ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ^^มารักกันอีกได้ไหม 1^^
ตอนที่ 1
“อุ๊บ!”
“ว้าย..ยัยฟางเป็นอะไร”
ฟาริดารู้สึกมวลท้องหูอื้อไปหมด จำได้แต่ว่าพอแตะอาหารคำแรกเท่านั้น ก็เหมือนจะขย้อนออกมา จึงรีบลุกขึ้นเอามืออุดปากไว้ เพื่อมิให้ของเสียพุ่งออกมาเรี่ยราด ต่อมาไม่นานนัก เธอก็ได้ยินเสียงเกรี้ยวกราดของชายอีกคนตามมาทันที
“หลีกไปนายภูมิ! เป็นผัวภาษาอะไร”
ชายร่างสูงหน้าตาคมเข้มกล่าวเสียงกร้าว แล้วเดินรี่ไปหาสตรีร่างเพรียวบาง จากนั้นจึงช้อนร่างนั้นขึ้นอย่างง่ายดาย แล้วเดินระริ้วไปยังห้องน้ำทันที พอถึงก็ว่างร่างนั้นลงสู่พื่น อย่าไม่ปรานีปราศรัยเท่าใดนัก
“เอ้า! อ้วกเข้าไป”
ฟาริดาฟังคำของเขาแล้ว ไม่อยากทำตามคำสั่งของเขาเอาเสียเลย แต่สถานการณ์แบบนี้มันเลี่ยงไม่ได้เลย เพราะเธอจำเป็นจริงๆที่ต้องขย้อนของเก่าออกมา
หลังจากอาเจียนออกมาจนเหนื่อย หญิงสาวก็พิงร่างไปที่ผนังห้องน้ำอย่างเพลียๆ มิวายได้ยินเสียงหยันๆของเมธัสลอยมาเข้าหูอีกจนได้
“ท้องอีกล่ะสิ ! โชคดีเป็นบ้าที่ไม่เผลอไปแต่งงานด้วย ฮึ!พันธิ์ลูกดกอย่างงี้ อยู่ด้วยก็มีแต่เสียอารมณ์ เล่นท้องหัวปีท้ายปี อยู่กันไม่ถึงสามปีมีหวังโทรมเป็นยายแก่แน่ๆ”
จบคำพูดของเมธัส ฟาริดาก็หันไปหาชักโครกทันที เมธัสเลยต้องจำใจก้มลงไปลูบหลังให้อย่างเสียไม่ได้ พอได้อาเจียนออกมาอีกครั้ง ฟาริดาก็รู้สึกเปลี้ยไปหมด จึงเอื้อมมือ ไปคว้าร่างของเมธัสเอาไว้อย่างอ่อนแรง
“เป็นยังไงบ้างฟาง! ไหวไหม?”
จะว่าเธอหูแว่วไปหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ที่ได้ยินเสียงเมธัสกล่าวออกมาอย่างอ่อนโยน เหมือนที่เขาเคยใช้มันกับเธอเมื่อนานมาแล้ว......
ฟาริดาค่อยๆช้อนตาขึ้นมองเมธัสน้ำตาคลอ ริมฝีปากบางๆยิ้มออกมาน้อยๆ แต่ก็รับรู้ได้ถึงอาการสั่นๆของมัน
“พี่เมธค่ะ!” หญิงสาวกล่าวออกมาเบาๆ แล้วมองเขาอย่างตื้นตัน ทั้งสองสบตากันนิ่งนาน แต่ไม่นานเมธัสก็กัดกรามดังกรอด! แล้วตะโกนเรียกชื่อภาคภูมิเสียงดังลั่น
“นายภูมิๆ หายหัวไปไหน ต้องรอให้เมียนายคลอดก่อนหรือไง ถึงจะมาดู...รีบมาดูเมียแกสิโว้ย! รักกันมากไม่ไช่หรือไง ”
ฟาริดาหลับตานิ่ง ไม่อยากได้ยินความจริงที่เขากล่าวออกมาเลย ว่าปัจจุปันเธอ ..คือภรรยาของภาคภูมิ หาใช่เมธัสดังที่เคยวาดฝันกันไว้ดังก่อนไม่..
