คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : สอบ
เสียงเชียร์รอบสนามดังระงมมาจากรอบทิศเมื่อสัญญาณปล่อยตัวดังขึ้น ฝูงม้าและผู้สอบที่ขี่หลังมันอยู่ทะยานออกจากจุดเริ่มด้วยความเร็วและวิ่งอย่างสูสีกันจนชวนให้คนดูนั่งลุ้นระทึก
ท่ามกลางคนดู หญิงสาวเจ้าของตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนกำลังยืมมองเด็กหนุ่มที่ควบม้าคนหนึ่ง คนที่บอกว่าจะได้ที่หนึ่งเพราะเธอช่วยอวยพร พลางลูบหัวเจ้าแมวน้อยอ้วนกลมในมือ และมีอีกสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่อยู่ด้วยกับเธอ คนตัวเล็กๆที่สูงไม่ถึงฝ่ามือเธอและมีเขากวางอยู่บนหัว มันนั่งอยู่บนไหล่ของเธอและใช้เวทมนต์เพื่อไม่ให้มีคนอื่นเห็นตัวนอกจากเธอคนนี้เจ้าหญิงของมัน เจ้าหญิงของเหล่าปีศาจ
เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจของชาวป้อมอัศวินดังขึ้น เมื่อเจ้าชายผู้สง่าอย่างคาโลเข้าเส้นชัยและคว้าธงแรกจากการขี้ม้ามาให้ป้อมอัศวินได้สำเร็จ
“ว้า... คนที่ฉันเชียร์พลาดไปซะแล้วล่ะ โกโดม”
เฟลิโอน่าพูดอย่างเสียดาย โกโดมมองตามสายตาของเจ้าหญิงของมันไปหยุดที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งผู้มีเส้นผมสีน้ำตาลอ่อน มันยกมือขึ้นกลางอากาศพรางดีดนิ้ว ‘เป๊าะ’ ฉับพลันภาพของเด็กหนุ่มคนนั้นก็ปรากฏกลางอากาศข้างหน้ามันโดยมีมันเท่านั้นที่เห็น นัยน์ตาโตๆสีดำนั้นเบิกกว้าง เด็กคนนั้น ตาคมโตสีน้ำตาลอ่อน เส้นผมตัดสั้นที่ดูอ่อนนุ่มสีเดียวกับนัยน์ตา สีหน้าดูเป็นมิตรสดใสอ่อนโยนและออกจะดูหวานนิดๆถ้าไม่ติดตาคู่คมนั้น..... นี่มัน...
“เนื้อคู่เจ้าหญิง!”
“ฮะ อะไรนะ!” เฟลิโอน่าถึงกับสะดุ้งกับคำพูดขององครักษ์เธอที่ตะโกนเสียงดัง ถ้าไม่ติดที่เวทมนต์ที่เจ้ากวางนี่ร่ายไว้คนคงจะหันมากันหมด “พูดอะไรน่ะโกโดม ไร้สาระนะ” หญิงสาวดุเจ้ากวางเบาๆพรางส่ายหน้าช้าๆ และเดินจูงม้าลงสนาม ถึงเวลาแข่งขันของปีสองบ้างแล้ว
เจ้าโกโดมนั่งเกาะเจ้าหญิงแน่นขึ้นเมื่อม้าเข้าประจำที่ หัวสมองยังฉายภาพเด็กหนุ่มคนเมื่อกี้วนไปวนมา เนื้อคู่มักจะหน้าตาคล้ายกัน ถ้างั้น...ก็ต้องช่วยให้เจ้าหญิงได้อยู่กับเนื้อคู่ให้ได้!
..........................................................
“เพราะแกไอ้คาโลฉันถึงได้ที่สอง”
“......”
