ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บารามอส(บาราเฮ เอดินตี้ เฟรี่ เฟริน)

    ลำดับตอนที่ #10 : สอบ

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 57


     

     

     

                เสียงเชียร์รอบสนามดังระงมมาจากรอบทิศเมื่อสัญญาณปล่อยตัวดังขึ้น ฝูงม้าและผู้สอบที่ขี่หลังมันอยู่ทะยานออกจากจุดเริ่มด้วยความเร็วและวิ่งอย่างสูสีกันจนชวนให้คนดูนั่งลุ้นระทึก

     

                ท่ามกลางคนดู หญิงสาวเจ้าของตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนกำลังยืมมองเด็กหนุ่มที่ควบม้าคนหนึ่ง คนที่บอกว่าจะได้ที่หนึ่งเพราะเธอช่วยอวยพร พลางลูบหัวเจ้าแมวน้อยอ้วนกลมในมือ และมีอีกสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่อยู่ด้วยกับเธอ คนตัวเล็กๆที่สูงไม่ถึงฝ่ามือเธอและมีเขากวางอยู่บนหัว มันนั่งอยู่บนไหล่ของเธอและใช้เวทมนต์เพื่อไม่ให้มีคนอื่นเห็นตัวนอกจากเธอคนนี้เจ้าหญิงของมัน เจ้าหญิงของเหล่าปีศาจ

     

               เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจของชาวป้อมอัศวินดังขึ้น เมื่อเจ้าชายผู้สง่าอย่างคาโลเข้าเส้นชัยและคว้าธงแรกจากการขี้ม้ามาให้ป้อมอัศวินได้สำเร็จ

     

    “ว้า... คนที่ฉันเชียร์พลาดไปซะแล้วล่ะ โกโดม”

              เฟลิโอน่าพูดอย่างเสียดาย โกโดมมองตามสายตาของเจ้าหญิงของมันไปหยุดที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งผู้มีเส้นผมสีน้ำตาลอ่อน  มันยกมือขึ้นกลางอากาศพรางดีดนิ้ว เป๊าะฉับพลันภาพของเด็กหนุ่มคนนั้นก็ปรากฏกลางอากาศข้างหน้ามันโดยมีมันเท่านั้นที่เห็น นัยน์ตาโตๆสีดำนั้นเบิกกว้าง เด็กคนนั้น ตาคมโตสีน้ำตาลอ่อน เส้นผมตัดสั้นที่ดูอ่อนนุ่มสีเดียวกับนัยน์ตา สีหน้าดูเป็นมิตรสดใสอ่อนโยนและออกจะดูหวานนิดๆถ้าไม่ติดตาคู่คมนั้น.....  นี่มัน...

     

    “เนื้อคู่เจ้าหญิง!

     

    “ฮะ อะไรนะ!” เฟลิโอน่าถึงกับสะดุ้งกับคำพูดขององครักษ์เธอที่ตะโกนเสียงดัง ถ้าไม่ติดที่เวทมนต์ที่เจ้ากวางนี่ร่ายไว้คนคงจะหันมากันหมด “พูดอะไรน่ะโกโดม ไร้สาระนะ” หญิงสาวดุเจ้ากวางเบาๆพรางส่ายหน้าช้าๆ และเดินจูงม้าลงสนาม   ถึงเวลาแข่งขันของปีสองบ้างแล้ว

     

                 เจ้าโกโดมนั่งเกาะเจ้าหญิงแน่นขึ้นเมื่อม้าเข้าประจำที่ หัวสมองยังฉายภาพเด็กหนุ่มคนเมื่อกี้วนไปวนมา  เนื้อคู่มักจะหน้าตาคล้ายกัน ถ้างั้น...ก็ต้องช่วยให้เจ้าหญิงได้อยู่กับเนื้อคู่ให้ได้!

     

     

     

    ..........................................................

     

    “เพราะแกไอ้คาโลฉันถึงได้ที่สอง”

     

    “......”
     

