คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : คำสัญญา
ตอนที่ 3 คำสัญญา
“ตื่นได้แล้วคิบอม นี่มันเก้าโมงแล้วนะ”ฮยอกดึงผ้าห่มที่คลุมตัวคิบอมอยู่ออก แต่ก็ยังคงเหลือปลายผ้าไว้บนตัวคนตรงหน้านั้น
“ยังไม่อยากตื่นเลย นอนต่อน้าาาา.....”คิบอมดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเองอีกครั้ง แล้วนอนต่อแบบเดิม ให้ตายสิ นิสัยขี้เกียจที่แก้ยากแสนยากนี่ทำไมแก้ไม่ยอมหายสักทีน้าาาาาา....
“ตื่นได้แล้ว!! ชั้นมีเรื่องจะคุยกับนาย”คราวนี้ฮยอกออกแรงดึงผ้าห่มเต็มที่ จนมันหลุดจากตัวคนขี้เกียจ แล้วหล่นลงจากเตียง ไปกองอยู่กับพี้น
“เดี๋ยวค่อยคุยก็ได้”คิบอมหยิบหมอนสีขาวใบข้างๆมาปิดหูตัวเองพร้อมทำสีหน้าไม่พอใจอย่างแรง กับการตื้อไม่เลิกของคนตัวเล็กนี่
“ไม่ได้ต้องคุยเดี๋ยวนี้”ฮยอกกระชากหมอนที่คิบอมจับอยู่มากอดเอาไว้แน่น
“ก็ได้ๆ ขอเวลา15นาทีนะ แล้วค่อยมาคุย”คิบอมลุกขึ้นจากเตียงอย่างงัวเงีย แล้วเดินตรงไปที่ห้องน้ำ
ซ่าาาา!!!!เสียงน้ำจากฝักบัวแบบเดิมดังออกมาข้างนอก ฮยอกกำลังนั้งคิดหนักอยู่กับการที่จะบอกอะไรสักอย่างกับคิบอม ผ่านไป 15 นาทีพอดี คิบอมก็เดินออกจากห้องน้ำ พร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ บังเอิญหรือว่าอะไรกันแน่ ที่คิบอมกะเวลาถูกเป๊ะ ไม่มีคลาดเคลื่อนแม้แต่นิดเดียว
“ไปคุยกันที่โต๊ะนะ” (Writer talk: แหมคุณช๊ายยยยย...ช่างเรื่องมากเหลือเกิ๊นนนน รออาบน้ำตั้ง 15 นาทีแล้ว ยังเลือกที่อีก จะเลือกอะไรอีกมั้ยเนี่ยะ) คิบอมเดินไปที่โต๊ะโดยไม่สนใจอะไรเลยสักนิด
“กินสิ”คิบอมชี้ไปที่จานอาหารเช้าที่ฮยอกเป็นคนทำ เหมือนปกติทุกๆวัน
“ไม่ต้องบอกก็ได้ ชั้นเป็นคนทำเองนะ”
“ตกลงมีอะไรหรอ”ดวงตาคู่คมตวัดมามองคนตรงข้ามอีกฝั่งโต๊ะนึงที่นั่งทำหน้าซีเรียด มันยิ่งเป็นการกดดันเอามากๆ สำหรับคนที่กำลังจะบอกเรื่องสำคัญนี้
“เอ่อ...คือว่า”ฮยอกพูดอ้ำอึ้ง พูดแต่คำเดิมๆ
“มีอะไรหรอ”คิบอมย้ำคำถามอีกครั้ง
“คือ...ชั้นสอบชิงทุนได้”
“หรอ ดีใจด้วยนะ”คนตัวสูงยิ้มแป้นออกมาเมื่อได้ยินคำพูดสั่นๆที่คนตรงข้ามเอ่ย
“แต่...ได้ที่ฮาร์วาร์ด อเมริกา”
“อเมริกาหรอ อย่างนี้ นายก็ต้องไปอเมริกาน่ะสิ”มีดกับส้อมที่อยู่ในมือร่วงลงมาบนจาน เสียงที่มีดกับส้อมกระทบกับจาน มันดังจนทำให้ฮยอกคนที่นั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม ถึงกับสะดุ้ง รอยยิ้มที่มันเคยมี บัดนี้ มันได้หายไปแล้ว เมื่อได้ยินประโยคถัดมาที่มันทำให้ใจสั่น
