คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Chummy : Sucre - Part 5
Sucre - Part 5
Author: pearlinc
Rate: PG (?)
-5-
“อีกสองวัน คนไข้ก็กลับบ้านได้แล้วนะคะ”
“ขอบคุณมากๆครับ”
จีฮุนก้มหัวขอบคุณให้คุณหมอหลายต่อหลายรอบ หลังจากที่คุณหมอเข้ามาดูอาการตรงคอให้จินฮอนรอบบ่าย แล้วก็ได้เวลาทานข้าวเที่ยงของคนป่วยบนเตียงอีกรอบ โดยที่จินฮอนสังเกตเห็นคนแปลกหน้าที่เคยเห็นเมื่อคราวก่อน กำลังมองน้องชายเขาไม่หยุด
“จิ๋ว ไอนั้นมาทำอะไรอีก”
คุณพี่ชายบนเตียงคนไข้ เอ่ยถามขึ้นระหว่างที่จีฮุนกำลังจัดท่าทางเพื่อที่จะป้อนข้าวให้เจ้าตัว คนถูกถามแอบนิ่งไปพักหนึ่ง พร้อมกับหันไปมองซูนยองที่เอาแต่เลิกคิ้วกวนๆให้เขาอยู่ที่มุมห้องแบบไม่คิดจะช่วยกันเลย
“คะ...คือ เขากำลังหารายได้เสริม ก็เลยจ้างเขาไปรับไปส่งน่ะ”
“แล้วทะ...”
ก่อนที่คุณพี่ชายจะได้ถามเหตุผลต่ออีก จู่ๆคุณเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลก็เข้ามากะทันหัน จนจีฮุนรู้สึกโล่งใจไปหน่อยนึง
“คุณอีจีฮุน รบกวนช่วยมายืนยันเอกสารของคนไข้ด้วยค่ะ”
“ได้ครับ”
คนตัวเล็กรีบวางถ้วยข้าวต้มไว้ที่โต๊ะเพื่อจะรีบเดินตามคุณเจ้าหน้าที่ แต่ก่อนจะเดินไปที่ประตู ก็หยุดตรงที่ซูนยองยืน แล้วบอกประโยคที่ทำให้ซูนยองรู้สึกใจหล่นแล้วขนลุกยิ่งกว่าเจอผี
“ซูนยอง...ฝากป้อนข้าวจินฮอนด้วยนะ”
ทิ้งระเบิดไว้ให้คนหล่อแล้วไง
คนถูกมอบหมายงานได้แต่ยืนอ้ำอึ้งอยู่กับที่มองตามแผ่นหลังของจีฮุนที่หายลับไปกับประตูที่ปิดลงที่เหมือนกับชีวิตของเขา
“เร็วดิ หิว”
ขายาวยอมก้าวจากมุมห้องมาที่ข้างเตียงของคนป่วยแต่โดยดีแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ พร้อมกับหยิบถ้วยข้าวต้มขึ้นมา ตาเรียวแอบลอบมองคุณพี่ชายที่กำลังอ้าปากรอแวบหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆตักเข้าให้ที่ละคำ
“ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่”
“ซูนยองครับ อายุ18”
“งั้นหรอ”
คนถามเมื่อถามเสร็จ ก็เงียบไป ทำได้แค่เพียงอ้าปากรับข้าวต้มจากช้อนที่เขาป้อนเงียบ ตาก็มองตรงไปที่หน้าจอทีวี ทั้งๆที่ไม่ได้เปิด
“ฉันดูออกนะ เวลานายมองจีฮุน”
“ค...ครับ?”
