คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : บทสรุป
บทสรุป
ปรากฏการณ์ที่สำคัญในเหตุการพฤษภาทมิฬ คือการชุมนุมของกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยประกอบด้วยชนชั้นกลางเป็นจำนวนมาก ซึ่งแตกต่างจากกรณี 14 ตุลาคม 2516 ทั้งนี้เนื่องจากสองทศวรรษที่ผ่านมาเศรษฐกิจและสังคมไทยได้พัฒนาไปมาก ทำให้ชนชั้นกลางที่เริ่มส่อเค้ามาตั้งแต่ปี 2516 เห็นเด่นชัดขึ้นผู้ร่วมชุมชุมหลายคนมีโทรศัพท์มือถือ ขับรถเก๋งส่วนตัวไปร่วมชุมนุมและมีเป็นจำนวนมากที่มีกิจการเป็นของตนเอง
จากการสำรวจของสามคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย โดยใช้ผลสำรวจ 2,000 จุดพบ้อมูลที่น่าสนใจคือ
อายุของผู้ชุมนุม | |
20-29 ปี |
39.4 % |
30-39 ปี |
36.5% |
40-49 ปี |
14.2% |
50 ปีขึ้นไป |
6.7% |
อาชีพของผู้ชุมชุม | |
เจ้าของกิจการ |
13.7% |
เอกชน |
45.7% |
ราชการ |
14.8% |
รัฐวิสาหกิจ |
6.2% |
รายได้ของผู้ชุมนุม | |
รายได้ต่ำกว่า 5,000 บาท |
14.1% |
5,000-9,900 บาท |
28.5% |
10,000-19,999 บาท |
30% |
20,000-50,000 บาท |
15.5% |
สูงกว่า 50,000 บาท |
6.2% |
จะเห็นได้ว่าจากข้อมูลดังกล่าว ผู้ร่วมชุมชุมเป็นชนชั้นกลางของสังคมมีจำนวนมาก ระดับและจำนวนของชนชั้นกลางแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในแง่อายุ อาชีพ และรายได้ กล่าวได้ว่าเป็นความแตกต่างในแง่คุณภาพ ไม่ใช่เพียงปริมาณ อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงที่ว่าการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยประสบความสำเร็จ โดยที่ฝ่ายรัฐบาลซึ่งแม้จะมีกำลังทหารหนุนหลัง ก็ไม่สามารถปราบปรามประชาชนได้นั้นไม่ได้เกิดจากสภาพการขยายตัวของชนชั้นกลางเพียงอย่างเดียว หากเกิดจากตัวแปรต่างๆ หลายอย่างด้วยกันคือ
1.แนวโน้มของโลกปัจจุบันคือการมีระบบการเมืองแบบเปิด และเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ กระแสแห่งประชาธิปไตยดังกล่าวแผ่กระจายไปทั่วโลก แม้กระทั่งสหภาพโซเวียตก็หนีไม่พ้น
2.ความตื่นตัวทางการเมืองของประชาชนมีมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ การศึกษา สื่อมวลชน เทคโนเลยีสานสนเทศ
3.เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519 เป็นประวัติศาสตร์ที่คอยกระตุ้นเตือน ความทรงจำถึงการต่อสู้และการเสียสละ วิญญาณเสรีชนดังกล่าวมีการสืบทอดมาโดยความทรงจำ การศึกษาและการปลุกเร้า
4.เศรษฐกิจไทยไม่ใช่เศรษฐกิจการเกษตรเป็นหลักอีกต่อไป แต่เป็นเศรษฐกิจผสมมีการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างและกายภาพ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐกิจและการเมืองมีสูง การใช้อำนาจเผด็จการแบบสังคมเกษตรจึงไร้ผล
5.เทคโนเลยีการสื่อสารทำให้ปฏิบัติการของผู้อยู่ในอำนาจล้าสมัย การส่งโทรสาร การับข่าวสารจากต่างประเทศล้วนแต่ทำให้การปิดข่าวสารและการบิดเบือนเป็นไปได้ยาก6
6.การต่อต้านนายกรัฐมนตรีเกิดจากการที่นายกรัฐมนตรีผิดคำสัญญาที่ให้ไว้แก่ประชาชนตอนที่เรียกร้องให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ ว่าจะไม่รับตำแหน่งทางการเมือง แต่ก็มาเสียคำพูดเท่ากับเป็นการหลอกลวงประชาชน นอกจากนั้นท่าทีแข็งกร้าวและเชื่อมั่นในอำนาจเท่ากับเป็นการยั่วยุยิ่งขึ้น นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรียังเป็นสัญลักษณ์ของเผด็จการทหารและการสืบทอดอำนาจ ทำให้เกิดความเคืองแค้นให้หมู่ประชาชน
7.การประเมินพลังประชาชนต่ำและเข้าใจว่าเป็นมวลชนจัดตั้งของฝ่ายตรงข้ามเพียงอย่างเดียว บนฐานของการประเมินดังกล่าว จึงคาดว่าถ้ามีการกวาดล้างด้วยกำลังประชาชนผู้ประท้วงจะแตกกระเจิงเพราะความรักตัวกลัวตาย แต่การณ์กลับตรงกันข้าม
8.วิกฤติแห่งความน่าเชื่อถือ การตระบัดสัตย์โดยอ้างว่า "เสียสัตย์เพื่อชาติ" ทำให้คำพูดทุกคำพูดของท่านนายกรัฐมนตรี ของรัฐบาล สื่อมวลชนของรัฐ ขาดความน่าเชื่อถือ
9.ความเชื่อแบบเก่า “ที่ว่าอำนาจบริสุทธิ์สามารถสยบได้ทุกอย่างเป็นความเชื่อที่ล้าสมัย” ผู้ที่คิดเช่นนี้ เป็นคนที่ ไม่ทันเหตุการณ์โลกเป็นวุฒิภาวะของคนรุ่นเก่าที่ไม่ได้ติดตามการเปลี่ยนแปลงของโลก ทำให้มองภาพผิด ตีความข้อมูลผิด รับฟังแต่ข้อมูลของผู้สอพลอ จึงนำไปสู้ปัญหาวิกฤต ผลสุดท้ายคือการทำลายตนเอง
ความคิดเห็น