ภาคภูมิได้ยินเสียงเรียกของเมธัส ก็ทำท่าจะเดินไปในห้องน้ำทันที แต่กลับถูกคุณกรองแก้วรั้งไว้เสียก่อน
“อย่าเลยภูมิ” เท่านั้นเองภาคภูมิก็หันไปมองมารดาอุปถัมภ์อย่างกังขา
“แม่ว่าปล่อยให้เขามีเวลาอยู่ด้วยกันบ้างเถอะ เผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้นมาบ้าง เราทุกคนทำร้ายพวกเขามามากพอแล้ว”
“แต่พี่เมธกำลังโมโหนะครับคุณแม่ เขาอาจทำร้ายฟางได้”
คุณกรองแก้วยิ้มบางๆ ให้ภาคภูมิ แล้วส่ายศรีษะช้าๆ
“ไม่หรอกภูมิ ไม่มีทางที่เมธจะทำร้ายฟางหรอก แม่เชื่ออย่างนั้น ถึงเมธัสจะรักแรงเกลียดแรง แต่เขาจะไม่ทำอะไรฟางอย่างแน่นอน”
คุณกรองแก้วกล่าวออกมาอย่างมั่นใจ ในตัวของบุตรชายในอุทร ที่ตนเฝ้าถนอมออกมาจนเติบใหญ่ เมธัสเป็นบุรุษที่เพียบพร้อมนักในสายตาของใครต่อใคร แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาอาภัพเสียเหลือเกิน นั่นก็คือความรักนั่นเอง......
“โอ้ย! อะไรของเธอกันนี่” เมธัสร้องโว้ยออกมาอย่างฉุนเฉียว ขณะที่อยู่กันเพียงลำพังกับฟาริดา ในห้องน้ำสองต่อสอง เมื่อจู่ๆฟาริดาที่อาศัยร่างเขาเป็นหลัก ก็เกิดเนรคุณเขา โดยการอาเจียนใส่เขาเสียดื้อๆ
ฟาริดาหน้าเจื่อนทันที มองผลงานตนเองที่อยู่บนเสื้อขาวของเขา แล้วใจเสียช้อนตาขึ้นมองเมธัสอย่างหวั่นๆ
“เอ่อ! ฟางขอโทษจริงๆค่ะพี่เมธ มันไม่ทันจริงๆ”
หญิงสาวกล่าวทำท่าจะร้องไห้ เมธัสมองอีกฝ่ายแล้วถอนใจเฮือก จากนั้นจึงกัดฟันพูดกับหญิงสาวอย่างหัวเสียว่า
“มานี่เลยเธอ มานี่!”
ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับลากร่างอันกระปลดกระเปลี้ยของฟาริดา ไปผิงไว้ที่ผนังห้องน้ำ แล้วยิ้มเยาะเธอทันที
“ดูเหมือนนายภูมิมันจะรักเธอเหลือเกินนะฟาริดา! เพราะตั้งแต่เธออาเจียนจะเป็นจะตายนี่ มันหายหัวไปเลยนี่ ไม่มาดูดำดูดีกันแม้แต่น้อย”
เมธัสกล่าวออกมาอย่างสะใจ จากนั้นจึงค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของตนออก ฟาริดาเห็นเขาทำอย่างนั้น ก็หน้าตื่นทันทีจึงกล่าวออกไปอย่างตะกุกตะกักว่า
“นะ..นั้น..พี่เมธจะทำอะไรคะ?”
