คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ผู้บุกรุก?
ในขณะที่เฟรินนอนหลับนิ่งด้วยเวทมนต์ของเฟลิโอน่าที่ทำให้เขาไม่ต้องฝันร้ายได้สักพัก
คิล โร คาโล
ลูคัสและไธนอสก็แยกกันไปหาของที่เธอคนนั้นบอกว่าต้องใส่ในการถอนคำสาป ในห้องจึงเหลือเพียงเฟริน เฟลิโอน่า
โรเวนและอาเธร์
ตาโตๆนั่งมองชายหนุ่มทั้งสองคนเปิดศึกกันด้วยเกมหมากรุกและคำพูดทะเลาะกันไปมา
ถ้าเป็นเมื่อก่อนมันก็น่ากลัวอยู่แต่ทุกวันนี้มันก็ชักจะชินและมันก็กลายเป็นเรื่องปกติในโรงเรียนพระราชา
คนที่ออกไปหาของก็เริ่มทยอยกลับเข้ามาจนครบ
โต๊ะกลางห้องเต็มไปด้วยอุปกรณ์ปรุงยา ดวงตาของเธอกวาดมองอุปกรณ์ทุกอย่างบนโต๊ะและเริ่มปรุงยาถอนคำสาป
หลังจากคืนนี้ทั้งเฟลิโอน่าและเฟรินจะต้องถูกจับตามองเป็นพิเศษเพราะความน่าสงสัยในเรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้น
แม้ไม่ได้ทำแต่รางสังหรณ์บางอย่างบอกว่าถ้าตามดูพวกเขาไว้ต้องเจอกับอะไรดีๆแน่
........................................................
เฟรินลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับอาการปวดหัวแล่นจื๊ดขึ้นสมอง รู้สึกเพลีย ปวดเมื่อยตามตัวไปหมดร้อนๆเหมือนคนเป็นไข้
เขายันตัวเองขึ้นนั่งและเริ่มหาวปากกว้าง ทำไมมันง่วงอย่างงี้นะ
“ตื่นแล้วเหรอ”
น้ำเสียงคุ้นหูนั้นทำให้ความรู้สึกอยากจะกวนใครสักคนโผ่พรวดขึ้นมา เขาหันไปยิ้มกวนๆให้คนที่ทัก
“คนที่ยังไม่ตื่นเขาคงไม่ลุกขึ้นมานั่งหาวหรอกมั้ง~”
เฟรินมองคนที่ก้มหน้าอ่านหนังสือแล้วก็ยิ้มบางๆ
ทำไมคนที่เก่งถึงขนาดนี้ยังต้องขยันมากขนาดนั้นนะ
“นายนี้คิดจะเป็นห้องสมุดเคลื่อนที่เหมือนเจ้าโรหรือไงถึงได้ขยันอ่านขนาดนั้น”
แต่คราวนี้คนที่อยากคุยด้วยทำเมินใส่กันซะงั้น เฟรินหลุดขำเบาๆกับความคิดที่ว่าคนๆนี้อาจไม่ได้ทำไม่สนใจแต่อาจจะงอนเป็นเหมือนกัน
เขาสูดอากาศเข้าปอดลึกๆมองออกไปนอกหน้าต่างที่ฟ้ายังคงเป็นสีดำ
พอมองนาฬิกาที่หัวนอนของโรก็รู้ว่านี้พึ่งตี 4 เขาหันไปมองคาโลอีกครั้ง
เจ้านี้มันตื่นมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย
งานหัวหน้าชั้นปีก็เยอะมันไม่เหนื่อยบ้างหรือไง
ก๊อก
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องทำให้เฟรินมองที่ประตูอย่างสงสัย
เขามองคาโลที่มีท่าทีปกติเหมือนว่ารู้อยู่แล้วว่าจะมีคนมา
