ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( seventeen ) Chummy.

    ลำดับตอนที่ #16 : Chummy : Sucre - Part 6

    • อัปเดตล่าสุด 31 ก.ค. 59


     

    Sucre - Part 6 (END)

    Author: pearlinc

    Rate: PG (?)

     

     

    -6-

     

    ออกมาแล้วใช่ไหม

     

    อื้ม เดี๋ยวเพื่อนจะพาไปดูรถที่เข้าอู่ด้วย’     

     

    ไม่ต้องมาอ้างว่าไปดูรถเลย จะกลับตอนไหนก็บอกเลยดีกว่า

     

    แหะๆ ยังไม่รู้เลยครับ

     

    พี่ชายปลายสายนิ่งคิดไปสักพัก ก่อนจะตอบจีฮุนไปให้เข้าใจอย่างมีพิรุธ จินฮอนออกจากโรงพยาบาลมาได้สักพักแล้วโดยมีเพื่อนๆของเขามาช่วยรับไปที่อื่นต่อ ระหว่างนั้นก็เลยโทรหาจีฮุนที่กำลังทำงานอยู่ที่ร้านของเขาในช่วงเย็น จีฮุนตอบตกลงพี่จินฮอนไปว่าเสร็จแล้วให้โทรหาเขาทันทีก็แล้วกัน

     

    นี่บีจากการอยากรู้อยากเห็นของพวกเรา เห็นอะไรบ้างไหม

     

    ลองคิดดูสิ ทุกครั้งที่พี่จินฮอนขอไปไหนมาไหน จีฮุนจะไม่เป็นแบบนี้น่ะสิ บี2’

     

    หู้ยยย มีเรื่องดีๆหรือเปล่าน้า

     

    จะใช่กับพี่วินที่เราเห็นวันนั้นหือเปล่าน้า

     

    โอ๊ะๆๆๆ ดูๆๆๆ มียิ้มให้โทรศัพท์ด้วย อ๋อยย

     

    จีฮุนกดวางสายไป ก่อนจะหันมาทำหน้าที่ตัวเองตามปกติ ก็มีเสียงเตือนข้อความดังขึ้นมา มือเล็กเอื้อมไปหยิบขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่วางสายจากพี่จินฮอนไปไม่นาน จีฮุนเปิดดูข้อความก่อนจะเห็นว่าเป็นของคนที่เขาเพิ่งจะให้เบอร์มือถือไปเมื่อเช้า คนหน้าหนา

     

    วันนี้อาจจะช้าหน่อยนะเด็กดีของซูนยอง ขอไปหาน้องแปปเดียว จะกลับก่อนไหม

     

    จีฮุนอ่านข้อความเสร็จถึงกับต้องเบ้หน้าปนมอมยิ้มใส่มือถืออยู่คนเดียว พลางบ่นกับตัวเองว่า จะทำอะไรก็ทำ เขาจะไปรอทำไมตั้งนาน แล้วเด็กดีอะไร นายน่ะสิไอ้เด็กบ้า ใจก็บ่นไม่หยุด แม่นิ้วก็เผลอพิมพ์ข้อความตอบกลับไปแล้วด้วย

     

    รอ

     

    คนตัวเล็กวางโทรศัพท์มือถือลง พลางนึกขำว่าทำอะไรลงไปของตัวเอง แต่ไม่นานข้อความก็เตือนขึ้นมาอีกครั้งให้คนตัวเล็กเลื่อนเปิดดู แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่คนตัวเล็กคิดว่าเป็นซูนยองที่ตอบกลับ แต่ไม่ขึ้นว่าเป็นเบอร์อะไรให้เขาโทรกลับได้ อีกแล้ว… ข้อความส่งมาซ้ำๆตลอดหลายต่อหลายครั้ง

     

    จีฮุนยืนสงสัยได้ไม่นาน จู่ๆเสียงประตูร้านก็ดังขึ้นอีกครั้ง คนสี่คนในร้านพูดต้อนรับลูกค้าคนใหม่และยิ้มให้ แต่มีแค่จีฮุนที่ชะงักลงพอเงยหน้าขึ้นมาเห็นว่าเป็นใคร ในหัวก็นึกถึงคำที่ซูนยองบอกเขาไว้ ผุดขึ้นมาและดังก้องในหัวเกี่ยวกับเรื่องที่เขาฟังจากซูนยองมา

     

    มันไม่ได้เป็นอย่างที่นายเห็นหรอก 

     

    มันเป็นคนไม่ดี

     

    พี่จีฮุนครับ พี่

     

    คนตัวเล็กสะดุ้งตหลุดจาความคิดตัวเอง เพราะเสียงเรียกจากจีซู จีฮุนรีบทำตัวปกติแล้วยิ้มรับอีกคนให้เหมือนอย่างที่เคยทำอย่างเก้ๆกังๆ สายตาภายใต้แว่นหนาของคนมาเยือนใหม่ มองแล้วเห็นว่า คนที่โตกว่าดูแปลกๆนะวันนี้

     

    เป็นอะไรหรือเปล่าครับ

     

    เอ่อ เปล่า ละแล้ววันนี้จะกินอะไรไหม

     

    เอาพุดดิ้งไข่เหมือนครับ

     

    จีฮุนพยักหน้ารับออเดอร์ใหม่ให้ลูกค้าเดินไปหาที่นั่งเพื่อรอจีฮุนมาเสิร์ฟที่โต๊ะเงียบ คนที่ดูนิ่งเงียบอย่างจีซู ที่กายนิ่ง แต่สายตาก็ลอบมองจีฮุนไม่วางตาระหว่างที่คนตัวเล็กทำ และตอนเดินมาพร้อมกับจานขนม ก่อนที่มือนุ่มจะค่อยๆวางลงบนโต๊ะตรงหน้าของคนสั่งอย่างเบามือ

     

    ขอบคุณครับ

     

    จีฮุนไม่ได้พูดอะไรตอบไป ทำได้แค่ยิ้มตอบตามมายาทไป แล้วเตรียมที่จะหมุนตัวกลับไปที่ท์เตอร์ขนมของตัวเอง แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวขา จีซูจัดการคว้าข้อแขนเล็กเอาไว้ให้อยู่ก่อน คนตัวเล็กพอเห็นแบบนั้นจึงรีบชักมือตัวเองออกอย่างลืมตัว ให้จีซูได้หน้าเจือนไปนิดหนึ่ง แต่ก็พยายามจะไม่แสดงความสงสัยออกมาให้จีฮุนรู้

     

    อะ เอ่อ มีอะไรหรอ

     

    เปล่าครับ ผมก็แค่…”

     

    “’ถ้างั้น งั้นพี่ไปก่อนนะ

     

    คนตัวเล็กได้ยิน และรู้ว่าอีกกำลังคิดจะพูดอะไรต่อกับเขา แต่จีฮุนก็เลือกที่จะถือโอกาสที่มีคนเข้ามาในร้านใหม่พอดี และรีบอ้างว่าเขาจะไปรับออเดอร์แทน จีซูมั่นใจแล้วว่าคนที่เขาพยายามะเข้าหา ผิดปกติไปอย่างชัดเจน ถ้าเป็นอย่างเมื่อก่อน หรือตามปกติที่เข้ามาในร้าน จะเป็นพี่จีฮุนที่ชวนเขาคุยก่อน แล้วพยายามยิ้มแย้มให้เขาตลอดเวลา

     

    แต่ครั้งนี้ไม่

     

    คนที่ท่าทางเรียบร้อนตรงโต๊ะของมุมร้าน กำลังคิดที่จะลองให้ชัดเจนกว่าเดิม และตองรู้ให้ได้ว่า อีกคนรู้อะไรหรือเป็นอะไร จีซูกำลังนั่งคิดหาเหตุผลร้อยแปดมาเพื่อที่จะชวนให้จีฮุนไปกับเขาสักครั้ง เวลายังเหลืออีกมากในเวลาหลังเลิกเรียนแบบนี้ แต่ดูเหมือนคนตัวเล็กจะไม่เดินมาหาเขาที่โต๊ะอีกแล้ว

     

