คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : chapter3
ฉันถูกอาจารย์ใช้ให้เอาการบ้านมาส่งที่ห้องพักครู ถือเป็นการทำโทษที่ฉันหลับในห้องเรียน
ฉันกำลังจะเดินกลับแต่กับได้ยินเสียงคนกำลังคุยกัน เสียงคุ้นๆแฮะ
ไอ้ฉันก็ไม่ใช่คนที่สอดรู้สอดเห็นซะด้วยสิ ก็แค่อยากรู้เฉยๆ เพราะฉะนั้นแอบฟังดีกว่า
“แกงก็รู้ใช่มั้ยว่าเราคิดยังไงกับแกง” นึกว่าใครที่แท้ก็นายแกงส้มกับยัยเกรซ
“....................”
“เรามาคบกันเถอะนะแกง” ยัยเกรซพูดอย่างเดียวไม่พอ แถมยังไปกอดนายแกงส้มอีก
ยัยนี่หนิชอบฉวยโอกาสชะมัดเลย ชิ ยัยโรคจิต.........
ฮึ่ย แล้วทำไมฉันต้องโมโหด้วยเนี่ย??????
“ฉันคบกับเธอไม่ได้”
“ทำไมล่ะแกง”
“ฉันไม่ได้ชอบเธอ”
“แต่เกรซชอบแกงนะ” ป้าดดดดดดดด ยัยเกรซไม่พูดเปล่าทำท่าจะจูบแกงส้มด้วย
แต่นายนั่นก็แกะมือปลาหมึกของยัยเกรซแล้วเขยิบหนีได้ทัน
“ทำไมล่ะแกง?? ทำไมแกงถึงไม่จูบเกรซ”
“ฉันจะจูบกับคนที่ฉันรักเท่านั้น”
นะ นะ นาย จะจูบกับคนที่รักเท่านั้นหรอ งั้นแสดงว่า.......โอ๊ย ไม่ใช่หรอก
นายจูบฉันเพราะว่าโกรธต่างหาก ><
เฮ้ยๆๆๆ แต่ยัยเกรซกำลังวิ่งร้องไห้มาทางฉันแล้วทำไงดี หาที่หลบก่อนละกัน
ฉันวิ่งไปหาที่หลบที่เสานึงของตึก และแล้วยัยเกรซก็วิ่งผ่านฉันไป เฮ้อโล่งอกไปที นึกว่าจะโดนจับได้ซะแล้ว
“แอบฟังคนอื่นคุยกันมันเสียมารยาทนะ” เฮ้ย!!!ฉันตกใจนะเฟ้ย
อยู่ดีๆนายนั่นก็มายืนอยู่ข้างหลังฉัน...ว่าแต่มาเมื่อไหร่วะเนี่ย
“อะไรใครแอบฟัง ฉันบังเอิญเดินผ่านมาพอดีต่างหาก”
“คนไม่มีมารยาท”
“แล้วทำไมไม่ตกลงคบกับเกรซไปซะล่ะ”
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ”
“แถมยัยนั่นจะจูบนายนายยังไม่ยอมจูบตอบ ไหนนายบอกว่าทำอย่างนี้กับผู้หญิงทุกคนไง
หรือว่านายยยย....ตกหลุมรักฉันเข้าแล้วใช่ปะ” ฉันพูดแหย่นายนั่นเล่น แต่นายนั่นกลับหน้าแดง
จริงๆ ป้าดดดด นายเขินเหมือนคนอื่นเค้าก็เป็นเนอะ นึกว่าเป็นพวกไร้ความรู้สึกซะอีก
“ฉันไม่มีทางและก็ไม่มีวันรักคนอย่างเธอหรอก.....อ๋อ หรือที่เธอพูดแบบนี้เธออยากจะโดนจูบ
เหมือนเมื่อวานอีกฮะ” นายนั่นพูดแล้วเขยิบเข้ามาใกล้และยื่นหน้ามาใกล้ๆฉัน
“ไอ้บ้า!!!” ฉันรีบผลักหน้านายนั่นออก แล้วรีบวิ่งออกจากตรงนั้น
เฮ้อ!!! เกือบไปแล้ว...ว่าแต่ทำไมตอนนี้หัวใจฉันต้องเต้นแรงขนาดนี้ด้วยเนี่ย????
