ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [infinite|woogyu] two shots of spirits, the flavor of us.

    ลำดับตอนที่ #3 : 3 | blue curacao and a dash of lime cordial

    • อัปเดตล่าสุด 7 ส.ค. 58


     





     
     
     3 | 
    blue curacao and a dash of lime cordial

     



     

    "เดี๋ยวนะ พี่ซองกยูเป็นจูบแรกของผมใช่มั้ย?"

     

     

    บลูลากูนที่เพิ่งดื่มเข้าไปอึกใหญ่นั้นจุกอยู่กลางลำคอพอดิบพอดี ขัดจังหวะการเดินทางย้อนไปในอดีตซองกยูเสียสนิท เขาเกิดสำลักอย่างรุนแรงจนอูฮยอนจำต้องช่วยลูบหลัง แต่ก็ไม่วายกระตุกยิ้มตอบสายตาคมกริบที่ถูกตวัดขึ้นมอง

     

    "ก็ใช่นี่นา น่าจะประมานม.ต้น ปีไหนผมก็จำไม่ได้ ที่ผมเพิ่งมีแฟนคนแรกน่ะ"

     

    "นาย– ที่นายอยู่ดีๆก็ยื่นหน้าเข้ามาตอนที่ฉันกำลังสอนการบ้านนายอยู่ ให้เหตุผลโง่ๆว่าซ้อม และฉันก็ใส่กลับว่าปากผู้ชายกับผู้หญิงมันเหมือนกันซะที่ไหน"

     

    ถ้าพูดถึงเรื่องนั้น... อูฮยอนหลุบตามองริมฝีปากสีสดที่มันวาวจากการเลียริมฝีปากที่เป็นนิสัยเสียของซองกยู ความคิดผุดขึ้นมาในสมองอย่างอัตโนมัติ ไม่เหมือนหรอก ริมฝีปากของซองกยูนุ่มและแตกนิดหน่อย แต่เขาคิดว่าเขาชอบมันมากกว่าสัมผัสลื่นๆเหมือนพลาสติกของลิปกลอสเป็นไหนๆ
     

    แต่อูฮยอนก็รู้ดีกว่าที่จะไม่ตอบออกไปแบบนั้น

     

     

    "โอ้ พี่ความจำดีนี่นา..."

     

    "ฉันจำได้กระทั่งตอนที่นายตะโกนเรียกฉันจากนอกบ้าน แค่เพื่อที่จะบอกว่านายจูบกับแฟนนายแล้ว"

     

    ถึงคราวที่อูฮยอนสะอึกไปบ้าง ชายหนุ่มพยายามกลั้นหัวเราะเมื่อภาพในตอนนั้นฉายขึ้นมาต่อหน้าเป็นฉากๆ ทั้งตอนที่ซองกยูเปิดหน้าต่างออกมาด้วยสีหน้าอันว่างเปล่า ราวกับจะบอกเขาเป็นนัยๆว่า 'ฉันเป็นแม่นายรึไง?' จนถึงตอนเขาถูกคุณนายนัมดึงกลับเข้าบ้านไปนั่นล่ะ
     

    อูฮยอนพบตัวเองมองริมฝีปากคู่นั้นอีกครั้ง ลูกเชอร์รี่สีแดงสดหายเข้าไปผ่านริมฝีปากที่มีเฉดสีสวยเหมือนกัน จนเมื่อก้านถูกดึงออกเป็นเสียง pop เบาๆ เขาถึงได้รู้สึกตัวว่าเผลอกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่ บางทีมันอาจจะยากกว่าที่คิดก็ได้ การที่จะเริ่มใหม่ เพราะที่แน่ๆคือเขาจดจำทุกสิ่งทุกอย่างได้ชัดเจนราวกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน และเขารู้ว่าซองกยูก็จำได้ดีไม่แพ้กัน

     

    เรามีกันและกันอยู่ในชีวิตมากเกินไป

     

