คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : Chummy : Sucre - Special Part
Sucre – Special Part
Author: pearlinc
Rate: PG (?)
-Special-
“เมื่อไหร่จะมา”
เสียงของคนตัวเล็กบ่นอุบอยู่ข้างหน้าร้านของตัวเอง
วอนอู จองฮัน แล้วก็ซึงกวานดูเหมือนวันนี้จะรีบกลับบ้านกันเป็นพิเศษ ตอนนี้จีฮุนก็ได้แต่ทำท่ายกนาฬิกาขึ้นดูเวลารอบที่สิบของวัน
พลางเดินไปเดินมาเพราะยุงตัวกวนเริ่มที่จะตอมและทำร้ายเขาเข้าสะแล้ว
ตอนนี้จีฮุนกำลังยืนรอคนบางคน
ที่ได้สานต่อหน้าที่ไปรับไปส่งเขากลับบ้านแทนพี่จินฮอนมาเดือนกว่าแล้ว แต่รู้สึกว่า
วันนี้จะทำหน้าที่ได้ไม่ดีสมกับที่รับปากพี่ชายของเขาไว้เลย โทรก็ไม่โทร
ข้อความสักนิดก็ไม่มี คิดไปคิดมา ตอนนี้คนคอยเริ่มที่จะนึกฉุนสะแล้ว
จะตีตามจำนวนตุ่มที่โดนยุงกัดเลย
ฮื่อ!!
จีฮุนตัดสินใจเปิดประตูร้าน
เข้าไปนั่งข้างในดีกว่า
ก่อนที่จะได้ไปนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลเพราะเป็นไข้เลือดออกเสียก่อน
มือก็ไขกุญแจไป ปากก็ยู่เข้าหากัน ไม่พอใจจริงนะวันนี้ที่อีกคนทำแบบนี้
เมื่อไขเสร็จก็หยิบกระเป๋าแล้วเดินเข้ามาในร้าน
ก่อนจะนั่งลงที่โซฟาฝั่งหันหลังให้กับประตูร้าน พลางหยิบมือถือขึ้นมาดูรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
ดูนาฬิกาก็เกือบจะสองทุ่มครึ่งแล้ว พี่ชายเขาวันนี้ก็ยังไม่เลิก
ความจริงอีกใจหนึ่งของคนตัวเล็กก็แอบกังวลเหมือนกันว่าซูนยองจะเป็นอะไรหรือเปล่า
ปกติอย่างน้อยก็จะส่งข้อความมาหากันแต่ครั้งนี้ไม่มีเลย โทรไปหาก็ไม่ติด
จีฮุนเลยจัดการเปิดดูกล่องข้อความในมือถือของตัวเองดูอีกรอบ
สัมผัสที่หน้าจอไล่ลงดูไปจนสุดก็ไม่มีอะไรเข้ามาใหม่ ก่อนจะลอบถอนหายใจแล้วล้มเลิก
ก่อนไปเห็นข้อความที่นานมาพอสมควรแล้วเคยส่งมา
ไม่ปรากฏชื่อของบุคคล : 756
พออ่านแล้วก็อดที่จะขมวดคิ้วสงสัยไม่ได้
ยังไงๆก็ไม่เข้าใจอยู่ดี จีฮุนคิดได้ระหว่างรอซูนยอง
ก็เปิดค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ตให้หายสงสัยกันไปเลย แต่
ดูเหมือนการนั่งงมเข็มในมหาสมุทร เพราะเปิดไปก็ไม่เจออะไรที่ควรจะเป็นไปได้
หรือเกี่ยวข้องกับเขา จะบอกว่าเครือข่ายรวนก็คงไม่ใช่ จะส่งผิดก็ไม่น่าจะเป็นแค่เลข
นึกแล้วก็อึดอัด จะคิดมากไปทำไม
คนตัวเล็กสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านไปให้พ้น
ก่อนที่จะกดล็อคหน้าจอมือถือลง แล้ววางไว้ข้างตัว นั่งคิดเหม่อไปหลายๆเรื่อง
แล้วมองไปรอบร้านเงียบๆ จนลืมไปว่าตัวเองอยู่คนเดียวตอนดึกๆวันนี้
บรรยากาศมันแปลกๆสะด้วย
เขาจะไม่ระแวงอะไรข้างนอกเลย ถ้าไม่มีเสียงลมพัดที่ทำให้ต้นไม้ส่งเสียงกุกกักกับลมหวีด
ความรู้สึกไหวกลัวเกิดขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ ยิ่งพายุด้านนอกเหมือนกำลังจะมา
ทำให้ใจนึกกังวลหนักกว่าเก่า คนตัวเล็กหลับตาเข้าหากันไม่กล้าลุกไปไหน
ทำได้แค่นั่งอยู่กับที่ กำมือแน่น พยายามทำให้ทุกโสตประสาทของตัวเองไม่รับรู้สิ่งภายนอก
ตาก็ปิด หูก็ดับ ไม่อยากรับรู้อะไร
มือเล็กรีบหยิบมือถือขึ้นมากดโทรหาซูนยองดูอีกรอบ
ก่อนที่จะไฟดับอีกครั้งแล้วแย่เลย ก่อนที่จะยกสายขึ้นแนบหูดูอีกสักครั้ง เหมือนเดิมคือไม่ติด
ยิ่งทำให้เขาทำอะไรไม่ถูกกว่าเดิม
“อื้อ!! ฮื้อ!!”
