คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 3 | blue curacao and a dash of lime cordial
3 | blue curacao and a dash of lime cordial
"เดี๋ยวนะ พี่ซองกยูเป็นจูบแรกของผมใช่มั้ย?"
บลูลากูนที่เพิ่งดื่มเข้าไปอึกใหญ่นั้นจุกอยู่กลางลำคอพอดิบพอดี ขัดจังหวะการเดินทางย้อนไปในอดีตซองกยูเสียสนิท เขาเกิดสำลักอย่างรุนแรงจนอูฮยอนจำต้องช่วยลูบหลัง แต่ก็ไม่วายกระตุกยิ้มตอบสายตาคมกริบที่ถูกตวัดขึ้นมอง
"ก็ใช่นี่นา น่าจะประมานม.ต้น ปีไหนผมก็จำไม่ได้ ที่ผมเพิ่งมีแฟนคนแรกน่ะ"
"นาย– ที่นายอยู่ดีๆก็ยื่นหน้าเข้ามาตอนที่ฉันกำลังสอนการบ้านนายอยู่ ให้เหตุผลโง่ๆว่าซ้อม และฉันก็ใส่กลับว่าปากผู้ชายกับผู้หญิงมันเหมือนกันซะที่ไหน"
ถ้าพูดถึงเรื่องนั้น... อูฮยอนหลุบตามองริมฝีปากสีสดที่มันวาวจากการเลียริมฝีปากที่เป็นนิสัยเสียของซองกยู ความคิดผุดขึ้นมาในสมองอย่างอัตโนมัติ ไม่เหมือนหรอก ริมฝีปากของซองกยูนุ่มและแตกนิดหน่อย แต่เขาคิดว่าเขาชอบมันมากกว่าสัมผัสลื่นๆเหมือนพลาสติกของลิปกลอสเป็นไหนๆ
แต่อูฮยอนก็รู้ดีกว่าที่จะไม่ตอบออกไปแบบนั้น
"โอ้ พี่ความจำดีนี่นา..."
"ฉันจำได้กระทั่งตอนที่นายตะโกนเรียกฉันจากนอกบ้าน แค่เพื่อที่จะบอกว่านายจูบกับแฟนนายแล้ว"
ถึงคราวที่อูฮยอนสะอึกไปบ้าง ชายหนุ่มพยายามกลั้นหัวเราะเมื่อภาพในตอนนั้นฉายขึ้นมาต่อหน้าเป็นฉากๆ ทั้งตอนที่ซองกยูเปิดหน้าต่างออกมาด้วยสีหน้าอันว่างเปล่า ราวกับจะบอกเขาเป็นนัยๆว่า 'ฉันเป็นแม่นายรึไง?' จนถึงตอนเขาถูกคุณนายนัมดึงกลับเข้าบ้านไปนั่นล่ะ
อูฮยอนพบตัวเองมองริมฝีปากคู่นั้นอีกครั้ง ลูกเชอร์รี่สีแดงสดหายเข้าไปผ่านริมฝีปากที่มีเฉดสีสวยเหมือนกัน จนเมื่อก้านถูกดึงออกเป็นเสียง pop เบาๆ เขาถึงได้รู้สึกตัวว่าเผลอกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่ บางทีมันอาจจะยากกว่าที่คิดก็ได้ การที่จะเริ่มใหม่ เพราะที่แน่ๆคือเขาจดจำทุกสิ่งทุกอย่างได้ชัดเจนราวกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน และเขารู้ว่าซองกยูก็จำได้ดีไม่แพ้กัน
เรามีกันและกันอยู่ในชีวิตมากเกินไป
มันอาจจะฟังดูเป็นเรื่องที่ดี ในขณะที่อูฮยอนสามารถเฝ้ามองคนอายุมากกว่าอย่างไม่มีพิรุธมาตลอด ด้วยความมั่นใจว่ายังไงก็เป็นบุคคลอันดับต้นๆที่ซองกยูจะคิดถึง ปัญหาก็อยู่ที่เส้นระหว่างกันที่ถูกขีดเอาไว้อัตโนมัติและคนอื่นๆที่เข้ามาในชีวิต ซองกยูไม่คิดกับเขาไปมากกว่านั้น ไม่ทันสังเกตุเห็นความเปลี่ยนแปลง มันก็เหมือนกับการเล่นซ่อนหากับซองกยูและไม่มีวันถูกจับได้ เพราะเขามีที่ซ่อนที่เจ๋งเกินไป
"อูฮยอน ฉันรู้ว่าฉันเป็นเกย์ แต่ถ้าฉันจำไม่ผิด นายสเตรท"
โอเค บางทีเขาควรที่จะออกจากที่ซ่อนแล้ววิ่งเข้าหาอีกฝ่ายตรงๆนั่นแหละ
