คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : |; chapter 4
HEARTLESSII
หากจะเกิดมาไร้หัวใจ *
Leading Couple.. Kibum x Donghae
Written By.. PRETTY.KKZ
14/01/2553 08.41 PM.
Part 4
.
.
.
.
แสงสีส้มประกายรอบวงกลมดวงใหญ่สีแดงจัด
ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นเหนือผืนน้ำอีกครั้งทางทิศตะวันออก
ทงเฮที่กำลังวุ่นอยู่ในครัวถูกวานให้ขึ้นไปรับใช้คุณชายตัวดีเช่นเคย
ร่างบางหยิบผ้าขนหนูและเสื้อผ้าชุดใหม่ใส่ตะกร้าเล็กๆเอาไว้
เมื่อจะเดินขึ้นไปชั้นบนก็ฉุกนึกขึ้นได้ว่าคงต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและผ้าห่มอีกครั้งเป็นแน่
เสียงฝีเท้าเบาก้าวขึ้นชั้นสองตามมารยาท
หยุดยืนอยู่บริเวณหน้าห้องสักพัก ก่อนที่จะเอื้อมไปเคาะประตูห้อง
รออยู่นานสองนานก็ไม่มีวี่แววว่าจะออกมาเปิดให้เลยสักที
ถ้าหากจะเปิดเข้าไปด้วยตัวเองเหมือนครั้งที่แล้วก็เกรงว่าคุณชายจะโกรธเอาได้
Knock! Knock!
“คนที่อยู่ข้างในเปิดประตูให้หน่อยฮะ”
เสียงหวานตะโกนเข้าไปภายในห้องที่เกือบจะเงียบสนิท
หากแต่ยังคงมีเสียงครางของหญิงสาวดังออกมาเป็นระยะ ๆ
ทงเฮถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเอื้อมมือไปเคาะประตูอีกครั้ง
Knock! Kn...
“ฉันรู้แล้ว”
ผู้หญิงคนเดิมเปิดประตูห้องออกมาแทบจะในทันที
หนุ่มร่างบอบบางหรี่ตาสำรวจร่างกายหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้ง
ชุดเมดที่ถูกสวมใส่อย่างลวกๆไม่เป็นระเบียบกับผมเผ้ายุ่งเหยิง
ทำให้ทงเฮพอจะเดาออกได้ว่า เหตุผลอะไรที่ทำให้ประตูห้องถูกเปิดออกมาช้าขนาดนี้
“ทีหลังถ้ารู้ว่าตอนเช้าจะทำอะไรก็ตื่นให้มันเร็วๆหน่อยแล้วกันนะ ในครัวเขาขาดแม่บ้าน เธอเองก็รู้”
“อ่อใช่...ฉันลืมไป เธอมันมีหน้าที่แค่อารักขาทายาทของตระกูลเท่านั้นสินะ ...พวกไร้ความสามารถ”
ซันนี่เหยียดยิ้มอย่างสมเพช
จิกสายตามองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า
ร่างบางแค่นหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนที่จะแสยะยิ้มมุมปากเย้ยบ้าง
“ใช่...ฉันมันมีความสามารถแค่นี้แหละ ใครเขาจะไปเก่งเหมือนเธอล่ะซันนี่?
นอกจากจะมีหน้าที่ดูแลบ้านช่องห้องหับแล้ว เธอยังเก่งในเรื่องยั่วยวนเสียด้วยนะ
ไงล่ะ...ลีลาของคุณชายเขาสนองได้ถึงใจเธอหรือเปล่า?”
“เธอกำลังพูดถึงเรื่องของฉันอยู่นะ อี ทงเฮ”
เสียงขรึมเข้มทำเอาร่างบางใจกระตุกวูบ
สาวร่างระหงเดินก้มหน้าก้มตากลับไปทำหน้าที่ของตนเองต่อตามประสา
ไม่ลืมที่จะเหยียดยิ้มเยาะหนุ่มร่างเล็กที่กำลังถูกคุณชายตำหนิในขณะนี้
ทงเฮกำมือไว้แน่น ฝากไว้ก่อนเถอะซันนี่!
