คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : พริกกะเกลือ 4 [ HaeEun]
พริกกะเกลือ 4 Hae x Eun ft. 2Min
“พี่คิบอม ฮยอกจะเข้าโรงเรียนเดียวกับพี่ให้ได้เลยฮะ”ฮยอกแจบอกกับพี่ชายข้างบ้านของตน
“ครับผม พี่จะรอฮยอกนะ เราจะได้เดินไปโรงเรียนด้วยกัน”คิบอมลูบหัวฮยอกแจอย่างเบามือ
“ห้ามหนีไปที่อื่นก่อนแล้วกันล่ะ ไม่งั้นงอนจริงๆด้วย”ฮยอกแจบอกออกมาอย่างน่ารัก คิบอมหยุดคิดหาคำตอบสักพักก่อนจะพูดต่อ
“ครับผมใครจะหนีฮยอกไปล่ะ”
“แม่ฮะบ้านพี่คิบอมไม่มีคนอยู่หรอฮะ เงียบจังฮยอกกับแทมไปเรียกไม่มีใครอยู่เลยอ่ะ” ฮยอกแจถามมารดาของตนออกมาอย่างสงสัย
“อ้าวฮยอกแจ แทมิน คิบอมกับจงฮยอนไม่ได้บอกลูกหรอว่าวันนี้ย้ายไปอเมริกาหน่ะ”แค่คำพูดของแม่ที่เปล่งออกมาโลกทั้งโลกของฮยอกแจและแทมินก็หมุนรอบโดยที่คนยังยืนนิ่งอยู่กับที่ เสียงของมี่ที่พูดอยู่ตอนนี้ก็คงไม่ทำให้ฮยอกแจและแทมินได้ยินแล้ว
“แม่ว่ายังไงนะครับ”เป็นแทมินที่ถามออกมา
“ก็พ่อของบ้านโน้น หน่ะต้องย้ายไปทำงานที่สำนักงานที่ประจำอยู่ที่อเมริกานะซิ”
“ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไหนบอกจะไม่หนีไปไหนไง จะได้อย่โรงเรียนเดียวกันแล้วแท้ๆ จะได้เดินกลับด้วยกันแล้วแท้ๆ แล้วพี่หนีไปทำไม ฮือๆๆ” ฮยอกแจพูดออกมาทั้งน้ำตาทำให้ผู้เป็นแม่ที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นรีบเข้ามาโอบกอดไว้
“พี่ฮะ อย่าร้องไห้นะ ฮือๆๆ อย่าไปสนใจเค้าแล้ว อึก อือๆๆ ผมก็ อึก จะไม่สนแล้ว อึก ฮือๆๆ คนโกหก”แทมินที่พยายามจะพูดปลอบฮยอกแจก็ร้องไห้ออกมาเช่นกัน
“ฮยอกแจ แทมิน เป็นอะไรไปลูก ร้องไห้ทำไม โอ้ๆๆๆ อย่าร้องนะ”ผู้เป็นแม่โอบกอดลูกทั้งสองด้วยความรัก ความห่วง ทั้งที่ไม่ทราบสาเหตุที่ทำลูกทั้งสองคนร้องไห้ออกมา
กลับมาที่ปัจจุบัน
“นี่ฮยอก ฮยอก ฮยอกกกกกกกกก”รยออุคที่เรียกฮยอกแจหลายครั้งแล้วฮยอกแจไม่ตอบจึงตะโกนใส่หูของฮยอกแจ
“โอ๊ยยยย อุคกี้เสียงดังทำไม”
“ก็เรียกหลายครั้งแล้วไม่ยอมตอบอ่ะ คิดไรอยู่”รยออุคถามออกมา
“ป่าวหรอก ไม่ได้คิดไร”ฮยอกแจตอบออกมาอย่างไม่ใส่ใจนัก กอ่นที่ตนจะหมอบลงนอนกับโต๊ะเรียน
“ฮยอกแจ เครียดเรื่องพี่คิบอมใช่มั้ย”ซองมินที่ทนฟังและทนที่จะเห็นสภาพเพื่อนรักเป็นอย่างนี้ไม่ไหวจึงถามขึ้น
“ป่าวหรอกมินนี่ ฉันไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้นแล้วล่ะ” ฮยอกแจโกหกออหไปถึงแม้ว่ามันจะนานแค่ไหนเค้าก็ไม่มีวันลืมได้
“เฮ้อ........ ให้จริงนะ เอ่อ แล้วเรื่องดงเฮฮยอกจะเอายังไง”ซองมินถามออกมา
“อืม เอาจริงๆนะ ยังไม่รู้เลยอ่ะ เอ่อ แล้วเห็นไอ้แสบมาหรือยัง”
“อืมเห็นแล้วล่ะ เห็นมินโฮไปตามประกบแทมมี่อยู่ ส่วนดงเฮเห็นมินโฮบอกว่าอยู่บนดาดฟ้าหน่ะ”ซองมินพูดจบฮยอกแจก็วิ่งออกจากห้องเพื่อไปดาดฟ้าทันที่
“หือๆ ๆ อี ดงเฮ” เสียงหอบที่มาพร้อมการเรียกชื่อดงเฮ
“อ้าวยายเกลือ เป็นไรหอบมาเชียว”ดงเฮถามฮยอกแจหลังจากที่สังเกตเห็นร่างของฮยอกแจ
“นาย นาย ......”