ยังไม่ทันรอให้ปลายสายได้มาคุยกัน
จู่ๆอยู่มือที่ไหนไม่รู้มาจากด้านหลัง ยื่นมาปิดตาของเขาไว้แน่น ในใจรู้สึกกลัว
ตอนนี้แม้แต่แรงดิ้นยังไม่มี หัวใจเต้นจนเหมือนจะหลุดออกมา คนตัวเล็กใกล้จะร้องไห้เต็มที
รอยู่นิ่งมาได้สักพัก แต่คนปริศนาก็ไม่ทำอะไรเขาสักนิด
จนยอมปล่อยมือจากปากเขาแต่ไม่ยอมปล่อยมือที่ปิดตาเขาออก จีฮุนรวบรวบความกล้า
ตัดสินใจถามออกไปให้รู้เรื่อง
“ค...คุณเป็นใคร”
“...”
“…”
จีฮุนเริ่มเดาใจคนร้ายไม่ถูก รู้สึกตะหงิดๆใจ
ทำไมโจรคนนี้ถึงว่าง่าย จีฮุนค่อยๆดึงมือของคนๆนี้ที่ปิดตาของเขาออก แปลกที่เขายอมให้แกะ
ก่อนที่จะ....
“แฮร่!! น้องชานเอง
โอ๊ย!!”
“เล่นอะไรเนี่ย!! ไม่เข้าท่าเลยนะ!!”
จีฮุนพูดไปพร้อมกลับลงโทษรุ่นน้องคนโปรดของซูนยองที่เขารู้จักเพราะซูนยองแนะนำให้อย่างเป็นทางการหลังจากวันที่มีเรื่องกันในร้านวันนั้น
ไม่วายอีกคนยังจะหัวเราะเยาะเขาอีก มันน่าตีให้ตาย ทั้งพี่ทั้งน้อง!!
“จะโทษก็ต้องไปโทษไอคุณพี่ซูนนะ
เขาบอกให้มารับพี่แทนเขา แถมบอกอีกว่าเอาแบบสยองๆ”
พอได้ฟังแบบนั้น
จีฮุนอย่างจะนั่งกุมขยับสักสองสามชั่วโมง ปวดหัวกับการรับมือกับคนพวกนี้แล้ว
ก่อนจะนึกได้ว่าต้องถามว่าอีกคนไปไหน
“แล้วซูนยองล่ะ”
“อะ...อ๋อ เขา เขาโดนทำโทษให้ทาสีรอบโรงเรียนครับ
เขาไม่ยอมส่งการบ้าน แฮะๆ”
เหตุผลฟังขึ้นมาก...
“แล้วเขาจะกลับตอนไหน”
“ไม่รู้ครับ!!!”
ตอนนี้ในใจร้อยเปอร์เซ็นของคนตัวเล็กมั่นใจได้ว่า
เรื่องนี้มันต้องมีเงื่อนงำ และตัวการณ์ใหญ่ของเรื่องแน่ๆ แต่จะแกล้งทำเป็นว่าเชื่อแล้วกัน
จะคอยดูว่าซูนยองคิดจะทำอะไร ก่อนที่จะบอกชานให้กลับบ้านกันเลย
วันพรุ่งนี้จะให้ทาสีทั้งคืนเลย
ซูนยอง!!!
.
.
.
“พี่ฮะ เอาไอติมช็อคกะแยตฮะ”
“แปปนึงสิลูก ขอเป็นทาร์ตหนึ่งชิ้น
แล้วก็ไอศกรีมช็อคโกแลตหนึ่งถ้วยนะคะ”
“ได้ครับ เชิญนั่งรอได้ที่โต๊ะนะครับ”
เสียงนุ่มเอ่ยกับลูกค้าพร้อมกับยิ้มให้เด็กน้อยที่เอาแต่จ้องถ้วยไอศกรมในตู้ขนมของเขาไม่หยุด
วันนี้มีลูกค้าแวะเวียนเข้าในช่วงเที่ยงวันมาไม่ขาด
แต่ไม่ได้ทำให้บรรยากาศในร้านดูคับคั่งและวุ่นวายเลยแม่แต่น้อย
จีฮุนจัดการหยิบทาร์ตไข่ชิ้นขนาดกลางใส่จานพร้อมกับช้อนเสร็จ
ก็เอื้อมไปหยิบถ้วยไอศกรีมตรงหน้าหวังที่จะเอามาใส่ไอศกรีมให้เด็กน้อย
แต่จู่ๆก็มีมือของใครบางคนที่ถือโอกาสมาคว้ามาเขาไป คนที่เขาไม่ต้อนรับ แล้วมาหาในช่วงระหว่างพักเที่ยงของโรงเรียน
“พี่คร้าบ จะเอาเครปจ้วยกะไอติมยสจาเขียว”
เจ้าของมือหนาว่าพร้อมกับส่งสายตาเจ้าเล่ห์เชิงออดอ้อนหวังให้เขาใจอ่อน
แต่ไม่มีทางหรอก
“ไม่ต้องกินครับ”
จีฮุนว่าแล้วดึงมือตัวเองออก พร้อมกับหยิบถ้วยไปใส่ไอศกรีม
ก่อนที่จะว่างในถาดพร้อมที่จะเดินไปเสิร์ฟให้เจ้าของที่
แต่ก็ดันมีคนมาขวางทางเขาทำงาน
“ไม่เอา ไม่งอนแบบนี้”
“หลบ”
ซูนยองทำท่าไม่หลบ
