ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : รับน้อง [2]
เมื่อเดินเลยไปจากฐานที่ 2 ไปทางตึก5 เลี้ยวขวา ก็เจอป้ายหน้าฐาน เขียนว่า ฐานที่ 3
ระหว่างเดินไปนั้น มีคนเข้ามาถามพัฒน์หลายคน
“ไหวไหม นาย”
“ไหวสิ” นายคนนั้นตอบ แม้จะไม่ได้มองหน้าก็ตาม
เมื่อเดินเข้าไป ก็เห็นรุ่นพี่ผู้หญิงกับพี่ผู้ชาย 2 คน (อีกแล้ว) กำลังวุ่นอะไรอยู่ด้านหลัง
“น้องๆ เข้ามาแล้วนั่งตรงนี้นะ”พี่ผู้ชายที่ใส่กางเกงยีนส์ชี้ไปที่ว่างๆเมื่อเห็นเราเข้ามา
“รอหน่อย ตอนนี้กำลังปฐมพยาบาล เพื่อนน้องกลุ่มที่แล้วแขนหักนะ”
หา!!! แขนหัก อะไรเนี่ยะ เห็นว่าจะไม่อันตรายไง
เสียงนักเรียนดังขึ้น ผมมองไปรอบๆ ก็ไม่มีอะไรสูงๆที่พอจะให้ตกลงมาแขนหักได้เลย
คิดยังไงก็คิดไม่ออก เฮ้อ!!! 
มีเด็กไม่น้อยที่พยายามชะเง้อดูว่าคนที่ข้างหลังนั้นเป็นอะไรมากหรือไม่ แต่ก็ไม่เห็นแล้วพี่คนเดิมที่บอกให้เรานั่งลงก็ออกมา
“เอาละ เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวน้องคนนั้นก็ถูกส่งไปโรงพยาบาลแล้ว คราวนี้ก็ตาพวกน้องแล้วนะ”
รุ่นพี่ไม่ทันจะพูดจบ เสียงว่าที่หัวหน้าห้องก็ดังมาเสียก่อน
“รุ่นพี่ครับ ไหนว่าจะไม่มีอันตรายไง”เสียงวิญช์ถามเครียดๆ
“ก็... อันที่จริง ตอนที่ประชุมกับอาจารย์ก็บอกอีกเรื่องไป  แต่มันไม่สนุกอะ ตอนที่พี่เข้ามารุ่นพี่ของพี่ก็รับพี่แบบนี้ มีเด็กพิการไป2คน”รุ่นพี่
คนนั้นเล่า
“อันที่จริงแล้ว พี่เองก็อยากเห็นเลือด อยากได้ยินเสียงกรีดร้อง”พี่คนนั้นพูดเสียงเบาเกือบกระซิบ เด็กนักเรียนในห้องเราหน้าซีดอย่างเห็นได้
ชัด
“โธ่ ไอมิคบ้า ไปแกล้งน้องเค้า น้องๆคะ พี่เค้าล้อเล่นนะ คือน้องคนเมื่อกี้เหยียบเปลือกกล้วยแล้วหกล้มแขนกระแทกกับพื้น แขนเลยหัก ไม่มี
อะไรหรอกค่ะ” พี่ผู้หญิงท่าทางใจดีพูดขึ้น พร้อมทำตาขวางไปที่รุ่นพี่ผู้ชาย2คนที่กำลังหัวเราะกันอยู่
“ใช่ ลืมไป พี่ชื่อพี่โอ๋ ไอบ้านั้นชื่อพี่มิค โน้นก็พี่แมค แฝดเค้า”
เสียงถอนหายใจดังไปทั่ว พร้อมกับมองไปที่พี่ที่ชื่อมิคแบบไม่ค่อยจะชอบใจเท่าไร
