ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บารามอส(บาราเฮ เอดินตี้ เฟรี่ เฟริน)

    ลำดับตอนที่ #5 : ความซวยที่มาเยือน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 96
      0
      28 มี.ค. 57

    บาราเฮ5

           สิ่งแรกที่อยากทำเมื่อรู้ตัวเป้าหมายคือเอาหัวชนกำแพง และแน่นอนว่าไม่ใช่หัวเขา ต้องเป็นหัวของพ่อมาดัสเท่านั้น! ส่งมาขโมยคนอื่นไม่ส่งนี่อาจารย์เลยนะแถมดุมากถึงมากที่สุดใครมันจะเอาไปวะ ความคิดมากมายตีกันสับสนและเริ่มจินตนาการถึงอนาคตข้างหน้าว่าจะเป็นยังไง ถึงจะเสี่ยงแต่งานทุกงานมีความเสี่ยงหมดถ้าโป๊ะยาก็น่าพอจะเอาตัวไปได้เหลือก็แต่เวลาและสถานที่ที่จะลงมืออันนี้ก็เป้าหมายของการเข้ามาดู คงต้องดูก่อนว่าอาจารย์จะเปิดช่องว่างตอนไหนให้ลงมือ ว่าแต่...นี่เขาเป็นขโมยหรือโจรลักพาตัวกันแน่เนี่ย? 

     

     

               นัยน์ตาสีเขียวเป็นประกายเจ้าเล่ห์ของโรมองเฟริน ตั้งแต่อาจารย์เริ่มสอนเขาก็หันไปสนใจอาจารย์แต่อยู่ๆคนข้างๆเขาก็เงียบผิดปกติแถมเลือดในตัวเขาก็เริ่มร้อนขึ้นเหมือนตอบรับกับความคิดหรือแผนการอะไรของปีศาจที่มันเหมือนเป็นคำสาปในสายเลือดของชาวทริสทรอที่ทำให้เขาต้องทำตามคำสั่ง แต่มันเป็นแผนการอะไรของใคร ปีศาจในเอดินเบิร์กก็มีเจ้าหญิงเฟลิโอน่า ปีสองปราสาทขุนนางแต่จะมีแค่นั้นไม่มีใครอื่นอีกเหรอ? แล้วมันจะบังเอิญไหมที่คนข้างๆเขาก็กำลังคิดอะไรอยู่?  เหมือนรู้ตัวคนที่เขามองอยู่จึงหันหน้ามาหาเขา

     

     

    “โร แกว่ากลางวันนี้กินอะไรดี” คำพูดกระซิบกระซาบของเฟรินทำเอาเขาถึงขั้นเหวอ ที่นั่งนิ่งคิดอะไรเงียบๆนี่มันคิดเรื่องนี้แต่เขาก็ไม่ปรักใจเชื่อซะทีเดียว ซึ่งที่จริงเฟรินก็คิดเรื่องนี้จริง แต่หลังจากคิดดูแผนการขโมยชามัลน่ะนะ

     

     

    “ก็เอาที่นายชอบน่ะล่ะ แต่นายไม่ควรคุยในชั่วโมงของอาจารย์ชามัลนะ”

     

     

     

    “งั้นฉันจะถามนายทำเพื่ออะไรเนี่ย”

     

     

    “ตรงนั้นคุยอะไร” เสียงตวาดทำให้เฟรินและโรต้องหันกลับไปหน้าห้อง “พวกเธอสองคนทำรายงานเรื่องสงครามเอเดน-เดมอสเมื่อห้าร้อยปีก่อนมาส่งฉัน100หน้ากำหนดส่งพร้อมงานแรก” และแล้วพวกเขาก็ได้รายงานไปทำเพิ่มรวมทั้งหมดสองเรื่องสองร้อยหน้าในชั่วโมงแรกของการเรียนวันแรก เฟรินหันไปสบตาโรและแววตาของโรก็เหมือนจะบอกว่า ฉันเตือนนายแล้วว่าอย่าคุย

     

     