“ฮะ..ฮะ... ฮัด..เช้ย ฮัดเช้ย!” เฟรินถูจมูกสองสามครั้งอย่างเซ็งๆ “ดีนะที่ยังมีสาวๆบ่นคิดถึงฉัน ไม่งั้นฉันโกรธนายนานแน่”
“รู้ได้ไงว่ามีสาวคิดถึง”
“จามสองครั้งไง”
“ไร้สาระ” คาโลผูกม้าเสร็จก็เดินหนีไปหาเรนอลที่ยืนส่งยิ้มหวานจับใจให้มัน และนั่นก็เรือกอารมณ์กรุ่นๆของเฟรินให้ครุขึ้นมาอีกได้ดีทีเดียว
“โธ่ โชว์สาวเหมือนกันแล้วมาบ่นว่าเราไร้สาระ เก๊กซะไม่มี ท่านเจ้าชายหอคอยงาช้างเอ้ย..เดี๋ยววิชาฟันดาบฉันจะโกยคะแนนจากสาวงามบ้าง ชิ!”
แล้วก็เป็นจริงดังคำพูดเมื่อคู่แข่งที่เจอนั้นมาจากแผ่นดินประชาชนและดูจะเป็นคนเรียบร้อย เพียงแค่ตวัดดาบเพียงสองทีดาบก็หลุดมืออีกฝ่ายแล้ว
และวิชาสุดท้ายของรอบบ่าย เวทมนต์กับอาจารย์แม่มดวิงกี้.... กี้ๆๆๆ ให้ตายเถอะใช้คทาเก๊มาตลอดแถมคาถาก็ยาวชิบหายวายปลวก ฟังทีก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เข้าหูหมาทะลุหูแมว โอ๊ย........ปวดตับ
ณ ห้องพักชั้นบนสุดของแสตนเชียร์ของป้อมอัศวินปี1 ที่มีคนเหลือแค่สามคนเพราะที่เหลืออยู่ดูการสอบที่นอกห้อง
“นายเลิกเดินไปเดินมาซะทีเถอะเฟริน ปวดหัว” คิลมัสเลิกสนใจการควงคทาเล่นแล้วหันไปหาเพื่อน
“ฉันก็เหมือนกัน บอกอาจารย์ด้วยว่าฉันปวดหัวไม่สบายมาสอบไม่ได้นอนพักอยู่ห้องพยาบาล บาย”คิลมองเฟรินและอ้าปากค้างกับคำพูดที่ไอ้เพื่อนตัวแสบมันพูดมายาวเหยียดแบบไม่พักหายใจแล้วยังเดินไปเปิดประตูอย่างไวไม่มีหอบ
แต่....ก็ไปได้แค่นั่นเมื่อเปิดไปเจอคาโลมัน
“ไปไหน”
“ปวดหัว”
“ตอแหล”
แร๊งงงงงงงงงงง คือความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวเฟริน แล้วแขนเรียวของคาโลก็ล็อคเข้าที่คอเจ้าตัวก่อนจะลากเข้าห้องตามเดิม
“แอกๆ ปะ..ปล่อย ไอ้คาโล” แขนเรียวขาวนั้นปล่อยออกจากคนประท้วงแล้วเดินไปนั่งลงตรงกลางระหว่างคิลกับโร
“เล่นเกือบอวก คนหายใจลำบากนะเฟ้ย” เฟรินมองคาโลตาเขียว
“ลูกผู้ชายเขาหนีปัญหากันเหรอ”
“ฉันชอบคำพูดนายว่ะคาโล” คิลยิ้มอย่างถูกใจ
“เป็นหัวขโมยมันก็ต้องหนีเป็นนิสัยอยู่แล้วหนิถ้าไม่อยากถูกจับ” โรพูดขึ้นบ้างแล้วจิบชาขณะที่ยังจ้องตาเฟรินอยู่
เฟรินมองกวาดเพื่อนทีละคนอย่างไม่ชอบใจ นี่..เขาโดนรุม เขาโดนรุม โดนรุม โดนรุม! ไอ้หมาหมู่!!!!!!!!
“ใครว่าฉันหนี!”