    เด็กท่าทางเรียบร้อยจีซูตัดสินใจที่จะเดินไปที่เคาท์เตอร์ขนมของพี่จีฮุนด้วยตัวเอง ตอนนี้จีฮุนกำลังก้มหน้าก้มตาอยู่กับการเขียนหน้าเค้กให้อีกคน จีซูไม่คิดจะขัดอะไร รอจนอีกคนทำเสร็จแล้วส่งให้เจ้าของเค้กนั้นรับไปจ่ายเงินด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และหันมาทางฝั่งเขาก่อนจะชะงักแล้วรอยยิ้มก็หายไป ก่อนะทำหน้าเหมือนตกใจอย่างเห็นได้ชัด

     

    ยะยังไม่กลับหรอ จะเอาอะไรเพิ่มหรอ

     

    ผมก็แค่

     

    “…”

     

    แค่จะขอให้พี่ช่วยสอนทำขนมเค้กคืนนี้จะได้ไหมครับ

     

    คนที่เด็กกว่าเอ่ยปากชวนในที่สุด ปากก็เอ่ยออกไปไม่ได้คิดว่าอีกคนะตอบตกลง แต่ก็มองดูท่าทางที่คนตัวเล็กอึกอักตอบช้าสักพัก

     

    อะเอ่อ พี่มีธุระหน่ะ ละ

     

    วันอื่นก็ได้ครับ

     

    พี่ว่าพี่คงต้องขอดูก่อนนะ

     

    ได้ครับ ผมจะรอ ผมกลับละนะครับ

     

    จีฮุนรีบยิ้มฝืนตอบให้จีซูที่ไปคิดเงิน และกำลังเดินออกไปจากร้าน พอเห็นว่าไปจนลับตาแล้ว ก็ถึงกับถอนหายใจออกมายาวๆ ในใจก็คิดกับตัวเองว่า เขาแสดงออกมากเกินไปไหม แต่ถ้าเขาตกลงไปมันต้องไม่ดีแน่ๆ เขาก็ไม่รู้ว่าเรื่องที่เขาฟังระหว่างซูนยองหรือจีซู อันไหนมันจะริง

     

    แต่เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเชื่อของซูนยองสนิทใจ

    .

    .

    .………………(10%)………………

     

     

    เวลาผ่านไปจนท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีมืด แน่นอนว่าเช่นเดิมว่าเพื่อนที่เหลืออีกสามคนของจีฮุนก็กลับบ้านกันไปไม่นานนี้แล้ว ส่วนเขาก็ยืนเก็บของจุกจิกอยู่ในร้านรอบๆคนเดียว พลางคุยโทรศัพท์กับคนบางคนที่บอกว่าจะมารับเขา

     

    กำลังไปแล้ว อย่าดุสิครับ

     

    ให้อีกแค่15นาที

     

    คร้าบบบบ ระวังนะ แถวนั้นโจรชุมนี่หว่า

     

    ไอ้บ้า

     

    มือเล็กกดวางสายจากซูนยองแล้วทำท่าแบะปากใส่ ด้วยความหมั่นไส้

    เวลาผ่านไปสักพัก ระหว่างที่รอซูนยองมารับกลับบ้านพร้อมกัน ตอนนี้ใจของจีฮุนรู้สึกอยู่ไม่นิ่งและไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ นึกไปถึงเรื่องที่หลังจากได้คุยกับจีซูเมื่อตอนเย็น แล้วยิ่งเขาปฏิเสธอีกคนไปเรื่องที่มาขอเขาให้ไปช่วยสอนทำขนมที่บ้าน

    ความจริงเขาก็รู้สึกแปลกๆอยู่เหมือนกัน เหมือนเขาพยายามจะทำอะไรสักอย่าง คนตัวเล็กสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านไปมา ในหัวก็มีเรื่องให้คิดอยู่เต็มหัว แล้วหันพลางใช้มือหยิบจับแก้วไอศกรีมเช็ดทำความสะอาดเรื่อยๆ คนเดียวเงียบๆ.

     

    กรุ้งกริ้ง…..

     

    จู่ๆเสียงกระดิ่งประตูก็ดังขึ้นกลางความเงียบ ให้คนตัวเล็กสะดุ้งเล็กน้อย ในใจตอนแรกก็คิดว่าอาจจะเป็นซูนยองหรือเปล่า แต่ในจังหวะตอนที่หันไปมองก็เจอกับคนที่เขาไม่ค่อยอยากจะเจอเลยในวันนี้ที่ผ่านมา กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับยิ้มบาง เหมือนอย่างเก่า แต่ รู้สึกไม่เหมือนที่เคยเห็น

     

    ไงครับ ทำอะไรอยู่หรือครับ

     

    จีซู

     

    ดวงตาที่ใครๆดูแล้วก็รู้สึกน่าสงสารภายใต้กรอบแว่นตอนนี้ กำลังมีบางอย่างที่ไม่น่าไว้ใจ ถึงแม้มุมปากกำลังยิ้มออกมาก็ตาม แต่จีฮุนไม่รู้สึกถึงความปลอดภัยสักนิดเดียว ประโยคคำถามน้ำเสียงอ่อนโยนปกติของเขาตรงหน้าทำให้คนตัวเล็กไม่รู้จะตอบอะไรออกไป เพราะเขารู้ดีว่ามันไม่ใช่คำถาม ทำได้แต่เงียบ

     

    ไม่ไปทำธุระหรือครับ หรือธุระของพี่คือการรอพี่ซูนยองมารับครับ

     

    “…”

     

    วันนี้พี่ดูไม่ค่อยอยากคุยกับผมเท่าไหร่ว่าไหมครับ

     

    พี่เปล่า…”

     

    โกหก!!”

     

    จากน้ำเสียงเนิบนาบตามปกติของจีซูคนตรงหน้า ถูกเปลี่ยนเป็นการตะคอกออกมาใส่เขา จนตั้งตัวไม่ทัน พยายามถอยหนีอีกคนที่เดินมาใกล้จนสุดมุมแล้ว เขารู้สึกร้อนๆหนาว แอบปนกับกลัวคนตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก พอได้เห็นนิสัยอีกด้านหนึ่งของจีซูที่พยายามปิดเอาไว้ ก็ยิ่งไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลย

     

    ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะครับ

     

    น้ำเสียงที่แกล้งทำเป็นอ่อนโยนกลับมาเป็นปกติเดิมอีกครั้ง ถึงปากจะเอ่ยขอโทษ แต่มุมปากยังคงยิ้มแสนดีออกมาให้ความรู้สึกตรงข้ามกัน จีซูส่งนิ้วขึ้นเกลี่ยแก้มนิ่มไปมาอย่างหลงใหลจนจีฮุนรู้สึกตัวสั่น และพยายามเบี่ยงหน้าหนี ทำได้แค่นั้น แม้แต่มือยังไม่กล้าที่จะผลักไสออก กลัวไปหมด ทั้งแววตา การกระทำที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นกับตาตัวเอง และไม่คิดอยากจะเห็นมัน

     

    พี่เป็นคนน่ารักนะครับ

     

    “…”

     

    ไม่แปลกใจเลยที่พี่ซูนยองจะหลงรักผมเองยังชอบเหมือนกัน

     

    นาย ต้องการอะไร

     

    จีฮุนรวบรวบความกล้าทั้งหมดตั้งคำถามออกมา ให้จีซูที่ถูกถามขำออกมา แถมยังส่งปลายนิ้วไล้ไปมาตามไรผมและกรอบหน้าของไม่หยุด คนตัวเล็กพยายามปกปิดความรู้สึกกลัวเอาไว้ ถ้ายิ่งเขาแสดงออก อีกคนต้องยิ่งได้ใจแน่ๆ เสียงก็สั่น ตัวสั่น และยังสั่นและหวั่นกลัว และต้องการความช่วยเหลือ  ซูนยองอยู่ไหน

     

    พี่ลองคิดดูสิครับ

     

    ...

     

    ตอนแรกผมก็แค่จะให้พี่เป็นคนนึงในเหตุการณ์เฉยๆแล้วแท้ๆ แต่กลับกลายเป็นตัวหลักสะอย่างนั้น ทำไมหรอครับ

     

    ระหว่างที่กำลังพูด มือของจีซูก็เริ่มไล้ลงตามกรอบหน้า ยาวลงมาเรื่อยๆจนถึงต้นคอ ให้คอขาวพยายามเบี่ยงหนีเต็มที่ แววตาที่ดูเหมือนกำลังเพ้อเจ้อถึงเรื่องต่างๆนานา จีฮุนก็แอบได้กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆออกมาจากคนข้างหน้า ยิ่งทำให้เขารู้สึกกลัวมากกว่าทั่วตัว ในตอนนี้เขาอยากจะร้องไห้ออกมา

     

    ที่พี่ต้องมาอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้ ก็เพราะ พี่ซูนยอง พี่ซูนยองคนเดียว!!!”