“โถ่ น้องๆครับ พี่ขอโทษ แบบสถานการณ์มันพาไปนี่ พี่คิดว่าน้องๆอาจจะชอบเรื่องตื่นเต้นนี่”
ม่ายยยยยยยยยยย  ทุกคนตะโกนเป็นเสียงเดียวกัน พี่มิคเอามือปิดหูพร้อมกับโบกมือให้น้องๆเงียบ
“เอาละครับ ถือว่าพี่ผิดเองละกัน ยกโทษให้นะครับ”
เสียงนักเรียนพึมพำไปทั่ว ทำนองว่า ไม่เป็นไร
“ขอบคุณมากเลยครับน้องๆ ใจดีจัง”พี่มิคพูดยิ้มๆ
“มาเข้าเรื่องของเราเลยดีกว่า น้องๆคงหิวกันแล้วใช่ไหมครับ ดูจากสภาพน้องบางคน”พี่มิคพูดพร้อมมองไปที่พัฒน์ “คงไม่ค่อยดีเท่าไร เอา
เป็นว่า ด่านนี้พี่มีของกินให้แล้วกัน”
พี่มิคพูดพลางชี้ไปที่ตะกร้า
“การกินผลไม้เป็นประโยชน์ต่อร่างกายนะ เพราะฉะนั้นพี่จะให้กินกล้วย ไม่ใช่กล้วยธรรมดาแต่เป็นกล้วยหอมด้วย น่าสนใจปะละ”
กินกล้วยเหรอ ด่านนี้คงไม่มีอะไรมากหรอกเนอะ
“แต่ กินอย่างเดียวก็ไม่สนุก เราต้องมีกติกานะ”พี่มิคพูดแล้วยิ้มมุมปาก แล้วยกกล่องกระดาษ
“ในกล่องนี้มีกระดาษม้วนอยู่4ใบ เป็นกติกาของเราในวันนี้ มี ข้อหนึ่ง กล้วย1ใบให้ทุกคนทั้งห้องช่วยกันกิน เน้น ทุกคนนะครับ ข้อสองกล้วย
บด หนึ่งชามช่วยกันทั้งห้อง ข้อสามกล้วย10หวีช่วยกันกินทั้งห้อง และข้อสี่ คาบกล้วยส่งต่อกันไปทั้งห้องเวียนกลับมาคนแรก เข้าใจไหม”
เสียงพึมพำดังขึ้นอีก นั่นสิ จะทำได้ยังไง กล้วยใบเดียวจะเวียนกับจนครบได้ไง สภาพมันคงเละเต็มที กล้วยบด แหวะ ใครจะกินได้ กล้วย20
หวี คนนะไม่ใช่ลิงจะได้กินหมด คาบกล้วย เหอะๆคาบไง กัดมันก็ขาด คาบก็ หุหุ  ไม่อยากจะคิด-*-
นักเรียนแต่ละคนก็สีหน้ากังวลไม่แพ้กัน ภารกิจนี้ มันยากเย็นเหลือเกิน
“เป็นอะไรไปทุกคน เรื่องกล้วยๆแค่นี้เอง”พี่แมคพูดขึ้นมาบ้าง
“ตัวแทนออกมาจับฉลากเลย”
และแล้ว วิญช์ก็ออกไปหยิบ
“เพื่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ช่วยกันจนถึงที่สุดนะ”วิญช์คราง พร้อมกับล้วงมือไปหยิบ เมื่อได้ก็หยิบส่งไปให้พี่มิค
“ไหนดูซิ โอ้ ไม่เลว ไม่ยากเท่าไรนะ ข้อ 4 ส่งกล้วย เดี๋ยวพี่ปอกให้”
โห เสียงนักเรียนดักขึ้น พร้อมกับมองวิญช์ วิญช์ยิ้มแหยๆ แล้วเด็กก็เริ่มตั้งแถว ผมก็ออกมาตั้งแถวพัฒน์ก็ลุกขึ้นมายืนหลังผมอีกครั้ง