“ฉัน!” สามเสียงประสานขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมายและมองหน้าเฟรินนิ่ง
“ไม่ได้ถาม! ฉันไม่ได้หนี แค่จะไปหายาแกปวดหัวกินก่อนกลับมาน่ะ” แก้ตัวเสร็จเจ้าตัวเลยถือโอกาสแจกยิ้มหวานหว่านให้เพื่อนเชื่อ
“เหรอ......” คิลว่าแล้วมองเฟรินด้วยสายตาที่บอกให้รู้ว่ามันรู้ว่าเขาคิดอะไร
“เออ.......” ทีนี่เฟรินเลยยืนยันแล้วยักคิ้วข้างนึง
“หึ” เพื่อนในห้องหันไปมองคาโลที่หัวเราะในลำคอและจ้องหน้าเฟรินนิ่ง แบมือข้างหนึ่งขึ้นมาข้างหน้า คทา..คทาที่เมื่อคืนพวกเขาช่วยกันทำปรากฏขึ้นแทนที่อากาศที่ว่างป่าวบนมือคาโล
“ของนาย” พอเฟรินรับมา คาโลก็ลุกและเดินจะออกจากห้อง
“ไปไหน” เฟรินถามขึ้นในขณะที่โรอมยิ้มเหมือนรู้อยู่แล้วและคิลกลับไปสนใจกับการควงคทาเล่นต่อ
“สอบ”
ปัง!
“เราก็ออกไปกันบ้างเถอะ” โรที่พูดขึ้นยืนขึ้นก่อนจะได้รับการพยักหน้าจากเพื่อนทั้งสองคนเป็นการเห็นด้วย
..............................................
บางที...............
.........โชคร้ายกับเขา ............. อาจจะเป็นของคู่กันอย่างช่วยไม่ได้
...และ.............ชะตาอาจร่วมเล่นตลกควบคู่ไปกับโชคร้าย...............เพื่อความซวยที่เกิดขึ้น T^T
“เฟริน เดอบอว์โร ฉันบอกให้เธอทำอะไรนะ” เสียงเย็นเฉียบ ดุดันของแม่มดวิงกี้ดังกังวานก้องในสนาม ราวกับกำลังฟังคำพิพากษาจากซาตาน เหงื่อเม็ดเล็กๆปรากฏมาจากหน้าผากและแผ่นหลัง แต่เจ้าตัวก็ยังคงรักษาสีหน้าให้ดูดีและมียิ้มน้อยๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ให้เรียกสิ่งที่ชอบมากที่สุดฮะ”
“แล้วที่เธอทำนี่มันอะไรกัน เธอชอบเจ้าชุดฟูฟ่องสีขาว แถมยังมีปีกแมลงนี่น่ะเหรอ อยากใส่หรือไง!”
เฟรินเริ่มไล่สายตามองวิงกี้ตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้ง ชุดฟูฟ่องที่เต็มไปด้วยลูกไม้สีขาวและการออกแบบอย่างสวยงามลงตัวแถมด้วยปีกสีใสสี่ปีกอยู่ที่หลัง ตามด้วยดอกไม้ทัดหูสีฟ้าสวย อยากจะขำก็ขำไม่ออก ร้องไห้ก็ไม่ได้ สาบานได้ว่าถ้าเขาไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ แต่เป็นผู้ชมสักที่รอบสนาม เขาคงขำค้างไปแล้ว ไม่ได้เข้ากับวิงกี้เล้ย......พับผ่าสิ!
“ผมชอบนางฟ้าครับ”
เสียงฮ่าดังขึ้นอีกรอบสนามบ่งบอกให้เขารู้ในข้อที่เขารู้อยู่แล้วตอนนี้นั่นคือ...เขาดูปัญญาอ่อน! ... มากด้วย!
