ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★ Vagrant ★ รักอย่างจัง พร้อมหรือยัง มีผมเป็นสามี

    ลำดับตอนที่ #7 : ★ Vagrant ★ 02 Chapter 2 - ทัวร์ฮ่องกง

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 56





    Part 1 ★ Vagrant  ★



    Part 1 ★ Vagrant  ★


















































    -02- Chapter 2
    ทัวร์ฮ่องกง

     

     

    [แอชลีย์]

    ยังมีหน้ามาถามอีกไอ้โรคจิต -_-” ฉันต่อว่าหน้านิ่งอย่างเอือมระอา

    เฮ้อ...มันช่างน่าหนักใจจริงๆ ที่เจอกับคนแบบนี้ มิน่าล่ะครอบครัวถึงตัดหางปล่อยวัด มันก็สมควรอยู่หรอก ชาตินี้ ชาติหน้า หรือชาติไหน ก็ขอให้ฉันอย่าได้เจอกับหมอนี่อีกเลยเถิด ไอ้ตัวซวย สาธุ!

    นี่พวกคุณจัดเซอร์ไพร์สอะไรกันหรือเปล่า? เอาซะเละเลยนะ

    “-___-” ดูมันถามค่ะ

    คือ...คุณครับไม่นานเสียงตำรวจก็ดังขึ้นแทรกก่อนจะตรงมาทางเรา แน่นอนว่าผู้ต้องสงสัยคนแรกคือไอ้โรคจิตนั่น เป็นไปโดยปริยาย ช่างน่า...สมเพช -*-รบกวนขอคุยด้วยสักเดี๋ยวได้ไหมครับ

    อ้อได้สิคะ ว่ามาเลยฉันพูดพลางมองไปทางไมเคิล ซึ่งตอนนี้ถูกคุมตัวไปที่รถตำรวจเรียบร้อยแล้ว อาจจะมีขัดขืนบ้างแต่ตำรวจเยอะซะขนาดนั้น ดิ้นยังไงก็ไม่หลุดหรอก

    ไม่ใช่ตอนนี้ครับ เราคงต้องขอเชิญคุณไปให้ปากคำที่โรงพัก

    ฮะ! อะไรนะ! คุณจะบ้าหรอคะ! เรื่องแค่นี้ขึ้นโรงพัก ฉันไม่ได้เป็นคนทำด้วยนะ ไมเคิลต่างหาก!”

    หุบปากครับ ผมจะให้เวลาคุณอธิบายที่โรงพัก เพราะยังไงคุณก็คือผู้เห็นเหตุการณ์ สมัยนี้ตำรวจเขาพูดแบบนี้กับประชาชนหรอ ไม่ยักรู้ -0- และเท่าที่เห็นตอนนี้มันมีหลายกระทงเลยล่ะครับ เผลอๆ อาจจะต้องขึ้นศาลตัดสินด้วยซ้ำ เพราะพนักงานคนนั้นไม่ได้แค่สลบหรอกครับ เขาหยุดหายใจแล้ว =_=”

    โอ้มายก็อด! O[]O”

    สตั้นแป๊บ...

    ครับ =_= เพราะฉะนั้นรบกวนมากับเราด้วย รวมถึงคุณ...คนนั้นด้วยเขาว่าพลางมองไปทางไอ้โรคจิต หมอนั่นทำหน้างงๆ แต่ก็ยอมเดินตามไปแต่โดยดี

    แต่เดี๋ยวนะ! มันคดีฆ่าคนตายเลยหรอเนี่ย!! ไอ้เร่ร่อนนี่มันตัวซวยจริงๆ (ไม่ได้โยนขี้แต่อย่างใด) แต่ช่างเถอะ ยังไงซะแด๊ดก็จะมาพาตัวฉันออกอยู่ดี เรื่องแค่นี้จิ๊บๆ

     

    @สถานีตำรวจ

     คงจะไม่ง่ายแบบนั้นหรอกครับ -_-”

