ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บทความเกี่ยวกับการออกกำลังกายจ้า

    ลำดับตอนที่ #10 : วิ่งออกกำลังสม่ำเสมอ ช่วยอายุยืน สุขภาพแข็งแรง

    • อัปเดตล่าสุด 16 ม.ค. 50


    ปู่เป็งนักวิ่ง วัย 91 ปี ที่หนุ่มๆ ยังยกมือยอมแพ้

     

    เป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ที่ปู่เป็ง แอบย่องออกจากบ้านในตอนเช้ามืด เพื่อซุ่มซ้อมวิ่งให้ร่างกายพร้อม ส่วนจิตใจนั้น ไม่ต้องห่วงเต็มร้อยอยู่แล้ว ฟิตดี ไม่มีพลาด ปู่เป็ง จะเริ่มซ้อมตั้งแต่เวลาตี 4 โดยวิ่งรอบสนามฟุตบอลไปเรื่อยๆ พอฟ้าสว่างจึงวิ่งออกถนนใหญ่ นับหลักกิโลไปจนได้ระยะทาง ประมาณ 20 กิโลเมตร ก็วิ่งกลับจะถึงบ้านประมาณ 10 โมงเช้า

     

    ออกกำลังกาย,วิ่ง,สุขภาพ,ปู่,จิตใจ,เดินช้าๆปู่เป็ง เล่าว่า เริ่มซ้อมวิ่งช่วงแรกๆ วิ่งรอบสนามฟุตบอลจนงง... จำไม่ได้ว่าวิ่งไปกี่รอบแล้ว เลยต้องหาเครื่องช่วยจำ โดยไปแลกเหรียญบาท ใส่กระเป๋าไว้ 100 เหรียญวิ่งครบ 1 รอบ ก็ล้วงเอาเหรียญจากกระเป๋าขวา มาใส่กระเป๋าซ้าย แล้ววิ่งไปจนหมดเหรียญในกระเป๋าขวา แสดงว่าวิ่งได้ 100 รอบ แต่พอปู่วิ่งได้ 40 รอบ ก็ปรากฎว่ากระเป๋ากางเกงขาด เหรียญบาทตกหายหมด และตอนที่วิ่งก็มีเสียงเหรียญกระทบกัน...กรุ๊ง..กริ๊ง น่ารำคาญ จึงเปลี่ยนจากเหรียญบาทมาใช้เม็ดมะขามแทน

     

    นอกจากการซ้อมอย่างสม่ำเสมอแล้ว ปู่เป็ง ยังรักษาสุขภาพตนเองอย่างดีเยี่ยมแล้ว ตั้งแต่หนุ่มๆ มา ปู่ไม่เคยกินเหล้าหรือสูบบุหรี่เลย เพราะไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย กินอาหารตรงเวลา จะมีลูกสาวคนเล็กคอยชงโอวัลตินหรือนมเสริมแคลเซี่ยมให้กินทุกวัน และที่สำคัญปู่เป็งตั้งอยู่ในความไม่ประมาท เพราะปู่จะเข้ารับการตรวจร่างกายเป็นประจำทุกเดือน

     

    แรงบันดาลใจในการวิ่งเกิดจาก คำพูดในเชิงดูถูกของหลานชายตัวเล็กที่ว่า ปู่ไม่มีโอกาสได้เหรียญหรอก เพราะปู่ไม่ได้เป็นนักกีฬา อายุปู่ก็มากแล้ว ทำให้จิตใจที่ไม่เคยยอมแพ้ใครของปู่เป็งฮึดสู้ขึ้นมาทันที เนื่องจากหลานชายเป็นนักกีฬาประจำจังหวัดราชบุรีได้นำเหรียญรางวัลจากการแข่งขันมาอวด ปู่เป็งสนใจมาก เพราะสมัยปู่เป็นเด็กไม่มีแบบนี้ จึงเป็นแรงบันดาลใจครั้งแรก ก่อนจะกระโดดลงสนามวิ่ง

     

    และสิ่งที่กระตุ้นให้ปู่เป็งเลือกการวิ่งระยะไกลเป็นรางวัลในปั้นปลายชีวิตนั่นก็คือ ภาพของนักวิ่งจำนวนมากที่วิ่งผ่านหน้าบ้านเป็นประจำ ทุกวันอาทิตย์ที่สามของเดือนมกราคม เพราะเป็นเส้นทางในการจัดแข่งขันวิ่ง จอมบึงครึ่งมาราธอน ปู่จึงนึกสนุกด้วย

     

    ปี 2537 ปู่เป็งจึงเดินเข้าไปสมัครวิ่ง มินิมาราธอน 10 กิโลเมตร ในรุ่นอายุ 60 ปี ขึ้นไป ละวิ่งเข้าเส้นชัยโดยไม่ได้รับเหรียญรางวัลอะไรเลย เพราะในครั้งนั้น ปู่เป็ง วิ่งเข้าเส้นชัยเกินกำหนดเวลาชั่วโมงครึ่ง แต่ที่แน่ๆ ในวันรุ่งขึ้น ปู่เป็ง ก็ไม่สบาย ปวดเมื่อยร่างกายไปหดม เหมือนกระดูกจะหลุดเป็นเสี่ยงๆ ลูกๆ ต้องป้อนข้าวต้มอยู่หลายวัน ทำให้ปู่รู่ว่า ร่างกายตนเองไม่พร้อม เพราะไม่เคยเล่นกีฬามาก่อน เมื่อหายป่วยแล้ว ปู่เป็ง จึ่งเริ่มออกซ้อมวิ่งรอบสนามฟุตบอลเป็นประจำทุกเช้า

     

    ความมุ่งมั่นของปู่เป็ง คือตั้งใจทำอะไรแล้วต้องทำให้สำเร็จ ทุกครั้งที่ลงสนามวิ่ง จะต้องเข้าเส้นชัยให้ได้ ไม่ว่าจะทำเวลาได้แค่ไหนก็ตาม ปู่ไม่เคยออกนอกส้นทาง ไม่เคยใช้ทางลัด ไม่เคยออกจากการแข่งขันกลางคัน เป็นการให้เกียรติสนาม ปู่เป็งมีเทคนิคส่วนตัวในการวิ่งที่ไม่มีใครสอน นั่นคือ ท่าวิ่งที่ยกเท้าไม่สูง เลียดไปกับพื้น ซึ่งพัฒนามาจากการเดิน ปู่มีรูปร่างเล็ก บาง น้ำหนักเพียง 48 กิโลกรัม ส่วนสูง 155 เซนติเมตร ทำให้ร่างกายไม่ต้องรับน้ำหนักมาก การวิ่งมาราธอน 42.195 กิโลเมตร ครั้งแรกของปู่เป็ง ปู่ทำเวลาได้ 4:41:51 ชั่วโมง

     

    อย่างปู่เป็ง หนุ่มๆ หลายคนยกมือยอมแพ้ แม้ว่าเรื่องกุ๊กกิ๊กกับคู่ทุกข์คู่ยากจะห่างหายไป แต่วันนี้คุณปู่ ยังเคียงคู่ภรรยา นั่งดูกีฬาโปรดทางทีวี จูงมือคุรย่าไหว้พระสวดมนต์ก่อนเข้านอน เป็นประจำทุกคืน

     

     

     

     

    55

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×