“โคตรอ่อนหัด”
หลังจากที่ได้ยินประโยคแทงใจ ซูนยองถึงกับหูพึ่งขึ้นมา ถ้าไม่ติดว่าเป็นว่าที่พี่ชายของว่าคนรักในอนาคต เขากะว่าจะต่อยให้ปากแตก แล้วก็ตบด้วยหมอนข้าง แต่ก็ทำได้แค่เพียงยิ้มบางๆกลับไป พลางป้อนข้าวต้มให้เรื่อยๆ แต่จู่ๆอะไรบางอย่างก็ดลใจให้เขาพูดประโยคที่ไม่ได้เตรียมไว้ในใจออกมา แบบไม่เกรงกลัว
“ถ้าผมทำอะไรลงไป ก็อย่ามาว่าผมทีหลังก็แล้วกันครับ”
ได้ยินแบบนั้น แทนที่คนฟังฟังจะมีอารมณ์โกรธหรือหวงน้องชาย แต่กลับกลายเป็นหัวเราะออกมาลั่น แถมยังแอบหันมามองหน้าซูนยองพลางยกมือขึ้นตบบ่าเขาปักๆ จนเขาก็แอบไม่เข้าใจ
“ก็ดี ให้มีแฟนบ้าง อยู่แต่กับฉันก็เบื่อแย่”
“รู้ตัวด้วยหรอครับ”
“เอ้า ไอ้นี่ เดี๋ยวปั๊ด”
มือของคนป่วยบนเตียงที่ง้างเตรียมจะทำโทษคนหน้าตี๋ข้างๆ ต้องชะงักมือไว้ก่อน เพราะทั้งคู่ได้ยินเสียงเปิดประตูมา พร้อมกับร่างป้อมๆของคนบางคน
จีฮุนที่เข้ามาที่หลัง เดินเข้าแล้วเห็นภาพจินฮอนกำลังลูบหัวซูนยองอย่างเอ็นดูซึ่งกันและกัน พลางหันมายิ้มตาหยีให้เขาทั้งคู่ เหมือนให้เขาได้รู้ว่า พวกเขารักกันดี
“พี่จินฮอน เดี๋ยววันนี้เขาต้องกลับบ้านนะ เสื้อผ้าหมดแล้ว ต้องไปเอาเพิ่ม อีกตั้งสองคืน”
.
.
.
.
“กลับไปทำการบ้านซะ”
“ไม่เอา จะไปส่งอะ”
“โฮ้ย!!”
ตอนนี้จีฮุนกำลังเดินไปที่หน้าโรงพยาบาลพลางเถียงกับคนไม่ยอมฟังที่เดินตามเขามาติดๆ ด้วยเรื่องที่เขาจะกลับไปที่บ้านด้วยตัวเอง แต่ดูเหมือนคนที่แอบอ้างว่าตัวเองรับหน้าที่เป็นคนรับส่งจะไม่ฟังเลย
พอเดินมาที่ถึงที่หน้าโรงพยาบาล เหมือนโลกจะดลใจให้แท็กซี่ทุกคันไม่มีเลย นี่ก็เพิ่งจะทุ่มกว่าๆเอง จะรีบไปส่งรถที่ไหนกัน
“นี่ไง ถึงต้องเป็นซูนยองคนนี้ไง”
คนตัวเล็กได้แต่ถอนหายใจออกมา พลางมองซุนยองกำลังเดินไปเอามอเตอร์ไซต์คันใหญ่ของตัวเองที่จอดอยู่ไม่ไกล จนคนตัวโตกว่าขับมาจอดข้างหน้าเขาพอดีพลางยื่นหมวกใบที่ซื้อให้เขามาใส่
“มามะ มากับซูนยองได้ถึงบ้าน แถมได้คนขับเป็นของแถมด้วยเอ้า”
จีฮุนกรอกตาไปมาให้กับความมั่นใจในตัวเองสูงของซูนยอง แต่ก็ยอมรับหมวกกันน็อคมาใส่แต่โดยดี แล้วค่อยๆปีขึ้นไปบนรถโดยกับจับหัวคนขับไว้เป็นตัวยึด แต่คนถูกทำก็ไม่ได้ว่าอะไร พอเห็นว่าคนข้างหลังขึ้นเสร็จก็เร่งเครื่องออกตัวรถไป
ระหว่างทาง ก็มีเสียงของคนตัวเล็กบางเส้นทางไปเรื่อยๆ ระยะทางไกลพอสมควร แต่ไม่ได้ซับซ้อนอะไร และเขาก็พอจะจำทางได้ และก็มาถึงที่หน้าบ้านหลังกลางสำหรับอยู่สองคนได้สบายๆ หลังจากที่ซูนยองดับเครื่องเสร็จ จีฮุนก็ลงมาจากข้างหลัง แล้วก็ถอดหมวกกันน็อคฝากไว้ที่เขา
“รออยู่นี่นะ ไปเอาแปปเดียว”