“สวัสดีตอนเช้าฮะคุณชาย”
ร่างบางก้าวเข้าไปในห้องนอนกว้าง
จัดแจงเปิดม่านให้แสงลอดผ่านบานหน้าต่างเข้ามายังห้องสีทึบ
คราบน้ำสีขาวขุ่นแห้งเกรอะกรังไปบนผ้าคลุมเตียงกว้าง
หนำซ้ำยังจะมีที่พื้นและผ้าห่มอีกต่างหาก
ถึงแม้ทงเฮจะรู้แก่ใจว่าคุณชายร้ายกาจในเรื่องเซ็กส์สักเพียงไหน
แต่ตัวเขาก็นึกไม่ถึงเลยว่า.. จะร้ายกาจได้ถึงขนาดนี้
ร่างบางลอบถอนหายใจอยู่นาน
ก่อนที่จะก้มลงเช็ดคราบที่น่ารังเกียจนั่น
คิบอมนั่งลงบนโซฟาริมหน้าต่างตัวเดิม
รินน้ำสีอำพันใส่ในแก้วทรงสูงตามเคย
“ดื่มแต่เช้ามันไม่ดีนะฮะคุณชาย”
“เธอมีสิทธิ์สั่งฉันได้ด้วยหรอ?”
ร่างสูงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบ
ถ้าหากเป็นบุคคลอื่นที่ได้ยินคงจะคิดว่าเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว
ใครๆก็รู้ว่า คุณชายคิบอม นั้นเย็นชาแค่ไหน..
เว้นเสียแต่ทงเฮที่ไม่เคยเห็นในด้านนี้ของคุณชายเลยสักนิด
เพราะหากเมื่อไรที่คุณชายยอมพูดดีด้วย..
นั้นก็หมายความว่า คุณชายกำลังหวังผลเพื่อกอบโกยความหอมหวานบนเรือนร่างของคนนั้น
“ทงเฮเตือนเอาไว้ก็แค่นั้นแหละฮะ ทงเฮแค่ไม่อยากดูแลคนป่วยเพิ่มอีกคน”
“แต่ถ้าฉันป่วยเธอก็ต้องดูแล โดยไม่มีข้อโต้แย้ง”
ใบหน้าสวยเงยหน้าขึ้นเหยียดมองคนตัวใหญ่กว่าอย่างไม่สบอารมณ์
คุณชายคิบอมกลายเป็นแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไรกัน..
แววตาที่ทำให้คนอย่างทงเฮเก็บเอาไปเพ้อฝัน มันหายไปไหนแล้วล่ะ?
ณ เวลานี้ ทงเฮพบเจอแต่คุณชายคิบอม...ที่มีแววตาเรียบเฉย น่ายำเกรงคนนี้เท่านั้น
“แล้วทงเฮเคยโต้แย้งความต้องการของคุณชายด้วยหรอฮะ?”
คนตัวเล็กสะบัดผ้าห่มที่ยับยู่ยี่ แล้วนำใส่ตระกร้า
จัดแจงเปลี่ยนผ้าปูที่นอนผืนใหม่ให้เช่นเดิมกับทุกๆวัน
เรียวปากเล็กขบกันแน่นเมื่ออีกฝ่ายกลับไม่โต้เถียงหรือตำหนิเขาอย่างเคย
หรือเพราะคุณชายคิบอมไม่สนใจ อี ทงเฮอีกแล้ว ?
หากจะเป็นอย่างนั้น...แล้วเหตุผลไหนเล่าทำให้ทงเฮต้องใส่ใจ ?
ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย..
“คุณหมอซีวอนจะมาที่นี่ตามนัดของคุณหนูเช้านี้ พร้อมกับคุณฮันคยองด้วย
ยังไงก็ตาม คุณชายก็อย่าลงจากห้องสายแล้วกันนะฮะ”
“ใครกันที่ชื่อ ฮันคยอง?”
“จิตแพทย์ฮะ ...เขาเป็นเพื่อนของเจ้านาย”
ใบหน้าหล่อจัดพยักหน้าให้เบาๆ
นัยน์ตาสีดำสนิททอดมองออกไปนอกหน้าต่าง
ผืนทะเลสาปที่เคลื่อนไหวสะท้อนให้เห็นผ่านแววตาเรียบเฉยนั้น
คุณชายคิบอมไม่ไถ่ถามหรือขอความช่วยเหลืออะไรกับทงเฮเลยสักคำ..