     

     

    ปัง!!!

     

    จีซูใช้มือทั้งสองข้างกำต้นแขนเขาสองข้างแน่นจนขึ้นรอยแดง ก่อนจะดันหลังเขากระแทกกับตู้แช่เย็น จนรู้สึกเจ็บ ใบหน้าเหยเกแต่ร้องไห้ไม่ออก มือเล็กพยายามผลักร่างของอีกคนออก จีซูจัดการซุกไซร้ไปตามซอกคอหอมรุนแรง ยึดไหล่ทั้งสองของเขาติดกับตู้เอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนี

     

    อึก หยุด!!”

     

    คนตัวเล็กเบี่ยงหลีกสัมผัสน่ารังเกียจและจาบจ้วงออกไปอีกทาง แต่จีซูยังคงไม่คิดจะหยุด รุกรานส่งมือเข้ามาในเสื้อตัวบางบีบขย้ำเนื้อนิ่มจนเจ็บระบมไปหมด ตอนนี้จีฮุนอยากจะออกไปจากตรงนี้ ซูนยองไปไหน จนในที่สุด จู่ๆร่างของจีซูก็เหมือนถูกใครสักคนกระชากไปจนเซล้มไปกองกับพื้น ตอนนี้จีฮุนไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้นนอก แต่เห็นเพียงภาพตรงหน้า

     

    ปัก!!!

     

    คนที่ที่มาใหม่จัดการดึงจีซูให้ล้มกองลงไป ก่อนะตามไปคร่อมตัวเอาไว้ กระชากคอเสื้อเชิ้ตสีขาวนักเรียนให้ใบหน้าลอยขึ้นมา ก่อนจะใช้มือชกลงไปไม่ยั้งแรงจนแว่นเลนส์หนาของคนถูกทำกระเด็นออกไปอีกทางหนึ่ง จีฮุนพอเห็นว่ามันเริ่มไม่ค่อยดี รีบดึงแขนให้อีกคนถอยห่าง จีฮุนเห็นผู้หญิงอีกคนกำลังช่วยพยุงจีซูให้ลุกขึ้นห่างไปอีกทาง

     

    พี่ซูนยอง ขอร้อง พอก่อน

     

    ทำไมยังไปช่วยมันอีก!!!”

     

    ซูนยองขึ้นเสียงใส่เด็กผู้หญิงคนนั้นด้วยความโมโห ถ้าจีฮุนเดาไม่ผิดก็คงจะเป็นน้องสาวที่ซูนยองบอกว่าจะไปหาหรือเปล่า แววตาของเธอดูสับสนและตกใจซึ่งแตกต่างจากจีซูที่ตอนนี้หน้าตาช้ำตามุมปากแต่ยังคงยิ้มออกมา ส่วนในตอนนี้ซูนยองเองดูน่ากลัวจนเหมือนจะพุ่งไปทำร้ายจีซูได้ตลอดเวลา จนมือเล็กต้องกอดอีกคนเอาไว้แน่น

     

    คือว่า

     

    พูดมา ชิลิน!!!”

     

    คือ มันเป็นแค่แผนของเขา

     

    หมายความว่ายังไง

     

    เป็นเขาและซูนยองที่ไม่เข้าใจที่เธอพูดมา เด็กสาวหลับตาลงเหมือนพยายามรวบรวบความกล้าเพื่อที่จะเล่าเรื่องให้ซูนยองฟัง ซูนยองกัดฟันกรอดออกมาเพราะเธอเอาแต่อึกอักไม่ยอมพูดให้จบ มีแต่จีซูที่เหมือนจะหมดแรงเต็มทีแต่ก็ยังไม่วายส่งเสียงหัวเราะ เรียกลมร้อนจากซูนยองให้ยิ่งมีน้ำโห

     

    ชิลินทำงานของห้องหาย และงานก็ใกล้ส่งแต่ชิลินคงทำไม่ทันแน่ๆ เขาก็บอกว่าจะช่วย แต่ก็มีข้อแลกเปลี่ยนกัน” เธอหลับตาลงเหมือนกลัวที่จะบอก แต่ก็ยอมรวบรวมความกล้าทั้งหมดบอกต่อออกไป

     

    วันนั้นที่ชิลินร้องไห้ เพราะเขาบอกให้ชิลินทำเหมือนว่าถูกทำร้ายมาโดยเขา ชิลินก็ถามเขาว่าทำไมต้องทำแบบนั้น เขาก็ไม่ยอมบอก แต่ชิลินก็ต้องทำไม่งั้นต้องแย่แน่ๆ และหลังจากนั้นที่ทำไปแล้ว ชิลินรู้สึกไม่สบายที่โกหก เลยขอไปอยู่กับเพื่อนแทน เพราะถ้าเห็นพี่แบบปกติความต้องแตก แก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะ….”

     

    พอได้ยินแบบนั้นซูนยองถึงกับกัดฟันและกำมือแน่นด้วยความรู้สึกหลายๆอย่าง จีฮุนที่ฟังอยู่ข้างๆซูนยองเงียบๆ กำลังไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง รวมถึงซูนยองที่เขาไม่รู้ว่าอีกคนกำลังคิดอะไรอยู่เช่นกัน ยิ่งเห็นมันยิ้มไม่สะทกสะท้านขณะที่น้องของเขาร้องไห้ออกมา

     

    แล้วพี่ก็เชื่อจริงๆ

     

    มึงทำแบบนี้ทำไม

     

    คำถามของซูนยองเหมือนไปสะกอดต่อมในจิตใจของจีซูอย่างแรง เพราะกสีหน้าแสร้งทำเป็นหัวเราะยิ้มแย้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในตอนแรก ถูกเปลี่ยนเป็นใบหน้าส่งสายตาเหมือนกับเก็บความรู้สึกข้างออกมา ดวงตาเริ่มแข็งกระด้ามองตรงมาที่ซูนยองอย่างปิดไม่มิด

     

    ทำไมน่ะหรอ!! พี่ลืมลืมวันที่ผมขอเป็นรุ่นน้องของพี่สักครั้ง แต่พี่กลับทำเหมือนเป็นเรื่องเด็กๆ และไม่จริงจัง!!”

     

    และพี่!! ก็เป็นคนบอกเอง ว่าให้ผมทำตัวเลวก่อนแล้วกลับมาหาพี่ใหม่ รอบของชิลินผมยังไม่ได้ลงมือทำจริงๆจังๆ แต่รอบพี่จีฮุน พี่ว่าผมแย่พอที่จะเป็นรุ่นน้องคนสนิทของพี่หรือยังครับ

     

    กูให้โอกาสมึงออกไปจากตรงนี้ ตอนนี้ และเดี๋ยวนี้ ก่อนที่มึงจะไม่มีโอกาสได้พูด!!!”

