ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 เขาจะจำฉันได้ไหม?
1
เขาจะจำฉันได้ไหม ?
ย๊ากกกกกกกกกกก
พลัก
โครม
มีความรุนแรงเกิดขึ้น ณ ดาดฟ้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีผู้ที่เห็นเหตุการณ์และรับเคราะห์จากบาทาเป็นกลุ่มชายกลุ่มหนึ่ง ที่แค่อยากจะขึ้นมาสูบบุหรี่บนดาดฟ้าโรงเรียนเท่านั้นเอง กลุ่มชายพวกนี้ไม่คิดว่าจะได้มาเจอสิ่งที่สยดสยองยิ่งกว่าผี หรือปีศาจ...
“ยกตีนขึ้น”
เสียงที่ฟังดูแหบพร่าและหงุดหงิดตรงหน้าทำให้พวกผู้ชายกลุ่มนั้นผวา...ก็เมื่อกี้พวกเขาเห็นกระโดดลงมา แต่เมื่อพวกเขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าก็เห็นเพียงท้องฟ้าเท่านั้น หรือคนๆ นี้ จะมาจากท้องฟ้า แต่...ไม่น่าจะใช่เพราะสภาพเหมือนมาจากนรกสะมากกว่า
ภาพที่อยู่ตรงหน้าพวกผู้ชายกลุ่มนี้คือ ผู้หญิงซึ่งอาจจะไม่ไช้ก็ได้...ไว้ผมยาวรุงรัง มีผมปิดหน้าจนเกือบครึ่งหน้า ใส่เสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ที่เปื้อนไปด้วยขี้ดิน ใส่กางเกงกีฬาขาสั้นสีดำที่ป้ายยี่ห้อข้างหน้าขากางเกงขาดไปแล้ว สวมรองเท้าที่ทั้งดำและขาดจนเยินรูปร่างผอมจนคล้ายศพ สิ่งพวกนี้ไม่ได้ทำให้พวกผู้ชายกลุ่มนั้นกลัวเท่าไร แต่..ที่หน้ากลัวคือเลือดที่ติดผิวหนังจนแห้งบนแขนข้างขวา และกลิ่นที่เหมือนซากศพ...
“ก็...บอกให้ยกตีนขึ้นไง ฟังไม่รู้เรื่องหรอ! ”
เสียงที่ฟังดูหงุดหงิดกว่าเก่านั้นทำให้พวกผู้ชายกลุ่มนั้นที่กำลังจ้องจนเพลินกับความสยดสยองถึงกับสะดุ้งยกตีนขึ้นพร้อมกันทันที่
ซากศพ (พวกผู้ชายกลุ่มนั้นในหัวสมองคิดว่าเจอซากศพ) ยิ้มไม่สิ น่าจะเรียกว่าแสยะยิ้มมากกว่า...ยิ้มจนเห็นเขี้ยวสีเหลืองออยที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่า...ซึ่งสิ่งนี้ล่ะที่ทำให้พวกผู้ชายกลุ่มนั้นอยู่ไม่ได้เพราะมันคงน่ากลัวเกินกว่าที่มนุษย์ปกติรับได้หรือเหม็นจนเกินไป
อ๊ากกกกกกกก
เสียงของพวกผู้ชายกลุ่มนั้นดังลั่นไปทั่วดาดฟ้าในยามค่ำคืนที่มีดวงจันทร์เท่านั้นที่รู้ว่าความจริงเป็นเช่นไร...อิอิ
“จะแหกปากกันไปทำไมเนี่ย หนวกหูชะมัด”