    “แล้วก็งานของฉันทุกงานถ้าส่งไม่คบฉันจะเอาธงของหอนั้นออกตามจำนวนหน้ากระดาษที่ทำไม่ครบ ถ้าไม่อยากถูกลดธงลงก็อย่าลืมทำงานให้ครบ”

     

     

                 การบ้านที่เจอคาบแรกของอาจารย์เจ้าชายชามัลทำเอาเฟรินถึงกับน้ำตาตกในและหันไปปลุกคิลที่นอนหลับอยู่ข้างเขา ทำไมทีคนหลับในห้องไม่โดนวะ!นั่งข้างกันขนาดนี้อาจารย์ต้องเห็นว่ามันหลับอยู่แล้วสิ

     

     

    “ไอ้คิลๆ” เฟรินทำหน้าเซ็งๆและเขย่าตัวเพื่อนเบาๆ

     

     

    “ทำไมนายถึงกล้านอนหลับในคาบของอาจารย์เจ้าชายได้นะ”

     

     

    “หือ..นี่นายไม่รู้เหรอว่าแกไม่ว่า แค่อยู่เงียบๆไม่ขัดจังหวะรบกวนการสอนจะหลับจะนอนก็ตามสบาย”

     

     

    “ก็พึ่งรู้นี่ล่ะ นายน่าจะบอกฉันแต่แรก”

     

     

    “ทำไม อย่าบอกนะว่านายหาเรื่องให้ได้รายงานอีกเรื่อง” คิลพูดขึ้นพร้อมทำหน้าสยดสยอง

     

     

    “ดีใจด้วยที่นายไม่โดน”

     

     

    “นั้นหมายความว่า?”

     

     

    “คนที่โดนมีแค่ฉันกับไอ้โรสองคนน่ะสิ แกคิดดูนะว่าฉันโดนรวมแล้วตั้งสองร้อยหน้านี่ขนาดแค่ชั่วโมงเดียวในคาบแรกถ้าคาบต่อไปมีการบ้านอีกฉันไม่มือหงิก หืดขึ้นคอ นอนซมป่วยเพราะพิษไข้แล้วพ่วงด้วยปัญหาทางสุขภาพจิตเรื่องโรคซึมเศร้าเหรอวะ”

     

     

    “ยังไงนายก็มีโรโดนเป็นเพื่อน เที่ยวหน้านายก็ตั้งใจเรียนหรือไม่นายก็หลับเงียบๆแล้วกันนะ”

     

     

    “ฉันหลับแน่ เสียงของชามัลเต็มไปด้วยมนต์ขลังแห่งท่วงทำนองที่ขับกล่อมชวนให้เคลิ้มซะขนาดนั้น”

     

     

         สรุปวันนี้ตั่งแต่เรียนคาบแรกจนถึงตอนนี้เหมือนเขาจะเจอแต่เรื่องร้ายๆ  ในชั้วโมงคุณสมบัติราชาก็ทำเขาปวดเมื่อยทั้งตัวไปหมด ต้องมาหัดนั่งหลังตรง เดินตัวตรงหน้าเชิด นี่เขาเป็นหัวขโมยนะ และก็ดูเหมือนเขาจะมีเพื่อนที่มีปัญหากับวิชานี้เยอะเหมือนกัน อย่างน้อยเขาก็ยังมีครี๊ด ธันเดอร์ ที่มานั้นบ่นกระปอดกระแปดร่วมด้วยช่วยกันบ่นยับไอ้เจ้าตัววิชานี้ คนอื่นใครทำก็ได้ไม่มีปัญหาในสายตาเขานะแต่เห็นคาโลมันทำแล้วชวนให้หมั่นไส้จริงๆ

     

          มาวิชาการเดินหมากเบื้องต้น อันนี้เขาโดดแบบไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย ก็คิดดูสิว่าเขาใช้ชีวิตกับมันมานานมากแค่ไหนที่มีเวลาไหนว่างทีไรก็โดนพ่อมาดัสจับมาเล่นเจ้ากระดานสี่เหลี่ยมนั้นตลอดเพราะพ่อว่างไม่มีอะไรทำแถมมันยังเป็นของเล่นชิ้นเดียวที่เขาเล่นตั้งแต่เริ่มจำความได้จนเมื่อไม่กี่วันก่อนเข้าโรงเรียนที่พึ่งจะเล่นกับพ่อ ฝันไปเถอะว่าเขาจะทนฟังต่อ!