     

    “…”

     

    เธอด้วย ชิลิน วันนี้กลับเองซะ พี่ไม่อยากคุยกับเราตอนนี้

     

    พี่ซูน…”

     

    ซูนยองรู้สึกตัวเองโง่จนไม่คิดจะลุกไปต่อยหน้าคู่กรณี รู้สึกชายิ่งกว่าโดนกระทืบ หัวสมองเหมือนโดนคนหลอกจนไม่มีอะไรที่จะใส่เข้าไปข้างในให้ทำงานได้อีก พยายามข่มใจเอาไว้ไม่อยากเห็นหน้าสองคนข้างหน้า เขาเองก็โกรธน้องสาวที่ไม่คิดถึงจิตใจเขาบ้าง ทั้งเป็นห่วงและอะไรหลายๆอย่าง แต่กลับไปช่วยข้อเสนอบ้าบอที่จีซูมันยื่นให้ มันไม่ตลก

    เด็กสาวหลับตาลงก้มร้องไห้เงียบๆ เพราะดูคนเป็นพี่ยื่นคำขาด เธอตัดใจยอมลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วพยุงร่างอ่วนปวกเปียกของจีซูให้ยืนแล้วช่วยพยุงให้เดินออกไปจากร้านพร้อมกัน ก่อนจะถึงประตูก็ต้องเดินผ่านซูนยองแล้วจีฮุนพอดี

     

    ทุกอย่างอาจจะจัดฉากขึ้น แต่เรื่องพี่จีฮุน ผมจริงจังและเอาจริง

     

    จีซูหยุดมองหน้าคนตัวเล็กจีฮุน ก่อนจะส่งยิ้มให้แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังจนขนลุก จนซูนยองที่อยู่ไม่ห่างกัดฟันกรอด อยากจะทำร้ายให้จมดิน แต่จีฮุนต้องีบจับมือซูนยองไว้แน่นเป็นการบอกว่าเขาไม่เป็นไร ขอร้องให้ใจเย็นเพื่อเขา และรีบดันซูนยองให้เข้ามาเพื่อจะได้ไม่มองเห็นจีซูและเพื่อสงบสติอารมณ์ ก่อนจะมั่นใจว่าสองคนนั้นไปแล้วจริงๆ

     

    ตอนนี้เหลือแค่เขาสองคนที่ยืนเงียบกันอยู่ข้างในร้าน ต่างคนต่างไม่พูด จีฮุนให้เวลาซูนยองได้คิดอะไรคนเดียว ก่อนที่จะรู้สึกถึงก้านนิ้วยาวยกขึ้นลูบแก้มเขาเบาๆ ก่อนจะใช่ฝ่ามือกุมแก้มไปจนถึงใบหู โอบเข้ามาให้แนบชิดสัมผัสกันระหว่างหน้าผาก ความอุ่นเนื้อของทั้งคู่ต่างก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นกว่าเก่าหลังจากที่เจอเรื่องแย่เมื่อครู่

     

    ไม่อยากให้นายต้องมาเกี่ยวเรื่องแบบนี้

     

    ก่อนที่ตาใสหลับลงพริ้มรับกลีบปากหนายามกดลงมาแนบนิ่ง ส่งผ่านความรู้สึกมากมายให้รับรู้แค่ว่ามีเท่านี้ก็พอแล้ว ไม่ขออะไรมากแค่ความปลอดภัยและอุ่นใจตรงหน้า ปากอิ่มจัดการขยับบดคลึง ยกรอบแขนขึ้นกอดรอบคอแกร่งแน่นและไล้นิ้วไปตายท้ายทอยให้อีกคนไม่ตรึงเครียด ก่อนจะผละออกมาและซุกหน้าแนบแก้มไว้กับดวงหน้าของคนตัวสูกว่าเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้ซูนยองรู้สึกใจชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

     

    ให้ฉันเป็นทุกเรื่องของนาย ซูนยอง

     

     

    …………….(50%)……………

     

     

     

    โครม!!

     

    เสียงเซล้มของร่างคนๆหนึ่งกระทบกับพื้นจากการถูกซัดต่อยเต็มแรง พร้อมกับเจ้าของหมัดเดินตามมาคร่อมตัวอีกคนไว้เพื่อที่จะทำโทษอีกรอบ แต่ฝ่ายถูกกระทำไม่มีแม้แต่การตอบโต้หรือขัดขืนกลับมา

     

    มันทำมึงได้ก็ให้มันทำไป แต่มึงปล่อยให้มันทำจีฮุนได้ยังไงวะ!!

     

    ปั่ก!!

     

    กูอุตส่าห์ไว้ใจมึง แต่มึงผิดสัญญากับกูที่ว่าจะดูแลจีฮุน!!”

     

    ปัก!!

     

    แล้วแบบนี้มึงยังจะให้กูยกจีฮุนให้มึงอีกหรอวะ!!

     

    ปัก!!

     

    โฮย!! เหนื่อยชิบหาย

     

    ขอบคุณครับ

     

    บุคคลที่เพิ่งฟื้นสภาพร่างกายหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลเมื่อเที่ยงวันหมาดๆ แต่กลับต้องมาใช้แรงในตอนสี่ทุ่มอย่งหนักหน่วง เนื่องมาจากที่ตนเห็นรอยช้ำของน้องชายตามต้นแขนแต่เจ้าตัวไม่ยอมบอก แต่คนที่เล่าเรื่องทั้งหมดดันเป็นไอ้คนที่เขาเพิ่งลงไม้ลงมือจนสังขารรับไม่ไหวขนาดนี้

     

    ตอนแรกจินฮอนฟังเรื่องทั้งหมดก็เข้าใจเพราะเขาก็พอจะผ่านช่วงฮอร์โมนร้อนมาเหมือนกันทั้งนั้น จินฮอนเองก็โกรธซูนยองมากพอตัว แต่ไม่คิดจะตบตีไอ้ต้นสาเหตุอะไรมันหรอก แต่จู่ๆมันก็ร้องขอว่าให้ทำร้ายหรือลงโทษมันหน่อย มันรู้สึกไม่ดีทั้งคืนแน่ๆถ้าเขาไม่ทำอะไรมันแบบนี้ เขาเลยสนองให้เต็มที่ และสั่งให้จีฮุนขึ้นไปบนห้องระหว่างที่เขาทำธุระกับไอ้เด็กนี่ ก็ตามนั้น

     

    ความจริงกูน่าจะทำโทษมึง โดยการไม่ให้มึงเจอหน้าน้องกูสัก สี่เดือน ดีมะ?”

     

    แบบนั้น ฆ่าผมแทนเลยดีกว่าพี่

     

    งั้นมา

     

    พี่จินฮอน อย่าทำอะไรซูนยองนะ!!

     

    เสียงของจีฮุนที่ออกมาจากห้องนอนตัวเอง และตะโกนลงมาจากข้างบนบ้าน เพราะรู้สึกว่าสองคนข้างล่างคุยกันนานเกินไปแล้ว แต่ก็ไม่กล้าลงมาขัดเพราะไม่รู้ว่าพี่ของเขาโมโหมากอยู่หรือเปล่า ทำได้แค่มองลงมาจากตรงบันไดข้างบนเท่านั้น

     

    ไม่ได้ทำอะไรเลย เรายังรักกันดี  ใช่ไหมวะซูนยอง

     

    พอสองคนนั้นเห็นหน้าเขา ก็รีบหันมายิ้มให้แล้วกอดกันกลมบ็อกเหมือนกำลังรักกันปานจะกลืนกิน ทั้งๆที่เขาก็พอจะเดาออก ว่าเหตุการณ์มันพอจะเป็นยังไง เพราะตอนนี้หน้าของซูนยองมีรอยช้ำที่โหนกแก้มอยู่จางๆ ซึ่งต่างจากสีหน้าที่ส่งยิ้มมายืนยันความสามัคคีแบบนั้น

     

    ใช่ แล้วก็ใจดีบอกกให้นอนที่นี่คืนนี้ได้....ที่ห้องนาย

     

    จบประโยคของซูนยอง จินฮอนถึงกับต้องหันมามองแล้วส่งสายฟ้าสถิตมาให้ และฟาดลงมาผ่านอากาศหนึ่งที ก่อนจะกัดฟันกระซิบด่าคนข้างๆ แต่ก็ไม่ได้ห้ามมัน แถมยอมปล่อยตัวให้วิ่งขึ้นไปข้างบน แล้วมันก็หายเข้าไปในห้องน้องชายเขาแบบไม่ใยดี และไม่สำนึกกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้เลย

     

    ไอ้หน้าด้าน...

    .

    .

    .

    .

