยอน

     

     

    “ยัยสิก้าจอมตื่นสาย!  นี่ขนาดเมื่อคืนนอนก่อนคนอื่นเค้ายังอุตส่าห์จะตื่นสายอีกเหรอ!?  ยูริตะโกนว่ากลับ

     

     

    “จริงด้วย!    ออกมาเร็วๆ จอง เจสสิก้า!  ต่อด้วยทิฟฟานี่

     

     

    “เดี๋ยวก็ได้ไปสายหรอกเจส  เร็วๆ”  ตามมาด้วยซันนี่

     

     

    “นั่นสิ    แต่งหน้าให้มันเสร็จเร็วๆ หน่อย”  ฮโยยอนพูดต่อ

     

     

    “ออนนี่  รีบออกมาเถอะค่ะ”  ยุนอาพูด

     

     

    “สิก้าออนนี่คะ    ถ้าออนนี่ยังไม่ออกมาในอีกหนึ่งนาทีต้องจ่าย 1,000 วอนนะคะ”  คราวนี้เป็นซอฮยอนที่ยังคงย้ำเตือนถึงบทลงโทษในการมาสาย

     

     

    “อ๊าย~~~!    อย่าเพิ่งนับนะซอ  จะออกไปแล้วๆ!

     

     

    “เฮ้อ~  สาวๆ ทั้งแปดถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ในที่สุดคนสายสุดก็พร้อมจะออกมาจากห้องเสียที  พลางแอบคิดในใจโดยที่ไม่ได้นัดหมายว่า  รู้งี้ให้ซอฮยอนพูดประโยคเมื่อกี้ตั้งแต่แรกก็จบ  (นั่นสินะ.....)

     

     

    “เสร็จแล้วๆ”  ในที่สุดเจสสิก้าก็ออกมาจากห้อง    เธอเดินตรงมาหาเพื่อนๆ ที่รอกันอยู่ที่ประตู

     

     

    “เกือบได้สายกันทั้งกลุ่มแล้วไงล่ะ”  แทยอนพูดแล้วหันมาบอกทุกคนให้ออกจากห้อง

     

     

    ..----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------..

     

     

    >> SM Entertainment <<

     

    “สวัสดีค่ะ”  ที่ห้องประชุมหนึ่ง  ทั้งเก้าสาวโซนยอชิแดโค้งทำความเคารพให้กับลี ซูมาน  โปรดิวเซอร์ของ SM Entertainment ที่เป็นที่รักของเหล่าศิลปิน  และยังเป็นลุงแท้ๆ ของซันนี่อีกด้วย    ซันนี่ผู้เป็นหลานสาวยิ้มให้กับซูมานอย่างร่าเริง  นึกดีใจที่ได้เจอกันอีกเพราะความจริงแล้วเธอกับลุงก็ไม่ได้มีโอกาสได้เจอกันเท่าไหร่    นอกจากนั้นสาวๆ ก็ยังโค้งให้กับซุปเปอร์จูเนียร์ที่นั่งอยู่ฝั่งหนึ่งของโต๊ะยาวอยู่ก่อนแล้ว  แล้วนั่งลงที่เก้าอี้อีกด้านหนึ่งของโต๊ะบ้าง    หนุ่มสาวต่างยิ้มให้กันอย่างสบายๆ ด้วยความที่สนิทสนมกันมานาน

     

     

    “เอาล่ะ!  มากันครบแล้วนะเด็กๆ”  ซูมานพูด  “ถ้างั้นเราก็มาเริ่มประชุมกันเลยนะ”

     

     

    “ครับ / ค่ะ”  หนุ่มสาวทั้งหมดขานรับพร้อมกัน

     

     

    “ทางบริษัทเราตอนนี้ได้รับโปรเจกต์ใหม่จากกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงกีฬา แล้วก็กระทรวงการท่องเที่ยวอีกครั้งหนึ่ง    และพวกเธอทั้งสองวงก็จะเป็นตัวแทนของบริษัทเราที่จะร่วมโปรโมตโปรเจกต์ใหม่นี้”

     

     

    “โปรเจกต์อะไรเหรอครับ?  ลีทึกผู้เป็นลีดเดอร์ของวงซุปเปอร์จูเนียร์ถาม

     

     

    “.....................พวกเธอจำโปรเจกต์กรุงโซลได้รึเปล่า?

