คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : อะไร(แก้คำผิด)
ตึก ตึก ตึก...
“ฮ่าๆๆๆๆ ครี๊ดมันเจ๋งอะ” นัยน์ตาสีม่วงคมทอประกายระยับ ริมฝีปากยกยิ้ม
“นั่นสิ ถ้าหมอนั่นจีบแองจี้ติดจริงคงจะดีไม่น้อย” โรพูดและอมยิ้มเจ้าเล่ห์นิดๆ
“นายสองคนว่างั้น?” ร่างสูงที่เดินนำถาม ดวงตาคู่คมสีฟ้ามองตรงข้างหน้าโดยไม่คิดจะหันกลับมามองสักนิด ความรู้สึกปวดหัวเริ่มแล่นจื๊ดขึ้นหัวเหมือนกับจะเป็นรางร้ายสักอย่าง
“ยัยนั้นจะได้เลิกอาละวาดในห้องสักที เสียงของยัยนั้นกวนเวลานอนของฉัน”
“ยากนะคิล แต่เฟรินเขาอาจจะโดนทุบหัวแตกยากกว่าเดิมหน่อย นายคิดว่างั้นไหมคาโล”
“ถ้าปากมันดีขึ้นได้สักนิด ก็อาจจะ”
“ไม่มีทาง/ยาก”คิลและโรมองหน้ากันและก็ยิ้มกับคำตอบ คำตอบมันชัดเจนมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว
“รายงานของมันที่นายบอกว่าจะเอาไปส่งให้ละ เอามาด้วยหรือป่าว”โรถามขึ้น
“เออใช่ ลืมไปเลย เดียวฉันค่อยกลับไปหยิบแล้วกัน มันไม่เอามาส่งเองหรอก”
ประตูไม้เนื้อเบาไร้ลวดรายถูกเปิดออกปรากฏการมาถึงของหัวหน้าชั้นปีหนึ่งป้อมอัศวินทั้งสามคนก่อนที่พวกเขาจะชะงักกันไปชั่วเสี้ยววินาทีและทำเหมือนไม่มีอะไร
“มาส่งงรายงานเรื่องอะไรล่ะ” คำถามและรอยยิ้มที่มาพร้อมกับประกายตาเอาเรื่องถูกส่งไปให้เจ้าพวกเพื่อนตัวแสบที่มาหลอกให้เขาปั่นรายงานเป็นกองๆตั้งหลายวันหลายเล่มและหลายวิชาแต่พอมาส่งกลับมีแค่สองเล่มของวิชาคุณสมบัติราชันย์และประวัติศาสตร์ แล้วที่เขานั่งทำเป็นกองๆนั้นทำเพื่อ? ถ้าไม่มาส่งเองจะไม่รู้เลยนะ!!!
“ไม่เจียมสังขาร”
คาโล!!!! ไอ้นี่หนิ เฟรินฉีกยิ้มกว้างข่มอารมณ์ไว้ในใจอย่างยากเย็น นี่ถ้าไม่ติดว่าเอาเรื่องกลับแล้วอาจถูกยัยแองจี้ทารุณกรรมและจบลงด้วยเข้าไปนอนอุดอู้ในห้องอีกล่ะก็นะ ฮึ่ม...
“ยังจะมาพูดอีกนะ”คนพูดแยกเขี้ยวใส่คาโลและผองเพื่อนอย่างเคืองๆ อยากประเคนหมัดให้ไอ้นี้จริงๆ หมายหัวมันไว้ก่อน กลับห้องโดนยกก๊วน
“มันเป็นประโยชน์กับนายดีออก”โรพูดพร้อมส่งรอยยิ้มเล็กๆกับประกายตาท้าทายมาให้
“จะส่งงานก็รีบๆส่งแล้วออกไปไกลๆซะเจ้าพวกน่ารำคาญ” คทาหัวลูกแก้วสีฟ้าขุ่นปรากฏขึ้นในมือของชามัลก่อนที่ด้ามคทาจะถูกกระแทกลงพื้นและใต้เท้าของเด็กทั้งสี่คนในห้องจะเป็นหลุมลึกให้พวกเขาดิ่งลงไป รายงานที่นำมาส่งหลุดมือ ลอยละริ่วก่อนจะตกลงมาซ้อนวางอย่างเป็นระเบียบบนโต๊ะทำงานของชามัลและพื้นที่เป็นหลุมก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
“อ๊ากกกก!!!”
