คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Chummy : Sucre - Part 3
Sucre - Part 3
Author: pearlinc
Rate: PG (?)
-3-
“ขอบใจนะ”
“ไม่เป็นไร เรื่องแบบนี้
คนดีเขาก็ทำกันอยู่แล้ว”
จีฮุนที่ได้ฟังประโยคเมื่อสักครู่นี้
ถึงกับต้องกรอกตาไปมาเล็กน้อยให้กับความอวยของเจ้าตัวนคข้างหน้า
ตอนนี้คนตัวเล็กเดินมาข้างล่างมาส่งซูนยองตรงที่เขาจอดรถเอาไว้ก่อนหน้านี้
หลังจากที่คุยกับคุณพี่ชายของจีฮุนเสร็จ
ในตอนนี้ ซูนยองได้กลายเป็นคนดีไปโดยอัตโนมัติ
เมื่อตอนที่คุณพี่จินฮอนคนนั้นถามเกี่ยวกับเขาว่าเป็นใคร จู่ๆใจก็เหมือนหล่นฮวบแทบอยากจะเปิดประตูออกจากห้องเสียตอนนั้น
แต่ก็มีคนตัวเล็กคอยแก้ต่างให้ว่า เขาเป็นลูกค้าประจำที่แวะเวียนผ่านมาพอดี
ทั้งที่เขาไม่เคยซื้ออะไรในร้านเลยสักครั้ง แต่จริงๆวันนี้ก็ตั้งใจจะซื้อแล้วนะ
“แล้วจะนอนที่นี่คนเดียวหรอ”
“คงต้องเป็นแบบนั้น
พอพรุ่งนี้เช้าค่อยกลับไปที่ร้าน”
“งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้มารับ ไปละ”
คนตัวโตกว่าพูดจบก็จัดการขึ้นรถของตัวเองไป พร้อมทั้งใส่หมวกกันน็อคโดยที่ไม่รีรอให้คนตัวเล็กทักท้วงอะไรก่อน
“ไม่ต้องมารับ นี่ ฟังก่อนสิ
ไม่ใช่ธุระของนายสัก หน่อย...ไอบ้า”
คนตัวเล็กหันหลังกลับเดินเข้ามาในโรงพยาบาลเพื่อที่จะขึ้นไปบนห้องของคนป่วยที่หลับไปแล้ว
เดินเท้าไปพลางๆคิดอะไรไปเรื่อยกับเรื่องในวันนี้
จีฮุนกำลังไม่เข้าใจว่า ทำไมคนที่ชื่อซูนยองอะไรนั่น
ถึงต่างจากในวันนั้นที่เขาเจอครั้งแรก คนๆนั้นที่ท่าทางดูชอบหาเรื่องคนอื่น
กับคนที่เขาขอความช่วยเหลือวันนี้ มาคิดๆดูก็คงไม่มีอะไรเลวร้าวหรอก
แต่อีกใจหนึ่งก็นึกถึงแผลที่เด็กที่จีซูได้มา ก็ต้องกลับใจคิดอีกครั้ง วนไปวนมาอยู่ซ้ำๆ
“นายเป็นคนยังไงกันแน่ ซูนยอง”
.
.
.
