คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : แค่หลับตา
ข้าวของที่กองอยู่พะรุงพะรังเต็มห้อง ทำเอาสนปวดหัวไม่น้อย ชายหนุ่มหันซ้ายทีขวาทีเพื่อหาพื้นที่ขยับตัว ตอนนี้เขาถูกล้อมกรอบด้วยกองหนังสือสูงท่วมศีรษะ กล่องใส่เสื้อผ้า ซีดีเพลง และสิ่งของต่าง ๆ อีกมากมายจิปาถะที่หากไม่วางตั้งให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเขาคงได้กลายเป็นศพเพราะถูกเจ้าพวกนี้หล่นทับแน่ ๆ
เขาถอนหายใจยาวหลังจากแทรกตัวออกมาได้อย่างยากลำบาก สนหยิบหนังสือไปโยนไว้บนเตียงนอน และก้มเก็บซีดีที่หล่นกระจายเกลื่อนพื้นอย่างลวก ๆ เพื่อเปิดทางเดินไปยังลิ้นชักที่อยู่มุมห้อง
ลิ้นชักไม้สักสีน้ำตาลเข้มอย่างดี มันเป็นของล้ำค่าชิ้นหนึ่งของเขาที่ได้เป็นของขวัญจากพ่อ ในวันที่ท่านได้ทราบข่าวว่าเขาผ่านการสัมภาษณ์งานในบริษัทชื่อดัง เขาตบมันเบา ๆ อย่างภาคภูมิใจ ก่อนจะเปิดลิ้นชักชั้นแรก....
ไม่มีอะไรมากนัก สิ่งที่อยู่ภายในล้วนเป็นของใช้ส่วนตัวที่เขาหมก ๆ ไว้นานแล้ว กระเป๋าสตางค์ที่ขาดยุ่ย โทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าที่เขากะจะเก็บมันไว้เป็นเครื่องสำรองยามที่เจ้าไอโฟนแพงระยับตัวดีของเขาเกิดงอแงขึ้นมา แต่มันก็ยังทำหน้าที่ได้ตามปกติจึงไม่ได้ใช้สักที รวมไปถึงพวกโปสการ์ด นามบัตรต่าง ๆ บัตรเอทีเอ็มเก่า ๆ ที่ปิดบัญชีไปนานแล้ว ฯลฯ
สนกำลังจะปิดลิ้นชักหลังจากเลือกของที่ไม่ต้องการออกมาทิ้งในถังขยะ แต่พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นของสิ่งหนึ่งที่นอนสงบนิ่งอยู่ก้นลิ้นชัก...
รูปเขากับเธอ....
ชายหนุ่มเปิดถังขยะ แต่แล้วก็ชะงักมือ
น้ำตาไหลออกมาเอง....โดยที่เขาไม่รู้ตัว
..............................................................................................
เมย์เป็นสาวสวยน่ารักที่หนุ่ม ๆ หลายคนพากันหมายปอง ไม่เว้นแม้แต่ตัวเขาเองที่ตอนนั้นยังเป็นเด็กมัธยมปลายกางเกงขาสั้น ร่างกร๋องแกร๋งเหมือนเด็กขาดสารอาหาร สิ่งเดียวที่เขาทำได้ดีคือการเล่นฟุตบอลซึ่งดูเหมือนจะสวนทางกับผลการเรียน
แล้วใครจะไปนึก ว่าเขาจะได้มีโอกาสใกล้ชิดสนิทสนมกับดอกฟ้าอย่างเมย์...
ความสัมพันธ์ของเขาและเธอดำเนินไปอย่างไม่ราบรื่นนัก บ่อยครั้งที่ทะเลาะกัน และตามธรรมดาของโลกที่เขาจะต้องเป็นฝ่ายง้อเธอ สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง สถิติของการงอนนานที่สุดของเมย์ที่เคยเกิดขึ้น คือเธอไม่พูดกับเขาร่วมเดือน เจอหน้ากันก็ทักทายกันอย่างแกน ๆ
จนในวันปัจฉิมนิเทศ.....