     

     

    “อ๋อ~  เพียงได้ฟังเท่านั้น  ทุกคนก็พร้อมใจกันร้องอ๋อกันออกมาอย่างเข้าใจถ่องแท้

     

     

    โปรเจกต์ที่ซูมานพูดถึงก็คือ  โปรเจกต์เพลงโปรโมตกรุงโซลที่ทั้งซุปเปอร์จูเนียร์และโซนยอชิแดได้เคยร่วมงานกันทำ MV ด้วยกันนั่นเอง    นับว่าเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองวงนี้ได้ทำเพลงคู่กันเมื่อไม่นับโฆษณากับเพลงของ SMTown ที่รวมศิลปินทั้งค่าย

     

     

    “จำกันได้สินะ”  ซูมานพูดด้วยรอยยิ้ม  “เนี่ยแหละคือโปรเจกต์ในครั้งนี้ที่พวกเธอจะได้ทำอีกครั้งนึง    เราจะรีเมค MV นี้ใหม่    แต่คราวนี้.....พวกเธอทั้งหมดจะได้ร่วมงานกันทุกคน  ไม่ขาดแม้แต่คนเดียวเหมือนคราวที่แล้วแน่นอน”

     

     

    “ว้าว~~~  ยูริกับยุนอาร้องออกมาอย่างดีใจ    เมื่อครั้งที่มีโปรเจกต์นี้เธอไม่ได้ร่วมงานด้วยจึงรู้สึกตื่นเต้นกว่าคนอื่นเป็นพิเศษ  ไม่ต่างจากคนอื่นๆ ที่ไม่ได้ร่วมงานนี้ด้วยในคราวที่แล้วเหมือนกัน    

     

     

    “แปลว่าเราทั้งหมดจะได้แสดงใน MV นี้กันหมดใช่มั้ยคะ?  แทยอนถาม

     

     

    “ใช่แล้วล่ะ    แต่เพราะเรามีกันตั้งสิบกว่าคน  เพราะงั้นก็ต้องแบ่งงานกันซักหน่อยนะ”  ซูมานบอก  “เดี๋ยวเราจะแบ่งงานออกเป็นกลุ่มร้องกับกลุ่มแสดงนะ    แน่นอนว่าไม่ได้หมายความว่าเน้นร้องแล้วจะไม่แสดงใน MV  หรือเน้นแสดงแล้วจะไม่ได้ร้องในเพลง    ในส่วนของเพลง  ท่อนเดี่ยวจะเป็นของกลุ่มเน้นร้อง  ส่วนท่อนร้องทุกคนจะร้องด้วยกันหมด    เดี๋ยวเรื่องบทใน MV จะคุยกันอีกที”  พูดจบซูมานก็หยิบแฟ้มสีดำเล่มหนึ่งที่วางไว้ตรงหน้าเขาขึ้นมาเปิดดู  “อืม.....งั้นจะบอกเลยนะว่าใครจะทำส่วนไหนกันบ้าง”

     

     

    “..........”  ทุกคนต่างพากันเงียบเพื่อตั้งใจฟังงานในส่วนของตัวเอง

     

     

    “..........กลุ่มร้องจะมีรายชื่อตามนี้นะ  คยูฮยอน ซองมิน เรียวอุค ลีทึก แทยอน เจสสิก้า ซอฮยอน และซุนกยู    ที่เหลือจะเป็นกลุ่มแสดง”

     

     

    “โอ้~  กลุ่มเดิมเป๊ะ”  ลีทึกพูดพลางมองหน้าสมาชิกกลุ่มร้องแต่ละคน    ซอฮยอนสบตากับคยูฮยอนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม    เธอก้มหัวให้อีกฝ่ายโดยมีเขาพยักหน้ารับ   ซันนี่หน้ามุ่ยเล็กน้อยที่ลุงเธอยังอุตส่าห์จะเรียกชื่อจริงของเธอแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร    ซองมินกับเจสสิก้าพยักหน้ารับอย่างเงียบๆ เช่นเดียวกับเรียวอุคและแทยอน    ดงเฮเหลือบตาไปทางยุนอาที่ส่งยิ้มให้

     

     

    “โอ้~   แสดงอีกแล้ว~  ซูยองร้องเมื่อได้รู้งานของตัวเอง  สีหน้าเธอแสดงถึงความพอใจ    ฮโยยอนที่อยู่ข้างๆ พยักหน้าเป็นการรับรู้หน้าที่ของตัวเองในโปรเจกต์นี้  ก่อนจะเหลือบไปเห็นอึนฮยอกที่ยักคิ้วส่งมา  เธอเลยยักคิ้วกลับไปทีนึง

     

     

    “เรื่องการถ่ายทำ MV ของเราจะกำหนดวันกันทีหลังนะ  เพราะรู้สึกว่าตอนนี้จะมีงานกันอยู่หลายคนเลย    เดี๋ยวเราจะจัดเวลาให้ไม่ชนกับตารางงานเองนะ”  ซูมานลุกขึ้นยืน  “งั้นก็เลิกประชุมกันเท่านี้”

     

     

    ..----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------..