    ภายในห้องนอนสีครีมอ่อนนุ่มนวลที่ซูนยองถือวิสาสะเข้ามาโดยที่เจ้าของก็ไม่ได้เห็นดีเห็นงามด้วยเท่าไหร่นัก แต่ไม่ได้ห้ามหรือไล่ออกไป เพียงเพราะแค่โดนไม้อ้อนเขาก็เผลอยอมไปแบบนั้นได้ มีซูนยองที่นั่งรออยู่ที่ปลายเตียงหลังจากที่อาบน้ำและใส่ชุดนอนของอีกคน ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กจะชอบใส่เสื้อผ้าไซส์ใหญ่เกินตัว ที่มันพอดีกับเขาได้ และไม่ต้องไปขอยืมคุณพี่ชายเลย

     

    ขาขาวก้าวเดินออกมาจากห้องน้ำกับเสื้อผ้าแบบเดียวกับเขาคือ เสื้อยืดบางตัวโครงกับกางเกงผ้านิ่มสีดำสนิทตัดกับผิวขาวอย่างชัดเจน ก่อนจะเดินไปพาดผ้าเช็ดตัวผืนชื้นไว้กับไม้แขวนเสื้อ ก่อนจะเดินมานั่งลงที่เตียงนุ่มสีฟ้าอ่อนที่คุ้นเคยของตัวเอง พร้อมกับหลอดยาแก้ฟกช้ำในมือที่มีติดบ้านเอาไว้

     

    ดวงตากลมใสจ้องมองมาที่ใบหน้าของคนที่นั่งอยู่ด้วยกันนิ่งสักพัก ก่อนจะส่งมือเล็กขึ้นลูบแก้มที่มีรอยช้ำม่วงอย่างเบามือ เกลี่ยเรื่อยๆไปมาตามกรอบหน้า ก่อนที่มือหนาจะยกขึ้นมาวางทาบทับมือนุ่มเอาไว้

     

    เจ็บไหม

     

    จูบปลอบกัน ก็หายแล้ว

     

    หมดกันความโรแมนติก จีฮุนกรอกตาอย่างเนือยๆ พลางลอบถอนหายใจ คนอุตส่าห์เป็นห่วงยังจะมีอารมณ์เล่นแบบนี้อีก มือเล็กละมือออกมาจากกรอบหน้าก่อนจะใช้นิ้วสะอาดแต้มเนื้อยาจากหลอดและทาบางๆให้อีกคน ใช้ปลายนิ้วนวดเบาๆไปเรื่อยๆโดยที่อีกคนก็เอาแต่จ้องหน้าเขาไม่วางตา แถมยังเอาแต่เล่นหยิกและลูบแก้มเขาไม่หยุด

     

    เด็กดี

     

    นายเด็กกว่าฉันไม่ใช่หรือไง

     

    ซูนยองไม่เด็ก จีฮุนก็รู้ดีนี่

     

    พอได้ยินประโยคที่ดูไม่ปกติที่ถูกเอ่ยออกมาระหว่างที่กำลังปิดฝาหลอดยา ใบหน้านิ่มก็เริ่มเห่อร้อนอย่างห้ามไม่อยู่ จีฮุนทำเป็นหูทวนลม ไม่ได้ยินอะไรไปชั่วขณะ และยังปาหลอดยาในมือใส่ต้นเหตุทันที ก่อนจะยกมือขึ้นดึงหัวอีกคนเขย่าไปมาแกมโมโหเป็นการลงโทษ คนตัวเล็กลุกขึ้นเดินหนีไป ทิ้งให้คนเจ็บไว้อยู่บนเตียงคนเดียวไม่สนใจกัน

     

    จะปล่อยเขาไว้แบบนี้ไม่ได้นะ เขายังเจ็บอยู่เลย

     

    นอนไปเลย!!”

     

    ระหว่างที่คนตัวเล็กเดินออกไปจากห้อง ไปทำอะไรไม่รู้ ซูนยองก็ถือวิสาสะรอบที่สิบของวัน รีบชิ่งนอนบนเตียงนุ่มนิ่มทันที ไม่รีรออะไรมาขัดขวาง ร่างหนานอนแผ่อย่างสบายกาย แต่ก็ไม่ถึงกับสบายใจที่มีเรื่องมาให้คิดอยู่ในวันนี้ แต่ถ้ากลับกัน ทุกอย่างมันเป็นไปได้ดีแล้ว และไม่มีอะไรติดข้างกัน ซูนยองเลิกคิดและเขยิบไปนอนให้ชิดอีกฝั่งของเตียง รอใครบางคนมาเข้านอนด้วยกัน พลางลอบยิ้มและ แค่คิดว่าจะมีคนตัวเล็กมาอยู่ใกล้ ก็มีความสุขพอแล้ว

     

     

    ก่อนจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ คนที่กำลังคิดถึงของเขาก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับหมอนกับผ้าห่มอีกชุด บ่งบอกสัญญาณไม่โอเค เพราะนั่นหมายถึงเขาจะต้องแยกนอนกับอีกคน ซึ่งแน่นอนว่า คนอย่างซูนยอง มาถึงถ้ำแล้ว ต้องเก็บเกี่ยวสิ ไม่ใช่ต้องนอนนอกถ้ำ

     

    ซูนยอง ลงมา

     

    พี่จินฮอนบอกให้นอนนี่

     

    ไม่เกี่ยวกัน ในห้องเดียวกัน ไม่ใช่ว่าต้องเตียงเดียวกัน มานี่เลย

     

     

    มือเล็กจัดการเดินมาที่ปลายเตียง จับหมับเข้าที่ข้อเท้าใหญ่แล้วดึงให้อีกคนลุก แต่ก็เหมือนจะไม่ได้ผล แถมอีกคนยังแกล้งทำเป็นหลับตายคาเตียงไปเลยอีก จีฮุนรู้สึกหมดหนทาง เลยตัดสินใจปูที่นอนที่ตัวเองหยิบมากับพื้นข้างๆเตียง วางหมอนวางผ้าห่ม ก่อนจะเดินไปปิดไฟจนห้องมืด แล้วกลับล้มตัวนอนพื้นเองสะเลย เพราะยังไงเขาก็ไม่ให้อีกคนได้ใจง่ายๆ

     

    พอซูนอยองเห็นว่ามันเงียบผิดปกติ คนตัวเล็กไม่มีท่าทีจะไล่ล่าเขาให้นอนพื้น เลยลุกขึ้นนั่ง และมองคนข้างๆที่หลับกับพื้นไปอย่างจริงจัง เกิดความรู้สึกผิดเท่าปลายเล็ก ซูนยองยอมลงจากเตียง ยืนอยู่ข้างอีกคนที่นอนอยู่ไม่รู้ว่าหลับไปหรือยัง ก่อนจะอุ้มอีกคนขึ้นไว้ แล้ววางลงบนที่ที่ควรจะนอน ส่วนเขาก็คงต้อง...

     

    อื้อ...ลงไปเลย

     

    พื้นมันแข็ง ปวดหลัง เมื่อกี้เพิ่งโดนพี่นายกระทืบมานะ

     

    ไม่เชื่อ อื้อ มันหนักนะ

     

    หลังจากที่รบกันไป รบกันมา ก็จบลงโดยการจับคนดื้อให้มานอนข้างๆและใช้ขาพาดรอบเอวนิ่มแล้วเกี่ยวเอาไว้แน่ สอดมือเข้าใต้คอเล็กของอีกคนให้ใบหน้าแนบกับอกเขาเอาไว้ จีฮุนหยุดแรงกระทำลงและหอบหายใจไม่หยุด ให้เวลาหายเหนื่อยสักพัก ก่อนจะยอมปล่อยให้อีกคนเป็นอิสระ และหันหน้ามานอนบนหมอนในระดับเดียวกันดีๆ

     

     

    เพี้ยะ!!