“นายอะไร ก็ถามมาสิ นายอยู่ได้ฉันจะรู้มั้ย”ดงเฮถามฮยอกแจที่ยังคงอ้ำอึ้งไม่ยอมถามอยู่อย่างนั้น
“นาย...คิด นายคิด เอ่อ....”
“นี่ยายเกลือจะถามอะไรก็ถามมา อย่าอ้ำอึ้งสิ ปรกติไม่เห็นเป็นอย่างนี้ บ่นอย่างกับยายป้าแก่ๆ”ดงเฮบ่นออกมาอย่างขำๆ
”นาย...คิดยังไงกับฉัน” ดงเฮตาโตทันที่เมื่อได้ยินคำถาม
“หมายความว่าไง คิดยังไงกับเธอ”ดงเฮถามซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“ก็หมายความว่า นายอ่ะ รู้สึกยังไงกับฉัน”ฮยอกแจก้มหน้าเพื่อหลบซ้อนความเขิน แต่ก็ไม่ได้ลอดเล็ดสายตาของดงเฮไปได้
“เอาแบบซีเรียสหรือแบบขำๆล่ะ”ดงเฮถามขึ้นมาทำให้ฮยอกแจที่ก้มหน้าอยู่ต้องเงยขึ้นมามองด้วยสายตาที่หาเรื่อง
“นี่ไอ้แสบ จังจริงจังนะ อย่าเล่นได้มั้ย”
“ให้เลือกทีล่ะอย่าง จะบอกทีละครั้งเอาแบบไหนก่อนดีล่ะ”
“เอาแบบขำๆก่อนก็ได้”อยอกแจตอบออกมาปนมาด้วยอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อย
“ฉันชอบเธอ”ดงเฮตอบออกมาพร้อมมองเข้าไปไหนดวงตาของฮยอกแจ ก่อนที่จะหลุดหัวเราะออกมา
“ไอ้แสบ นายหัวเราะอะไร”ฮยอกแจโวยวายขึ้นมา
“ก็หน้าเธอมัน น่ารักจริงๆเลยนะสิ”ดงเฮพูดพร้อมกับหยิกไปที่แก้มของฮยอกแจเบาๆ
“โอ๊ยยย เจ็บนะไอ้แสบ แล้วอีกคำตอบล่ะ”
“ฉัน...........ทำไมต้องทำหน้าจริงจังด้วยล่ะ” แทนที่ดงเฮจะพูดออกมากลับถามฮยอกแจอย่างหน้าตาเฉย
“ฉันไม่อยากรู้แล้ว ไม่ต้องพูดเชียว”พูดจบฮยอกแจก็หันหลังจะเดินกลับไปทันที
“ฉันชอบเธอ ชอบจริงๆ ไม่สิจะพูดว่าชอบไม่ได้หรอกเพราะตั้งแต่วันแรกที่ฉันเห็นเธอฉันคิดว่าฉันรักเธอ ได้ยินมั้ยฮยอกแจฉันรักเธอ ตอนที่เห็นไอ้นั่นตอนที่เห็นไอ้นั่นมันกอดเธอ หัวใจของฉันมันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ มันเจ็บที่หัวใจมากๆเลยล่ะ ฉันไม่ต้องการให้ใครมาแตะตัวเธอไม่ต้องการให้ใครมาใกล้เธอนอกจากฉันคนเดียวเท่านั้น ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอจะใช้ฉันเป็นไม้กันมาออกไป เลยทำให้เธอบอกว่าเป็นแฟนกับฉันแต่มันทำให้ฉันใจเต้นแรงมาก นี่ล่ะคือคำตอบที่จริงจังสำหรับฉัน” ดงเฮได้ระบายความในใจออกมาอย่างหมดเปลือก ฮยอกแจที่กำลังจะเดินออกไป กลับหันหลังมาวิ่งเข้าไปกอดดงเฮทันที่
“ฮยอกแจ ร้องไห้หรอ”ดงเฮถามขึ้นเมื่อรู้สึกว่ามีความชื้นที่หน้าอกของตน
“ฮือๆๆ นายพูดจริงๆใช่มั้ย”
“ใช่ฉันพูดจริงๆ”
“ดงเฮถึงตอนนี้เค้าคนนั้นจะกลับมา แต่ตอนนี้ฉันได้ลืมเค้าไปแล้วแต่ฉันไม่สามารถบอกได้ว่าได้ลืมเค้าไปหมดใจ ที่ฉันบอกออกไปตอนนั้นว่านายเป็นแฟนฉันฉันไม่ได้พูดไปเล่นๆ ตอนนั้นฉันได้คิดกลั้นกรองออกมาแล้วจากใจฉัน เพราะตั้งแต่มีนายเข้ามาในชีวิต ฉันมีความสุขจริงๆ ถึงตอนนั้นฉันจะรักพี่เค้ามาก แต่ตอนนี้ฉันบอกได้เลย ว่าคนที่ฉันจะเลือกคือนาย”เมื่อได้ยินที่ฮยอกแจพูดดงเฮยิ่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
“ฉันนึกว่าเธอเกลียดฉันซะอีก”ดงเฮพูดออกมาโดยที่ยังไม่ปล่อยฮยอกแจออกจากอ้อมกอด
“เอาจริงๆนะ ฉันไม่ได้เกลียดนายแต่เพียงฉันเขิน ทุกทีที่นายมาพูดกับฉัน ฉันก็เลยพูดอย่างนั้นออกไปทุกครั้ง”ฮยอกแจพูดออกมาพร้อมกับซุกลงไปที่อกแกร่ง
“ฮยอกแจ...”