“เธอว่าอะไรนะ”
“นางฟ้าเป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์ดีงาม อ่อนโยน พูดจาอ่อนหวาน ปัญญาชาญฉลาดและสิ่งที่ดีงามต่างๆทั้งในทางความเชื่อ ในเรื่องเล่า ในนิทาน เป็นตัวอย่างในด้านดีๆให้ทำสิ่งดีๆ แม้จะเชื่อว่ามีจริงหรือไม่มีจริงแต่ในสิ่งต่างๆที่เล่าต่อกันมานางฟ้าก็เป็นคำที่มีความหมายดี แล้วก็สวยด้วย”
“.....” วิงกี้ยังคงจ้องหน้าเฟรินนิ่ง
“(^- -)เอ่อ...ผมควรจะเรียกนางฟ้ามา....เอ่อ..แบบไม่ใช่แค่ชุดใช่ไหมฮะ” เฟรินทำหน้าสำนึกผิด นัยน์ตานั่นวอกแว้กเหล่มองผู้ชมที่นั่งยิ้มกันบ้าง ขำกับบ้างรอบสนามจนมาเจอที่นั่งอาจารย์ .. และ...ปราชญ์เลโมธีนั่งยิ้ม ชามัลนั่งยิ้มแต่มันคงจะดูเป็นตลกร้ายสำหรับชามัลเพราะคิ้วงี้ผูกกันชิบเป๋งเลย รอยยิ้มนั่นก็รอยยิ้มอยากฆ่าคนชัดๆ และอีกหลายคนที่ถึงแม้จะมีล่องรอยความไม่พอใจอยู่บางก็ยังอมยิ้มนิดๆ
“.......”
“.......”
“ต่อไป...เธอรองเรียกสิ่งที่ไม่ชอบออกมา” วิงกี้โบกมือผ่านหน้าวูบหนึ่งแล้วชุดทั้งชุดก็หายวับไปกลายเป็นชุดสีดำสนิทตัวเดิม
เฟรินหลับตานิ่ง...ปากพึมพำคาถาช้าๆเอือยๆเพราะจำไม่ค่อยได้แต่คาถาที่ร่ายนั่นกลับฟังดูนุ่มนวลและไหลนิ่งโดยไม่มีติดขัดตรงไหน ท้องฟ้าสดใสของบ่ายที่เคยมีพลันมืดหม่นลมหนาวพัดผ่านทำคนดูต้องนั่งกอดอกใบไม้สีเขียวแปลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลก่อนร่วงหล่น หิมะโปรยลงจากท้องฟ้า น้ำแข็งแผ่กระจายรอบพื้นสนาม
“ผมไม่ชอบอากาศหนาว มันทำให้สีเขียวหายไปจากข้างทางที่เดินผ่าน ไม่มีผีเสื้อคอยบินว่อน นกบินไปอากาศที่อุ่นกว่า พื้นป่าและต้นไม้ดูขาดชีวิต ท้องฟ้าสีหม่น และมันเป็นสิ่งที่พ่อไม่ชอบ มันทำให้พ่อผมปวดหลัง” เฟรินพูดนิ่งๆช้าๆมองวิ้งกี้ตรงๆก่อนจะกระแทกปลายคทาลงพื้นสิ่งที่เกิดขึ้นก็หายไป วิ้งกี้พยักหน้า
“สุดท้ายเรียกสิ่งที่เธอต้องการมา”
เฟรินร่ายคาถาอีกครั้งและสิ่งที่ปรากฏ........
“ผ้าห่ม?” วิ้งกี้ถามอยากเหวอๆ สองข้อที่ผ่านมาเฟรินอธิบายได้ดีทีเดียวถึงจะดูขัดใจบ้าง เฟรินพยักหน้าก่อนจะเสริมด้วยคำพูด
“ผมหนาว” เสียงหัวเราะรอบสนามดังอีกครั้ง วิ้งกี้เท้าเอว ยกมืออีกข้างตบหน้าตัวเองแล้วโบกมือไล่เฟรินออกนอกสนามและเรียกผู้สอบคนต่อไปออกมา
............................................................
ความคิดเห็น