และแล้วก็มาถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่แสนสบาย วันนี้ฉันต้องอยู่บ้านคนเดียวส่วนเฮียไปมหาลัย
และป๊ะป๋าของฉันเป็นตำรวจต้องไปประจำอยู่ที่ต่างจังหวัด กว่าจะกลับมาหาฉันก็เดือนละครั้ง
‘แค่เธอยิ้มก็ทำให้ใจฉันละลาย ก็รู้มั้ยเธอ I love your smile’ เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น
ใครกันนะโทรมาแต่เช้า??? อ้าวเฮียเองหรอเนี่ย
“ฮัลโหล เฮียมีไรเปล่า”
[หมวยเล็กเฮียลืมรายงานไว้ที่บ้านอ่ะ เอามาให้หน่อยดิเดี๋ยวต้อง Presentแล้ว]
“แก่แล้วก็งี้แหละ ขี้หลงขี้ลืม”
[ไอ้หมวยเล็กว่าเฮียหรอเดี๋ยวเย็นนี้อดขนมแน่]
“โอ๋ๆๆ อย่างอนเก๊าน้า เก๊าล้อเล่น เดี๋ยวเก๊าจะรีบเอาไปให้เดี๋ยวนี้แหละ”
[เออๆ น้องใครวะเห็นแก่กินจริงๆ มาเร็วๆด้วยล่ะ]
“รับทราบครับผม”
พอวางสายจากเฮียฉันก็เดินไปเอาวิทยานิพนธ์บนห้องของเฮีย แล้วก็นั่งแท็กซี่ไปที่มหาลัยของเฮียทันที
“เฮียยยยจ๋าน้องมาแล้ว”
“เสียงมาก่อนตัวเลยนะหมวยเล็ก” เฮียพูดแล้วเอามือโยกหัวฉันไปมา
“อ่ะ นี่วิทยานิพนธ์ของเฮีย” ฉันพูดแล้วยื่นวิทยานิพนธ์ให้เฮีย
“ขอบใจมากไอ้น้องรัก”
“ตอนเย็นอย่าลืมขนมมายด้วย” ฉันรีบทวงขนมทันที ไม่ได้หรอกสำหรับฉันเรื่องกินเรื่องใหญ่
“เออๆ ไอ้เด็กเห็นแก่กิน”
“ชิ”
“ใครวะไอ้ฮั่น” พี่ผู้ชายหน้าตาดี คนนึงซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของเฮียถามขึ้น
“เออลืมแนะนำนี่สมายน้องกู”
“สวัสดีครับน้องสมาย..พี่ชื่อแคนนะครับเป็นเพื่อนของฮั่น” เพื่อนของเฮียพูดแล้วส่งยิ้มหวานให้ฉัน
“สวัสดีค่ะพี่แคน”
“ครับ” พี่เค้าพูดแล้วยิ้มอีกแล้ว เอ่อ...ท่าทางเค้าจะเป็นคนอารมณ์ดีไปนะ ^^
“ไปก่อนนะเฮีย ตอนเย็นห้ามลืมเด็ดขาดไม่งั้นมีงอลล”
“รู้แล้วหน่า...ไอ้อ้วน” จี๊ดเลยย มาว่าเค้าอ้วน เค้ารับม่ายด้ายยยย
“ชิ ฝากไว้ก่อนเหอะ ไปแล่วขี้เกียจเถียงคนแก่ แบร่” ฉันแลบลิ้นใส่เฮียแล้วรีบวิ่งหนีออกมาก่อนที่จะโดนเตะก้น
วันอาทิตย์
วันนี้ฉันมาเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า เดินผ่านร้านหนังสือพอดีแวะไปหาอ่านหนังสืออ่านเล่นดีกว่า
ฉันเดินหาหนังสือไปเรื่อยๆจนสายตาไปสะดุดกับหนังสือเล่มนึง แค่เห็นสันเล่มก็จำได้แล้ว
นี่มันหนังสือที่ฉันตามหาอยู่นี่หน่า ฉันหาอ่านมาตั้งนานในที่สุดก็เจอ แต่หนังสือ
มันดันตั้งอยู่ชั้นบนสุดเลยนี่สิ ฉันเขย่งแล้วเอื้อมมือไปหยิบหนังสือแต่ก็ไม่ถึงสักที
เฮ้อ~~ ทำไมฉันต้องเกิดมาเตี้ยด้วยเนี่ย พี่ชายกับพ่อฉันก็สูงแล้วฉันเตี้ยเหมือนใคร???