    มันอาจจะฟังดูเป็นเรื่องที่ดี ในขณะที่อูฮยอนสามารถเฝ้ามองคนอายุมากกว่าอย่างไม่มีพิรุธมาตลอด ด้วยความมั่นใจว่ายังไงก็เป็นบุคคลอันดับต้นๆที่ซองกยูจะคิดถึง ปัญหาก็อยู่ที่เส้นระหว่างกันที่ถูกขีดเอาไว้อัตโนมัติและคนอื่นๆที่เข้ามาในชีวิต ซองกยูไม่คิดกับเขาไปมากกว่านั้น ไม่ทันสังเกตุเห็นความเปลี่ยนแปลง มันก็เหมือนกับการเล่นซ่อนหากับซองกยูและไม่มีวันถูกจับได้ เพราะเขามีที่ซ่อนที่เจ๋งเกินไป

     

     

    "อูฮยอน ฉันรู้ว่าฉันเป็นเกย์ แต่ถ้าฉันจำไม่ผิด นายสเตรท"

     

    โอเค บางทีเขาควรที่จะออกจากที่ซ่อนแล้ววิ่งเข้าหาอีกฝ่ายตรงๆนั่นแหละ

     

    "มันก็จริง ผมสเตรทมาตลอดเลย"
     

    "แต่ถ้านายชอบฉัน – ที่เป็นผู้ชาย ก็เท่ากับว่านายเป็นเกย์"
     

    "ไม่ใช่ซะทีเดียว ผมยังชอบผู้หญิง แบบที่ดูสง่าและฉลาด ตามเกมผมทัน ไม่อ่อนเปรี้ยไปกับคารมแค่ประโยคเดียว"

     

    ซองกยูหมุนเก้าอี้มานั่งจ้องคนข้างกายแล้วกระพริบตาถี่ๆ คิ้วเริ่มจรดเข้าหากันในขณะที่ใช้สมองอย่างหนัก

     

    "นายล้อฉันเล่นใช่มั้ย?" เสียงของซองกยูต่ำลงไปหนึ่งระดับ
     

    "เปล่า ผมชอบหน้าอกนะ – อ้า จริงๆพี่ก็มีมันเหมือนกันนี่ – ก็นั่นแหละ ผมค่อนข้างมั่นใจว่าผมสเตรท" อูฮยอนเอียงแก้วไปทางซองกยูแล้วกล้าที่จะย้ำคำพูดด้วยการหลุบลงมองสิ่งที่เป็นประเด็นอยู่เมื่อครู่ หากแต่คนที่ถูกคุกคามทางคำพูดและสายตาก็ได้แต่นั่งอ้าปากค้าง

     

    "ฉันจะฟ้องนาย"

     

    ซองกยูพูดลอดไรฟันก่อนจะรีบหมุนเก้าอี้กลับแล้วยกแขนขึ้นกอดอก รู้สึกไม่ปลอดภัยยังไงแปลกๆเพราะอะไรก็ไม่เข้าใจ เขาไม่ใช่ผู้หญิงที่จะต้องกลัวถูกมองอย่างจาบจ้วงซักหน่อย แต่อูฮยอนไปงัดเอานิสัยหมาป่าแบบนั้นมาจากที่ไหนล่ะเนี่ย!

     

     

    "นายไม่ได้เป็นเกย์แล้วจะมาชอบฉันได้ยังไง?"

     

    "พี่ไม่ได้ตั้งใจฟังผมเลยสิ?"

     

    "ก็นายบอกว่านายสเตรทไง" ซองกยูเริ่มจะขึ้นในทุกๆประโยคที่ออกมาจากอีกฝ่าย รู้สึกตัวอีกทีเขาก็กำมือตัวเองแน่นจนข้อขาว

     

    "ใช่ ผมสเตรทแท้แน่นอน แต่ผมชอบพี่– ไม่สิ เรียกว่าผมหลงรักพี่จนโงหัวไม่ขึ้นน่าจะถูกกว่า"

     

    "ถ้านายพูดอะไรสับสนอีกที ฉันจะต่อยแล้วนะ"

     

    ซองกยูไม่เข้าใจ เขาเห็นกับตาตัวเองว่าอูฮยอนคบกับผู้หญิงมาตลอด แต่แล้วก็เป็นคืนดูหนังคืนนั้นที่อีกฝ่ายโพล่งสารภาพออกมาด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดด้วย เขาถึงไม่อยากจะเชื่อในทันที และในตอนนี้อูฮยอนก็กำลังปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นเกย์ แต่กลับบอกว่าหลงรักเขาที่เป็นผู้ชายงั้นเหรอ?