“ว่าอะไร แปลกจังไม่เคยได้ยินนายเรียกชื่อฉันเลย”ฮยอกแจพูดออกมาอย่างขำๆ
“ก็ฉันจะจริงจังหนิ ยายเกลือเอ้ยย”ดงเฮพูดพร้อมกับจับใบหน้าของฮยอกแจขึ้นมาจ้องตาของตน
“อืม ฉันรอฟังอยู่นะ”
“คบกับฉันนะ”
“อืม....”ฮยอกแจตอบแล้วซุกหน้าลงที่อกแกร่งทันที่ เพื่อซ้อนความเขินอาย
“ไหนขอดูหน้าแฟนของฉันหน่อยสิ”ดงเฮจับใบหน้าของฮยอกแจขึ้นมา จ้องตา
“ไม่นะ ฉันอา......อุ๊บ” ไม่รอให้อยอกแจพูดจบดงเฮก็ประกบปากลงไปที่ริมฝีปากบางทันที่ ไม่มีการลุกล้ำใดๆเป็นจูบที่อ่อนหวานสำหรับฮยอกแจ
“ดงเฮ...”
“ฉันรักเธอนะ แต่ขอถามอะไรได้มั้ย???”
“อืม ได้สิแต่ตอนนี้ขอนั่งก่อนได้มั้ย” ว่าจบดงเฮก็จูงมือฮยอกแจไปนั่งตรงที่นั่งที่มีอยู่บนดาดฟ้า
“ถามมาได้เลย พร้อมล่ะ”ฮยอกแจพูดออกมาพร้อมกอดอกอย่างมั่นใน
“ไอ้คนที่กอดเธอเมื่อวาน มันเป็นใคร”ดงเฮพูดออกมาอย่างอารมณ์เสีย
“พี่คิบอมหน่ะ เค้าเป็นรักแรกของฉัน”คำพูดของฮยอกแจทำให้ดงเฮตาโตทันที
“ว่าไงนะ รักแรกหรอ แล้วยังรักอยู่มั้ย ถ้ามันมาขอคืนดีแล้วจะกลับไปหามันมั้ย แล้วเธอลืมมันแล้วใช่มั้ย ตอนนี้เธอเป็นแฟนฉันห้ามคิดถึงมันเข้าใจมั้ย” ดงเฮพูดออกมาเป็นชุดทำให้ฮยอกแจหัวเราะออกมา
“คิคิคิๆๆ”
“หัวเราะอะไรอ่ะ ฉันพูดผิดหรอ”
“ป่าวหรอก แค่ไม่นึกว่านายจะขี้หึง ขี้สงสัยขนาดนี้”ฮยอกแจพูดพร้อมจับมือดงเฮขึ้นมาแนบที่แก้มของตน
“ฟังนะ ฉันหน่ะเคยรักเค้ามาก มากจริงๆ แต่มาวันนึงเค้าก็ไปอเมริกาโดยที่ไม่บอกลาฉันซักคำ จดหมายหรืออีเมลล์ก็ไม่มีเลยตลอดเวลาสองปีไม่ใช่แค่ฉันหรอกนะแทมมี่ก็เหมือนกัน เราสองคนพี่น้องร้องไห้กันอยู่เป็นอาทิตย์ได้ แต่หลังจากนั้นฉันก็คิดว่า ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้วที่จะต้องร้องไห้ให้กับเค้า แต่ตอนนี้ถ้าถามว่ายังรู้สึกอะไรกับเค้ามั้ย บอกได้เลยนะ ว่ามีบ้างแต่ไม่ใช่ความรู้สึกอย่างเก่าแล้วล่ะ นายไม่ต้องกังวลหรอกนะ” ฮยอกแจร่ายยาวจนทำให้ดงเฮที่ตอนแรกกะว่าจะหึงโหดซักหน่อยเข้าใจขึ้นมา
“ฮยอกแจ ฉันเชื่อใจเธอเสมอถ้าเธอบอกไม่มีอะไร ฉันก็เชื่อว่าไม่มี”
“อืม ฉันก็เหมือนกันนะฉันก็จะเชื่อใจนาย ก็ตัดสินใจไปแล้วหนิ ว่าจะเป็นแฟนกับนายถ้าไม่เชื่อใจนายแล้วจะให้ฉันเชื่อใจใคร”
