คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #84 : { Audition } Lyan\
ใบสมัครนางเอก ฮันกยอง / ไลอัน
((อย่าเปลี่ยนสีใบสมัครนะคะ แล้วคำตอบขอเป็นตัวบาง สีดำ ค่ะ))
*Note :: เขียนใบสมัครไปพร้อมกับเปิดดูหน้าพล็อต คาแรคเตอร์ ชาย , หญิง ด้วยจะดีมากเลยนะคะ
********************************************
คำถามส่วนที่ 1
ชื่อเกาหลี (( ขอมีความหมาย )) :: ซอ ฮวาวอล { แปลว่า ดอกไม้และพระจันทร์,,แสงจันทร์ที่สาดส่องมายังดอกไม้ }
ชื่ออังกฤษ (( ต้องมี! )) :: อลิซ เดอ โคส { Alice De Rose**}
ในภาษาฝรั่งเศส .. คำว่า ดอกกุหลาบเขียนว่า Rose แต่อ่านว่า โคส จ้ะ : ))
อายุ (( 22 24 ปี )) :: 23 ขวบ^^’’
เชื้อชาติ (( บังคับให้เธอเป็นลูกครึ่งนะคะ! )) :: เกาหลี ฝรั่งเศส { นามสกุลถึงเป็นภาษาฝรั่งเศสไงจ๊ะ }
สัญชาติ (( คุณไปเกิดที่ไหนก็จะได้สัญชาติประเทศนั้นมา )) :: ฝรั่งเศส
ลักษณะภายนอก (( รูปร่าง หน้าตา อะไรก็ตามที่บ่งบอกความเป็นตัวของคุณ )) :: หญิงสาวที่มีใบหน้าสวยสะอาดราวกับเทพธิดาลงมาจุติบนโลกมนุษย์ นัยน์ตาสีดำคมกริบเสมือนเป็นมีดที่เชือดเฉือนผู้ที่สบตากับเธอ .. เรือนผมสีดำขลับยาวเกือบถึงกลางหลัง รูปร่างอรชรบอบบาง แต่ทว่าการเคลื่อนไหวของเธอกลับรวดเร็วดุจสายลมตะวันตก ผิวขาวนวล ริมฝีปากบางเรียวสีชมพูอ่อน จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้าได้เป็นอย่างดี..
ลักษณะนิสัย (( ขอ 5 12 บรรทัดไม่เกินนี้ เยอะกว่านี้ไม่อ่าน! )) :: ดอกไม้งามที่ใครต่างพากันหลงใหลในรูปลักษณ์ที่แสนสวย .. “ ซอ ฮวาวอล ” ดอกไม้งามที่ไม่เคยจะรู้สึกดีกับดวงอาทิตย์เพราะเธอไม่ชอบแสงอันเจิดจ้าของมัน แต่กลับชอบแสงจันทราในยามค่ำคืนที่ส่องประกายให้ท้องฟ้าแจ่มจรัส หญิงสาวที่ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มให้กับใคร กระทั่งบุพการีผู้มอบลมหายใจก็ยังมิเคยเห็นรอยยิ้มจางๆบนใบหน้าของเธอ ฮวาวอลเป็นคนที่ไม่เคยแม้กระทั่งจะสนใจความรู้สึกของใคร ๆ จิตใจที่มีอยู่มันด้านชาเกินกว่าจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดหรือยินดียินร้ายกับสิ่งใดๆรอบข้าง .. เธอมีนิสัยที่ไม่ค่อยพูดจา ทะนงตนเล็กน้อยถึงปานกลาง นั่นเองก็เป็นอีกนิสัยหนึ่งของเธอ เพียงแค่.. หากมีคำพูดหลุดออกจากปากเมื่อไร คำพูดนั้นๆจะเปรียบเสมือนคมมีดที่ลับไว้เป็นอย่างดี และกรีดแทงลงไปข้างในหัวใจของคนๆนั้นจนเป็นแผลลึกเกินเยียวยาภายใน ใครที่ได้ยินคำพูดของเธอจะต้องเคียดแค้นและจดจำมันลงไปในก้นบึ้งของหัวใจอีกนาน ความรู้ความสามารถที่มีอยู่มากมายเหลือล้นในความคิดของเธอส่งผลให้เธอรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมคนและไม่เคยคิดวางใจหรือเชื่อใจใครมาก่อนในชีวิต รอยยิ้มที่แสนเจือจางจะปรากฏบนใบหน้าขาวนวลเนียนนี่ก็ต่อเมื่อมีกุหลาบแสนงามสีแดงโลหิตอยู่ตรงหน้า หญิงสาวที่ไม่เคยยิ้มให้ใครจะเผยรอยยิ้มที่มุมปากอย่างจริงใจเมื่อมองไปยังดอกกุหลาบ แม้เป็นเพียงหนึ่งดอกหรือกลีบกุหลาบ เธอก็จะยิ้มออกมา แม้จะเป็นรอยยิ้มที่เบาบางมากก็ตาม แต่ยามใดที่มีใครมาคิดมิดีมิร้ายกับเธอ ถึงแม้จะเอาดอกกุหลาบมาล่ออย่างไรก็ตาม .. นางฟ้าแสนสวยยามที่แลดูดอกกุหลาบจะกลับแปรเปลี่ยนเป็นปีศาจซาตานทันทีหากรู้จุดประสงค์! “กุหลาบแสนงามน่ะ .. หนามมันคม” นั่นคือคำพูดที่เธอมักพูดทิ้งท้ายเอาไว้หลังจากเสร็จภารกิจ
ความสามารถพิเศษ (( เข้ากับคาแรคเตอร์นะ )) :: ลอบสังหาร,, กรีดแทงคนด้วยคำพูด,, เปียโน
ครอบครัว (( ดูในคาแรคเตอร์หญิงหรือพล็อต ฯลฯ )) :: ซอ ฮวาวอล หญิงสาวที่ไม่เคยได้รับอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นจากพ่อแม่เลยสักครั้งเดียวในชีวิต เพียงเพราะในวัยเยาว์ มีกลุ่มมาเฟียใจโฉดมาตามล่าเอาชีวิตของพ่อของฮวาวอล ..และในขณะที่แม่กำลังพยายามปกป้องพ่อนั่นเอง .. ทั้งแม่และพ่อก็ถูกพวกมาเฟียยิงเสียชีวิตทั้งคู่ โดยที่พวกมันใช้เงินที่มีมหาศาลจากการทำชั่วๆมาอุดข่าวนี้ไว้ไม่ให้รั่วไหล ฮวาวอลฝังลึกลงในใจ เกลียดพวกมาเฟีย และผันตัวมาเป็นนักฆ่า .. เพราะว่าในตอนที่เธออ้างว้าง ญาติสักคนก็ไม่มีจะมารับ มีเพียง ‘แอนดริว เดอ โคส’ นักฆ่าหนุ่มที่ยังอายุไม่เกิน 30 ปีที่ถือว่าเป็นนักฆ่าที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาหมู่มวลนักลอบสังหารและยังเป็นหัวหน้าของนักสังหารทั้งปวงที่มีอิทธิพลมากในเกาหลี - ญี่ปุ่น มารับเอาตัวหนูน้อยที่มีใจเคียดแค้นในตัวมาเฟีย โดยงานส่วนใหญ่ที่เธอจะได้รับมอบหมายจาก ท่านแอนดริว ก็คือ .. ลอบสังหารมาเฟีย !
ประวัติความรัก :: มีความรัก .. เคยหลงรักคุณแอนดริวมากมายจนขนาดโงหัวไม่ขึ้น แต่ผลสุดท้าย .. เขารักเธอเพียงแค่เธอเป็นมือขวาที่เก่งที่สุดเท่าที่เคยมีมาตลอดช่วงชีวิตนักลอบสังหาร เมื่อเธอรู้ความจริง.. ว่าเขาคิดเพียงแค่นั้น ก็ปักใจเจ็บลึก และไม่ค่อยกล้าสบตาคุณแอนดริวอีกต่อไป .. เมื่อก่อนเคยแต่งตัวหวาน สวยตลอดเวลาที่อยู่ใกล้ชิดกับคุณแอนดริว แต่หลังจากนั้นก็กลายเป็นแนวที่ดูลึกลับ
สิ่งที่ชอบ :: ดอกกุหลาบสีโลหิต.. คุณแอนดริว,, แสงจันทร์
สิ่งที่ไม่ชอบ :: รอยยิ้มที่เสแสร้งของคน,, การกระทำของพวกมาเฟีย,, ดวงอาทิตย์
เกลียด :: มาเฟีย
อื่นๆ :: ---
เจ้าของอิมเมจ (( ชื่อของอิมเมจคุณ )) :: ลี จีอา .. { .. นิ่งไหม ? =O= ++ บางภาพให้เป็นลิ้งค์นะคะ เพราะว่าภาพมันใหญ่มาก! }
อิมเมจ (( ถ้ามีเก็บเป็นGalleryในเด็กดี ขอลิ้งค์Galleryนะคะ ถ้าไม่มีเก็บไว้ขอเป็น 3 ภาพขึ้น )) ::
http://img264.imageshack.us/img264/3929/photo12zm0.jpg
http://img.thzhost.com/i/br/06p_01.jpg
http://img.thzhost.com/i/3z/06p_05.jpg
http://img.thzhost.com/i/5u/06p_07.jpg
http://img.thzhost.com/i/1r/download5.jpg
คำถามส่วนที่ 2 คำถามทั่วไป
ชื่อผู้สมัคร / อายุ :: โดนัทค่า! ~ // อายุ .. 13 ขวบจ้ะ ^^
ติดแล้วหายพระเอกของคุณกลายเป็นของไรเตอร์แล้วตัวละครคุณ
ประกาศผล 3 วันไม่มา ไม่แจ้งไว้ก่อน ไรเตอร์เปลี่ยนคนนะคะ โอเคนะ? :: อ๋า ? รับทราบค่ะ!!
บทสำรอง ((อยากแรดต่อกับไรเตอร์ก็บอกเลยว่าจะเอาไร ถ้าไม่เอาก็บอกไม่เอา)) :: อยากแรดจ้ะ ! ๕๕ ๕+ เอาเป็น .. จงฮยอน ได้ปะ ? { ผลั้ว! ; โดนเจ๊ปอยถีบ } หงิงง =”= .. งั้นก็เป็นแฟนเก่าฮันได้มั้ย? =O=’ { นัทอยากเป็นตัวร้ายมากมายอ่ะ .. ฮ่าๆ !! >O< }
พล็อตเรื่อง คาแรคเตอร์ พระเอก ถูกใจหรือเปล่า? :: โหด! ซาดิสม์ ถูกใจมาโซคิสต์ค่า ! ^O^/ { เฮ้ย! นัทไม่ใช่มาโซคิสต์นะ .. ไม่ใช่จริงจริ๊งงง ๕๕๕ ๕+ }
คำถามส่วนที่ 3 คำถามชิงเกิง!