     

     

                “เอ.....บทบาทที่ได้.....”  ยูริพึมพำเบาๆ ขณะกวาดตามองเนื้อหา MV ที่ระบุไว้ในแฟ้มของตัวเอง

     

     

    หลังจากการประชุมสิ้นสุด  ซูมานก็ออกจากห้องไปโดยไม่ลืมที่จะบอกงานส่งท้าย    เขาบอกกับกลุ่มร้องให้ไปที่ห้องอัดเสียงเพื่อทบทวนเนื้อเพลงที่ต้องร้อง    ด้วยเหตุนี้พวกลีทึกจึงออกจากห้องไป  เหลือไว้เพียงกลุ่มแสดงที่คอยอ่านบทบาทที่ตัวเองต้องแสดงอยู่ในห้องเดิม

     

     

    “.......................โอ๊ะ!  นี่ไงๆ  บทนักเต้นสาว    แสดงกับ.....!    ฮโย  ฉันได้แสดงกับแกอ่ะ”

     

     

    “อื้ม  ฉันรู้แล้วล่ะ”  ฮโยยอนบอกพร้อมกับโบกแฟ้มในมือให้ยูริดู  “แล้วก็คนที่แสดงด้วยก็คืออึนฮยอกโอปป้ากับชินดงโอปป้า”

     

     

    “ถูกต้องแล้วสาวๆ”  อึนฮยอกพูดแทรกมาแต่ไกล    เขาเดินมานั่งที่เก้าอี้ว่างระหว่างฮโยยอนกับยูริ  ตามมาด้วยชินดงที่เดินตามมาติดๆ  “และที่สำคัญ.....เธอกับฉันต้องแสดงคู่กันด้วย”

     

     

    !    จริงอ่ะ!?  ยูริเปิดแฟ้มอ่านรายละเอียดอีกครั้ง  แล้วก็พบว่าเธอกับอึนฮยอกถูกลงไว้เป็นคู่หลักของบทนี้จริงๆ  “ผิดพลาดแล้วม้า~    Dancing King ต้องไปคู่กับ Dancing Queen อย่างฮโยสิถึงจะถูก”

     

     

    “ยูริ    แกแสดงเก่งกว่าฉัน    อย่างนี้น่ะถูกแล้ว”  ฮโยยอนบอก

     

     

    “แต่มัน.....”

     

     

    “ทำไมๆ  ควอน ยูริ    แสดงกับฉันแล้วมีปัญหาอะไรรึไง?  อึนฮยอกพูดพลางนั่งกอดอกแล้วหมุนเก้าอี้มามองยูริตรงๆ โดยหันหลังให้ฮโยยอน

     

     

    “ที่มีปัญหาน่ะไม่ใช่ฉัน  แต่.....”  มาถึงตรงนี้อยู่ๆ ยูริก็หยุดพูดไปซะเอง    อึนฮยอกขมวดคิ้วอย่างสงสัย

     

     

    “เขาคงไม่อยากแสดงกับไก่เหงือกบานอย่างนายหรอกลี ฮยอกแจ”  ชินดงเอ่ยแทรกขึ้นมาหวังหยอกเล่น    อึนฮยอกหันไปมองคนอายุมากกว่าอย่างเซ็งๆ    ยูริหัวเราะแหะๆ ให้กับรุ่นพี่ทั้งสอง  แล้วค่อยๆ เนียนชะโงกตัวมองคนด้านหลังอึนฮยอก    ฮโยยอนเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม  แต่ยูริก็ไม่ได้พูดอะไร    มันเหมือนกับต่างฝ่ายต่างสื่อสารกันทางจิต

     

     

    “บทสาวนักช็อปปิ้ง.....เหรอ?  ทางอีกฟากหนึ่งของโต๊ะนั้น  ยุนอาทวนคำจากบทบาทที่ระบุในแฟ้มของตัวเอง  “คู่กับซีวอนโอปป้า.....ก็ดีเหมือนกัน”

     

     

    “ปลื้มจังเลยแฮะ”  ซีวอนเอ่ยด้วยรอยยิ้มขณะที่นั่งอ่านแฟ้มอยู่ข้างๆ  “ที่มีรุ่นน้องยินดีร่วมงานด้วย”

     

     

    “โอปป้าก็พูดเกินไป    ใครๆ ก็อยากร่วมงานกับโอปป้านั่นแหละค่ะ”  ยุนอาบอก    ชายหนุ่มผู้เป็นรุ่นพี่ยิ้มอย่างพอใจ    เหตุการณ์ทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของสาวอีกคนที่อยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง

     

     

    “ซูยอง    ได้บทอะไรอ่ะ?  เสียงทิฟฟานี่ทำให้ซูยองหันกลับมามอง

     