จีฮุนบอกก่อนที่จะเดินไปที่ประตูบ้านแล้วหยิบกุญแจขึ้นมาไข และเดินเข้ามาในบ้าน คนตัวเล็กวางกระเป๋าเป้ไว้ที่โซฟา เดินขึ้นบันไดไปยังห้องของตัวเองเพื่อหยิบเสื้อผ้าจากตู้เสื้อผ้า พอเสร็จก็จัดการปิดไฟปิดประตูเรียบร้อย แล้วเดินลงมาที่ห้องครัวและตรงมายังชั้นลอยเหนือเคาท์เตอร์ครัวสำหรับเก็บขนมที่ซื้อตุนเอาไว้ เพราะเขาคิดว่าจินฮอนคงจะเบื่ออาหารโรงพยาบาลบ้างแล้ว
ขาป้อมเขย่งขึ้น พยายามหยิบกระปุกแยมลงมาจากชั้นบน ดูเหมือนความพยายามจะล้มเหลว แต่จู่ๆก็มีคนบางคนที่ซ้อนอยู่ด้านหลังเขาเอื้อมหยิบให้สบายๆ จนคนตัวเล็กแอบสะดุ้งนึกว่าโจรจึงรีบหันตัวมาก็เจอใครที่เขาบอกให้รออยู่ข้างนอก คนตัวสูงกว่าจ้องลงมาสบกับตาเล็กใส จู่ๆเสียงเต้นของหัวใจของทั้งคู่ก็ดังขึ้นท่างกลางความเงียบ ดวงตาสองคู่ยังคงสบกันไม่ห่าง ในใจของจีฮุนสั่งให้ผละออกมาแต่ร่างกายก็เกิดไม่ทำงาน ซึ่งต่างจากคนข้างหน้าที่เริ่มลบระยะระหว่างกันจนแผ่นหลังเล็กชนกับของเคาท์เตอร์ครัว
ลมหายใจอุ่นที่เริ่มร้อนขึ้น พ่นรดประทะเข้ากับหน้าผากมนจนรู้สึกขนลุก ปลายจมูกของซูนยองค่อยเคลื่อนลงต่ำมาเรื่อยๆ จนเหลือพื้นที่ไม่มาก สายตาที่จ้องกันค่อยๆเคลื่อนเข้าหากัน ใบหน้าเริ่มร้อนขึ้นแล้วมีเหงื่อซึมออกมา จีฮุนหลับตาปี๋เพราะดูเหมือนจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก่อนที่จะ…
“เตี้ย”
“ไอ้…อื้อ!”
ซูนยองจัดการครอบครองความนุ่มนิ่มปิดคำพูดที่คนตัวเล็กต้องการพูดเอาไว้ ก่อนที่จะออกแรงขบเม้มไปตามกลับปากอิ่ม ดูดดึงไปมาจนลมหายใจของจีฮุนติดขัด ในหัวสมองรู้พล่ามัวไม่รับรู้อะไร เมื่อเรียวลิ้นร้อนชื้นส่งเข้ามาเกี่ยวรัดไปมาจนเกิดเสียงน่าอาย มือหนาจับข้อมือเล็กทั้งสองข้างขึ้นเกี่ยวรอบคอเอาไว้ เมื่อรู้สึกว่าคนตรงหน้าเริ่มทรงตัวไม่อยู่
สัมผัสนุ่มนวลเมื่อครู่ ค่อยๆเพิ่มระดับความกระหายในตัวของซูนยองขึ้น มือหนาจับที่เอวนิ่มพลางบีบเบาๆจนเสียงอ่อนส่งออกมาเบาๆ เสียงลมหายใจที่กระทบแล้วผลัดกันค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆท่ามกลางความเงียบในห้องครัว ไอร้อนจากร่างกายของทั้งคู่ แผ่ไปทั่วรอบๆกัน ซูนยองรวบร่างเล็กข้างหน้าให้เข้ามาประชิดขึ้นในขณะที่ริมฝีปากยังคนทำงานไม่ห่าง
“อืม”
วงแขนเล็กกระชับรอบคอแกร่งมากกว่าเก่า มือนุ่มสอดไปตามกลุ่มผมหนาอย่างต้องการที่ยึดติด ใบหน้าเห่อแดงเงยหน้ารับแรงบดคลึงจากกลีบปากหนา พลางหลับตาขมวดคิ้วแน่น ในขณะที่ริมฝีปากซุกซนค่อยๆเคลื่อนมาตามมุมปากและแก้มนุ่ม จนไปถึงกกหูขึ้นสีให้อีกคนได้พักหายใจ
ซูนยองจัดการขบเม้มลงไปที่ติ่งหูพร้อมกับพ่นลมหายใจลงไปที่ต้นคอ ให้อีกคนทำได้แค่ซุกหน้าไว้กับไหล่กว้างอย่างทำอะไรไม่ถูก ทำได้แค่กอดรอบคอตรงหน้าไว้พลางส่งเสียงครางอืออึงไม่หยุด คนตัวสูงกว่าเลิกหยอกล้อกับใบหูนิ่ม กดริมฝีปากแนบกับแก้มนิ่มร้อน
