ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ Vagrant ★ รักอย่างจัง พร้อมหรือยัง มีผมเป็นสามี

    ลำดับตอนที่ #9 : ★ Vagrant ★ 04 Chapter 4 - คิดว่าดีก็ทำต่อไป

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ค. 56







    Part 1 ★ Vagrant  ★



    Part 1 ★ Vagrant  ★









































     



     


     

     

    -04- Chapter 4
    คิดว่าดีก็ทำต่อไป

     

    ได้โปรดเข้าใจว่าฉันหมดทางเลือกแล้วจริงๆ L ถามว่าฉันอยากไปอยู่กับหมอนี่ไหม? โอะ ไม่มีวันแน่นอน ดูจากสภาพร่างกายแล้ว บ้านก็คงไม่ต้องพูดถึง แต่อย่างน้อยก็ขอไปอาบน้ำอาบท่านอนหนึ่งคืน เช็ตผมสวยๆ แล้วค่อยไปตายเอาดาบหน้า น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ขืนฉันอยู่ในสภาพนี้แล้วไปหาเพื่อนซี้ฉันทั้งหลาย มีหวังโดนเลิกคบ พวกคุณไม่รู้อะไรหรอกว่าสังคมสมัยนี้ คบกันที่รูปร่างหน้าตาและเงินทองทั้งนั้น

    นี่เธอเกิดหลงใหลในเสน่ห์ฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ ขอไปนอนบ้านผู้ชายแบบด้านๆ เลยเนี่ยนะ

    นายว่าใครด้าน! ฮะ!!”

    แล้วจะใครล่ะ -__-”

    หน็อยยย! ไอ้โรคจิต รู้ไว้ซะด้วยนะ ถ้าฉันไม่มืดแปดด้านแบบตอนนี้ ฉันก็คงไม่พูดแบบนั้นออกไปหรอก อย่าสำคัญตัวไปหน่อยเลย

    จิ๊จ๊ะๆๆ อย่าสำคัญตัวไปหน่อยเลยยย ไอ้โรคจิตตตเจ้าตัวพูดตามพลางทำหน้าและเสียงล้อเลียน ฮึ่ยยย อดทนไว้โยม อดทนไว้โยม พุทธโธธัมโมสังโฆ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร และเพื่อที่อยู่ที่ซุกหัวนอน ต้องทน ทน ทน ทน

    เอาเป็นว่าตามนั้นนะ ไหนล่ะรถ เราจะไปกันได้รึยัง

    ใครบอกว่าจะให้เธอไป -__-”

    ให้ไม่ให้ฉันก็จะไปอ่ะ ทำไม! เพราะนายน่ะ-

    พูดยังไม่ทันจบไอ้โรคจิตนั่นก็หันหลังเดินฉับๆ หนีไปอย่างตัดบท

    เฮ้! กลับมาก่อนนะเว้ย! ไอ้โรคจิต! หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

    “…” ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก -_- เขายังคงเดินหนีฉันไปอย่างไม่สนใจ ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองเลยแม้แต่น้อย เอาวะ! ไม่ให้ฉันก็จะไป จะเดินตามแบบนี้แหละ!

    หลังจากเดินตามมาสักพักแล้วพวกเราก็มาหยุดอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ฉันกอดอกยืนมองเขาไม่วางตา เจ้าตัวเองก็ไม่สะทกสะท้านอะไร ทันทีที่รถเมล์คันหนึ่งมาจอดเทียบฟุตบาทแล้ว เขาก็เดินขึ้นไป และแน่นอนว่าฉันเดินตาม

    แต่ทว่าคราวนี้กลับไม่เหมือนคราวก่อนๆ เจ้าตัวหันหลังกลับมาก่อนจะตะโกนเสียงดังโวยวายแล้วชี้มาทางฉัน

    ช่วยด้วยครับ! ช่วยด้วย! ยัยผู้หญิงคนนี้เป็นโรคจิต! มันตามผมมาตลอดทาง! ทุกคนระวังตัวไว้นะครับ!”