"มันก็จริง ผมสเตรทมาตลอดเลย"
"แต่ถ้านายชอบฉัน – ที่เป็นผู้ชาย ก็เท่ากับว่านายเป็นเกย์"
"ไม่ใช่ซะทีเดียว ผมยังชอบผู้หญิง แบบที่ดูสง่าและฉลาด ตามเกมผมทัน ไม่อ่อนเปรี้ยไปกับคารมแค่ประโยคเดียว"
ซองกยูหมุนเก้าอี้มานั่งจ้องคนข้างกายแล้วกระพริบตาถี่ๆ คิ้วเริ่มจรดเข้าหากันในขณะที่ใช้สมองอย่างหนัก
"นายล้อฉันเล่นใช่มั้ย?" เสียงของซองกยูต่ำลงไปหนึ่งระดับ
"เปล่า ผมชอบหน้าอกนะ – อ้า จริงๆพี่ก็มีมันเหมือนกันนี่ – ก็นั่นแหละ ผมค่อนข้างมั่นใจว่าผมสเตรท" อูฮยอนเอียงแก้วไปทางซองกยูแล้วกล้าที่จะย้ำคำพูดด้วยการหลุบลงมองสิ่งที่เป็นประเด็นอยู่เมื่อครู่ หากแต่คนที่ถูกคุกคามทางคำพูดและสายตาก็ได้แต่นั่งอ้าปากค้าง
"ฉันจะฟ้องนาย"
ซองกยูพูดลอดไรฟันก่อนจะรีบหมุนเก้าอี้กลับแล้วยกแขนขึ้นกอดอก รู้สึกไม่ปลอดภัยยังไงแปลกๆเพราะอะไรก็ไม่เข้าใจ เขาไม่ใช่ผู้หญิงที่จะต้องกลัวถูกมองอย่างจาบจ้วงซักหน่อย แต่อูฮยอนไปงัดเอานิสัยหมาป่าแบบนั้นมาจากที่ไหนล่ะเนี่ย!
"นายไม่ได้เป็นเกย์แล้วจะมาชอบฉันได้ยังไง?"
"พี่ไม่ได้ตั้งใจฟังผมเลยสิ?"
"ก็นายบอกว่านายสเตรทไง" ซองกยูเริ่มจะขึ้นในทุกๆประโยคที่ออกมาจากอีกฝ่าย รู้สึกตัวอีกทีเขาก็กำมือตัวเองแน่นจนข้อขาว
"ใช่ ผมสเตรทแท้แน่นอน แต่ผมชอบพี่– ไม่สิ เรียกว่าผมหลงรักพี่จนโงหัวไม่ขึ้นน่าจะถูกกว่า"
"ถ้านายพูดอะไรสับสนอีกที ฉันจะต่อยแล้วนะ"
ซองกยูไม่เข้าใจ เขาเห็นกับตาตัวเองว่าอูฮยอนคบกับผู้หญิงมาตลอด แต่แล้วก็เป็นคืนดูหนังคืนนั้นที่อีกฝ่ายโพล่งสารภาพออกมาด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดด้วย เขาถึงไม่อยากจะเชื่อในทันที และในตอนนี้อูฮยอนก็กำลังปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นเกย์ แต่กลับบอกว่าหลงรักเขาที่เป็นผู้ชายงั้นเหรอ?
"ถ้านายไม่ได้เป็นเกย์ แล้วทำไม–"
"ที่ว่าเป็นเกย์หรือเปล่า มันสำคัญขนาดนั้นเลยรึไง? ทำไมพี่ถึงจะต้องกำหนดความรู้สึกของผมเอาไว้ที่คำๆเดียวด้วย!?" อูฮยอนวางแก้วลงกับโต๊ะไม่เบานักแล้วหันหน้าขวับไปมองซองกยูด้วยสีหน้าจริงจังไม่แพ้กัน และมันก็ทำให้ซองกยูชะงักกึกเมื่อเห็นดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ไหววูบ
"ฉัน–"
"ผมสเตรท แต่ผมเป็นเกย์ให้พี่คนเดียว เข้าใจรึยัง!?"
ทันทีที่เห็นใบหน้าขาวจัดดูตื่นตระหนก เจือไปด้วยความกลัวด้วยซ้ำ อูฮยอนก็หายใจเข้าลึกแล้วยกมือขึ้นสางผมเป็นการพยายามยับยั้งความหงุดหงิดที่มันประทุขึ้นมาชั่วครู่ มันช่วยไม่ได้เลยที่อยู่ดีๆอูฮยอนก็เกิดไม่มั่นใจขึ้นมาดื้อๆว่าเขาจะทำไม่สำเร็จ ว่าเขาจะปล่อยให้ซองกยูหลุดมือไปอีกครั้ง
"ผมขอโทษ เราไม่ควรคุยกันแบบนี้..."