     

    "ถ้านายไม่ได้เป็นเกย์ แล้วทำไม–"

     

    "ที่ว่าเป็นเกย์หรือเปล่า มันสำคัญขนาดนั้นเลยรึไง? ทำไมพี่ถึงจะต้องกำหนดความรู้สึกของผมเอาไว้ที่คำๆเดียวด้วย!?" อูฮยอนวางแก้วลงกับโต๊ะไม่เบานักแล้วหันหน้าขวับไปมองซองกยูด้วยสีหน้าจริงจังไม่แพ้กัน และมันก็ทำให้ซองกยูชะงักกึกเมื่อเห็นดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ไหววูบ

     

    "ฉัน–"

     

    "ผมสเตรท แต่ผมเป็นเกย์ให้พี่คนเดียว เข้าใจรึยัง!?"

     

    ทันทีที่เห็นใบหน้าขาวจัดดูตื่นตระหนก เจือไปด้วยความกลัวด้วยซ้ำ อูฮยอนก็หายใจเข้าลึกแล้วยกมือขึ้นสางผมเป็นการพยายามยับยั้งความหงุดหงิดที่มันประทุขึ้นมาชั่วครู่ มันช่วยไม่ได้เลยที่อยู่ดีๆอูฮยอนก็เกิดไม่มั่นใจขึ้นมาดื้อๆว่าเขาจะทำไม่สำเร็จ ว่าเขาจะปล่อยให้ซองกยูหลุดมือไปอีกครั้ง
     

     

    "ผมขอโทษ เราไม่ควรคุยกันแบบนี้..."

     

    "ฉัน– ฉันก็ขอโทษ"

     

    "ถ้าพี่ย้อนคิดดูว่าผมชอบผู้หญิงแบบไหน ก็น่าจะรู้แล้วว่ามันมาจากใคร"

     

    "ใคร– อ้อ..."

     

    ซองกยูเม้มปากแน่นพร้อมกับพยายามให้ทุกๆคำมันฝังลงไปในสมอง และมันก็เริ่มปวดหนึบทั้งๆที่เขาดื่มไปแค่อ่อนๆ บทสนทนานี้มันจะเกิดขึ้นเร็วไปหรือเปล่าสำหรับค่ำคืนที่ยังมองไม่เห็นพระจันทร์เลย ซองกยูเผลอเคี้ยวริมฝีปากอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงอูฮยอนสบถออกมาเบาๆ คนอายุน้อยกว่าประสบความสำเร็จในการทำให้ซองกยูรู้สึกเหมือนเป็นฝ่ายผิดจนได้ คิมซองกยูเป็นเหตุผลที่ทำให้นัมอูฮยอนเป็นเกย์ ฟังดูน่าภูมิใจนิดๆ...ล่ะมั้ง
     

    เขาเหลือบมองคนข้างกายจากหางตาแล้วก็ยิ่งประหม่า ดูท่าสก็อตช์สองแก้วนั้นเริ่มจะออกฤทธิ์แล้วซะด้วย แต่เขาก็รีบห้ามเอาไว้ก่อนที่อูฮยอนจะได้สั่งเพิ่ม

     

     

    "อย่ามองฉันแบบนี้" ซองกยูเลิกคิ้วมองตอบคนที่หันมาถลึงตาใส่อย่างไม่พอใจ อูฮยอนถอนหายใจเฮือกก่อนที่ซองกยูจะพูดต่อ "เบาๆหน่อย ใครจะเป็นฝ่ายเมาก่อนกันแน่?"