     

          วิชาเวทมนต์ของอาจารย์แม่มดวิ้งกี้ก็ทำเขาเสียววาบๆตลอดเวลาที่แกมองผ่านมาเจอเขาที่หลังห้องทีไร ก็คทาเขามันใช้ได้ที่ไหนล่ะนี่มันของปลอมนะไม่มีไม้ศักดิ์สิทธิ์เป็นด้าม พู่ที่มาจากขนหางยูนิคอนหรือสัตว์วิเศษ ลูกแก้วหัวคทาที่ลงมนต์ การประกอบและลงมนต์จากท่านปราชญ์ แม่มด คนแคระดำ หรือเอลฟ์ดำ แต่มันทำมาจากไม้ข้างทางที่ผ่านการเหลาจากท่านมาดัสพ่อเขา มุกเม็ดโตที่เอาไข่มุกที่ขโมยมาไปขายและซื้อของปลอมมา พู่คทาที่ทำมาจากขนหางของเจ้าม้าแก่โรซี่ของพ่อเขา

     

            ถึงตอนนี้พักกลางวันกลุ่มเขาที่จะเดินตรงไปโรงอาหารก็เดินไปดีๆไม่มีอะไรแต่พอเดินไปจะผ่านทางแยกที่เป็นส่วนทางแยกสำหรับไปเรียนวิชาของรุ่นพี่ปีสูงเข้าก็เฉียดโดนมีดบินของรุ่นพี่ลอรี่(เชื่อฝังหัวไปแต่แรกที่ได้ยินแล้วว่าชื่อลอรี่) ที่จะปาใส่พี่ลูคัส มันเป็นอาถรรพ์ของทางสามแพร่งหรือเป็นเพราะเขาดวงชงกัน?

     

    “อ้าว..เฟรี่ โทษที เป็นอะไรหรือป่าว”

     

     

    “ไม่เป็นไรฮะ”

     

     

    “เลือดหนิ เฟรี่เดี๋ยวมันจะเป็นแผลเป็นไหมเนี่ย ที่หน้าใต้ตาซ้ายอย่างนี้หมดหล่อกันพอดี”

     

     

    “โทษที” รุ่นพี่ลอรี่ขอโทษเขา ทั้งที่ทำหน้าหงุดหงิดใส่เนี่ยนะ?แต่ตาสีอเมทิสของพี่เขามันมีแววขอโทษเจืออยู่จริง

     

     

    “ไม่เป็นไรฮะ แผลแค่นี้เอง เออเมื่อกี้ผมเจอรุ่นพี่โรเวนพี่เขาให้มาตามอืม..พี่เขาให้พี่ลูคัสกับเพื่อนหน้าบูดไปหาหลังกินข้าวเสร็จ”

     

     

    “ขอบใจนะเฟรี่”พี่ลูคัสบอกกับเขาแล้วหันไปมองเพื่อนหน้าบูดที่พี่โรเวนพูดถึง พี่ลอรี่ดูหงุดหงิดและทำเสียงจิจ้ะในลำคอเหมือนขัดใจกับอะไรบางอย่างก่อนจะหันมาขอบใจเขาบ้าง

     

     

    “ฮะรุ่นพี่ลอรี่”

     

     

        แล้วทีนี้ก็เป็นเขาเองที่ต้องวิ่งหนีมีดบินของรุ่นพี่ลอรี่ที่ปามาหา เขาทำผิดอะไรเล่า!(มิรู้เลยจริงๆ)แล้วก็ตามมาด้วยเสียงของพี่ลูคัส

     

     

    “หยุดก่อนลอรี่ หยุด”

     

     

    “แกก็ต้องโดนด้วย ไอ้ลูคัส”

     

     

        แล้วมีดบินก็บินว่อน....อย่างน่ากลัว แล้วพวกเพื่อนของเฟรินก็หลบออกมาจากจุดอันตรายและเดินต่อไปที่โรงอาหาร

     

    ...........................................................................