     

    “อะ.....อ๋อ”  ซูยองพลิกแฟ้มตัวเองดู  “บทสาวจ๊อกกิ้ง    นี่มันบทเดียวกับแทยอนเมื่อคราวที่แล้วเลยนี่นา”

     

     

    “ไม่เหมือนหรอกแกไม่เหมือน    รอบนี้แกไม่มีข้อแก้ตัววิ่งไม่ทันชายในฝันจนต้องใช้วิธีขี่จักรยาน”  ทิฟฟานี่บอก    ทั้งคู่หลุดขำทันทีเมื่อนึกย้อนไปถึงคำว่า “วิ่งไม่ทัน”  ซึ่งในที่นี่รู้เลยว่าสาเหตุก็เพราะลีดเดอร์ร่างเล็กของพวกเธอ.....ขาสั้นไปนั่นเอง  (แล้วพวกเราก็ทำร้ายแทแทอีกตามเคย)

     

     

    “แน่ะ    ทางโน้นนินทาอะไรกัน  ฉันได้ยินนะ”  ซีวอนพูดข้ามฟาก    ซูยองกับทิฟฟานี่หัวเราะรับโดยที่มียุนอาที่อยู่ฝั่งโน้นหัวเราะเหมือนกัน  “โดยเฉพาะสาวตระกูลชเวตรงนั้นน่ะตัวดีเลยนะ”

     

     

    “หา~~~?    คนพูดอ่ะทิฟต่างหากโอปป้า”  ซูยองว่าแล้วหันกลับมา  “ว่าแต่แกอ่ะทิฟ  ได้อะไร”

     

     

    “ฉันได้เป็นไกด์”  ทิฟฟานี่พูดอย่างภาคภูมิใจสุดๆ

     

     

    “โห~  ก็ดีน่ะสิ    แล้วแสดงกับใครล่ะ?

     

     

    “ฉัน!  ฮีชอลกล่าวแทรกมาคนแรก  ทำเอาสองสาวถึงกับสะดุ้งกันเลยทีเดียว  “ดีใจซะเถอะทิฟฟานี่ ฮวังที่ได้แสดงกับฉัน”

     

     

    “ฮะ ฮะ ฮะ  ค่า~!  ทิฟฟานี่ลากเสียงยาวรับคำเป็นการหยอกเล่น

     

     

    “เธอก็ดีใจซะด้วยล่ะซูยอง    เพราะเธอจะได้แสดงคู่กับฉัน”  เยซองพูดขึ้นมาจากฟากเดียวกับฮีชอล

     

     

    “ฮ้า~~~?    จริงเหรอโอปป้า?  ซูยองถามพร้อมกับอ่านรายละเอียดในแฟ้มไปอีกรอบ

     

     

    “คิดว่าฉันจะโกหกแล้วได้อะไร?  เยซองว่า

     

     

    “เออ  แต่ก็แปลกนะ    ปกติเย่มันอยู่สายร้อง  แล้วโผล่มานี่ได้ไง”  ฮีชอลเปิดประเด็น

     

     

    “ฮยอง~  เยซองหันมาพูดกับคนอายุมากกว่าในวง  พร้อมกับเก๊กท่าเต็มที่  “เพราะบริษัทต้องการให้ผมได้ลองสายงานใหม่ไง    ปีนี้เนี่ยแหละยุคของผม  เยซองคนนี้เนี่ยแหละ!..........”

     

     

    “เหรอ~~~~~!!!!!  ไม่เฉพาะแค่ฮีชอลเท่านั้น  คนอื่นๆ ทั้งห้องต่างพร้อมใจกันทำเสียงนี้ใส่คนอวดเบ่งให้เจ้าตัวได้ผงะไปพักหนึ่ง    ทั้งหมดต่างหัวเราะชอบใจกันอย่างสนุกสนาน  โดยไม่ได้สนใจเยซองที่ยืนทำปากขมุบขมิบเหมือนบ่นอะไรซักอย่างเลย

     

     

    ..----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------..

     

     

    “นี่พวกเราไม่ได้ร่วมงานกันมานานแล้วสิเนี่ย  ใช่มั้ย?  ดงเฮถาม   ตอนนี้พวกเขากลุ่มสายร้องกำลังเดินไปที่ห้องอัดเสียงเพื่อทบทวนเนื้อเพลง    ไม่แน่ว่าบางทีพวกเขาอาจจะได้อัดเสียงกันเลยก็ได้  (ไหนๆ ก็เคยร้องมาก่อนแล้วนี่นา.....)