     

    "ก็ได้ ผมจะทำมันโดยไม่พึ่งแอลกอฮอล์"

     

    "ทำอะไร?"

     

    "อยากรู้ไหมว่าผมรู้สึกตัวว่าชอบพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?"

     

    oh shit, ซองกยูเกิดปอดแหกอยากจะหายตัวไปซะตอนนี้เลย เพราะเหมือนว่าเขาหยั่งรู้ได้ถึงสิ่งที่ไม่อยากจะได้ยินที่สุด เขาอ้าปากน้อยๆก่อนจะปิดมันลงเมื่อคำพูดมันตีกันยุ่งอยู่ในสมอง เขาควรที่จะพูดออกไปเลยไหมว่า ไม่เป็นไร ขอบคุณมากแต่ฉันไม่อยากได้ยินว่าฉันไปทำอะไรให้นาย

     

    "เราเห็นหน้ากันมาตั้งแต่เด็กก็จริง แต่ยังไงมันก็ไม่เหมือนเวลาที่เราต้องมาอยู่ห้องข้างๆกันเอาจริงๆใช่ไหมล่ะ?"


     

    ซองกยูย้ายเข้าไปเรียนมัธยมปลายในเมืองและทิ้งให้เขาแกร่วอยู่สองปีก่อนจะสามารถย้ายไปที่เดียวกันในที่สุด ครอบครัวของเขาก็จัดการเช่าห้องที่อยู่ข้างกับซองกยูพอดีเป๊ะ ถึงแม้ในตอนแรกอูฮยอนจะเถียงคอเป็นเอ็นว่าเขาโตพอแล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ใกล้กับคนอายุมากกว่ามากขนาดนี้ก็ได้(เอาจริงๆคือ อูฮยอนไม่อยากจะตกอยู่ภายใต้การเฝ้าดูต่างหาก ถ้าพลาดไปนิดเดียว ซองกยูต้องฟ้องที่บ้านแน่ๆ) อูฮยอนยอมรับชะตากรรมของตัวเองได้ในเวลาไม่นานและชินกับการที่ซองกยูบุกเข้ามาหาของกินถึงในห้องเขา หรือไม่ก็เขาที่มักจะไปกลิ้งเกลือกนอนเล่น ทำห้องของอีกฝ่ายรกในบางครั้ง


    มันก็ไม่ใช่แค่นั้นซะทีเดียว เพราะช่วงแรกๆที่เขาเห็นซองกยูในโรงเรียนก็ถึงกับทำเอาต้องมองเหลียวหลัง ไม่ได้มีแค่อูฮยอนที่เปลี่ยนไป ซองกยูก็เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน ความมั่นใจในตัวเองและปฏิสัมพันธ์ที่มีต่อคนรอบข้างก็มากขึ้น และอูฮยอนก็ได้รู้ในอาทิตย์แรกนั่นแหละว่าคิมซองกยูไม่ใช่พี่ชายใจดีแค่กับเขาคนเดียวเท่านั้นอีกต่อไป
     

    เขาก็เป็นเด็กวัยรุ่นหวงของทั่วไป ไม่ค่อยชินที่ซองกยูทั้งยิ้มทั้งหัวเราะ ทั้งมีคนเดินเข้ามาทักมากมายทั้งๆที่นั่งอยู่กับเขา สิ่งพวกนี้มันเป็นปกติสำหรับอูฮยอนที่ชอบอยู่กับคนเยอะๆ แต่พอเห็นคนที่เคยเงียบเปลี่ยนไปแล้วก็รู้สึกว่าอะไรๆมันไม่เหมือนเดิม เหมือนไม่ใช่ซองกยูที่เขารู้จัก และมันก็ทำให้เขายิ่งชอบมอง ชอบสังเกตุอะไรเล็กๆน้อยๆของอีกฝ่ายมากกว่าเดิม อย่างเวลาที่ซองกยูยิ้มแล้วตาก็จะโค้งเป็นพระจันทร์เสี้ยว เวลาหัวเราะแบบไม่ยั้งก็จะอ้าปากกว้างก่อนจะยกหลังมือขึ้นมาบัง เวลาใช้ความคิดก็จะชอบกัดปาก คิดอะไรไม่ออกหน่อยก็จะกำมืออยู่ข้างขมับ

