ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ^^มารักกันอีกได้ไหม 6^^
ตอนที่ 6
เมธัสเดินออกมาจากสวน พอถึงหน้าประตูก็ต้องชะงัก เมื่อมีคนมายืนขวางอยู่ เขาจ้องหน้าภาคภูมิด้วยสายตาแข็งกร้าวทันที “หลีกไป! ”
“ผมขอคุยด้วยได้ไหมครับ” ภาคภูมิกล่าวอย่างนอบน้อม
เมธัสเท้าสะเอว ยืนพักขาในท่าสบาย ๆ แต่สายตาเอาเรื่อง อย่างเห็นได้ชัด
“ไม่มีอะไรจะคุย” เมธัสกล่าวห้วน ๆ สายตามองไปยังหน้าต่างชั้นบน ซึ่งเป็นห้องชุดของภาคภูมิกับฟาริดา ที่คุณกรองแก้วตกแต่งให้ใหม่
“อยู่กันไม่ทันไรเตียงก็จะหักแล้วหรือ? เมื่อหัวค่ำเมียลงมายืนทอดอาลัย พอดกดึกผัวก็แยกตัวมาอีกคน” เมธัสกล่าวอย่างเยาะ ๆ แล้วมองไปยังห้องของภาคภูมิกับฟาริดา ที่เปิดไฟจ้าอยู่ แสดงว่าคนที่อยู่ข้างบนตอนนี้ก็ยังไม่หลับ
“ผู้ชายบางคนก็โชคดี เพราะก่อนที่เขาจะได้สิ่งไม่ดีมาครอบครอง ก็มีมือดีมาชิงเอาไปเสียก่อน และในที่สุดไอ้คนนั้นแหละก็ต้องรับกรรมไป” เมธัสกล่าวแล้วมองหน้าภาคภูมิอย่างสะใจ แล้วก็เดินผ่านเขาไป
“เดี๋ยวครับ! คุณเมธัส” เสียงเรียกนั้นทำให้เมธัสหยุดอยู่กับที่ แต่เขาก็ไม่คิดหันกลับไปมองอีกฝ่าย
“ผมอยากอธิบายเรื่องระหว่างผมกับฟาง” ภาคภูมิกล่าวอย่างตัดสินใจ และรอคอย
“เพื่ออะไรล่ะ?” เมธัสกล่าวห้วนๆ
“เพื่อจะโพทนาให้ชาวบ้านรู้หรือว่ารักกันยังไง หรือจะเยาะเย้ยที่ได้ชนะฉัน”
เมธัสกล่าวได้เท่านั้น ก็หันไปมองภาคภูมิอย่างแข็งกร้าวอีกครั้ง
“จะบอกอะไรให้น่ะ! เมียของนายน่ะไม่เคยอยู่ในสายตาฉันเลย ทั้งอดีตและปัจจุบัน หรืออนาคต แต่ก่อนนั้นก็แค่ประจ๋อประแจ๋ตามภาษาผู้ชาย เพราะฉะนั้นต่อให้หล่อนจะเป็นจะตาย ใครจะเอาหล่อนไป หรือต่อจากนายแล้วหล่อนจะไปหาใครฉันก็ไม่สน” เมธัสกล่าวแล้วมองอีกฝ่ายที่ยืนหน้าซีด อย่างสะใจลึก ๆ
“หลีกไป! ฉันจะกลับห้อง”
จบคำพูดองเขาภาคภูมิก็หลีกทางให้ เมธัสจึงเดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผย ทิ้งให้ภาคภูมิยืนถอนใจ ด้วยสีหน้าทุกข์ร้อนเพียงลำพัง
“เผ้ง ๆ ๆ โครม!”