เมธัสหันมาถลึงตาใส่ฟาริดาอย่างเอาเรื่องทันที ที่หล่อนทำท่าตกอกตกใจ ราวกับเขาเป็นโจรร้าย
“ก็ถอดเสื้อนะสิ! หรือเธอจะให้ฉันเก็บอ้วกของเธอเอาไว้ไปให้ผัวเธอดู ว่าเธอน่ะเกลียดขี้หน้าของฉันขนาดไหน จนถึงกับต้องอ้วกใส่กันแบบนี้”
ฟาริดาฟังคำพูดของเขาก็หน้าเสียทันที รู้สึกผิดเหมือนกันที่ไปอาเจียนใส่เขา ราวกับคนเนรคุณแบบนี้ ทั้งๆที่เขาช่วยเธอเอาไว้แท้ๆ ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มใจก็ตามเถอะ
“ฟางเสียใจจริงๆค่ะพี่เมธ ” หญิงสาวกล่าวเบาๆ มองเขาไม่เต็มตานัก
“ไม่เป็นไร ฉันมันเสือกเอง ที่จริงมันเป็นหน้าที่ของนายภูมิแท้ๆ และในเมื่ออยากเสือกดีนัก ก็ต้องเจอแบบนี้แหละ”
ฟาริดาฟังคำประชดประชันนั้นด้วยน้ำตาคลอ
“พี่เมธ!” เธอเผลอเรียกเขาเบาๆแบบที่เคยเรียก เอื้อมมือจะไปแตะแขนเขา คลายจะปลอบโยนกลายๆ แต่ถูกเมธัสสะบัดหนีออกอย่างแรง
“อย่ามาเรียกฉันว่าพี่! ฉันไม่ใช่พี่ของเธอ ยัยเมคนเดียวเท่านั้นที่เป็นน้องของฉัน เธอไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉันสักนิด และถ้าแม่ฉันไม่เมตตาต่อเธอ ป่านนี้เธอคนไม่ได้มีชีวิตที่ดี จนมาแว้งกัดฉันอย่างทุกวันนี้หรอกฟาริดา!”
เมธัสกล่าวด้วยสายตาหมิ่นแคลน มองอีกฝ่ายด้วยหางตา แล้วพูดเสียงเน้นหนักกลับหล่อนว่า
“เพราะฉะนั้นอย่ามาเรียกฉันว่าพี่ อย่าตีตัวเสมอฉัน ...เป็นคางคกให้อยู่อย่างคางคก อย่าเผยอมาขึ้นวอ”
ฟาริดาฟังคำพูดนั้นอย่างยอกแสลง บังคับไม่ให้ขาตัวเองสั่น จากนั้นจึงหลับตาแน่น ไม่อยากมองหน้าคนใจดำให้ช้ำใจ แล้วตะโกนเรียกภาคภูมิลั่นห้องน้ำ
“พี่ภูมิๆ พี่ภูมิอยู่ที่ไหนค่ะมาหาฟางด้วย”
เท่านั้นเองประตูก็เปิดผัวะเข้ามาทันที
“พี่ภูมิ!” ฟาริดาเรียกผู้มาใหม่น้ำตาคลอ แล้วโผลเข้าหาเขาทันที”
เมธัสมองทั้งคู่ด้วยสายตาสมเภช แล้วกล่าวเสียงหยันๆออกไปว่า
“รู้ว่าเมียสุดที่รักขาดตัวเองไม่ได้แบบนี้ ก็อย่าหายหัวไปนานนักสิภูมิ เพราะนอกจากเมียจะทุรนทุรายแล้ว ชาวบ้านเขาก็ยังเดือดร้อนไปด้วยอีก”
เมธัสกล่าวจบ ก็เตะเสื้อที่เลอะอาเจียนของฟาริดา ไปชิดจนผนังห้องน้ำ แล้วจึงเดินจากไป มิวายปิดประตูห้องน้ำเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เล่นเอาสองคนที่อยู่ในห้องน้ำสะดุ้งพร้อมกันทีเดียว
ภาคภูมิก้มลงมองสตรีในอ้อมแขนอย่างหนักใจ แล้วโอบกระชับร่างนั้นเข้าหาตัวมากขึ้น “ฟางจ๋าอย่าร้องไปเลย แล้วสักวันเขาก็จะเข้าใจเราเอง”
สิ้นคำพูดของภาคภูมิเท่านั้น ฟาริดาก็ปล่อยโฮ..ออกมายกใหญ่ เธอคิดว่าระหว่างเธอและเมธัสนั้น เวลาได้พลัดพาทุกสิ่งออกไปจนหมดแล้ว และยากเหลือเกินที่ทุกอย่างจะหวนคืนมาสู่วันเก่าๆได้
“อุ๊บ!”