แต่แทนด้วยการหยิบถาดขนมในมือเขาแล้วถือวิสาสะเดินไปเสิร์ฟให้กับลูกค้าสะเอง
แต่แค่นี้ใช่ว่าเขาจะหายโกรธ จีฮุนเดินเข้าไปในที่ของตัวเอง แล้วจัดการหยิบถุงขยะสีขาวในมือที่มีแต่ของแห้งข้างในที่ตอนนี้เต็มแล้ว
มัดเตรียมจะไปทิ้งที่ประตูหลังร้าน
“วอนอู ฝากดูลูกค้าให้ด้วยนะ”
“อื้ม ได้”
ขานิ่มก้าวฉับๆไปพร้อมกับถุงขยะสีขาวในมือ
เดินมาถึงแล้วเปิดประตูออกไปข้างนอกเป็นพื้นที่สวนที่มากับร้าน
และไม่มีใครผ่านไปผ่านมา
จีฮุนจัดการทิ้งถุงลงไปในถังขยะใหญ่ที่ในทุกเช้าจะมีคนเก็บไปทิ้งอีกทีนึง
เสร็จสรรพก็หมายจะเดินกลับไปที่ร้าน
แต่ก็มีใครบางคนที่ตอนนี้ยืนขวางประตูทางเข้าเอาไว้
“หลบ”
“โกรธหรอครับ”
“ใช่”
คำตอบที่ตรงไปตรงมาของจีฮุน
ทำให้คนตัวโตกว่ายิ้มออกมา แล้วดึงคนเข้ามาใกล้ พร้อมกับยื่นมือไปกุมแก้มนิ่ม
ก่อนจะดึงเล่นเบาๆเป็นการหยอกล้อ และเจ้าของก็ไม่ได้ขัดขืนยิ่งทำให้ซูนยองได้ใจใหญ่มือหนาจับบังคับคนตัวเล็กให้ยืนชิดหลังติดกับกำแพงร้าน
ก่อนจะใช่แขนยันกับกำแพงเอาไว้เป็นการบังคับให้ยืนอยู่ตรงนี้
ตอนแรกคนตัวเล็กพยายามผลักอีกคนออกเพราะต้องไปทำงาน แต่ซูนยองก็ไม่ยอมท่าเดียว
“ไม่ไป คุยกันก่อน”
“มีอะไรกะ…อื้อ”
ปากอิ่มที่กำลังจะพูดบ่นออกไป
ถูกกดลงมาด้วยกลีบปากหนาอย่างถือโอกาส ซูนยองใช้มือหนาข้างหนึ่งกุมแก้มนิ่มบังคับให้ไม่หันหนี
ก่อนที่จะใช้มืออีกข้างกอดรัดเอวนิ่มเอาไว้ให้ลำตัวเข้ามาแนบชิดกัน
ซูนยองบดเบียดริมฝีปากชื้น เคล้าคลึงไปทั่ว ให้จีฮุนที่ตอนแรกเอาแต่ขัดขืนท่าเดียว
แปรเปลี่ยนมาเป็นคล้อยตามองศาร้อน เผยอปากรับจูบที่ร้อนแรงขึ้นไปตามลำดับ
การจูบโต้ตอบกันไปมาครั้งนี้ที่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลงง่าย
ถ้าไม่ติดที่คนตัวเล็กคิดว่าซูนยองต้องกลับไปเรียน ก่อนที่จะผละกลีบปากออกมาท
ถึงแม้ว่าคนตัวโตกว่าจะไม่อยากก็ตา
ก้านนิ้วยาวส่งขึ้นไปเช็ดน้ำใสที่ซึมออกมาที่มุมปากให้อีกคน
“โกรธได้ แต่ยิ้มก่อน”
“ไม่”
“วันนี้ อยากให้ยิ้มเยอะๆ
เอาให้เยอะกว่าทุกวัน” คำพูดนี้ซูนยองมักจะชอบบอกเขาตลอดเวลาที่เขางอนหรือโกรธ
ดูเป็นคำพูดที่ไม่มีอะไร แต่ก็ทำให้เขายอมทำตามที่อีกคนบอกทุกที มุมปากเล็กยกยิ้มขึ้นมาอย่างไม่มีการบังคับ
ก่อนที่จะทุบอกอีกคนเบาๆ
“เมื่อวานไปไหนมา”
จีฮุนเลิกคิ้วถามคำถามที่คาใจมาตั้งเมื่อวาน
ถึงจะได้รับคำตอบที่น่าเชื่อถือมากจากชานแล้ว แต่ถ้าได้ฟังจากคนบางคนแล้ว
ถ้าไม่ตรงกันจะได้ลงโทษถูก
“อะ...เ อ้ย!! ถึงเวลาเรียนแล้ว
ไปก่อนนะ” แต่ดูเหมือนพออีกคนได้ยินคำถามก็ถึงกับอ้ำอึ้ง
ทำเป็นยกนาฬิกาขึ้นมาดูแล้ว ชิ่งหอมแก้มเขาไปแบบนี้ ทำเอาเขาหายใจแรงหนัก
เพราะอารมณ์โกรธที่ถูกอีกคนหลอกล่อให้หายไป ได้กลับมาอีกครั้ง
เพราะคนหลอกล่อนั่นแหล่ะ
ต้องการแบบนี้ใช่ไหม ควอนซูนยอง!!!
.
.
.
