ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    . ( exo ) RAINY PATHWAY -chanbaek-

    ลำดับตอนที่ #3 : RAINY PATHWAY : 2

    • อัปเดตล่าสุด 6 ส.ค. 56




    CHAPTER 2

    ฝนยังคงตกเหมือนทุกๆวัน

     

    ชานยอลแหงนหน้าป้าย gâteau & café สีหวานที่แขวนอยู่หน้าร้านกาแฟเล็กๆแห่งหนึ่งก่อนจะลดระดับของร่มในมือลง วางร่มลงในบริเวณที่ทางร้านจัดไว้ก่อนจะผลักประตูเข้าไป

    'open '

    สอดส่ายสายตามองหาคนที่นัดไว้แต่ไม่พบ พนักงานต้อนรับจึงนำเขาไปที่โต๊ะขนาดกลางตรงมุมกระจก 

    บรรยากาศอุ่นๆภายในร้านส่งผลให้ชานยอลรู้สึกผ่อนคลายจากความหนาวเย็นของสายฝนที่เพิ่งเผชิญมา 

    จากมุมนี้ เขามองเห็นคราบหยดน้ำที่เกาะอยู่บนกระจก บรรยากาศอึมครึมที่ชวนให้หัวใจสั่นไหว 

    ใบหน้าได้รูปเหม่อมองสายฝนผ่านกระจกอยู่นานสองนาน 

     

     

     

     

    "มาถึงก่อนแต่ก็ไม่สั่งอะไรสักอย่าง" จงอินพูดก่อนจะทิ้งตัวลงข้างๆเขา 

    "มัวแต่เหม่ออยู่นั่นแหละ"เซฮุนว่า 

    "มาช้าแล้วยังจะพูดมากอีก" พูดก่อนจะละสายตาจากหน้าต่างมาหาเพื่อนทั้งสองคน 

    เมื่อสั่งขนมเรียบร้อยแล้ว เซฮุนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นเกมเหมือนเคย จงอินนั่งเท้าคางมองบรรยากาศรอบๆร้าน ในขณะที่ชานยอลฟุบหน้าลงกับโต๊ะ 

    สัมผัสเย็นๆของโลหะที่แนบไปกับแก้มทำให้ชานยอลเกือบตัวสั่น 

     

    "ไง ซึมเป็นหมางอยเลยนะมึง"จงอินแซวแต่ชานยอลไม่ได้ตอบอะไรกลับมา 

    เขาหดหู่เกินกว่าจะโต้เถียงอะไรกับใคร 

     

    วันนั้นเขาไปส่งแบคฮยอนแค่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินใกล้ๆ เพราะเจ้าตัวยืนยันว่ากลับเองได้ ชานยอลที่ไม่อยากเซ้าซี้จึงยกร่มให้ก่อนจะบอกลา 

     

    แบคฮยอนขอเบอร์ชานยอลแต่ไม่ได้ทิ้งเบอร์ตัวเองไว้ 

    ชานยอลไม่มีเบอร์โทรศัพท์ไอ้ตัวเล็กของเขา เขาติดต่อไปไม่ได้ ไปหาก็ไม่ได้ 

    ทำได้แค่รอว่าสักวันแบคฮยอนจะติดต่อกลับมา 

    ซึ่งมันก็เกือบหนึ่งอาทิตย์แล้ว แต่ก็ไม่มีวี่แวว

     

     

    "ชอบเขามากขนาดนั้นเลยหรอวะ" เซฮุนถาม เงยหน้าจากเกมในโทรศัพท์ 

    ชานยอลไม่ได้ตอบอะไร ใบหน้าด้านที่สัมผัสกับโต๊ะเย็นจนชา 

    คนตัวสูงปิดเปลือกตาลงอย่างอ่อนล้า 

    ยามที่เสียงฝนกระทบหน้าต่างดังกว่าเสียงพูดคุยของเพื่อนทั้งสองคน

    ในเวลาแบบนี้ชานยอลรู้สึกคิดถึงแบคฮยอนยิ่งกว่าตอนไหนๆ

     

     

    "ลาเต้เย็นกับโกโก้ปั่นได้แล้วครับ"พนักงานคนนึงเดินเอาเครื่องดื่มที่สั่งมาเสิร์ฟ จงอินเอาเท้าเตะชานยอลใต้โต๊ะเป็นเชิงบอกให้ลุก 

    "อร่อยอย่างที่ฮายองบอกเลย"เซฮุนพูดหลังจากที่วางแก้วลาเต้ลง 

    "น้องสาวมึงก็เข้าใจเลือกร้านนะ"จงอินทัก

    "หือ ใครว่าละ มันบอกว่าเจ้าของร้านหน้าตาดี"

    "นิสัยเหมือนพี่ไม่มีผิด ฮ่าๆๆๆ"

     

    เซฮุนทำท่าจะต่อยจงอินก่อนที่เสียงริงโทนจะดังขึ้นขัดจังหวะ 

    "ฮัลโหล ตายยากจริงๆเลยนะฮายอง"