ฉันซึ่งเป็นสาเหตุของการกรี๊ดร้องของผู้ชายกลุ่มนั้นที่วิ่งหนีไป เกาหัวที่ไม่ได้สระมาเดือนหนึ่งด้วยความงงงวยกับพฤติกรรมของพวกผู้ชายกลุ่มนั้น ฉันเดินไปหยิบลูกอมเม็ดสุดท้ายของฉันที่เมื่อกี้มีชายคนหนึ่งในกลุ่มนั้นเหยียบขึ้นมาแล้วแกะกิน เพราะลูกอมเม็ดนี้แท้ๆ เชียวที่ทำให้ฉันหงุดหงิดและเหนื่อยขนาดนี้ แต่...ถ้าจะพูดถึงต้นสายปลายเหตูจริงๆ ก็น่าจะมาจากแมลงสาบตัวใหญ่สีน้ำตาลตัวนั้นที่เอาลูกอมของฉันไป ซึ่งทำให้ฉันต้องไล่ตามมาถึงที่เก็บแท็งก์น้ำบนดาดฟ้า (ซึ่งมันจะอยู่สูงกว่าดาดฟ้า ส่วนของแท็งก์น้ำจะอยู่ตรงข้างบนที่เปิดประตูเข้ามาบนดาดฟ้า) แต่...แมลงสาบมันก็ยังบินหนีไปข้างล่างเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่พวกผู้ชายกลุ่มนั้นมาพอดี ทำให้ฉันที่จะกระโดดเหยียบแมลงสาบ ดันเหยียบหน้าของผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มนั้นสะเต็มบาทาโดนไม่ได้ตั้งใจ
“เฮ้อ! นี้ก็หนีออกจากบ้านมาได้เดือนหนึ่งแล้วสินะ”
สาเหตุที่ฉันหนีออกจากบ้านมาก็เพราะหมา...บ้างคนอาจจะอ่านผิด แต่ฉันขอย้ำว่ามันคือหมา แถมหมาตัวนั้นไม่ใช้หมาบ้านฉันด้วยเพราะบ้านฉันไม่ได้มีหมา ถ้ามีก็คงได้ฆ่าหมามาต้มกินแน่ ถ้านิสัยเหมือนกับหมาตัวนั้นที่มากัดแขนฉันจะเลือดออกซึ่งตอนนี้เลือดยังติดแขนฉันอยู่เลยไม่รู้ว่าจะติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าหรือเปล่า บ้างคนคงอยากรู้แล้วสินะว่าทำไมฉันถึงแค้นหมาจนอยากมาต้มกิน และสาเหตุที่ฉันโดนไล่ออกจากบ้าน....
ตอนเที่ยงที่อากาศสดใส ฉันมายืนขยี้ขี้ตาที่หน้าบ้านเพราะพึ่งตื่นในชุดเสื้อยืดกับกางเกงกีฟ้า
โฮ่งโฮ่ง
มีหมาตัวหนึ่งสีน้ำตาลขนพู่มายืนเห่าตรงหน้าฉันซึ่งฉันจำได้ว่าเป็นหมาตรงข้ามบ้านฉัน
“เห่าหาอะไร”
ฉันถามมันซึ่งฉันก็รู้แน่นอนอยู่แล้วว่าหมาคงตอบเป็นภาษาคนไม่ได้ (แต่ก็อยากถาม)
งับ
อ๊ากกกกกกกกก!!
หมากัดเข้าไปที่แขนฉันจนร้องเสียงดัง
พลัวะ
ฉันต่อยหมาจะมันกระเด้นไปติดพุ่มไม้
“กรี๊ดดดด...ตายแล้วไอจัง เป็นอย่างไงบ้าง”
ผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูสวยและหุ่นดี วิ่งมาประคองหมาที่กัดฉัน
“นี้เธอมาต่อยหมาฉันทำไม หมาฉันไปทำอะไรให้เธอยะ!!!”