"ฉัน– ฉันก็ขอโทษ"
"ถ้าพี่ย้อนคิดดูว่าผมชอบผู้หญิงแบบไหน ก็น่าจะรู้แล้วว่ามันมาจากใคร"
"ใคร– อ้อ..."
ซองกยูเม้มปากแน่นพร้อมกับพยายามให้ทุกๆคำมันฝังลงไปในสมอง และมันก็เริ่มปวดหนึบทั้งๆที่เขาดื่มไปแค่อ่อนๆ บทสนทนานี้มันจะเกิดขึ้นเร็วไปหรือเปล่าสำหรับค่ำคืนที่ยังมองไม่เห็นพระจันทร์เลย ซองกยูเผลอเคี้ยวริมฝีปากอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงอูฮยอนสบถออกมาเบาๆ คนอายุน้อยกว่าประสบความสำเร็จในการทำให้ซองกยูรู้สึกเหมือนเป็นฝ่ายผิดจนได้ คิมซองกยูเป็นเหตุผลที่ทำให้นัมอูฮยอนเป็นเกย์ ฟังดูน่าภูมิใจนิดๆ...ล่ะมั้ง
เขาเหลือบมองคนข้างกายจากหางตาแล้วก็ยิ่งประหม่า ดูท่าสก็อตช์สองแก้วนั้นเริ่มจะออกฤทธิ์แล้วซะด้วย แต่เขาก็รีบห้ามเอาไว้ก่อนที่อูฮยอนจะได้สั่งเพิ่ม
"อย่ามองฉันแบบนี้" ซองกยูเลิกคิ้วมองตอบคนที่หันมาถลึงตาใส่อย่างไม่พอใจ อูฮยอนถอนหายใจเฮือกก่อนที่ซองกยูจะพูดต่อ "เบาๆหน่อย ใครจะเป็นฝ่ายเมาก่อนกันแน่?"
"ก็ได้ ผมจะทำมันโดยไม่พึ่งแอลกอฮอล์"
"ทำอะไร?"
"อยากรู้ไหมว่าผมรู้สึกตัวว่าชอบพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?"
oh shit, ซองกยูเกิดปอดแหกอยากจะหายตัวไปซะตอนนี้เลย เพราะเหมือนว่าเขาหยั่งรู้ได้ถึงสิ่งที่ไม่อยากจะได้ยินที่สุด เขาอ้าปากน้อยๆก่อนจะปิดมันลงเมื่อคำพูดมันตีกันยุ่งอยู่ในสมอง เขาควรที่จะพูดออกไปเลยไหมว่า ไม่เป็นไร ขอบคุณมากแต่ฉันไม่อยากได้ยินว่าฉันไปทำอะไรให้นาย
"เราเห็นหน้ากันมาตั้งแต่เด็กก็จริง แต่ยังไงมันก็ไม่เหมือนเวลาที่เราต้องมาอยู่ห้องข้างๆกันเอาจริงๆใช่ไหมล่ะ?"