    ชานยอลนั่งคนแก้วโกโก้ปั่นเล่น สายตาหยุดมองที่เพื่อนสนิท

     

    "เจ้าของร้าน คนไหน พี่จะรู้จักได้ยังไง"

    เพื่อนสนิทตัวขาวขมวดคิ้วแน่น หน้าตาบอกบุญไม่รับ

    "เออๆ เดี๋ยวจัดการให้ แค่นี้นะ"

    เซฮุนกดวางโทรศัพท์ก่อนจะโบกมือเรียกพนักงานคนเดิม

     

    "เจ้าของร้านอยู่ไหมครับ"

    "อ่า มาสเตอร์ออกไปข้างนอกยังไม่กลับมาเลยครับ แต่อีกสักพักคงจะถึง"

    พนักงานร้านกาแฟคนเดิมบอก ฉีกยิ้มให้ก่อนจะขอตัวไปทำงานต่อ

    "มีอะไรวะ"ชานยอลที่มองอยู่นานถามขึ้น

    "ก็อีกไม่กี่วันจะวันเกิดแม่ ฮายองอยากได้สูตรเค้กนะสิ" พยักหน้าเพื่อบอกว่าเข้าใจก่อนจะจมเข้าสู่โลกส่วนตัวอีกครั้ง

     

    โดยปกติแล้วพวกเขาทั้งสามคนก็มักจะนัดกันไปหาอะไรทำตามประสาวัยรุ่นทั่วไป แต่บังเอิญว่าช่วงนี้ฝนตกก็เลยต้องหาอะไรที่อยู่ในอาคารทำเสียมากกว่า ส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นการหาร้านอาหารดีๆซักร้าน หรือไปดูหนังสนุกๆซักเรื่อง 

    ใช้ชีวิตแบบเดิมๆไปวันๆ...อาจเพราะยังหาจุดหมายในชีวิตไม่เจอ 

     

    เข็มนาฬิกาเดินไปไกลกว่าเดิมเกือบร้อยแปดสิบองศา ชานยอลเริ่มพูดคุยมากขึ้น การมีเพื่อนอยู่ด้วยในช่วงเวลาที่สับสนทำให้เขาไม่ฟุ้งซ่านเท่าที่ควร 

    ก็ได้แต่หวังว่าตอนอยู่คนเดียวจะยิ้มได้แบบนี้บ้าง

     

     

     

     

     

    บยอนแบคฮยอนก้าวเท้าลงจากมินิคูเปอร์คันเล็กทันทีที่รถหยุดลง ห้าวันก่อนเขาเพิ่งถูกพามาที่คอนโดแห่งนี้โดยบังเอิญ

    ใบหน้าเล็กๆหันไปมาอย่างคนไม่ชินทาง ก่อนจะยกขาก้าวเดินไปตามทาง 

    เสียงรองเท้าผ้าใบที่กระทบกับพื้นกว้างก้องสะท้อนอยู่ในทางเดินโล่งๆ แบคฮยอนกดลิฟต์ก่อนจะเลือกชั้นที่ยังคงจำได้ดี 

    หลังจากที่เดินมาถึงหน้าห้องของคนใจดีแล้ว เขาก็ยกมือขึ้นเคาะประตู

    ก๊อกๆ 

    ไร้เสียงตอบรับใดๆจากคนข้างหลังประตู แม้จะทำใจมาแล้วล่วงหน้า แต่ก็รู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูกเมื่อถูกความรู้สึกหัวใจแฟบแปลกๆจู่โจมเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว 

    มือเรียวขยับถุงเสื้อผ้าที่ตั้งใจจะเอามาคืนไว้แนบอก กอดมันไว้แน่นๆก่อนจะตัดสินใจกลับ 

    กดลิฟต์ลงมาที่ล็อบบี้ด้านล่าง ก่อนจะเดินตรงไปยังพนักงานต้อนรับที่ส่งยิ้มกว้างมาให้

     

    "ผมฝากของให้คุณปาร์คชานยอลห้อง 1205 ได้ไหมครับ" 

    "ได้ค่ะ ขอทราบชื่อคนฝากด้วยค่ะ"

    "...บยอนแบคฮยอน ครับ"

    "คุณบยอนจะฝากโน้ตอะไรถึงคุณปาร์คไหมคะ"

    "..." 

    "..."

    แบคฮยอนส่งยิ้มให้พนักงานอีกครั้ง 

    .

