ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บารามอส(บาราเฮ เอดินตี้ เฟรี่ เฟริน)

    ลำดับตอนที่ #15 : ผู้บุกรุก?

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 59


    ในขณะที่เฟรินนอนหลับนิ่งด้วยเวทมนต์ของเฟลิโอน่าที่ทำให้เขาไม่ต้องฝันร้ายได้สักพัก คิล โร คาโล ลูคัสและไธนอสก็แยกกันไปหาของที่เธอคนนั้นบอกว่าต้องใส่ในการถอนคำสาป  ในห้องจึงเหลือเพียงเฟริน เฟลิโอน่า โรเวนและอาเธร์

     

    ตาโตๆนั่งมองชายหนุ่มทั้งสองคนเปิดศึกกันด้วยเกมหมากรุกและคำพูดทะเลาะกันไปมา ถ้าเป็นเมื่อก่อนมันก็น่ากลัวอยู่แต่ทุกวันนี้มันก็ชักจะชินและมันก็กลายเป็นเรื่องปกติในโรงเรียนพระราชา

     

    คนที่ออกไปหาของก็เริ่มทยอยกลับเข้ามาจนครบ โต๊ะกลางห้องเต็มไปด้วยอุปกรณ์ปรุงยา ดวงตาของเธอกวาดมองอุปกรณ์ทุกอย่างบนโต๊ะและเริ่มปรุงยาถอนคำสาป

     

    หลังจากคืนนี้ทั้งเฟลิโอน่าและเฟรินจะต้องถูกจับตามองเป็นพิเศษเพราะความน่าสงสัยในเรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้น แม้ไม่ได้ทำแต่รางสังหรณ์บางอย่างบอกว่าถ้าตามดูพวกเขาไว้ต้องเจอกับอะไรดีๆแน่

    ........................................................

     

    เฟรินลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับอาการปวดหัวแล่นจื๊ดขึ้นสมอง รู้สึกเพลีย ปวดเมื่อยตามตัวไปหมดร้อนๆเหมือนคนเป็นไข้ เขายันตัวเองขึ้นนั่งและเริ่มหาวปากกว้าง ทำไมมันง่วงอย่างงี้นะ

     

    “ตื่นแล้วเหรอ” น้ำเสียงคุ้นหูนั้นทำให้ความรู้สึกอยากจะกวนใครสักคนโผ่พรวดขึ้นมา เขาหันไปยิ้มกวนๆให้คนที่ทัก

     

    “คนที่ยังไม่ตื่นเขาคงไม่ลุกขึ้นมานั่งหาวหรอกมั้ง~

     

                เฟรินมองคนที่ก้มหน้าอ่านหนังสือแล้วก็ยิ้มบางๆ ทำไมคนที่เก่งถึงขนาดนี้ยังต้องขยันมากขนาดนั้นนะ

     

    “นายนี้คิดจะเป็นห้องสมุดเคลื่อนที่เหมือนเจ้าโรหรือไงถึงได้ขยันอ่านขนาดนั้น”

     

              แต่คราวนี้คนที่อยากคุยด้วยทำเมินใส่กันซะงั้น เฟรินหลุดขำเบาๆกับความคิดที่ว่าคนๆนี้อาจไม่ได้ทำไม่สนใจแต่อาจจะงอนเป็นเหมือนกัน เขาสูดอากาศเข้าปอดลึกๆมองออกไปนอกหน้าต่างที่ฟ้ายังคงเป็นสีดำ พอมองนาฬิกาที่หัวนอนของโรก็รู้ว่านี้พึ่งตี 4 เขาหันไปมองคาโลอีกครั้ง เจ้านี้มันตื่นมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย งานหัวหน้าชั้นปีก็เยอะมันไม่เหนื่อยบ้างหรือไง

     

                ก๊อก  ก๊อก  ก๊อก

     

                เสียงเคาะประตูห้องทำให้เฟรินมองที่ประตูอย่างสงสัย เขามองคาโลที่มีท่าทีปกติเหมือนว่ารู้อยู่แล้วว่าจะมีคนมา เมื่อคาโลเปิดประตูเฟรินก็แทบช็อคกับคนที่ไม่น่าจะมาเยี่ยมพวกเขาโดยเฉพาะเวลาอย่างนี้  โรเวนก้าวเข้ามาในห้องด้วยท่าทีสบายๆเป็นกันเองกับรอยยิ้มเป็นมิตรแต่ถึงอย่างนั้นทุกท่าทางของเขายังดูสง่า รุ่นพี่ทักทายคาโลแล้วหันมาหาเขา

     

    “อรุณสวัสดิ์เฟริน”

     

    “อรุณสวัสอิ์ฮะ”

     

    “เป็นยังไงบ้างได้ข่าวว่านายบาดเจ็บ”

     