1. วันหนึ่งคุณถูกหัวหน้าคุณเรียกไปพบและได้รับมอบหมายงานมาให้ โดยเหยื่อ ที่คุณจะต้องฆ่าในครั้งนี้อยู่ที่ ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา โดยที่หัวหน้าให้รูปถ่ายพร้อมประวัติของเขามาให้คุณ 1 ชุด และเมื่อคุณหยิบรูปถ่ายมาดูก็ต้องตกใจมากเพราะงานชิ้นนี้คุณ
- “ ฮันกยอง .. มาเฟียมือหนึ่งของจีน ! ”
ร่างเล็กแทบล้มทั้งยืนเมื่อพินิจอ่านประวัติของมาเฟียคนล่าสุดที่เธอจะต้องไปปลิดชีพภายในเวลาที่กำหนด ..เสียงลือเล่าเกี่ยวกับประวัติผู้ชายคนนี้เธอเคยได้ยินมานักต่อนักแล้วว่า .. เขาคือมาเฟียที่รอดตายจากการไล่ล่าสังหารจากพวกนักฆ่าทั้งหลายมาแล้วนับไม่ถ้วน แถมยังเป็นมาเฟียมือหนึ่งที่มีแต่คนรู้จักและกล่าวขานมามากมาย .. ฮวาวอลรู้สึกหวั่นเล็กน้อย แต่ก็ส่ายหัวสะบัดเอาความคิดที่อยู่ดีๆก็ผุดขึ้นมาในสมองอย่างแรง ทว่าเธอดันเผลอส่ายหัวรุนแรงไปหน่อย เลยทำให้เลือดลมขึ้นไปเลี้ยงไม่ทัน เซไปชนพนักพิงโซฟาแล้วล้มตึงไปนอนแผละอยู่บนโซฟาอย่างง่ายดาย อาจเป็นเพราะความเหนื่อยจากภารกิจที่เพิ่งเสร็จสิ้น ..
‘ ฮันกยอง ไลอัน ทอร์เล็จ 24 ปี ‘
‘ นักฆ่าเลือดเย็นที่ฆ่าคนตั้งแต่ยังอายุน้อยๆ ประสาทรับรู้เป็นเลิศ .. มีไหวพริบที่ปราดเปรื่อง ว่องไว คล่องแคล่ว และมีวิชาสังหารที่ยอดเยี่ยมมาก .. ผ่านการสังหารชีวิตคนมาแล้วนับพันศพ ไม่มีใครสามารถจับตัวได้ เมื่อมีเรื่องก็ใช้อิทธิพลที่มีอยู่ปิดบังเรื่องนี้ไว้ มีสมาชิกในสมาพันธ์มาเฟียของฮันกยองเป็นหลายล้านคน .. ปัจจุบันอยู่ที่ลาสเวกัส อเมริกา ลูกน้องส่วนหนึ่งยังคงอยู่ที่ประเทศจีนเพื่อป้องกันมิให้ทรัพย์สินที่อยู่ในประเทศจีนของฮันกยองถูกพวกศัตรูคู่แค้นทำลายไปหมดสิ้น แต่ไม่มีลูกน้องคนไหนที่จะกล้าทำอะไรอุกอาจโดยมิได้รับคำอนุญาตหรือคำสั่งจากฮันกยองสักคนเดียว ..เพียงเพราะหากทำอะไรโดยพลการอาจถูกสั่งฆ่าได้ภายใน 24 ชม. ‘
ยิ่งฮวาวอลอ่านประวัติของชายคนนี้เท่าไร เธอก็ยิ่งสนใจมากยิ่งขึ้น หญิงสาวเผยยิ้มที่มุมปากราวกับว่าผู้ชายที่เห็นอยู่ในรูปตรงหน้าคือดอกกุหลาบแสนงามที่เธอหลงใหล ภาพที่เธอมองเห็นเป็นภาพที่ใบหน้าของฮันกยองเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสดราวกุหลาบสีโลหิต ฮวาวอลบรรจงวางประวัติของชายคนนี้และคว้าเอารูปภาพถ่ายที่มีสายสืบจากกลุ่มนักลอบสังหารไปลักลอบถ่ายไว้ได้อย่างชัดเจนตั้งแต่หัวจรดเท้าโดยไม่มีใครรู้มาใส่ไว้ในกระเป๋าส่วนตัว ... กลีบดอกกุหลาบสีแดงที่ปลูกไว้ในกระถางต้นไม้ถูกวางประดับไว้บริเวณระเบียงห้องของฮวาวอลปลิวว่อนปะทะกับประตูเลื่อนกระจกใสที่ฮวาวอลเปิดออก เรือนผมสีดำสนิทสยายไปข้างหลังตามสายลม นัยน์ตาคมกริบเหม่อมองไปโดยรอบ พลางนึกถึงใบหน้าที่แท้จริงของผู้ชายคนนี้ว่าจะเป็นเช่นไร ..
จะว่าไป งานนี้ก็น่าสนุก..ไม่ใช่น้อยเลยนะ
2. เมื่อคุณเดินทางมาถึงลาสเวกัสและจัดการเรื่องที่พักอะไรเสร็จแล้ว (หัวหน้าคุณจัดการไว้ให้แล้ว) พลบค่ำคุณก็แต่งตัวเตรียมออกหาตัว ฮันกยองทันที และสถานที่แรกที่คุณคิดจะไปตามหานั่นก็คือ บ่อนคาสิโนเถื่อน และคุณก็ไม่ผิดหวัง ได้เจอกับเค้า คุณจับตามองเค้าอยู่นาน และเขาก็จ้องคุณกลับมาเช่นกัน จนกระทั่งเที่ยงคืน เขาเดินออกจาบ่อนไป และแน่นอนคุณสะกดรอยตามเขาไป แต่เพียงเดินไปได้ไม่นานคุณกลับถูกเค้าจับล็อกมือไพร่หลังแล้วยังขู่ว่าจะพาคุณกลับที่พักเขาอีก ที่นี้คุณจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ยังไง? (แน่นอนคุณไม่รอดมืออิป๋าเกิงหรอก เสร็จชัวร์! 55 -..-) ((5 บรรทัดขึ้น อธิบาย , บรรยายพูดคุย ตั้งแต่คุณ
- ‘
หญิงสาวดวงตาคมชายตามองบุคคลรอบกายด้วยความนิ่งเฉยดุจแม่น้ำที่สงบนิ่ง ..แล้วก้าวเท้ายาวๆออกจากสนามบินไปยังประตูหน้า และหยิบโทรศัพท์มือถือที่สามารถโทรข้ามทวีปได้โดยเสียเงินเพียงเล็กน้อยที่ได้มาจากแอนดริว พลางกดโทรศัพท์หาผู้มีพระคุณด้วยความเร่งรีบ
“คุณแอนดริว.. ฉันถึงที่ลาสเวกัสแล้ว”
[ อืม เดี๋ยวอีกราว 10 นาทีจะมีแท็กซี่มารับเธอไปที่โรงแรม Emerald ทางเราจัดการไว้เรียบร้อยแล้ว รอสักพักนะ อย่ารีบเร่งละ อลิซ .. ]
เสียงจากปลายสายเงียบลงและถูกกดตัดทิ้งไปในที่สุด เจ้าของชื่ออลิซขมวดคิ้วไม่เข้าใจแล้วก็ดีดนิ้วเปาะเบาๆแล้วร้องอ๋อ .. ‘อลิซ เดอ โคส’ คือชื่อในภาษาอังกฤษกึ่งฝรั่งเศสของเธอเอง ฮวาวอลยืนงุนงงอยู่สักครู่แล้วมองเข็มนาฬิกาที่ดูช่างช้าเสียเหลือเกิน มันช้าเสียจนหญิงสาวที่แสนจะอดทนได้มากมายอยากจะลงไปนั่งที่พื้นแล้วเอามือมาพัดๆตามนิสัยเดิม แต่กระนั้น .. หากทำแบบนั้นก็เสียภาพพจน์อิสตรีหมดสิ!
ฮวาวอลมองซ้ายมองขวาก็มีแต่รถแท็กซี่เต็มไปหมด แล้วนี่เธอจะรู้ได้ยังไงว่าเป็นรถของทางกลุ่มนักฆ่ากัน ? แต่แอนดริวฉลาด .. คงจะมีอะไรให้เราสะกิดใจได้และขึ้นรถไปได้อย่างถูกต้องแน่นอน!
ปิ๊น! ปิ๊นนน !
สิ้นความคิด พลันวินาทีฮวาวอลเดินก้าวไปข้างหน้าเพียงหนึ่งก้าว ก็มีผู้ชายใส่ชุดสูทมายืนรายล้อมเธอราวกับเธอเป็นพวกราชวงศ์อังกฤษผู้ดี๊ผู้ดีมาต้อนรับ หญิงสาวก้าวเท้าขึ้นไปบนรถลีมูซีนที่แอนดริวโม้ว่าเป็นแท็กซี่ด้วยความคล่องแคล่ว เมื่อประตูปิดลง บุคคลที่นั่งข้างคนขับรถก็หันมายิ้มให้ฮวาวอลผ่านกระจกหลัง
“อ้าว คุณแอนดริว”
“ฉันไม่ปล่อยให้ลูกสาวบุญธรรมต้องเสี่ยงอันตรายคนเดียวหรอก..”
ฮวาวอลหรืออลิซยิ้มเบาๆมุมปากโดยไม่มีใครรู้ แต่ว่าที่แอนดริวอ้างว่าจะมาที่ลาสเวกัสด้วยเพราะว่าห่วงเธอน่ะ ไม่มีทางเป็นความจริงหรอก ..แอนดริวต้องการมาลอบสังหารใครบางคนที่ไม่ใช่ฮันกยองต่างหากละ!
