ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปฏิหาริย์รักข้ามภพ

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 7 เม.ย. 59


    แชะ แชะ

              เสียงแฟลชกล้องดังขึ้นพร้อมๆกับรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของหญิงสาวเจ้าของกล้อง เธอถ่ายรูปไปมาไม่หยุดเมื่อเห็นภาพวิวสวยจากด้านหน้าเช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวอีกหลายคนที่มีปฏิกิริยาไม่ต่างจากเธอ

              ร่างบางสมส่วนผิวสีขาวนวลจ้องมองทัศนียภาพเบื้องหน้าอย่างหลงใหล  เธอไม่เคยคิดว่าภาพดวงอาทิตย์ขึ้นยามเช้าท่ามกลางภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในฤดูหนาวจะสวยงามอย่างนี้  ความงามของมันทำให้วนิดารู้สึกว่าการที่เธอยอมอดทนทำงานหนักเพื่อเก็บเงินมาเที่ยวที่จีนนี้ช่างคุ้มค่าจริงๆ

              วนิดา แซ่นิ้ม หรือที่บรรดาคนรู้จักมักเรียกว่านิดเป็นหญิงสาวไทยแท้  แต่เหตุที่มีนามสกุลแซ่นิ้มนั้นเนื่องจากบิดาของเธอเป็นคนเผ่าม้งทำให้หญิงสาวมีนามสกุลที่คล้ายกับคนไทยเชื้อสายจีน  ตั้งแต่เกิดมาจนจำความได้วนิดามักโดนล้อเรื่องนามสกุลอยู่เสมอแต่เจ้าตัวก็ไม่ใส่ใจ  เพราะถึงแม้จะเป็นคนชนเผ่าแต่เธอก็เรียนจบจากมหาวิทยาลัยดังที่นิวยอร์กและกลับมาทำงานเป็นพนักงานบริษัทต่างประเทศในไทย  จนกระทั่งเมื่อหลายวันก่อนเจ้าตัวได้ขอลาพักร้อนมาเที่ยวที่จีนเนื่องในโอกาสวันปีใหม่

    หลังจากที่ได้มาเที่ยวเป็นเวลา 5 วันหญิงสาวก็ตัดสินใจมาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่วัดเส้าหลินซึ่งภาพที่เห็นก็ไม่ทำให้วนิดาผิดหวังเลย  มันช่างงดงามเสียเกินบรรยายจริงๆ

    ปึก!

    “อ๊ะ ขอโทษค่ะ”

    วนิดาส่ายหน้าโดยไม่ถือสาในความซุ่มซ่ามของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินชนเธอ ด้ายความที่ตอนนี้ภาพตรงหน้าทำให้เธอไม่อยากอารมณ์เสียให้บรรยากาศกร่อย

    “ไม่เป็นไรจ้ะ”

    นักท่องเที่ยวสาวทำหน้ารู้สึกผิดเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปหญิงสาวจึงหันไปสนใจทัศนียภาพตรงหน้าต่อ  จนกระทั่งผ่านไปสักพักเจ้าตัวเริ่มรู้สึกหิวจึงก้มลงหมายจะเอาขนมปังในกระเป๋าสะพายใบเล็กแต่แล้ว

    เฮ้ย!กระเป๋าของเธอหายไปไหน

    หญิงสาวหันไปรอบๆตัวแต่ก็ไม่พบกระเป๋าสะพายของเธอ

    “กระเป๋าเราหายไปได้ยังไง?”

    วนิดาพึมพำกับตนเองก่อนจะนึกได้ว่าก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวสาวคนหนึ่งเดินมาชนเธอราวกับจงใจแต่ด้วยความที่มัวแต่สนใจทัศนียภาพเธอจึงไม่ได้เอะใจ  ที่สำคัญบริเวณที่เธอยืนอยู่นั้นไม่ค่อยมีคนจึงไม่สามารถเดินชนกันได้แน่นอน 

    เมื่อคิดได้ดังนั้นหญิงสาวจึงหันไปทางที่นักท่องเที่ยวสาวคนนั้นเดินผ่านไปก็พบว่าเธอกำลังเดินลงบันไดไปพร้อมกับกระเป๋าสะพายใบนั้น

    “หยุดนะ ยัยหัวขโมย”

    นักท่องเที่ยวสาวหันมามองเธอด้วยแววตาตกใจก่อนจะรีบวิ่งลงไป  แต่วนิดาก็ไม่ยอมแพ้เธอรีบวิ่งตามอย่างรวดเร็ว แต่แล้วขาข้างหนึ่งของเธอก็สะดุดเข้ากับขั้นบันไดทำให้ร่างบางล้มกลิ้งไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว

    สติสุดท้ายของวนิดาคือความเจ็บปวดบนศีรษะที่ถูกกระแทกอย่างแรง เลือดจากบาดแผลไหลเข้าตาเธอจนแสบไปหมด  ความอึดอัดราวกับหายใจไม่ออกทรมาณเธออยู่สักพักก่อนที่ทุกอย่างจะดับลง

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    วนิดา แซ่นิ้ม



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×