“ว้าย..ยัยฟางเป็นอะไร”
ฟาริดารู้สึกมวลท้องหูอื้อไปหมด จำได้แต่ว่าพอแตะอาหารคำแรกเท่านั้น ก็เหมือนจะขย้อนออกมา จึงรีบลุกขึ้นเอามืออุดปากไว้ เพื่อมิให้ของเสียพุ่งออกมาเรี่ยราด ต่อมาไม่นานนัก เธอก็ได้ยินเสียงเกรี้ยวกราดของชายอีกคนตามมาทันที
“หลีกไปนายภูมิ! เป็นผัวภาษาอะไร”
ชายร่างสูงหน้าตาคมเข้มกล่าวเสียงกร้าว แล้วเดินรี่ไปหาสตรีร่างเพรียวบาง จากนั้นจึงช้อนร่างนั้นขึ้นอย่างง่ายดาย แล้วเดินระริ้วไปยังห้องน้ำทันที พอถึงก็ว่างร่างนั้นลงสู่พื่น อย่าไม่ปรานีปราศรัยเท่าใดนัก
“เอ้า! อ้วกเข้าไป”
ฟาริดาฟังคำของเขาแล้ว ไม่อยากทำตามคำสั่งของเขาเอาเสียเลย แต่สถานการณ์แบบนี้มันเลี่ยงไม่ได้เลย เพราะเธอจำเป็นจริงๆที่ต้องขย้อนของเก่าออกมา
หลังจากอาเจียนออกมาจนเหนื่อย หญิงสาวก็พิงร่างไปที่ผนังห้องน้ำอย่างเพลียๆ มิวายได้ยินเสียงหยันๆของเมธัสลอยมาเข้าหูอีกจนได้
“ท้องอีกล่ะสิ ! โชคดีเป็นบ้าที่ไม่เผลอไปแต่งงานด้วย ฮึ!พันธิ์ลูกดกอย่างงี้ อยู่ด้วยก็มีแต่เสียอารมณ์ เล่นท้องหัวปีท้ายปี อยู่กันไม่ถึงสามปีมีหวังโทรมเป็นยายแก่แน่ๆ”
จบคำพูดของเมธัส ฟาริดาก็หันไปหาชักโครกทันที เมธัสเลยต้องจำใจก้มลงไปลูบหลังให้อย่างเสียไม่ได้ พอได้อาเจียนออกมาอีกครั้ง ฟาริดาก็รู้สึกเปลี้ยไปหมด จึงเอื้อมมือ ไปคว้าร่างของเมธัสเอาไว้อย่างอ่อนแรง
“เป็นยังไงบ้างฟาง! ไหวไหม?”
จะว่าเธอหูแว่วไปหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ที่ได้ยินเสียงเมธัสกล่าวออกมาอย่างอ่อนโยน เหมือนที่เขาเคยใช้มันกับเธอเมื่อนานมาแล้ว......
ฟาริดาค่อยๆช้อนตาขึ้นมองเมธัสน้ำตาคลอ ริมฝีปากบางๆยิ้มออกมาน้อยๆ แต่ก็รับรู้ได้ถึงอาการสั่นๆของมัน
“พี่เมธค่ะ!” หญิงสาวกล่าวออกมาเบาๆ แล้วมองเขาอย่างตื้นตัน ทั้งสองสบตากันนิ่งนาน แต่ไม่นานเมธัสก็กัดกรามดังกรอด! แล้วตะโกนเรียกชื่อภาคภูมิเสียงดังลั่น
“นายภูมิๆ หายหัวไปไหน ต้องรอให้เมียนายคลอดก่อนหรือไง ถึงจะมาดู...รีบมาดูเมียแกสิโว้ย! รักกันมากไม่ไช่หรือไง ”
ฟาริดาหลับตานิ่ง ไม่อยากได้ยินความจริงที่เขากล่าวออกมาเลย ว่าปัจจุปันเธอ ..คือภรรยาของภาคภูมิ หาใช่เมธัสดังที่เคยวาดฝันกันไว้ดังก่อนไม่..