“เอ่อ...ไปแค่สองปีเองนะ”ฮยอกได้แต่นั้งตัวแข็งทื่อไม่กล้าสบตากับคิบอมเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะรู้ตัวอยู่แล้วว่าคิบอมต้องโกรธแน่ๆ ที่เค้าไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้คิบอมรู้เลย
“แค่หรอ ตั้งสองปี นายเรียกว่าแค่หรอ!!”อารมณ์ของคิบอมตอนนี้มันขึ้นไปจนเกือบจะถึงขีดสุด ทำไมเค้าไม่บอกว่าไปสอบมา ทำไมต้องบอกว่าแค่สองปี ทั้งๆที่มันยาวนานจนอาจทำให้เค้าเปลี่ยนใจไปก็ได้ ทำไมเค้าต้องคิดที่จะไปจากคิบอม ตอนนี้ในหัวใจของคิบอมมันมีอยู่หลายความรู้สึก ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ แล้วอีกหลายๆอย่าง มันมากจนอธิบายไม่ถูก(Writer talk:ฮ่าๆ อธิบายไม่ถูกจิงๆอ่ะ มือใหม่ก็เงี๊ยะ ยังอธิบายให้ซึ้งๆยังไม่เป็น)
“ก็มัน...”ฮยอกพูดต่อไม่ออก ไม่สิ เรียกว่าไม่มีอะไรจะแก้ตัวมากกว่า คิบอมค่อยๆเดินเข้ามาหาฮยอก แล้วนั้งลงตรงข้างๆ
คนที่โกรธจัดเมือครู่หายไปไหนแล้ว คิบอมคนเมื่อกี้หายไปแล้ว ตอนนี้มันเหลือเพียงคนที่เสียใจมาก ดวงตาสีแดงไปด้วยความโกรธ มันหายไปพร้อมกับความรู้สึกสับสนนั่น ดวงตาที่แดงกล่ำอยู่ตอนนี้ มันไม่ได้ได้มาจากความโกรธเคืองแต่อย่างใด มันมาจากความเสียใจ ในใจของคิบอมตอนนี้ มันมีแต่คำอ้อนวอนอัดแน่นกันอยู่ มันต้องการบอกให้คนตรงหน้ารู้ว่า อย่าไปนะ อย่าไปจากผู้ชายคนนี้เลยนะ อย่าไปจากคนที่รักนายมากที่สุดเลย แต่ดูเหมือนฮยอกจะไม่สนใจกับท่าทางที่บอกได้เลยว่าทุกคนต้องมองออก ว่ามันกำลังยื้อคนตรงหน้าไว้อย่างสุดกำลัง
“อย่าไปเลยนะ ฮยอก”ดวงตาสีแดงนั้นมันค่อยๆมีน้ำใสไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
“แต่ชั้น ตอบตกลงเค้าไปแล้ว”
“นายต้องไปจริงๆหรอ”น้ำใสๆนั้นมันยิ่งไหลออกมาโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“…”ไม่มีคำพูดออกจากปากของฮยอก มาแต่คำตอบที่แสดงออกจากใบหน้าสวยนั้น
“ให้ชั้นไป...เพื่ออนาคตของชั้นเถอะนะ”ฮยอกพูดอ้อนวอนออกไปโดยไม่คิดถึงความรู้สึกของคนที่ฟังเลย
“เพื่อ...อนาคตหรอ”เกิดคำถามขึ้นมากมายภายในหัวของคิบอมอีกแล้ว อยู่กับชั้นมันไม่ดีใช่มั้ย อยู่กับชั้นมันไม่มีอนาคตงั้นซิ คำถามแต่ละคำถามมันอยากจะพูดออกมาให้รู้แล้วรู้รอด แต่ว่ามันต้องเก็บเอาไว้ ขืนถามออกไปเชิงน้อยใจอย่างนั้นละก็ ฮยอกต้องหัวเสียกับเรื่องนี้มากแน่ๆ อีกอย่างเค้าก็คงไม่ฟังอะไรที่จะพูดต่อไปอีกแล้ว