เมื่อคาโลเปิดประตูเฟรินก็แทบช็อคกับคนที่ไม่น่าจะมาเยี่ยมพวกเขาโดยเฉพาะเวลาอย่างนี้
โรเวนก้าวเข้ามาในห้องด้วยท่าทีสบายๆเป็นกันเองกับรอยยิ้มเป็นมิตรแต่ถึงอย่างนั้นทุกท่าทางของเขายังดูสง่า
รุ่นพี่ทักทายคาโลแล้วหันมาหาเขา
“อรุณสวัสดิ์เฟริน”
“อรุณสวัสอิ์ฮะ”
“เป็นยังไงบ้างได้ข่าวว่านายบาดเจ็บ”
เรื่องแค่นี้เหรอ!!! เดี๋ยวๆได้ข่าวว่าเขานอนอืดอยู่เป็นอาทิตย์นะ เชื่อขนมกินได้โรเวนไม่มาถามเพระเรื่องแค่นี้หรอก เจ้าตัวคนถูกถามยิ้มให้
“ดีขึ้นมากแล้วล่ะครับ
ขอบคุณที่เป็นห่วง รุ่นพี่มาหาคาโลเหรอฮะ”
“เปล่าหรอก
ฉันมาหาเธอต่างหาก”
“ผมเหรอ”
คิ้วเรียวเลิกขึ้นด้วยความสงสัย “รุ่นพี่มีธุระอะไรกับผมเหรอครับ”
รอยยิ้มของโรเวนที่ยิ้มตอนนี้เริ่มทำให้เขารู้สึกขนลุกแม้ว่าภายนอกจะรักษารอยยิ้มเป็นมิตร
“ถ้าไม่มีอะไรฉันจะมาเยี่ยมบ้างไม่ได้เลยเหรอ”
“ง่า...ได้สิครับ
ผมแค่เห็นว่าตำแหน่งพี่น่าจะยุ่งมากเลยเกรงใจ”
“จริง ช่วงนี้ฉันค่อนข้างงานเยอะซะด้วยสิ
ถ้าจะขอหัวหน้าชั้นปีหนึ่งมาช่วยสักคนจะได้ไหมนะ”โรเวนพูดขึ้นยิ้มๆ
มือข้างหนึ่งยกขึ้นแตะคางเหมือนใช่ความคิด ตาคู่คมมองมาที่เฟรินอย่างพราวระยิบ
“อ่อ....แหะๆ
อ้อครับ จะให้คาโลไปช่วยสินะครับ”
“ทีแรกก็ว่างั้นล่ะนะ
แต่ว่า...”
“........”
“คาโลกับโรน่ะ
ขยันทำหน้าที่หัวหน้าชั้นปีมากเลยนะ เธอว่าไหม”
“ใช่เลยครับผม
มันขยันทำงานและงานก็ออกมาดีมากด้วยล่ะครับ”
ทีนี้คนมีชนักติดหลังอย่างการโดดงานก็รู้สึกว่าวันนี้นี่รางสังหรณ์มันทำงานแรงกว่าปกติหรือป่าวนะ
“ช่วงนี้พวกคาโลก็อยากได้คนคอยส่งเอกสารและประสานงานแล้วนายก็ยังไม่หายดีจากอาการขาเจ็บคงเดินเหินไม่คล้อง
คิลเลยทำงานนี้”
“อ้อ..งั้นพี่จะให้ผมช่วยอะไรเหรอฮะ”
“งานง่ายๆน่ะอย่าห่วงเลย
เราจะเจอกันหลังเลิกเรียนและก็ตั้งแต่นี้นายจะต้องมานอนกับฉัน”
“ห๊ะ!”
“ก็งานมันเยอะ
ปกติฉันก็นอนในห้องทำงานนั้นล่ะไม่ค่อยได้กลับห้องหรอก
ตอนมาก็แวะเอาเสื้อผ้ามาไว้อาบน้ำด้วยแล้วกันนะ ฉันไปล่ะไว้เจอกัน” รุ่นพี่โรเวนออกไปแล้วทิ้งเฟรินให้นั่งห่อเหี่ยว
“ฉัน....ชักเริ่มจะปวดหัวจริงๆแล้วสิ
สงสัยมาสักพักแล้วล่ะ บางทีปีนี้อาจเป็นปีชงร้ายของฉันแฮะ เหอะๆ”เจ้าตัวพึมพำแผ่วๆ
คาโลชำเลืองมองเพื่อนที่ดูเหมือนจะเริ่มจิตหลุดและลอบยิ้ม
โรเวนคงช่วยแบ่งเบาเรื่องน่าปวดหัวแทนเขาไปเยอะเลยล่ะทีนี้
...................................................