    นี่คือคำปฏิเสธแบบนุ่มนวลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สอบถามฉัน หลังจากที่ฉันอ้อนวอนขอร้องให้ปล่อยตัวฉันไปอยู่แสนแปดรอบเห็นจะได้

    โธ่...คุณคะ ปล่อยฉันเถอะค่ะ เห็นๆ อยู่ว่าฉันไม่ได้ทำอะไรผิดฉันยังคงคะยั้นคะยอให้ปล่อยตัว

    ผมรู้ครับผมรู้ แต่คุณคือมูลเหตุเรื่องนี้ และเป็นผู้เห็นเหตุการณ์คดีฆ่าคนตาย ถือเป็นคดีที่ต้องขึ้นศาลเลยนะครับ

    งั้นก็รีบถามให้เสร็จๆ สิคะ ฉันเป็นแค่ผู้เห็นเหตุการณ์ ถามมาตอบไป จะได้รีบกลับบ้าน

    คงจะไม่ง่ายแบบนั้นหรอกครับ -_-”

    “=___=” ฉันล่ะเกลียดคำนี้ขึ้นทุกที

    เดี๋ยวรออีกสักพัก เจ้าหน้าที่อีกนายจะส่งข่าวมาบอกว่าจะจัดการอย่างไรต่อไปนะครับ

    ไม่รอ! จะตอนนี้หรือตอนไหนก็ไม่รอแล้ว! ฉัน-จะ-กลับ-บ้าน!”

    คงจะไม่ง่ายแบบนั้นหรอกครับ -_-”

    กรี๊ดดด! หยุดพูดคำนั้นเดี๋ยวนี้เลยนะ ก่อนฉันจะไม่ทน!”

    งั้นคุณก็ช่วยหยุดพล่ามเสียงแสบแก้วหูนี่ก่อนนะครับ ก่อนที่ผมจะไม่ทน!”

    “…!”

    ฮ่าาาาาาๆๆๆๆๆๆๆๆ!! พูดถูกใจๆ! ชอบๆ

    เป็นคำสวนที่เจ็บถึงทรวงในจริงๆ L แต่ยังไม่เจ็บเท่าไอ้โรคจิตที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉันหัวเราะร่วนพลางตบมือชอบใจนี่สิ บังอาจมาก!

    กรี๊ดดด! นายมีสิทธิ์อะไรมาหัวเราะฉันยะ!”

    แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉันล่ะ จะหัวเราะหรือร้องไห้มันก็เรื่องของฉัน เจ้าตัวพูดพลางยักคิ้วยียวนกวนบาทา หน็อย! แต่ละคน!! ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ!

    หลังจากนั้นฉันก็รีบคว้าไอโฟนสิบเอสรุ่นล่าสุดขึ้นมากดโทรออกหาแด๊ดคุณพ่อสุดที่รักของฉันอย่างรวดเร็ว ฝากไว้ก่อนเถอะ! เดี๋ยวฉันฟ้องแด๊ดเมื่อไหร่ พวกแกอยู่ไม่สุขแน่ หึ!

    ติ๊ด!

    แด๊ด! แด๊ดคะแด๊ด!!” ฉันกรอกเสียงใส่ปลายสายด้วยน้ำเสียงน่าสงสารพลางหันไปเย้ยหยันไอ้โรคจิตข้างๆ ที่นั่งห่างไปสามวา ใช่สิ ใครจะอยากนั่งใกล้ ไม่อาบน้ำมากี่ปีแล้วก็ไม่รู้

    แต่ทว่าไอ้บ้านั่นกลับเบ้ปากลงแทบถึงคางส่งคืนมา ประมาณว่า แหวะ ลูกแหง่ติดพ่อนี่ฉันไม่ได้คิดไปเองใช่ม้ายย! ฉันชี้หน้าหมอนั่นกลับทันทีโดยสัญชาตญาณ ประมาณว่า เดี๋ยวๆ นายกำลังจะได้เจอของดี!’