ตอนนี้ก็เป็นเวลาเช้ามืดของอีกวันแล้ว จีฮุนลุกขึ้นตื่น ก็คุณพี่ชายดันปลุกเขาตื่นตั้งแต่กลางดึกเพราะเกิดอาการหิวน้ำ
เลยลุกขึ้นไปหยิบรินใส่แก้วให้แล้วรอให้เจ้าตัวนอนพักต่อแต่คนตัวเล็กตาสว่างสะแล้ว
เลยทำให้หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้นอนต่อที่โซฟาคนเยี่ยมไข้อีกเลย
คนตัวเล็กลุกขึ้นยืนแล้วหยิบกระเป๋าของตัวเองสะพายไว้
เดินไปดูความเรียบร้อยให้คนที่กำลังนอนคอแข็งอยู่บนเตียงบวกกับเสียงกรนเบาให้รู่ว่ากำลังหลับสนิท
จีฮุนเลยตัดสินใจที่จะไม่ปลุก
มือเล็กจัดการห่มผ้าให้อย่างเบามือและก้าวขาเดินออกมาจากห้องเงียบๆ
ขาป้อมเล็กเดินเรื่อยๆจนมาถึงหน้าโรงพยาบาล
ตากลมใสกำลังมองหารถแท็กซี่เพื่อที่จะไปทำงานถึงตอนนี้จะเร็วไปหน่อยก็เถอะ
แต่คนตัวเล็กยืนรอเท่าไหร่ก็ไม่มีมาสักคันเดียว จนกระทั่งเห็นรถมอเตอร์ไซต์คันใหญ่ขับมาจอดอยู่ตรงหน้าเขาพอดี
ก่อนที่เจ้าของรถจะถอดหมวกกันน็อคออกให้เห็นว่าเป็นใคร
“ไงคนเก่ง”
“ก็บอกว่าไม่ต้องมาไง”
“เอ้า ก็มาแล้วให้ทำไงอะ”
“และมันใช่เรื่องไหมละ”
“คนอุตส่ามา ยังจะมาว่าอีก
ใช่เรื่องไหมละ”
“อย่ามายอกย้อนนะ”
คนตัวโตกว่าทำขยับปากขมุบขมิบเลียบแบบคนขี้บ่นอยู่จนโดนฟาดเข้าไปหนึ่งที
ไม่ได้ให้เกียรติความโหดของอีกคนเลยแม้แต่น้อย
“จะขึ้นได้ยังครับ”
มือเล็กง้างขึ้นเตรียมฟาดคนตรงหน้าอีกทีให้กับความกวนประสาท
แต่ก็เก็บเอาไว้คราวหน้า เพราะยังคงต้องพึ่งคนตัวโตตรงหน้าก่อน เพราะดูแล้วไม่น่าจะมีแท็กซี่มาให้เขาเลย
ขาเล็กสั้นค่อนข้างก้าวขึ้นลำบากนิดหน่อย เพราะเหมือนรถจะยกล้อขึ้นสูงไปหน่อยหรือเปล่า
แต่ก็ปีป่ายขึ้นจนสำเร็จให้คนข้างหน้าได้นึกขำว่า
ทีเมื่อวานตอนร้องขอเขาให้มาส่งที่นี้ ทำไมขึ้นได้เร็วกว่านี้นะ
“ขึ้นบ่อยๆ เดี๋ยวก็คล่อง”
“ใครบอกว่าจะขึ้นอีก”
“ก็แค่อยากให้ขึ้นอะ มีอะไรไหม”
คนตัวเล็กทำทางฮึดฮัดเล็กน้อยและรีบเบี่ยงเรื่องให้คนข้างหน้าขับออกไปสักที
แต่ก็ต้องทำหน้างง
เพราะจู่ๆซูนยองก็ยื่นหมวกกันน็อคสีฟ้ามิ้นท์ของเจ้าตัวมาให้เขาใส่
“ไม่เอา ของนายก็ใส่ไว้สิ”
“ใส่ไปเหอะน่า”
จีฮุนหน้ามุ่ยแต่ก็ยอมใส่เพราะอีกคนไม่ยอมเอาคืนไป
แถมยังบิดคันเร่ง เร่งให้เขารีบใส่เร็วๆจะได้ออกรถสักที
รถมอเตอร์ไซต์คันใหญ่ขับออกมาเรื่อยๆ ตามถนนเส้นที่จะไปที่ร้านของคนที่ซ้อนอยู่ด้านหลัง