     

     

    “ใช่เลยโอปป้า”  เจสสิก้าพูด    ตอนนี้อาการหายง่วงของเธอได้หายเป็นปลิดทิ้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  “นานๆ ทีพวกเราจะได้ร่วมงานกันแบบนี้มันน่าสนุกเนอะ”

     

     

    “ฮัดชิ้ว!  เสียงจามของสาวคนหนึ่งทำให้ทุกคนในกลุ่มหันมามอง    แทยอนที่เป็นเจ้าของเสียงหัวเราะแหะๆ รับพลางถูใต้จมูกเบาๆ

     

     

    “ไม่สบายเหรอคะออนนี่?  ซอฮยอนถามอย่างเป็นห่วง

     

     

    “เปล่าหรอก    อยู่ๆ ก็จามขึ้นมาเองน่ะ”  แทยอนบอก

     

     

    “มีใครนินทาป่ะเนี่ยแทงกู?  ซันนี่แซวเล่นๆ  โดยไม่ได้คิดเลยว่ามันจริงอย่างที่เธอแซวไปเป๊ะๆ

     

     

    “เหอะๆ  ช่างมันเถอะ    แต่ไม่นึกเลยว่าจะได้ทำโปรเจกต์นี้อีกน่ะ”

     

     

    “หืม~    คาดไม่ถึงเหรอสาวน้อย?  ลีทึกพูดออกแนวจะแซวรุ่นน้องสาว    คนอื่นคงรู้สึกอายหรือเขินบ้าง    แต่สำหรับแทยอนที่สนิทกับลีทึกอยู่แล้ว  ส่งรีแอคชั่นกลับไปด้วยการถลึงตาใส่อย่างไม่เกรงกลัว  (เอ่อ.....นั่นรุ่นพี่เธอนะ)    ลีทึกก็เลยเบนมาทางสามหนุ่มของวงของตัวเองแทน  “แล้วนี่พวกนายสามคนจะไม่พูดอะไรเลยเรอะ?

     

     

    “หืม?  จะให้พูดอะไรล่ะฮยอง?  ซองมินถามพลางเบิกตาทำตาโตใส่

     

     

    “ไม่ต้องมาทำตาโตใส่ฉันเลย    มันไม่ทำให้นายน่ารักขึ้นหรอก”

     

     

    “ชิ!  ซองมินทำเสียงไม่พอใจทันที    ซันนี่กอดคอรุ่นพี่คนสนิทพร้อมกับทำหน้าประมาณว่าทำใจซะเหอะ

     

     

    “เออ.....ฮยองว่าเราจะได้เล่นบทบาทอะไรใน MV อ่ะ?  คยูฮยอน  มักเน่ปีศาจ (?) แห่งซุปเปอร์จูเนียร์ตั้งประเด็นใหม่ขึ้นมา

     

     

    “..........ใครจะรู้”

     

     

    “ซอว่าเราไม่น่าจะได้บทแสดงอะไรมากนะคะ    เพราะพวกออนนี่กับโอปป้าที่เหลือก็รับหน้าที่นี้เป็นหลัก”  ซอฮยอนบอก

     

     

    “งั้นฉันก็คงไม่แตกต่างจากเดินหรอกมั้ง”

     

     

    ?    ทำไมอ่ะเรียวอุคโอปป้า?  ซันนี่ถาม

     

     

    “ก็คราวที่แล้วฉันแค่เดินไปร้องเพลงไปในเมืองนี่นา  ไม่เห็นได้แสดงบทบาทอะไรเหมือนพวกเธอเลย”  เรียวอุคบอกพลางทำปากเบ้    เขาจำได้ดีเลยว่าเขาได้รับบทเป็นคนเดินเล่นในเมือง  แค่นั้น    ทีคนอื่นล่ะ  ขี่จักรยานตามคนที่ชอบมั่ง  สวมหัวตุ๊กตาแจกลูกโป่งมั่ง  ถ่ายรูปมั่ง  วาดรูปมั่ง  เต้นมั่ง  เป็นตำรวจมั่ง  เป็นครูมั่ง  (ไล่มาให้หมดเลยมะ?)

     

     

    “โธ่  อย่าน้อยใจน่าโอปป้า    ฉันก็โผล่มาแค่ช่วงแรกเองนะ”  เจสสิก้าบอก

     

     

    “ช่าย~  ใครจะเหมือนคู่ขวัญอย่างมักเน่ล่ะ    เล่นทีกระแสเพียบเลย”  คำพูดของดงเฮทำเอาสองหนุ่มสาวมักเน่ตื่นตัวในทันที    คยูฮยอนมองคนพูดโดยกระพริบตาปริบๆ    ซอฮยอนสะดุ้งอย่างตกใจเล็กน้อย

     

     