“เดี๋ยวนี้กลับเร็วกันทุกวันเลยนะ”
จีฮุนพูดระหว่างที่เพื่อนๆสามคนนั่งอยู่ในรถของจองฮัน
แถมยังเลิกงานเร็วกวว่าทุกวันตั้งครึ่งชั่วโมง ซึงกวานกลับกับจองฮัน เขาพอเข้าใจ
แต่กับวอนอูที่นั่งยิ้มอยู่ข้างหลังอ้างว่ามินกยูไม่ว่างมารับเลยขอให้ไปส่ง
ซึ่งเป็นไปได้ยากที่มินกยูจะไม่มารับคนของเขากลับบ้านไปด้วยกัน
แต่ยังไงก็เป็นไปแล้วจะไปถามซอกแซกก็กลัวจะดูเรื่องเยอะ
“ไม่งอนสิ
เดี๋ยวก็มีคนมารับไม่ใช่หรอ”
เหอะ…รายนั้น
“ก็หวังว่าอย่างนั้น” พอเห็นอีกคนทำท่าหงอยๆ ก็หันกันไปขำเบาๆในรถ ก่อนจะบอกลาคนตัวเล็กอีกรอบ
แล้วขับรถออกไปจนลับตา
จีฮุนนั่งรอคนบางคนอยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าร้าน
จ้องมือถือของตัวเอง ดูว่าซูนยองจะโทรมาหรือเปล่า
แต่เขาบอกกับตัวเองว่าจะไม่เป็นฝ่ายโทรแน่นอน ตอนนี้ค่อนข้างโกรธเคืองอีกคน
ทั้งๆที่เมื่อตอนกลางวันใจอ่อนให้ไปแล้ว
แต่ตอนจบกลับจบไม่สวยเพราะซูนยองทำตัวเองนั่นแหล่ะ อ้ำอึ้งและลุกลี้ลุกลน
ระหว่างที่คนตัวเองนั่งกรุ่นคิดอยู่กับตัวเองได้สักพัก
เสียงมอเตอร์ไซต์คันขนาดกลางของคนเมื่อวานที่มารับเขาแทนบางคนก็มาจอดและกวักมือเรียกเขาให้ขึ้นรถ
จีฮุนยิ้มกลับให้ไม่เกี่ยงงอน เพราะชานไม่ใช่คนผิด แถมยังโดนใช่ให้มาอีกต่างหาก
“ลำบากแย่เลย สองรอบแล้ว”
“ไม่ต้องเครียดครับพี่
บ้านอยู่แถวนี้เองครับ”
ชานตอบพร้อมกับยิ้มให้อีกขึ้นรถเพราะฟ้าก็มืดแล้ว
ขับนั่งมาเรื่อยตามทางที่เขาบอกรอบที่สองจากเมื่อวาน
ล้อรถค่อยหยุดหน้าบ้านของเขาอย่าชะลอตัว แล้วจอดสนิท คนตัวเล็กค่อยๆลงมาจากเบาะ
แล้วหันมาหวังจะขอบคุณ แต่จู่ๆ
พรึ่บ
“ชาน ทำอะไรเนี่ย ปล่อย!” จีฮุนพยายามสะบัดตัวออกจากเด็กม.ปลายปีแลกที่แรงเยอะพอควร
ก็จู่ๆอีกคนก็เล่นปิดตาเขาแน่พลางดึงตัวอีกคนให้เดินตามแรงที่ชักจูงไป
คนตัวเล็กไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด ขาเขารู้สึกได้ว่าก้าวเข้ามาในบ้านตัวเอง
ชานไม่พูดอะไร ก่อนจะเปิดมือออก แล้วเดินไปเปิดไฟ
“มาแล้ว!!”
คนตัวเล็กที่สภาพยุ่งเหยิงกับชานไปเมื่อครู่
แต่ยืนอึ้งกับภาพตรงหน้าหลังเปิดไฟกลางบ้าน ก็เจอ
อาหารและขนมมากมายที่วางกองรวมกันบนโต๊ะ ก่อนจะค่อยๆยิ้มมาออกมา
พร้อมกับเดินตรงเข้าไปหา พี่จินฮอน เพื่อนของเขา ชาน และ….
“สุขสันต์วันครบรอบวันแต่งงานของเราที่รัก”
ซูนยองเอ่ยพร้อมกับเดินเข้ามาอ้าแขนแล้วก็คว้าคนตัวเล็กเข้ามากอดให้ชื่นใจ
ไม่ได้เจอกันตั้งครึ่งวัน
“มึงพอเลย” พี่จินฮอนเห็นภาพบาดตาแบบนั้น
ก็รีบดึงเจ้าปลาหมึกออกมาจากน้องชายของเขา ก่อนจะเข้ากอดแทนเอาไว้ แล้วทำหน้าล้อเลียนใส่
“เล่นอะไรกันเนี่ย” ถึงจะเอ่ยดุทุกคน แต่มุมปากก็ยกยิ้มไม่หุบ
“วันเกิดตัวเองยังจำไม่ได้เลย
น้องพี่”
“ใช่ พวกเราอุตส่าห์โดดงานเร็ว
เพื่อนายเลยนะ” จองฮันพูดอ้างอย่างไว
ก่อนจะหัวเราะออกมาเพราะอีกคนเบ้หน้าใส่กับเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น
“วันก่อนด้วยหรอ”
“วันก่อนหรอ นู่น ถามเด็กนายดู
เขาขอให้พวกเราไปสอนทำอาหารเพื่อนายทุกวันสะดิบดี แล้วเป็นไง”
“ทำไหม้ครับ” ซูนยองยืดอกพร้อมกับบอกความจริงอย่างคนแมนให้คนตัวเล็กรู้
“โง่” พี่จินฮอนว่า
ก่อนที่จะทำหน้าแสยะยิ้มใส่อีกคน อย่างหมั่นไส้
“พี่ว่าใครครับ”
“มึง”