                เรื่องแค่นี้เหรอ!!! เดี๋ยวๆได้ข่าวว่าเขานอนอืดอยู่เป็นอาทิตย์นะ เชื่อขนมกินได้โรเวนไม่มาถามเพระเรื่องแค่นี้หรอก เจ้าตัวคนถูกถามยิ้มให้

     

    “ดีขึ้นมากแล้วล่ะครับ ขอบคุณที่เป็นห่วง รุ่นพี่มาหาคาโลเหรอฮะ”

     

    “เปล่าหรอก ฉันมาหาเธอต่างหาก”

     

    “ผมเหรอ” คิ้วเรียวเลิกขึ้นด้วยความสงสัย “รุ่นพี่มีธุระอะไรกับผมเหรอครับ”

     

                รอยยิ้มของโรเวนที่ยิ้มตอนนี้เริ่มทำให้เขารู้สึกขนลุกแม้ว่าภายนอกจะรักษารอยยิ้มเป็นมิตร “ถ้าไม่มีอะไรฉันจะมาเยี่ยมบ้างไม่ได้เลยเหรอ”

     

    “ง่า...ได้สิครับ ผมแค่เห็นว่าตำแหน่งพี่น่าจะยุ่งมากเลยเกรงใจ”

     

    “จริง ช่วงนี้ฉันค่อนข้างงานเยอะซะด้วยสิ ถ้าจะขอหัวหน้าชั้นปีหนึ่งมาช่วยสักคนจะได้ไหมนะ”โรเวนพูดขึ้นยิ้มๆ มือข้างหนึ่งยกขึ้นแตะคางเหมือนใช่ความคิด ตาคู่คมมองมาที่เฟรินอย่างพราวระยิบ

     

    “อ่อ....แหะๆ อ้อครับ จะให้คาโลไปช่วยสินะครับ”

     

    “ทีแรกก็ว่างั้นล่ะนะ แต่ว่า...”

     

    “........”

     

    “คาโลกับโรน่ะ ขยันทำหน้าที่หัวหน้าชั้นปีมากเลยนะ เธอว่าไหม”

     

    “ใช่เลยครับผม มันขยันทำงานและงานก็ออกมาดีมากด้วยล่ะครับ” ทีนี้คนมีชนักติดหลังอย่างการโดดงานก็รู้สึกว่าวันนี้นี่รางสังหรณ์มันทำงานแรงกว่าปกติหรือป่าวนะ

     

    “ช่วงนี้พวกคาโลก็อยากได้คนคอยส่งเอกสารและประสานงานแล้วนายก็ยังไม่หายดีจากอาการขาเจ็บคงเดินเหินไม่คล้อง คิลเลยทำงานนี้”

     

    “อ้อ..งั้นพี่จะให้ผมช่วยอะไรเหรอฮะ”

     

    “งานง่ายๆน่ะอย่าห่วงเลย เราจะเจอกันหลังเลิกเรียนและก็ตั้งแต่นี้นายจะต้องมานอนกับฉัน”

     

    “ห๊ะ!

     

    “ก็งานมันเยอะ ปกติฉันก็นอนในห้องทำงานนั้นล่ะไม่ค่อยได้กลับห้องหรอก ตอนมาก็แวะเอาเสื้อผ้ามาไว้อาบน้ำด้วยแล้วกันนะ ฉันไปล่ะไว้เจอกัน” รุ่นพี่โรเวนออกไปแล้วทิ้งเฟรินให้นั่งห่อเหี่ยว

     

    “ฉัน....ชักเริ่มจะปวดหัวจริงๆแล้วสิ สงสัยมาสักพักแล้วล่ะ บางทีปีนี้อาจเป็นปีชงร้ายของฉันแฮะ เหอะๆ”เจ้าตัวพึมพำแผ่วๆ

     

                คาโลชำเลืองมองเพื่อนที่ดูเหมือนจะเริ่มจิตหลุดและลอบยิ้ม โรเวนคงช่วยแบ่งเบาเรื่องน่าปวดหัวแทนเขาไปเยอะเลยล่ะทีนี้

     

     

    ...................................................

     

     

     

     

                หลายวันมานี้งานของเฟรินเยอะขึ้นโข จากที่เรียกว่าแทบไม่มีอะไรทำเพราะหน้าที่หัวหน้าชั้นปีคาโลกับโรก็ทำได้ดีแล้วยังมีสามสาวของป้อมเป็นคนช่วยจัดการหลายๆเรื่องให้  กลายเป็นว่าเขาต้องมานั่งหัวโด่อยู่ที่โต๊ะทำงานกับรุ่นพี่โรเวนทุกวัน สรุปเอกสารงบประมาณของป้อมและรายงานจากสี่ผู้คุมกฏเรื่องวีรกรรมต่างๆของชาวป้อมอัศวินพร้อมตัวเลขค่าเสียหายที่ทำเอาเขาต้องตาเหลือกกับตัวเลขที่ไม่ใช่น้อยๆ ไม่พอเขายังเจอรายงานจากอาจารย์เจ้าชายชามัลที่ส่งมาเพื่อลดธงของป้อมอัศวินลงอีกกว่า50 ธงในหนึ่งสัปดาห์  ให้มันได้อย่างนี้เซ่! ก็ว่าอยู่ว่าทำไมพวกสามสาวถึงได้หงุดหงิดทุกครั้งหลังจากที่เข้าประชุม เพราะมันมีเรื่องนี้แถมเป็นเขานี้ล่ะต้นเรื่อง