ร่างบางก้มหน้านิ่งรอให้อีกฝ่ายเรียกใช้งานเหมือนอย่างที่ผ่านมา
หากจะสบหน้าสบตามองคุณชายให้ลึกซึ้งถึงความคิดมันคงจะยากเย็น
เพราะแท้จริงแล้ว ตั้งแต่แรกพบ...ทงเฮไม่สามารถจะเดาใจของคุณชายออกได้เลยสักที
“ไปได้แล้ว ฉันไม่ชอบให้คนอื่นมานั่งอยู่ในสถานที่ส่วนตัว”
ใบหน้าสวยพยักหน้าแล้วเดินออกไปอย่างเชื่องช้า
คนอื่นงั้นหรือ?
ก็ใช่ไง...ทงเฮเป็นแค่คนอื่นของคุณชายคิบอมเท่านั้น
แล้วทงเฮจะใส่ใจคุณชายไปทำไมกัน ? ทงเฮเป็นแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไร ?
--------------------------------------------------------------------------
ร่างของคนสองคนนั่งคอยอยู่ที่ห้องรับแขก
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่จ้องมองอีกฝ่ายไม่ให้คาดสายตา
ผู้ชายคนนี้ช่างแปลกนัก... หากจะมองให้หล่อเหลาก็คงจะดูดีราวกับเทพบุตร
แต่หากจะมองให้สวยหมดจดก็ดูงดงามอย่างไร้ที่ติใดๆ
แล้วเป็นเช่นนี้... ซีวอนควรปฏิบัติตัวอย่างไรกับผู้ชายคนนี้ดี ?
จะให้สุภาพอ่อนโยนเช่นเดียวกับที่ปฏิบัติกับคุณหนูซองมิน
หรือจะให้ความไว้วางใจ น่าเชื่อถือได้อย่างที่ให้กับคุณชายคิบอม ?
“มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
ร่างโปร่งพูดด้วยน้ำเสียงและสำเนียงที่ฟังดูลื่นหู
ใบหน้าคมคายยกยิ้มโชว์รอยบุ๋มทั้งสองข้างแก้มให้พลางส่ายหัวไปมา
ฮันคยองเลิกคิ้วขึ้นสูง มองอีกฝ่ายอย่างสงสัย
แต่ดูเหมือนข้อสงสัยนั้น จะไม่ได้รับคำตอบให้กระจ่างเลยสักนิด
“คุณหนูก็แบบนี้แหละครับ เธอชอบให้รอนาน...เพราะกว่าจะเสร็จทีละอย่าง
ก็นานอยู่พอตัว แต่ดูเหมือนว่าเขาก็เป็นแบบนี้กันทั้งบ้านแหละครับ”
“อันนี้ผมทราบดีอยู่แล้วครับ”
แววตาและท่าทางเย่อหยิ่งกลับติดเป็นนิสัยของฮันคยองไปเสียแล้ว
จิตแพทย์ที่มีดีกรีจบจากเมืองนอกเมืองนาก็ตั้งท่าให้ดูน่าเกรงขามเป็นธรรมดา
นิสัยเสียแบบนี้แก้เท่าไรก็ไม่หายสักที..
แต่หากฮันคยองได้สนิทสนมกับใครเข้าจริงๆ ก็เป็นคนที่มีอารมณ์ขันอยู่ไม่น้อย
“ขอโทษนะครับ คุณซีวอน...ผมขอดูสมุดบันทึกอาการของซองมินหน่อยครับ”
มือใหญ่ควานเข้าไปในกระเป๋าสีดำ
หาหยิบมันได้อย่างง่ายดายเนื่องจากการจัดเก็บมันไว้อย่างมีระเบียบของเจ้าของ
ซีวอนส่งสมุดบันทึกปกสีชมพูสดใสให้อีกฝ่ายอย่างใจเย็น
ร่างโปร่งมองมันอย่างงงๆ หนังสือผู้ป่วยรายไหนกันที่เป็นสีชมพูลายกระต่ายเช่นนี้ ?
“คุณหนูเธอชอบสีชมพูน่ะครับ...ผมเลยเลือกเล่มนี้มาบันทึกอาการของคุณหนู”
“แต่นี่มันสำหรับเด็ก?”
“คุณหนูซองมินก็ยังไม่แก่นี่ครับ”
คำตอบของผู้เชี่ยวชาญทางโรคประสาททำเอาจิตแพทย์คนเก่งถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆ
คุณหนูซองมินที่ว่านั้น.. ยังเป็นเด็กไร้เดียงสากันหรืออย่างไร?
