คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ต้นตอ(แก้คำผิด)
บนชั้นบนสุดของปราสาทเอดินเบิร์ก ดวงตาคมกล้าจ้องมองรอยร้าวบนมงกุฎแห่งใจที่ขยายออกเรื่อยๆ
กรร!!!!
เสียงคำรามทรงพลังดังก้อง ปราสาททั้งหลังสั้นสะเทือนอย่างน่ากลัว กระจกหน้าต่างทั้งหมดในห้องแตกกระจาย
ทั่วห้องในตอนนี้สว่างไสวด้วยแสงสีทองเจิดจ้าที่มาจากเจ้ามงกุฎและตัวมันก็เริ่มขยายรอยร้าวเร็วขึ้นๆอย่างน่าใจหาย
เหมือนกับว่าสิ่งที่เขาทำในตอนนี้จะไม่มีประโยชน์เลย
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงร่ายคาถาต่อไป รอยร้าวมากมายปรากฎขึ้นที่ตัวคทาและหัวลูกแก้ว เหงื่อชื้นซึมออกทั่วร่าง
ความอึดอัดจู่โจมเล่นงานเขาจนร่างทั้งร่างทรุดลงพื้น เพล้ง!!หัวลูกแก้วของคทาแตกออกพร้อมกันที่สติสุดท้ายของชายชราและแสงของมงกุฎดับลง
เสียงคลิ๊กเบาๆที่ประตูดังขึ้น หมอกหนาและบรรยากาศมืดหม่นเมื่อครู่จางหายไปอย่างรวดเร็วราวกับว่าอยู่ดีๆก็มีคนมาเปิดไฟทำให้ทั้งห้องสว่างขึ้น
วงเวทและมังกรเรืองแสงสีทองนวลก่อนจะแตกกระจายเป็นประกายแสงระยิบระยับตกลงสู่เตียงและหายไป พวกเขายืนมองเฟรินที่หลับนิ่งไม่รู้เรื่องรู้ราวเจ้าเพื่อนตัวแสบหลับสนิทสบายอุราแถมเริ่มมีเสียงกรนฟี้ๆออกมา
ความเป็นห่วงและความสงสัยในตัวเจ้าเพื่อนคนนี้ แทรกเข้ามาในใจอย่างช่วยไม่ได้
“ฉันทำแผลให้นายก่อนดีกว่า
คาโล” คำพูดของโรเรียกสติของคิลกับคาโลกลับมา
“อืม”คาโลพยักหน้าและปล่อยให้โรทำแผลอย่างมึนๆ
เย็นวันนั้นสมาชิกหัวหน้าชั้นปี1ของป้อมอัศวินก็ไม่มีใครมาซ้อมสักคน
พอส่งคนไปตามห้องก็เงียบและล็อค เสียงคำรามที่น่าหวั่นกลายเป็นข้อถกเถียงให้ผู้คนคาดเดากันไปต่างๆนาๆ
รวมทั้งเจ้าพวกปีหนึ่งของป้อมอัศวินด้วย
ลูคัสหนึ่งในสี่ผู้คุมกฎของป้อม
ผู้ทำตัวติดลอเรนซ์วันนี้กลับไม่ทำดั่งที่เคย
เขาเดินผ่านกลุ่มปีหนึ่งในห้องนั้งเล่น
ส่งยิ่มและทักทายรุ่นน้องตามปกติ เขานั่งลงบนชุดเก้าอี้ห่างออกมาจากกลุ่มเด็ก1โต๊ะ
และนั่งจิบชาที่ปรากฎขึ้นมาตรงหน้าอย่างสบายอารมณ์ พร้อมทั้งคอยมองรุ่นน้องเป็นระยะ
“ทำไมวันนี้พวกสัตว์เลี้ยงทุกตัวในเอดินเบิร์กอาละวาดล่ะ”
“นั้นสิ
คริสติน่าม้าของฉันก็อาละวาดเหมือนกัน ทั้งที่ปกติเธอเรียบร้อยแท้ๆ”
“ก็เพราะเจ้าเสียงดังๆนั้นไง มีข่าวมาว่านั้นเป็นเสียงคำรามจากปีศาจที่เจ้าปีศาจเอวิเดสส่งมา”
“ฉันได้ยินมาว่าเป็นฟ้าร้องนะ
มันดังซะก้องพวกปราสาทขุนนางก็บอกฟ้าร้อง”
“แต่ฉันว่ามันเหมือนเสียงคำราม
เพื่อนฉันที่อยู่แผ่นดินประชาชนบอกว่าเป็นเสียงมังกร”
“อะไรกัน
ฉันไม่เคยเห็นมังกรที่ไหนร้องได้ดังขนาดนั้นนะ มันต้องตัวใหญ่มากน่ะสิ”
“อาจเป็นปีศาจที่เรายังไม่รู้จัก”
“ดีล่ะ! งั้นฉันจะจับมันและแสดงให้เห็นว่าฉันเป็นนักรบที่เก่งแค่ไหน!!”