    “ฮะ..ฮะ... ฮัด..เช้ย ฮัดเช้ย!” เฟรินถูจมูกสองสามครั้งอย่างเซ็งๆ “ดีนะที่ยังมีสาวๆบ่นคิดถึงฉัน ไม่งั้นฉันโกรธนายนานแน่”

     

    “รู้ได้ไงว่ามีสาวคิดถึง”

     

    “จามสองครั้งไง”

     

    “ไร้สาระ” คาโลผูกม้าเสร็จก็เดินหนีไปหาเรนอลที่ยืนส่งยิ้มหวานจับใจให้มัน และนั่นก็เรือกอารมณ์กรุ่นๆของเฟรินให้ครุขึ้นมาอีกได้ดีทีเดียว

     

    “โธ่ โชว์สาวเหมือนกันแล้วมาบ่นว่าเราไร้สาระ เก๊กซะไม่มี ท่านเจ้าชายหอคอยงาช้างเอ้ย..เดี๋ยววิชาฟันดาบฉันจะโกยคะแนนจากสาวงามบ้าง ชิ!

     

                 แล้วก็เป็นจริงดังคำพูดเมื่อคู่แข่งที่เจอนั้นมาจากแผ่นดินประชาชนและดูจะเป็นคนเรียบร้อย เพียงแค่ตวัดดาบเพียงสองทีดาบก็หลุดมืออีกฝ่ายแล้ว

     

                และวิชาสุดท้ายของรอบบ่าย เวทมนต์กับอาจารย์แม่มดวิงกี้.... กี้ๆๆๆ ให้ตายเถอะใช้คทาเก๊มาตลอดแถมคาถาก็ยาวชิบหายวายปลวก ฟังทีก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เข้าหูหมาทะลุหูแมว โอ๊ย........ปวดตับ

     

                  ห้องพักชั้นบนสุดของแสตนเชียร์ของป้อมอัศวินปี1 ที่มีคนเหลือแค่สามคนเพราะที่เหลืออยู่ดูการสอบที่นอกห้อง

     

    “นายเลิกเดินไปเดินมาซะทีเถอะเฟริน  ปวดหัว” คิลมัสเลิกสนใจการควงคทาเล่นแล้วหันไปหาเพื่อน

     

    “ฉันก็เหมือนกัน บอกอาจารย์ด้วยว่าฉันปวดหัวไม่สบายมาสอบไม่ได้นอนพักอยู่ห้องพยาบาล บาย”คิลมองเฟรินและอ้าปากค้างกับคำพูดที่ไอ้เพื่อนตัวแสบมันพูดมายาวเหยียดแบบไม่พักหายใจแล้วยังเดินไปเปิดประตูอย่างไวไม่มีหอบ

     

                แต่....ก็ไปได้แค่นั่นเมื่อเปิดไปเจอคาโลมัน

     

    “ไปไหน”

     

    “ปวดหัว”

     

    “ตอแหล”

                 แร๊งงงงงงงงงงง คือความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวเฟริน แล้วแขนเรียวของคาโลก็ล็อคเข้าที่คอเจ้าตัวก่อนจะลากเข้าห้องตามเดิม

     

    “แอกๆ ปะ..ปล่อย ไอ้คาโล”      แขนเรียวขาวนั้นปล่อยออกจากคนประท้วงแล้วเดินไปนั่งลงตรงกลางระหว่างคิลกับโร

     

    “เล่นเกือบอวก คนหายใจลำบากนะเฟ้ย” เฟรินมองคาโลตาเขียว

     

    “ลูกผู้ชายเขาหนีปัญหากันเหรอ”

     

    “ฉันชอบคำพูดนายว่ะคาโล” คิลยิ้มอย่างถูกใจ

     

    “เป็นหัวขโมยมันก็ต้องหนีเป็นนิสัยอยู่แล้วหนิถ้าไม่อยากถูกจับ” โรพูดขึ้นบ้างแล้วจิบชาขณะที่ยังจ้องตาเฟรินอยู่

     

             เฟรินมองกวาดเพื่อนทีละคนอย่างไม่ชอบใจ นี่..เขาโดนรุม เขาโดนรุม โดนรุม โดนรุม! ไอ้หมาหมู่!!!!!!!!