    “!@#$%^&**^%$#@#$%^&&*” และแล้วทุกคนก็แตกตื่น เสียงฮือฮาดังสนั่น

    ไอ้โรคจิตนั่นมองมาทางฉันอย่างท้าทาย หน็อย! ฉันน่ะฉายาสู้ไม่หวั่นแม้วันมามากนะ เล่นซะฉันขายขี้หน้าถึงเพียงนี้ คิดหรอว่าจะยอม แต่ฉันก็ทำได้แค่จ้องกลับไปไม่วางตาด้วยสายตาอาฆาตแค้นพลางครุ่นคิดหาทางแก้ และเพียงชั่วขณะเดียวฉันก็คิดออก

    ที่รักคะ หายโกรธฉันเถอะค่ะ อย่าแกล้งฉันแบบนี้เลย ฉันขอร้องนะคะ

    “…” ทันทีที่จบประโยค เสียงฮือฮาของประชาชนในรถก็เงียบ แน่นอนล่ะ แบบนี้ต้องใช้มายาหญิง ฉันค่อยๆ เดินเข้าไปหาเขาช้าๆ ด้วยสายตาอ้อนวอนน้ำตาปริ่ม

    และแล้วก็เป็นไปตามบท เจ้าตัวสะบัดออกสุดแรง แน่นอน! คะแนนสงสารต่อจากนี้เป็นของฉันเต็มๆ

    พูดบ้าอะไรของเธอเนี่ย ออกไปนะเว้ยยัยโรคจิต! ทุกคนเห็นรึยังครับว่ายัยนี่มันโรคจิตน่ะ!”

    ทำไมคุณถึงพูดแบบนี้ เพียงแค่ฉันบอกว่าฉัน...ตั้งท้องกับคุณ คุณก็ทิ้งฉันไว้ไม่ใยดีเลยหรอคะ ทำไมคุณเป็นคนใจร้ายขนาดนี้ ลูกเราทั้งคนนะคะ

    “!@#$%^&*&^%$#@#$%^&” เสียงประณามว่ากล่าวและเสียงนินทาดังขึ้นไม่ขาดสาย เข้าทางฉันละ!

    โอ๊ยยยฉันตะโกนด้วยน้ำเสียงอิดโรยพลางทำเป็นล้มลงกับพื้นรถเมล์ ขณะเดียวกันก็เอื้อมมือไปจับท้อง ด้วยฟิลลิ่งห่วงลูกรักในท้องสุดดวงใจ

    ทุกคนเมื่อเห็นอย่างนั้นก็รีบเข้ามาพยุงด้วยความเป็นห่วง ฉันมองหน้าทุกคนด้วยแววตาซาบซึ้ง

    ขอบคุณทุกคนนะคะ ถึงพวกเราไม่รู้จักกัน แต่คุณก็ยังอุตส่าห์ห่วงใยฉัน ไม่เหมือนบางคน พ่อของลูกแท้ๆ ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองว่าแล้วก็ทำเป็นสะอื้น วินาทีถัดมาเขาก็ตรงเข้ามาฉุดฉันขึ้นยืน ก่อนจะหันมากระซิบที่ข้างหูฉันด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วก็รู้ว่าเจ็บใจ

    เธอทำฉันแสบมากนะ

    นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้นจ้ะที่รักพูดจบฉันก็เหยียบเท้าเขาสุดแรง ก่อนจะพูดด้วยเสียงเย้ยหยัน ฉันเป็นคนที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ในทีนที เพียงแค่ฉันต้องการนายและบ้านของนาย ทำไมฉันจะทำให้มันกลายมาเป็นของฉันไม่ได้ หวังว่านายจะเข้าใจ

    ยัยแม่มดเจ้าตัวกัดฟันพูดพลางมองฉันตาเขียว ฉันยิ้มให้อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร ก่อนจะเดินไปนั่งที่ที่คนอื่นลุกให้เพราะเข้าใจว่าฉันท้องจริงๆ

     

    เวลาผ่านไปไม่นานเท่าไหร่นัก เราก็มาหยุดอยู่ที่ที่หนึ่งคล้ายโรงงานขยะ ฉันหยุดสร้างภาพทันทีที่ลงมาจากรถเมล์ก่อนจะมองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตรดังเดิม

    อะไรของนายเนี่ย อะไรของนาย -*-ฉันถามพลางทำมือไปทางโรงงานขยะด้านหน้า

    ก็นี่ บ้านฉัน -3-

    จะบ้าหรอ! ห้องอาบน้ำก็ไม่มี ที่นอนก็ไม่มีนี่นะ

    ไม่ต้องอาบสิ ฉันยังไม่อาบมาสามอาทิตย์ได้เลย ส่วนที่นอนก็นอนมันตรงนั้นแหละ หาเศษผ้าที่เขาทิ้งแล้วปูนอนซะ

    ไอ้ซกมก! โสโครกที่สุด! ฉันทนอยู่ไม่ได้หรอกนะ!”

    เชิญ -_-” เจ้าตัวพูดพลางผายมือไปทางที่เราเข้ามา ฉันเงียบเป็นคำตอบ ก็ใช่น่ะสิ ถ้าฉันไปฉันก็ไม่มีที่อยู่

    เออจริงสิ นายมีเงินเก็บเท่าไหร่

    ไม่มีหรอก ฉันไม่ได้ทำงาน

    ฮะ! นี่นายล้อฉันเล่นรึเปล่าเนี่ย!”