ฮันคยองวาดภาพเด็กผู้ชายตัวเล็กๆกอดตุ๊กตากระต่ายสีชมพูไว้ในสมอง
ก็แค่เด็กธรรมดาๆ น่ารักๆ คนหนึ่ง การสอนให้เข้าใจตัวเอง...มันจะไปยากอะไรกันเล่า?
“คุณซีวอน...”
“ครับ?”
เส้นคิ้วสีดำเข้มเลิกขึ้นสูงพลางมองไปยังนิ้วมือเรียวที่ชี้เข้าไปในกระดาษแผ่นหนึ่งในสมุด
ลายมือหวัดๆแต่ก็ดูเป็นระเบียบของเขาเอง บันทึกไว้ว่าอย่างไรนั้น เขาเองก็จำไม่ได้
แต่ดูเหมือนมันจะทำให้บุคคลตรงหน้าตระหนกไม่น้อย
“คุณหนูเธอมีความเชื่อเรื่องพวกนี้ด้วยหรือครับ?”
--------------------------------------------------------------------------
ร่างโปร่งก้าวเข้ามาภายในห้องนอนที่ล้วนเป็นสีชมพู
การตกแต่งประดับประดาต่างๆยิ่งทำให้ดูเหมือนว่าเจ้าของห้องนั้นเป็นเด็กกระเตาะมากเท่านั้น
ใครบางคนที่ยังคงนั่งอยู่ตรงที่เดิม...นั่งหันหน้าออกไปด้านนอกระเบียง
แท้จริงแล้วคุณหนูซองมินไม่ใช่เด็กไร้เดียงสาอย่างที่เขาคิดเอาไว้
แสงแดดกระทบให้เห็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของใบหน้า
ชายหนุ่มตัวเล็กที่มีใบหน้าหวานจัดราวกับผู้หญิงอย่างไรอย่างนั้น
ดวงตากลมโตรับกับจมูกเรียวเล็กและริมฝีบางปากสีชมพูอ่อนได้ดี
หากแต่แววตานั้นเต็มไปด้วยความโศกเศร้า...ดูเหมือนมีบางเรื่องที่ยังคงค้างคาอยู่ลึกๆในใจ
ด้วยความเป็นจิตแพทย์ที่นับได้เลยว่าน้อยคนนักจะเก่งเทียบเท่าอย่างฮันคยองนั้น..
แค่มองดูเพียงเท่านี้ก็ดูออกถึงปมลึกๆในใจได้ดี
“สวัสดีตอนเช้าครับ”
ร่างเล็กหันมาทางหนุ่มร่างโปร่งช้าๆ
ในแววตาหวานปรากฏให้เห็นรูปชายหนุ่มสวมเชิร์ทสีฟ้าอ่อนท่าทางมีภูมิและดูเป็นผู้ใหญ่ไม่น้อย
ความคิดของซองมินขณะนี้ ก็คิดไม่ได้แตกต่างอะไรกับซีวอนสักนิด..
หากจะมองให้ฮันคยองนั้นเป็นหนุ่มรูปงามก็คงจะดูดีราวกับเทพบุตร
แต่หากจะมองให้สวยงามก็คงดูดีและโดดเด่นกว่าใครๆได้ไม่ยาก
ผู้ชายคนนี้ช่างแปลกนัก..
“สวัสดีฮะคุณฮันคยอง”
แม้ริมฝีปากเล็กนั้นจะกระตุกยิ้มขึ้นมาพอให้ใบหน้าดูสดใส
แต่ถึงอย่างไรในดวงตาคู่สวยก็ยังมองเห็นภาพของความเจ็บปวดไม่ลดละไปอยู่ดี
ฮันคยองวางกระเป๋าลงบนเตียงหนา
ก่อนที่จะเดินตรงรี่ไปยังที่ที่คุณหนูซองมินนั่งอยู่ในขณะนี้
“เรามาคุยกันสักหน่อยดีกว่ามั้ย”
“ฮะ...”
พยักหน้ารับพร้อมกับคำตอบเพียงสั้นๆ
ซองมินหันหน้าเข้าหาคุณหมอคนใหม่อย่างไม่ได้นึกเกรงกลัวคนแปลกหน้าแต่อย่างใด
“ลองหลับตาลง แล้วผ่อนใจให้สบายซิ”
เปลือกตาสวยปิดลงอย่างแผ่วเบา
โซฟาที่ซองมินนั่งนั้นถูกปรับให้เอนลงเพื่อที่จะนั่งกึ่งนอนได้สบาย
มือนุ่มบรรจงวางแผ่นผ้าอุ่นจนเกือบร้อนเช็ดไปทั่วใบหน้าของคนตัวเล็กเพื่อให้ผ่อนคลาย
“ตอนนี้คุณหนูมองเห็นภาพใครบ้าง ลองบอกออกมาได้ไหม?”