ซองกยูย้ายเข้าไปเรียนมัธยมปลายในเมืองและทิ้งให้เขาแกร่วอยู่สองปีก่อนจะสามารถย้ายไปที่เดียวกันในที่สุด ครอบครัวของเขาก็จัดการเช่าห้องที่อยู่ข้างกับซองกยูพอดีเป๊ะ ถึงแม้ในตอนแรกอูฮยอนจะเถียงคอเป็นเอ็นว่าเขาโตพอแล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ใกล้กับคนอายุมากกว่ามากขนาดนี้ก็ได้(เอาจริงๆคือ อูฮยอนไม่อยากจะตกอยู่ภายใต้การเฝ้าดูต่างหาก ถ้าพลาดไปนิดเดียว ซองกยูต้องฟ้องที่บ้านแน่ๆ) อูฮยอนยอมรับชะตากรรมของตัวเองได้ในเวลาไม่นานและชินกับการที่ซองกยูบุกเข้ามาหาของกินถึงในห้องเขา หรือไม่ก็เขาที่มักจะไปกลิ้งเกลือกนอนเล่น ทำห้องของอีกฝ่ายรกในบางครั้ง
มันก็ไม่ใช่แค่นั้นซะทีเดียว เพราะช่วงแรกๆที่เขาเห็นซองกยูในโรงเรียนก็ถึงกับทำเอาต้องมองเหลียวหลัง ไม่ได้มีแค่อูฮยอนที่เปลี่ยนไป ซองกยูก็เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน ความมั่นใจในตัวเองและปฏิสัมพันธ์ที่มีต่อคนรอบข้างก็มากขึ้น และอูฮยอนก็ได้รู้ในอาทิตย์แรกนั่นแหละว่าคิมซองกยูไม่ใช่พี่ชายใจดีแค่กับเขาคนเดียวเท่านั้นอีกต่อไป
เขาก็เป็นเด็กวัยรุ่นหวงของทั่วไป ไม่ค่อยชินที่ซองกยูทั้งยิ้มทั้งหัวเราะ ทั้งมีคนเดินเข้ามาทักมากมายทั้งๆที่นั่งอยู่กับเขา สิ่งพวกนี้มันเป็นปกติสำหรับอูฮยอนที่ชอบอยู่กับคนเยอะๆ แต่พอเห็นคนที่เคยเงียบเปลี่ยนไปแล้วก็รู้สึกว่าอะไรๆมันไม่เหมือนเดิม เหมือนไม่ใช่ซองกยูที่เขารู้จัก และมันก็ทำให้เขายิ่งชอบมอง ชอบสังเกตุอะไรเล็กๆน้อยๆของอีกฝ่ายมากกว่าเดิม อย่างเวลาที่ซองกยูยิ้มแล้วตาก็จะโค้งเป็นพระจันทร์เสี้ยว เวลาหัวเราะแบบไม่ยั้งก็จะอ้าปากกว้างก่อนจะยกหลังมือขึ้นมาบัง เวลาใช้ความคิดก็จะชอบกัดปาก คิดอะไรไม่ออกหน่อยก็จะกำมืออยู่ข้างขมับ
แต่พวกนั้นก็เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย(ที่ทำให้เขานึกเอ็นดูคนอายุมากกว่าขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์)อย่างที่ว่า จวบจนวันนั้นมาถึง ก็แค่เช้าวันเสาร์ธรรมดาที่อูฮยอนเปิดประตูห้องของซองกยูเข้ามานั่งดูทีวีเล่นในขณะที่รออีกฝ่ายตื่นหรืออะไรก็ตามที่ทำอยู่ เพราะสัญญาว่าจะไปซื้อของด้วยกัน และในจังหวะที่ประตูห้องนอนถูกเปิดออกพร้อมกับอูฮยอนที่เงยหน้าขึ้นมอง
เขาก็ได้เห็นคิมซองกยูด้วยสภาพที่เพิ่งตื่น งัวเงียออกมาด้วยผมสีดำยุ่งๆ เดินเตาะแตะเข้าครัวไปด้วยเสื้อตัวโคร่งที่น่าจะใหญ่เกินไปหลายไซส์ มันยาวลงมาถึงครึ่งต้นขา ใช่ อูฮยอนมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวลงมาถึง... ขาขาวๆที่มันโผล่พ้นออกมาตั้งแต่ปลายเสื้อ หัวใจของอูอยอนก็แทบจะเต้นเป็นเพลงร็อคสครีมโมเพียงแค่คิดสงสัยว่าซองกยูใส่อะไรอีกรึเปล่านอกจากเสื้อตัวนั้น และทุกอย่างก็ถูกชี้แจงแถลงไขเมื่อซองกยูยกมือขึ้นขยี้ผมทำให้ปลายเสื้อมันลอยขึ้น ซึ่งทำให้เขาได้โล่งใจไปเปราะหนึ่งว่า โอเค ใจเย็นไว้ อูฮยอน มันยังมีบ็อกเซอร์อยู่อีกตัว แต่ก็ดันเป็นบ็อกเซอร์พวกนั้นที่สั้นกว่าปกติและค่อนข้างจะเข้ารูป สายตาของเขาก็ได้แต่จับจ้องอยู่ที่เรียวขาทั้งสองด้วยหัวใจที่เต้นโครมคราม มือก็เริ่มสั่นอย่างห้ามไม่ได้ จนเมื่อรีโมทในมือตกกับพื้นเท่านั้นแหละที่ซองกยูสะดุ้งโหยง หันกลับมาด้วยตาโตๆแล้วก็กรี–
"อื้อ!"