     

    แต่พวกนั้นก็เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย(ที่ทำให้เขานึกเอ็นดูคนอายุมากกว่าขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์)อย่างที่ว่า จวบจนวันนั้นมาถึง ก็แค่เช้าวันเสาร์ธรรมดาที่อูฮยอนเปิดประตูห้องของซองกยูเข้ามานั่งดูทีวีเล่นในขณะที่รออีกฝ่ายตื่นหรืออะไรก็ตามที่ทำอยู่ เพราะสัญญาว่าจะไปซื้อของด้วยกัน และในจังหวะที่ประตูห้องนอนถูกเปิดออกพร้อมกับอูฮยอนที่เงยหน้าขึ้นมอง
     

    เขาก็ได้เห็นคิมซองกยูด้วยสภาพที่เพิ่งตื่น งัวเงียออกมาด้วยผมสีดำยุ่งๆ เดินเตาะแตะเข้าครัวไปด้วยเสื้อตัวโคร่งที่น่าจะใหญ่เกินไปหลายไซส์ มันยาวลงมาถึงครึ่งต้นขา ใช่ อูฮยอนมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวลงมาถึง... ขาขาวๆที่มันโผล่พ้นออกมาตั้งแต่ปลายเสื้อ หัวใจของอูอยอนก็แทบจะเต้นเป็นเพลงร็อคสครีมโมเพียงแค่คิดสงสัยว่าซองกยูใส่อะไรอีกรึเปล่านอกจากเสื้อตัวนั้น และทุกอย่างก็ถูกชี้แจงแถลงไขเมื่อซองกยูยกมือขึ้นขยี้ผมทำให้ปลายเสื้อมันลอยขึ้น ซึ่งทำให้เขาได้โล่งใจไปเปราะหนึ่งว่า โอเค ใจเย็นไว้ อูฮยอน มันยังมีบ็อกเซอร์อยู่อีกตัว แต่ก็ดันเป็นบ็อกเซอร์พวกนั้นที่สั้นกว่าปกติและค่อนข้างจะเข้ารูป สายตาของเขาก็ได้แต่จับจ้องอยู่ที่เรียวขาทั้งสองด้วยหัวใจที่เต้นโครมคราม มือก็เริ่มสั่นอย่างห้ามไม่ได้ จนเมื่อรีโมทในมือตกกับพื้นเท่านั้นแหละที่ซองกยูสะดุ้งโหยง หันกลับมาด้วยตาโตๆแล้วก็กรี–

     

     

    "อื้อ!"

     

    มือคู่สวยตะปบลงบนริมฝีปากอิ่มอย่างแรงจนอูฮยอนเกือบจะหงายหลัง คนเด็กกว่าจำต้องหยุดสาธยายแล้วกระพริบตามองซองกยูที่ก้มหน้านิ่งและหอบหายใจน้อยๆ อูฮยอนลอบยิ้มแล้วค่อยๆดึงข้อมืออีกคนออกมาจับไว้ด้วยมือเดียว อีกมือก็ยื่นไปกอบใบหน้าเนียนขึ้นมาจนเห็นได้ว่าเลือดลมสูบฉีดไปทั้งหน้าทั้งหู

     

    "แล้วหลังจากนั้น พี่ก็น่าจะจำได้ว่ามันเป็นยังไงนะ"

     

    "นาย– นาย... ฮึ้ย..." ซองกยูกระพริบตาถี่ๆเมื่อคำพูดออกมาตะกุกตะกักจนน่ารำคาญ แต่การที่อูฮยอนมาอธิบายให้ฟังถึงความรู้สึกในตอนนั้นถึงพริกถึงขิง มันเป็นอะไรที่เลวร้ายมากสำหรับเขาจริงๆ มันก็แค่ชุดนอนสบายๆแบบนึง ไม่ใช่ว่าซองกยูอยากให้อูฮยอนมาเห็นเขาแบบนั้นซักหน่อย!