“จะไปก็ไปเถอะ”คิบอมก้มหน้าลงเหมือนยอมรับสภาพที่เกิดขึ้นทั้งหมด ในเมื่อเค้าคิดอย่างนี้แล้ว ก็คงไม่มีใครมาห้ามเค้าได้ ก็ต้องปล่อยให้เค้าเดินตามทางของตัวเอง
“อะ...อะไรนะ”ฮยอกแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ว่าคิบอมจะให้ไปง่ายๆอย่างนี้ อันที่จริงมันไม่ได้ง่ายเลยสักนิด มันยากมากเลยต่างหาก ใจนึงก็อยากจะรั้งเค้าไว้ แต่อีกใจนึง ก็อยากปล่อยเค้าไป คิบอมได้เลือกสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ตัวเองต้องการต้องการ
“เพื่ออนาคตของนาย...ไปเถอะ”คิบอมเงยหน้าขึ้นมาพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมามากกว่าเดิม การฝืนใจครั้งนี้ มันเป็นผลดีแก่
ฮยอก เค้าจะได้ไปตามทางของเค้า ไม่ต้องมายึดติดอยู่กับคนไม่มีอนาคต ไม่สิถึงมีก็ไม่ได้ดีเหมือนกํบเค้าตามหาอนาคตด้วยตัวของตัวเอง
“จริงๆนะ”ดวงตาของฮยอกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ฮยอกโผเข้าไปกอดคิบอมที่นั้งอยู่ข้างๆ น้ำใสๆมันเริ่มไหลออกมาแล้วหยดลงไปที่ไหล่ของคิบอม
“อย่าร้องไห้สิ”คิบอมจับคางของฮยอกเงยขึ้น แล้วใช้มือปาดน้ำตาที่ไหลอาบอยู่บนแก้มใส
“อึ้ก...ขอบคุณนะ”ฮยอกพยายามกลั้นน้ำตาของตัวเองเอาไว้
“แล้วไปเมื่อไหร่ล่ะ”คิบอมจับไหล่ของฮยอกผลักออกจากตัว แล้วยิ้มออกมาแบบไม่ค่อยเต็มใจซักเท่าไหร่
“อาทิตย์หน้า”ฮอยกพูดแบบไม่คิดถึงความรู้สึกของคนตรงหน้าอีกเช่นเคย
“อาทิตย์หน้าหรอ...”คำตอบที่ได้ยิน มันไม่ค่อยตรงกับที่คิดไว้สักเท่าไหร่ ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ อีกอาทิตย์เดียวเท่านั้น ก็ต้องจากกันแล้ว ต้องจากกันถึงสองปี ทั้งๆที่ใจอยากจะรั้งเค้าไว้ แต่ว่า ทำไงได้ล่ะ ก็พูดแบบนั้นไปแล้ว ขืนกลับคำตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้วหล่ะ
รอยยิ้มที่มีบนใบหน้าของคิบอมตอนนี้ มันเป็นรอยยิ้มที่ไม่ควรเกิดขึ้นในสถานการณ์แบบนี้ การตัดสินใจครั้งนี้ มันเป็นทั้งการให้โอกาสฮยอก เพื่ออนาคตของเค้า และเป็นการทดสอบ ความซื่อสัตย์ ความเชื่อใจ ของทั้งคู่ ใบหน้าของคิบอม มันควรจะเป็นใบหน้าที่มีความโกรธ พร้อมความเสียใจสิถึงจะถูก แต่เค้ากลับยิ้มออกมาแบบหน้าตาเฉย มันอาจจะดูแปลกๆ แต่ว่า คิบอมคงรู้ความหมายของการตัดสินใจครั้งนี้ ว่ามันมีมากกว่าแค่การปล่อยเค้าไป
“งั้น...อาทิตย์นี้ เราก็ใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดนะ”คิบอมลุกขึ้นแล้วยิ้มกว้างกว่าเดิม พร้อมท่าทางสบายใจสุดๆ ในการตัดสินใจครั้งนี้