ภาคภูมิได้ยินเสียงเรียกของเมธัส ก็ทำท่าจะเดินไปในห้องน้ำทันที แต่กลับถูกคุณกรองแก้วรั้งไว้เสียก่อน
“อย่าเลยภูมิ” เท่านั้นเองภาคภูมิก็หันไปมองมารดาอุปถัมภ์อย่างกังขา
“แม่ว่าปล่อยให้เขามีเวลาอยู่ด้วยกันบ้างเถอะ เผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้นมาบ้าง เราทุกคนทำร้ายพวกเขามามากพอแล้ว”
“แต่พี่เมธกำลังโมโหนะครับคุณแม่ เขาอาจทำร้ายฟางได้”
คุณกรองแก้วยิ้มบางๆ ให้ภาคภูมิ แล้วส่ายศรีษะช้าๆ
“ไม่หรอกภูมิ ไม่มีทางที่เมธจะทำร้ายฟางหรอก แม่เชื่ออย่างนั้น ถึงเมธัสจะรักแรงเกลียดแรง แต่เขาจะไม่ทำอะไรฟางอย่างแน่นอน”
คุณกรองแก้วกล่าวออกมาอย่างมั่นใจ ในตัวของบุตรชายในอุทร ที่ตนเฝ้าถนอมออกมาจนเติบใหญ่ เมธัสเป็นบุรุษที่เพียบพร้อมนักในสายตาของใครต่อใคร แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาอาภัพเสียเหลือเกิน นั่นก็คือความรักนั่นเอง......
“โอ้ย! อะไรของเธอกันนี่” เมธัสร้องโว้ยออกมาอย่างฉุนเฉียว ขณะที่อยู่กันเพียงลำพังกับฟาริดา ในห้องน้ำสองต่อสอง เมื่อจู่ๆฟาริดาที่อาศัยร่างเขาเป็นหลัก ก็เกิดเนรคุณเขา โดยการอาเจียนใส่เขาเสียดื้อๆ
ฟาริดาหน้าเจื่อนทันที มองผลงานตนเองที่อยู่บนเสื้อขาวของเขา แล้วใจเสียช้อนตาขึ้นมองเมธัสอย่างหวั่นๆ
“เอ่อ! ฟางขอโทษจริงๆค่ะพี่เมธ มันไม่ทันจริงๆ”
หญิงสาวกล่าวทำท่าจะร้องไห้ เมธัสมองอีกฝ่ายแล้วถอนใจเฮือก จากนั้นจึงกัดฟันพูดกับหญิงสาวอย่างหัวเสียว่า
“มานี่เลยเธอ มานี่!”
ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับลากร่างอันกระปลดกระเปลี้ยของฟาริดา ไปผิงไว้ที่ผนังห้องน้ำ แล้วยิ้มเยาะเธอทันที
“ดูเหมือนนายภูมิมันจะรักเธอเหลือเกินนะฟาริดา! เพราะตั้งแต่เธออาเจียนจะเป็นจะตายนี่ มันหายหัวไปเลยนี่ ไม่มาดูดำดูดีกันแม้แต่น้อย”
เมธัสกล่าวออกมาอย่างสะใจ จากนั้นจึงค่อยๆปลดกระดุมเสื้อของตนออก ฟาริดาเห็นเขาทำอย่างนั้น ก็หน้าตื่นทันทีจึงกล่าวออกไปอย่างตะกุกตะกักว่า
“นะ..นั้น..พี่เมธจะทำอะไรคะ?”