มือเล็กเปิดแผ่นพลาสติกกันลมของหมวกกันน็อคออก เพื่อรับลมเย็นๆของตอนเช้ามืด
ลมที่พัดผ่านจากเสื้อผ้าชุดนักเรียนของตัวคนข้างหน้ามา กลิ่นที่ปราศจากน้ำหอมแรงๆที่นักเรียนมัธยมหรืออื่นชอบใส่กัน
ซูนยองขับมาเรื่อยๆ จนถึงที่หน้าร้านพอดี
จัดการดับเครื่องแล้วจอดเอาไว้ที่ข้างๆร้าน
คนตัวเล็กลงจากรถแล้วถอดหมวกกันน็อคคืนให้อีกคนรับเอาไว้ แล้วเดินไปเปิดประตูร้าน
ให้อีกคนได้เดินตามมานั่งในร้าน
“เฮ้อออ”
“…”
“ว้าา อยากกินเครปกล้วยจังเลย เมื่อวานคนก็ใจร้ายไม่ให้กิน”
เสียงบ่นลอยของคนบางคนที่พยายามพูดให้เสียงดังพอที่จะให้คนตัวเล็กที่วุ่นอยู่แถวๆตู้แช่ขนมได้ยิน
จีฮุนก็ถอนหายใจออกมาเช่นกัน แต่ก็ตัดสินใจหยิบเครปกล้วยไซส์ใหญ่สุดใส่จานให้เด็กเอาแต่ใจที่มองตามการกระทำของเขาอยู่
พอจีฮุนเดินมาพร้อมกับถือมาให้ที่โต๊ะก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
แถมยังมีหน้าหันมาถามว่าของเขาหรออีกต่างหาก ประสาท
แล้วเมื่อกี้แมวที่ไหนพูดว่าอยากกิน
“งั้นไม่กินเนอะ”
“เอ้ย กินครับ กิน”
มือหนารีบขว้าแขนนิ่มเอาไว้แล้วหยิบจานขนมมาวางที่โต๊ะ
จัดการตักเนื้อเครปและกล้วยประกอบกับเนื้อครีมชิ้นใหญ่เข้าปาก เคี้ยวตุ้ยๆ
ทั้งยังมีวิจารย์อย่างกับรายการอาหารให้จีฮุนที่นั้งอยู่ตรงข้ามฟัง
โดยไม่ดูเลยว่ามีครีมสีขาวติดอยู่ที่มุมปาก
จีฮุนชี้บอกอีกคนว่า มีครีมเลอะอยู่
ซูนยองเลยพยายามเลียตามของปากของตัวเอง แต่เท่าไหร่ก็ไม่โดนสักที จีฮุนเลยตัดสินใจเอื้อมมือไปเกลี่ยมออกให้ที่มุมปากเบาๆ
โดยไม่ได้สนใจคนตัวโตกว่าที่ได้แต่นิ่งค้างไป ซูนยองรู้สึกหัวใจของตัวเองเต้นขึ้นมาเสียดื้อๆ
ใบหน้าเห่อร้อนดั่งสาวน้อยเจอรักแรกพบ
“นาย เป็นอะไรอะ”
บอกเขาไปได้ไหมครับ ว่าผมชอบเขา
……………………….(50%)……………………….
“พี่จินฮอนเข้าโรงบาลหรอ”
“แล้วเป็นไงบ้างอะ”
“ก็ไม่เป็นอะไร เดี๋ยวก็กลับบ้านได้แล้ว”
จีฮุนตอบกลับคำถามไปให้ทุกคนเข้าใจระหว่างที่แต่ละคนก็ได้พักกันช่วงสั้นๆของกลางวัน
จีฮุนคนตัวเล็กเล่าเรียงลำดับเหตุการณ์ให้เพื่อนอีกสามคนฟังเกี่ยวกับเรื่องพี่ชายเขาไปเรื่อยๆ
ประกอบกับเสียงเออ ออไปด้วย แถมบ่นเรื่องที่พี่ชายเขาเอาแต่งอแงจะเอาจะเอานั่น
กว่าจะจับคนป่วยเจ้าปัญหาให้นอนได้เล่นเขาเสียดึกดื่น
“อ้าว
แล้วอย่างนั้น เมื่อวานใครพาไปที่โรงบาลละ”
“อ๋อ ซูนยะ….”
“….”
