ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Knb | fanfic || OC] Inori no Sora ท้องฟ้าแห่งคำอธิษฐาน(Rewrite)

    ลำดับตอนที่ #9 : ความร้าวฉาน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 563
      31
      17 เม.ย. 64


    ฮัตสึกะรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป

     

    .

    .

    .

     

    เด็กสาวผมสีน้ำตาลไม่ได้อยู่ในตอนเย็นวันนั้นที่มิโดริมะกล่าวถึง

    เธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วก็ไม่มีใครบอกเธอเลยด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เธอรู้แค่ว่ามุราซากิบาระกับพี่เซย์จูโร่เกิดกระทบกระทั่งกันขึ้นมานิดหน่อยและตอนนี้ทั้งสองคนคุยกันและตกลงกันได้แล้วเรียบร้อย

     

    ทว่าความรู้สึกที่คอยบอกเธอมาตลอดว่ามีอะไรกำลังเปลี่ยนแปลงมันยังคงอยู่ มันกระซิบเตือนเธออยู่เสมอทุกครั้งที่ก้าวเข้ามาในโรงยิม

     

    สิ่งเหล่านั้นทำให้เธอไม่รู้สึกว่าโรงยิมนั้นเป็นสถานที่ที่เธออยากมาอีกต่อไป

     

    เพราะทั้งสายตาของทุกคนที่แสดงออกมาถึงความเหนื่อยล้าและความตั้งใจที่มีให้กับบาสมันหายไปทั้งหมด

     

    อาโอมิเนะที่ไม่มาซ้อมอีกต่อไปแล้ว ไฮซากิที่ตอนนี้หนักข้อขึ้นหลังจากรุ่นพี่นิจิมุระไม่อยู่ มุราซากิบาระที่ค่อย ๆ หายหน้าหายตาไปจากเวลาชมรม

     

    และท้ายที่สุด พี่เซย์จูโร่ที่ทำตัวห่างเหินราวกับเป็นคนละคนกับเซย์จูโร่ที่วันนั้นยังเดินไปส่งเธอถึงบ้านอยู่

     

    เขาไม่ทักทายตอบและไม่แม้แต่จะกล่าวอะไรกับเธอเลยด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่เธอพยายามจะพูดกับเขา ชายเจ้าของเรือนผมสีแดงก็เบนสายตามามองเพียงแปปเดียวและเดินไปทางอื่นแทน

     

    โมโมอิเป็นเพียงไม่กี่คนที่ถามเธอถึงเรื่องนี้

     

    แต่ว่าฮัตสึกะเองก็ไม่รู้จะตอบว่าเพราะทำไม หรือเพราะอะไรถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้

    เธอทำได้เพียงแค่ยิ้มและส่ายหน้าให้กับหญิงสาวผมสีชมพูแทนคำตอบ

     

    ช่วงหลายวันมานี้ไม่ค่อยมีงานให้เธอทำมากสักเท่าไหร่ที่ชมรม เธอเลยไปนั่งเล่นที่โรงยิมแยกของชมรมวอลเล่บอลบ่อย ๆ

     

    ฮัตสึกะไม่เคยโดดชมรมบ่อยขนาดนี้มาก่อนเลยตั้งแต่ที่เข้าเป็นผู้จัดการคนที่สองของชมรมบาสเทโควจนริตะแปลกใจที่ทำไมพักนี้เพื่อนของเธอถึงได้มาที่นี่ไม่เว้นวัน(แต่ก็ดี มาช่วยเด็กใหม่ฝึกเสิร์ฟลูกที) แถมยังเข้ามาเล่นด้วยบางครั้งบางคราวแต่ไม่ใช่ในฐานะของวิงสไปเกอร์แล้วทว่าเป็นลิเบโร่แทน

     

    ริตะเดินเข้ามานั่งข้าง ๆ กับเพื่อนของตัวเองที่ใช้มือหมุนลูกวอลเล่ไปมาด้วยความเบื่อหน่าย

     