เมื่อรถแล่นเข้าสู่โรงแรม Emerald ก็ใกล้จะค่ำเต็มที ฮวาวอลก็เดินฉับๆเข้าไปสู่ห้องพักของตนเองที่แอนดริวเตรียมไว้ให้เป็นอย่างดีทันที ..บรรยากาศภายในตกแต่งแบบสไตล์ฝรั่งเศสที่เธอโปรดปรานเพราะเป็นสัญชาติของเธอเอง ความอบอุ่นที่เธอคุ้นเคยมาโดยตลอด อลิซจัดวางของเสร็จเรียบร้อยก็ทิ้งตัวนั่งบนเตียงหนานุ่มและมองไปรอบๆกาย
“คุณแอนดริวนี่รู้ใจฉันไปซะทุกเรื่องเลย...”
พอจะเอนตัวลงนอน หล่อนก็ต้องกระเด้งตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะใบหน้าของชายหนุ่มที่มีนามว่า ‘ฮันกยอง’ ดันแว่บเข้ามาในความคิด ..นี่เธอมาที่นี่เพื่อจะสังหารเขา ไม่ได้มาพักผ่อนหย่อนใจ! อลิซลุกขึ้นพรวดแล้วเดินไปหยิบสเวตเตอร์มาสวมทับเสื้อที่ใส่อยู่เพื่อป้องกันความหนาวเย็น และกึ่งวิ่งกึ่งเดินออกไปจากโรงแรมด้วยความรู้หน้าที่ของตนเอง
“..ฉันไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่ว่าฮันกยองมักจะอยู่ที่คาสิโนใกล้ๆกันกับ Emerald เป็นคาสิโนเถื่อนที่เปิดกิจการอื่นบังหน้าไว้ จะเข้าไปก็ระวังตัวด้วยแล้วกัน ..”
คำพูดของแอนดริวแล่นเข้าหูของอลิซ ..อย่างที่เธอคิดไว้ มีกิจการอื่นบังหน้าไว้จริงๆ พอก้าวเดินเข้าไปก็ถามโค้ดลับอย่างที่แอนดริวบอกไว้แบบเป๊ะๆ หญิงสาวก้าวเท้าเข้าไปในคาสิโนเถื่อนด้วยความมั่นใจ และกวาดสายตามองหาบุคคลที่ต้องการล่าหัว
วินาทีที่อลิซมองไปเห็นไลอัน .. หรือฮันกยอง ราวกับว่ามีรังสีอะไรบางอย่างที่อลิซไม่สามารถรู้ได้ สั่งการให้สายตาของทั้งคู่จดจ้องกันอยู่เนิ่นนาน ไลอันอยู่บริเวณโต๊ะสนุ๊ก แต่อลิซกลับยืนจ้องเขาอยู่บริเวณวงไพ่ สายตาที่แสนดูมีเสน่ห์ของเขามันทำให้อลิซไม่อยากจะเชื่อประวัติที่ได้มาจากแอนดริวเลยว่า เขาจะเคยฆ่าคนมามากกว่าหนึ่งพันคน .. สายตาที่ดูบริสุทธิ์และบ่งบอกถึงความจริงใจ ..
เวลาล่วงเลยไปจนกระทั่งถึงเที่ยงคืน ไลอันเดินออกจากคาสิโนด้วยความรวดเร็ว อลิซไม่ได้ละสายตาไปจากเขา เพียงแต่เขาเหลือบตามามองเธอด้วยสายตาแปลกๆและรีบเดินจากไป นักฆ่าสาวค่อยๆสาวเท้ายาวๆตามไปติดๆกัน .. แต่ดูเหมือนว่า ไลอันจะรู้ตัวว่าถูกสะกดรอยเสียแล้ว
“ออกมา”
“...”
“ฉันบอกให้ออกมา”
“...”
“อย่าดื้อสิ สาวน้อย”
“!!!”
เมื่ออลิซทำท่าจะเดินหนีไปจากบริเวณนั้น ไลอันก็เดินเข้ามาขวางไว้ พร้อมกับล็อคมือเธอไปไขว้ข้างหลังอย่างรวดเร็ว ความเร็วขนาดนี้ทำให้อลิซที่ว่องไวไม่อาจต้านทานกำลังของเขาไว้ได้เลย ..ผู้ชายอะไร แรงเยอะกว่าที่เคยเจอมาจริงๆ! เธอหลบสายตาที่จ้องมองเธอไม่กะพริบทันทีเมื่อรู้สึกตัวว่าถูกจ้องนานเสียเหลือเกิน สายตาที่หลอมละลายเธอเป็นจุณได้ในพริบตา ..หากลองจ้องดูสัก 30 วินาที ก็จะตกหลุมรัก ..
“ปล่อยฉัน”
“ไม่เอาน่า .. เธอจ้องฉันมาตั้งแต่ในคาสิโนแล้วไม่ใช่เหรอ”
“บอกให้ปล่อย”
“กลับที่พักกับฉันเถอะ”
อลิซเงยหน้ามองไลอันด้วยความฉงนใจ .. เพิ่งเจอกันไม่ทันถึงวัน ชวนกลับบ้านด้วยกันแล้วงั้นเรอะ! ผู้ชายอะไร .. ยิ่งกว่าปลาไหลเสียอีก อีแบบนี้คงจะเปลี่ยนผู้หญิงเหมือนกับเปลี่ยนกางเกงในเลยสินะ ?
“ปล่อย!”
อลิซสะบัดแขนอย่างแรง เขาปล่อยอย่างเบามือ เมื่อหญิงสาวทำท่าจะวิ่งหนี ไลอันกลับดึงตัวเธอเข้ามาจูบอย่างดูดดื่ม อลิซที่ไม่เคยได้รับรสจูบจากใครถึงกับตะลึงงัน และขัดขืนไม่ได้แม้แต่น้อย ยิ่งได้สัมผัสมันมากเพียงใด ก็ยิ่งหมดแรง .. ริมฝีปากเรียวบดขยี้อีกริมฝีปากหนึ่งด้วยความสนุกสนาน รสแอลกอฮอล์แล่นผ่านปลายลิ้นเข้ามาที่ปลายประสาทของอลิซ เธอไม่ได้แพ้แอลกอฮอล์แต่ว่าแพ้รสจูบของไลอัน! เลยทำให้ร่างเล็กหมดเรี่ยวแรงสลบคาอ้อมกอดแข็งแกร่งของผู้ชายที่เพิ่งได้เจอกันไม่ถึง 6 ชม.อย่างไลอัน ..
3. เมื่อคุณโดนฮันกยองจับมาอยู่ด้วยแล้ว เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ความสัมพันธ์ของคุณกับเขาคลุมเครืออย่างถึงที่สุด ไม่ใช่แฟน หรือเพื่อน แต่คุณกับเขาก็สามารถ xxx กันได้ ระหว่างที่คุณและเขากำลังไปได้สวย จู่ๆ หัวหน้าของคุณก็โทรมาถามคุณเรื่องการฆ่าฮันกยอง แล้วคืนนั้น ฮันกยองก็มานอนค้างที่ห้องคุณ คุณจึงเลือกที่จะใช้มีดพกไปจ่อเขาตอนที่เขากำลังหลับ แต่ จู่ๆ เขาก็ลืมตาพร้อมกับคว้าข้อมือคุณเอาไว้ทำให้มีดคุณตกลงไปบนเตียงทันที คุณจะทำยังไงดีเมื่อต้องสู้หน้ากับคนที่เป็นทั้งเหยื่อ และ เป็นทั้ง คนที่คุณรักในตอนนี้ดี เพราะฮันกยองโกรธที่คุณคิดจะฆ่าเขามากๆ ((5 บรรทัดขึ้น อธิบาย , บรรยายพูดคุย ตั้งแต่ตอนหัวหน้าคุณโทรมา ยันถึงสถานการณ์ที่ฮันจับได้ว่าคุณกำลังจะฆ่าเขา จะให้ฮันลงโทษคุณยังไงก็ตามใจ ชนิดที่ว่าคุณจะไม่ทำอย่างนี้กับเขาอีก ))
- **เรทนิดนึง PG.. 15 รึเปล่า ? จัดให้ด้วยยยย..
ก๊อก ก๊อก..
“อลิซ ..”
ไลอันยืนเคาะประตูห้องของหญิงสาวที่ตนเองยังไม่แน่ใจว่ารักหรือเพียงแค่ชั่วคราวอยู่นาน ราวกับว่าในห้องนั้นมีเพียงความว่างเปล่า .. แต่ทว่าภายในนั้นมีร่างบอบบางกำลังยืนก้มหน้าหลังพิงกำแพงร้องไห้อย่างหนักโดยไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา
ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ชม.ที่แล้ว
“สวัสดีค่ะ”
อลิซกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ที่ใช้ไหล่หนีบเอาไว้แนบกับหู เนื่องจากมือของเธอกำลังวุ่นอยู่กับการอบขนมเตรียมต้อนรับชายหนุ่มที่จะมาเยือนในคืนนี้ โดยที่ไม่ได้มองชื่อของเจ้าของเบอร์ที่โทรเข้ามาเลย น้ำเสียงที่ดูสดใสผิดปกติทำให้ปลายสายตะลึงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับมาเสียงเย็น
[ อลิซ .. งานคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว ]
“อ๊ะ! คุณแอนดริว”
[ มาอ๊งมาอ๊ะอะไรกัน .. ฉันถามว่างานไปถึงไหนแล้ว มาเฟียไลอันน่ะ ]
“ก็ตอนนี้อยู่ในช่วง..ทำให้ตายใจ”
[ เสียงเธอดูไม่มั่นใจเลยนะอลิซ อย่าล้มเลิกงานนี้เด็ดขาดนะ งานนี้.. มีตัวเธอเป็นประกัน หากเธอฆ่ามันไม่ได้ เธอก็คงต้องจบชีวิตของเธอ หรือไม่ก็ไปให้พ้นสายตาฉัน ]
เสียงที่ตอบกลับมาฟังดูช่างน่าขนลุก เพราะมันดูเย็นชาจนเหมือนไร้จิตใจ อลิซทรุดนั่งแล้วกุมขมับเหมือนกับว่าปวดจี๊ดในสมองอย่างรุนแรง .. แต่เธอไม่ได้หลงรักเขา .. เธอไม่ได้โกรธหรือเกลียดเขา เธอไม่มั่นใจและไม่รู้หัวใจตัวเอง เสียงอลิซแหบพร่าจนเป็นที่ผิดสังเกต
“ฉ..ฉัน..”