พี่มิคส่งกล้วยเข้าปากคนแรก คนแรกก็ส่งให้คนที่สองอย่างรวดเร็ว พอจะเข้าใจว่าทำไม
กล้วยส่งต่อมาเรื่อยๆแล้ว แล้วก็มาถึงวิญช์ แล้วก็ถึงผม
ผมพยายามไม่คิดอะไรมาก หลับตา เพื่อจะได้ไม่เห็นอะไรรับกล้วยจากวิญช์ แล้วส่งให้พัฒน์ พัฒน์ก็ส่งให้ผู้หญิงต่อไป แต่ละคนสีหน้าบอก
ไม่ถูกอีกแล้ว-*-
แล้วก็ถึงคนสุดท้าย (โชคดีหรือว่าโชคร้ายกันแน่) หลังจากรับมาก็กลับไปส่งให้ผู้ชายคนแรก
เฮ้อ จบซะที ผมคิด
“เยี่ยมมากเลยน้องๆ 20คะแนนไปเลยนะ”พี่โอ๋พูด
“ยังไงเพื่อนก็คือเพื่อนของเรา อย่ารังเกียจกันนะ ในยามฉุกเฉินบางครั้ง เราอาจต้องทำมากกว่าแค่ส่งกล้วย เข้าใจไหม”
เสียงตอบรับพึมพำ
“พวกเรา เตรียมไปฐานต่อไป”วิญช์พูดพร้อมกับนำเดินนำไป
ผมพยุงพัฒน์ที่ดูว่าเริ่มออกอาการแล้ว หน้าเริ่มแดง เหงื่อไหลลงจากใบหน้า
ผมเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อให้พัฒน์ ดูท่าเค้าไม่ค่อยดีเลย
“นาย ไหวไหม เดี๋ยวเราพาไปนอนพัก”
“ไม่ ไม่เป็นไร อีก2ฐานเอง เดี๋ยวก็ได้พักแล้ว”เสียงพัฒน์เบาเกือบไม่ได้ยิน
ผมพาพัฒน์เดินไป ตามกลุ่มเด็กข้างหน้า ไม่ได้สังเกตเลยว่าเดินไปทิศไหน
เมื่อเห็นที่ที่วิญช์เดินไปข้างหน้าไม่มีเต็นท์อย่างเคยมีแค่ป้ายบอกว่าฐานที่ 4 มีรุ่นพี่นั่งอยู่2คน ทำไมไม่ใช่ 3 อย่างเคย
เมื่อเข้าไปใกล้ๆเห็นรุ่นพี่ผู้หญิงกำลังนั่งอยู่ สีหน้าไม่ค่อยดีนัก แล้วพูดกับอีกคน
“เตย โอ๊ตไปไหน หนีงานอีกแล้ว ถ้าไม่อยากทำไม่รู้จะสมัครมาทำไม ถ้าอาจารย์เพ็ญรู้ โดนม.ผ. กิจกรรมแน่ๆ”
“ไม่รู้สิอิ๋ว เดี๋ยวก็คงมาแหละ นั่น น้องๆมากันแล้ว น้องๆคะ ทางนี้ค่ะ นั่งก่อน พี่เตรียมของแปป”พี่ที่ชื่อเตยลุกไปด้านหลังพร้อมกับค้นหาของ
ในตะกร้า
“อิ๋ว ทำไมกระดาษไม่มีละ หมดแล้วเหรอ เตยว่าเตยเตรียมไว้พอนะ”
“อ้าว ก็นายโอ๊ตบอกว่าเขาลืมอีกถุงไว้ที่ห้องกิจกรรม ยังไม่ได้ไปเอามาอีกเหรอ แย่จริงๆ”พี่ที่ชื่อ    อิ๋วบ่น ทำสีหน้ารำคาญ
“น้องค่ะ รอนิดนะคะพอดี ของที่จะทำกิจกรรมยังมาไม่ถึง”พี่อิ๋วพูดเสียงละห้อย