“.....”
จะให้เขาตอบจริงๆน่ะหรือ?
คนที่เขามองเห็นในขณะนี้ไม่ใช่เพียงหลับตาเท่านั้น
แม้จะลืมตาแล้วทอดมองไปในที่แห่งไหนก็พบใบหน้าของใครคนเดิม..
ต่อให้หลับตาเพื่อลบลืมทุกสิ่งภาพของเขาก็ยังคงผ่านเข้ามาในสมอง
ล้มตัวลงนอนเพื่อหยุดความคิดบ้าๆ ก็ยังมีเขาอยู่ในความฝันตลอดมา..
แต่มันก็แค่ฝัน...มีเพียงความจริงในชีวิตเท่านั้นที่เขาไม่เคยพบเห็นใครคนนี้เลยสักครั้ง
“ตอบมาเถอะ มันไม่เป็นไรหรอก”
“...โจ คยูฮยอน
”
เพียงแค่พูดออกมาน้ำตามันก็พานจะไหลเอาเสียง่ายๆ
ทำไมนะ..ทำไมเขาจึงคิดถึงคนที่ไม่เคยมีเขาในความคิดเลยแม้แต่นิด
แต่หากในเวลานี้ยังคงอยู่ต่อหน้าคนอื่น ก็คงต้องกักเก็บน้ำตาเอาไว้
ไม่ต้องการให้ใครมาเห็นทั้งนั้น..
“ยาที่คุณหมอชเวให้ไปทั้งหมด คุณทานมันทั้งหมดหรือเปล่า?”
“.....”
มีเพียงความเงียบงันเป็นผลลัพธ์ของคำถาม
ไม่ว่าจะรับหรือไม่รับยามันจะมีประโยชน์อะไรกันเล่า?
ถ้าหากหายขาดจากอาการเหล่านี้ก็จะเกิดพิธีที่เจ้าบ่าวไม่เคยเต็มใจ
ซองมินยอม..
ยอมทนทุกข์ทรมานไปตลอดกาลถ้าหากคยูฮยอนสบายใจ
ร่างเล็กลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าตนเองในอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา
ท้องฟ้าเบื้องบนเปลี่ยนเป็นสีส้มเมื่อดวงตะวันดวงใหญ่คล้อยใกล้จะตกดิน
ร่างของใครบางคนที่เดินวนเวียนไปมารอบๆเตียงแค่เพียงได้กลิ่นตัว...ซองมินก็รู้ดี
ใบหน้าคมคายหันมาช้าๆ ยกยิ้มให้เล็กน้อยหากแต่แววตานั้นกลับเรียบเฉย
คุณชายคยูฮยอนไม่เคยคิดอะไรกับซองมินมากกว่าเพื่อนที่แสนดี..
ไม่เคยเลยสักนิด..
ความจริงในหัวใจของซองมินไม่ควรพูดบอกออกไปเสียจริงๆ
เกลียดตัวเองเหลือเกิน เกลียดที่ยังฝังใจว่ารักคยูฮยอนได้มากมายขนาดนี้
--------------------------------------------------------------------------
ทงเฮก้าวเข้ามาภายในห้องสี่เหลี่ยมกว้างชั้นบนพร้อมกับถาดน้ำเย็นและอาหารว่าง
ร่างสูงที่กำลังตั้งใจทำอะไรบางอย่างกลับต้องหยุดชะงักเมื่อมีคนอื่นเข้ามาขัดจังหวะ
ใบหน้าสวยหลุบลงต่ำเพราะไม่อาจหาญสู้กับนัยน์ตาสีดำสนิทนั้นได้เลยแม้แต่น้อย
คิม คิบอมเพียงมองตรง ตีสีหน้าได้นิ่งสนิทราวกับรูปปั้นหินแกะสลัก
แต่ถึงจะอย่างนั้น ทงเฮก็ยังไม่ออกไปในห้องนั้นเสียง่ายๆ
เพราะทงเฮอยากอยู่ใกล้ๆคุณชายโดยไม่มีเหตุผล..