     

    “ใครว่าฉันหนี!

     

    “ฉัน!” สามเสียงประสานขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมายและมองหน้าเฟรินนิ่ง

     

    “ไม่ได้ถาม! ฉันไม่ได้หนี แค่จะไปหายาแกปวดหัวกินก่อนกลับมาน่ะ” แก้ตัวเสร็จเจ้าตัวเลยถือโอกาสแจกยิ้มหวานหว่านให้เพื่อนเชื่อ

     

    “เหรอ......” คิลว่าแล้วมองเฟรินด้วยสายตาที่บอกให้รู้ว่ามันรู้ว่าเขาคิดอะไร

     

    “เออ.......” ทีนี่เฟรินเลยยืนยันแล้วยักคิ้วข้างนึง

     

                     “หึ” เพื่อนในห้องหันไปมองคาโลที่หัวเราะในลำคอและจ้องหน้าเฟรินนิ่ง แบมือข้างหนึ่งขึ้นมาข้างหน้า คทา..คทาที่เมื่อคืนพวกเขาช่วยกันทำปรากฏขึ้นแทนที่อากาศที่ว่างป่าวบนมือคาโล

     

    “ของนาย” พอเฟรินรับมา คาโลก็ลุกและเดินจะออกจากห้อง

     

    “ไปไหน” เฟรินถามขึ้นในขณะที่โรอมยิ้มเหมือนรู้อยู่แล้วและคิลกลับไปสนใจกับการควงคทาเล่นต่อ

     

    “สอบ”

     

          ปัง!

     

    “เราก็ออกไปกันบ้างเถอะ”  โรที่พูดขึ้นยืนขึ้นก่อนจะได้รับการพยักหน้าจากเพื่อนทั้งสองคนเป็นการเห็นด้วย

     

     

    ..............................................

     

    บางที...............

    .........โชคร้ายกับเขา ............. อาจจะเป็นของคู่กันอย่างช่วยไม่ได้

    ...และ.............ชะตาอาจร่วมเล่นตลกควบคู่ไปกับโชคร้าย...............เพื่อความซวยที่เกิดขึ้น T^T

     

     

    “เฟริน เดอบอว์โร ฉันบอกให้เธอทำอะไรนะ” เสียงเย็นเฉียบ ดุดันของแม่มดวิงกี้ดังกังวานก้องในสนาม ราวกับกำลังฟังคำพิพากษาจากซาตาน เหงื่อเม็ดเล็กๆปรากฏมาจากหน้าผากและแผ่นหลัง แต่เจ้าตัวก็ยังคงรักษาสีหน้าให้ดูดีและมียิ้มน้อยๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

    “ให้เรียกสิ่งที่ชอบมากที่สุดฮะ”

     

    “แล้วที่เธอทำนี่มันอะไรกัน เธอชอบเจ้าชุดฟูฟ่องสีขาว แถมยังมีปีกแมลงนี่น่ะเหรอ อยากใส่หรือไง!

     

                  เฟรินเริ่มไล่สายตามองวิงกี้ตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้ง ชุดฟูฟ่องที่เต็มไปด้วยลูกไม้สีขาวและการออกแบบอย่างสวยงามลงตัวแถมด้วยปีกสีใสสี่ปีกอยู่ที่หลัง ตามด้วยดอกไม้ทัดหูสีฟ้าสวย อยากจะขำก็ขำไม่ออก ร้องไห้ก็ไม่ได้ สาบานได้ว่าถ้าเขาไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ แต่เป็นผู้ชมสักที่รอบสนาม เขาคงขำค้างไปแล้ว  ไม่ได้เข้ากับวิงกี้เล้ย......พับผ่าสิ!

     

    “ผมชอบนางฟ้าครับ”

     

                 เสียงฮ่าดังขึ้นอีกรอบสนามบ่งบอกให้เขารู้ในข้อที่เขารู้อยู่แล้วตอนนี้นั่นคือ...เขาดูปัญญาอ่อน! ... มากด้วย!  