     

                ที่จริงเขาทำงานไม่ทันโรเวนตรวจหรอก กว่าจะสรุปเสร็จแต่ละงานโรเวนก็คว้าไปอ่านเองสรุปเองไปราวๆงานหรือสองงานแล้ว มีบางวันเท่านั้นล่ะที่เขามานั้งสรุปก่อนเพราะรุ่นพี่คนนี้ติดประชุมสภาสูงอย่างวันนี้และบางทีก็ไปดูความเสียหายจากพื้นที่จริงที่คนในป้อมทะเลาะกันจนพังบริเวณรอบๆยับเยิน เลยมีเอกสารที่เขาสรุปแล้วกองรอให้รุ่นพี่ดูอีกที ถึงงานจะมีเยอะแต่ความจริงมันก็ไม่ได้มากจนน่ากลัวอย่างที่คิด แค่มีมาเรื่อยๆแต่ดูๆไปถ้าทำคนเดียวก็คงเหนื่อยไม่น้อยอยู่ดี แล้วนี่มัน...อะไรน่ะ รายงานผู้บุกรุก พอเห็นหัวข้อเจ้าตัวก็ขมวดคิ้วมุ่งทันที ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนกล้าบุกป้อมอัศวินด้วย

     

    “คงไม่ใช่ขโมยชัวร์ ไม่งั้นคงจะตาต่ำมากทีเดียวที่เลือกที่นี่ เฮ้อ~” เจ้าตัวถอนหายใจอย่างปลงตกเมื่อคิดถึงเอกสารงบประมาณที่เขาพึ่งสรุปให้โรเวนไปไม่กี่วันก่อน ตาก็กวาดอ่านรายงานที่ไม่ค่อยมีรายละเอียดมากนอกจากพบร่างสูงที่ใส่ชุดคลุมปกปิดตัวตนเข้ามาในป้อมจนรุ่นพี่เอ่ยเตือน จากนั้นผู้บุกรุกก็ยอมกลับไปแต่โดยดี คนที่อ่านจบขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ

     

    “อย่างนี้เรียกว่าผู้บุกรุกได้เหรอ จะว่ามับบ้าที่เข้ามาหรือว่าฉลาดที่ยอมถอยดีล่ะเนี่ย มาทำไมนะ” พลันเขาก็รู้สึกว่ามีเงาดำวูบผ่านที่หางตา เขารีบหันไปมองแล้วก็ต้องสงสัยมากขึ้นไปอีก เขาปิดประตูหน้าต่างแล้วแน่ๆและยังล็อคอย่างดีด้วย ตาคู่คมมองจ้องประตูหน้าต่างที่ตอนนี้มันไม่ได้ปิดแล้ว ลมฝนข้างนอกทำให้ผ้าม่านสีลาเวนเดอร์สะบัดอย่างแรงกลิ่นฝนและละอองฝนก็ถูกลมพัดเข้าห้อง เรื่องนี้มันมีอะไรแปลกๆ เฟรินเริ่มหน้าซีดขึ้นมาทันทีเพราะว่ากับห้องที่ไม่มีใครอยู่นอกจากเขา ถ้าจะมีอะไรเปิดหน้าต่างนั้นคงหนีไม่พ้น.....

     

    “ผีหลอก อ๊ากกก!!!!” คนกลัวผีลุกพรวดและหมุนตัวออกจากห้องด้วยความเร็ว โดดสักวันล่ะกันนะพี่โรเวน วันนี้ผมรู้สึกป่วยจริงๆ

     








                ประตูหน้าต่างปิดลงอีกครั้งด้วยฝีมือของร่างสูงในชุดคลุมยาว ร่างนั้นเดินเข้าไปชะโงกหน้ามองเอกสารที่อยู่บนโต๊ะแล้วเขาก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ เจ้าตัวยุ่งนั้นทำงานเรียบร้อยอย่างนี้เชียวเหรอ ความแปลกใจอยู่ได้ไม่นานเมื่อระลึกได้ว่าใครที่เด็กนั้นทำงานให้

     

    “มาแล้วเหรอครับอาจารย์”

     

    “อืม เรามาเริ่มคุยกันเลยไหม โรเวน”

     

              คนถูกเรียกยิ้มให้อย่างสุภาพก่อนจะเชิญแขกผู้มาเยี่ยมนั่งลง ส่งน้ำชาหอมกรุ่นให้แล้วเริ่มเข้าสู่บทสนทนา

     

                






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×