จีฮุนหยุดชะงักคำพูดที่จะเรียกชื่อใครบางคนออกมาไว้กลางคัน
ก่อนจะมองไปที่สามหน่อที่เหลือที่ตั้งหน้าตั้งตาตั้งใจฟังคำตอบจากเขาเกินหน้าเกินตา
ในใจก็คิดว่าควรจะบอกดีไหม แต่ถ้าเกิดว่าเขาบอกไป คำตอบที่จะต้องตอบต่อไปนี้จะต้องยาวแน่ๆเพราะไม่มีทางที่เพื่อนเขาจะไม่ถามต่อว่าใคร
“อะอ๋อ โบกพี่วิน ใช่ๆพี่วินอะ”
อีกสามคนที่เหลือพยักหน้าเข้าใจอีกครั้งหนึ่ง
แต่ในใจกลับคิดเหมือนกันว่า แถวนี้มีวินมอเตอร์ไซต์ขับผ่านมาด้วยหรือไง
จนคนขี้สงสัยอย่างจองฮันถามต่อไปอีกให้หายข้องใจ
“แล้ววันนี้ล่ะ”
“ก็คงจะ…. ขอให้พี่วินคนเดิมพาไปละมั้ง”
.
.
.
ตอนกลางวันของวันหยุดอย่างวันเสาร์นี้
ซูนยองกำลังนั่งทำการบ้านอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือที่มุมห้องหลังจากที่ทำมาตั้งแต่ทานข้าวเช้าเสร็จจนกระทั่งตอนนี้ใกล้จะเที่ยงแล้ว
ซูนยองเลยตัดสินใจพักสายตาสักพักหนึ่งโดยการงีบกลับที่ตรงนั้นไม่ไปไหน
ในชีวิตประจำวันของเขาไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไรทุกวันอย่างที่หลายๆคนในโรงเรียนคิด
เพราะเพียงเห็นเขาแต่งตัวเป็นสายล่อฟ้าให้อาจารย์ได้เดินเข้ามาทักทายอยู่บ่อยๆ
การเรียนของเขาอยู่ในระดับกลางๆทั่วไป นิสัยก็ไม่ได้เป็นชอบหาเรื่องใคร
ถ้าไม่ได้มีใครมาทำเขาก่อน เรื่องชดต่อยก็มีมาบ้างก็เพราะมีอยู่สาเหตุเดียว เพราะเขาไม่ชอบอะไรที่ไม่ยุติธรรม
คนตาเรียวเอนศีรษะไปด้านหลังพิงไว้กับเก้าอี้ตัวนิ่มหน้าโต๊ะเขียนหนังสือ
หลับตาปิดแสงสว่างจากแสงแดดข้างนอกไม่ให้เล็ดรอดผ่านเปลือกตามาส่งผลต่อเขาได้
ในหัวพลางก็คิดอะไรทั่วๆไปเรื่อยเปื่อยเกี่ยวกับสิ่งที่เจอในแต่ละวันนั้น
ก็พลางนึกไปถึงเรื่องของคนตัวกลมที่ร้านที่ชื่อจีฮุนนั่นที่เขาไปแอบฟังระหว่างที่สองพี่น้องเขาคุยกันเงียบๆ
พอนึกถึงหน้าขาวยู่ยี่
จู่ๆมุมปากก็ยกขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ทั้งๆที่ไม่ได้มีเรื่องอะไรให้ได้กระชุ่มกระชวยใจเลยแม้แต่นิดเดียว
ครืดดด…
เสียงของระบบสั่นของโทรศัพท์มือถือกระทบกับพื้นโต๊ะดังขึ้น
ให้เขาต้องลืมตาตื่นขึ้นมาหยิบมือถือตัวเองดูว่าเป็นใครที่โทรมาหาเขาตอนนี้กัน เมื่อเห็นว่าเป็นรุ่นน้องคนสนิทที่โรงเรียนโทรมาก็กดรับไป
“โหล ว่าไง”
“ไอ้พี่ซูนๆๆ น้องได้ข้อมูลพี่คนนั้นมาแล้ว”
คนเป็นพี่ที่เมื่อพอได้ยินแบบนั้นจากอีกคนปลายสาย
ก็ถึงกับหูผึ่งขึ้นมาทันที รีบบอกเสียงตื่นเต้นไป
“ให้มันได้อย่างนี้สิวะ ไหนว่ามา”
“พี่เขาชื่อ อีจีฮุนเว้ย”
“….”
“….”