“อืม...ให้คุ้มค่าที่สุด”ฮยอกทำหน้างงสักพักตอนที่เห็นคิบอมลุกขึ้น ก่อนที่ตัวเองจะลุกยืนตาม
เมื่อวาน
“ถ้าวันนั้นชั้นไม่เจอกับนาย ชั้นคงไม่ต้องทนเจ็บอยู่อย่างนี้หรอก...คิม คิบอม”ดงเฮพร่ำตะโกนอยู่กับตัวเอง มือทั้งสองกอดเสื้อโค้ดของคิบอมไว้แน่น ทำให้สัมผัสโดนสิ่งของที่อยู่ภายในกระเป๋าของเสื้อโค้ดตัวนั้น มือเรียวค่อยๆล้วงไปหยิบสิ่งที่อยู่ภายในกระเป๋านั้นออกมา
“อะไรเนี่ยะ”ดงเฮยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มใสมาพร้อมกับน้ำฝน ก่อนที่จะพยายามหาทางเปิดกล่องรูปหัวใจสีแดงนั้นออกมา
“แหวน...หรอ”ดงเฮเพ่งมองไปที่แหวน แหวนเกลี้ยงสีเงินสลักคำว่า “คิบอม” ดงเฮถึงกับร้องให้อีกครั้ง เพราะคำที่สลักอยู่บนแหวน และกล่องรูปหัวใจมันทำให้คิดได้ทันทีว่า คิบอมต้องเอาแหวนวงนี้ไปให้ฮยอกแน่ๆ
ตุ้บ! เสียงกล่องแหวนที่ดงเฮถืออยู่เมื่อกี้ มันหล่นลงไปอยู่กับพื้น น้ำตาที่หยุดไหลไปแล้ว มันกลับมาไหลอีกครั้ง มีดเล่มนี้มันกรีดลงที่รอยแผลเดิม แต่กรีดลึกกว่าเดิมหลายสิบเท่า มันกรีดจนทะลุไปถึงขั้วหัวใจ มันมากกว่าครั้งไหนๆซะอีก
“แหวน...นายรักฮยอกถึงขนาดนี้เลยหรอ นายจะเอามันไปให้ฮยอกงั้นหรอ”ดงเฮพุดพร้อมน้ำตา ก่อนที่จะก้มลงไปเก็บแหวนที่หล่นอยู่บนพื้นขึ้นมา
“ดงเฮ...จะคิดแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด จะรักเค้าไม่ได้เด็ดขาด เพื่อนเหมือนเดิม ดีที่สุดแล้ว มันยังดีกว่าไกลกว่านี้นะ อยู่แค่นี้มันก็ใกล้เกินพอแล้ว ต้องเลิกคิดเรื่องนี้สักที เลิกคิด เลิกคิดซะ...ดงเฮ”ดงเฮพร่ำพูดปลอบใจตัวเอง หัวใจที่ถูกมีดกรีดลึกลงไป ตอนนี้มันถูกทำให้แตกสลาย ด้วยน้ำมือจากคนที่ตัวเองรักมากที่สุด รักมากกว่าสิ่งอื่นใด
“เลิกคิดซะ ต้องเอาเสื้อไปซักแล้วคืนคิบอม ดีกว่าจะมานั่งร้องไห้อย่างนี้ ชั้นต้องไม่เป็นคนอ่อนแอ ชั้นต้องเข้มแข็ง จะมาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระแบบนี้อยู่ทำไม จริงมั้ย?”ดงเฮปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอาบแก้ม แล้วลุกขึ้นจะพื้น ก่อนที่จะวางแหวนนั้นลงกับโซฟารับแขกที่อยู่ตรงหน้า แล้วเดินไปซักเสื้อโค้ดตัวนั้นที่ห้องน้ำ
วันต่อมา
“นี่คิบอม มีเสื้อโค้ดใครไม่รู้แขวนอยู่ที่หน้าประตูเนี่ยะ”ฮยอกหยิบเสื้อโค้ดที่ดงเฮเป็นคนมาแขวนไว้ แล้วส่งมาให้คิบอมดู
“อ๋อ...ของชั้นเอง ไปเถอะ”คิบอมไม่สนใจที่จะมองเสื้อโค้ดตัวนั้นเลย พอรับเสื้อโค้ดมาเสร็จคิบอมกลับโยนมันอย่างไม่ใยดี เหมือนมันไม่มีค่าอะไร ทั้งๆที่แหวนของตัวเอง ที่กำลังจะเอามันไปให้ฮยอก อยู่ในนั้นแท้ๆ