     

       โรงอาหารดราก้อนวุ่นวายไปด้วยคนของป้อมอัศวิน  ตาคู่คมสีม่วงเป็นประกายสนุกของคิลกวาดสายตาหาเฟริน อยู่กับเจ้านี่มีเรื่องสนุกๆให้ดูเยอะดีไม่น่าเบื่อแถมเมื่อกี้ทำเรื่องให้โดนมีดบินของรุ่นพี่ได้อีก คิดไงไปเรียกอย่างงั้นนะ  พอสายตาหาเฟรินเจอเขาก็มองไปข้างหลังตัวเอง วันนี้รุ่นพี่ลูคัสกับลอเรนอยากมานั่งกินข้าวด้วย เฟรินมันจะทำหน้ายังไงนะ ทั้งกลุ่มเดินตามคิลไปหาเฟรินและคิลก็เข้าไปนั่งข้างๆ

     

    “กินข้าวไม่รอเลยนะ”

     

    “ก็คนมันหิวหนิหว่า แล้วเมื่อกี้ตกใจแทบแย่พี่ลอรี่แกคิดยังไงถึงจะมาไล่ฆ่าฉันนะ” เฟรินพูดออกมาหน้าตาเฉยโดยไม่รู้ตัวเลยว่ารุ่นพี่ที่พูดถึงยืนทำหน้าเหมือนอยากจะฆ่าคนอยู่ข้างหลัง ถ้าลูคัสไม่จับมือไม่ให้หยิบมีดป่านนี้ได้เจ็บตัวไปแล้ว และคิล โร คาโลก็เริ่มเป็นห่วงชีวิตของเฟรินแล้วสิ

     

    “นายไปเรียกพี่ลอเรนซ์อย่างนั้นได้ไง”

     

    “ลอเรนซ์?ใครน่ะ”

     

    “นี่แกไม่รู้จริงๆเหรอ”

     

    “ถ้ารู้ฉันจะถามไปเพื่ออะไร”

     

    “ถ้างั้นก็รู้ไว้ซะว่าชื่อฉันคือ ลอเรนซ์ ดอร์น” น้ำเสียงเย็นๆส่ออารมณ์หงุดหงิดที่ดังขึ้นข้างหลังเฟรินทำเอาเฟรินถึงกับเสียวสันหลังวาบขนต้นคอลุกชัน แววตาที่มองคิลสื่อความหมายออกมาให้คิลอ่านประมาณว่า ใช่ๆไหมคิลก็พยักหน้ากลับให้อ่านออกว่า ใช่เลยยยย

        

          เฟรินเหลียวไปมองข้างหลังและเจอกับเพื่อนอีกสองคนของเขาและรุ่นพี่ที่พึ่งเจอจนเกือบโดนฆ่า

     

    “สวัสดีฮะรุ่นพี่...................”

     

    “เฟรี่พี่สองคนขอนั่งด้วยนะ”ลูคัสพูดกับเฟรินด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ้มใส

     

    “เชิญฮะ”

     

          และแล้วการกินข้าวมื้อนี้ก็ให้ความรู้สึกอึดอัดที่สุดเท่าที่เฟรินเคยเจอ ไม่ได้ชื่อลอรี่ก็บอกกันดีๆก็ได้เล่นมีดแล้วถ้าเขาตายจะว่าไง เล่นอะไรน่าหวาดเสียวแบบนี้มันหน้าจับมาตีจริงๆ เสียแต่ตรงที่ถ้าทำจริงเขาคงจะไม่มีชีวิตกลับไปพบหน้าพ่อแล้วเอาหัวโขกกำแพง เฮ้อ.....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×