ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ^^มารักกันอีกได้ไหม^^

    ลำดับตอนที่ #5 : ^^มารักกันอีกได้ไหม 5^^

    • อัปเดตล่าสุด 22 ส.ค. 50


    ตอนที่ 5
    คืนนี้ฟาริดานอนไม่หลับกระสับกระส่าย นั้นคงเป็นเพราะคำพูดของเมธัส ที่พูดไว้ที่โต๊ะอาหารนั้นเอง “เขาจะแต่งงานกับแอนนา.."
    ฟาริดาขยับไปขยับมาอยู่บนที่นอนพักใหญ่ สุดท้ายก็ต้องลุกขึ้น แล้วหาเสื้อคลุมมาสวมใส่ จากนั้นจึงเดินฝ่าแสงไฟสลัวๆลงไปยังสวนหลังบ้าน ยืนอยู่ไม่นานก็ต้องสะดุ้ง เมื่อรับรู้ว่าตนเองไม่ได้อยู่เพียงลำพังเสียแล้ว
    "แปลกนะ! คนที่เบื่ออะไรง่ายๆอย่างเธอ กลับไม่เบื่อจุดๆเดิม"
    พอได้ยินเสียงทักนั้นฟาริดาก็ไม่สนใจ หรือคิดจะหันกลับไปมองที่มาของเสียงเลย เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นใคร ....ตาของเธอยังคงจับจ้องไปที่น้ำตกจำลองนิ่ง เท้าก็เหยียบอยู่บนโขดหิน ไม่คิดจะเขยื้อนกายไปไหน
    กลิ่นดอกไม้นานาพันธุ์โชยเข้าจมูก หญิงสาวสูดกลิ่นนั้นเข้าไปจนเต็มปอด ตามองไปยังดวงจันทร์สีเหลืองนวล ที่ส่องเเสงสว่างไสวอยู่บนท้องฟ้า ประดับประดาด้วยดวงดาวมากมายนิ่ง ปล่อยให้ผมยาวสลวยดุจแพรไหม พริ้วไสวล้อเล่นกับสายลมไปตามเรื่อง
    เมธัสมองไปตามสายตาของหล่อน แล้วก็ยิ้มเยาะ ๆ
    "อ้อ! ยังชอบชมจันทร์เหมือนเคย"
    เมธัสกล่าวเยาะๆแล้วลอบมองเรือนร่างของฟาริดา ยอมรับว่าหล่อนมีรูปร่างงดงามนัก กลมกลึง ราวสลักเสล่าเอาไว้ก็ไม่ปาน เพราะถึงแม้จะว่ามีเสื้อคลุมบดบังอยู่ ความงามก็หาเล็ดลอดไปจากสายตาของเขาไม่
    เมธัสอัศจรรย์ใจนักไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ว่าฟาริดานั้น จะผ่านการมีบุตรมาแล้ว
    เพราะเรือนร่างของหล่อนนั้น ยังคงงดงามและไร้ที่ติ ราวกับรูปสลักของเทพธิดาก็ไม่ปาน
    "อีกอย่างสีชมพู ยังคงเป็นสีประจำใจเธอเหมือนเคยสินะ"
    ฟาริดาหันกลับไปจ้องหน้าเมธัสทันที อยากคิดเข้าข้างตนเองนักว่า เมธัสยังจดจำเรื่องราวทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอได้ แต่สายตาที่เขามองเธอนั้น มันกำลังบอกกับเธอว่าไม่ใช่ ดูเหมือนว่าเขานั้นกำลังเยาะหยันอะไรบางอย่างอยู่ และสิ่งนั้นคือตัวเธอนั้นเอง
    หญิงสาวจึงเชิดหน้าขึ้นสูง แล้วกล่าวกับเขาอย่างหนักว่า
    "ค่ะ!คุณเมธัส...สำหรับดิฉันแล้ว เคยเป็นยังไงก็ยังคงเป็นแบบนั้น เมื่อก่อนเคยชอบอะไรก็ยังคงเหมือนเดิม แต่! มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่มันเปลี่ยนไป อยากรู้ไหมล่ะค่ะว่าคืออะไร?”
    ฟาริดากล่าวพร้อมกับมองเมธัสอย่างท้าทาย
    "อะไร?" เมธัสถาม พร้อมกับมองผู้หญิงตรงหน้าของตน อย่างหงุดหงิด
    ฟาริดามองเขากลับไปอย่างเยาะๆ แล้วกล่าวออกมาอย่างเชือดเฉือนว่า