     

    โอ๊ยยย...ซี๊ด โคตรแม่น

     

    แต่ก็ไม่วายทำโทษคนที่ทำให้ต้องเหนื่อยตอนกลางคืนแบบนี้ โดยการฟาดมือลงไปตรงแก้มแถมได้สองเด้งถึงแม้ในห้องจะมืด ก็ยังอุตส่าโดนตรงแผลที่โดนพี่ชายคนดีต่อยอีก ทำให้สภาพที่เป็นคือลูบแก้มตัวเองปอยๆไม่หยุด

     

     

    เจ็บนะเนี่ย เจ็บจะตายแล้ว

     

     

    ซูนยองทำเสียงหงอยเหมือนจะร้องไห้ แถมยังดึงมือนิ่มให้ยกมาลูบแก้มเหมือนเด็กๆที่พ่อแม่ลูบแล้วจะหายทันที จนจีฮุนอดขำไม่ได้ ลอบยิ้มแล้วมองอีกคน และตัดสินจะเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ และกดจูบเบาๆลงบนแก้มให้ทีนึง และกลับไปนอนพร้อมกับหลับตา ปล่อยให้คนที่ถูกจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว ยิ้มเขินอยู่คนเดียว

    ซูนยองปล่อยให้อีกคนนอนไม่รบกวนอะไร และบรรยากาศภายในห้องถูกปล่อยให้เงียบอีกครั้ง มีแต่ซูนยองที่นอนเงียบๆ พลางส่งมือกุมแก้มนิ่มคนข้างหน้าเอาไว้ ในหัวก็คิดอะไรไปเรื่อย ทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้ว ที่กำลังเกิดขึ้น และจะเกิดขึ้นข้างหน้า และคิดเรื่องอื่นไปเรื่อย พลางเฝ้ามองใบหน้าของอีกคนยามหลับใหลไปด้วย จนจู่ๆดวงตากลมใสก็ลืมตื่นขึ้นมาตอนที่เขากำลังคิดอะไรเพลินและจ้องเขานิ่งเช่นกัน

     

     

    นอนไม่หลับหรอ” ซูนยองยิ้มตอบอีกคนไป และไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่จีฮุนก็พอจะรู้ว่าที่อีกคนพยายามทำตัวร่าเริง เพราะต้องการจะปกปิดความกังวล ไม่ให้ตัวเองคิดมากทั้งๆที่เรื่องมันก็คลี่คลายแล้ว แต่เหมือนกำลังมีบางอย่างให้ห่วง

     

    นายล่ะ ทำไมไม่หลับ

     

    เห็นนายไม่หลับ เลยเป็นห่วง

     

    ที่จริงก็แค่คิดว่าพูดกับชิลินไปแบบนั้น น้องจะเสียใจหรือเปล่า” ซูนยองบอกเหตุผลไขข้อกังวลให้กับอีกคนฟัง เพราะเขาก็ดีใจมากแล้วที่ว่าจริงๆน้องสาวเขาไม่ได้โดนใครทำอะไรอย่างที่คิดไว้ แต่เพราะตอนนั้นเขาโมโหเลยเอ่ยไล่น้องเขาไป เพราะถ้าขืนยังเห็นหน้าแบบนั้น เขาจะต้องยิ่งใช้อารมณ์ แต่ก็อดสงสารไม่ได้

     

    ฉันว่าเธอจะเข้าใจนาย” ซูนยองพยักหน้า แต่ก็ยังมีอีกเรื่องที่ต้องห่วง

     

    อีกเรื่องคือไอ้จีซู ที่มันบอกกับนาย ฉันคิดไม่ตกว่า...

     

    ก่อนคนตัวใหญ่กว่าจะพูดอะไรที่ไม่เข้าท่าไปมากกว่านี้ มือนิ่มก็จัดการปิดปากอีกคนเอาไว้ให้เงียบหยุดคำพูดที่จะทำให้รู้สึกไม่ดีไปมากกว่าเก่า ตาใสสบกับตาเรียวของอีกคนนิ่งและยอมละมือออกมา คนตัวเล็กเขยิบตัวเข้าไปใกล้และสวมกอดอีกคนเอาไว้ ก่อนจะกดศีรษะของซูนยองให้กดลงแนบกับไหล่มนเป็นการปลอบในแบบของเขา  ก่อนจะตัดสินใจผละออกมามองหน้าของคนตัวโตกว่าด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย

     

    ใบหน้านิ่มเอียงองศาเข้าหากับใบหน้าของคนตรงหน้า ใกล้เข้าไปเรื่อยๆจนเหลือเพียงระยะห่างไว้สำหรับทางของลมผ่าน ปลายจมูกรั้นแตะแนบไล้ลงมาข้างแก้ม ก่อนที่ปากอิ่มจะกดลงบนกลีบปากหนาแนบชิด คลอเคลียความนิ่มลงไปซ้ำๆเงอะงะ พลางหลับตาพริ้ม

     

    ซูนยองไม่ได้ทำการตอบโต้อะไร เพียงแต่คอยรองรับความหวานของความชื้นที่คนตัวเล็กพยายามปลอบเขานั้นมอบให้  ลมหายใจที่ค่อยๆอุ่นและร้อนขึ้น พ่นกระทบลงบนใบหน้าของกันและกันอย่างแผ่วเบา ไอรอบๆตัวของคนสองคนส่งผ่านทางเสื้อผ้าตัวนุ่ม อ้อมแขนเล็กยกขึ้นเกี่ยวรัดลำคอแกร่งเอาไว้มั่นเพราะเหมือนว่าบางอย่างกำลังทำให้แรงเริ่มหายไปทีละนิด  เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มซึมออกมาตามไรผมสีเหลือบบ่งบอกถึงอารมณ์ภายในเริ่มประทุบางสิ่งออกมาช้าๆ

     

    ในขณะที่ริมฝีปากยังคงไม่ผละออกจากกันไปไหน ซูนยองก็ลุกยันกายขึ้น และดันอีกคนลงไปกับเตียงนอนนุ่ม จัดการคร่อมร่างอีกคนเอาไว้ทั้งหมด ข้อศอกแกร่งสองข้างถูกใช้ค้ำเอาไว้ไม่ให้น้ำหนักกายของตัวเองทิ้งลงใส่คนด้านล่าง


    หลังจากที่ปล่อยให้ปากอิ่มบดคลึงไปมาอยู่ เรียวลิ้นร้อนก็เริ่มเป็นฝ่ายนำ ส่งเข้าไปเกี่ยวรัดหยอกเอินไปมาจนเกิดเสียงอืออึงสั่นในลำคอ สัมผัสอ่อนโยนเป็นไปอย่างเนิบนาบในตอนแรก จนแรงจูบค่อยๆเพิ่มขึ้นมาตามอารมณ์และอากาศรอบๆตัวที่เพิ่มขึ้นสูง

     

    เสียงชื้นจากการดูดดึงและจูบที่น่าอายดังขึ้นท่ามกลางความเงียบในห้อง และดังเข้าโสตประสาทของจีฮุน ยิ่งทำให้เขารู้สึกขนลุกและวูบไหวอย่างบอกไม่ถูก ส่งปลายนิ้วนุ่มสอดผ่านกลุ่มผมเป็นการระบายความวาบหวิวที่ถูกก่อขึ้น ความรุนแรงของซูนยองที่ส่งผ่านริมฝีปากและฝ่ามืออุ่นที่เริ่มลูบไล้ผ่านช่วงสะโพกและต้นขา ทวีคูณความร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ  


    อือ..

     

     

    ……………(80%)…………

     



    2nd Cut Scene (Just Click)


     

    PASSWORD



     


    ……………(90%)…………



    แสงอาทิตย์ของวันใหม่มาเยือน เป็นเวลาที่ร้านกำลังตระเตรียมของเพื่อต้อนรับลูกค้ารอบใหม่เหมือนกับทุกๆวัน ตอนนี้มีแค่จองฮันกับซึงกวานที่มาก่อนเพื่อนๆ ส่วนวอนอูคงกำลังใกล้มาพร้อมกับมินกยูของเขาในอีกไม่นาน แต่ที่แปลกก็จะมีจีฮุนที่ปกติจะมาพอๆกับพวกเขาไม่ก็เร็วกว่านี้นะ

     

    รายได้ร้านเราตอนนี้ดีขึ้นเรื่อยๆเลยนะ นึกว่าพอพวกเรามีวันหยุดแล้วจะมีผลซะอีก” ซึงกวานที่กำลังนั่งคำนวณจัดการรายรับรายจ่ายของร้าน บอกเพื่อนผมยาวอีกคนที่กำลังอยู่ตรงเคาท์เตอร์ของตัวเอง ก่อนที่จะเดินเอามาให้ดู

     

    ถ้ามันดี ก็เพิ่มวันหยุดเลยสิ จะดีขึ้นไปอีกไง

     

    อย่ามาทำอู้เลยจองฮัน” คนตัวอวบยกสมุดขึ้นตีไหล่เพื่อนเบา หลังจากที่เจ้าตัวเอ่ยทำเป็นอ้อนขอวันหยุดเพิ่มพร้อมกับหัวเราะคิกคักไม่หยุดที่ได้แกล้งเพื่อน ก่อนจะบ่นต่อออกมาถึงเหตุผลที่ขอไป

     

    เนี่ย ย่าบ่นจะแย่แล้วว่าไม่ยอมไปหา ทั้งๆที่ช่วงเทศกาลก็สัญญาไว้แล้ว แต่ก็มีเพื่อนใจร้ายเนี่ยแหล่ะ แย่ๆๆ” จองฮันแกล้งบ่นออกมา พร้อมกับส่ายหัวไปมาอย่างหมดหวังว่าจะได้กลับบ้านไปหาคุณย่ากับครอบครัวที่บ้าน ก็ไม่ได้ไป แกล้งทำพองลมที่แก้มเหมือนงอนเพื่อนอีกคน จนซึงกวานต้องเดินมาจิ้มให้แตกก่อนบอกให้เพื่อนมีหวังต่อไป

     

    ได้ไปแน่ สัญญาเลย!!”

