ในเช้าวันหนึ่งที่ฟ้าครึ้มและฝนตกอย่างหนัก ฉันที่ควรจะได้ออกไปเที่ยวข้างนอกแต่ก็ไปไหนไม่ได้เลย ทำให้ฉันได้แต่นั่งดูหนังแฮร์รี่พอตเตอร์และอ่านหนังสือแฮร์รี่พอตเตอร์ตั้งแต่ภาค1-7 ซ้ำไปซ้ำมาจนแทบจะจำบทได้อยู่แล้ว!!!
แต่อยู่ดีๆ เปรี้ยง!!
ฟ้าก็ผ่าลงมาที่ตัวฉัน หลังจากนั้นสติของฉันก็ค่อยๆ– เลือนลางไป
.
.
.
.
พอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก็รู้สึกว่าจากมือใหญ่ๆของฉันกลายเป็นมือเล็กจิ๋ว? ‘มือฉันอย่างกับมือเด็กทารกแหนะ’ เธอได้แต่คิดในใจ
“แต่ทำไมขยับตัวไม่ได้ เอ๊ะ! แต่ฉันพูดเป็นภาษาคนนะ แต่ทำไมเสียงที่ออกมากลายเป็นเสียงร้องของเด็กทารกแทนล่ะ??”
เมื่อแม่นมได้ยินเสียงร้องของเด็กน้อย ก็รีบเดินจ้ำอ้าวมาอุ้มเด็กน้อยขึ้นเพื่อกล่อมให้นอนหลับในทันที หลังกล่อมได้ไม่นานเด็กน้อยก็ผล็อยหลับไป
พอเธอรู้สึกตัวตื่นอีกรอบก็เริ่มคิดว่า ‘ฉันมาอยู่ที่ไหนกันละเนี่ย แถมยังเป็นเด็กทารกอีก’ เธอได้แต่คิดในใจ จนกระทั่งเด็กน้อยได้ยินเสียงผู้หญิงคนนึงพูดคุยกับแม่นมของเธอ
“ลูอิสหลับไปรึยัง” มีเสียงของหญิงสาวพูดขึ้น
“คุณหนูหลับไปแล้วค่ะนายหญิง” เสียงหญิงแก่พูดตอบ ไม่นานจากนั้นหญิงสาวก็ได้เดินมาในห้องของเด็กน้อย และเธอได้ยินเสียงของหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นนายหญิงพูดขึ้นว่า
“อากัวเมนตี” เธอกล่าวเสียงเรียบ สิ้นเสียงของหญิงสาว จากแก้วที่ไม่มีน้ำพลันมีน้ำปรากฏขึ้นมา
“ !!!!!! ”
ทำให้เด็กน้อยที่นอนอยู่ในเปลเด็กตกใจเป็นอย่างมากทำให้เธอเริ่มกลับมาคิดอีกครั้ง ‘อากัวเมนตี เอ๊ะ! นี่มันคาถาเสกน้ำจากหนังแฮร์รี่นี่ หรือว่าฉันฝันรึเปล่า’ เมื่อคิดได้ดังนั้นเด็กน้อยก็พยายามตีหน้าหรือหยิกแก้มตัวเอง แต่พอเด็กน้อยคิดไปคิดมาก็นึกได้ว่าตัวเองโดนฟ้าผ่าก็ไม่น่าจะรอดตายมาได้- เธอจึงเริ่มคิดใหม่
‘หรือว่าฉันจะมาเกิดใหม่อยู่ในโลกแฮร์รี่พอตเตอร์ เหมือนกับในหนัง ในการ์ตูน จะเป็นไปได้รึเปล่า แต่ดูเพ้อเจ้อไปหน่อยนะเอาจริงๆ’
ทว่าเธอเองก็ยังไม่ค่อยเชื่อจึงลองเรียกของเล่นมา ของเล่นก็ลอยมาอย่างทันควัน-
‘น–นี่ ฉัน ฉัน เป็นแม่มดหรอ! กรี๊ดดดดดดด’ เด็กหญิงเพียงได้แต่กรี๊ดอยู่ในใจ เพราะถ้าเธอจะพูดอะไรก็ต้องกลายเป็นเสียงเด็กร้องและแม่นมก็ต้องมากล่อมนอนก่อนแน่ๆ
.
.
.
หลังจากที่เด็กน้อยซุ่มฟังอยู่นานก็ได้พบว่านายหญิงชื่อ ลูเซีย แบล็ก (โรซิเออร์ เป็นนามสกุลเดิมก่อนจะแต่งงาน) ซึ่งเป็นแม่ของเธอ และยังได้รู้อีกว่าพ่อของเธอคือ เรกูลัส แบล็ก ส่วนตัวเธอนั้นชื่อ ลูอิส แบล็ก ถึงเด็กหญิงจะยังงงๆอยู่ว่าเรกูลัสรอดตายมาได้ยังไง แต่ถ้าจะให้เธอถามในตอนนี้ก็คงคุยกันไม่รู้เรื่อง
–11 ปีต่อมา–
“หนูไปก่อนนะคะ” เด็กหญิงผมบลอนด์พูดลาพ่อและแม่
พ่อและแม่ของเธอโบกมือลา เมื่อเด็กหญิงเห็นดังนั้นจึงค่อยๆก้าวเท้าน้อยขึ้นรถไฟฮอกวอตส์เอ็กเพรซไป
.
.
.
“จะว่าไปพ่อแม่ของฉันในโลกนั้นจะเป็นยังไงบ้างนะ พูดแล้วคิดถึงจัง” เด็กหญิงพูดไปโดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้น้ำตาเธอเอ่อล้นอยู่ในดวงตาคู่สวยคู่นั้นอย่างน่าเห็นใจ เหมือนทุกอย่างก็จะเป็นใจสายลมอ่อนๆค่อยๆพัดผ่านผมสีบลอนด์ยาวของเธอไปจนลูอิสได้สติกลับมา
“เราต้องโฟกัสกับปัจจุบันของเราสิ ถ้ามัวแต่จมปลักคงไม่ได้ไปไหนกันพอดี”
L : ติชมไรท์ได้เสมอเลยนะคะ เรื่องแรกของไรท์
ถ้ามีอะไรผิดพลาดขออภัยด้วยค่า
enjoy reading ka.
ความคิดเห็น