“อย่าติ๊งต๊องนายไปก็ตายเปล่า”
“ชี้ขลาดแล้วมาว่าคนอื่น”
“ขี้แพ้
ไม่ได้เรื่องอย่างนายยังกล้ามาว่าคนอื่นอีกเหรอ!!!!!”
“แล้วจจะทำไม!! ไม่ได้ขี้ขลาดเหมือนใครบางคนแถวนี้หนิ!!!!!”
“อ้าวพูดอย่างนี้อยากมีเรื่องน่ะสิ!!”
“กล้าก็เข้ามาฉันเคยกลัวแกซะเมื่อไหร่!!”
“มา!!”
โป๊ก!!!!!!! จากนั้น..
เสียงบ่นโอคคราญของคนโดนด้ามคทาก็แว่วมาให้ได้ยิน เหตุการณ์ทะเลาะทั้งหมดถูกยุติด้วยสาวน้อยแองจี้ ลูคัสผู้เห็นเหตุการณ์ยิ้มบางและรุกเดินไปพรางฮัมเพลง
......................................................................
“รุ่นพี่ลูคัสคะ”
เสียงหวานใสเอ่ยขึ้นหลังจากเลี้ยวโค้งออกห่างจากห้องนั้งเล่น
“มาแล้วเหรอจ้ะสาวน้อย”เขากล่าวขึ้นยิ้มๆ มองคนตัวเล็กที่ทำสีหน้าลังเล เธอเงยหน้ามองเขา
เม้มปากเบาๆ
“หนูอยากไปหาเฟริน”คนเป็นรุ่นพี่เลิกคิ้วน้อยๆก่อนจะคลี่ยิ้มล้อ
“อืม...
รีบเกินไปแล้วนะ หาอะไรกินกันก่อนไหม”
“ไม่ค่ะ
หนูจะไปหาเฟริน”
“แต่เขาไม่อยู่ที่ห้องนั่งเล่นนี้นา
ไปหาที่ห้องก็ดูไม่ดีด้วยสิ”
“คุณคิดอะไรอยู่คะ
คุณก็รู้นะคะว่าฉันมาทำไม” ร่างบางพูดด้วยความไม่สบอารมณ์
“โอ๋ๆ
อย่าโกรธนะ ไปกันเลยก็ได้”
เมื่อมาถึงลูคัสเอื้อมมือเปิดประตูห้องหัวหน้าชั้นปีหนึ่ง ผายมือเชิญเด็กสาวที่มาด้วยให้เข้าไปก่อนจะตามเข้ามาและปิดประตูลง
ตาโตของเด็กสาวสบกับนัยน์ตาสีน้ำเงินสวยของเสนาธิการฝ่ายซ้ายป้อมอัศวิน
ความรู้สึกร้อนๆที่ขอบตาทำให้ต้องเบนสายตาไปมองยังคนที่ทำให้เธอต้องถูกตามตัวมาที่นี้ แล้วคิ้วของเธอก็ขมวดมุ่งเมื่อคนๆนั้นเป็นคนที่นอนหลับแถมยังมีเสียงกรนเบาๆออกมาให้ได้ยินอีกต่างหาก
“นี้เหรอคะ คนที่พวกคุณบอกว่าเป็นผู้ต้องสงสัยที่ตอบตกลงกับมงกุฏแห่งใจ”
“ใช่”
คำตอบเรียบๆสั้นๆออกมาจากไธนอส เสนาธิการฝ่ายขวาผู้ดูแลความปลอดภัยของเอดินเบิร์ก
“ยังไงคะ
พวกคุณมีหลักฐานอะไร” คนถามขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมกับคำตอบที่ไม่มีคำอธิบายอะไรมาเลย
“ลองถามกับคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอสิ”
เมื่อหันกลับไป เธอก็ต้อง
งงยิ่งขึ้นอีกเมื่อพบกับคนที่ไม่น่าจะมาเหยียบที่นี้มากที่สุด หัวหน้าปราสาทขุนนาง ปริ้นอาเธอร์ เลโอนาท บริสตั้น !!!
ความคิดเห็น