“ขอบคุณครับ” ทุกคนหัวเราะออกมากับภาพคู่อริอย่างสองคนนี้
ภาพที่จีฮุนเห็นแล้วหัวเราะพร้อมกับเหนื่อยใจไปด้วย
ตอนนี้ทุกคนนั่งกินขนมแล้วก็นั่งคุยกันหลายๆเรื่อง
แถมพี่จินฮอนยังโทรไปหาพ่อแม่ให้เขาได้หายคิดถึง แล้วบอกว่าจะหาเวลามาหากัน
เป็นวันเกิดที่รู้สึกป่วง แต่ก็รู้สึกดีเพราะไม่ได้รวมตัวกันแบบนี้นานเท่าไหร่
แถมมีคนมาเพิ่มอีกต่างหาก ไม่มีเค้กที่ทุกคนคิดว่าเขาอาจจะเบื่อ และของขวัญ
ไม่ได้เป็นพิธีหรือใส่กล่องห่ออะไร เพื่อนเขาสามคนร่วมกันซื้อเครื่องตีแป้งเครื่องใหม่ให้
เพราะกำลังรถราคาที่ห้างสรรพสินค้า ส่วนพี่จินฮอนให้นาฬิกา พร้อมความเลี่ยนๆที่ว่า
‘อยากให้จิ๋วรู้ไว้
ว่าพี่มีเวลาให้เสมอ’
ส่วนซูนยองบอกว่าตอนนี้ไม่มีทุนจะซื้อรอเบิกจากคุณแม่ให้ได้ก่อน
จนจีฮุนต้องเขกหัวไปหนึ่งที ก่อนจะบอกว่าไม่ต้อง
เวลาล่วงเลยมาจนถึงสี่ทุ่ม รายแรกที่กลับไปก็คือชานที่ม๊าโทรมาตาม
คนต่อมาก็คือวอนอูที่มินกยูตามมาถึงบ้าน แต่คนตัวขาวจะไม่ยอมกลับท่าเดียว
แต่เพื่อนๆช่วยกันรุมบอกให้กลับจนตั้งเดินตึงตังขึ้นรถสีดำไปพร้อมกับมินกยูที่ก้มหัวเป็นการขอบคุณ
ส่วยพี่ชายเขาก็ขอปลีกตัวไปทำโปรเจ็คสำหรับส่งให้นายใหญ่ดูพรุ่งนี้
“เหลือแต่เราแล้วนะ” ซูนยองส่งสายตากรุ้มกริ่มก่อนจะยักคิ้วให้จีฮุนที่นั่งอยู่บนโซฟาเดียวกัน
แต่ห่างกันเป็นวา ซูนยองค่อยๆเขยิบตามเข้ามาก่อนที่จะยืนหน้าเข้าไปใกล้
อีกนิดเดียวก็จะได้โอกาสถ้าไม่ติดที่มือนุ่มดันหัวเขาไว้แล้วบอกให้หยุด
“กลับไปเลย”
ซูนยองหัวเราะออกมาเบาๆ ปากก็บอกให้กลับ
แต่ตัวเองไม่คิดจะล็อคประตูห้อง ยิ่งคิดยิ่งอกุศล เป็นหน้าที่ของเขาที่จัดการปิดประตูบ้านของพี่น้องคู่นี้
ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไปข้างบนห้องที่อีกคนเหมือนจะจงใจไม่ล็อค ค่อยๆเปิดแง้มเข้าไป
แล้วปิดมันให้สนิท
ดูเหมือนว่าอีกคนกำลังอาบน้ำอยู่
ซูนยองเลยทำได้แค่นั่งรอไปพลางๆ ก่อนที่ข้อความมือถือของจีฮุนจะดังขึ้น
ให้ซูนยองได้เปิดอ่าน คนส่งไม่ได้เป็นคิดจีฮุนบันทึกชื่อเอาไว้
พอดูเนื้อหาของข้อความ ก็รู้ ก่อนจะคิดว่าส่งมาจริงๆสินะ
วันนี้ที่โรงเรียน
ระหว่างที่เขาปลีกตัวมางีบหลับแถวที่ลับตาคน
ไอ้จีซูเด็กต่างโรงเรียนที่ใส่ชุดลำลอง เดินเข้ามาหาเขา ให้รู้สึกตัว ท่าทางที่ดูม่สู้คนในตอนแรก
กลายมาเป็นคนใส่ชุดปกติที่ไม่มีแว่นเหมือนแต่ก่อน
ตอนแรกก็ว่าจะด่าไปสักสองสามประโยคว่ายังกล้ามาหาเขาได้ยังไง
แต่พอมันพูดแทรกขึ้นมาถึงเหตุผลที่มาที่นี่ เขาก็ลังเลไปสักพักหนึ่ง
แต่ก็ยอมแค่ครั้งเดียวเพราะไม่อยากอคติต่อกัน
‘ผมขอบอกบางอย่างกับพี่จีฮุนเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหมครับ’
‘…’
‘ผมกำลังจะไม่อยู่ที่นี่’
เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะมาหาเขาถึงนี่ทำไม
ทั้งๆที่มันก็ไปหาคนตัวเล็กที่ร้านก็ได้ แต่ก็เลือกที่จะมาขอแค่ขอติดต่อกับจีฮุนเท่านั้น ขอแค่ส่งข้อความไป เพื่อบอกกล่าว
เขาก็ไม่รู้ว่ายอมไปได้ยังไง แต่เพราะจะลองเชื่อดูสักครั้ง
ว่าจะไม่ติดต่อหลังจากที่ย้ายไปอีก
“ทำไมไม่กลับ แล้วดูอะไรอยู่” เสียงใสเอ่ยถามขณะที่เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับชุดนอน
จีฮุนพาดผ้าเช็ดตัวเอาไว้ก่อนที่จะเดินมานั่งที่เตียงข้างๆ