“กูรู้แล้วว่าพวกมึงรักกัน จะมาบอกกูทำไม?” เมธัสกล่าวอย่างคลั่งแค้น จากนั้นก็กวาดของทุกอย่างบนโต๊ะทำงาน ลงมากองบนพื้นขณะที่อยู่ลำพังบนห้อง ดีที่ห้องเขาเป็นห้องเก็บเสียง ไม่อย่างนั้นมีหวังได้ยินกันทั้งตึกแน่ ๆ
“ทำไมไม่ตายห่า! กันไปทั้งคู่ มาอยู่ขวางโลกกันทำไมว่ะ”
เมธัสกล่าวอย่างพลุ่งพล่าน จากนั้นจึงกระแทกตัวลงบนเตียงหรู เขาเกลียดแต่ไม่รู้จริง ๆ ว่าตนกำลังเกลียดอะไร เกลียดภาคภูมิ เกลียดฟาริดา หรือเกลียดตัวเอง....ชายหนุ่มนั่งกุมขมับ เหลือบมองไปทางหัวเตียง เห็นโทรศัพท์ก็เหมือนสวรรค์โปรด รีบคว้ามันขึ้นมาทันที แล้วกดหมายเลขลงไปรอสายไม่นานปลายสายก็มารับ
“สวัสดีครับแอนนา” เขาพยายามบังคับเสียงให้นุ่มนวล
“แอนนาครับกลับมาก่อนกำหนดได้ไหม ผมต้องการแต่งงานกับคุณให้เร็วที่สุด”
เมธัสกล่าวได้เท่านั้นแล้วก็วางสายลง เพราะสำหรับเขากับแอนนาแล้ว มันก็เป็นอย่างนี้เสมอ แอนนาไม่เคยเรียกร้องอะไร หล่อนเป็นคนสบาย ๆ และมักตามใจเขาเสมอ ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรหล่อนก็ไม่เคยขัดใจ และผู้หญิงแบบนี้ต่างหาก ที่จะ อยู่กับเขาได้
เมธัสวางหูโทรศัพท์ลงกับแป้น แล้วทิ้งตัวลงนอนกับฟูกหลับตานิ่ง จนตนเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าหลับลงไปเมื่อไหร่ ไม่แม้แต่อาบน้ำชำระร่างกายด้วยซ้ำไป ในฝันของเขานั้นยังมีสตรีหน้าขาว ๆ ยิ้มอย่างอ่อนหวาน หล่อนสวยน่ารักราวนางฟ้า แต่ใครจะรู้ว่าหล่อนคือนางมารร้ายประจำใจเขา
เมธัสเดินออกมาจากสวน พอถึงหน้าประตูก็ต้องชะงัก เมื่อมีคนมายืนขวางอยู่ เขาจ้องหน้าภาคภูมิด้วยสายตาแข็งกร้าวทันที “หลีกไป! ”
“ผมขอคุยด้วยได้ไหมครับ” ภาคภูมิกล่าวอย่างนอบน้อม
เมธัสเท้าสะเอว ยืนพักขาในท่าสบาย ๆ แต่สายตาเอาเรื่อง อย่างเห็นได้ชัด
“ไม่มีอะไรจะคุย” เมธัสกล่าวห้วน ๆ สายตามองไปยังหน้าต่างชั้นบน ซึ่งเป็นห้องชุดของภาคภูมิกับฟาริดา ที่คุณกรองแก้วตกแต่งให้ใหม่
“อยู่กันไม่ทันไรเตียงก็จะหักแล้วหรือ? เมื่อหัวค่ำเมียลงมายืนทอดอาลัย พอดกดึกผัวก็แยกตัวมาอีกคน” เมธัสกล่าวอย่างเยาะ ๆ แล้วมองไปยังห้องของภาคภูมิกับฟาริดา ที่เปิดไฟจ้าอยู่ แสดงว่าคนที่อยู่ข้างบนตอนนี้ก็ยังไม่หลับ
“ผู้ชายบางคนก็โชคดี เพราะก่อนที่เขาจะได้สิ่งไม่ดีมาครอบครอง ก็มีมือดีมาชิงเอาไปเสียก่อน และในที่สุดไอ้คนนั้นแหละก็ต้องรับกรรมไป” เมธัสกล่าวแล้วมองหน้าภาคภูมิอย่างสะใจ แล้วก็เดินผ่านเขาไป