“สน เมย์มีเรื่องจะคุยกับสน”
เมย์เริ่มการสนทนา พวกเขานั่งทานอาหารอยู่ในร้านฟาสต์ฟู้ดแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้า หลังจากเสร็จพิธีการในตอนเย็น
“มีอะไรหรอ”
ชายหนุ่มยังไม่เอะใจอะไร เขาตักข้าวเข้าปากอย่างหิวโหยเนื่องจากยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่ตอนเริ่มพิธีประมาณสิบโมงครึ่ง
“เมย์ว่า เราถอยกลับไปเป็นเพื่อนกันดีกว่าไหม”
สนชะงัก เขาแทบสำลักข้าว
“อะ....อะไรนะเมย์?”
“เมย์คิดว่าเราสองคนคงเข้ากันไม่ได้....คือเมย์หมายถึง อะไรหลายๆ อย่างน่ะ เราทะเลาะกันบ่อยมากเลย ใช่ไหม?” หญิงสาวพยายามอธิบายขยายความคำพูดของตัวเองอย่างยากลำบาก
“ไม่จริงใช่ไหมเมย์ สนรักเมย์นะ” เขารีบกุมมือของเธอไว้ “สนอยากจะอยู่กับเมย์ต่อไป เพราะ...เพราะเมย์คือรักแรกของสน ให้โอกาสสนเถอะนะ”
เมย์ปล่อยมือเขา
“ขอบคุณค่ะ สำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง” หญิงสาวพูดพร้อมน้ำตาที่เริ่มหลั่งมาที่ขอบตา “และขอโทษด้วย ที่ทำให้สนไม่สบายใจในหลาย ๆ เรื่อง เมย์ขอเพียงอย่างเดียว ขอให้เรากลับไปเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่อาจจะไม่ใช่ตอนนี้....ขอโทษจริง ๆ นะ”
เธอลุกออกจากร้านไป...
ชายหนุ่มตกอยู่ในอาการพูดไม่ออก ความรู้สึกของเขาตอนนี้ราวกับโลกทั้งโลกพังภินท์ลงตรงหน้า โดยไม่ต้องรอให้ถึงปี 2012 แต่อย่างใด.....
น้ำตาลูกผู้ชายมันไหลออกมาได้อย่างไร...
ตัวเขาเองก็ตอบไม่ได้ และคิดว่าตัวเองคงไม่พร้อมรับคำตอบหรือเหตุผลใด ๆ
................................................................................................
กลับมา ณ เวลาปัจจุบัน สนยังคงนั่งมองรูปใบนั้นอย่างเลื่อนลอย
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาสะดุ้งเล็กน้อย ยกมือขึ้นปาดน้ำตา ก่อนจะค่อย ๆ ลุกไปรับสายอย่างหมดเรี่ยวแรง
“ฮัลโหล....”
มีเสียงกุกกักดังจากปลายสาย ชายหนุ่มชักฉิว อะไรวะ....เพิ่งเศร้าไปหยก ๆ ยังมีคนโทรมาแกล้งอีกหรือไง
“ฮัลโหล ใครวะ” เขากรอกเสียงลงไปอีกครั้ง
“ฮัลโหล....ใช่สนหรือเปล่า” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งตอบกลับมา
“ใช่ นั่นใครพูดครับ” สนเบาเสียงลงเมื่อรู้ว่าคู่สนทนาเป็นผู้หญิง
“เมย์เอง....”
เมย์เอง
สนอึ้งไปครู่หนึ่ง แต่มันก็นานพอจะให้อีกฝ่ายถาม
“สน เป็นอะไร เราเมย์ไง เพื่อนสนตอน ม.ปลายน่ะ จำไม่ได้หรอ?”