     

     

    พอว่าเสร็จ ก็หันไปเตรียมงานของตัวเองกันต่อพลางคุยนู่นคุยนี่ไม่หยุดกันสองคน ก่อนที่จู่ๆจะมีคนๆหนึ่งผลักประตูร้านเข้ามา ทั้งๆที่ยังไม่ใช่เวลาเปิด ซึงกวานเตรียมจะพูดบอกไป แต่พอเห็นว่าเป็นใครเลยพอจะรู้อยู่

     

    อ้าว เธอเองที่มีเรื่องในร้านตอนนั้น” ซึงกวานบอกก่อนจะหันไปส่งสัญญาณที่เขารู้กันไปให้จองฮัน

     

    ใช่ที่ไหน นี่เป็นพี่วินของจีฮุนต่างหาก เนอะๆ

     

    เอ่อครับ..”  ซูนยองที่ตอนแรกจะมาบอกบางอย่างกับพี่ๆในร้านที่ไม่รู้จักชื่อสักคน พอเขาพูดอะไรที่ไม่รู้ว่าหมายถึงตัวเองหรือเปล่า ก็ลืมเนื้อหาที่จะพูดไป เลยทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนเกาหัวแก้งง

     

    แล้วมีอะไรถึงมาแต่เช้า ร้านยังไม่เปิดหรอก

     

    ผมแค่จะมาบอกว่า วันนี้ จีฮะ..ไม่ พี่จีฮุนป่วยนิดหน่อยเขา เขาอาจจะมาไม่ไหว

     

    แล้วเรารู้ได้ยังไง

     

    อ้าว ก็ผมอยู่กับเขาทั้งคืนนี่ครับ

     

    ของจริง

     

    พอได้ฟังคำตอบที่ไม่คิดว่าจะใช่ของเด็กคนนี้ จองฮันกับซึงกวานถึงกับไปไม่ถูก มีคำถามมากมายเกิดขึ้น ไปถึงขั้นคิดว่า เด็กคนนี้จินตนาการเอาเองหรือเปล่าว่าจีฮุนอยู่กับตัวเอง จึงขาดไม่ได้ที่จะต้องหันมาจ้องคุยกัน เข้าการสนทนาลับแบบด่วนพิเศษ

     

    บีนายว่าใช่มั้ย

     

    ฉันว่าใช่นะ บีแต่ถ้าจริง แล้วพี่จินฮอนจะไม่รู้เลยหรอ

     

    เด็กนี่ลอบทำร้ายพี่จินฮอนแล้วลักลอบขึ้นบ้านหรือเปล่า บี1’

     

    ถามผมก็ได้นะครับ ตอบได้

     

    ซูนยองที่ยืนมองสองคนนี้ทีทำหน้ามองกันและกันจริงจังแต่ไม่พูดอะไร บอกไปเพราะอาจจะสงสัยในตัวเขาหรือเปล่า เพราะเขาไม่มีอะไรต้องปิด ซึงกวานกับจองฮันถึงกับต้องยิ้มแห้งๆส่งมาให้แล้วก็หัวเราะแหะกลับมาให้ ก่อนที่ซูนยองจะขอตัวกลับก่อน

     

    ผมไปโรงเรียนก่อนครับ เดี๋ยวตอนกลางวันมาใหม่

     

    ออกตัวแรงที่สุดเลย… เป็นสิ่งเดียวที่สองบีคิด

     

     

    ซูนยองที่เดินออกมาจากร้านได้สักพัก จู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ปรากฏชื่อคนที่อยู่ไกลอยู่ที่หน้าจอ ก่อนจะกดรับทันที

     

    หายเงียบไปเลยนะเรา

     

    ไม่เงียบสักหน่อย หายไปแค่วันเดียวเองนะครับ ไม่งอนสิ

     

    เชื่อได้ที่ไหนเรา มัวแต่หลงใครอยู่ ไม่คิดจะพามาให้แม่ดูหน่อยหรอ

     

    เขาจะยอมหรือเปล่าก็ไม่รู้นะครับ

     

    ซูนยองบอกคนเป็นแม่ไปแบบนั้น ก็แอบดีที่อย่างน้อยแม่ก็ยังอยากจะเห็นหน้าของคนตัวเล็ก ขายาวก้าวเดินระหว่างทางไปโรงเรียนเพื่อรอเวลาพลางคุยกับคนเป็นแม่ผ่านมือถือ หลายๆเรื่อง ทั้งเรื่องของจีฮุน เรื่องอื่นๆ รวมไปถึงเรื่องของชิลินที่แม่ได้ยินจากเจ้าตัวว่าเล่าให้ฟัง

     

    แต่โชคดีที่แม่เขาไม่ได้โกรธอะไร แถมยังแก้ต่างให้ว่าเขาหายโกรธเธอไปแล้ว ซึ่งก็จริงว่าตอนนี้เขาไม่รู้สึกอะไรแล้ว ทั้งชิลิน ทั้งจีซูก็ด้วย ต่างคนต่างอยู่ ก็สบายใจดี ไม่คิดจะเอาเรื่องแล้ว ตอนนี้ขอแค่มีแม่กับจีฮุนก็ไม่มีอะไรต้องคิดมาก พอพูดถึงก็ยิ้มทุกทีที่นึกถึง เขาเรียกว่าอินเลิฟก็คงอินแบบดิ่งลึกลงไป จนจมแถมโงหัวไม่ขึ้นอีกต่างหาก

     

    ตื่นหรือยังนะ

     

    .

    .

    .

     

    ในห้องเล็กๆตอนนี้เวลาประมาณแปดโมงเช้า แสงแดดเริ่มสาดมาที่เตียงนอนที่นุ่มของคนตัวเล็กที่นอนอยู่ ถึงจะส่องมาแรงแค่ไหน แต่ก็ไม่รบกวนเข้าไปในโสตประสาทแห่งการนอนหลับที่อ่อนเพลียของจีฮุนได้เลย

     

    จินฮอนที่ตอนนี้กำลังจะไปทำงานถึงแม้ที่ทำงานจะให้หยุดพักผ่อนร่างกายต่อ แต่ก็ไม่สบายใจเพราะคิดว่ากองงานที่แพลนไว้คงเต็มโต๊ะแน่ๆ คุณพี่ชายเดินมาที่ห้องนอนของน้องชายตัวเอง จีฮุนใส่ชุดนอนสีฟ้าอ่อนพร้อมกับนอนตะแคงข้างกอดหมอนหลับลึกอย่าบอกใคร คนเป็นพี่ตัดสินใจไม่ปลุกถึงจะแปลกใจที่น้องเขาไม่ลุกไปทำงาน แต่ก็คงมีเหตุผลล่ะมั้ง

     

    จินฮอนเตรียมที่จะเดินออกห้องไป เหลือบไปเห็นกระดาษที่มีข้อความเขียนเอาไว้ พอหยิบขึ้นมาอ่านถึงกับหัวเราะพลางส่ายหัวออกมา จนปัญญากับเจ้าของที่เขียนเอาไว้ ไม่รู้จะทำยังไงกับมันดี ได้แค่วางกระดาษใบนั้นไว้ที่เดิม แล้วเดินออกมาจากห้องเงียบๆเท่านั้น

     

     

    ตอนเที่ยงเดี๋ยวมาหานะ ซูนยอง

     

                .

    .

    .