โชคดีที่ซูนยองเปลี่ยนเป็นหน้าหลักของมือถือไว้ได้ทัน รอให้อีกคนเปิดอ่านเอาเอง
เพราะเขาอ่านแล้วว่าไม่มีพิษมีภัยอะไร
“ไม่มีอะไร นอนกันดีกว่า”
“แล้วนายไม่อาบหรอ”
“อาบก่อนมาที่นี่แล้ว ถึงได้ลืมอาหารที่ทำไว้ไงครับ ถึงจะไหม้ก็อยากเอามาให้”
เสียงทุ้มเอ่ยก่อนที่ดึงแก้มอีกคนที่ยิ้มบางให้
อุตส่าห์เรียนกับเพื่อนของเขามาสะดิบดี สุดท้ายก็นก ซูนยองจัดการนอนหนุนตักอีกคน
พลางเอื้อมมือมาจับหน้านิ่มให้มองลงมาหาเขา
จีฮุนเลิกคิ้วเชิงสงสัย เพราะเหมือนอีกคนอยากจะพูดอะไร หัวใจรู้สึกเต้นเร็วขึ้น
ยามที่เขายิ้มให้เจ้าเล่ห์แบบนั้นไม่เปลี่ยน
“อยากให้ของขวัญจริงๆ”
.....................(90%)………………
คนตัวเล็กยิ้มหัวเราออกมาแก้เขิน
ทำเป็นเบือนหน้าไปทางอื่นเพราะว่ารู้ ว่าอีกคนกำลังหมายถึงอะไร และคิดจะทำอะไร
ส่ายหัวบอกออกคน อมยิ้มไว้ในแก้มใส พลางวางมือนิ่มไว้ที่หน้าผากของอีก
ลูบเกลี่ยเบาๆ จนซูนยองรู้สึกหมั่นเขี้ยวกับการกระทำแบบนี้ ที่จะมีมานานๆที
“ไม่เอาหรอก”
“ตามใจกันหน่อยสิ”
“ต้องตามใจเจ้าของวันเกิดสิ”
จีฮุนพูดหยอกอีกคน
ไม่ยอมตามใจคนบนตักให้เคยตัว ตอนแรกก็ใจแข็งอยู่สักพัก แต่ไม่นาน
ซูนยองค่อยๆกุมมือของเขาที่วางอยู่บนหน้าผากขึ้น เปลี่ยนมาที่กลีบปากหนา
ก่อนมือนิ่มจะถูกกดแนบลงไปด้วยความอุ่น จนอกซ้ายรู้สึกเต้นแรงออกมา
“ถ้างั้น…”
“.....”
“ใจเจ้าของวันเกิดคิดยังไง ก็ทำเลย”
พอได้ยินแบบนั้น
ถ้าเป็นอย่างปกติของคนตัวเล็ก จะต้องทำเป็นเมินคำพูดแบบนี้ของซูนยอง
แล้วเดินหนีไปแบบไม่ใยดีเขา
แต่วันนี้กลับยิ้มแล้วเบือนหน้าหนีให้คนบนตักมีความหวังแบบนี้ หมายความว่ายังไง
“ลุกขึ้นก่อน”
ถึงเขาจะไม่เข้าใจ
และยังไม่รู้ว่าคนตัวเล็กกำลังจะทำอะไร
แต่ก็ยอมทำตามที่อีกคนบอกไปก่อนด้วยใจที่ตื่นเต้น รู้สึกว่าต้องมีอะไรแปลกใหม่
ซูนยองค่อยๆยันตัวขึ้นนั่งบนเตียง ข้างๆอีกคนนิ่ง แล้วหันตัวนั่งหันหน้าเข้าหากัน
มองสบตากับอีกคนที่เอาแต่อมยิ้ม
“อยากทายปัญหา”
หืม
“ใครแพ้ ต้องถอดทุกอย่างบนตัวออก…”
“…”
“ทีละชิ้น”
นอกจากจะไม่เกรงกลัวอะไรแล้ว
จีฮุนยังยิ้มขำออกมา ทั้งๆที่คนตัวเล็กมีแค่ชุดนอนหนึ่งชุดคือแค่สามชิ้ม
ส่วนซูนยองมีทั้ง นาฬิกา ถุงเท้า เสื้อผ้ารมแล้วก็ห้าชิ้น
ซึ่งแน่นอนว่าคนที่จะไม่เหลืออะไรก่อน จะเป็นใครไปไม่ได้… แค่เขาคิด
ก็รู้สึกเลือดเดินเร็วขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ใบหน้าเริ่มแดงไปไกล
คนตัวเล็กตรงหน้าเขา จะต้องมีอะไรที่ไม่ธรรมดา
“ไม่ให้เปลี่ยนบทลงโทษแล้วนะครับ” ซูนยองยิ้มร้ายให้อีกคน
จนจีฮุนรู้สึกหมั่นไส้ที่ซูนยองดูจะตื่นเต้นจนออกหน้าออกตา ที่เอาแบบนี้เพราะคิดไว้แล้ว
ว่าเขา ไม่มีทางแพ้
“ซุปอะไร มีสารอาหารมากที่สุด”
“ซุปข้าวโพด ซุปผัก ซุปฝักทอง” ซูนยองยกซุปมาทั้งโลกแล้ว
แต่มันก็ยังไม่ใช่คำตอบที่อยู่ในความคิดของคนตัวเล็ก ได้แต่นั่งเท้าคาง
คิดแล้วคิดอีก จนต้องล้มเลิก
“อะ ยอม”
“ซุปเปอร์มาเก็ต”
ครับ
ซูนยองได้แต่นั่งขมวดคิ้วกับเฉลย
ก็คิดว่าอีกคนจะมาแนววิชาการ แต่เอาจริงก็คงมีสารอาหารเยอะกว่าซุปถ้วยเดียวจริง
ตอนนี้รู้สึกหมดความมั่นใจไปหลายเปอร์เซ็นต์ เล่นผิดตั้งแต่ข้อแรกแบบนี้
ก็ต้องยอมถอดนาฬิกาออกอย่างแรก แล้วก็หันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้อีกคน เพราะตานี้กลายเป็นของเขาบ้าง