“ทำไมไม่พูดต่อวะ”
“ก็รู้มาเท่านี้อะ”
“ไอ้หอกหัก อันนั้นกูรู้แล้ว!!”
“เอ้าไอพี่ อุตส่าห์พลางตัวไปนั่งในร้านเขา รอจนตูดเหลว กว่าพวกพี่ๆคนอื่นจะเรียกชื่อพี่คนนั้น
นานชิบหายเลยนะ เสียค่าโกโก้ปั่น กับคาโบนาร่าไป จ่ายคืนน้องด้วย”
“อืมหื๊ม กูอยากจะ....เออๆ”
“เออ ไอพี่ ไปกินราเมงกันเย็นนี้”
“ไม่ว่างเว้ย แค่นี้”
“ไอพี่!!!!!”
.........
หลังจากวางสายไป
ซูนยองก็ได้แต่นั่งบ่นรุ่นน้องไม่หยุดว่า ไปแอบนั่งฟังเขาเสียตั้งนาน สรุปแล้วได้แค่ชื่อเขา
แถมยังมีหน้ามาขอค่าบุญคุณที่ตัวเองลักไก่เขากินอีก ถือว่าอีชานเป็นเด็กที่มีความตั้งใจแต่นิสัยไม่ดีคนหนึ่ง
นั่งบ่นๆไปก็ยิ้มขำไปกับเด็กคนนี้ อีชานเป็นรุ่นน้องที่เขารู้จักนานที่สุด แล้วอยู่ทนที่สุด
ตอนนี้ก็อยู่กับเขาก็บ่อยขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วย
ตอนหลังจากที่แม่กับพ่อเขาไปอยู่ที่ๆใกล้กับโรงงานใหญ่ของครอบครัว
เพราะบ้านของเขาเปิดโรงงานส่งออกผลิตภัณฑ์เย็น และว่ามีหลายสาขาและยากที่จะควบคุม
พ่อแม่เขาก็ต้องไปควบคุมการททำงานด้วยตัวเองอยู่บ่อย แต่เขาชีวิตของเขา
ไม่ใช่เด็กที่ขาดความอบอุ่นจากพ่อแม่แน่นอน เพราะพ่อแม่ของเขาก็ติดต่อและแวะเวียนมาหาเกือบทุกสองเดือน
บางทีก็บ่อยกว่านั้นบ้าง
ครืดดด…
จู่ๆโทรศัพท์มือถือก็สั่นขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่วางสายจากอีชานไปไม่นาน
ปรากฏว่าเป็นแม่ของเขาที่เพิ่งนึกถึงไม่นาน ให้ซูนยองได้กดรับสายอย่างไม่รีรออะไร
“ทำอะไรอยู่หื๊ม”
“เขากำลังนั่งคิดถึงหม่ามี๊อยู่”
“ไม่ต้องเลย ครูฝ่ายปกครองชอบโทรมาฟ้องแม่ว่าหนูไม่ชอบแต่งตัวให้ถูกระเบียบ”
“เปล่านะ ก็เวลาเอาเสื้อเข้ากางเกง มันทำให้ดูตูดใหญ่นี่ครับ”
“อะไรมันจะห่วงหล่อขนาดนั้น เอาล่ะๆ แล้วน้องละ ดูแลน้องดีหรือเปล่า”
กึก….
ซูนยองชะงักคำพูดเหมือนไม่รู่จะตอบอะไรแม่เขาไปครู่หนึ่ง
เมื่อจู่ๆแม่ก็พูดถึงลูกของเพื่อนพ่อเขา หรือน้องสาวที่อยู่ห้องข้างๆขึ้นมา
ทำให้เขาต้องหวนกลับไปคิดเรื่องที่ต้องสะสางที่ลืมไปเสียสนิท
“อ๋อ ยัยชิลินหรอฮะ สบายมาก ไม่ต้องห่วงครับ”
“แม่ไว้ใจเราได้ใช่ไหม”
“ได้แน่นนอนครับ น้องทั้งคน จะไม่ทำให้น้องเป็นอะไรเลย”
……………………….(100%)……………………….
ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ
#always17chummy
ความคิดเห็น