มือหนาจับใบหน้าเล็กที่ขึ้นเลือดฝาดเต็มทีให้หันมาสบตากันอีกครั้ง เลื่อนมือขึ้นใช้นิ้วเกลี่ยเม็ดเหงื่อไม่ให้บดบังใบหน้าของคนดุที่น่ารักเวลาเขินอาย ก่อนจะกดจูบลงไปที่ปลายคางปิดท้าย แล้วก็สบตากันซ้ำแล้วซ้ำอีก จนอีกคนรู้สึกอย่างจะกลายเป็นอากาศ ท่าทางดูน่าเอ็นดูและน่ากิน จนใบหน้าเจ้าเล่ห์ของคนมองยิ้มไม่หุบเพราะรู้สึกขำเวลาอีกคนไม่มีทางสู้ ให้จีฮุนอดไม่ได้ที่จะยกขึ้นทุบเต็มแรงเท่าที่มีอยู่
“เด็กบ้า”
“…”
“จูบฉันสองรอบแล้วนะ”
“มันไม่ได้มีแค่สองแน่ครับ”
…………………..(20%)………………….
“พรุ่งนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วนะคะ”
“ขอบคุณนะครับคุณหมอ”
จีฮุนกล่าวขอบคุณ คุณหมอที่กำลังถอดปลอกเฝือกคอลลาร์หรือปลอกดามคอที่พี่ชายเขาใส่อยู่สำหรับค้ำเอาไว้ออกแล้ว ก่อนที่คุณพยาบาลอีกคนจะช่วยคุณหมอตรวจเช็คสภาพบริเวณรอบๆลำคอให้
“ส่วนตอนเช้าเราต้องเอ็กซเรย์กันรอบสุดท้ายนะคะ แต่ดูแล้วไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วง และเรื่องของการย้ายออก เป็นตอนเที่ยงนะคะ แล้วนี่ก็ยาก่อนนอนค่ะ”
“ได้ครับ ขอบคุณอีกครั้งหนึ่งนะครับ”
คุณหมอยิ้มตอบกลับให้คนตัวเล็กกลับ ก่อนจะออกจากห้องคนไข้ไปพร้อมกับพยาบาลอีกคนนึ่ง จีฮุน เดินกลับมาที่เตียงพักกลางห้อง ก่อนจะลูบๆคลำๆลำคอของจินฮอน ดูเหมือนจะขึ้นรอบแดงและชื้นพอสมควร อาจเพราะว่าใส่เอาไว้นานพอสมควร
“เนี่ย จิ๋ว เจ็บมากเลย”
คนป่วยตัวโตทำท่าออดอ้อนคนเป็นน้องยกใหญ่ เพราะเห็นว่าอีกคนมีท่าทีเป็นห่วงเขาอยู่เหมือนกัน
“เรียกหมอไหมครับ ใส่เฝือกกลับไปไหมครับพี่”
ซูนยองที่ยืนอยู่ปลายเตียงคนไข้และยืนดูคู่พี่วุ่นกันอยู่นานแล้วเกิดหมั่นไส้คนป่วยนิดหน่อย เลยตัดสินใจเดินเข้าหาคนไข้ที่อีกฝั่งหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยประโยคให้จินฮอนหันค้อนมาใส่ทีหนึ่ง
“ยุ่ง”
“พอเลย พี่จินฮอนกินยา แล้วก็นอนได้แล้ว” พอได้ยินแบบนั้น คนป่วยถึงกับนิ่งเป็นต้นไผ่ ไม่กล้าหือ ซูนยองเลยแอบยักคิ้วแกล้งแหย่คนป่วยที่โดนตำหนิไม่ยุด จนจีฮุนก็เริ่มรู้สึกหมั่นไส้พอกัน หันไปฟาดที่แขนคนที่เด็กกว่าหนึ่งที
“ไปอาบน้ำ”
“ครับ”
ซูนยองยอมอย่างว่าง่าย ทำเป็นเดินคอตกไปข้างนอกห้องเพื่อไปเตรียมอาบน้ำตามที่คนมีอำนาจบอก จีฮุนมาตามหลังกว้างที่เดินเข้าห้องน้ำไปก่อนจะหันมาสนใจคนบนเตียงอีกครั้ง
“จิ๋ว พรุ่งนี้เพื่อนที่ทำงานะมาเยี่ยมกันพอดี เราไม่ต้องมาพากลับบ้านหรอกนะ”
“ได้ไงล่ะ ไม่ให้น้องพากลับ แล้วจะให้ใครที่ไหน”
จีฮุนทำหน้ามุ่ยใส่พี่หนึ่งที ออกจากโรงพยาบาลทั้งที จะไปรบกวนพวกเพื่อนๆที่ทำงานของตัวเองทำไม เดี๋ยวเขาบอกพวกจองฮัน ซึงกวาน วอนอู ก็ได้ ก็เข้าใจกันอยู่แล้ว
“อย่าดื้อสิ”
“แต่ว่า…”
“จีฮุน”
“ก็ได้”
.