มือคู่สวยตะปบลงบนริมฝีปากอิ่มอย่างแรงจนอูฮยอนเกือบจะหงายหลัง คนเด็กกว่าจำต้องหยุดสาธยายแล้วกระพริบตามองซองกยูที่ก้มหน้านิ่งและหอบหายใจน้อยๆ อูฮยอนลอบยิ้มแล้วค่อยๆดึงข้อมืออีกคนออกมาจับไว้ด้วยมือเดียว อีกมือก็ยื่นไปกอบใบหน้าเนียนขึ้นมาจนเห็นได้ว่าเลือดลมสูบฉีดไปทั้งหน้าทั้งหู
"แล้วหลังจากนั้น พี่ก็น่าจะจำได้ว่ามันเป็นยังไงนะ"
"นาย– นาย... ฮึ้ย..." ซองกยูกระพริบตาถี่ๆเมื่อคำพูดออกมาตะกุกตะกักจนน่ารำคาญ แต่การที่อูฮยอนมาอธิบายให้ฟังถึงความรู้สึกในตอนนั้นถึงพริกถึงขิง มันเป็นอะไรที่เลวร้ายมากสำหรับเขาจริงๆ มันก็แค่ชุดนอนสบายๆแบบนึง ไม่ใช่ว่าซองกยูอยากให้อูฮยอนมาเห็นเขาแบบนั้นซักหน่อย!
"เอาเป็นว่า เพราะมันผมถึงได้รู้ว่าเสียงพี่ขึ้นสูงได้ถึงขนาดนั้น–"
"พอแล้ว!"
ซองกยูดึงมือตัวเองออกแล้วฟุบหน้าลงกับเคาน์เตอร์ ส่ายหน้าแรงๆเมื่ออูฮยอนจิ้มไหล่เป็นเชิงปลอบใจ คนเด็กกว่าได้แต่ฉีกยิ้มกว้างที่เห็นปฏิกริยาน่ารักๆที่ไม่ได้เห็นมาซะนาน
"แต่มันก็เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย เพราะพี่ก็เกิดระวังตัวขึ้นมา ผมล่ะเสียดาย" อูฮยอนพูดลอยหน้าลอยตา ไม่ได้สนใจสายตาคมกริบที่ซองกยูส่งมาให้ "มันก็ดีถ้าพี่จะไม่ทำแบบนั้น ถ้าคนที่เห็นไม่ใช่ผมล่ะจะเป็นยังไง?"
ถึงตอนนี้ซองกยูก็เงียบกริบจนผิดปกติ ทั้งๆที่อูฮยอนคาดหวังถึงการโต้ตอบที่รุนแรงกว่านี้ อาจจะทุบจะตีเขาบ้าง แต่มันก็ไม่เกิดขึ้น
"พี่ซองกยู?"
"คือ... จริงๆแล้ว..."
ไม่จริงใช่มั้ย? อูฮยอนได้แต่กระพริบตาปริบๆเมื่อเจ้าของใบหน้าแดงๆเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาเรียวเล็กพยายามที่จะหลบตาอย่างสุดความสามารถ
"โฮวอนเคยเห็น..."
ใช่แล้ว อูฮยอนแทบอยากจะเอาหัวโขกโต๊ะที่ลืมไปเสียสนิท ชื่อนี้ที่ทำให้ชีวิตของเขาเหมือนกับตกนรก และมันก็คงเป็นนรกขุมที่ลึกที่สุดเพราะซองกยูเพิ่งจะสารภาพว่าตื่นขึ้นมาในสภาพแบบนั้นให้คนอื่นเห็น และมันก็เป็นโฮวอน
อีโฮวอน มนุษย์ผู้ชายที่คาบซองกยูไปต่อหน้าต่อตาเขา
"อูฮยอน–"
"น้อง พี่ขอวอดก้าสองช็อต..."
tbc→
ก่อนอื่นเลย เรายินดีมากที่จะป้อนคุณด้วย mental image ต่างๆของพี่ซองกยู ฮา (เขียนเองก็อยากเห็นเอง)
ขอเตือนคุณอีกครั้งว่ามันเป็นพล็อตเรื่อยเปื่อยจริงๆ ก็จะมีก้อนตัวหนังสือและคำพูดเยอะอย่างที่เห็น orz
ยังไงก็ตาม โฮวอน~! จะออกมาประเดิม flashback แรก \(〃∇〃)/
เราจะเซอร์วิสโฮกยูเล็กๆเพื่อเพิ่มความลำบากให้กับอูฮยอน ฮา (และตัวเองด้วย orz)
ขอบคุณทุกคนที่เสียเวลาอ่านอะไรป่วงๆเรื่องนี้นะฮะ (,,° 艸°)~♡
(ปล. เราไม่ได้ลืม everlasting sunset xD;; แต่เรื่องนั้นออกแนวเครียดจัด อัพอะไรเบาๆมาคั่นก่อนฮะ orz)
ความคิดเห็น