แต่ดูเหมือนอีกคนยังคงยิ้มไม่กลัวอะไรเลย
“แมงอะไร ชอบอยู่กับข้าวเหนียว”
“แมงโก้”
“รู้ได้ไง”
“ชานเคยถาม”
ซูนยองอยากกุมขมับเริ่มเครียดกับความอัจฉริยะของคนตรงหน้า
เขาอุตส่าห์หาคำถามที่ยากที่สุดที่เคยถูกถามจากไอ้น้องชานมาเหมือนกัน ใครจะไปคิดว่าเป็นคนถามหากิน
สุดท้ายก็จบไม่สวย คนตัวเล็กก็เล่นขำออกมาแถมยังพูดอีกว่า คำถามพื้นมากๆอีก
พอจีฮุนหัวเราะพอใจตัวเองแล้ว ก็หันกลับมาที่ตาของตัวเอง ยัง ยังไม่หยุดยิ้ม
“กาแฟทำไมถึงตาย”
…
แค่เขาได้ยินคำถามก็ถึงกับต้องจอดสมองไว้กับที่ก่อน
ซูนยองกำลังไม่เข้าใจคำถาม เขาว่าก็ฉลาดมากแล้ว แต่แค่ทวนคำถามในหัว
ก็ต้องตั้งคำถามซ้อนไปอีกว่ากาแฟมันเป็นใคร ทำไมต้องถูกฆ่า ได้แต่นั่งนิ่ง
จ้องหน้าคนถามพลางเคาะนิ้วลงกับผ้านวมบนเตียงระหว่านั่งหันหน้าเข้าหากัน
จีฮุนเห็นว่าอีกคนตอบช้า เลยรีบเร่งให้ตอบเร็วๆไม่ต้องคิดเยอะ แค่คำถามง่ายๆเอง
“ถูกบด”
“ผิด”
“ถูกคั่ว”
“ไม่ใช่” ซูนยองเริ่มไม่อยากเดาอีก
เพราะเหมือนยิ่งพูดยิ่งดูไม่ฉลาด แถมคนตัวเล็กก็เอาแต่ยิ้มไม่หยุด คงจะสนุกมาก
อย่าให้ถึงตาเขาบ้างจะจับถอดเสื้อออกไม่เอาให้เหลือเลย ในระหว่างที่กำลังเครียด
เคาะนิ้วเร็วขึ้นเดิม ขมวดคิ้วแน่น กาแฟมันตายวิธีอื่นได้ไง ยิ่งคิดยิ่งดูโง่
ดูแล้วคราวนี้เขาได้ถอดเสื้อแน่ๆ เอาวะ
“ยอมก็ได้!!”
“มอคฆ่าไง”
ไอ้มอค มึง…
“ไม่สนุกเลยอะ นายตอบไม่ได้เลยเนี่ยะ” จีฮุนเห็นว่าอีกคนกำลังกุมขมับกับตัวเองเพราะตอบไม่ได้
ก็คิดว่า เล่นไปต้องเครียดแน่ๆ เดี๋ยวบรรยากาศจะไม่ดี
“ไม่ได้ ไม่เลิก!!” ความพยายามที่ไม่สิ้นสุดทำให้จีฮุนขำออกมาเพราะคนกำลังนั่งคิดคำถามอยู่เงียบพลางจ้องหน้าเหมือนจะเอาคืนแทบเขมือบได้ก็ทำไปแล้ว
“นายตกใจตอนไหน”
“ตอนดูหนังผี”
“ผิด”
“ตอนเจอนาย”
“เกือบถูก แต่ไม่ใช่” ซูนยองเริ่มรู้ว่าตัวเองกำลังมาถูกทาง
เพราะอีกคนกำลังเริ่มไม่มั่นใจคำตอบ คนตัวเล็กกำลังคิดว่า
นี่มันเป็นคำตอบที่ถูกทั้งหมดที่ตอบไป
แต่มันไม่ตรงกับที่คนตั้งคำถามคิดไว้ก็เท่านั้น แต่เขาก็ได้เครียดอะไร
แถมยังอยากรู้คำตอบเลยแกล้งทำเป็นยอม เผื่ออีกคนจะรู้สึกว่าตัวเองเก่งขึ้นมาบ้างนิดหน่อย
“ยอมแล้ว…เฮ้ย!!”
Special Cut Scene (Just Click)
PASSWORD
.
.
.
ดวงตาเรียวค่อยลืมตื่นขึ้นท่ามกลางความมืดภายในห้อง
ที่มีเพียงแค่แสงไฟจากแสงด้านนอกส่องมาผ่านบานหน้าต่าง ซูนยองค่อยๆกระพริบตาปรับแสงให้มองสิ่งของในห้องได้ชัดขึ้น
รวมไปถึงคนข้างเขา กลุ่มผมนิ่มในอ้อมแขนของเขาที่ยังคงหลับสนิทจนเขาไม่กล้าที่จะปลุกให้ตื่น
แต่ท่ามกลางความเงียบที่เขาพยายามให้มันคงอยู่ถูกทำลายด้วยเสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนหัวเตียง
เสียงแจ้งเตือนที่ดังขึ้นเล่นทำซูนยองรีบคว้ามาปิดแทบไม่ทัน
และยังโชคดีที่อีกคนยังไม่ตื่นขึ้น
เพียงแค่ขยับตัวเปลี่ยนท่านอนชิดหาความอุ่นมากกว่าเก่า
ซูนยองมองพลางยิ้มบางๆออกมา ก่อนที่จะนอนลูบศีรษะอีกคนอย่างเบามือ ก่อนที่อีกมือที่ถือโทรศัพท์ของอีกคนเอาไว้ จะยกขึ้นดูหน้าจอว่าตอนนี้ตีห้าเศษแล้ว ถึงได้รู้ว่านาฬิกาของอีกคนทำไมมาขึ้นเวลานี้ ตาเรียวพลางเหลือบไปมองข้อความใหม่จากเบอร์เดิมที่เขาอ่านไปเมื่อคืน เป็นอีกข้อความที่เขาไม่ได้เปิดอ่านว่าจีซูส่งอะไรมา ก่อนที่จะตัดสินใจกดเปิดมันขึ้น ข้อความที่ส่งมาห่างกันไม่นาน ตาความหมายที่ส่งมาแทบทำให้เขาแทบจะโมโหออกมา แต่ก็ไม่คิดถือสาอะไรแล้ว เพราะยังไงมันก็ไม่ได้อยู่แถวนี้