“เดี๋ยวครับ! คุณเมธัส” เสียงเรียกนั้นทำให้เมธัสหยุดอยู่กับที่ แต่เขาก็ไม่คิดหันกลับไปมองอีกฝ่าย
“ผมอยากอธิบายเรื่องระหว่างผมกับฟาง” ภาคภูมิกล่าวอย่างตัดสินใจ และรอคอย
“เพื่ออะไรล่ะ?” เมธัสกล่าวห้วนๆ
“เพื่อจะโพทนาให้ชาวบ้านรู้หรือว่ารักกันยังไง หรือจะเยาะเย้ยที่ได้ชนะฉัน”
เมธัสกล่าวได้เท่านั้น ก็หันไปมองภาคภูมิอย่างแข็งกร้าวอีกครั้ง
“จะบอกอะไรให้น่ะ! เมียของนายน่ะไม่เคยอยู่ในสายตาฉันเลย ทั้งอดีตและปัจจุบัน หรืออนาคต แต่ก่อนนั้นก็แค่ประจ๋อประแจ๋ตามภาษาผู้ชาย เพราะฉะนั้นต่อให้หล่อนจะเป็นจะตาย ใครจะเอาหล่อนไป หรือต่อจากนายแล้วหล่อนจะไปหาใครฉันก็ไม่สน” เมธัสกล่าวแล้วมองอีกฝ่ายที่ยืนหน้าซีด อย่างสะใจลึก ๆ
“หลีกไป! ฉันจะกลับห้อง”
จบคำพูดองเขาภาคภูมิก็หลีกทางให้ เมธัสจึงเดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผย ทิ้งให้ภาคภูมิยืนถอนใจ ด้วยสีหน้าทุกข์ร้อนเพียงลำพัง
“เผ้ง ๆ ๆ โครม!”
“กูรู้แล้วว่าพวกมึงรักกัน จะมาบอกกูทำไม?” เมธัสกล่าวอย่างคลั่งแค้น จากนั้นก็กวาดของทุกอย่างบนโต๊ะทำงาน ลงมากองบนพื้นขณะที่อยู่ลำพังบนห้อง ดีที่ห้องเขาเป็นห้องเก็บเสียง ไม่อย่างนั้นมีหวังได้ยินกันทั้งตึกแน่ ๆ
“ทำไมไม่ตายห่า! กันไปทั้งคู่ มาอยู่ขวางโลกกันทำไมว่ะ”
เมธัสกล่าวอย่างพลุ่งพล่าน จากนั้นจึงกระแทกตัวลงบนเตียงหรู เขาเกลียดแต่ไม่รู้จริง ๆ ว่าตนกำลังเกลียดอะไร เกลียดภาคภูมิ เกลียดฟาริดา หรือเกลียดตัวเอง....ชายหนุ่มนั่งกุมขมับ เหลือบมองไปทางหัวเตียง เห็นโทรศัพท์ก็เหมือนสวรรค์โปรด รีบคว้ามันขึ้นมาทันที แล้วกดหมายเลขลงไปรอสายไม่นานปลายสายก็มารับ
“สวัสดีครับแอนนา” เขาพยายามบังคับเสียงให้นุ่มนวล
“แอนนาครับกลับมาก่อนกำหนดได้ไหม ผมต้องการแต่งงานกับคุณให้เร็วที่สุด”
เมธัสกล่าวได้เท่านั้นแล้วก็วางสายลง เพราะสำหรับเขากับแอนนาแล้ว มันก็เป็นอย่างนี้เสมอ แอนนาไม่เคยเรียกร้องอะไร หล่อนเป็นคนสบาย ๆ และมักตามใจเขาเสมอ ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรหล่อนก็ไม่เคยขัดใจ และผู้หญิงแบบนี้ต่างหาก ที่จะ อยู่กับเขาได้
เมธัสวางหูโทรศัพท์ลงกับแป้น แล้วทิ้งตัวลงนอนกับฟูกหลับตานิ่ง จนตนเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าหลับลงไปเมื่อไหร่ ไม่แม้แต่อาบน้ำชำระร่างกายด้วยซ้ำไป ในฝันของเขานั้นยังมีสตรีหน้าขาว ๆ ยิ้มอย่างอ่อนหวาน หล่อนสวยน่ารักราวนางฟ้า แต่ใครจะรู้ว่าหล่อนคือนางมารร้ายประจำใจเขา
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น