ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บารามอส(บาราเฮ เอดินตี้ เฟรี่ เฟริน)

    ลำดับตอนที่ #13 : ต้นตอ(แก้คำผิด)

    • อัปเดตล่าสุด 18 ธ.ค. 58


            บนชั้นบนสุดของปราสาทเอดินเบิร์ก ดวงตาคมกล้าจ้องมองรอยร้าวบนมงกุฎแห่งใจที่ขยายออกเรื่อยๆ

              กรร!!!!

     

            เสียงคำรามทรงพลังดังก้อง ปราสาททั้งหลังสั้นสะเทือนอย่างน่ากลัว  กระจกหน้าต่างทั้งหมดในห้องแตกกระจาย ทั่วห้องในตอนนี้สว่างไสวด้วยแสงสีทองเจิดจ้าที่มาจากเจ้ามงกุฎและตัวมันก็เริ่มขยายรอยร้าวเร็วขึ้นๆอย่างน่าใจหาย เหมือนกับว่าสิ่งที่เขาทำในตอนนี้จะไม่มีประโยชน์เลย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงร่ายคาถาต่อไป    รอยร้าวมากมายปรากฎขึ้นที่ตัวคทาและหัวลูกแก้ว เหงื่อชื้นซึมออกทั่วร่าง ความอึดอัดจู่โจมเล่นงานเขาจนร่างทั้งร่างทรุดลงพื้น   เพล้ง!!หัวลูกแก้วของคทาแตกออกพร้อมกันที่สติสุดท้ายของชายชราและแสงของมงกุฎดับลง

     

             เสียงคลิ๊กเบาๆที่ประตูดังขึ้น  หมอกหนาและบรรยากาศมืดหม่นเมื่อครู่จางหายไปอย่างรวดเร็วราวกับว่าอยู่ดีๆก็มีคนมาเปิดไฟทำให้ทั้งห้องสว่างขึ้น วงเวทและมังกรเรืองแสงสีทองนวลก่อนจะแตกกระจายเป็นประกายแสงระยิบระยับตกลงสู่เตียงและหายไป  พวกเขายืนมองเฟรินที่หลับนิ่งไม่รู้เรื่องรู้ราวเจ้าเพื่อนตัวแสบหลับสนิทสบายอุราแถมเริ่มมีเสียงกรนฟี้ๆออกมา  ความเป็นห่วงและความสงสัยในตัวเจ้าเพื่อนคนนี้ แทรกเข้ามาในใจอย่างช่วยไม่ได้

     

    “ฉันทำแผลให้นายก่อนดีกว่า คาโล” คำพูดของโรเรียกสติของคิลกับคาโลกลับมา

     

    “อืม”คาโลพยักหน้าและปล่อยให้โรทำแผลอย่างมึนๆ

     

            เย็นวันนั้นสมาชิกหัวหน้าชั้นปี1ของป้อมอัศวินก็ไม่มีใครมาซ้อมสักคน พอส่งคนไปตามห้องก็เงียบและล็อค เสียงคำรามที่น่าหวั่นกลายเป็นข้อถกเถียงให้ผู้คนคาดเดากันไปต่างๆนาๆ รวมทั้งเจ้าพวกปีหนึ่งของป้อมอัศวินด้วย

     

              ลูคัสหนึ่งในสี่ผู้คุมกฎของป้อม ผู้ทำตัวติดลอเรนซ์วันนี้กลับไม่ทำดั่งที่เคย เขาเดินผ่านกลุ่มปีหนึ่งในห้องนั้งเล่น  ส่งยิ่มและทักทายรุ่นน้องตามปกติ เขานั่งลงบนชุดเก้าอี้ห่างออกมาจากกลุ่มเด็ก1โต๊ะ และนั่งจิบชาที่ปรากฎขึ้นมาตรงหน้าอย่างสบายอารมณ์ พร้อมทั้งคอยมองรุ่นน้องเป็นระยะ

     

    “ทำไมวันนี้พวกสัตว์เลี้ยงทุกตัวในเอดินเบิร์กอาละวาดล่ะ”

     

    “นั้นสิ คริสติน่าม้าของฉันก็อาละวาดเหมือนกัน ทั้งที่ปกติเธอเรียบร้อยแท้ๆ”

     

    “ก็เพราะเจ้าเสียงดังๆนั้นไง  มีข่าวมาว่านั้นเป็นเสียงคำรามจากปีศาจที่เจ้าปีศาจเอวิเดสส่งมา”

     

    “ฉันได้ยินมาว่าเป็นฟ้าร้องนะ มันดังซะก้องพวกปราสาทขุนนางก็บอกฟ้าร้อง”

     

    “แต่ฉันว่ามันเหมือนเสียงคำราม เพื่อนฉันที่อยู่แผ่นดินประชาชนบอกว่าเป็นเสียงมังกร”

     

    “อะไรกัน ฉันไม่เคยเห็นมังกรที่ไหนร้องได้ดังขนาดนั้นนะ มันต้องตัวใหญ่มากน่ะสิ”

     

    “อาจเป็นปีศาจที่เรายังไม่รู้จัก”

     

    “ดีล่ะ! งั้นฉันจะจับมันและแสดงให้เห็นว่าฉันเป็นนักรบที่เก่งแค่ไหน!!