[ ไม่ว่าจะอยู่ในขั้นตอนใดก็ตาม รีบๆจัดการเขาซะ! ก่อนที่เธอจะถูกเขาจัดการเสียก่อน! ห้ามหลงรักมันหรือหลงใหลในตัวมันจนโงหัวไม่ขึ้นและล้มเลิกงาน! ]
“...”
[ หวังว่างานจะเสร็จสิ้นคืนนี้ ]
“!!!”
[ ตรู๊ดดด ตรู๊ดดด ตรู๊ดดดด... ]
เพียงสิ้นความนึกคิด ร่างที่ยืนร้องไห้เป็นเวลานานก็ทรุดนั่งลงกับพื้น น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย จนกระทั่งคนที่ยืนรออยู่ข้างนอกเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติภายในห้อง มีเสียงสะอื้นดังขึ้นมาเป็นระยะๆ ไลอันพยายามกระแทกประตูเข้ามาภายในห้องแต่ก็ไร้ประโยชน์ .. ห้องนี้ใช้ระบบคีย์การ์ด ไม่ได้ใช้กลอนล็อคแบบห่วยๆที่เคยเจอมาทั้งชีวิต อลิซเหลือบตามองด้วยความรู้สึกผิด คนข้างนอกห้องเริ่มทุบประตูอย่างบ้าคลั่ง จนกระทั่งอลิซต้องรีบเช็ดน้ำตาลุกขึ้นเดินออกไปเปิดประตูให้กับคนที่ขาดสติและกำลังพร้อมจะวู่วามได้ทุกเมื่อ
แกร๊ก
“ไลอัน..?”
อลิซหยุดนิ่งเมื่อชายหนุ่มตรงหน้ายืนทำตาโต ..ม่านตาขยายแบบที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนตลอดที่เจอกันมา เขาโผเข้ากอดหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง ก่อนอลิซจะกอดรับด้วยความตกใจเล็กน้อย
“เป็นอะไรไปเหรอ”
“เธอร้องไห้ทำไม”
ร่างสูงกอดรัดตัวอลิซแน่นยิ่งขึ้นจนเหมือนกลัวว่าคนตรงหน้าจะสลายหายไปในพริบตา ..ที่บ่าของอลิซมีความชื้นก่อตัวขึ้น นี่ผู้ชายที่แข็งแกร่งที่สุดกำลังร้องไห้เพียงเพราะฉันงั้นเหรอ ? อลิซดันตัวไลอันออกช้าๆแล้วก็จ้องมองใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“ฮะๆ .. เธอคงจะตกใจที่ฉันร้องไห้สินะ บ้าจริง ฉันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน”
“...”
“คืนนี้ฉันจะมาค้างที่ห้องเธอ ..ได้ไหม”
แววตาที่ดูปวดร้าวเหมือนว่าเจอเรื่องร้ายๆมาตลอดชีวิต อลิซที่เผลอจ้องนัยน์ตาสีดำแฝงไปด้วยความเศร้าหมองถึงกับเคลื่อนไหวไม่ได้ แต่เมื่อสติกลับมา อลิซก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องครัวที่กำลังจะอบขนม ไลอันเดินตามเข้ามาแบบงงๆและยิ้มให้กับอลิซแบบจริงใจ
..จะทำให้ฉันรักไปถึงไหน..
“ถ้างั้นก็ต้องช่วยฉันอบเจ้านี่กิน”
อลิซแสร้งยิ้มมุมปาก .. การจะยิ้มแต่ละทีของอลิซดูช่างยากเย็น เพราะกว่าจะกระตุกมุมปากให้แสยะจนกระทั่งยิ้มกว้างให้เห็นฟันมันช่าง..ทรมาน แต่เมื่ออยู่กับชายหนุ่มคนนี้เธอกลับอยากทรมานให้ถึงที่สุด อยากจะยิ้มให้เขาตลอดเวลา แต่ทำไม..
“ก็ได้!”
ไลอันถอนหายใจเฮือก ถึงเขาจะใช้ชีวิตอยู่คนเดียวและทำอาหารกินเองมาโดยตลอด แต่เขาไม่เคยอบขนมกินเลยสักครั้ง อลิซเหลือบตาคมมองยิ้มๆและเดินวนไปเวียนมา เอาแป้งเข้าไปอบในเตาและยืนมองใบหน้าของไลอันอยู่เนิ่นนาน .. จนผู้ถูกจ้องหันกลับมาสบสายตา .. พร้อมกับโน้มตัวลงมาต่ำและจุมพิตริมฝีปากอย่างนุ่มนวล อลิซเผลอตัวเอาแขนคล้องคอเขาลงมาจูบอย่างต่อเนื่อง เมื่อกลิ่นหอมๆของคุกกี้ลอยมาแตะจมูก ทั้งคู่ก็ผละออกจากกันช้าๆและยิ้มให้กันด้วยความสนุกสนาน
อลิซหยิบเอาถาดคุกกี้รสอัลมอนด์มาให้ไลอันดู เขาทำท่าจะหยิบไปทานทันทีแต่อลิซมือไวกว่า ฉกฉวยจากมือแข็งแรงมาเข้าปากทันทีทันใด หลังจากนั้นก็กลายเป็นสงครามแย่งชิงคุกกี้ .. ที่ต่อสู้กันด้วยร่างกาย ไม่ใช่วิชาการต่อสู้ ..
ไลอันคาบเอาเศษคุกกี้ที่เหลือมาป้อนที่ปากของอลิซด้วยปาก .. อลิซงับเอาครึ่งหนึ่งเข้าปากไป แต่ไลอันกลับมองด้วยความไม่พึงพอใจ ก้มใบหน้าลงต่ำและระดมจูบเร่าร้อนจนอลิซแทบหายใจไม่ทัน ปลายลิ้นที่สัมผัสกันระหว่างทั้งคู่ร้อนเป็นไฟ .. อลิซกอดไลอันแน่น ส่วนเขาก็วุ่นอยู่กับปลายลิ้นเล็กที่เร่าร้อน ริมฝีปากบนบดขยี้ด้วยความสนุกสนาน ไลอันถอนริมฝีปากออกและเลียเศษคุกกี้ที่ติดอยู่บริเวณแก้มของอลิซด้วยความรัก ..
“อุ๊ย”
อลิซสะดุ้งโหยงเมื่อนิ้วเรียวเกลี่ยใบหน้าและดึงเข้ามาจูบอีกครั้ง .. ก่อนสงครามจะสิ้นสุดลงเมื่อไลอันนอนแผ่อยู่ข้างๆอลิซด้วยความเหน็ดเหนื่อย .. สงครามรักที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน ทุกครั้งที่มีอะไรกันกับหญิงอื่นที่เคยผ่านมา .. ไม่เห็นรู้สึกสนุกขนาดนี้เลย
..หรืออลิซจะเป็นคนที่เรารักจริงๆ ?
ไลอันไม่ตอบความคิดตัวเองด้วยการกระทำใดๆ แต่กลับหันมากอดอลิซไว้แน่นอีกครั้ง เศษคุกกี้ยังคงกระจัดกระจ่ายทั่วพื้นห้อง แต่ร่างสองร่างบนเตียงกลับไม่นึกถึงการทำความสะอาดอะไรใดๆทั้งสิ้น .. แถมยังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันไม่หยุดหย่อน ขนาดเตียงนอนที่ว่าหรูเลิศ ทำจากวัตถุดิบชั้นดี ไม่มีสะเทือน .. แต่ไลอันกับอลิซกลับทำให้มันดังเอี๊ยดอ๊าดได้อย่างน่าแปลกใจ ..
จนกระทั่งกลางดึก .. อลิซลืมตาขึ้นมาเพียงเพราะความทรงจำช่วงกลางวันที่คุณแอนดริว ผู้ที่เลี้ยงดูเธอตั้งแต่เล็กโทรมาถามข่าวคราวเรื่องการลอบสังหารไลอัน .. ผู้ชายที่เธอรัก ร่างที่นอนอยู่เคียงหลับตาพริ้ม ดูยังไงก็รู้ว่าหลับสนิทเพราะสงครามรักที่แสนเร่าร้อนเมื่อตอนช่วงเย็น ..
เธอจะเลือกอะไรละ .. ?
ระหว่าง .. ผู้มีพระคุณ กับ คนที่เธอรัก .. หรือจะยอมจบชีวิตตัวเอง
อลิซตัดสินใจเลือกสิ่งแรก .. หากเธอไม่ทำเพื่อคุณแอนดริวแล้วเธอจะใช้ชีวิตอย่างไร? จะอยู่รอดได้ยังไง? หากไม่มีที่พักพิงอย่างคุณแอนดริว .. แต่ถ้าฆ่าตัวตาย มือขวาของคุณแอนดริวก็จะหายไปในที่สุด .. แต่หากเลือกไลอันไว้ .. ใจเธอจะได้ไม่ต้องเจ็บปวด แต่หากทำแบบนั้น..
มีดพกที่ติดตัวไว้ตลอดเวลาถูกมือเรียวหยิบขึ้นมาช้าๆ และจ่ออยู่ที่ลำคอของไลอัน น้ำตาหยดสุดท้ายที่อลิซคิดจะมอบให้กับเขาไหลออกจากดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความเศร้าสลดที่จะต้องเสียคนที่รักไป อลิซพุ่งปลายมีดเข้าไปที่ลำคอของเขา แต่เมื่อคมมีดแตะอยู่ที่ร่างสูง คนที่นอนหลับใหลกลับพลิกตัวกลับมาคร่อมตัวอลิซไว้ และล็อคมือเธอไว้แน่นด้วยแรงที่มีมหาศาล มีดพกหล่นจากมือไปกระทบที่พื้นที่มืดสนิทไร้ซึ่งแสงจากหลอดไฟ เพียงได้ยินเสียงของสิ่งที่กระทบกับพื้น ไลอันก็จ้องมองอลิซราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเธอให้ได้ในตอนนั้น
“เธอ..”
“...”
อลิซหลบสายตาของไลอันไปทางอื่น แต่ไลอันใช้มืออีกข้างหนึ่งที่ยังว่างดึงใบหน้าเธอกลับมาจ้องตาอีกครั้ง ถึงจะรักเพียงใด แต่ก็ไม่ควรจะทำร้ายกันแบบนี้ ? ไลอันมองสายตาเย็นชาของอลิซที่ดูเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรอีกแล้ว .. น้ำตาของไลอันหยดไปที่แก้มขาวนวลของอลิซ สายตาที่แข็งกร้าวกลับกลายเป็นความอ่อนแอ
“ทำไม..”