ฉันถึงกับอึ้งไปเลย นี้ไม่เห็นหรือไงว่าแขนฉันมีเลือดไหลอยู่
“เอะอะโวยวายอะไรกัน”
แม่ที่ออกมายืนข้างฉันถามด้วยความสงสัย
“ก็ลูกสาวคุณน้านะสิค่ะ ต่อยหมาหนูสะติดพุ่มไม้เลย”
“หา! จริงหรอค่ะ ขอโทษแทนลูกสาวฉันด้วยนะค่ะ นี้ยายฮอสก็ขอโทษสิ”
“ไม่”
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ตายแล้วไม่มีมารยาทผู้ดีเอาเสียเลย รวยสะเปล่า”
ผู้หญิงคนนั้นพูดพึมพำซึ่งเสียงก็ไม่เบาเลยเพราะฉันได้ยิน
“นี้ปากหรอ คุณผู้ดี”
ฉันพูดแล้วเดินเข้าไปจะถีบหน้าผู้หญิงคนนั้น แต่...แม่ฉันห้ามไว้เสียก่อน
“นี้หยุดเดียวนี้นะ แม่สอนให้ทำตัวอย่างนี้หรอ ออกจากบ้านไปเดียวนี้เลยนะแล้วไม่ต้องกลับมาอีก”
ฉันถึงกับอึ้งคำพูดของแม่ไปเลย
“ได้ ถ้าแม่ต้องการ”
เมื่อฉันพูดจบก็วิ่งออกจากบ้านไปทันที่
และ...ทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวที่ฉันหนีออกจากบ้าน มันช่างไร้สาระสุดๆ เลยว่าไหม
แอ๊ดดดด
ฉันเปิดประตูเข้าไปในห้องบนดาดฟ้าที่มีสภาพยิ่งกว่ารังหนูพราะขยะกองไปทั่ว จนไม่มีที่เดิน
ปิ๊ด
ฉันเปิดทีวีซึ่งตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีรายการอะไรแล้วเพราะว่าเลยเที่ยงคืนมาแล้ว
ฟุดฟิด ฟุดฟิด
ฉันได้กลิ่นแปลกจึงดมหากลิ่น ซึ่งกลิ่นที่ลอยมานั้นก็ไม่ได้มาจากขยะที่กองอยู่เลย แต่...เป็นกลิ่นตัวฉันที่ไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ไม่ได้เปลี่ยนชุดมาทั้งเดือน ฟันก็ไม่ได้แปรงทั้งเดือน สรุปง่ายๆ ว่าตอนนี้กำลังเน่าได้ที่ทั้งที่ฉันกะจะไปอาบน้ำที่ปั้มน้ำมันข้างๆ โรงเรียนสักหน่อย แต่ก็ไม่มีแรงเลยไม่ไป ฉันหนีออกจากบ้านมามีเงินติดตัว 200 บาท เอาไปซื้อลูกอมของโปรดจนหมดเพราะคิดว่าเดียวแม่ก็คงให้คนมาตามกลับบ้าน แต่...นี้ก็เดือนหนึ่งแล้วก็ยังไม่มีใครมาตาม ช่วง 2 วันแรกฉันไปนอนข้างถนนเพราะไม่รู้ว่าจะนอนที่ไหน แต่วันถัดมาฉันก็นึกออกดาดฟ้าโรงเรียนมีห้องที่ฉันขอแม่ไว้ซึ่งแต่ก่อนเป็นห้องเก็บห้อง แต่ฉันดัดแปลงให้มาเป็นห้องของฉันเองฉันก็เลยเดินมาโรงเรียนระยะทางก็แค่ 10 กิโลเมตรเอง สบายๆ ชิวๆ แต่เมื่อฉันมาถึงก็ล้มตัวนอนทันที่ด้วยความเหนื่อยล้าจนกระดิกตัวไม่ได้ เออ...เมื่อกี้ลืมบอกไปว่าแม่ฉันเป็นเจ้าของโรงเรียนฉันก็เลยมีสิทธิ์เอาห้องบนดาดฟ้านี้มาเป็นของฉันได้ ตอนแรกที่ฉันมาอยู่ที่ก็รู้สึกเหงามากเลย แต่ตอนนี้ฉันก็ไม่เหงาแล้วล่ะเพราะมีทั้ง หนู แมงมุม มด ปลวก อยู่เป็นเพื่อนฉัน มีแต่แมลงสาบนี้ล่ะที่ฉันไม่อยากญาติดีด้วยเพราะชอบขโมยลูกอมของฉันไปกิน แต่...ตอนนี้ฉันก็กำลังคิดไปสานไมตรีกับแมลงสาบเหมือนกันนะ เพราะตอนนี้ไม่มีลูกอมเหลือสักเม็ดแล้ว ฉันก็คงไม่ต้องมีเรื่องกับแมลงสาบอีกอย่างน้อยฉันจะได้เพื่อนอีกสักตัวก่อนตาย....มันช่างน่าดีใจจริงๆ...
ฉันลืมตาขึ้นมาเพราะแสงแดดแยงตาดีจังที่ยังไม่ตายทั้งที่ไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออยู่แล้ว ฉันไม่สนหรอกว่าวันนี้วันที่เท่าไร เวลากี่โมงเพราะยังไงฉันก็ต้องตาย... ฉันพลิกตัวไปอีกด้านหลบแสงแดดที่แยงตาเพื่อหลับต่อ แต่ฉันก็หลับไม่ลงเมื่อ....