    เปล่า

    โอ้พระเจ้า บ้าจริง บ้าที่สุด แล้วแบบนี้เราจะอยู่ที่ไหนฉันบ่นฉอดๆ พลางเดินวนไปวนมาอย่างนึกหาทางแก้

    ก็บอกว่าอยู่ที่นี่ไง!”

    “…”

    ...

    จริงสิ นายตามฉันมานี่ไม่พูดเปล่าฉันฉุดเขาเดินตามมาด้วย และแผนของฉันคือ ให้ไอ้โรคจิตนี่ไปสมัครทำงานกับโรงงานขยะ และขอเบิกเงินเดือนออกมาก่อน พร้อมทั้งขอที่อยู่

     

    คงจะไม่ได้หรอก -_-”

    นะคะๆๆ ขอร้องเถอะนะคะ พวกเราไม่มีที่ไปแล้วจริงๆฉันอ้อนวอนอย่างนี้อยู่นานสองนาน เพราะไอ้เจ้าผู้จัดการนี่ก็ปฏิเสธอยู่อย่างเดียว นี่มันโรงงานขยะนะเว้ย ไม่ใช่บริษัทยักษ์ใหญ่อะไรนักหนา จะหยิ่งไปไหน เอาเถอะ นินทาแค่ในใจนี่แหละ -..-

    ไม่ได้จริงๆ ครับ ผมเสียใจด้วย

    เอางี้ก็ได้ ฉันไม่ต้องการที่อยู่ละ โอเคมั้ย ขอแค่เงินเดือน

    เอ่อ...-

    ตกลงนะคะ!”

    แต่-

    ทำงานล่วงเวลาด้วยเลยค่ะ

    เฮ้ย!” นายเร่ร่อนเมื่อได้ยินก็ค้อนมองฉันประมาณว่าทำไมไม่ปรึกษากันก่อน ฉันหันไปมองตาขวางคืนเพื่อจะสื่อว่าให้เงียบๆ ไปซะถ้าไม่ช่วยอะไร

    โอเค ตกลงตามนั้น แต่!! พรุ่งนี้คุณต้องมาลองทำงานดูก่อนหนึ่งวัน ถ้าทำห่วยแตกผมคงจะรับไม่ไหว

    อ้อได้ค่ะไม่มีปัญหา แต่เดี๋ยวก่อนนะ ฉันขอเบิกเงินก่อนได้ไหม

    อันนี้ก็คงต้องปฏิเสธอีกเช่นเคย เพราะเงินเดือนจะได้ก็ต่อเมื่อคุณเอ่อ... ไทเลอร์ได้งานแล้ว แต่ตอนนี้เขายังไม่ได้ อยู่ในช่วงวัดระดับความสามารถ เพราะฉะนั้นคุณต้องรอไปก่อน

    จะบ้าหรอ! ฉันก็บอกคุณไปแล้วไงว่าตอนนี้ฉันไม่มีที่อยู่!”

    ถือซะว่าผมสงสารละกันนะ ตรงไปข้างในซอยหลังโรงงาน ไม่ลึกเท่าไหร่หรอก ประมาณร้อยเมตร จะมีบ้านร้างอยู่หลังหนึ่ง เพิ่งร้างไม่นานหรอก เขายังไม่ตัดไฟตัดน้ำ คุณไปอยู่ก่อน อย่างน้อยก็น่าจะพรางๆ ไปได้สักสองสามวัน

    อะไรนะ บ้านร้าง! นี่คุณ-

    ลาก่อน ยินดีที่ได้พบคุณ =__=” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นเดินฉับๆ หนีหายไปในโรงงาน อะไรกันเนี่ย!

    หยุดเรื่องมากเถอะน่า ทำอย่างกับตอนนี้มีตัวเลือกเยอะอย่างนั้นแหละ มีบ้านก็บุญแค่ไหนแล้ว

    เออรู้! ไม่ต้องมาสอนฉัน!”

    ครับๆ - -*

    นายน่ะทำงานดีๆ เข้าใจไหม ไม่งั้นไม่ได้เงินแน่ๆ คงได้อยู่บ้านร้างนั่นต่อไป จะตัดน้ำตัดไฟเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

    แหม่ ทำเป็นสั่ง แล้วทำอะไรนี่ไม่เคยปรึกษากันก่อนเล้ยยย ตั้งแต่พามาสมัครละ ยังมาเจอทำงานล่วงเวลานี่อีก! เหอะ คิดไปได้ ฝ่ายนั้นได้เปรียบชัดๆ

    เอาน่า มันเป็นข้อเสนอที่ทำให้เขารับนะ ถ้าไม่ได้ฉัน นายคงไม่ได้งานหรอก จำบุญคุณฉันไว้ซะด้วย

    รีบไปหาบ้านร้างกันเถอะ หน้าปลาทูนั่นบอกว่าอยู่ซอยไหนนะ

    เฮ้! นี่นายฟังฉันบ้างมั้ยเนี่ย!! แล้วใคร หน้าปลาทู อะไรก๊านนน!”