ถึงใบหน้าจะถูกจับให้จ้องมอง แต่สายตากลับเบี่ยงเบนไปทางทิศอื่น อลิซไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้เขาเห็น .. ผู้ชายคนนี้รักเราหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ รอยยิ้มที่เคยมอบให้กันและกันกลับเหือดหาย น้ำตาของอลิซไม่มีอีกต่อไป ถึงจะรักมากมายเพียงใด แต่มันคืองาน และอารมณ์ชั่ววูบ .. เธอบอกกับตัวเองในใจ
“ทั้งที่..เรา...”
“ฉันรู้ว่านายเปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น...ฉันเกลียดผู้ชายแบบนายที่สุด!”
“ตั้งแต่ฉันมีเธอ ฉันก็ไม่ได้มีใครอีกเลย ..”
ไลอันตอบทั้งน้ำตา ยิ่งเธอเห็นน้ำตานั่นมากมายเพียงใด ก็ยิ่งทำให้จิตใจที่มั่นคงเริ่มจะถูกทำลายเกราะด้วยน้ำตาของผู้ชายคนนึง ...
ไม่เด็ดขาด .. เราจะต้องไม่ใจอ่อน
อลิซ เธอไม่เคยเป็นแบบนี้หลังจากการลอบฆ่านะ ...
“ฮึ
”
“ฉันรู้ ว่ากุหลาบแสนงามน่ะ .. หนามมันคม”
“แล้วไงละ”
“แต่เธอรู้บ้างไหม .. ว่าเสือซ่อนกรงเล็บน่ะ มันเป็นยังไง!”
“!!!”
ไลอันก้มลงจูบอลิซด้วยความเร่าร้อนอีกครั้ง .. แต่ครั้งนี้กลับไม่เหมือนก่อนๆที่ดูนุ่มนวล มันกลายเป็นการจูบที่เต็มไปด้วยความโกรธชิงชัง ปลายลิ้นตวัดเอาลิ้นของอลิซพันกับเขาตลอด จากที่จูบด้วยความเสน่หา .. กลับกลายเป็นความแค้น มือข้างหนึ่งของไลอันตรึงเหนี่ยวแขนทั้งสองข้างของอลิซไว้ที่หัวเตียง อีกข้างหนึ่งก็ล้วงเข้าไปในเสื้อ และใช้ริมฝีปากล็อคให้ใบหน้าของอลิซยังคงอยู่ตรงหน้าเขาตลอดเวลา อลิซไม่รู้สึกรู้สาแต่ทรมานใจที่ไลอันทำกับเธอเฉกเช่นหญิงสาวที่เขาเคียดแค้นมาตลอดทั้งชีวิต
“อึก...”
ริมฝีปากยังคงบดขยี้ด้วยความโกรธไม่หยุดหย่อน อลิซหายใจไม่ทันและหอบแฮ่กเมื่อเขาถอนริมฝีปากออกเพียงชั่วครู่ .. เสื้อที่เพิ่งจะใส่ก่อนที่จะนอนหลับถูกโยนออกไปจากเรือนร่างเธอ ไลอันแสยะยิ้มเยือกเย็นเมื่ออลิซหน้าแดงจัดด้วยความโกรธเช่นกันกับเขา แต่ว่าอลิซกลับทำอะไรไม่ได้เลย เรียวขาถูกล็อคไว้แน่น ลิ้นเร่าร้อนเลียตั้งแต่ต้นคอจนถึงใบหู..
ข..เขาจะทำอะไร...
ไลอันผละออกจากอลิซและเดินจากไปในความมืดช้าๆ .. และเสียงสั่งสุดท้ายที่เขาพูดกลับมาและทำให้เธอหนาวขึ้นมาทันทีก็คือ ..
“ถ้าเธอยังคิดจะเข่นฆ่าฉันอีกละก็ ... แม้แต่เสื้อผ้าหรือชั้นในสักชิ้นเดียวก็จะไม่ได้ใส่ออกไปข้างนอก !”
ตามมาติดๆก็คือเสียงรื้อเอาเสื้อผ้าในตู้ของเธอใส่ลงในกระเป๋าเดินทาง เขาเดินออกจากห้องของเธอไปห้องข้างๆช้าๆ .. ก่อนจะมีเสียงประตูปิดลง และเสียงล็อคกลอนจากข้างนอก!
อลิซรีบลุกขึ้นไปเปิดดูตู้เสื้อผ้าที่โล่ง .. ไม่มีอะไรเหลืออยู่
บ้าที่สุด! เสื้อผ้าฉันไม่เหลือเลยสักชิ้น!
แล้วฉันจะทำยังไง!
อลิซเดินไปยังโทรศัพท์มือถือของตน .. พบว่าถูกถอดแบต
อลิซเดินไปยังโทรศัพท์ของโรงแรม .. สายโทรศัพท์ถูกตัดขาด
อลิซเดินไปยังระเบียง .. ถูกล็อคจากข้างนอกด้วยความรวดเร็ว
แล้วตอนนี้จะทำยังไง .. ?
อลิซได้แต่นั่งร่างเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง ..แอร์ที่ถูกลดอุณหภูมิทำให้ร่างกายของเธอหนาวสั่น ร่างเล็กรีบคว้าเอาผ้าห่มหนามาคลุมตัวไว้
อีตาบ้า! แล้วแบบนี้จะไปไหนมาไหนได้ยังไง!
{ ป๋าหื่นนน นน ๕๕๕ ๕+ }
4. ตอนจบเป็นยังไงดี? (( 5 บรรทัดขึ้น จะเอาซาดิสม์แค่ไหนก็แล้วแต่คุณเลย - - ))
- { ยาวเวอร์ ทนอ่านหน่อยนะจ๊ะ :]] }
ทั้งสายโทรศัพท์และเสื้อผ้าถูกไลอันจัดการไปจนหมด แต่ว่าสายสืบของแอนดริวกลับไม่ได้อ่อนด้อยกว่าที่คิดไว้ พวกของแอนดริวจึงมาช่วยอลิซให้ออกจากสภาพแบบนั้นไปและไปอยู่ที่ฝรั่งเศส เพื่อหลีกหนีการตามฆ่าของไลอันที่คาดว่าอาจจะเกิดขึ้นหลังจากรู้ตัวว่าอลิซหนีออกมาได้แล้ว
แต่ทว่า .. ไลอันกลับไม่ตามหาอลิซและคิดจะเข่นฆ่าอลิซเพื่อล้างแค้นเลย
ทำไมกัน? นายไม่ได้รักฉันเลยงั้นเหรอ ไลอัน?
3 ปีผ่านไป ...
อลิซเหม่อมองไปรอบกายที่มีแต่คู่รักเดินจูงมือกันกะหนุงกะหนิงเต็มไปหมด ดูแล้วก็เซ็งซะเหลือเกิน ตอนนี้คุณแอนดริวไม่ได้มอบหมายงานอะไรให้อลิซ เพียงเพราะว่าเกรงว่างานที่มีต่อในลาสเวกัส จะทำให้อลิซคิดถึงไลอันและไปหาไลอันแทนที่จะไปทำงานตามที่มอบหมาย .. แม้ว่าอลิซจะรับปากกับแอนดริวเพียงใดว่าจะไม่ไปตามหาผู้ชายคนนั้นอีก แต่แอนดริวกลับไม่ไว้วางใจ และให้อลิซอยู่เพียงในฝรั่งเศส จะไปไหนมาไหนก็ต้องมีลูกน้องของแอนดริวคอยตามติดตลอดเวลา เหมือนกับว่าเธอกลายเป็นนักโทษอย่างไงงั้น.. ?
“บองชูร์ ..”
อลิซเงยหน้ามองชายหนุ่มที่ใส่แว่นกันแดดสีดำตรงหน้า ทั้งที่แดดก็ไม่แรงแต่เขาจะใส่แว่นกันแดดทำไมกัน? แต่เมื่อพินิจดูเพียงครู่เดียวก็รู้ได้ทันทีว่า .. หายนะคืบคลานเข้ามาเต็มที!
บ้าที่สุด! ไลอัน! เขามาตอนนี้ทำไม!
ขืนทำมาเป็นพูดคุยกับฉันแบบปกติก็ถูกคุณแอนดริวฆ่าสิ!
ออกไปให้ไกลฉัน..!
“คุณช่วยไปที่ Rose Café กับผมหน่อยได้ไหมครับ”
Rose Café .. ?? ในฝรั่งเศสไม่มีนี่นา! หรือว่าเขาคิดจะทำอะไร?
“Where’s Rose Café ?”
คุณแอนดริวหันมองหน้าไลอันด้วยความสงสัย .. แต่โชคเข้าข้างที่คุณแอนดริวไม่เคยพบไลอันมาก่อน เลยไม่รู้ว่าเขาคือไลอัน! ผู้ชายที่ฉันรอคอยมาตลอด 3 ปี! สีผมถูกเปลี่ยนให้เป็นสีชา ไฮไลท์สีเงินเล็กน้อย ทรงผมที่เซ็ตฟูๆดูไม่เหมือนไลอันคนก่อน .. รูปร่างที่สูงโปร่ง แม้ใส่สูทอยู่ก็ยังรู้ว่าข้างในมีกล้ามเป็นมัดๆ อย่างแน่นอน! ..แต่รอยยิ้มแบบนั้น .. ริมฝีปากเรียวบาง จมูกโด่งเป็นสัน ..
“In
”
ไลอันหันมองอลิซครั้งแล้วครั้งเล่า สายตาตกตะลึงของเจ้าหล่อนแทบจะทำให้เขาหลุดขำขณะเล่นละครตบตาแอนดริวเพื่อพาอลิซหนีออกไปจากวงการนักฆ่าบ้าบอนี่ แต่เมื่อแอนดริวเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของสายตาไลอันที่มองอลิซบ่อยครั้ง ไลอันจึงยิ้มกว้าง
“My .. Heart!”