“อ้าวดงเฮ ทำไรอยู่หรอ”คิบอมเอ่ยถามเมื่อเห็นดงเฮยืนแอบอยู่หลังประตู
“เปล่านี่ แค่จะเข้าห้อง แล้วพวกนายจะไปไหนหรอ”ดงเฮตอบแล้วถามคิบอมกลับไปโดยที่ไม่มองหน้าใครเลย เค้าได้แต่ยืนก้มหน้า พยายามไม่สบตากับใครทั้งนั้น
“จะไปเที่ยวน่ะ เป็นไรรึเปล่าทำไมไม่มองหน้าชั้นเลยล่ะ”คิบอมผิดสังเกตกับอาการของดงเฮ ที่ไม่มองหน้ากับใครเลย เหมือนไม่ได้กำลังคุยกับเค้า เลยเอ่ยถามออกไปอย่างไม่คิดอะไรมาก
“เปล่านี่ ไม่ได้เป็นไร”ดงเฮพูดทิ้งท้ายก่อนจะยิ้มแห้งๆแล้วเดินกลับเข้าห้องไป
ปึ้ง!! ดงเฮปิดประตูอย่างแรงและเร็ว เหมือนพยายามทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจบไปเร็ว และเหมือนการหนีอะไรบางอย่างที่คอยจะทำให้เขาเจ็บปวดตลอดเวลา
“ทำไมต้องเห็นภาพนั้นด้วย ภาพที่มีเค้าสองคน ทำไมต้องเจ็บขนาดนี้ ทำไม ทำไม!!”ดงเฮกุมขมับแล้วส่ายหัวไปมาเพื่อให้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่เหมือนมันจะไม่ได้ผล และไม่มีทางที่จะได้ผลด้วย ดวงตาสีแดงกล่ำที่ไม่ยอมมองแม้กระทั่งคนที่ตัวเองรัก เพื่อน้ำตาที่พยายามกลั้นมันเอาจะได้ไม่ไหลออกมา ตอนนี้มันไหลออกมาแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ความเจ็บปวดมันมากขึ้นทุกทีๆ ยิ่งเวลามันนานมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น จนหัวใจที่บอบช้ำซ้ำแล้วซ้ำอีกแทบจะสลายไปต่อหน้าต่อตา
“หยุดนะดงเฮ ทำไมต้องไปรักเค้า ตัดใจซะ ยังไงก็ไม่สมหวังหรอก พอสักที เรื่องแบบนี้ เลิกคิดซะ ในเมื่อเค้าไม่รัก ก็ไม่ต้องไปรักเค้าซิ ยังจะคิดอะไรงี่เง่าอยู่อย่านี้ทำไม อย่าเห็นแก่ตัวให้มันมากนักได้มั้ยดงเฮ”ดงเฮพร่ำตะโกนว่าตัวเองสารพัด ตอนนี้ดงเฮเป็นเหมือนคนที่ไม่มีสติ คำพูดที่พูดออกมาแต่ละคำ มันไม่ได้ทำให้ดงเฮลืมได้เลย ถึงแม้จะลืมมันได้ แต่ยังไงก็ลืมได้เฉพาะชั่วคราว ต้องกลับมาคิดอีก และก็ต้องกลับเจ็บอีกอยู่ดี
1 อาทิตย์ ต่อมา สนามบิน
“สัญญานะ ว่าจะรอ”ฮยอกหันกลับมามองหน้าคิบอม หัวใจที่ไม่มีความรู้สึกรักเต้นรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“สัญญา นายก็...อย่ามีใครนอกจากชั้นนะ”ดวงตาแดงกล่ำเริ่มมีน้ำใสไหลซึมออกมา ทั้งๆที่ตั้งใจไว้แล้ว ว่าจะไม่ร้องไห้ จะไม่เสียใจ เพราะทางที่เลือก เป็นทางที่ถูกต้อง เพื่ออนาคตของคนที่ตัวเองรัก จะเห็นแก่ตัวไม่ได้
“สัญญา ชั้นจะไม่มีใคร”ฮยอกยื่นมือมาข้างหน้า แล้วชูนิ้วก้อย เพื่อให้เป็นพยานว่าทั้งสองคนได้สัญญากันแล้ว