    (ว่าไงจ๊ะลูกรัก)

    อ้าวแม่ คุณพ่อละคะ

    (ลูกมีอะไรรีบว่ามาดีกว่า)

    มีข่าวร้ายมาก แม่อย่าตกใจนะคะ คือว่าตอนนี้หนูอยู่ที่สถานีตำรวจ เขาเอาตัวหนูมาให้ปากคำ และกักไว้ ทั้งๆ ที่หนูก็ไม่ด๊ายยไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่น้อย แถมยังมาว่าหนูเสียงดังน่ารำคาญอีก ยังไม่พอ ไอ้คู่กรณีข้างๆ หนูยังเป็นคนบ้า!! น่ากลัวมากๆ หนูทนไม่ไหวแล้ว แม่ต้องรีบออกมาประกันตัวหนูเดี๋ยวนี้ เข้าใจมั้ยคะ!”

    (เอ่อคือ-)

    เข้าใจนะคะ! ต้องรีบออกมาประกันตัว เดี๋ยว-นี้!”

    (ลูกฟังนะ...เราจะคุยกันอีกทีหลังจากลูกออกมาแล้ว แล้วค่อยโทรมาใหม่ สวัสดีจ้ะ)

    แม่-

    ตู๊ดๆๆๆๆๆๆ

    เป็นการตัดบทที่งดงาม -_- เอาล่ะ คราวนี้ฉันจะเย็บหน้าที่แตกละเอียดนี่ยังไง ฉันค่อยๆ เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าช้าๆ ก่อนจะหันกลับไปสู่จุดเดิม ทุกคนมองฉันด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ ฉันยิ้มแหยๆ แทนคำตอบ โอ๊ยอาย อยากมุดหน้าแทรกแผ่นดินหนีจริงจริ๊ง TTOTT

    มันไม่ง่ายชนาดนั้นหรอกนะครับ เจ้าหน้าที่คนเดิมกล่าวตอกย้ำ เพราะคุณไมเคิลเองก็โทรให้ครอบครัวมาประกันตัวเหมือนกัน แต่ด้วยความที่เป็นคดีใหญ่พอสมควร ฝ่ายนั้นแม้จะมีเงินมากมายขนาดไหนก็เข้ามายุ่งเกี่ยวไม่ได้ อีกอย่างเขาเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรม ไม่มีเส้นสายด้านนี้เลยแม้แต่น้อย นับประสาอะไรกับคุณครับคุณ -_-”

    “…” เจ้าหน้าที่สมัยนี้ด่าเจ็บเกินไปแล้ว L เอาล่ะ ฉันจะไม่เถียง ว่าแล้วก็เชิดหน้าขึ้นอย่างเริ่ดๆ ชิ

    วินาทีถัดมาตำรวจอีกนายหนึ่งก็เดินเข้ามาส่งสาร พร้อมกับกระซิบกระซาบกันอยู่พักหนึ่ง ฉันที่เชิดหน้าอยู่ใช้หางตามองอย่างสอดรู้ นี่มีแผนจะปล่อยตัวฉันแล้วใช่มั้ย อย่าหลอกให้ดีใจนะ!

    เราได้รับข้อมูลแล้วเจ้าหน้าที่พูดขึ้นหลังจากที่ตำรวจอีกนายเดินออกไป อืม...

    รีบพูดมาสิ ฉันรออยู่นะ *-*

    คืนนี้เรายังคงปล่อยตัวคุณไม่ได้ เพราะพรุ่งนี้พวกคุณต้องขึ้นศาล เพื่อความชัวร์ๆ ว่าคุณจะไม่หนีไป เราจะต้องให้คุณทั้งหมดนอนอยู่ที่คุกคืนนี้

    ฮะ! อะไรนะ!! นอนคุก! นี่นายจะบ้าหรอ!! ฉันอยู่ของฉันดีๆ ให้มานอนคุก ฉันเป็นคนดีนะ ดีมากด้วย ขาวสะอาดบริสุทธิ์ นายทำแบบนี้ได้ยังไง ไอ้เจ้าหน้าที่เฮงซวยยยย!! ฉันไม่มีทางนอนเด็ดขาดเว้ยย!”