ไลอันคว้าข้อมืออลิซและดึงตัวเธอเข้าไปกอดอย่างรวดเร็ว บอดี้การ์ดที่ยืนรายล้อมหันกลับมาจ่อปืนไปที่เป้าหมายเดียวกันคือไลอัน .. แต่การที่จะยิงปืนออกไปในตอนนั้นเลยก็อาจพลาดไปโดนมือขวาของคุณแอนดริวได้ ทุกคนจึงไม่กล้าทำอะไร .. แอนดริวแสยะยิ้มและเดินเข้าไปหาทั้งคู่ช้าๆ
“กล้าเหลือเกินนะคุณ .. ไลอัน ทอร์เล็จ”
“เฮอะ.. นายเองก็รู้ แต่ทำไมไม่จัดการผมก่อนละ”
“ถ้าจัดการตอนนี้เลยก็..ไม่สนุกน่ะสิ”
อลิซที่ยืนนิ่งเงียบไม่กล้าตุกติกอะไรเพราะว่าดูเหมือนจะมีมีดปลายแหลมจ่ออยู่ที่เอวของเธอ .. ไลอันเกลียดเธอก็เลยมาตามฆ่าเธอสินะ ? เพียงคิดแค่นั้น น้ำตาที่เหือดแห้งไปนานกว่า 3 ปี ก็ไหลออกมาทันที ไลอันกระซิบข้างหูเบาๆ ‘ อย่าร้องไห้สิยัยบ้า .. ฉันจะพาเธอออกไปจากวงการบ้าบอนี่นะ! ’ แต่อลิซกลับไม่สนใจอะไร ร้องไห้ออกมาและสะอื้น แอนดริวที่แพ้น้ำตาผู้หญิงก็เลยมีสีหน้าโกรธจัดขึ้นมา
“ปล่อยอลิซ”
“ไม่ปล่อย~”
“แกท้าทายฉันเองนะ!”
ไลอันทำเสียงทะเล้น ส่งผลให้แอนดริวโกรธจัดอย่างรุนแรง กระดิกนิ้วชี้เพียงครั้งเดียว กระสุนนับร้อยก็ตรงเข้ามาที่จุดเดียวกันคือ ‘ไลอัน’ อลิซผลักตัวไลอันให้ล้มลงเพียงเพราะต้องการปกป้องชายผู้เป็นที่รัก แต่ทว่า .. ชายหนุ่มกลับดึงเอาตัวเธอเข้าไปกอด ล้มตัวลงไปที่พื้นพร้อมๆกัน .. ศีรษะของไลอันกระแทกกับพื้น ที่บริเวณศีรษะมีรอยแผลจากการล้มลงไป .. และมีโลหิตสีแดงสดไหลออกมาไม่ขาดสาย อลิซลุกขึ้นออกจากอ้อมกอดของไลอันและมองบรรดาห่ากระสุนที่ปะทะกันที่จุดตรงกลาง .. กระสุนทั้งหมดแตกเป็นเถ้าถ่านเพราะว่าเกิดการปะทะกันนับร้อย ..นั่นไม่ได้ทำให้อลิซสนใจอะไรใดๆ
มือเรียวบางประคองศีรษะของผู้ชายคนหนึ่งที่เคยเป็นเป้าหมายการทำภารกิจให้เสร็จสิ้นด้วยความเบามือ ร่างเล็กสั่นรัวด้วยความตกใจ เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แอนดริวหรี่ตามองอลิซที่น้ำตาไหลพรากด้วยความเศร้าใจ ไลอันฝืนยิ้มให้กับอลิซ ..เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหลับตาพริ้มไป...
แอนดริวตัดสินใจหยิบปืนคู่ใจขึ้นมาและเล็งไปที่ตรงหัวใจของไลอัน .. อลิซมองภาพนั้นแล้วกรีดร้องออกมาราวกับว่าถูกมีดคมแหลมกรีดแทงที่หัวใจอย่างช้าๆ ..
ปัง!
“ม..ไม่จริง”
“...”
“ไม่! ไม่นะ! ไลอัน!”
“...”
“คุณแอนดริว! ทำไม! ทำไมต้องทำแบบนี้!”
“ภารกิจของเธอเสร็จสิ้นแล้ว ...” แอนดริวกล่าวเสียงเรียบ และเดินไปขึ้นรถลีมูซีน ก่อนขบวนรถจะออกไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้อลิซกอดร่างไร้วิญญาณของไลอันไว้แน่นอยู่เพียงผู้เดียวกลางสวนสาธารณะ น้ำตาของอลิซที่แทบจะรวมกับโลหิตสีแดงสดจากศีรษะของไลอันไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ทุกคนที่เดินผ่านไปมาไม่กล้าเดินเข้ามาถามไถ่ถึงอาการของไลอัน เพราะว่าดูแค่นั้น .. ก็รู้ว่าอลิซก็เสียใจมากเพียงใด
“อึก.. ใคร.. ใครก็ได้! ช่วยเรียกรถพยาบาลให้ที!!”
ปริบ ปริบ ..
ฝ้าเพดานสีขาวที่ดูไม่คุ้นตา กลิ่นอายของโรงพยาบาลฉุนกึกเข้าโพรงจมูก ทำให้คนที่หลับใหลไปเป็นเวลานานรู้สึกไม่ค่อยดีกับสถานที่ที่นี้นัก .. กลิ่นยาตลบอบอวลเต็มห้องไปหมด หางตาเหลือบมองดูที่ระเบียง ซึ่งมีร่างของหญิงสาวคนหนึ่งยืนเหม่อลอยอยู่นอกระเบียง เส้นผมสีดำขลับเป็นเงาขนาดนั้น ดูก็รู้ว่านั่นแหละ คือ “อลิซ” หรือ “ซอ ฮวาวอล” ที่เขารู้จัก
ครืดด..
ร่างเล็กเปิดประตูบานเลื่อนใสเข้ามาภายในห้อง ทำให้ร่างสูงที่นอนสลบอยู่เป็นเวลานานต้องรีบปิดเปลือกตาสังเกตอาการของคนที่เดินเข้ามา ..และกะว่าจะเล่นแบบนี้ไปสักพัก เพื่อทดสอบใจของหญิงสาว
ว่ารักกันจริงหรือเปล่า ... ?
เสียงเบาๆที่บอกว่าของหนักๆนั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างเตียงทำให้ไลอันต้องทำอะไรให้เนียนที่สุดเท่าที่จะทำได้ มือเล็กเรียวที่เขาไม่ได้สัมผัสนานแรมปีเอื้อมมือมาประคองมือของเขา .. ไลอันคิดอยากจะขำในความไม่รู้ของอลิซแต่ก็ทำไม่ได้ หากทำเช่นนั้นก็เสียแผนกันหมดพอดี !
“ไลอัน”
หืม ? .. ไลอันตอบอลิซในใจและไม่เปล่งเสียงออกมา
“อย่ามาแกล้งหลับ ฉันรู้นะว่านายแกล้งปิดเปลือกตาแล้วรอดูว่าฉันจะสารภาพอะไรออกมา”
เฮ้ย! ยัยบ้านี่ รู้ได้ยังไง? ไลอันกระวนกระวายที่ร่างเล็กที่นั่งเคียงรู้ทัน .. เมื่อเขาจะลืมตาขึ้นมาก็ต้องชะงัก
“เฮ้อ นี่ฉันพูดแบบนี้กับนายกี่วันกี่คืนแล้วนะ? นายก็ยังไม่ลืมตาขึ้นมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ฉันเหมือนเมื่อก่อนเลย”
ฉันเคยแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เธอด้วยเรอะ =_=; ไลอันคิดในใจอย่างขบขัน ทุกวันที่เจอหน้ากัน ก็มีแต่สบตากันด้วยหางตาแล้วก็เล่นบทรักกันไม่เว้นระยะหยุดสักที .. แต่เอ .. อยากทำแบบนั้นอีกจัง?
“นายหิวน้ำหรือเปล่า ถ้าหิวเดี๋ยวฉันจะไปเอาน้ำมาให้นะ”
หิวสิ หิว .. มากๆ O-
“หิวไม่หิวก็ต้องหิว เดี๋ยวฉันไปเอามาให้นะ รอก่อน”
อลิซหันหลังและเดินไปหยิบแก้วน้ำที่วางบนเคาน์เตอร์ ก่อนจะร้องเสียงหลงเบาๆ เพราะว่าน้ำในเหยือกหมดเสียแล้ว .. ร่างเล็กเดินออกจากห้องไปเบาๆ ทั้งที่ไม่รู้ตัวเลยว่าคนที่นอนบนเตียงโรงพยาบาลน่ะฟื้นขึ้นมาแล้ว ไลอันหรี่ตามองอลิซที่เดินออกจากห้องไป .. เธอเปลี่ยนไปมากเลย เมื่อก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา เดี๋ยวนี้ดูพูดแบบมีอารมณ์จะพูดมากกว่าเมื่อก่อนนี้ แล้วเรื่องที่เคยเป็นมือสังหารละ ตอนนี้จะล้มเลิกแล้วหรือยัง แต่คงจะเลิกเป็นแล้วละมั้ง เพราะว่าดูแลเขาเป็นอย่างดี ไม่ได้ลอบสังหารในตอนที่สลบอยู่เลยนี่นา
พอคิดเสร็จ .. ประตูก็ถูกเปิดออก ร่างสูงรีบข่มตานอนหลับต่อไป
“อ้ะ! น้ำมาแล้ว!”
อลิซพูดเสียงร่าเริง แม้ในใจอยากจะยิ้มออกมา แต่ไลอันก็ต้องกัดฟันไว้แน่น อลิซเหลือบมองที่ริมฝีปากแล้วก็เดินเข้ามาประทับจุมพิตให้กับชายนิทราที่แสร้งหลับอยู่ด้วยความอ่อนโยน
อยากให้เวลาหยุดเดินตอนนี้ ..
อลิซถอนริมฝีปากออกด้วยความตกใจ เมื่อสักครู่เหมือนปลายลิ้นของคนที่นอนอยู่จะตอบโต้กับการจูบของเธอ! แต่เมื่อมองดูดีๆแล้ว ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไลอันยังคงหลับสนิทไม่รู้จักตื่นสักที
เกือบไปแล้วไหมละ!
และอีกหลายวันต่อมา ไลอันก็ยังคงทำเงียบ ทำเป็นไม่รู้สึกตัวเนิ่นนาน จนกระทั่งวันหนึ่งเขาเมื่อยเอาสุดฤทธิ์ .. ร่างสูงพลิกไปพลิกมาอยู่นาน คนเฝ้าไข้ตลอดทุกวันที่ยืนอยู่หน้าประตู .. ซึ่งอดีตเคยเป็นนักลอบสังหาร ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวร่างกายของคนภายในห้องก็เลยหยุดยืนไม่เดินเข้าไป ถึงแม้ไลอันจะประสาทดีเพียงใด แต่เมื่อสลบไปหลายวันหลายสัปดาห์ก็เสียประสาทการรับรู้ในส่วนนั้นไปเล็กน้อย เลยไม่รู้ว่าหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าห้องรู้แผนเขาซะแล้ว ..