“เอ่อ ถามอีกอย่างได้มั้ย”ดงเฮถามฮยอกแจขึ้นมา
“อะไรหรอ” ฮยอกแจขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย
“ทำไมเธอถึงชอบฉัน”
“ก็เพราะ นายทำให้ฉันยิ้มนายทำให้ฉันมีความสุข ฉันไม่ได้ทะเลาะกับใครมานานแล้วนะแล้วก็ไม่มีใครที่จะเถียงฉันซักคน มีแต่นายนี่แหละที่กล้า แต่แล้วความรู้สึกอย่างนั้นมันเข้ามาตอนไหนฉันก็ไม่รู้หรอกนะรู้แต่ว่าตอนนี้มีแค่นายก็พอแล้ว”
“ยายเกลือ ที่รักของฉัน”ดงเฮสวมกอดฮยอกแจทันที ที่ฮยอกแจพูดจบ
“เอ่อ หยุดเรียกว่ายายเกลือด้วย รู้มั้ย”ฮยอกแจชี้นิ้วสั่งดงเฮพร้อมกับเสียงเข้มๆ
“ทำไมล่ะ น่ารักดีออก ไม่เหมือนใครด้วย”พูดจบก็เอนหัวลงไปหนุนตักของฮยอกแจ
“ไอ้แสบ...”
“เห็นเธอยังเรียกฉันว่าไอ้แสบเลย เฮ้อไม่เถียงล่ะขอนอนนะ เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับเลยพอหลับตาเธอก็ตามเข้ามาอีก พอเอาเข้าจริงละเม้อกอดเจ้ามินโฮนึกว่าเป็นเธออีก ตอนนี้ขอกอดของจริงแล้วกัน” พูดจบดงเฮก็หันหน้านอนซุกกับท้องของฮยอกแจ ซึ่งตอนนนี้น่าแดงเป็นมะเขื่อไปแล้ว ก็เล่นมานอนซุกหน้าท้องอย่างนี้ไม่ให้เขินได้ไง
บุคคลที่นั่งอยู่อีกฝั่งของดาดฟ้า ได้ฟังทั้งสองคนคุยกันมาตั้งแต่ต้นจนจบกำลังใช้นิ้วแกร่งกดลงไปที่โทรศัพท์เครื่องหรูของตนเองอย่างคล่องแคล่วในเบอร์ที่คุ้นเคย
ตึดดดดดดดดด ตึดดดดดดดดดด ตึดดดดดดดดดดด เสียงสัญญานโทรศัพท์ดังบอกเป็นสัญญานว่าได้โทรติดแล้วก่อนที่จะมีคนรับสาย
“พี่ฮะ ผมว่าเรายอมแพ้เถอะ”
""""""""""""""""""""""""""""""THE END OF PART"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
ตอนนี้สั้นไปมั้ยค่ะ
ไรท์เตอร์ว่ามันสั้นไปแล้วยังเวิ้นอีกด้วย
ยังมีคนติดตามอยู่ใช้มั้ยค่ะ
คนอ่านเยอะแต่คอมเม้นน้อยยยย
คอมเม้นน้อยยย เนื้อเรื่องก็จะสั้นลงอีกหน่อยก็แล้วกันนะค่ะ
ไม่มีคอมเม้นคิดไม่ออก
ช่วงนี้ไรท์เตอร์ฝึกงานที่ครัวการบินไทย ต้องยืนทั้งวัน8ชั่วโมงไม่ได้นั่งเลยแถมยังอยู่ในห้องเย็น13องศาอีก
แต่ถึงไรท์เตอร์จะเหนื่อยแค่ไหนก็ยังมาอัพฟิคให้อ่านกันนะค่ะ
แค่เพียงคุณอ่านเสร็จแล้วเสียเวลาพิมพ์ไม่ถึงนาทีคงไม่เป็นไรหรอกใช่มั้ยค่ะ
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะค่ะ
ความคิดเห็น