.
.
จีฮุนเดินออกมาจากห้องน้ำที่มีให้ในห้องเยี่ยมคนไข้ พร้อมกับเสื้อยืดสีเทาตัวใหญ่กับกางเกงผ้ายืดตัวหนานิ่มสบายๆ ในมือก็พลางจับผ้าเช็ดตัวเช็ดหยดน้ำที่หน้า เสร็จแล้วจัดการพาดไว้ที่ราวเล็กตรงมุมห้องอย่างเบามือ เพราะจินฮอนก็นอนหลับสนิทไปตั้งแต่ก่อนเขาอาบน้ำต่อจากซูนยอง
คนตัวเล็กเดินไปหาคนที่เป็นพี่ ก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นคลุมไปให้ถึงหัวไหล่ให้ ก่อนจะเอามืออุงหน้าผากของพี่เอาไว้อย่างเป็นห่วง ถึงจินฮอนจะนิสัยดูเด็กเอาแต่ใจและเอาแต่งอแงใส่เขา ยิ่งพอมีเรื่องถึงต้องเข้า โรงพยาบาลขนาดนี้ยิ่งแล้วใหญ่ บางทีตอนเขาโทรไปหาแม่กับพ่อ ก็มีเล่าให้ฟังว่าจินฮอนโทรไปฟ้องอย่างนู้นอย่างนี้ ว่าเขาใจร้าย แล้วชอบออกคำสั่ง แถมยังหายตัวไปบ่อย ทั้งๆที่ตัวเองก็เอาแต่นอนจะไปรู้เรื่องอะไร
แต่พอเอาเข้าจริงๆ พี่ชายเขาเป็นคนค่อนข้างเอาจริงเอาจังเหมือนกัน ระหว่างที่คิดอะไรไปเพลินๆ คนตัวเล็กก็เดินไปหยิบรีโมทแอร์ของห้องปรับให้อุณหภูมิไม่ให้หนาวมาก ก่อนที่เรียวขาเล็กจะค่อยๆเดินไปปิดไฟห้องให้อีกคนได้พักผ่อน ตอนนี้เขายังไม่รู้ง่วงเท่าไหร่ จะนอนอยู่ในห้องเฉยๆก็เดี๋ยวทำเสียงดัง เลยเปิดประตูไป ก็เจอคนบางคนกำลังขีดๆเขียนๆ แล้วก็ฟุบหน้าลงไปกับหน้าตักตัวเองเหมือนถอดใจ
จีฮุนยืนมองอยู่เงียบๆอยู่นาน แต่ซูนยองก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นมาสักที คนตัวเล็กเลยตัดสินใจเดินไปยืนอยู่ตรงหน้า มือเล็กเอื้อมไปจับหน้าที่ก้มอยู่ให้เงยขึ้น ใบหน้าตาเรียวคน ปรือเต็มที แต่พอเห็นว่าคนที่กำลังจับแก้มตัวเองเป็นใครก็ยิ้ม ยกมือหนาขึ้นกุมมือเล็กทับเอาไว้แล้วเอ่ยปากบ่นอ้อนๆว่าง่วงจัง อยากจะนอน คนตัวเล็กทนไม่ไหวแอบยิ้มขำเงียบๆ จัดการหาวิธีแก้ง่วงให้ เปิดผมที่หน้าผากของอีกคนขึ้นแล้วดีดเบาๆ
“ห้ามง่วง ทำการบ้านให้เสร็จ เพิ่งจะสามทุ่มเอง”
จีฮุนบ่นก่อนที่จะเดินไปนั่งที่โซฟาที่ว่างอยู่ข้างคนขี้เกียจ ก่อนะหยิบสมุดบนตักของซูนยองงัวเงียคอพับคออ่อนอยู่ที่ไหล่เขามาดู
“ซูนยอง ลืมตาก่อน”
“งือ ง่วงแล้วครับ”