ทำไมเจ้าหญิงยังไม่เข้ามาสักทีนะ .. ?
ไลอันนอนนิ่งคิดถึงใบหน้ากลมๆของอลิซ แต่ร่างเล็กที่ยืนหน้ามุ่ยอยู่หน้าห้องกลับไม่คิดจะเดินเข้าไป ทำไมต้องหลอกกัน ถ้าตื่นขึ้นมาแล้วก็ยิ้มให้กันดีๆไม่ได้เหรอ ? อลิซถอนหายใจเฮือกตัดสินใจทำกล้าเดินเข้าไปหาเจ้าคนหลอกลวง .. และยิ้มเนียนๆเดินเข้าไปนั่งข้างเตียงเหมือนเดิม
พร้อมกับมีดคมเล่มหนึ่ง !!
“ไลอัน ..”
จ๋า ? ^3^ มีอะไรเหรอจ๊ะที่รัก ~
“เมื่อกี้คุณแอนดริวโทรมาสั่ง .. ให้ฉันสังหารนายซะตอนนี้เลย”
เฮ้ย ! O_O
ไลอันแทบจะผุดลุกขึ้นนั่งด้วยความผวา นี่ยังไม่ทันได้หายดีเลย มันจะฆ่ากันแล้วเรอะ! มันไม่ยุติธรรม .. มันผิดกฎของมาเฟี.. อ้อ! เจ้าแอนดริวมันเป็นนักลอบสังหารมาเฟีย ไม่เกี่ยวกับกติกาของมาเฟียอยู่แล้ว .. แต่แบบนี้มันเกินไป !
น้ำตาของอลิซหยดแหมะที่ใบหน้าขาวของไลอันที่แทบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่ ..อย่าร้องไห้! เธออย่าร้องไห้ออกมาสิ! มันทำให้ฉันอยากลืมตาขึ้นและปลอบเธอเป็นบ้า! สติของไลอันกำลังจะขาดผึง ปลายมีดคมจ่ออยู่ที่ลำคอของเขา .. รอยข่วนเพียงเล็กน้อยทำให้เลือดไหลออกมา หากเขากดสวิตช์เรียกพยาบาลก็จะทำให้อลิซรู้ว่าเขาฟื้นแล้ว! แล้วจะทำยังไง!?
“ฉันขอโทษ..”
แผนการของอลิซดูท่าจะเป็นไปได้สวย ไลอันกำลังขวัญผวา .. แต่แล้ว จู่ๆ ไลอันก็นิ่งเงียบไม่สนใจอะไร เพียงเพราะคิดว่าการตายด้วยน้ำมือคนที่รัก มันก็ดีกว่าการต้องตายเพราะคนอื่นเป็นไหนๆ อลิซยิ้มมุมปากและคร่อมร่างสูงที่นอนนิ่งด้วยความรวดเร็ว ร่างสูงถึงกับชะงัก
จะทำอะไรของเธอ ..
.. คิดจะยั่วกันหรือไง ?
อลิซโน้มใบหน้าลงใกล้กับไลอันและประทับริมฝีปากแผ่วเบา ก่อนจะโยนมีดลงไปที่พื้น ร้องไห้ออกมาหนัก คนที่นอนอยู่ข้างล่างอยากจะโอบเอวเธอและดึงเข้ามาจูบอีกครั้ง ..ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงจะเก็บอารมณ์ไว้ได้ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ เขาทนไม่ได้แล้ว..
ควับ!
“!!”
ไลอันลุกขึ้นพรวดและดึงเอวของอลิซเข้ามาใกล้พร้อมกับจูบอลิซอย่างดูดดื่ม .. แต่อลิซกลับใช้แรงที่มีทั้งหมดผลักตัวเขาออกไปและตบหน้าเขาอย่างแรง
“อลิซ!”
“คนหลอกลวง!”
เพียะ!
ใบหน้าของไลอันมีรอยแดงๆที่เกิดจากการฟาดฝ่ามือเล็กของคนตรงหน้าเต็มแรง มันไม่ใช่เพราะความเกลียด แต่เป็นโกรธ ที่หลอกลวงกัน .. ไลอันลูบใบหน้าตัวเองที่ถูกอลิซตบป้อยๆแล้วก็ส่งสายตาประหนึ่งจะปฏิเสธเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทำอย่างไรมันก็ไม่เป็นผลหรอก เขาคิดขึ้นได้ว่าตนเองนั่นแหละที่เป็นคนทำ จะทำอย่างไรอลิซก็คงไม่มีวันหายโกรธ.
แต่เกิดมาฉันไม่เคยโดนใครตบมาก่อนสักครั้งในชีวิต..
ความโมโหแล่นเข้าสู่ความคิดของเขา ไลอันกระชากตัวอลิซเข้ามาจูบและซุกไซ้ใบหน้าอยู่บริเวณต้นคอขาวระหงส์ แต่ อลิซก็ต้องปัดป้องและตบหน้า ป้องกันตัวอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้อลิซหนีออกจากอ้อมกอดแข็งแรงของไลอันไปได้ และวิ่งหนีหายไปจากประตูห้อง .. หลังจากนั้น อลิซก็ไม่กลับมาอีก และดูเหมือนว่าเธอจะไม่คิดสนใจใยดีกับเรื่องของไลอันอีกต่อไป ราวกับปักใจเจ็บเมื่อถูกลวง
เช่นกันกับไลอัน .. เขาเจ็บปวด ทรมานหัวใจมากมาย เมื่อเธอเดินจากเขาไป และไม่หวนกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง เขายังคงคิดถึงใบหน้าที่แม้จะเป็นการเสแสร้งยิ้มให้กัน เขารู้ทุกอย่างที่อลิซทำ แต่เขาก็เกลียดเธอไม่ลง เขายังคงรักเธอเสมอมา ..
หลายเดือนต่อมา มีข่าวรายงานว่าไลอันฆ่าตัวตาย .. กลายเป็นข่าวที่โด่งดังในหมู่นักลอบสังหารและบรรดาสมาชิกพรรคพวกของไลอัน รวมไปถึงมาเฟียทุกๆคนอย่างหนาหู
ถึงกระนั้น อลิซก็ไม่สนใจอะไรอีกต่อไป .. แต่ก็เก็บตัวเงียบอยู่ภายในบ้านของตนเอง ไม่เปิดใจออกไปสู่โลกกว้างอย่างคราวที่ได้พบกับไลอันอีก เมื่อได้ยินคำพูดถึงไลอันจากใครๆรอบข้าง เธอก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นภายในใจ น้ำตาพานจะไหลออกมาทุกทีที่คิดถึงใบหน้านั่น
แต่ก็อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้น?
จนกระทั่งวันหนึ่ง อลิซตัดสินใจไปเยี่ยมเขาที่หลุมศพ และจริงอย่างที่ใครๆว่า ป้ายหลุมศพของเขาดูช่างลึกลับชวนค้นหาเหมือนกับครั้งแรกที่เจอหน้าเสียเหลือเกิน .. แผ่นป้ายที่ทำจากหินอ่อนสีดำสนิท สลักชื่อ ‘Lyan’ ด้วยอักขระที่สวยงาม ใบหน้าของไลอันผุดขึ้นกลางความคิดที่ว่างเปล่าของอลิซ วินาทีนั้นอลิซก็ทรุดนั่งต่อหน้าป้ายหลุมศพและร้องไห้ออกมา
ไม่มีอีกแล้ว .. ช่อดอกกุหลาบที่คอยปลอบใจ
ไม่มีอีกแล้ว .. ผู้ชายที่จะคอยแกล้งเธอต่างๆนาๆ
และ..
ไม่มีอีกแล้ว .. ผู้ชายที่ทำให้จิตใจของเธอหวั่นไหว
ยิ่งคิด .. ก็ยิ่งเจ็บปวด
สายลมฤดูหนาวพัดผ่านใบหน้าขาวนวลของอลิซไปอย่างช้าๆ แต่มันก็เหมือนคมมีดที่กรีดแทงจิตใจของอลิซ .. ย้ำให้รู้ว่าไม่มีใครจะมากอดเธอคลายหนาวอีกแล้ว หิมะที่ปกคลุมอยู่บนยอดไม้ใกล้เคียงก็ตกลงมาใส่ศีรษะของอลิซ .. มันเย็นไปถึงขั้วหัวใจ ถ้าหากยังไม่ไปจากที่นี่
อลิซยันตัวเองลุกขึ้นและเดินจากไปช้าๆ แต่ก่อนจะออกไปจากบริเวณหลุมศพของไลอัน ก็มีร่างสูงของชายหนุ่มผู้หนึ่งเดินเข้ามาขวางเธอเอาไว้ ร่างที่คุ้นตา ..
“คุณ
“ฉันต่างหากที่ต้องถามเธอ ซอ ฮวาวอล ไม่สิ.. อลิซ”
เสียงเย็นชาตอกย้ำความรู้สึกเจ็บปวด เธอออกจากวงการนักสังหารมาได้หลายปีแล้ว .. เมื่อพบกับคุณแอนดริวที่เป็นผู้มีพระคุณ ก็ไม่กล้าแม้แต่จะมองใบหน้าที่ดุดัน แฝงไปด้วยความเย็นชานั่นอีก
“ฉันมาเยี่ยมไลอัน”
“ฮะๆ ช่างพูดได้มั่นใจเสียเหลือเกินแม่ดอกกุหลาบโลหิต .. ฉันเองก็มาเยี่ยมไลอันด้วยความสะใจ ..ว่าแต่ เขาตายไปแล้ว เธอจะกลับมาเป็นพวกเราอีกต่อไปไหม ? อลิซ เรายังรอคอยการกลับคืนวงการของเธออยู่นะ”
แอนดริวยิ้มมุมปาก แต่นั่นไม่ได้หมายถึงความอบอุ่นที่เคยมอบให้กับอลิซ ตอนนี้เขามองอลิซเป็นเพียงเครื่องมือสังหารเท่านั้น มันไม่ใช่สายตาที่มองด้วยความรักและห่วงใยเหมือนเมื่อก่อน .. อลิซส่ายหัวและยิ้มบางๆที่มุมปากอย่างเยือกเย็นก่อนจะปฏิเสธเสียงเรียบ
“ไม่ค่ะ .. ฉันเป็นอยู่อย่างนี้ก็ดีแล้ว”
“งั้นก็ตามใจนะ”
อลิซก้มหัวเดินหลีกไปทางอื่น .. และเดินไปตามเส้นทางนั้นโดยลำพัง
2 ปีต่อมา ..