อ๊ากกกกกกกกกก
ฉันร้องแหกปากจนสุดเสียงเมื่อฉันเห็นผู้ชายคนหนึ่งนอนอยู่ข้างๆ ฉัน
“หาวววววว จะร้องเสียงดังทำไมล่ะครับคุณพี่ชายผมแค่มาขออาศัยนอนด้วยเท่านั้นเอง”
ผู้ชายคนนั้นบิดตัวแล้วลุกขึ้นมาผู้ชายคนนี้นึกว่าฉันเป็นผู้ชายงั้นหรอ
พลัวะ
ฉันต่อยหน้าผู้ชายคนนั้นอย่างแรงจนผู้ชายคนนั้นหน้าหันไปทันที่ด้วยความตกใจ
“อ้าว!! ต่อยทำไมอยากตายหรอ!!”
ผู้ชายคนนั้นพูดเสียงดังจนฉันต้องเอามือปิดหู
เพี้ยว
ผู้ชายคนนั้นจะต่อยฉันแต่ฉันจับข้อแขนเขาไว้ ผู้ชายคนนั้นดูเหมือนจะตกใจ แต่ก็ทำหน้านิ่งไว้
พรึบ
ผู้ชายคนนั้นลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ฉันที่จับแขนของผู้ชายคนนั้นอยู่เลยต้องลุกตาม
“ฉันก็แค่นอนเท่านั้นเองแล้วทำไมต้องชกด้วย ถ้าฉันไม่เมาเหล้าก็คงไม่มานอนที่นี้หรอก”
ตอนนี้ฉันรู้สึกเวียนหัวมากไม่รู้ว่าเพราะอะไร ฉันพยายามก้มลงหยิบยาแก้เมาที่เตียงโดยที่ยังจับข้อแขนผู้ชายคนนั้นไว้ ฉันยื่นให้ผู้ชายคนนั้น
“กินสะแล้วฉันก็เป็นผู้หญิงไม่ใช้ผู้ชาย...”
ผู้ชายคนนั้นตาโตมากด้วยความตกใจ
“แล้วตอนนี้ฉันก็หิวมากกก“
ตุ๊บ
ฉันปล่อยมือที่จับข้อแขนผู้ชายคนนั้นแล้วล้มลง ซึ่งเมื่อตาฉันกำลังปิดลงก็ได้ยินเสียง
“เจอแล้ว”
“เธอทำใจดีๆ ไว้นะ”
ฉันกระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับสายตา
“ตื่นแล้ว แม่ครับยัยฮอสตื่นแล้ว”
ฉันได้ยินเสียงพี่ชายพูดเสียงดัง แล้วฉันก็เห็นแม่เดินเข้ามาใกล้ฉัน ฉันได้กลิ่นยาฆ่าเชื้อไปทั่วโพรงจมูก
“ฮือๆ แม่ขอโทษนะลูกที่ไล่ลูกออกจากบ้านโดยไม่ถามลูกเลยว่าทำไมถึงไปต่อยหมาสารเลวตัวนั้น”
แม่ของฉันร้องไห้จนเครื่องสำอาจเละไปทั้งหน้า แค่เห็นแม่ร้องไห้ให้ฉันแค่นี้ฉันก็รู้สึกดีใจมากแล้วเพราะอย่างน้อยแม่ก็แคร์ฉัน
ฉันยกมือที่ไม่ค่อยมีแรงปาดน้ำตาให้แม่ แม่กุมมือฉันไว้แน่น
“ผอมลงไปเยอะเลยนะยายตัวดีรู้เปล่าว่าพี่ชายคนนี้คิดถึงแค่ไหน”
พี่ชายฉันที่พยายามกลั้นน้ำตายกมือลูบหัวฉัน
“ฮอสพี่ไปด่ายายเจ้าของมานั้นให้แล้วนะ ฮือ...ฮอสอย่าไปไหนอีกนะ”
พี่สายลมที่เป็นพี่สะใภ้ฉันร้องไห้ให้ฉันเสียงดังแล้วลูบหน้าฉันไปมาด้วยความรักใคร่
ตอนนี้ฉันรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกเลยที่ได้กลับมาเจอครอบครัวของฉันอีกครั้ง...
