คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 9 ผู้บริหารสนามแข่งรถ
บทที่ 9 ผู้บริหารสนามแข่งรถ
ในห้องเรียนของมิ้ว เวลาปัจจุบัน เมื่อครูหนุ่มได้ฟังเรื่องราวต่าง ๆ ที่มายเล่าให้ฟังอย่างตื่นเต้นจนจบ เขาก็ขอให้นักเรียนทุกคนกลับมาโฟกัสที่การเรียนอีกครั้ง เพราะในตอนนี้ได้เวลาเรียนมานานพอสมควรแล้ว ทุกคนก็หันกลับมาฟังครูอย่างเชื่อฟัง ด้วยเหตุผลที่ครูในโรงเรียนทุกคนเป็นคนรุ่นใหม่ ทำให้พวกเขามีความเปิดรับในหลาย ๆ เรื่อง เช่น เรื่องที่เด็ก ๆ จะมีแฟน โรงเรียนนี้จึงเป็นที่นิยมในหมู่เด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นคนมีเงินหรือไม่ค่อยมีเงินก็ตาม
ช่วงเวลาการเรียนจะมีแค่ในช่วงเช้า ส่วนตอนบ่ายเป็นเวลาให้เด็ก ๆ ทำกิจกรรมที่ชอบ เช่น ถ้าใครชอบดนตรีก็ไปที่ห้องดนตรี ใครชอบเล่นเกมก็มีห้องที่จัดไว้สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ และถ้าใครชอบดูหนังก็มีโรงหนังขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับเด็กได้เหมือนโรงหนังทั่วไป แถมยังมีของขายเหมือนในห้างอีกด้วย เพียงแต่ปริมาณจะน้อยกว่าเล็กน้อย ทำให้ราคาถูกลงเช่นกัน
สำหรับนักเรียนที่ชอบทำอาหาร ในโรงเรียนก็มีเชฟมาสอนโดยเฉพาะ เชฟกลุ่มนี้ได้รับการจ้างมาด้วยค่าตัวที่สูง ทำให้พวกเขาสอนด้วยความสนุกและเต็มที่ มีทั้งเชฟไทยและเชฟต่างประเทศ ตอนบ่ายจึงเป็นเวลาพักของนักเรียนและครู ซึ่งไม่ใช่เพียงนักเรียนที่สามารถเข้ามาดูหนังในโรงหนังได้ ครูก็สามารถเข้ามาดูได้เช่นเดียวกัน และสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ กับเด็ก ๆ ได้เช่นกัน ทำให้ครูและนักเรียนรักโรงเรียนนี้มาก
หลังจากเรียนตอนเช้าเสร็จเรียบร้อย มิ้วและเพื่อน ๆ ในห้องก็ย้ายไปที่ห้องดนตรี เพราะเด็กในห้องของมิ้วสามารถทำวงดนตรีได้ถึง 5-6 วง มีตำแหน่งที่ต้องการครบ ทั้งกลอง เบส กีตาร์ คีย์บอร์ด และนักร้อง แต่ในวงของมิ้วขาดมือกลอง จึงต้องให้เพื่อน ๆ ที่เป็นมือกลองสลับกันมาเล่นให้ วงของมิ้วมีสมาชิกเป็นผู้หญิงทั้งหมด ส่วนมือกลองอาจเป็นทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่ไม่มีปัญหาในการสลับเปลี่ยนมือกลอง
ทางด้านกัน ที่เพิ่งออกจากโรงเรียน เขาขับรถตู้รุ่น Vito Tourer ของ Mercedes-Benz วิ่งไปตามทางอย่างรวดเร็ว เพราะเขาจะไปมหาวิทยาลัยสาย กันเปิดไฟเลี้ยวขวาและหักพวงมาลัย ก่อนที่จะกดคันเร่งจนล้อของรถลากไปกับพื้นถนนเสียงดังสนั่น แต่เขาไม่สนใจเสียงล้อเลยแม้แต่นิดเดียว เขาเพิ่มความเร็วขึ้นจนในที่สุดก็ถึงมหาวิทยาลัย ชายหนุ่มยื่นบัตรนักศึกษาให้กล้องจับเพื่อเช็กชิปในบัตร เมื่อระบบตรวจสอบข้อมูลพบว่าเป็นนักศึกษาที่ลงทะเบียนไว้ ประตูก็เปิดให้รถวิ่งเข้าไปภายในมหาวิทยาลัยในทันที