ตุบๆๆๆ
“โอ๊ย... ฉันจะหายหรือจะตายในเร็วๆนี้กันแน่เนี่ย.. อ่อย”
“สำออย”คาโลว่าพร้อมส่งสายตาที่บ่งบอกว่ารำคาญ
“หุบปากเลยแก ฉันยังไม่เคลียไอ้รายงานจอมปลอมของแกเลยนะ โอ๊ย...ชามัลคิดไงเนี่ยถึงได้ทำกับคนป่วยอย่างงี้ จะใช้เวทก็เอาแบบนุ่มนวลแบบโผล่มายื่นกลางห้องก็ไม่ได้ ตกบนเตียงก็ยังดี เล่นหล่นจากเพดานเจอพื้นแข็งๆกลางห้องอย่างนี้มันเจตนาฆ่าชัดๆ”
“เว่อร์ล่ะ ถ้าเขาจะฆ่านายจริงเขาส่งนายไปอยู่กรงมังกรแล้วมั้งป่านนี้” คิลพูดขึ้นด้วยดวงตาเป็นประกาย
“ชิ!”
“นายออกไปเดินเพ่นพล่านข้างนอกเนี่ยหายดีแล้วเหรอ”
“ระดับพี่แล้วน้อง หายห่วงว่ะโร โฮ้ๆๆๆ”
“ประสาท”
“....(- - ) แกนี้เอาอีกละ ชอบขัดชาวบ้านชาวช่องเขาจริงๆ”
“ตรงไหนของนายที่เป็นชาวบ้านไม่ใช่คนบ้า”
“ต่อยกันเลยมา(-- )”
“ถ้านายทำได้...น่ะนะ” คาโลกระตุกยิ้มมุมปากและนั้นเป็นภาพสุดท้ายก่อนที่คนท้าต่อยจะเริ่มตาเบลอ เซและจะลงไปนอนกับพื้นถ้าโรเข้ามาประคองไว้ไม่ทัน
“ยายังไม่หมดฤทธิ์อีกเหรอ มันจะต้องหลับทุกช่วงเวลานี้ของทุกวันไปเรื่อยๆอีกนานแค่ไหน”
“อีกประมาณสัปดาห์ได้น่ะ” โรตอบคิลขณะที่ประคองเฟรินไปที่เตียง
“ฉันไปล่ะ”
เป็นอันจบและไม่ต้องถามต่อว่าคาโลจะไปไหนถ้าไม่ใช่ไปหาเจ้าหญิงคู่หมั้นของมันอย่างเรนอล มือเรียวนั้นยังไม่ทันเอื้อมไปถึงประตูสายลมหนาวเย็นก็พัดเข้ามาในห้อง และพัดละอองเกร็ดหิมะเข้ามา คาโลจึงเดินกลับมายืนข้างเพื่อนๆ
“ทำไม...”
เสียงของโรทำให้คิลต้องหันไปมองและความแปลกไปของคนที่รอบรู้และมั่นใจในตัวเองอย่างโรก็ทำให้เขาต้องสงสัยหนักกว่าเก่า สภาพโรตอนนี้ดูน่าเป็นห่วงเมื่อมันดูเหมือนคนหมดแรง ใบหน้าเริ่มแดงเหมือนคนเป็นไข้และมีเหงื่อชื้นซึมออกมาตามไรผม ก้าวเดินแต่และก้าวที่ตรงไปที่หน้าต่างนั้นดูไม่มั่นคงอย่างที่ควรจะเป็นอย่างทุกๆครั้งและเมื่อประตูหน้าต่างถูกปิดลง มันไม่ได้ช่วยให้อากาศหนาวเย็นเมื่อครู่อุ่นขึ้นเลยสักนิดในห้องเหมือนจะโรยตัวด้วยบรรยากาศวังเวงและมืดมัวกว่าที่ควรจะเป็นของในช่วงบ่ายสี่โมงกว่าๆทั้งที่มองผ่านกระจกข้างนอกยังดูอบอุ่นและสว่างกว่า เสียงคลิ๊กดังขึ้นเบาๆจากประตูทางเข้าทั้งที่ไม่มีคนยืนอยู่ตรงนั้น ทั้งทุกคนก็ไม่คิดจะหันไปมองที่ประตูด้วยซ้ำ พวกเขามองหน้ากันอย่างรู้ๆกันดีว่าไม่มีคนเข้ามา อากาศที่เย็นขึ้นอีกทำให้ขนคอของทั้งสามลุกชันและได้แต่มองหน้ากันเงียบๆ อย่างนั้น
เสียงจากนาฬิกาลูกตุ้นที่ตั้งอยู่นอกห้องดังรอดเข้ามาในห้องเป็นจังหวะช้าๆ
... ติ๊ก... ตอก.... ติ๊ก.... ตอก...
พรืบๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!! นกพิราบฝูงใหญ่บินผ่านหน้าต่างที่ถูกปิดไปแล้วบนหัวนอนเฟรินทำให้ที่ตรงนั้นดูมืดและวังเวงกว่าตรงอื่น ขนของนกฝูงใหญ่ที่บินขึ้นฟ้าไปร่วงร่องลอยผ่านหน้าต่างบานนั้นลงไปเกิดเป็นเหงาย่อมๆ ทั้งสามมองเฟรินที่นอนสงบนิ่งภายใต้บรรยากาศหนาวเย็นและวังเวงผิดปกติในห้อง
คิลกับโรตัดสินใจก้าวเท้าไปใกล้ขึ้น อากาศก็ดูจะเย็นขึ้น ยิ่งก้าวไปใกล้หัวใจของทั้งคู่ก็เริ่มเต้นแรงขึ้น สัญชาติญาณในตัวคิลนั้นเตือนว่าอันตรายแต่สัญชาติญาณนั้นก็บอกเขาว่าไว้ใจเฟรินได้ด้วยเช่นกันในขณะที่เลือดของโรก็แล่นพล่านร้อนผ่าวยิ่งใกล้เลือดในกายก็ยิ่งตอบรับว่าเจ้านายของเขาอยู่ใกล้ๆนี้ เมื่อทั้งสองมาหยุดยืนชิดขอบเตียงความอึดอัดก็จู่โจมความรู้สึก ทั้งร่างกายราวกับเป็นอัมพาตเมื่อเจอกับความเยือกเย็นที่ชวนขนลุกและบรรยากาศความหม่นหมองที่ดูเหมือนที่ตรงนี้จะมีมากกว่าบริเวณอื่น
“ฉันเกลียดบรรยากาศแบบนี้ชะมัดเลยว่ะ” คิลหันมองรอบๆอย่างหงุดหงิด
“ฉันเคยเจอเขา”
“นายว่าอะไรนะโร”คิลเลิกคิ้วหันไปมองโรก้มหน้าเริ่มพึมพำอะไรบางอย่าง
“ในฝัน ตอนนั้น”
“นายพูดอะไรของนายน่ะ”
“ใช่แน่ๆ”
“ใช่อะไรของนายกันโร ในฝันอะไรตอนไหน”
“นายจำไม่ได้เหรอคิล” คราวนี้นัยน์ตาสีเขียวคู่นั้นเบือนมาสบตาคิล “หมอกที่มันลอยตัวอยู่ในห้องน่ะนายอาจไม่รู้ แต่ดูที่พื้นนี่สิ”
คิลและคาโลมองตามที่โรบอก ในกลุ่มหมอกหนาที่ลอยวนเวียนเหนือพื้นมีแสงสีชมพู่เรืองขึ้นมา
“หมอก? ในฝัน? ฉันฝันเหรอ”
“ฉันด้วย นายด้วย คาโลและเฟรินก็ด้วยพวกเราฝันเหมือนกัน และดูเหมือนว่าแทบจะทั้งป้อมฝันเหมือนกัน”
“นายกำลังหมายถึงเจ้ามงกุฏนั้น นายมั่นใจได้ไง”
“เขากำลังคุยกับเฟรินอยู่แต่ฉันได้ยินไม่ชัด นายลองเงียบแล้วฟังสิ”
เป็นจริงอย่างที่โรพูดเมื่อเสียงทุ้มต่ำแหบแห้งที่แผ่วเบา เบามากจนจับใจความไม่ได้ดังวนเวียนอยู่ในห้องโดยหาที่มาไม่ได้เหมือนกับว่าดังผ่านมาจากกลุ่มหมอกและส่งเข้าความฝันของคนที่หลับสนิท
“มันก็ยังไม่แน่โร”
“แน่สิ ถ้านายเป็นชาวทริสทรอร์อย่างฉันนายจะพูดอย่างนั้นไม่ได้แน่”
“นายตั้งใจจะบอกอะไร”
“....”