    “เออใช่!    แหม~    พอพวกนายสองคนเล่นคู่กันเนี่ยก็มีคนจิ้นเยอะนะ  แซงหน้าพวกฮยองไปกันหมด”  ซองมินเสริมอย่างรู้งาน  เรียกเสียงแซวใส่ผู้ตกเป็นประเด็น    ซอฮยอนหน้าขึ้นสีเล็กน้อย

     

     

     

    “อ้าว?  แล้วคู่ของฉันล่ะ?    ฉันกับซีวอนโอปป้าอ่ะ?  แทยอนพูดแทรกกันคนอื่นลืม    ฉากของเธอกับซีวอนเองก็มีเยอะใน MV เหมือนกันแต่ไม่ยักมีใครสน

     

     

    “ตกอันดับไงตัวเล็ก    ที่สำคัญ  อย่าลืมสิว่าฉันก็อยู่ในฉากด้วยน่ะ  แล้วก็เป็นตัวแปรสำคัญด้วย”  ลีทึกว่าพร้อมกับเขกหัวคนตัวเล็กไปเบาๆ ทีนึง    แทยอนร้องอุทานเบาๆ พร้อมกับมองตาคาดโทษ

     

     

    “คู่ผมไม่ได้ดังอะไรขนาดนั้นสักหน่อยฮยอง”  คยูฮยอนพูดแก้ต่าง  “ผมว่ามีคู่หนึ่งกระแสดังกว่าเยอะ”

     

     

    “เอ๋?    คู่ไหน?  เรียวอุคถาม

     

     

    “ก็คู่รักมันหวานแห่ง WGM ไง”

     

     

    “อ๋อ~    ยงซอ~  คนอื่นๆ พากันร้องลากเสียงยาวทันที    ซอฮยอนหน้าขึ้นสียิ่งกว่าเดิม

     

     

    “ย้า~  โอปป้ากับออนนี่อ่ะ  ซอไม่อยู่แล้ว”  ซอฮยอนพูดอย่างงอนๆ แล้วจ้ำเท้าเดินเร็วขึ้นเพื่อหวังจะไปให้ถึงห้องอัดเสียงเร็วๆ สักที    แทยอน เจสสิก้า และซันนี่มองหน้ากันอย่างขำๆ แล้วเดินตามมักเน่ไปติดๆ  เหลือให้เหล่ารุ่นพี่ SJ อยู่ด้านหลัง

     

     

    “..........แน่ะ”  เสียงทักของดงเฮทำให้คยูฮยอนหันมามอง  “อมยิ้มเชียว    ดีใจที่ได้แกล้งซอฮยอนอ่ะดิ”

     

     

    “.......................อะไรเล่า”  คยูฮยอนเลี่ยงสายตามามองตรงไปข้างหน้าอย่างเดียว    ดงเฮหันมามองหน้ากับคนอื่นที่เหลือ    ทั้งหมดพยักหน้าเนิบๆ กันอย่างเข้าใจโดยไม่ใช้คำพูด

     

     

    ..----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------..

     

     

    >> หอพักโซนยอชิแด <<

     

    “ฮะ?    อัดเสียงกันเสร็จแล้วเหรอ?    เร็วดีแท้~  ยูริพูดหลังจากที่ได้ฟังสี่สาวที่เพิ่งกลับมาจากการอัดเสียง  (พวกเธอกลับมาจากบริษัทก่อนแล้ว)  บอกงานที่พวกเธอทำเสร็จไปแล้ว

     

     

    “อืม    ก็เคยร้องเพลงนี้กันมาก่อนแล้วนี่  แถมร้องท่อนไหนก็ยังได้ร้องท่อนเดิมด้วย  ถึงได้เสร็จเร็วไงล่ะ”  แทยอนบอกขณะทิ้งตัวลงบนโซฟาข้างๆ คนถาม

     

     

    “เอ้านี่  ต๊อกโบกกี    เพิ่งทำใหม่ๆ”  ฮโยยอนยกจานต๊อกโบกกีควันฉุยออกมาจากห้องครัวพร้อมกับส้อมหลายคัน    เธอวางจากเอาไว้บนโต๊ะในห้องนั่งเล่นแล้วแจกอาวุธการกินให้คนในรัศมีโดยรอบ

     

     

    “อ๊า~~~  สมกับที่เป็นฮโย  แม่ศรีเรือนของเรา”  ซันนี่ร้องพร้อมกับจิ้มชิ้นแป้งขาวที่คลุกเคล้าไปด้วยซอสสีแดงขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อย    ฮโยยอนยิ้มอย่างพอใจ

     

     

    “เรื่องนี้มันแหงอยู่แล้ว    ก็ฮโยเป็นแม่บ้านอันดับหนึ่งของเรานี่นา”  ซูยองพูด    เธอเดินออกมาจากห้องครัว

     

     