     

    "เอาเป็นว่า เพราะมันผมถึงได้รู้ว่าเสียงพี่ขึ้นสูงได้ถึงขนาดนั้น–"

     

    "พอแล้ว!"

     

    ซองกยูดึงมือตัวเองออกแล้วฟุบหน้าลงกับเคาน์เตอร์ ส่ายหน้าแรงๆเมื่ออูฮยอนจิ้มไหล่เป็นเชิงปลอบใจ คนเด็กกว่าได้แต่ฉีกยิ้มกว้างที่เห็นปฏิกริยาน่ารักๆที่ไม่ได้เห็นมาซะนาน

     

    "แต่มันก็เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย เพราะพี่ก็เกิดระวังตัวขึ้นมา ผมล่ะเสียดาย" อูฮยอนพูดลอยหน้าลอยตา ไม่ได้สนใจสายตาคมกริบที่ซองกยูส่งมาให้ "มันก็ดีถ้าพี่จะไม่ทำแบบนั้น ถ้าคนที่เห็นไม่ใช่ผมล่ะจะเป็นยังไง?"

     

    ถึงตอนนี้ซองกยูก็เงียบกริบจนผิดปกติ ทั้งๆที่อูฮยอนคาดหวังถึงการโต้ตอบที่รุนแรงกว่านี้ อาจจะทุบจะตีเขาบ้าง แต่มันก็ไม่เกิดขึ้น

     

    "พี่ซองกยู?"

     

    "คือ... จริงๆแล้ว..."

     

    ไม่จริงใช่มั้ย? อูฮยอนได้แต่กระพริบตาปริบๆเมื่อเจ้าของใบหน้าแดงๆเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาเรียวเล็กพยายามที่จะหลบตาอย่างสุดความสามารถ

     

     

    "โฮวอนเคยเห็น..."

     

     

    ใช่แล้ว อูฮยอนแทบอยากจะเอาหัวโขกโต๊ะที่ลืมไปเสียสนิท ชื่อนี้ที่ทำให้ชีวิตของเขาเหมือนกับตกนรก และมันก็คงเป็นนรกขุมที่ลึกที่สุดเพราะซองกยูเพิ่งจะสารภาพว่าตื่นขึ้นมาในสภาพแบบนั้นให้คนอื่นเห็น และมันก็เป็นโฮวอน
     

    อีโฮวอน มนุษย์ผู้ชายที่คาบซองกยูไปต่อหน้าต่อตาเขา

     


     

    "อูฮยอน–"


     

    "น้อง พี่ขอวอดก้าสองช็อต..."
     

     

     

     

    tbc→

    ก่อนอื่นเลย เรายินดีมากที่จะป้อนคุณด้วย mental image ต่างๆของพี่ซองกยู ฮา (เขียนเองก็อยากเห็นเอง)
    ขอเตือนคุณอีกครั้งว่ามันเป็นพล็อตเรื่อยเปื่อยจริงๆ ก็จะมีก้อนตัวหนังสือและคำพูดเยอะอย่างที่เห็น orz

    ยังไงก็ตาม โฮวอน~! จะออกมาประเดิม flashback แรก \(〃∇〃)/
    เราจะเซอร์วิสโฮกยูเล็กๆเพื่อเพิ่มความลำบากให้กับอูฮยอน ฮา (และตัวเองด้วย orz)
    ขอบคุณทุกคนที่เสียเวลาอ่านอะไรป่วงๆเรื่องนี้นะฮะ (,,° 艸°)~♡

    (ปล. เราไม่ได้ลืม everlasting sunset xD;; แต่เรื่องนั้นออกแนวเครียดจัด อัพอะไรเบาๆมาคั่นก่อนฮะ orz)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×