พวกเราตอบว่าไม่เป็นไร ทำไมบรรยากาศมันน่ากลัวแบบนี้นะ ดูเครียดๆไงไม่รู้
“ไง น้องเค้ามากันแล้วเหรออิ๋ว เตย โทษทีผมร้อนเลยไปนั่งเล่นที่ริมสระ”พี่ที่น่าจะชื่อโอ๊ตเดินเข้ามา
“ใช่ มานานแล้วด้วย อันที่จริงเราก็ให้น้องเค้าทำกิจกรรมไปนานแล้ว ไม่ต้องมีนายหรอก แต่ว่าของที่นายบังเอิญลืมไว้ แล้วอิ๋วให้นายไปเอา
มามันไม่มี”พี่ที่ชื่ออิ๋วพูดโกรธๆ
“เออ ใช่ ลืม เดี๋ยวผมไปเอาให้”
“เหรอ แค่เนี่ยะเหรอ น้องเค้าเสียเวลารู้มั้ย โอ๊ต ทำไมนายไม่รับผิดชอบเอาเสียเลย แทนที่นายจะไปเอาของมาให้ก่อน แล้วนายจะไปไหนก็
ไป นายกลับไปพักก่อน”พี่อิ๋วพูดเสียงสั่นๆ ดูจะมีน้ำตาด้วย
“อิ๋ว ผมบอกแล้วไง ว่าผมร้อนมาก กะว่าหายร้อนแล้วจะไปเอาให้ แต่ผมลืม แล้วนี่ผมจะไปเอาให้แล้วทำไมยังมีปัญหาอีก น้องเค้าทำกันทัน
อยู่แล้ว มันก็ไม่ได้ยากอะไรนัก”
“เหรอ อิ๋วกับเตยไม่ร้อน ไม่เหนื่อยละสิ เราเป็นผู้หญิงนะ ยังไม่บ่น นายเป็นผู้ชายแท้ๆ ชิอาเปรียบผู้หญิง\" พี่อิ๋วตะโกน น้ำตาออกมามากกว่า
เดิม พี่เตยมาจับมือ แต่พี่อิ๋วสะบัดมือ
“นี่อิ๋ว จะมากเกินไปแล้วนะ ผมบอกแล้วไงว่าผมลืม คนจะลืมห้ามกันได้เหรอ”
“แต่แบบนายเค้าไม่ได้เรียกว่าลืม เค้าเรียกว่าไม่รับผิดชอบ”
“อิ๋ว หุบปาก!! จะมากเกินไปแล้ว เธอไม่ใช่แม่เรานะ จะมาว่าเราแบบนี้ไม่ได้”
“แล้วไง ทำไมจะว่าไม่ได้ ก็นายมันไม่รับผิดชอบจริง เราทนมาหลายครั้งแล้ว ไม่ว่างานกลุ่มงานห้อง นายไม่เคยช่วยสักครั้ง”
“อิ๋ว โอ๊ต อย่าทะเลาะกันแบบนี้ น้องๆเค้าดูอยู่นะ ให้เสร็จงานก่อนไม่ได้เหรอ”พี่เตยพูด พลางหันมามองพวกเราที่อ้าปากค้าง บางคนเอามือ
กุมที่ปาก บางคนน้ำตาเริ่มคลอ
“แล้วจะทำไม เด็กมันก็ไม่ได้เล็กแล้ว ช่างมันเหอะ”พี่โอ๊ตตะโกนใส่พี่เตย
“นี่นอกจากนายจะไม่รับผิดชอบแล้วยังไม่มีหัวใจอีกด้วย ถึงว่า ทำไมรินถึงเลิกกับนายไปหาอิง ชั้นเข้าใจแล้ว เค้าทนนิสัยเลวๆนายไม่ไหวนะ
สิ”พี่อิ๋วพูดทั้งน้ำตา
“อิ๋ว เงียบนะ ห้ามพูดถึงรินกับไอ้อิงอีก”
“ทำไม ชั้นจะพูด”
“เงียบนะ”
“ไม่เงียบ”
ฉาด!!!