คิดๆไปความจริงเขาก็ผิดเหมือนกันที่พูดไปในวันนั้น
ด้วยความที่ไม่ได้คิดอะไรก่อนที่จะพูด จนกลายเป็นว่ากลับมากระทบเขาเอง
และคนของเขาเช่นกัน ครุ่นคิดพลางหันมามองคนข้างๆ ก่อนที่จะกดปลายจมูก
หอมผมอีกคนเบาๆ
แล้วหันมาสนใจโทรศัพท์มือถือต่อ
ยิ่งอ่านซ้ำๆยิ่งอยากหัวเราะออกมา ว่ามันกล้าพิมพ์ส่งมาให้คนของเขาได้ยังไง
แต่จะไปทำอะไรได้ เพราะเขาไม่มีวันทำแบบนั้นอยู่แล้ว อยากจะพิมพ์ส่งกลับไป ด่าสักที
แต่ก็คิดว่าอย่าดีกว่า ยิ่งต่อความเรื่องยิ่งไม่จบ เลือกที่จะไม่สนใจจะดีกว่า
เมื่อวานนี้ 21:47 : ไม่ปรากฏชื่อบุคคล
ผมเอง จีซูครับ แค่อยากจะบอกพี่ว่า
ผมจะไปแล้ว ไม่ไกลหรอกครับ ผมยังสามารถมาหาพี่ได้ง่ายๆ พี่คงไม่ย้ายร้านหนีผมใช่หรือเปล่า
ผมขอโทษทุกอย่างครับ ทั้งเรื่องชิลิน เรื่องของพี่ และเรื่องของพี่ซูนยอง
เขาดูรักพี่มากนะครับ หวังว่าเขาจะรักพี่นานๆนะครับ และผมขออย่างนึง อย่ามองผมเป็นคนไม่ดีเลยครับ
เมื่อวานนี้ 21:49 : ไม่ปรากฏชื่อบุคคล
ผมเองอีกครั้ง จีซูครับ ถ้าพี่ซูนยองเขาไม่โอเคสำหรับพี่แล้ว
ผมยังรอพี่ได้ครับ
เหอะ!!
อะไร เขียนเรียงความส่งคุณครูหรือไง
ยิ่งคิดยิ่งโมโห รู้สึกอยากพาล เลยตัดสินใจกดลบมันสะเลย ก่อนที่จะรู้สึกดีขึ้น
เขาอาจจะต้องมาเช็คโทรศัพท์ของอีกคนบ่อยๆ เพราะเขาไม่อาจปล่อยไว้ได้
ถ้ามันส่งมาอีก
ซูนยองเลิกคิดถึงเรื่องของเด็กนั้นไป
นิ้วยาวเลื่อนข้อความไล่สแกนทุกอย่างที่ถูกส่งเข้ามาที่เครื่องนี้
ก่อนที่จะเห็นเป็นอีกอันที่ไม่มีชื่อ ที่มีเนื้อหาแค่ตัวเลข 756 มันเป็นเบอร์ของผมอีกเบอร์หนึ่งที่มีสำรองเอาไว้
ตอนนั้นไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่เหมือนกัน
เขาจำได้ว่าระหว่างที่ยืนหาเรื่องเด็กนั้นในร้าน
เขาเหลือบมองนาฬิกาในร้านแล้วเห็นว่ามันเป็นตอนเจ็ดโมงเช้าห้าสิบหกนาที ก่อนที่คนตัวเล็กจะเดินเข้ามาหาเขา
ไม่รู้ทำไมในหัวถึงต้องจำเวลานั้นได้ ในวันนั้นตอนกลางวัน
ก็ยังคงเอาเวลาที่เขาเหลือบเห็นมาคิด แถมยังจดไว้อีกต่างหาก ตอนนั้นแค่คิดว่าคงไม่บ้า
ก็โดนด่าจนเบลอแน่ๆ
ตอนเย็นก็ขับมอเตอร์ไซต์ของตัวเองมาที่ร้านนั้นใหม่
มองดูไปทั่วๆ จนไปเห็นกระดานหน้าร้านมีเบอร์ติดต่ออยู่ เลยเลือกที่จะบันทึกเอาไว้
แล้วก็กลับมาที่ห้องของตัวเอง พอตกดึกก็ไม่มีอะไรทำ เลยคิดอยากจะลองเขาดู
อยากจะทดลองเบอร์ที่เพิ่งได้มาใหม่ดู เนื้อหาที่พิมพ์ก็ไม่รู้จะพิมพ์อะไร
เอาเลขที่เก็บมาคิดมันทั้งวันส่งไปแล้วกัน
ยิ่งคิดยิ่งหาว่าตัวเองคงขี้เหงามากถึงทำแบบนั้น ก่อนที่นิ้วยาวจะกดๆจิ้มๆลงบนหน้าจอ บันทึกชื่อเขาไว้เป็นอีกเบอร์ที่คนตัวเล็กยังไม่มี แล้วกดล็อคหน้าจอวางลงไว้ที่เดิม แล้วหันมานอนกอดอีกคนต่ออย่างเงียบๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และรออีกคนตื่นมาพร้อมกันในพรุ่งนี้เช้า
ควอนซูนยอง : 756
...............................(100%)............................
ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ
#always17chummy
และ ขอฝากเรื่องใหม่ด้วยนะคะ
MAKE A WISH.
Mingyu and Wonwoo
ความคิดเห็น