     

    เปลือกตาที่ปิดตาใสเอาไว้ ค่อยๆลืมตื่นขึ้น ก่อนจะหลี่ตาเพื่อปรับแสงภายในห้อง คนตัวเล็กบนเตียงมองไปที่นาฬิกาแขวนที่มุมห้องว่าเป็นเวลาเที่ยงแล้ว เปลือกตาหลับลงสักพักเพื่อรวบรวมสติ คิดย้อนเหตุการณ์ทั้งหมดสักพัก ก่อนที่จะขมวดคิ้วเข้าหากัน แล้วก็เปลี่ยนเป็นยิ้มออกมาบางๆ พลางหันไปทุบหมอนข้างๆไม่หยุด

     

    เป็นอะไรครับ นั่งมองนานแล้ว ไม่เห็นหันมามองทางนี้บ้าง

     

    เสียงทุ้มคุ้นหูดังมาจากโซฟามุมขวาของห้อง ทำให้จีฮุนต้องหันไปมองแทบจะทันที ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนมาเป็นทำท่าจะร้องไห้กับเองพลางยกมือขึ้นปิดหน้าไม่อยากมองไม่อยากให้คนที่เขาเห็นมาอยู่ตรงนี้ ซูนยองต้องพูดถึงเรื่องเมื่อคืนไม่หยุดแน่ๆ ก่อนจะหยิกตัวเองหนึ่งทีเป็นการทดลอง

     

    ฮื่อออ เจ็บ

     

    ซูนยองที่นั่งขำอยู่นานลุกขึ้นมาหาคนบางคนที่เตียงนอน ทรุดนั่งคุกเข่าข้างเตียงก่อนจะจับหน้านิ่มที่พยายามเบี่ยงหนีเอาไว้แน่น ก่อนจะก้มลงจูบหวานลงไปหนึ่งที่สั้นๆ ก่อนจะเกลี่ยพวงแก้มที่เริ่มขึ้นสี และขมวดคิ้วด้วยความเขิน พลางกดจูบอีกครั้งและเอ่ยประโยคที่มีอิทธิพลต่อใจดวงน้อยที่เต้นจนเหนื่อยเพราะคนๆนี้คนเดียวมาหลายต่อหลายครั้ง

     

    ไม่ได้ฝัน ซูนยองตัวจริง กอดได้ จูบได้ ปล้ำได้ด้วย” คนที่ยังจับหน้าเขาไม่ปล่อยถึงแม้จะพูดจาลามกแต่ก็ทำหน้าจริงจัง ก้มลงหอมแก้มหนึ่งทีเป็นการย้ำอีกรอบ

     

    ฮื่อออ พอเลย หิวข้าวแล้ว

     

    ซูนยองทำหน้ามุ่ยเหมือนจะงอน แต่ก็ยอมปล่อย แล้วลุกขึ้นมาจากพื้น เตรียมจะเดินไป แต่ก็ถูกมือนิ้มจับแขนเอาไว้ คนตัวเล็กค่อยๆลุกขึ้นนั่งก่อนจะเอ่ยตะกุกตะกัก ขอให้คนตัวโตกว่าช่วย เชิงออดอ้อนแบบอายกลบเกลื่อนปนง้องอน

     

    อุ้ม

     

    เมื่อได้ยินแบบนั้น ซูนยองก็ถึงกลับกดเปลี่ยนโหมดแทบจะทันทีจนน่าหมั่นไส้ ยอมหันมาหาคนที่แทบจะก้มหน้าคางติดคอตัวเองอยู่แล้ว ไม่ยอมสบตา แต่ก็ยอมอ้าแขนรอ มือหนาค่อยๆสอดเข้าใต้วงแขนทั้งสองข้างแล้วยกอีกคนขึ้นแนบอก จีฮุนยกแขนขึ้นโอบรอบคอแกร่งแน่นไม่รอให้บอก มือหนาจับเรียวขานิ่มขึ้นเกี่ยวรอบเอวสอบของเขาเอาไว้ แล้วมากระชับเข้าที่รอบเอว ก่อนจะค่อยๆพาลูกหมีโคอาล่า ออกจากห้องเพื่อไปที่โต๊ะกินข้าวด้านล่าง

     

    ซูนยองที่ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของบ้าน เดินลงบันไดมาจนมาถึงที่โต๊ะกินข้าวที่อยู่ภายในตัวครัวบ้าน แล้วค่อยๆวางคนในอ้อมแขนลงที่เก้าอี้เบาะตัวนิ่มอย่าเบาแรง ก่อนจะเดินไปที่เคาท์เตอร์ครัวที่อยู่ไม่ห่างกัน จัดการจัดอาหารที่จีฮุนเพิ่งเห็นที่ถุงแล้วคุ้นตาว่าเป็นร้านของเขา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร มองอีกคนจัดใส่จานมาให้จนเสร็จแล้วมาวางที่โต๊ะ เป็นมักกะโรนีกุ้งสองจาน

     

    กินเยอะๆ ชอบไม่ใช่หรอ” ซูนยองบอกระหว่างที่นั่งลง ทำให้จีฮุนแปลกใจอยู่

     

    รู้ได้ยังไง

     

    บอกพี่คนผมยาวว่าให้ทำเมนูที่นายชอบมาให้สองจาน” คงจะหมายถึงจองฮันที่เป็นคนทำ ทำให้จีฮุนเข้าใจว่าซูนยองคงจะไปที่ร้านมา จีฮุนพยักหน้าเข้าใจ ก่อนที่จะหันมาสนใจอาหารตรงหน้า พลางบอกให้ซูนยองกินด้วย ก่อนทั้งคู่จะก้มหน้าก้มตากินกัน

     

    จีฮุนนั่งคิดอะไรอะไรไปเรื่อยเปื่อย ตอนนี้ความเงียบเริ่มปกคลุม จนคนตัวเล็กรู้สึกแปลกๆเพราะปกติซูนยองจะพูดไม่หยุด จนทำได้แค่นั่งกินเงียบๆ ในขณะที่ฝั่งของซูนยองกำลังแกล้งอีกคนที่ดูเหมือนอยากจะถามอะไรเขาหลายๆอย่าง คอยดูว่าอีกคนจะพูดอะไรไหม

     

    ซูนยอง คือ…”

     

    ครับ?”

     

    อาบน้ำให้หรอ ละแล้วตอนไหนอะ” จีฮุนตัดสินใจเป็นคนทำลายความเงียบลง แล้วถามอีกคนไปเพราะก็แปลกใจที่ตื่นมาในชุดนอน ทั้งๆที่เมื่อคืนเราก็….ฮื่อออ ไม่อยากจะนึกเลย

     

     

    อื้อ ตอนก่อนจะกลับไปเอาชุดนักเรียนที่ห้อง แล้วก็ไปเรียน

     

    อาบให้ทำไม ฮื่อออ

     

    จีฮุนร้องบ่นกับตัวเองเบาๆอย่างคาดโทษตัวเอง อยากจะโขกหัวกับผนังสักสิบทีแล้วถ่วงน้ำสักสองวินาที น่าอายไหม ปล่อยให้เขามาอาบน้ำให้ อายจะตายแล้วเนี่ย ฮื่อออ

     

    ซูนยองนั่งมองคนตรงหน้าเงียบๆ ก่อนจะนึกแผนแกล้งหยอกอันใหม่ได้อีกอันหนึ่ง

     

    ทำไม ไม่ชอบเหรอ

     

    ปะ…”

     

    อ้อ ลืมไปว่านี่มันก็แค่นักเรียนเกเร ไม่มีสิทธิ

     

    เดี๋ยวสิ ฟังก่อน

     

    ขอโทษก็แล้วกัน ลืมไปว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน  จะไม่มายุ่…”

     

    ยังไม่ทันจบประโยคของซูนยอง จีฮุนก็ตัดสินใจลุกขึ้นยืนแล้วคว้าคอเสื้อของคนตรง ก่อนกดจูบลงที่หน้าผากของซูนยองหนึ่งที ตอนแรกซูนยองก็แค่อยากจะแกล้งเฉยๆว่าอีกคนจะแสดงออกมายังไง แต่ความอุ่นที่แผ่ไปทั่วหน้าผากมันลับทำให้รู้สึกอย่างบอกไม่ถูกจนยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ จีฮุนผละดวงหน้าออกมาก่อนที่จะ

     

    เพี๊ยะ!!

     

    นายเป็นของฉันเข้าใจหรือยัง โง่!!

     

     

    แม่ครับ รอดูตัวได้เลย….

     

     

     

    …………………………..(END)……………………..


    ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ

    #always17chummy


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×