เสียงที่พี่โอ๊ตฟาดฝ่ามือไปที่หน้าของพี่อิ๋ว ด้วยแรงฝ่ามือ พี่อิ๋วล้มลง พี่เตยลงไปช่วยพี่อิ๋วให้ลุกขึ้น มีเลือดไหลที่มุมปาก พวกเราตะลึงกับสิ่งที่
เกิดขึ้นเบื้องหน้า เด็กผู้หญิงหลายคนกรีดร้อง พวกผู้ชายลุกขึ้นไปห้ามพี่โอ๊ตที่คิดจะเข้าไปซ้ำพี่อิ๋วอีก
“นี่พวกมึง อย่ามายุ่งนะ เป็นแค่รุ่นน้อง อย่ามาทำเป็นพระเอก ดีไม่ดีกูจะเล่นพวกมึงด้วย” พี่โอ๊ตตะโกนพร้อมกับชักคัตเตอร์ที่อยู่ในกระเป๋า
ออกมา
“แก ไอ้โอ๊ต แกมันเลว ทำได้แม้กระทั่งผู้หญิง นี่จะยังทำรุ่นน้องอีก”พี่อิ๋วตะโกนมาทั้งๆที่ยังเจ็บอยู่
“ใช่ กูมันเลว ยังไงก็ไม่มีใครว่าดี จะเลวจะดียังไงก็ค่าเท่ากัน ดูไอ้อิงมันสิ เอาเหล้ามาให้เด็กกิน ไม่มีใครว่ามันไม่ดีสักคน มันเมาเช้าเมาเย็น
จีบผู้หญิงเป็นว่าเล่น ใครก็ว่ามันเป็นคนดี นั่นสินะ คนมันดี จะทำอะไรก็ดี แต่คนมันเลว ทำอะไรก็เลว ได้  วันนี้กูจะเลวให้สุดๆไปเลย”
“หยุดนะ รุ่นพี่ รุ่นพี่จะทำแบบนี้ไม่ได้นะ”วิญช์ออกไปห้ามพี่โอ๊ตที่กำลังจะก้าวไปหาพี่อิ๋วกับพี่เตยอีก
“วะ ไอหน้าอ่อน กุเตือนมึงแล้วนะไม่กลัวใช่ไหม อยากเจ็บตัวใช่ไหม ได้”
พี่โอ๊ตต่อยวิญช์ที่ท้อง วิญช์ลงไปนอนเอามือกุมท้อง ผมเห็นดังนั้นก็ตัดสินใจเดินก้าวออกไป
“อ้อ มีอีกคน ไม่กลัวกันจริงๆ ต้องให้เห็นเลือดกันก่อนมั้ง”
“พวกเธอ ดูแลพี่อิ๋วกับวิญช์นะ มล ออย ดูพี่อิ๋วด้วยว่าเป็นอะไรมากไหม ห้ามเลือดให้ด้วย”ผมพูดกับเพื่อนข้างหลัง เด็กผู้หญิงพยักหน้าแล้วก็
ลงดูพี่อิ๋วที่พี่เตยประคองอยู่ ส่วนไอตัวข้างหน้านี้ มันต้องเจอกันหน่อย
“อ้อ พระเอกอีกคน เดี๋ยวขอเตะพระเอกหน่อย” พี่โอ๊ตพูดพลางเตะมาที่สีข้าง ผมเกรงกล้ามเนื้อรับ โห เตะหนักเหมือนกันวะ ผมจับขาไว้แล้ว
บิดพี่โอ๊ตร้องลั่นแล้วล้มลง เมื่อพี่โอ๊ตพยายามลุกขึ้นยืนผมก็ปล่อยหมัดไม่ยั้ง ทั้งบนหน้าทั้งท้อง กระชากคอเสื้อแล้วพลักไปข้างหลัก โห
หนักมือไปเปล่าวะ -*- ลืมไปไม่ได้อยู่ในเวที แย่แล้ว-*-
“โห กฤษ แกเก่งวะ เป็นมวยด้วยเหรอ” เสียงหมูที่ยืนดูอยู่พูดอย่างตื่นเต้น
“ก็เป็น เมื่อก่อนอยู่ชมรมมวยนะ” ผมพูด เสียงเด็กผู้หญิงกระซิบกับเสียงดัง
“กฤษ ไม่อยากเชื่อว่านายดูผอมแห้งเหมือน ดูเหมือนพวกคุณหนูแบบนี้เคยอยู่ชมรมมวยมาก่อน”เสียงเด็กผู้หญิงคนนึงพูดขึ้น
“ที่จริงเราคิดว่านายเป็นเกย์ด้วยนะ สงสัยต้องเปลี่ยนความคิดแล้ว”ผู้หญิงคนเดิมพูดขึ้น
ผมสะดุ้งเฮือก ทำไมสงสัยได้แม่นจังเลย ทำไม เป็นเกย์แล้วอยู่ชมรมมวยไม่ได้เหรอ-*-
“นี่ จิ๊บ อย่าเพิ่งไปว่าเค้าสิ เราแค่สงสัยนะ ขอโทษนะกฤษ”
ผมพยักหน้าเชิงว่าไม่เป็นไร ผมหันมองไปทางพัฒน์ พัฒน์ก็มองผมอยู่ ผมเดินไปหาเขา
“นาย ดีขึ้นยัง”
“ไม่เลย แย่กว่าเดิมอีก ไม่น่าหักโหมเลยเรา”
“แล้วนี่จะไปไหวไหม”
“ไหว”
ผมทำท่าจะลุกไปดูพี่โอ๊ตที่นอนบิดอยู่ แต่พัฒน์ก็จับมือผมไว้
“กฤษ”
“มีอะไรเหรอ”
“นายเป็นเกย์ใช่ไหม”
“หา ทำไมถามเราแบบนี้ละ”
“นายเป็นเกย์ใช่ไหม ตอบเราสิ”
“เอ่อ.. เรา เราแค่....”