     

    และแล้วฉันก็ได้มานอนในคุกหนึ่งคืน -_- ถือเป็นการทัวร์ดูชีวิตคนในคุกละกัน เพราะอย่างน้อยพวกเราก็ได้ห้องคุกที่ดี สะอาดสะอ้าน (พยายามปลอบใจตนเอง)

    เพราะเธอแท้ๆ เลยและมันคงจะดีมากกว่านี้ถ้าฉันไม่ได้อยู่ร่วมห้องกับไอ้โสโครกนี่!!

    ทำไม! มันเกี่ยวอะไรกับฉัน! ฉันสิต้องโทษนาย ทั้งหมดเพราะนายนั่นแหละ นายผิดเต็มประตูเลย รู้มั้ย!!”

    นี่เธอไม่ได้ยินที่เจ้าหน้าที่บอกก่อนหน้านี้หรอ เพราะเธอขี้โวยวาย เจ้าหน้าที่เลยกลัวว่าเธอจะไม่ไปศาลตามนัด และชิ่งหนีไปน่ะ

    ดะ...ได้ยินสิ! ไม่ได้หูหนวกนะเว้ย!”

    ก็ได้ยินแล้วรู้ยังล่ะ ว่าเธอผิดน่ะ ฮะ ฮะ ฮะเขาถามพลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้ตามจังหวะ

    กรี๊ดดด! ออกไปเลยนะเว้ย เอาใบหน้าอันโสโครกของนายออกห่างฉันไกลๆ เดี๋ยวนี้เลย!!”

    เธอไม่ต้องห่วงหรอก อย่างเธอฉันคงทำอะไรไม่ลง

    กรี๊ดดด! นายกล้ามากนะที่พูดอย่างนี้น่ะ!”

    อ้อ ปฏิเสธ?

    ใช่สิ ฉันน่ะออกเฟอร์เฟ็ค เซ็กซี่ซะขนาดนี้

    จะโปรโมตตัวเองทำไมกั๊นนน

    อ้อออ หรือว่านายเป็นเกย์?!”

    พูดงี้หมายความว่าไง อยากให้ฉันลงมือทำจริงๆ รึไง ห้ะๆ

    นะ...นาย! @#$%^&*(*&^%$#$%”

    อะไรๆ แก้ตัวไม่ทัน? -_-”

    ทันเว้ย! นายฟังไม่รู้เรื่องเอง -0- ฉันไม่ได้อยากให้นายทำอะไรทั้งนั้นแหละ เพียงแค่บอกไว้ว่าฉันน่ะดีเกินกว่าที่จะไปต่อล้อต่อเถียงกับนาย เรามันคนละระดับกัน รู้ไว้ซะด้วย!”

    อ้อเหรอครับบบบ

    เฮ้ยยย!! หุบปาก!!!” สงครามน้ำลายยังไม่ทันจบก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นแทรก จะเป็นเสียงใครไปได้นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ -_- “คิดถูกคิดผิดที่เอาพวกเธอมานอนคุกเนี่ย เสียงดังน่ารำคาญจริงๆ - -*”

    “…”

    ...

    และแล้วก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เงียบเชียบมาเกือบสามชั่วโมง เงียบไปก็ไม่ได้นะ =[]= แล้วเอาไงดีล่ะทีนี้ จะหยิบไอโฟนขึ้นมาสไลด์เล่นก็ไม่ได้ เพราะโดนเก็บไว้ข้างนอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชีวิตฉันมีอะไรที่แย่กว่านี้อีกมั้ยนะ L

    อาหารเย็นหลังจากคิดอะไรเพลินๆ ไปเพียงแค่พักเดียว อาหารเย็นก็ถูกนำมาส่ง ฉันมองมันอย่างขยะแขยง แหวะ ไม่เห็นจะน่ากินตรงไหน

    อยู่คุกนี่ก็มีข้อดีนะ นอนฟรี กินฟรี ^O^” ไอ้โรคจิตพูดพลางตักอาหารคำแรกใส่ปาก โอ๊ยยย ให้ตายเถอะ ฉันชักจะทนกับสภาพแบบนี้ไม่ไหวแล้วนะ

     

    เช้าวันถัดมา...