     

    หลังจากเถียงกันมาตลอดทางในที่สุดก็เดินเข้ามาเจอ ความจริงก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเท่าไหร่แฮะ เพียงแต่แถวนี้มันเสียงค่อนข้างก้อง พูดไรนี่ได้ยินไปถึงปากซอย ไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย - -*

    อืม...ก็ใช้ได้นะไอ้โรคจิตข้างๆ ฉันพึมพำขึ้นก่อนจะเดินนำเข้าไปก่อน บ้านไม้หลังเก่าซอมซ่อพอควร เป็นบ้านชั้นเดียว ไม่มีดีไซน์การออกแบบแต่อย่างใด

    ฉันเดินตามเข้าไปติดๆ แล้วก็พบกับสภาพภายในบ้าน โซฟาเก่าๆ หนึ่งตัว ทีวีขาวดำที่คาดว่าพังแล้วหนึ่งเครื่อง บอกทีว่าห้องรับแขกมีแค่นี้ - -* ถัดเข้าไปก็เป็นห้องครัวสนิมเขรอะ ฉันเพิ่งสังเกตว่าหลังคาบ้านทำจากสะกังสี นี่ถ้าฝนตกลมแรงทีหลังคาและตัวคนจะไม่ปลิวเรอะ

    อี๋ ใยแมงมุมเต็มเลยฉันบ่นพึมพำคนเดียวพลางเขย่งเท่าเดิน พื้นนี่ก็มีแต่ฝุ่น แล้วฉันยิ่งไม่ได้ใส่รองเท้าอีก โอ้พระเจ้า ฉันเกือบลืมเรื่องเท้าไป ตายแล้ววว เป็นแผลหมดเลย เท้าสวยงามของฉัน TTOTT

    มาดูห้องนอนสิไอ้โรคจิตทักขึ้นขัด ฉันหยุดคร่ำครวญกับเท้าก่อนจะเดินตามไปที่ห้องนอน เตียงคู่เก่าๆ หนึ่งเตียง แล้วจะนอนยังไงล่ะทีนี้ -0-

    ไม่นะ นายอย่าแม้แต่คิด

    ฉันยังไม่ได้คิดอะไรเลย -__-”

    แต่ฉันคิด!”

    หืม?

    มะมะ...ไม่ หมายถึงคิดว่านายต้องนอนพื้น! ฉันจะนอนบนเตียงเอง

    อ้อเหรอ -0- ฝันไปได้เลย

    โธ่...โคตรแมน -*-

    เฮ้ยเดี๋ยวนะไม่พูดเปล่าเจ้าตัวยังเอื้อมมือมาคว้าหมับเข้าที่ข้อขาฉันก่อนจะยกขึ้น ทำเอาตัวฉันหงายหลังล้มลงบนเตียงอย่างแรง กรี๊ดดด นี่มันกะจะทำมิดีมิร้ายฉันใช่ม้ายย! ไม่ได้การล่ะ  

    นะนะ...นี่นายจะทำอะไรฉัน!!! กรี๊ดดดดดดดดดด ใช่สิ ต้องแบบนี้ ตามคาแร็กเตอร์นางเอก

    ทว่าวินาทีถัดมาจู่ๆ ร่างสูงนั้นก็เอื้อมมืออีกข้างหนึ่งที่ว่างอยู่ขึ้นมาปิดปากฉัน จนในที่สุดฉันก็ได้แต่อู้อี้ๆ ในลำคอ เจ้าตัวใช้นิ้วชี้แตะปากเป็นเชิงให้เงียบ

    นี่หมอนั่นคิดจะทำอย่างว่าจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย!

     

     

     











     

     
     



    เปิดเทอมแล้ว ไม่แคล้วต้องวุ่นวาย =__=;;
    ไรเตอร์กำลังเป็นอยู่เลยตอนนี้ ฮ่าาาๆ เชื่อว่าส่วนใหญ่ก็ต้องเป็น (มั้ง)
    ดังนั้นถ้าไรเตอร์ไม่ได้แก้คำผิด ตามอ่านคืน หรือว่าบลาๆ ก็ขอโทษด้วยนะงับ
    จะพยายามจัดการเวลาให้ดีที่สุด!! O^O


    รักและรักมาก ♥



    : Shalunla   




     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×