ระหว่างที่ฉันกำลังยืนน้อยใจในโชคชะตาที่เกิดมาเตี้ย ก็มีคนๆนึงมายืนข้างหลังฉัน
แล้วเอื้อมมือไปหยิบหนังสือที่ฉันอยากได้..ตอนนี้ฉันกำลังยืนหันหลังให้เค้าเลย
ไม่เห็นเค้า ฉันจึงหันหน้าไปหาเค้า ทำให้เราทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก.....พี่แคนนนนน
“พี่แคนนนน” ฉันพูดแล้วยิ้มให้พี่แคน
“ ^_____^” พี่แคนเป็นอะไรอ่า ดูลอยๆ เคลิ้มๆยังไงไม่รู้
“พี่แคนคะ พี่แคนเป็นอะไรหรือเปล่า!!!” ฉันพูดให้เสียงดังขึ้นแล้วเขย่าแขนพี่แคนเบาๆ
“อะ อะ เอ่อ เปล่าครับ..นี่ครับหนังสือ”
“ขอบคุณค่ะ..แล้วพี่แคนมาซื้อหนังสือหรอ”
“ครับ พี่มาซื้อหนังสือตำราอาหารอ่า”
“อั้ยย่ะ!!พี่แคนชอบทำอาหารด้วยหรอ”
“ครับ.. การทำอาหารเป็นงานอดิเรกของพี่เลยแหละ..พี่ว่าถ้าพี่เรียนจบพี่จะไปเปิดร้านอาหารล่ะ”
ว้าว พี่แคนเก่งจังทำอาหารเป็นด้วย ฉันนี่อายไปเลย >< ขนาดฉันเป็นผู้หญิงทอดไข่ยังไหม้เลย
“ถ้าเปิดร้านเมื่อไหร่...มายจะไปเป็นลูกค้าคนแรกเลย” ฉันพูดแล้วยิ้มให้พี่แคน พี่แคนก็ยิ้มตอบฉัน
เชื่อแล้วแหละว่าฮีเป็นคนยิ้มเก่งจริงๆ ถ้าเป็นผู้หญิงฉันจะจับส่งประกวดนางสาวไทยซะเลย^^
“เออ...น้องสมายไปกินอาหารญี่ปุ่นกันมั้ยเดี๋ยวพี่เลี้ยง”
“เลี้ยงเนื่องในโอกาสอะไรคะ??” แกล้งถามให้ดูดีไปงั้นแหละ....ความจริงตกลงตั้งแต่ได้ยินว่าจะเลี้ยงแว้ว หุหุ
“ก็เนื่องในโอกาสที่ได้รู้จักกันไง”
“โห งั้นถ้าพี่แคนรู้จักใคร ก็ต้องเลี้ยงหมดเลยดิ555”
“อ่ะแน่นอน...ป๋าซะอย่างแค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วง” เห็นอย่างนี้พี่แคนก็มีมุมตลกกับเค้าเหมือนกันนะ
“โอเค งั้นตกลงค่ะป๋า เดี๋ยวหนูจะกินให้ขนหน้าแข้งป๋าร่วงเป็นแถบๆเลย555”
ไหนๆเค้าโยนมุขมาก็รับมุขเค้าซะหน่อย แต่ตอนนี้พี่แคนดูจะตลกกับมุขฉันมากขำกลิ้งเชียว
นี่เห็นฉันเป็น ตุ๊กกี้หรือไง ขำอยู่ได้
“55555555555555555” เสียงพี่แคนหัวเราะ
“ตกลงเราจะไปได้ยังคะป๋า”
“คร้าบบบบ”
หลังจากนั้นฉันกับพี่แคนก็ไปกินอาหารญี่ปุ่นกัน เราสองคนสนิทกันเร็วมาก พี่แคนเป็นคนคุยเก่ง
อารมณ์ดี ยิ้มง่าย ที่สำคัญเป็นคนสุภาพ ไม่เห็นเหมือนกับอีตาแกงส้มบ้าเลย ทั้งเย็นชา
หยาบคายและก็แข็งกระด้าง เฮ้ย!!!แล้วฉันจะไปนึกถึงนายนั่นทำไมเนี่ย???
พอตอนเย็นฉันกับพี่แคนก็ก็แยกย้ายกัน ความจริงพี่แคนอาสาจะไปส่งฉันที่บ้าน
แต่ฉันเกรงใจเพราะบ้านฉันกับพี่แคนอยู่กันคนละโยชน์เลย ก็เลยบอกว่าไม่ต้องไปส่ง
วันนี้พี่แคนดีกับฉันมากๆ ฉันดีใจนะที่ได้รู้จักพี่เค้า..เพราะฉันจะได้มีพี่ชายดีๆเพิ่มมาอีก1คน
มาแว้วจร้า เจ้ายิ้มได้เจอกับพี่แคนแล้ว จะมีหวั่นไหวมั้ยหนอ อิอิ
เดี๋ยววันนี้ไรท์ลงให้สองตอนน้า ชดเชยที่หายไปนาน5555
อ่านแล้วอย่าลืมเม้นท์ด้วยนะจ๊ะ ไม่งั้นอาจจะหายไปนานอีก(ไม่ได้ขู่นะ) อิอิ
ความคิดเห็น