กันขับรถไปยังโรงจอดรถของมหาวิทยาลัยเอกชนขนาดใหญ่ ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงโรงจอดรถ เขาเลี้ยวรถเข้าไปจอดอย่างรวดเร็ว พอจอดเสร็จ กันก็เช็กรถให้เรียบร้อยก่อนจะวิ่งไปที่ตึกของคณะโดยทันที ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีเขาก็มาถึงตึก ซึ่งเป็นตึกใหญ่โตมาก กันรีบวิ่งไปที่ลิฟต์ที่กำลังลงมาด้านล่าง มีนักศึกษาหลายคนรอลิฟต์อยู่เช่นเดียวกัน เมื่อประตูลิฟต์เปิด ทุกคนพากันเข้าไป รวมถึงกันที่เข้าลิฟต์พร้อม ๆ กัน
เมื่อเข้ามาในลิฟต์ได้ กันมองรอบ ๆ ตัวด้วยความเคยชิน ก่อนจะหันไปถามคนอื่น ๆ ทันที “พวกคุณจะไปชั้นไหนกันครับ?” คนในกลุ่มนั้นตอบกลับว่า “ชั้น 7 ครับ” กันกดปุ่มชั้น 7 ในทันที ลิฟต์ตัวใหญ่พาทุกคนขึ้นไปจนถึงชั้น 7 เมื่อประตูเปิดออก กันรีบออกจากลิฟต์และเดินไปที่ห้องเรียน พอมาถึงห้อง เขายื่นบัตรนักศึกษาเพื่อสแกนเปิดประตู ติ๊ด เสียงสัญญาณบอกให้เข้าได้ดังขึ้น กันเปิดประตูแล้วเดินเข้าไป แต่ในตอนที่กำลังจะปิดประตู เขาก็ได้ยินเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น “รอก่อน พวกเราเข้าไปด้วย” กันหยุดเล็กน้อยแต่ไม่ได้ปิดประตู กลุ่มนั้นวิ่งเข้ามาในห้องทันที
"อ้าว นายคนที่เจอกันหน้าลิฟต์นี่หน่า!" หนึ่งในกลุ่มของเพื่อนหันมาเห็นหน้ากัน จึงหันไปบอกเพื่อนให้จำกันได้ กันที่เห็นว่าคนกลุ่มนี้เป็นนักศึกษาในปีเดียวกันและยังอยู่ห้องเดียวกันด้วยจึงยิ้มเก้อ ๆ ยกมือทักทาย “สวัสดี เราชื่อกันนะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” เสียงแนะนำตัวของกันทำให้กลุ่มเพื่อนที่ยืนอยู่ตรงหน้าหันไปนั่งที่ของตัวเองทันที กันถึงกับงงเล็กน้อย เพราะเขาไม่รู้จะไปนั่งตรงไหน แต่เมื่อเห็นที่ว่างเขาก็เดินไปนั่งทันที
“ขอนั่งด้วยคนนะ” กันพูดกับคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ซึ่งเขาพยักหน้าให้กันนั่งได้ กันเห็นอีกฝ่ายพยักหน้า จึงนั่งลง
หลังจากที่นั่งลงเรียบร้อย กันก็มองไปรอบ ๆ ห้อง ก่อนจะหันไปหาเพื่อนข้าง ๆ แล้วเริ่มสานความสัมพันธ์ทันที “สวัสดี นายชื่ออะไร? เราชื่อกันนะ”
อีกฝ่ายได้ยินเสียงของกันก็หันมาตอบทันที “สวัสดี เราชื่อเชน ยินดีที่ได้รู้จัก” พอเชนตอบเสร็จเขาก็มองหน้ากันแล้วตกใจ “เฮ้ย! ทำไมนายน่าคุ้น ๆ วะ” เชนถามด้วยความตกใจ จะไม่ให้เขาคุ้นหน้าได้อย่างไร เพราะในตอนที่เชนไปสนามแข่งรถ เขามักจะเห็นใบหน้านี้อยู่ที่บอร์ดผู้บริหารสนามแข่งรถทั่วประเทศ
“จำได้แล้ว! นายคือกรกัน พยักเมธา ใช่ไหม?”
"ใช่ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ" กันตอบกลับนิ่ง ๆ แต่อีกฝ่ายกลับนิ่งอึ้งไปเลย
ความคิดเห็น