    “.....................ซูยอง    นี่เธอจะยึดไปกินคนเดียวรึไงยะ?  เจสสิก้าว่าเมื่อเห็นเพื่อนสาวตัวสูงเดินออกมาพร้อมกับจานต๊อกโบกกีและส้อมที่กำลังจิ้มของกินเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

     

     

    “ย๊า!  ชเว ซูยอง!    อุตส่าห์ทำไว้เผื่อคนอื่นจะกินรอบสอง  นี่เธอเล่นไปตักมากินคนเดียวเลยนะ!  ฮโยยอนวางท่าเท้าเอวดุคนถือวิสาสะตักของกินมากินคนเดียวอย่างเซ็งๆ    เผลอไม่ได้เป็นอันเอามากินคนเดียวทุกทีเลยยัยคนนี้

     

     

    “โห่~    ฉันแบ่งมากินนิดหน่อยเองฮโยซุกกี้”  ซูยองบอกแล้วเอาต๊อกโบกกีเข้าปากไปอีกหนึ่งคำ

     

     

    “ทั้งที่เธอกินไปไม่หยุดตั้งแต่ตอนที่ฉันทำในครัวเนี่ยนะ”  ซูยองทำเป็นไม่สนใจในคำพูดของฮโยยอนโดยการก้มหน้าก้มตากินต่อไป  แถมยังแกล้งเดินผ่านหน้าเพื่อนสาวอย่างจงใจจะแกล้งยั่ว  จนฮโยยอนนึกอยากจะถีบส่งจริงๆ  ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนเธอยังถือจานต๊อกโบกกีอยู่น่ะนะ.....    เธอเลยเลี่ยงมานั่งร่วมวงกินด้วยแทน

     

     

     

    “ว่าแต่พวกออนนี่ได้บทบาทอะไรกันมั่งเหรอคะ?  ซอฮยอนถาม    มือเอื้อมไปหยิบกระดาษทิชชูมาส่งให้ยุนอาที่กินจนเลอะปากอยู่ข้างตัวเอง

     

     

    “ก็แตกต่างกันไปนะ    เอ้อ!  พวกเราหยิบแฟ้มบทแสดงมาให้แล้วนะ  อยู่ที่ห้องแต่ละคนน่ะ”  ทิฟฟานี่บอก

     

     

    “ขอบใจนะ    ว่าแต่เธอได้บทอะไรล่ะ?  แทยอนถาม

     

     

    I’m a guide.~~~  ทิฟฟานี่บอกด้วยภาษาอังกฤษอย่างมีความสุข    ดูท่าเธอจะถูกใจกับบทที่ดรับนี้มาก

     

     

    “ฉันได้บทคนวิ่งจ๊อกกิ้ง”

     

     

    “โอ๊ะ?    นั่นมันบทฉันนี่ซูยอง”  แทยอนพูดเมื่อได้ยินบทที่ตัวเองเคยได้รับจากเพื่อนสาวตัวสูง

     

     

    “ฉันได้เป็นนักช็อปปิ้งค่ะ”  ยุนอาตอบบ้าง

     

     

    “ฉันกับฮโยเป็นนักเต้น    คิดไปแล้ว.....บทไม่ค่อยแตกต่างจากชีวิตจริงเอาซะเลย”  ยูริบอก    เธอวางส้อมลงตรงขอบจานต๊อกโบกกีที่พร่องไปกว่าครึ่ง

     

     

    “แล้วได้เล่นกับใครล่ะ?  เจสสิก้าถามโดยที่ไม่ได้มอง

     

     

    “ยัยสิก้า    ฉันก็เพิ่งบอกไงว่า.....”

     

     

    “ไม่ใช่    ฉันหมายถึงว่าเล่นกับโอปป้าคนไหนต่างหาก”

     

     

    ..........

     

     

    เจสสิก้าที่ไม่ได้รับคำตอบเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัย  แล้วเธอก็พบว่ายูริ.....ทำหน้าเหมือนไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

     

     

    “ออนนี่?  ซอฮยอนทักเมื่อเห็นยูริเงียบไป    คนอื่นๆ เริ่มหันมามองเพราะรู้สึกถึงความผิดปกติเหมือนกัน    จะมีก็แต่ฮโยยอนที่ยังสนใจต๊อกโบกกีอยู่  “ทำไมเงียบไปล่ะคะ?

     

     

    “นั่นสิ    แกเป็นอะไรของแกอ่ะ?  เจสสิก้าถาม

     

     

    “เอ่อ.....”