อลิซผันตัวเป็นเบเกอรี่สาวที่มีร้านเป็นของตนเองและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วฝรั่งเศสในนามเบเกอรี่เกาหลีเพียงร้านเดียวในประเทศ ใบหน้าที่ไม่เคยยิ้มเลยสักครั้งเดียวก็ยังคงไม่ยิ้มอยู่อย่างนั้น เพราะเมื่อจะฝืนยิ้มให้ใครทีไร ใบหน้าที่ได้จากไปแล้วของไลอันก็มักจะโผล่ขึ้นมาในห้วงคิดเสมอๆ ..
กรุ๊ง กริ๊ง~
“แม่ฮะ! วันนี้ผมอยากกินพายเบอร์รี่”
เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กคนหนึ่งที่เดินมากับแม่ของเขาดังขึ้น .. อลิซมองภาพนั้นแล้วเจ็บลึกๆในใจ .. ถ้าไลอันยังไม่ตายก็คงได้มีเด็กน่ารักๆสักคนหนึ่งแน่ๆเลย อลิซเงยหน้าขึ้นมองแม่ลูกนั้นและเดินหายเข้าไปในครัว
“คุณอลิซครับ! วันนี้มีผู้ชายคนนึงเข้ามาในร้าน .. เขาบอกว่าอยากเรียนการอบขนมเป็นการส่วนตัวกับคุณอลิซน่ะครับ! ผมไล่เท่าไรเขาก็ไม่ยอมไป จะทำยังไงดีกับผู้ชายคนนี้ครับ?”
พนักงานต้อนรับหนุ่มเกาหลีคนหนึ่งวิ่งแจ้นเข้ามาหาอลิซในครัวอบขนม ทำให้เจ้าของร้านขมวดคิ้วแทบจะเป็นริบบิ้นอยู่แล้ว .. อลิซเดินออกมาจากครัวและมองหาผู้ชายคนนั้น .. ที่มุมหนึ่งของร้านที่จัดว่าเป็นมุมที่ค่อนข้างจะสวย ความจริงมันก็สวยทุกมุมนั่นแหละ แต่ไม่รู้ทำไมพอมองไปมุมนั้นแล้วรู้สึกดีอย่างไรก็ไม่รู้ ชายคนนั้นใส่หมวกเบสบอลเป๋ข้าง ผมสีน้ำตาลเข้มปนดำนั่นดูลึกลับเสียเหลือเกิน แถมยังใส่แว่นตากันแดดสีชาปกปิดใบหน้าที่ดูลึกลับให้ดูน่าสงสัยยิ่งขึ้นไปอีก
“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณ..”
“ก็ไม่มีอะไรครับ แค่ผมอยากจะเรียนอบขนมกับคุณเป็นการส่วนตัว”
เสียงที่คุ้นหูนั่นทำให้อลิซเผยยิ้มมุมปาก พนักงานในร้านเผลอจ้องมองเธอเป็นตาเดียวเพราะกุหลาบโลหิตที่ไม่ว่าเวลาผ่านไปเท่าใดก็ไม่เคยยิ้มกลับมายิ้มในตอนนี้! ผู้ชายตรงหน้านั่นคือใคร!
“ซอจิน ไปอบพายให้น้องคนนี้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะไปสอนคนๆนี้ให้เรียนจบหลักสูตรในวันเดียวเลย”
“ต..แต่ผู้จัดการครับ!” พนักงานหนุ่มเสียงสั่น หากแต่ใบหน้าที่แฝงไปด้วยความน่ากลัวของอลิซหันกลับมายิ้มให้เพียงชั่ววินาที ก็ต้องกลับไปอบพายในห้องอบขนมทันที
“ช่วยหน่อยนึงนะ. ^^”
“ไลอัน! นาย..” อลิซผลักไสไลอันลงไปนั่งที่พื้นสนามหญ้าของสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงปารีส
“คิดว่าฉันตายไปแล้วงั้นเหรอ ใจร้ายจัง.. แล้วก็ไม่ไปหาที่หลุมศพอีกเลยนะ?”
ไลอันตีสีหน้าเศร้าลุกขึ้นพลางปัดกางเกงราวกับเกรงว่ามันจะเปรอะเปื้อนดิน อลิซที่วางมือจากการเป็นนักลอบฆ่ามาเนิ่นนานก็เลยไม่รู้ว่าไลอันเริ่มจะแกล้งทำอะไรบางอย่างอีกแล้ว อลิซเดินตรงเข้าไปกอดร่างสูงตรงหน้าก่อนจะซุกใบหน้าอยู่ที่แผ่นอกกว้างพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ฉันคิดถึงนาย”
“อลิซ ฉันก็คิดถึงเธอเหมือนกัน. ฉันเลิกเป็นมาเฟียแล้วนะ”
“...” อลิซเงยหน้าขึ้นมองเสียงเรียบที่แฝงไปด้วยความยินดี
“ฉันเลิกเป็นเพื่อเธอ เธอจะได้ไม่ต้องห่วงใยฉัน.. และที่สำคัญ”
ไลอันดันตัวอลิซออกแล้วล้วงกระเป๋ากางเกงข้างหลัง ก่อนจะคุกเข่าลงไปนั่งที่พื้น ท่ามกลางสายตาของคนมากมายทำให้อลิซพูดอะไรไม่ออกนอกจากมองกล่องสีแดงกำมะหยี่ที่อยู่ในมือเขา มองยังไงก็รู้ว่านี่คือการขอแต่งงานแน่นอน คนที่เดินผ่านไปมาต่างยืนมุงดูกันและร่วมเป็นสักขีพยาน อลิซไม่กล้าแม้แต่จะปฏิเสธ เพียงแต่หัวใจของเธอเองก็ร่ำร้องอยากจะใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายอบอุ่นคนนี้ตลอดไป
“แต่งงานกับฉันนะ อลิซ”
น้ำตาเอ่อล้นที่ขอบตาของอลิซ ดวงตาของเธอเป็นประกายวาววับเมื่อผู้ชายตรงหน้าเอ่ยคำที่หัวใจของเธออยากจะได้ยินมากที่สุดในชีวิต อลิซทรุดนั่งแล้วกอดไลอันแน่นพร้อมกับร้องไห้ด้วยความซาบซึ้งใจ แหวนเพชรน้ำดีเป็นประกายถูกสวมเข้าที่นิ้วนางข้างซ้ายของผู้หญิงที่รักไลอันมาตลอด
การแต่งงานของอลิซกับไลอันจัดขึ้นเงียบๆไม่มีใครรู้นอกจากลูกน้องคนเก่าๆที่รักและห่วงใยเจ้านายไลอัน พนักงานในร้านเบเกอรี่ และ.. คุณแอนดริว ที่จู่ๆก็โผล่ขึ้นมากลางงานโดยไม่มีใครชักชวน แต่เขากลับยิ้มกว้างออกมาพร้อมพูดเสียงใส
“แหม จะแต่งงานก็ไม่มีการชวนมาร่วมงานเลยนะ แบบนี้มันน่าน้อยใจจริงๆ”
“คุณจะรับคนคนนี้ซึ่งเป็นที่วางใจของพระเจ้า ให้เป็นคู่ชีวิต รักและซื่อสัตย์ และเป็นการแต่งงานกับเขาตามประสงค์ของพระเจ้าและสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันไม่ว่าจะเป็นวันดีหรือร้ายจนกว่าความตายจะพรากคุณจากกัน” บาทหลวงพูดเสียงเรียบ การแต่งงานของคริสเตียนนิกายโปรแตสแตนท์ หากมองดูแล้วมันไม่ได้ยุ่งยากมากมายเหมือนกับการแต่งงานชาวพุทธสักเท่าไร
“ครับ .. ด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า”
“ค่ะ .. ด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า”
3 วันหลังจากวันแต่งงาน ..
ทั้งคู่ไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ .. ที่เกาะส่วนตัวของไลอัน เสียงคลื่นกระทบหาดทรายยามค่ำคืนดึงดูดให้อลิซเดินออกไปสัมผัสธรรมชาติที่งดงาม ไลอันออกเดินตามหาอลิซที่หายไปด้วยความเป็นห่วง .. แต่อลิซ กลับนั่งลงเล่นน้ำอยู่ที่ชายหาด ซึ่งไลอันไม่คาดถึง .. เมื่ออลิซตะโกนเรียก เขาจึงรู้ตัว
“ไลอัน! มาดูนี่ซิ ปลาดาวแหละ!”
ชายหนุ่มวิ่งไปหาหญิงสาวที่นั่งเล่นทรายอยู่เพียงลำพังและสวมกอดทางด้านหลัง ก่อนจะซุกไซ้ใบหน้าอยู่บริเวณคอขาวระหงส์นั่นเนิ่นนาน และกัดใบหูเล็กเล่น อลิซสะดุ้งโหยงและหันกลับไป ..
“ผมขอสาบานต่อพระจันทร์.. หากวันใดผู้หญิงที่ผมรักจะเปลี่ยนไป แต่ผมจะไม่เปลี่ยนใจรักใครนอกจากเธออีกเลย หากผมผิดคำสาบาน ผมขอให้ผมถูกผู้หญิงที่ผมรักลอบฆ่า จนกว่าจะหมดเวรหมดกรรม!”
“มันเหมือนคำแช่งตัวเองเลยนะไลอัน”
แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะคิกคักกันอยู่ตรงนั้น .. พร้อมกับดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันเสียตรงนั้นเลย โดยไม่เกรงว่าเทพโปเซดอนจะกริ้วโกรธที่กระทำอะไรใกล้กับพื้นที่ของท่านเลย
ความรัก. อาจเป็นสิ่งที่ดูขมขื่นในช่วงกลางๆ .. แต่นั่นคืออุปสรรค
แต่ถ้าเรากล้ำกลืนฝืนทนฝ่าฝันช่วงนั้นไปได้ มันคือเรื่องที่พระเจ้าลิขิตไว้
ว่าผู้ที่ร่วมฟันฝ่าอุปสรรคมากับเรานั้น ..
คือ .. “คู่แท้”
ความคิดเห็น