ถึงปากจะบอกไป แต่ก็ยอมลืมตาขึ้นแต่โดยดี ก็คนข้างๆอุตส่าห์สลัดคราบอำมหิตมาสอนเขาทั้งที ก็ต้องยอมตาสว่างล่ะทีนี้ ตาก็ดู หูก็ฟังเสียงเจื้อยแจ้วอธิบายให้ฟัง แถมได้โบนัสคืออีกคนเขียนคำตอบให้อีกต่างหาก จนในที่สุดการบ้านที่ต้องส่งพรุ่งนี้คาบแรกก็เสร็จ แถมตาตี่ๆของเขาก็ตื่นสว่างขึ้นมาสะอย่างนั้น
จีฮุนยื่นสมุดส่งคืนให้ซูนยอง มือหนาก็รับไปวางงไว้ที่กระเป๋าที่แขวนอยู่ตรงพนักวางมือข้างๆ ก่อนที่จะหันมาทิ้งตัวลงนอนที่ตักนุ่มเนื้อนิ่ม ตอนแรกก็ขัดขืน แต่ก็ยอมๆไปก่อนเพราะเห็นว่าวันนี้ขับรถไปที่บ้านเขาเหนื่อยหน่อย
ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ตาใสแอบลอบมองใบหน้าตอนหลับของคนที่เอาแต่กวนประสาทเขามาหลายวันเงียบๆ มือเล็กยกขึ้นวางเล่นกับกลุ่มผมคนบนตักไปมาสนุกมือ
การที่เขาทำอะไรแบบนี้คงจะดูแปลก อาจเป็นเพราะว่า การที่มาสารภาพรักหรืออะไรประมาณนั้น ถึงคำพูดจะดูเล่นๆ แต่เขาคิดว่า สายตาแบบนั้นตอนพูด มันดูจริงจังเกินไปสำหรับเด็กมัธยมปลายด้วยซ้ำ แถมการที่เด็กคนนึงจะมานั่งเบื่อเฝ้าคนไข้ที่ไม่ได้เป็นอะไรกันมาได้ตั้งหลายวัน มันก็ไม่ธรรมดาแล้ว จะเรียกว่ายอมรับให้คนๆนี้เข้ามาก็ได้หรือเปล่านะ
“ซูนยอง”
“หื๊ม”
คนตัวโตกว่าส่งเสียงขานรับในลำคอตอบกลับมาในขณะที่ยังไม่ได้ลืมตาขึ้นอีกคนที่คุยด้วย ก็พอรู้ได้ว่า อีกคนไม่ได้นอนหลับอยู่ จีฮุนเลยเลือกที่จะถามคำถามที่อยากจะถามมานานต่อไป
“ขอถามได้ไหม”
“…”
“เรื่องจีซู” พอคนที่หลับตาอยู่ที่ตักนิ่มอย่างสบายใจ ได้ยินชื่อที่ระคายหูขึ้นมา เขาก็ถึงกับลืมตาขึ้นตื่น
“มันเป็นคนไม่ดี”
“…”
“จีซูเป็นเด็กรุ่นน้องที่อยู่โรงเรียนตรงข้ามกัน และเป็นเพื่อนในห้องเดียวกันกับน้องสาวที่เป็นลูกสาวของเพื่อนแม่ฉันชื่อชิลิน”
“…”
“วันนึงฉันเคยช่วยมันจากพวกจิ๊กโก๋ไถตังไปซื้อบุหรี่ จากนนั้นมา มันก็เอาแต่ฝากชิลินมาบอกว่า ขอบคุณฉัน และชื่นชมฉัน แล้วอยากจะเจอฉันอีก แล้วคราวนั้นหลังเลิกเรียน ฉันก็เผอิญเจอมัน มันบอกว่า อยากจะขอบคุณฉัน และอยากจะขออยู่แก๊งด้วย ทั้งๆที่ฉันก็มีแค่รุ่นน้องอีกคนที่ชื่อชานเท่านั้น ก็เลยปฏิเสธไป และก็ไม่ได้สนใจอะไร”
จีฮุนตั้งใจฟัง และไม่คิดจะขัดซูนยองตอนพูด ถึงแม้จะกำลังสงสัยอะไรมากมาย แต่ก็ปล่อยให้คนที่นอนบนตักอธิบายต่อไป