แม่ฉันบอกว่าฉันนอนหลับไปอาทิตย์หนึ่ง แม่นึกว่าฉันจะตายสะแล้ว แม่กลัวว่าฉันจะจากไปอีกคนเหมือนพ่อที่ไปทำงานต่างประเทศ ที่ขึ้นเรือไปชนภูเขาหิมะตาย
“ดีนะที่หนีออกจากบ้านตอนปิดเทมอไม่งั้นเสียการเรียนแย่”
พี่ชายของฉันที่นั่งข้างพี่สายลมพูด ตอนนี้ฉันออกจากโรงพยาบาลแล้วมาอยู่บ้านแล้ว
“รู้หรือเปล่าแม่จ้างคนไปหาแกตั้งหลายคนก็ยังหาไม่เจอ ไปหาถึงต่างประเทศก็ไม่มี แม่ร้องไห้บ้านเกือบแตก ดีที่หาเจอแล้วไปรับแกกลับมาทันไม่งั้นแกคงกลายเป็นศพตายบนดาดฟ้าไปแล้ว...”
พี่ชายของฉันพูดไม่หยุดจนฉันเรื่มเบื่อ
“เออ...เกือบลืมไปเลยคนที่แม่จ้างไปหาแกบอกว่ามีผู้ชายคนหนึ่งอยู่กับแกตอนนั้นด้วยเป็นใครหรอ”
ผู้ชายงั้นหรอ...แล้วฉันก็คิดออก ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร
“ไม่รู้สิ”
ฉันพูดแล้วส่ายหน้า
“เกือบโดนผู้ชายหลอกไปข่มขืนแล้วไหมล่ะ...”
แล้วพี่ชายของฉันก็บ่นต่อ...ฉันคิดว่าวันนี้คงไม่จบง่ายๆ แน่ๆ
“ขี่รถจักรยานไปโรงเรียนดีๆ นะ”
พี่สายลมมายืนส่งฉันที่หน้าบ้าน ช่วงนี้คนที่บ้านฉันถะนุถนอมฉันเป็นพิเศษ เพราะกลัวว่าฉันจะหนีออกจากบ้านอีก
“อืมไปก่อนนะ”
ฉันที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นตัวใหญ่ ผูกโบสีดำที่ปกเสื้อที่ตอนนี้จะหลุดอยู่แล้ว กระโปรงสีดำติดตาตุ่ม ผมสีแดงที่พี่สายลมย้อมให้ก่อนเปิดเทมอที่จริงแล้วผมของฉันเป็นสีดำ ตัดผมหน้าม้าเสมอคิ้ว มัดผมข้างหลังอย่างไม่สนใจ ที่จริงพี่สายลมจะมัดให้แต่ฉันไม่ยอมเพราะถ้าทรงผมสวยมันก็ไม่ใช้ตัวฉันนะสิ เพราะที่โรงเรียนฉันมีฉายาว่า ซากศพ แต่...ก็ไม่มีใครกล้าเรียกต่อหน้าฉันหรอกเพราะกลัว....
ฉันเดินเข้าตึกเรียนซึ่งแต่ล่ะก้าวที่ฉันเดินผ่านก็มีแต่คนหลีกทางให้ กระเป๋าเป้ของฉันเต็มไปด้วยที่ห้อยหัวกะโหลก กับแมงมุง มันเป็นความชอบส่วนตัวของฉันที่ทำให้คนอื่นขวัญผวา
“น่ารักเหมือนเดิมเลยนะอมยิ้ม”
ฉันเหลือบไปมองตามเสียงกรี๊ดกร๊าดของผู้หญิงเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนท่ามกลางพวกสาวๆ ท่าทางผู้ชายคนนั้นไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไรเมื่อฉันเพ่งมองก็จำได้ว่า ผู้ชายคนนั้นคือคนเดียวกันที่ฉันเจอที่ดาดฟ้า
“น่ากลัวจังเลยอ่ะอมยิ้มเขากลัว”
“จ้องมาด้วย”
พวกผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ ผู้ชายที่ชื่ออมยิ้มรีบเข้าไปเกาะแขนอมยิ้มทันที่ แล้วสายตาของฉันก็ปะสายตากับอมยิ้มเขาจ้องมองฉันอย่างไม่เกรงกลัวเป็นครั้งแรกที่มีคนจ้องมองฉันแล้วไม่เกิดการขวัญผวา...เขาจะจำฉันได้ไหมนะ...
..............................................................26/10/51 19.01น. (100%)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น