เมธัสหันมาถลึงตาใส่ฟาริดาอย่างเอาเรื่องทันที ที่หล่อนทำท่าตกอกตกใจ ราวกับเขาเป็นโจรร้าย
“ก็ถอดเสื้อนะสิ! หรือเธอจะให้ฉันเก็บอ้วกของเธอเอาไว้ไปให้ผัวเธอดู ว่าเธอน่ะเกลียดขี้หน้าของฉันขนาดไหน จนถึงกับต้องอ้วกใส่กันแบบนี้”
ฟาริดาฟังคำพูดของเขาก็หน้าเสียทันที รู้สึกผิดเหมือนกันที่ไปอาเจียนใส่เขา ราวกับคนเนรคุณแบบนี้ ทั้งๆที่เขาช่วยเธอเอาไว้แท้ๆ ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มใจก็ตามเถอะ
“ฟางเสียใจจริงๆค่ะพี่เมธ ” หญิงสาวกล่าวเบาๆ มองเขาไม่เต็มตานัก
“ไม่เป็นไร ฉันมันเสือกเอง ที่จริงมันเป็นหน้าที่ของนายภูมิแท้ๆ และในเมื่ออยากเสือกดีนัก ก็ต้องเจอแบบนี้แหละ”
ฟาริดาฟังคำประชดประชันนั้นด้วยน้ำตาคลอ
“พี่เมธ!” เธอเผลอเรียกเขาเบาๆแบบที่เคยเรียก เอื้อมมือจะไปแตะแขนเขา คลายจะปลอบโยนกลายๆ แต่ถูกเมธัสสะบัดหนีออกอย่างแรง
“อย่ามาเรียกฉันว่าพี่! ฉันไม่ใช่พี่ของเธอ ยัยเมคนเดียวเท่านั้นที่เป็นน้องของฉัน เธอไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉันสักนิด และถ้าแม่ฉันไม่เมตตาต่อเธอ ป่านนี้เธอคนไม่ได้มีชีวิตที่ดี จนมาแว้งกัดฉันอย่างทุกวันนี้หรอกฟาริดา!”
เมธัสกล่าวด้วยสายตาหมิ่นแคลน มองอีกฝ่ายด้วยหางตา แล้วพูดเสียงเน้นหนักกลับหล่อนว่า
“เพราะฉะนั้นอย่ามาเรียกฉันว่าพี่ อย่าตีตัวเสมอฉัน ...เป็นคางคกให้อยู่อย่างคางคก อย่าเผยอมาขึ้นวอ”
ฟาริดาฟังคำพูดนั้นอย่างยอกแสลง บังคับไม่ให้ขาตัวเองสั่น จากนั้นจึงหลับตาแน่น ไม่อยากมองหน้าคนใจดำให้ช้ำใจ แล้วตะโกนเรียกภาคภูมิลั่นห้องน้ำ
“พี่ภูมิๆ พี่ภูมิอยู่ที่ไหนค่ะมาหาฟางด้วย”
เท่านั้นเองประตูก็เปิดผัวะเข้ามาทันที
“พี่ภูมิ!” ฟาริดาเรียกผู้มาใหม่น้ำตาคลอ แล้วโผลเข้าหาเขาทันที”
เมธัสมองทั้งคู่ด้วยสายตาสมเภช แล้วกล่าวเสียงหยันๆออกไปว่า
“รู้ว่าเมียสุดที่รักขาดตัวเองไม่ได้แบบนี้ ก็อย่าหายหัวไปนานนักสิภูมิ เพราะนอกจากเมียจะทุรนทุรายแล้ว ชาวบ้านเขาก็ยังเดือดร้อนไปด้วยอีก”
เมธัสกล่าวจบ ก็เตะเสื้อที่เลอะอาเจียนของฟาริดา ไปชิดจนผนังห้องน้ำ แล้วจึงเดินจากไป มิวายปิดประตูห้องน้ำเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เล่นเอาสองคนที่อยู่ในห้องน้ำสะดุ้งพร้อมกันทีเดียว
ภาคภูมิก้มลงมองสตรีในอ้อมแขนอย่างหนักใจ แล้วโอบกระชับร่างนั้นเข้าหาตัวมากขึ้น “ฟางจ๋าอย่าร้องไปเลย แล้วสักวันเขาก็จะเข้าใจเราเอง”
สิ้นคำพูดของภาคภูมิเท่านั้น ฟาริดาก็ปล่อยโฮ..ออกมายกใหญ่ เธอคิดว่าระหว่างเธอและเมธัสนั้น เวลาได้พลัดพาทุกสิ่งออกไปจนหมดแล้ว และยากเหลือเกินที่ทุกอย่างจะหวนคืนมาสู่วันเก่าๆได้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น