“...”คิบอมโผเข้าไปกอดฮยอกอย่างเร็ว จนคนข้างหน้าตั้งตัวไม่ทัน น้ำตามันไหลออกมาเรื่อยๆ หัวใจที่ต้องยอมรับกับการตัดสินใจ มันเจ็บปวดมากขึ้นทุกทีๆ น้ำตาที่ไหลออกมาค่อยๆซึมผ่านเสื้อของฮยอกจนทำให้รู้สึกได้ว่าคนๆนี้กำลังร้องไห้อยู่
“คิบอม”ฮยอกพูดชื่อของคนที่คิดว่าตัวเองรักออกมา เพราะไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะต้องมาเสียน้ำตาเพราะตัวเอง ก่อนที่จะค่อยๆเลื่อนมือขึ้นมาโอบกอดคิบอมเอาไว้
“นาย...อย่าลืมโทรมาหาชั้นทุกวันนะ”คิบอมผงะออกจากฮยอก แล้วใช้มือเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาอาบแก้มทั้งสองข้าง
“อืม นายก็โทรมาหาชั้นด้วยนะ”
“ไปเถอะ เครื่องจะออกแล้ว”คิบอมพูดแบบไม่เต็มใจเลยสักนิด แต่ก็ต้องทนพูดมันออกไป
พอคิบอมพูดจบฮยอกก็หันหลังกลับ แล้วเดินตรงไปที่ประตู ก่อนจะหันกลับมาส่งยิ้มหวานให้คิบอมเป็นครั้งสุดท้าย แล้วหันกลับไปเดินต่อ พอฮยอกเดินไปคิบอมก็นั้งลงกับเก้าอี้แถวนั้น สีหน้าที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า น้ำตาที่ปาดไปเมื่อกี้ มันกลับมาไหลอีกครั้ง คิบอมได้แต่นั่งดูเครื่องบินลำที่ฮยอกนั่งบินผ่านไป หัวใจที่โดดเดี่ยว เพราะคนที่รักต้องจากไปไกล มันยิ่งจะเจ็บปวดขึ้นทุกทีๆ
และทุกวันฮยอกก็จะโทรมาหาคิบอม หรือไม่คิบอมก็จะเป็นฝ่ายโทรไปหาฮยอก แต่ละครั้งที่ได้คุยกัน หัวใจของคิบอมก็จะรู้สึกเหมือนมีคนมาเติมความรักให้มันอยู่ตลอด จนตอนนี้เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ที่ในวันนี้ ไม่ได้มีคนที่เค้ารักอยู่ข้างๆ แต่แค่ได้คูยกันอย่างนี้ มันก็มีความสุขแล้ว สำหรับคนที่ได้แต่เฝ้ารอ อย่าคิบอม
1 ปีต่อมา
“เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ”เสียงสัญญาณตอบรับอัตโนมัติดังขึ้นเมื่อคิบอมโทรไปหาฮยอกที่อเมริกา
“ทำไมพักหลังนี้ฮยอกไม่ค่อยจะรับสายเลยแฮะ”คิบอมพร่ำบ่นกับตัวเองหลังจากได้โทรไปหาฮยอก แต่เสียงที่ได้ยินกลับเป็นเสียงสัญญานตอบรับกลับมาแทน ความรู้สึกกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นเริ่มก่อตัว ในมือของคิบอมถือโทรศัพท์มือถือของตัวเองไว้แน่น เพื่อรอคอยการโทรกลับมาของฮยอก
ตรู๊ด!! ตรู๊ด!! เสียงโทรศัพท์ของคิบอมมันดังขึ้น บนหน้าจอเป็นรูปของฮยอกที่ถ่ายคู่กับตัวเองโชว์ขึ้นมาพร้อมกับเบอร์ของฮยอก ทันใดที่คิบอมได้ยินเสียงนั้นก็รีบกดรับทันที