    กัปตันของชมรมวอลเล่บอลหญิงเรียกเหล่าเด็กสาวสมาชิกชมรมไปพักครึ่งก่อนจะฝึกซ้อมกันอีกรอบ ทำให้ตอนนี้ริตะไม่ต้องกังวลว่าจะถูกเรียกเข้าสนาม หญิงสาวผมดำยกนิ้วโป้งให้กับรุ่นพี่สาวก่อนจะหันไปหาเพื่อนของตัวเอง

     

    “ช่วงนี้เธอมาที่นี่บ่อยนะเนี่ย ในที่สุดก็ตัดสินใจจะย้ายชมรมได้แล้วละสิ”

     

    ฮัตสึกะหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะเอนหัวไปพิงกับผนังโรงยิม ดวงตาสีเหลืองของเจ้าตัวสะท้อนแสงเป็นประกาย เธอส่ายหน้ากับตัวเองก่อนจะพูดออกมา

     

    “ไม่หรอก ฉันแค่รู้สึกอยากพักนิดหน่อย”

     

    “ก็เลยมาพักที่นี่น่ะนะ?!” ริตะกุมท้องหัวเราะก่อนจะปาดน้ำตาของตัวเองที่ไหลจากการหัวเราะได้ “ฉันดีใจนะเนี่ยที่เธอชอบที่นี่มากพอให้กลายเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจได้”

     

    ฮัตสึกะยิ้มให้กับเพื่อนของตัวเองและไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะพูดอย่างนั้นแต่ว่าริตะไม่ได้ตั้งใจที่จะหมายความไปทางที่ไม่ดีหรอก เพื่อนของเธอไม่เคยเป็นอย่างนั้นมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

     

    “ฉันถามเรื่องอะไรบางอย่างได้ไหมฮัตสึ” ริตะเว้นช่องว่างให้ความเงียบมาแทนที่ แต่แล้วก็พูดขึ้น

    “ทำไมเธอยังทนอยู่กับชมรมนั้นทั้ง ๆ ที่เธอชอบวอลเล่บอล”

     

    “...”

     

    ฮัตสึกะขมวดคิ้ว

     

    เธอไม่เคยคิดว่าตัวเองชอบวอลเล่บอล

    แล้วทำไมริตะถึงคิดอย่างนั้น

     

    “ฉันที่เล่นวอลเล่บอลเหรอ?”

     

    ฮัตสึกะนึกภาพของตัวเองออก แต่ว่าเธอกลับรู้สึกว่าไม่พร้อมตอนนี้ จริง ๆ แล้วเธอน่ะก็ชอบวอลเล่บอล แต่เหตุผลที่ไม่เข้าชมรมวอลเล่บอลไม่ใช่ว่าเพราะชมรมของเทโควไม่ดี ไม่ใช่เพราะว่าเธอเบื่อริตะหรืออะไร

     

    เธอแค่...

     

    ฮัตสึกะหน้าแดงด้วยความเขินอายพลางกระซิบออกมา

     

    “ฉันแค่ไม่อยากทำ... แล้วก็... ฉัน... อยากเป็นลิเบโร่ที่รับลูกของริตะคนแรกในการแข่งขันอย่างเป็นทางการล่ะ”

     

    มิซากิกะพริบตาปริบ ๆ

    ดวงตาของเจ้าตัวหรี่ลงก่อนจะเผยอยิ้มชั่วร้ายออกมาให้เห็น

     

    “ที่แท้เพื่อนสาวแสนสนิทสุดที่รักของฉัน...”

     

    ริตะยกมือขึ้นมาแล้วขยับเข้ามาใกล้ ฮัตสึกะเหงื่อตกก่อนจะค่อย ๆ ถอยออกห่างสีหน้าของเธอเปลี่ยนไปซีดเซียวจนเหมือนกระดาษ

     

    มือทั้งสองข้างของเด็กสาวผมดำจักจี้เข้าที่เอวของฮัตสึพลางเสียงหัวเราะของทั้งสองคนดังลั่นท่ามกลางสายตาของรุ่นพี่รุ่นน้องและเพื่อน ๆ ในชมรมวอลเล่บอลหญิง

     

    .