    "ไม่ดีกว่า... ขอบคุณมากครับ"

     

     

    แม้ว่านี่อาจจะเป็นโอกาสเดียวที่จะติดต่อกับชานยอลต่อไป แต่เขาก็ไม่ได้อยากจะคว้ามันไว้ 

    ถึงได้มาหาโดยที่ไม่บอกก่อนล่วงหน้า จะได้เจอกันอีกครั้งหรือไม่ เขาปล่อยให้มันเป็นเรื่องของโชคชะตา 

    แบคฮยอนแค่เข็ดและยังไม่พร้อมจะเปิดใจ

     

    บางทีนี่อาจจะเป็นคำตัดสินของคนบนฟ้า ว่าเรายังไม่ควรได้พบกัน

     

     

     

     

    เพราะว่าเซฮุนต้องอยู่รอทำธุระให้ฮายอง ชานยอลก็เลยขอตัวกลับก่อน เวสป้าสีฟ้าเข้มคันเก่งขับเอื่อยๆไปตามใจเจ้าของที่จิตใจเริ่มเหม่อลอยอีกครั้ง 

    ฝนตกปรอยๆอย่างเคย ด้านหน้าของหมวกกันน็อกของชานยอลเต็มไปด้วยหยดน้ำฝนที่เริ่มเปาะแปะลงมา

    กว่าจะถึงคอนโดท้องฟ้าก็เกือบจะเปลี่ยนสี ชานยอลถอดหมวกกันน็อกห้อยไว้ตรงที่ที่มันควรอยู่ หยิบร่มที่พับเก็บไว้ใต้เบาะติดมือขึ้นไปเก็บบนห้อง 

    เครื่องปรับอากาศทำงานของมันดีเกินไป ทันทีที่ชานยอลก้าวเท้าเข้าไปในคอนโดเขาก็ถูกอากาศเย็นๆเล่นงานอย่างไม่ทันตั้งตัว เสื้อนักศึกษาสีขาวที่แนบติดไปกับไหล่กว้างเพราะฝนไม่ได้ช่วยบรรเทาความหนาวเลย

    เขาเกือบจะวิ่งขึ้นห้องอยู่แล้วเชียว ถ้าไม่ได้ยินเสียงเรียกของพนักงานต้อนรับที่ล็อบบี้ 

     

    "คุณปาร์คคะ มีคนฝากของไว้ให้ค่ะ"เธอยิ้มให้อย่างเคย ก่อนจะยื่นถุงกระดาษใบหนึ่งให้ชานยอล 

    "ขอบคุณมากครับ" 

    ถึงแม้จะสงสัยแต่ความหนาวที่มีก็ชนะในที่สุด ชานยอลกล่าวขอบคุณก่อนจะรีบกลับขึ้นห้องไป 

     

     

     

    หลังจากอาบน้ำสระผมเสร็จแล้วขายาวๆก็พาเจ้าของร่างมาหยุดอยู่ตรงหน้าโซฟา ชานยอลทิ้งตัวลงนอนก่อนจะรู้สึกถึงสัมผัสนิ่มๆบริเวณกลางหลัง 

    มือยาวยื่นออกไปควานหาก่อนจะพบกับถุงกระดาษใบที่เพิ่งได้มา ชานยอลเปิดมันดูอย่างไม่ได้ใส่ใจจนกระทั่งมองเห็นของข้างใน

     

    เสื้อยืดกับกางเกงนอนขายาวของเขาที่วันนั้นแบคฮยอนเอาติดมือไป พร้อมกับกระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆ 

     

    'ขอบคุณอีกครั้งนะ....'

     

     

    หัวใจของชานยอลเต้นถี่ขึ้น เขาลนลานกดโทรศัพท์ลงไปที่ล็อบบี้ข้างล่าง

    "ขอโทษนะครับ ผมปาร์คชานยอลห้อง1205 คุณคนที่ฝากของไว้เข้าได้ฝากอะไรไว้ไหมครับ" เขาถามอย่างมีความหวัง 

    "ไม่มีค่ะ ดิฉันถามแล้ว เขาบอกแค่ว่าชื่อบยอนแบคฮยอน"

     

    วินาทีนั้น ลูกโป่งที่กำลังพองอยู่ในตัวของชานยอลเหมือนกับถูกทิ่มจกแตกไป

    โป๊ะ

    เขานิ่งจนกระทั่งสายถูกตัดไปเอง ถอนหายใจก่อนจะทิ้งตัวลงกับโซฟา มือยังคงกำถุงกระดาษเอาไว้แน่น สายตาทอดมองไปยังกระดาษโน้ตใบเล็กที่มีลายมือของใครบางคนอยู่

     

    บางที นี่อาจเป็นสิ่งเดียวที่จะใช้ยืนยัน

    ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตของปาร์คชานยอล เคยมีบยอนแบคฮยอนผ่านเข้ามา






    ขอบคุณอีกครั้ง สำหรับทุกกำลังใจ ทั้งเฟบทั้งเม้น ทั้งยอดวิว
    ทุกอย่างเพิ่มขึ้นแปลว่ายัมีคนตามอ่านอยู่ จุดนี้ซึ้งใจมากค่ะ แฮ่
    เราบอกแล้วว่าไม่ดราม่า เชื่อใจเรานะ จริงๆ ทั้งหมดก็แค่ภาพลวงตา
    เราไม่ผิด คนบนฟ้าผิด ไม่เชื่อถามแบคฮยอน 555555555
    เลิ้บเหมือนเดิมค่า -   3   - 






     

     

    :) Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×