“คุณชายปวดเมื่อยหรือเปล่าฮะ?”
เสียงหวานพูดออกมาเบาๆเพื่อกลบบรรยากาศที่เงียบสงัด
หนุ่มหน้าตายยังคงตีสีหน้านิ่งเฉยและส่ายหัวไปมาช้าๆ
ร่างสูงถอนหายใจยาวก่อนที่จะปิดสมุดสีดำเล่มหน้าลงอย่างเนือยๆ
“ถ้าฉันปวดเมื่อยล่ะก็... ฉันก็จะตามซันนี่มานวดให้เอง”
เป็นเพียงคำพูดธรรมดาๆที่ผู้พูดไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายจิตใจใคร
แต่แค่เพียงประโยคเดียวเท่านั้นกลับเสมือนมีดสักพันเล่มกรีดลงในหัวใจคนต้อยต่ำอย่างทงเฮ
ตั้งแต่เล็กจนโตที่รู้จักซันนี่มา ไม่มีอะไรที่ทงเฮจะแพ้ซันนี่เลยสักเรื่อง
แต่เพราะคุณชายคิบอมเท่านั้น.. ทงเฮกลับนึกริษยาซันนี่ขึ้นมาถนัดใจ
“ทำไมต้องเป็นซันนี่ด้วยล่ะฮะ?”
น้ำเสียงหวานกลับสั่นเครือเมื่อพูดออกมาด้วยควาน้อยเนื้อต่ำใจ
อี ทงเฮไม่มีเหตุผลเลยจริงๆที่ต้องเป็นเช่นนี้
ทำไมทงเฮจึงอยากอยู่ใกล้ๆ อยากไขว่คว้าคุณชายได้เหมือนกับซันนี่
เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว..
อี ทงเฮ กำลังตกหลุมรัก คุณชาย คิม คิบอมอยู่หรือเปล่า ?
“มันเป็นเรื่องของฉัน”
คิบอมตอบออกไปเสียงเรียบ
ความเฉยชากลับมาเกาะกินหัวใจของทายาทคนสุดท้องไปเช่นในอดีต
ใครๆก็รู้ดีว่าคุณชายคิบอมไม่มีหัวใจ..
เว้นเสียแต่ทงเฮ...ทงเฮยังรู้จักคุณชายได้ไม่ดีพอ
แต่กลับมอบความรู้สึกดีๆให้กับคุณชายเสียจนถอนตัวไม่ขึ้น
ทงเฮผิดเอง...ผิดที่หูเบา ใจง่าย
ทงเฮผิดเองที่หลงใหลในแววตาหวานซึ้งซึ่งจอมปลอมต่อความรู้สึกนั่น!
“จะนั่งตรงนี้อีกนานไหม?”
“ทงเฮจะดูแลคุณชายนี่ฮะ”
“แต่ฉันไม่ได้ต้องการตอนนี้...เธอเองก็ไม่มีสิทธิ์โต้แย้ง”
ร่างสูงเน้นเสียงหนักขึ้นด้วยอารมณ์โทสะ
ดวงตาคู่สวยกลับมาน้ำตารื้นขึ้นมาอย่างมีสาเหตุ
คนต่ำต้อยอย่าง อี ทงเฮ จะมีสิทธิ์โต้แย้งอะไรกับคุณชายได้
อารมณ์ของคุณชายแปรปรวนเสียจนทงเฮตั้งตัวรับไม่ทัน..
เมื่อวันก่อนคุณชายกลับเล่นท่าทางหลงใหลในตัวของเขา
แต่วันนี้กลับมาเย็นชาพร้อมทั้งผลักไส
แท้จริงในใจของคุณชายคิดอะไร? คุณชายคิบอมต้องการอะไรกันแน่?
ได้โปรดเถอะ...
จะทำอะไรก็ได้ตามแต่ใจของคุณชาย
แต่อย่าทำให้ทงเฮรักเลยได้ไหม? ขอแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
“คุณชายพูดเหมือนว่าทงเฮเคยโต้แย้งคุณชายอย่างนั้นแหละฮะ คุณชายรู้ไหมว่าทงเฮ....”
“ออกไปซะ ฉันรำคาญ”
------------------------------------------------------------------
TO BE CONTINUE ON PART 5
THANKS FOR COMMENT
THANKS FOR ATTENTION
>>>
ความคิดเห็น