     

    “อย่าติ๊งต๊องนายไปก็ตายเปล่า”

     

    “ชี้ขลาดแล้วมาว่าคนอื่น”

     

    “ขี้แพ้ ไม่ได้เรื่องอย่างนายยังกล้ามาว่าคนอื่นอีกเหรอ!!!!!

     

    “แล้วจจะทำไม!! ไม่ได้ขี้ขลาดเหมือนใครบางคนแถวนี้หนิ!!!!!

     

     “อ้าวพูดอย่างนี้อยากมีเรื่องน่ะสิ!!

     

    “กล้าก็เข้ามาฉันเคยกลัวแกซะเมื่อไหร่!!

     

      “มา!!

     

            โป๊ก!!!!!!!  จากนั้น.. เสียงบ่นโอคคราญของคนโดนด้ามคทาก็แว่วมาให้ได้ยิน เหตุการณ์ทะเลาะทั้งหมดถูกยุติด้วยสาวน้อยแองจี้ ลูคัสผู้เห็นเหตุการณ์ยิ้มบางและรุกเดินไปพรางฮัมเพลง

     

     

    ......................................................................

    “รุ่นพี่ลูคัสคะ” เสียงหวานใสเอ่ยขึ้นหลังจากเลี้ยวโค้งออกห่างจากห้องนั้งเล่น

     

    “มาแล้วเหรอจ้ะสาวน้อย”เขากล่าวขึ้นยิ้มๆ มองคนตัวเล็กที่ทำสีหน้าลังเล เธอเงยหน้ามองเขา เม้มปากเบาๆ

     

    “หนูอยากไปหาเฟริน”คนเป็นรุ่นพี่เลิกคิ้วน้อยๆก่อนจะคลี่ยิ้มล้อ

     

    “อืม... รีบเกินไปแล้วนะ หาอะไรกินกันก่อนไหม”

     

    “ไม่ค่ะ หนูจะไปหาเฟริน”

     

    “แต่เขาไม่อยู่ที่ห้องนั่งเล่นนี้นา ไปหาที่ห้องก็ดูไม่ดีด้วยสิ”

     

    “คุณคิดอะไรอยู่คะ คุณก็รู้นะคะว่าฉันมาทำไม” ร่างบางพูดด้วยความไม่สบอารมณ์

     

    “โอ๋ๆ อย่าโกรธนะ ไปกันเลยก็ได้”

     

            เมื่อมาถึงลูคัสเอื้อมมือเปิดประตูห้องหัวหน้าชั้นปีหนึ่ง ผายมือเชิญเด็กสาวที่มาด้วยให้เข้าไปก่อนจะตามเข้ามาและปิดประตูลง

             ตาโตของเด็กสาวสบกับนัยน์ตาสีน้ำเงินสวยของเสนาธิการฝ่ายซ้ายป้อมอัศวิน ความรู้สึกร้อนๆที่ขอบตาทำให้ต้องเบนสายตาไปมองยังคนที่ทำให้เธอต้องถูกตามตัวมาที่นี้  แล้วคิ้วของเธอก็ขมวดมุ่งเมื่อคนๆนั้นเป็นคนที่นอนหลับแถมยังมีเสียงกรนเบาๆออกมาให้ได้ยินอีกต่างหาก

     

    “นี้เหรอคะ คนที่พวกคุณบอกว่าเป็นผู้ต้องสงสัยที่ตอบตกลงกับมงกุฏแห่งใจ”

     

    “ใช่” คำตอบเรียบๆสั้นๆออกมาจากไธนอส เสนาธิการฝ่ายขวาผู้ดูแลความปลอดภัยของเอดินเบิร์ก

     

    “ยังไงคะ พวกคุณมีหลักฐานอะไร” คนถามขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมกับคำตอบที่ไม่มีคำอธิบายอะไรมาเลย

     

    “ลองถามกับคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอสิ”

     

              เมื่อหันกลับไป เธอก็ต้อง งงยิ่งขึ้นอีกเมื่อพบกับคนที่ไม่น่าจะมาเหยียบที่นี้มากที่สุด หัวหน้าปราสาทขุนนาง ปริ้นอาเธอร์ เลโอนาท บริสตั้น !!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×