“อยู่ๆวันนึง ชิลินมันขอไปเที่ยวตอนดึกกับเพื่อนโดยที่ฉันก็ไม่ได้ถามว่ามีใครไปบ้าง แต่ก็ปล่อยไปเพราะกลัวจะก้าวก่ายกันมาก พอดึกๆ ชิลินมันก็มาเคาะประตูห้องพักของฉัน แล้วก็ร้องไห้ไม่หยุด ถามอะไรก็ไม่ตอบ เอาแต่ก้มหน้าก้มตาร้อง จนสุดท้ายก็พูดมาอยู่คำนึงว่า…จีซูทำ”
“…”
“ตอนนั้นฉันโมโหมาก จนคิดไปว่ามันต้องทำอะไรไม่ดีแน่ๆ แล้วยิ่งชิลินขอไปอยู่กับเพื่อนผู้หญิงสักพักเผื่อจะได้มีเพื่อนไปโรงเรียนด้วยกันเพราะยังกลัว ยิ่งทำให้ฉันคิดมากว่า เรื่องมันต้องร้ายแรงแค่ไหน ถึงทำให้น้องฉันต้องหลบหน้าไอ้จีซูขนาดนั้น ฉันรู้สึกว่า ฉันเป็นพี่ชาที่เป็นที่พึ่งให้น้องไม่ได้ จนเก็บอารมณ์โกรธไม่อยู่ จนวันนั้นก็เป็นอย่างนายเห็นในร้านของนาย”
พอซูนยองเล่าจบ จีฮุนถึงกับพลิกล็อค เพราะตลอดมา เขาคิดแง่ลบกับซูนยองและลูกน้องอีกคนมาตลอดว่า เป็นพวกชอบหาเรื่องกับเด็กต่างโรงเรียน แถมพอ ยิ่งฟังว่าเป็นเรื่องยังไงมาแบบไหนบวกกับสายตาที่เวลาเล่าเหมือนมีบางอย่างอัดอั้นอยู่ภายในอก ยิ่งรู้สึกตะหงิดใจบางอย่างกับน้องสาวของคนข้างหน้า ถึงจะไม่รู้ว่าโดนจีซูทำอะไรมาบ้าง ก็ยังน่าสงสารอยู่ดี
“ไม่เป็นไรนะ”
จีฮุนบอกกพลางก้มลงไปมองอีกคนที่เอาแต่ถอนหายใจหนัก จนอดลูบหัวปลอบเบา จู่ๆซูนยองก็จ้องมาที่เขา นัยต์ตาเหมือนอยากจะสื่ออะไร แต่ก็ไม่ได้บอกออกมา คนตัวเล็กไม่ได้คิดจะหลบตาอะไร ทำให้บรรยากาศเริ่มรู้สึกจริงจังมากขึ้น ถ้าไม่…
“จูบปลอบหน่อยสิ”
ซูนยองบอกไปขำๆ เพราะเขาไม่อยากให้คนตัวเล็กเจ้าของตักนิ่มนี้เครียดไปกับเรื่องแบบนี้ เลยเอ่ยแกล้งไปให้ติดตลก แต่กลับได้ผลลัพธ์กับมาคือ ดวงหน้าขาวก้มลงมากดปากอิ่มเข้ากับกลีบปากของคนที่พยายามกลบเกลื่อน
กลีบปากอิ่มเล็กที่ทำได้แค่กดนิ่งค้างเติ่งไว้อยู่กับที่ ถูกอีกคนเริ่มเลยขบเม้มขยับเบาๆเป็นการตอบรับ คนที่เริ่มจูบตอนแรก ตอนนี้ถูกมือหนาเกี่ยวรัดรอบคอให้ก้มลงต่ำมากขึ้น ริมฝีปากหนาขบเม้มและดูดดึงจนเกิดเสียงชื่นขึ้นเบา โชคดีที่แถวนั้นไม่มีผู้คนผ่านไปมา ทำให้ทางสะดวกสำหรับซูนยอง
ซูนยองลุกขึ้นนั่งขณะที่กลีบปากยังคงแนบชิดอยู่ไม่ห่าง มือหนาเกี่ยวรัดรอบเอวนิ่ม ยกอีกคนขึ้นนั่งตัก จับสองขาพาดไปในทางเดียวกัน
จีฮุนเริ่มรู้สึกบรรยากาศรอบเริ่มระอุขึ้นทีละนิด จนเหมือนเรี่ยวแรงเริ่มหายเหมือนจะหงายไปข้าง จนต้องยกมือขึ้นเกี่ยวรอบคอของอีกคนเอาไว้แน่ สองกายที่แนบชิดปิดทางเดินลมสนิท มือหนาบีบคลึงเอวเล็กเบาๆ พลางส่งเรียวลิ้นร้อนชื้น เกี่ยวพันกับลิ้นเล็กไปมาให้เปลือกตาของทั้งคู่หลับพริ้มรับสัมผัสวูบไหวผ่านกันและกัน