    .

    .

     

    เหตุผลของอิซากายะ ฮัตสึกะมันก็แค่เท่านั้นเอง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตอนนี้ฮัตสึกะอยู่ปีสาม เช่นเดียวกันกับเหล่ารุ่นปาฏิหาริย์

     

    เธอเป็นเด็กสาวผู้เป็นที่รักของเพื่อน ๆ และเช่นเดียวกัน เป็นที่รักของเหล่าคนในชมรมบาสเกตบอล

     

    ฮัตสึกะยังคงทำหน้าที่เป็นผู้จัดการชมรมเหมือนดังเดิม ส่วนอาคาชิก็ยังคงถือตัวกับฮัตสึกะราวกับเป็นคนแปลกหน้าตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ช่วงที่ผ่านมานี้เธอเลยไม่ได้คุยกับพี่เซย์เลย เว้นแต่คุยเรื่องในการทำหน้าที่ของผู้จัดการที่เขาจะพูดด้วย

     

    ในช่วงฤดูร้อนเป็นช่วงการเข้าค่ายนักกีฬาวอลเล่บอลม.ต้นระดับชาติ ซึ่งฮัตสึกะดันจับพลัดจับผลูได้ไปด้วยเพราะว่าได้รับการรับรองจากคุณครูที่อยู่ที่ชมรมวอลเล่บอลเสนอรายชื่อไปกับสมาชิกชมรมวอลเล่บอลจากโรงเรียนอีกสองคนซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีริตะและมีรุ่นน้องอีกหนึ่งคนทำให้เธอพลาดการฝึกในหน้าร้อนของชมรมบาสไปโดยปริยาย โมโมอิถึงกับวิ่งเข้ามากอดทันทีที่เห็นฮัตสึกะอีกครั้ง


    'ฉันไม่ได้เจอฮัตสึกะจังตั้งนาน คิดถึงแทบบ้าเลย' หญิงสาวผมสีชมพูพูดพลางซุกหน้าของตัวเองไปกับกลุ่มผมสีน้ำตาลของฮัตสึกะ น้ำตาไหลไปพลาง


    เธอยังคงทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีเยี่ยมอยู่เสมอ เธอพยายามช่วยโมโมอิจังให้ได้มากที่สุดเพราะว่าเธอเข้าใจดีว่าในฐานะของเพื่อนสนิทคนหนึ่งในกลุ่มจะเสียใจขนาดไหนที่ต้องมาเห็นความสัมพันธ์อันดีของเพื่อน ๆ สลายไปต่อหน้าต่อตาโดยทำอะไรไม่ได้เลย

     

    .

    .

    .

     

    ในวันจบการศึกษาเธอเดินกลับบ้านตามปกติโดยที่ริตะมาส่งถึงครึ่งทาง

     

    ท้องฟ้ายามโพล้เพล้ของกรุงโตเกียววันนี้สวยงามยิ่งกว่าวันใดเท่าที่เธออยู่อาศัยมาสามปี

     

    เรื่องเล่าจากคุณยายที่เธอเจอที่ศาลเจ้ายังคงอยู่จิตใจของเธอมาตลอด

     

    เรื่องเกี่ยวกับคำอธิษฐานต่อฟากฟ้าในกรุงโตเกียว

    ถ้าไม่ได้ไปอธิษฐานกับเทพเธอก็จะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่ท้องฟ้างั้นเหรอ?

     

    ฮัตสึกะเลิกคิ้วขึ้น แต่แล้วก็ยกมือทั้งสองขึ้นมาประสานกัน

    เธออธิษฐานใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วอึดใจ เด็กสาวก็ลืมตาขึ้นและลดมือลงก่อนจะยิ้มกับตัวเองแล้วก็เดินต่อไปภายใต้แสงไฟจากข้างทางที่เริ่มสว่างขึ้น

     

     

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×