“ฮยอก ทำไมชั้นโทรไปปิดเครื่องล่ะ บางครั้งก็ไม่รับด้วย แถมยังตัดสายทิ้งอีกต่างหาก รู้มั้ยชั้นเป็นห่วงนายแค่ไหน”คิบอมยิงคำถามเป็นชุด หลังจากรับโทรศัพท์ที่ฮยอกโทรมา โดยไม่เปิดโอกาสให้
ฮยอกได้พูดเลยแม้แต่นิดเดียว
“ฮัลโหล นายเป็นใครน่ะ”เสียงที่ตอบกลับมา กลายเป็นเสียงผู้ชายที่ดูแปลกไปจากครั้งไหนๆ เสียงที่ไม่ค่อยคุ้น เมื่อคิบอมได้ยินเสียงนั้นก็ถึงกับสะดุ้ง คำถามเกิดขึ้นในหัวของคิบอมมากมาย มือที่กำโทรศัพท์เอาไว้ มันค่อยๆอ่อนแรงลงจนโทรศัพท์แทบจะหลุดออกจากมือ
“ฮัลโหล...ฮัลโหล”เสียงในโทรศัพท์นั้น มันดังซ้ำไปซ้ำมา เพราะคนที่โทรมาไม่ได้ยินเสียงตอบกลับจางปลายสาย
“ฮะ...ฮัลโหล”คิบอมพูดกระอึกกระอัก เพราะตัวเองก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคืออะไร ใครเป็นคนโทรมาหาเขา แล้วฮยอกเจ้าของเบอร์ไปไหน และคนที่โทรมา เอามือถือของฮยอกมาได้ยังไง
“ชั้นถามไม่ได้ยินรึไง นายเป็นใคร”ทั้งที่ในใจอยากถามคำถามนั้นออกไปจะแย่ แต่คิบอมกลับพูดไม่ออกเลยสักนิด
“ทำอะไรน่ะ!!!”เสียงของฮยอกดังแทรกเข้ามาในสาย เป็นน้ำเสียงที่กำลังตกใจมาก คิบอมเมื่อได้ยินเสียงของฮยอกก็รู้สึกโลงอกไปประมานหนึ่ง อย่างน้อยฮยอกก็ยังปลอดภัย
“ชั้นต่างหากที่ต้องถามนาย ว่านายเป็นใคร”คิบอมสวนคำถามออกไป หลังจากได้ยิงเสียงของ
ฮยอก เรี่ยวแรงที่แทบจะหมดไปเมื่อกี้ กลับเพิ่มขึ้น และมือที่กำโทรศัพท์ไว้เบาๆ กลับกำแรงจนแทบจะแหลกคามือ
“ชั้นเป็นแฟนฮยอก แล้วนายเป็นใคร”คำพูดของคนๆนั้นทำคิบอมอึ้งไปเลย แฟนหรอ? คำถามนี้เกิดขึ้นในหัวของคิบอม นั่นแสดงว่า ฮยอกนอกใจคิบอมหรอ มือที่ถือโทรศัพท์ไว้ของคิบอมมันค่อยๆอ่อนแรงลงทุกที จนโทรศัพท์ในมือแทบจะหล่นลงมาที่พื้นแล้ว
“เอามานี่นะ!! คิบอมไม่ต้องฟังเค้านะ”เสียงของฮยอกพุดออกมา ทำให้คิบอมรู้สึกตัว
“ฮัลโหล...ได้ยินชั้นรึเปล่า คิบอม ฮัลโหล”ฮยอกพูดซ้ำไปซ้ำมา เมือไม่ได้ยินเสียงของคิบอมตอบกลับมาสักที
“อะ... ได้ยิน ที่เค้าพูด...จริงหรอ”คิบอมพูดถามขึ้นมาเพื่อความแน่ใจ ว่าสิ่งที่ตัวเองได้ยินเป็นเรื่องจริง
“อะไรนะ นายเชื่อที่เค้าพูดหรอคิบอม เค้าก็แค่เพื่อนชั้นเท่านั้นเอง”
“เพื่อนหรอ นายบอกว่าชั้นเป็นเพื่อนหรอ เอามานี่เลยนะ!”เสียงของเค้าคนนั้นพูดขึ้นอีกครั้ง พร้อมพยายามแย่งมือถือไปจากมือของฮยอก
“ฮยอก ชั้นต้องการความจริง”คิบอมพูดขึ้นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ฮยอกแย่งมือถือกลับมาไว้ทัน
“เอ่อ... คือ...”ฮยอกพูดอ้ำๆอึ้งๆ
ชั้นคงต้องบอกความจริงกับนายแล้วหล่ะ คิบอม
ความคิดเห็น