“อือ”
ร่างสูงลุกขึ้นยืนพร้อมกับร่างเล็กในอ้อมอกมาพร้อมกัน ให้จีฮุนยกแขนกอดอีกคนไว้แน่น ซุกหน้าไว้กับไหล่กว่างไว้ไม่ยอมเงย ซูนยองเลือกเดินเข้าไปในห้องของคนป่วย ผ่านประตูใหญ่ และเดินเข้าไปในห้องน้ำที่ตอนนี้พื้นแห้งไปแล้ว พร้อมกับวางอีกคนไว้กับเคาท์เตอร์ข้างอ่างล้างหน้าอย่างเบามือ และจัดการล็อคประตู กลัวคนจะลุกมาเจอแล้วช็อคหัวใจวาย ได้นอนโรงบาลต่ออีกหลายคืนแน่ๆ
จีฮุนจะยอมผละตัวออกมามองด้วยสายตาที่อีกคนได้รับแล้ว แทบจะทนไม่ไหว อยากจะไหวกายเข้าหาเต็มที แต่ก็ต้องกัดฟันทนกันต่อไป ในขณะเดียวกับอีกคนกำลังคิดสิ่งอกุศลในหัว มือเล็กก็ยกขึ้นเช็ดเม็ดเหงื่อออกจากไรผมให้ ก่อนจะก้มหน้างุดเขินอายอีกครั้ง
ซูนยองยิ้มขำกับท่าทีน่ารักที่เขาไม่ค่อยได้เห็น และนี่คือนาทีทองของซูนยอง มือหน้าเชยคางมนให้ขึ้นสบตากับอีกครั้ง ก่อนก้มจูบครั้งแล้วครั้งเล่า คราวนี้กลายเป็นซูนยองที่อยู่นิ่งๆให้คนตัวเล็กขัดใจ จนต้องเป็นฝ่ายยอมบดคลึงแนบชิดด้วยตัวเอง ปากอิ่มกดปิดปากอีกคนสนิท แล้วค่อยๆใช้ปลายลิ้นเล็กไล้เลียเบา ก่อนจะลองสอดเข้าไปหาความร้อนชื้นข้างในอย่างเอาเรื่อง
“อะ”
ซูนยองเองที่ทนไม่ไหว ครอบครองปากอิ่มทั้งหมดไว้คนเดียว กดจูบหนักๆจนอีกคนเริ่มระทวยอ่อนแรง ร่างกายปวกเปียกทิ้งตัวให้อีกคน ยกมือขึ้นคล้องลำคอเอาไว้ไม่ห่าง เนิ่นนานจนคนตัวเล็กต้อง ผละออกมาพักหายใจ แล้วเอาแต่ซุกหน้าเข้าข้างลำคอของซูนยองไว้เงียบ ก่อนจะพูดปิดท้ายให้ต่างคนต่างรู้สึกถึงอะไรที่ค่อยเพิ่มขึ้นซึ่งกันและกัน
“อย่าเศร้าอีกนะ”
...............(50%)..................
1st Cut Scene (Just Click)
PASSWORD
..............................(100%)...............................
ใช้ mediafire ได้แล้วค่ะ จุดพลุ*
จะเห็นได้ว่าหลายๆคนมาเพื่อขอคัท
หื่นกันจริงๆค่ะ
ทีหลังอย่าใช้คำว่าเอ็นซีดีกว่าค่ะ เพื่อความอยู่รอดในเด็กดีนะคะ
คัทค่ะ คัท
คัทกาก คนแต่งกาก ซูนยองก็กาก พี่จินฮอนกากกว่า
ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ
#always17chummy
ความคิดเห็น