หลายวันมานี้งานของเฟรินเยอะขึ้นโข
จากที่เรียกว่าแทบไม่มีอะไรทำเพราะหน้าที่หัวหน้าชั้นปีคาโลกับโรก็ทำได้ดีแล้วยังมีสามสาวของป้อมเป็นคนช่วยจัดการหลายๆเรื่องให้
กลายเป็นว่าเขาต้องมานั่งหัวโด่อยู่ที่โต๊ะทำงานกับรุ่นพี่โรเวนทุกวัน
สรุปเอกสารงบประมาณของป้อมและรายงานจากสี่ผู้คุมกฏเรื่องวีรกรรมต่างๆของชาวป้อมอัศวินพร้อมตัวเลขค่าเสียหายที่ทำเอาเขาต้องตาเหลือกกับตัวเลขที่ไม่ใช่น้อยๆ
ไม่พอเขายังเจอรายงานจากอาจารย์เจ้าชายชามัลที่ส่งมาเพื่อลดธงของป้อมอัศวินลงอีกกว่า50 ธงในหนึ่งสัปดาห์ ให้มันได้อย่างนี้เซ่! ก็ว่าอยู่ว่าทำไมพวกสามสาวถึงได้หงุดหงิดทุกครั้งหลังจากที่เข้าประชุม
เพราะมันมีเรื่องนี้แถมเป็นเขานี้ล่ะต้นเรื่อง
ที่จริงเขาทำงานไม่ทันโรเวนตรวจหรอก
กว่าจะสรุปเสร็จแต่ละงานโรเวนก็คว้าไปอ่านเองสรุปเองไปราวๆงานหรือสองงานแล้ว มีบางวันเท่านั้นล่ะที่เขามานั้งสรุปก่อนเพราะรุ่นพี่คนนี้ติดประชุมสภาสูงอย่างวันนี้และบางทีก็ไปดูความเสียหายจากพื้นที่จริงที่คนในป้อมทะเลาะกันจนพังบริเวณรอบๆยับเยิน เลยมีเอกสารที่เขาสรุปแล้วกองรอให้รุ่นพี่ดูอีกที
ถึงงานจะมีเยอะแต่ความจริงมันก็ไม่ได้มากจนน่ากลัวอย่างที่คิด แค่มีมาเรื่อยๆแต่ดูๆไปถ้าทำคนเดียวก็คงเหนื่อยไม่น้อยอยู่ดี
แล้วนี่มัน...อะไรน่ะ รายงานผู้บุกรุก พอเห็นหัวข้อเจ้าตัวก็ขมวดคิ้วมุ่งทันที ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนกล้าบุกป้อมอัศวินด้วย
“คงไม่ใช่ขโมยชัวร์
ไม่งั้นคงจะตาต่ำมากทีเดียวที่เลือกที่นี่ เฮ้อ~”
เจ้าตัวถอนหายใจอย่างปลงตกเมื่อคิดถึงเอกสารงบประมาณที่เขาพึ่งสรุปให้โรเวนไปไม่กี่วันก่อน
ตาก็กวาดอ่านรายงานที่ไม่ค่อยมีรายละเอียดมากนอกจากพบร่างสูงที่ใส่ชุดคลุมปกปิดตัวตนเข้ามาในป้อมจนรุ่นพี่เอ่ยเตือน
จากนั้นผู้บุกรุกก็ยอมกลับไปแต่โดยดี คนที่อ่านจบขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ
“อย่างนี้เรียกว่าผู้บุกรุกได้เหรอ
จะว่ามับบ้าที่เข้ามาหรือว่าฉลาดที่ยอมถอยดีล่ะเนี่ย มาทำไมนะ”
พลันเขาก็รู้สึกว่ามีเงาดำวูบผ่านที่หางตา
เขารีบหันไปมองแล้วก็ต้องสงสัยมากขึ้นไปอีก เขาปิดประตูหน้าต่างแล้วแน่ๆและยังล็อคอย่างดีด้วย
ตาคู่คมมองจ้องประตูหน้าต่างที่ตอนนี้มันไม่ได้ปิดแล้ว
ลมฝนข้างนอกทำให้ผ้าม่านสีลาเวนเดอร์สะบัดอย่างแรงกลิ่นฝนและละอองฝนก็ถูกลมพัดเข้าห้อง
เรื่องนี้มันมีอะไรแปลกๆ
เฟรินเริ่มหน้าซีดขึ้นมาทันทีเพราะว่ากับห้องที่ไม่มีใครอยู่นอกจากเขา
ถ้าจะมีอะไรเปิดหน้าต่างนั้นคงหนีไม่พ้น.....
“ผีหลอก
อ๊ากกก!!!!” คนกลัวผีลุกพรวดและหมุนตัวออกจากห้องด้วยความเร็ว
โดดสักวันล่ะกันนะพี่โรเวน วันนี้ผมรู้สึกป่วยจริงๆ
ประตูหน้าต่างปิดลงอีกครั้งด้วยฝีมือของร่างสูงในชุดคลุมยาว
ร่างนั้นเดินเข้าไปชะโงกหน้ามองเอกสารที่อยู่บนโต๊ะแล้วเขาก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ
เจ้าตัวยุ่งนั้นทำงานเรียบร้อยอย่างนี้เชียวเหรอ
ความแปลกใจอยู่ได้ไม่นานเมื่อระลึกได้ว่าใครที่เด็กนั้นทำงานให้
“มาแล้วเหรอครับอาจารย์”
“อืม
เรามาเริ่มคุยกันเลยไหม โรเวน”
คนถูกเรียกยิ้มให้อย่างสุภาพก่อนจะเชิญแขกผู้มาเยี่ยมนั่งลง ส่งน้ำชาหอมกรุ่นให้แล้วเริ่มเข้าสู่บทสนทนา
ความคิดเห็น