    เวลาผ่านไปไวราวกับโกหก และใบหน้าฉันตอนนี้ก็สวยสดงดงามขอบตาคล้ำดำปี๋ราวกับหมีแพนด้า เพราะอดหลับอดนอนทั้งคืน ไหนจะเตียงแข็งๆ ไหนจะหมอนที่เหมือนไม่ใช่หมอน ไหนจะระแวงไอ้โรคจิตนั่นอีก พวกเราถูกปล่อยตัวออกมาตอนเจ็ดโมงให้กลับบ้านไปอาบน้ำอาบท่าเตรียมมาขึ้นศาลเวลาแปดโมงครึ่ง ไม่เข้าใจว่าจะให้นอนทำไม ในเมื่อตอนเช้าก็ปล่อยตัวกลับบ้านอยู่ดี ฉันเดินลงบันไดหน้าสถานีอย่างอิดโรย ซึ่งแตกต่างกับไอ้โรคจิตข้างๆ ฉันโดยสิ้นเชิง

    วู้! เช้าวันนี้ช่างสดใสเขาพูดพลางบิดขี้เกียจ พลางสูดรับอากาศยามเข้าหน้าสถานีเข้าเต็มปอด ดูท่าทางจะมีความสุขมาก -_-

    เพราะนายแท้ๆ เลย ฉันถึงนอนไม่หลับ!”

    เมื่อไหร่เธอจะเลิกโทษคนอื่นสักทีนะ -_-^”

    ฮึ่ย!” หันไปแยกเขี้ยวเสร็จฉันก็รีบหยิบไอโฟนขึ้นมาทันทีเมื่อนึกได้ อันดับแรกต้องโทรหาแด๊ด ว่าแล้วก็ไม่รอช้า กดโทรออกทันที

    ...ติ๊ด!

    ฮัลโหลแด๊ด!”

    (ว่าไงลูกรัก)

    แด๊ดคะ ตอนนี้หนูออกจากสถานีแล้วนะคะ แม่เล่าให้แด๊ดฟังแล้วใช่มั้ย

    (เล่าสิลูก รู้ไหมพวกเรานอนไม่หลับเลยเมื่อรู้ว่าลูกอยู่ในคุกน่ะ) เป็นคำพูดที่ซาบซึ้งน้ำตาพานจะไหล นี่ถ้าฉันไม่มีครอบครัวและเงินทองบัตรเครดิต ชีวิตฉันคงจะเข้าขั้นตกอับและบัดซบมากเลยนะเนี่ย

    หนูจะรีบกลับไปหาแด๊ดเดี๋ยวนี้แหละค่ะ คิดถึงบ้านที่ซู๊ดดด >O<”

    (อ้าว แม่ยังไม่เล่าเรื่องนี้ให้ลูกฟังหรอ?)

     

     

     






















     











    ขอโทษนะคะที่ดองง้าา TwT
    อากาศเปลี่ยนเลยไม่บาย นอนตายมานาน
    55555555555555555555
    เดี๋ยวจะรีบตามเก็บเรื่องที่ค้างน้าาา
    และอีกอย่างคืออยากแต่งให้จบ + รีไรท์ก่อนค่อยลง
    ไปๆ มาๆ เหมือนจะไม่ทัน ลงก่อนเลยละกัน ฮ่าๆ


    เม้นท์ๆๆๆ กำลังใจอันล้มหลามนะงับ ♥



    (12/5/56) แก้คำผิด ขอบคุณพี่ตาณค่า



    THE★ FARRY




     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×