“อะ อ๋อ....จำได้ ๆ ว่าแต่ เมย์ ได้เบอร์เราจากไหนอะ”
“อ๋อ พอดีขอจากอีตาชัยมา เจอกันในงานเลี้ยงรุ่นน่ะ...สนไม่ได้ไปนี่วันนั้น” หญิงสาวเริ่มเข้าสู่หัวข้อการสนทนา
“อ๋อ...พอดีวันนั้นเข้าเวรน่ะ เลยไม่ได้ไป”
“แล้ววันนี้สนว่างไหม ทานข้าวกัน”
“เอ๋? ทานข้าวหรอ” สนถามย้ำอย่างไม่เชื่อหู
“ก็ใช่น่ะสิ เมย์เลี้ยงเอง เราไม่ได้เจอกันมานานหลายปีแล้วนะ ตั้งแต่เรียนจบ เราสองคนก็แยกย้ายกันไป ไม่ได้ติดต่อกันเลย เมลของเมย์ก็เปลี่ยนอันใหม่ เบอร์ก็เปลี่ยนไปหลายเบอร์แล้ว จนมาลงตัวทีอันนี้แหละ” หญิงสาวอธิบาย
“หรือสนไม่สะดวก ไว้วันหลังก็ได้นะ?” เมย์ถามย้ำ
“อ๋อ ไปได้สิ เจอกันทีไหนล่ะ” สนรีบตอบรับ
เรื่องอะไรจะไม่ไป เขาเองก็คิดถึงเธอเหมือนกัน...
..............................................................................
“ว้าววววว หล่อขึ้นเยอะเลย”
เมย์ส่งเสียงหวาน ๆ ร้องทักเขามาแต่ไกลเมื่อเห็นตัวเขาในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงยีน และผมสั้นที่ซอยเป็นชั้นสวยงาม
“เอ่อ...เมย์ เมย์ก็สวยขึ้นเยอะเลยนะ”
สนมองไปที่หญิงสาวบ้าง รูปร่างของเธอเพรียวบางแบบหุ่นนางแบบ สูงโปร่ง ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารัก ผมยาวคลอไหล่ที่ผ่านการย้อมสีและสระไดร์มาอย่างดี ใบหน้าที่ประทินโฉมด้วยเครื่องสำอางเหมือนผู้หญิงทั่ว ๆ ไป ดูไม่ฉูดฉาดนัก แต่มีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด
“ปะ ไปหาอะไรกินกันก่อน เมย์หิวมากเลย ไม่ได้กินอะไรเลยแต่เช้า”
“กินบ้างก็ได้ แหม มื้อเช้าสำคัญนะ” สนตอบทันทีด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
“ก็กินนมมาแล้วแหละ แต่มันไม่พอหรอก ปะรีบไปเถอะ หาร้านนั่งกิน แล้วก็ไปดูหนังกันสักเรื่อง”
หญิงสาวจูงมือเขาดื้อ ๆ ทำเอาเขาประหม่าไปเล็กน้อย แต่ก็ยอมตามเธอไปแต่โดยดี
สรุปโปรแกรมให้เสร็จเลยวุ้ย....ชายหนุ่มคิด
ทั้งสองไปนั่งทานอาหารในร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง เมย์เล่าเรื่องต่าง ๆ ให้สนฟังทั้งเรื่องที่บ้าน ที่ทำงาน และปิดท้ายด้วย.....