     

    “เธอว่าอะไรนะ”

     

    “นางฟ้าเป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์ดีงาม อ่อนโยน พูดจาอ่อนหวาน ปัญญาชาญฉลาดและสิ่งที่ดีงามต่างๆทั้งในทางความเชื่อ  ในเรื่องเล่า ในนิทาน เป็นตัวอย่างในด้านดีๆให้ทำสิ่งดีๆ แม้จะเชื่อว่ามีจริงหรือไม่มีจริงแต่ในสิ่งต่างๆที่เล่าต่อกันมานางฟ้าก็เป็นคำที่มีความหมายดี   แล้วก็สวยด้วย”

     

    “.....”     วิงกี้ยังคงจ้องหน้าเฟรินนิ่ง

     

    “(^- -)เอ่อ...ผมควรจะเรียกนางฟ้ามา....เอ่อ..แบบไม่ใช่แค่ชุดใช่ไหมฮะ” เฟรินทำหน้าสำนึกผิด นัยน์ตานั่นวอกแว้กเหล่มองผู้ชมที่นั่งยิ้มกันบ้าง ขำกับบ้างรอบสนามจนมาเจอที่นั่งอาจารย์ .. และ...ปราชญ์เลโมธีนั่งยิ้ม ชามัลนั่งยิ้มแต่มันคงจะดูเป็นตลกร้ายสำหรับชามัลเพราะคิ้วงี้ผูกกันชิบเป๋งเลย รอยยิ้มนั่นก็รอยยิ้มอยากฆ่าคนชัดๆ และอีกหลายคนที่ถึงแม้จะมีล่องรอยความไม่พอใจอยู่บางก็ยังอมยิ้มนิดๆ

     

    “.......”

     

    “.......”

     

    “ต่อไป...เธอรองเรียกสิ่งที่ไม่ชอบออกมา” วิงกี้โบกมือผ่านหน้าวูบหนึ่งแล้วชุดทั้งชุดก็หายวับไปกลายเป็นชุดสีดำสนิทตัวเดิม

     

                 เฟรินหลับตานิ่ง...ปากพึมพำคาถาช้าๆเอือยๆเพราะจำไม่ค่อยได้แต่คาถาที่ร่ายนั่นกลับฟังดูนุ่มนวลและไหลนิ่งโดยไม่มีติดขัดตรงไหน ท้องฟ้าสดใสของบ่ายที่เคยมีพลันมืดหม่นลมหนาวพัดผ่านทำคนดูต้องนั่งกอดอกใบไม้สีเขียวแปลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลก่อนร่วงหล่น หิมะโปรยลงจากท้องฟ้า น้ำแข็งแผ่กระจายรอบพื้นสนาม 

     

    “ผมไม่ชอบอากาศหนาว มันทำให้สีเขียวหายไปจากข้างทางที่เดินผ่าน ไม่มีผีเสื้อคอยบินว่อน นกบินไปอากาศที่อุ่นกว่า พื้นป่าและต้นไม้ดูขาดชีวิต ท้องฟ้าสีหม่น และมันเป็นสิ่งที่พ่อไม่ชอบ มันทำให้พ่อผมปวดหลัง” เฟรินพูดนิ่งๆช้าๆมองวิ้งกี้ตรงๆก่อนจะกระแทกปลายคทาลงพื้นสิ่งที่เกิดขึ้นก็หายไป วิ้งกี้พยักหน้า

     

    “สุดท้ายเรียกสิ่งที่เธอต้องการมา”

     

                 เฟรินร่ายคาถาอีกครั้งและสิ่งที่ปรากฏ........

     

    “ผ้าห่ม?” วิ้งกี้ถามอยากเหวอๆ สองข้อที่ผ่านมาเฟรินอธิบายได้ดีทีเดียวถึงจะดูขัดใจบ้าง  เฟรินพยักหน้าก่อนจะเสริมด้วยคำพูด

     

    “ผมหนาว” เสียงหัวเราะรอบสนามดังอีกครั้ง  วิ้งกี้เท้าเอว ยกมืออีกข้างตบหน้าตัวเองแล้วโบกมือไล่เฟรินออกนอกสนามและเรียกผู้สอบคนต่อไปออกมา

     

     

     

    ............................................................

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×