     

     

    “ยูล  แกจะอ้ำอึ้งทำไมเนี่ย    แค่แกกับฉันได้เล่นกับอึนฮยอกโอปป้ากับชินดงโอปป้า  แค่เนี้ย”  ฮโยยอนพูดตัดบทมาซะก่อนอย่างหน้าตาเฉย  ทำเอายูริถึงกับหน้าเหวอไปเลย

     

     

    “จริงเหรอคะ?    ก็เหมาะดีนี่นา  เป็นสายเต้นหมดเลย”  ยุนอาบอก

     

     

    “ไม่ใช่แค่นั้นนะ    ยูริจะได้เล่นเป็นคู่กับอึนฮยอกโอปป้าด้วย”  ฮโยยอนเสริม

     

     

    “อ้าว?    แล้วเรื่องแค่นี้จะต้องมาอ้ำอึ้งอะไรอ่ะ?  ไม่เข้าใจ”  ซันนี่บอก  “...........................เฮ้ย!  รึว่าเธอแอบปิ๊งอึนฮยอกโอปป้าก็เลยไม่กล้าพูด?

     

     

    “ซันบัน  จะบ้าเรอะ!?  ยูริตอบกลับใส่ทันที    แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไรเพิ่มเติม  ฮโยยอนก็ลุกขึ้นมาซะก่อน

     

     

    “เดี๋ยวฉันไปเอามาเพิ่ม    จะกินต่อรึเปล่า?  เธอถามขณะจะยกจานขึ้น  จนยูริต้องรับคว้าส้อมตัวเองมาก่อนแทบไม่ทัน

     

     

    “กิน~  เสียงหลายเสียงตอบกลับมาพร้อมกัน  โดยเฉพาะซูยองที่เสียงเด่นกว่าใครเพื่อน     ฮโยยอนพยักหน้ารับแล้วเดินเข้าไปในห้องครัว

     

     

    “บอกมาซะควอน ยูริ    ทำไมต้องทำอึกอักไม่กล้าพูดด้วย?  ซันนี่หันกลับมาคาดคั้นความจริงต่อ

     

     

    “มันก็............เฮ้อ!  ยูริถอนหายใจอย่างรู้สึกลำบากใจ  “มันลำบากใจที่จะพูดตอนที่ฮโยยอนอยู่ด้วยน่ะดิ”

     

     

    ?    หา?    ฮโยเกี่ยวยังไง?  แทยอนถามต่อ    แต่แล้วเธอก็ทำหน้าเหมือนนึกอะไรบางอย่างออก    หญิงสาวหันมามองหน้ากับคนอื่นๆ ที่ดูเหมือนจะพอเข้าใจอะไรแล้ว  เว้นแต่.....

     

     

    ???    หมายความว่าไงเหรอคะ?  ซอฮยอนที่ยังงงๆ อยู่    แต่ก็ไม่ได้มีใครให้คำตอบเธอ

     

     

    ทางด้านในห้องครัว  ฮโยยอนยืนพิงตู้เย็นอยู่อย่างเงียบๆ    จานต๊อกโบกกีที่เอามาด้วยวางอยู่บนเคาน์เตอร์ข้างๆ    สีหน้าเธอบ่งบอกว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่

     

     

    “ก็แค่แสดงคู่.....    ก็แค่แสดงคู่.....”  ฮโยยอนพึมพำกับตัวเองเบาๆ  “..........คิม ฮโยยอน    มันก็แค่เพื่อนแสดงกับรุ่นพี่ก็เท่านั้น..........แค่นั้น”

     

     

     

     

    >>>>>--------------------------------------------------------------------------------------------------------<<<<<

     

     

     

    ตอนที่ 1 มาเสิร์ฟแล้วค่า~~~!!!

    ต้องขอโทษด้วยนะคะที่อัพช้า (มาก.....)    พอดีว่าไรเตอร์มักจะเน้นอัพไปที่เรื่อง Time Machine น่ะค่ะ  เพราะงั้น WGM Special กับ สภาวะทิ้งตัว ก็เลยจะอัพช้าหน่อย    แต่ก็หวังว่าจะยังมีคนติดตามอยู่นะคะ    ถ้าไม่ว่าอะไร  รบกวนติดตามเรื่อง Time Machine ด้วยนะคะ    เม้นกับโหวตให้กำลังใจไรเตอร์แต่งต่อนะคะ  Please~~~ TT

    แล้วก็ที่หลายต่อหลายคนขอมาว่าอยากได้คู่นั้นคู่นี้  ไรเตอร์เคยแจ้งไว้แล้วนะคะว่าจะขอสนองตามความต้องการของตัวเอง    ถ้าใครไม่พอใจ  ไรเตอร์ขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

    สุดท้ายแล้ว  เม้นกับโหวตให้กำลังใจไรเตอร์ด้วยนะคะ    แล้วก็  Happy New Year ค่ะ ^^

     

    ~ NewLife ~

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×