“สน เมย์กำลังจะแต่งงานนะ”
“อืม.......หา! อะไรนะ”
สนตกใจจนทำตะเกียบหลุดจากมือ เมย์หัวเราะคิก
“นี่ ตกใจอะไรนักเล่า แทนที่จะแสดงความยินดีกับเพื่อน พิลึก”
“อ๋อ....อืม ยินดีด้วย อยากรู้จริงว่าผู้ชายที่โชคดีคนนั้นเป็นใคร”
เมย์หัวเราะเบา ๆ อีกครั้ง
วันนั้นจบลงด้วยความสุข ทั้งสองทานข้าว และดูหนังดังที่เพิ่งเข้าโรงฉายในเวลานั้น สนบอกกับเมย์ว่าตัวเขากำลังจะย้ายบ้านใหม่ เนื่องจากบ้านเดิมอยู่ห่างจากที่ทำงานไม่สะดวกต่อการเดินทาง
“บังเอิญจัง! เมย์กับแฟนก็เลือกบ้านในหมู่บ้านนั้นเหมือนกัน”
ชายหนุ่มสะอึกไปอีกครั้ง ขณะนั้นเป็นเวลาค่ำพอสมควรแล้ว เขาจึงเดินไปส่งหญิงสาวที่รถ
“เมย์ไปก่อนนะ” เธอหันมาพูดกับเขาก่อนก้าวขึ้นรถ
“เดี๋ยว เมย์” สนดึงแขนเสื้อหญิงสาวไว้เบา ๆ
“อะไรหรอ?”
“เอ่อ.....สนรู้ว่าไม่ดีนะ ถ้าจะขุดคุ้ยเรื่องในอดีต แต่สนอยากรู้ว่าทำไมเมย์ถึงยังคิดว่าสนเป็นเพื่อน ในเมื่อวันนั้น....วันที่เรา....”
โดยไม่คาดคิด หญิงสาวเอื้อมมือมาปิดปากเขาไว้
“ไม่เอาน่า เรื่องมันผ่านไปแล้ว เมย์ไม่ได้โกรธเคืองอะไรสนหรอกนะ ยังไงเราก็ยังเป็นเพื่อนกันนี่นา จริงไหม”
“หมายความว่า....ตอนนี้เราพร้อมจะกลับมาเป็นเพื่อนกันใช่ไหม.....เหมือนตอนแรกที่เราเพิ่งจะรู้จักกัน”
“แน่นอนสิ!” หญิงสาวตอบอย่างร่าเริง ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู “ตายล่ะ ดึกแล้ว ยังไงก็ขอตัวกลับก่อนนะ อ้อ สนจะติดรถไปด้วยไหม?”
“อ๋อ....ไม่ดีกว่า สนว่าจะแวะเข้าร้านหนังสือก่อนกลับน่ะ....กลับบ้านดี ๆ ละกันนะ เมย์...แล้วก็..” สนพยายามเอ่ยคำพูดต่อไปออกมา “ขอบคุณมากนะ”
เมย์ชกท้องเขาเบา ๆ
“ตาบ้า ยังคิดมากไม่เปลี่ยนเลยนะ...ไปละ”
รถของเธอแล่นออกไป....
เขากลับบ้าน
..............................................................................
พอถึงบ้าน ชายหนุ่มก็อาบน้ำแล้วเข้านอนเสียดื้อ ๆ ปล่อยข้าวของที่กองทิ้งพะรุงพะรังไว้แบบนั้น
แต่ก่อนที่จะล้มตัวลงนอน เขาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง....
รูปเขากับเธอ....
เขาจ้องรูปนั้นอยู่นาน ยิ้มออกมา
จุมพิตไปที่หญิงสาวในรูปอย่างแผ่วเบา...
เก็บมันใส่ลิ้นชักตามเดิม
………………………………………………………………
เก็บเรื่องราววันที่มีแต่เรา.....ในหัวใจยังไม่ลืมเลือน
ฟ้าครามสดใสหัวใจที่งดงาม
ภาพความรัก....เปลี่ยนชีวิตเราให้แสนเบิกบาน เมื่อเธอยิ้มโลกช่างสวยงาม
ขอเพียงขอบคุณทุกวันที่แสนดี....ที่ฉันมีเธอ....
ได้รับแรงบันดาลใจจากเพลง “แค่หลับตา”
Bodyslam
ความคิดเห็น