    "หัวใจ! หัวใจของฉันไงคะ ที่มันเปลี่ยนไป.." พูดจบฟาริดาก็เดินกระแทกไหล่เมธัสไป ทิ้งให้เขาต้องจมอยู่กับความคิด ของตนเองเพียงลำพัง
    หลังจากแยกตัวจากเมธัสฟาริดาก็ขึ้นห้อง หญิงสาวเดินไปยังหน้าต่าง แล้วค่อยๆ เปิดม่านออกไป เห็นเมธัสยืนอยู่ตรงตำแหน่งที่เธอเพิ่งจากมาเมื่อครู่นี้ ก็ถอดใจเฮือก
    "พี่เมธขา! ใจของฟางที่มันเปลี่ยนไปน่ะ ไม่จริงหรอกคะ...เมื่อก่อนเคยมีพี่เมธอยู่ยังไง ปัจจุปันพี่ก็ยังอยู่ตรงนั้นค่ะ แต่ที่มันเปลี่ยนน่ะคือสภาพของมันต่างหาก เพราะมันบอบช้ำจน ไม่เหลือชิ้นดีอีกต่อไปแล้ว"
    หญิงสาวคิดร้าวลึกในอก เมื่อนึกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้
    "พี่เมธขา! ฟางจะทนได้อย่างไรค่ะ ถ้าพี่พาคนอื่นเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ พามาร่วมโต๊ะอาหารกับฟาง แล้วยังต้องรับรู้อีกว่า เขาต้องนอนร่วมห้องกับพี่ทุกคืนทุกวัน
    พี่เมธขา พี่จะทำร้ายหัวใจฟางไปถึงไหนกันค่ะ...."
    ฟาริดาคิดได้เท่านั้น ก็ปิดปากกลั้นเสียงสะอื้นจนตัวโยน
    "อุ๊บ!"หญิงสาวร้องออกมา เมื่อถอยหลัง ไปชนกับอะไรบางอย่างเข้า
    "ฟาง!”
    เสียงภาคภูมิเรียกเธอด้วยน้ำเสียงร้อนใจ เขาหมุนร่างของหญิงสาวมาเผชิญหน้ากับตน แล้วเอื้อมมือมาซับน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา สีหน้ากังวลใจยิ่งนัก
    "พี่เมธ! ใช่ไหมฟาง? "
    ภาคภูมิถาม พร้อมกับเปิดม่านออกไป หญิงสาวเห็นเขากัดกรามกรอด สีหน้าเครียดจัด
    "พี่ขอโทษ! ที่เป็นต้นเหตุ ของเรื่องราวทั้งหมด” ภาคภูมิมองหล่อนอย่างเศร้าสร้อย ฟาริดารีบยกมือสั่นๆของตนขึ้น แล้วปิดปากชายหนุ่มทันที
    "ไม่ค่ะพี่ภูมิ ! ไม่มีใครผิด เขาต่างหากที่ไม่ยินดีรับฟังอะไรเลย"
    หญิงสาวฝืนยิ้มให้ภาคภูมิอย่างอ่อนโยน พยายามปรับน้ำเสียงให้แจ่มใสขึ้น
    "ช่างเถอะค่ะ อีกไม่นานฟางก็จะลืมเขาได้เอง"
    "บางที..พี่อาจจะลองคุยกับเขาดูอีกสักครั้ง เวลามันก็ล่วงเลยมานานแล้ว บางทีเขาอาจจะพร้อมรับฟังความจริงแล้วก็ได้ แล้วถ้าเขาเข้าใจและยอมรับ พี่ก็จะคืนฟางให้เขาไป" จบคำพูดของเขาฟาริดาก็หน้าตื่นทันที
    "ไม่ค่ะพี่ภูมิ! อย่าทำแบบนั้น ฟางไม่ใช่สิ่งของนะค่ะ จะได้โยนกันไปกันมาแบบนี้ ฟางเชื่ออยู่อย่างค่ะ คนเราถ้าถูกสร้างมาเพื่อกันและกันแล้ว ไม่จำเป็นต้องจับฟางใส่พาน แล้วไปประเคนให้ใครเขาหรอกคะ เพราะสุดท้ายเราคงไม่แคล้วกันไปได้" ภาคภูมิยังคงจ้องหน้าฟาริดานิ่ง ดูเขาจริงจังกับเรื่องนี้มากนัก
    "ยังไงเสีย พี่ก็จะหาโอกาสอธิบายกับเขาอีกสักครั้ง!" ภาคภูมิพูดพร้อมกับมองไปทางเมธัส อย่างเด็ดเดี่ยว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×