“นายจะหาว่าเฟรินตกลงรับข้อเสนอนั้นงั้นเหรอ”
“ก็อาจจะ”
ผัวะ! หมัดที่กระแทบมาแรงจนเรียกเลือดจากโรได้ แต่คนโดนต่อยก็ทำแค่เช็ดเลือดออกจากมุมปากและยืนนิ่ง
“เฟรินมันไม่ทำอย่างนั้นหลอก มันติ๊งต๊อง”
“ใช่ หมอนั่นติ๊งต๊อง” พูดจบก็หันไปหาเจ้าคนที่เงียบมานานในห้อง
“แล้วนายน่ะ มีวิธีช่วยอะไรได้บ้างไหมคาโล”
คทาปรากฏขึ้นในมือของคาโลและฉายแสงจ้า ลมเย็นพัดเอื่อยในห้อง
“ด้วยอำนาจ..”
เปรี้ยงงงงง!!!! เพ๊ง!!!! พึ่งเริ่มต้นได้เพียงเท่านั้นสายฟ้าสายหนึ่งก็พุ่งลงมากระแทกหน้าต่างเหนือเตียงของโรเข้าอย่างจังจนกระจกที่แตกกระเด็นไปบาดต้นแขนคาโล
“อึก! อะไร...” ร่างสูงของเขาทรุดลงไปกองกับพื้นผิวแก้วเริ่มแดงระเรือ เหงื่อกายไหลซึมพร้อมหายใจหอบ
“คาโลๆ” คิลและโรรรีบวิ่งเข้าไปประครองและดูอาการด้วยความตกใจ
“มันเกิดอะไรขึ้น ไอ้โรทำไรสักอย่างดิ” ในขณะที่หันไปคุยกับโรนัยต์ตาสีม่วงคู่นั้นก็เบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจทำให้โรหันไปมองข้างหลังตาม แสงสีชมพูจางๆที่พื้นเมื่อกี้ในตอนนี้มันเป็นสีแดง สัญลักษณ์รูปมงกุฏสีแดงเข้มขนาดใหญ่ลอยขึ้นเหนือเตียงของเฟริน อักขระอักษรเวทมนต์โบราณสีดำลอยต่อแถวเรียงตัวกันออกมาจากใต้เตียงของเฟรินและเรียงกันเป็นวงกลมล้อมรอบมงกุฏขนาดใหญ่ ประกายสายฟ้าสีน้ำเงินวิ่งไปมาบนตัวอักษร หมอกควันสีดำเข้มลอยขึ้นเหนือวงเวท ร่วมตัวกันเป็นมังกรตัวโตจนต้องขดตัวกลม ปีกแข็งแรงของมันกางออกได้ไม่เต็มที่เพียงกระทบผนังห้องนิดเดียวกำแพงก็ร้าว มันลืมตาขึ้นนัยน์ตาคู่ดุทอแสงสีทองมองเฟรินก่อนจะเบือนหน้าไปมองเพื่อนของเด็กหนุ่มอีกสามคนที่กองกันอยู่บนพื้น และส่งเสียงคำรามดังก้องให้ได้ยินกันทั่วทั้งเอดินเบิร์ก .........
JJJJJJJJJJJJJJJJJJJ
ต้องขอโทษด้วยค่ะกับการห่างหายไปนาน.......มาก!
ถ้าคุณอ่านมาถึงตอนนี้ได้ล่ะก็ ขอบคุณจริงๆค่ะ
ความคิดเห็น