ผมไม่ทันจะพูดอะไร มีเสียงพี่อิ๋วกับพี่เตยดังขึ้นมาเสียก่อน
“ว้าย โอ๊ต ทำไมเป็นแบบนี้อะ\"
“นั่นสิ สงสัยเจอของจริงเข้าแล้วละ”
พี่อิ๋วกับพี่เตยพูดพลางหัวเราะ แล้วก็พยุงพี่โอ๊ตขึ้นมา
“โห หัวเราะอะไรอะ อิ๋ว เตย ผมงี้เจ็บแทบแย่ เด็กอะไรหมัดหนักชิบ โอ้ย หน้าผม”พี่โอ๊ตพูดพลางเอามือลูบหน้าตนเอง
“เอาน่า ถือว่าหายกันกับอิ๋ว อิ๋วชาๆด้วยนะเนี่ยะ อิอิ”
รุ่นพี่คุยกันอย่างสนิทสนม พวกเรายืนงง
“พี่ครับ อะไรกันครับ ทำไม..”วิญช์ถาม
“อ๋อ ไม่มีอะไรค่ะ แค่แสดงละครเล่นนะ” พี่อิ๋วพูดยิ้มๆ
หา!!! แสดงละคร นักเรียนพูดพร้อมกัน
“ด่านนี้ก็คือให้รู้จักความกล้านะ เอ่อ...ซึ่งน้องๆก็มีครบถ้วน พี่ให้ผ่านเลยนะคะ”พี่เตยพูด
อะไรกันเนี่ยะ เสียงเด็กพูดกันระงม ทำไมๆๆๆ นี่เราโดนหลอกเหรอ -*-
“โห อิ๋ว แสดงละครที่ไหน น้องคนนั้นต่อยผมจริงเลยนะนั้นอะ โอ้ย”พี่โอ๊ตพูดพลางประชด
“สงสัยกลุ่มต่อไปต้องเปลี่ยนเรื่องแล้วละเตย เอาเป็นว่าเจอคนโดนทำร้ายแล้วให้ปฐมพยาบาลดีไหม”พี่อิ๋วพูดกับพี่เตย แล้วหัวเราะอีกครั้ง
แสดงละครเหรอ ซวยแล้วสิเรา-*-
“พี่ครับ พี่โอ๊ต ผมขอโทษ คือผมไม่ได้...”
“เออ.. ไม่เป็นไร ค่อยเลี้ยงข้าวพี่สักอาทิตย์ละกัน โอ้ย เจ็บจริงๆ หมัดหนักนะเนี่ยะเรา ตัวก็ไม่ได้ใหญ่เลย กล้ามก็แทบไม่มี ทำไมหมัดหนัก
นักนะ โอ้ย”
“นี่ โอ๊ต อย่าพูดมากสิ เดี๋ยวก็ช้ำในตายหรอก สงสัยต้องให้น้ำใบบัวบกเป็นรางวัลแล้วละ น้องๆคะ ไปฐานต่อไปได้แล้วคะ โชคดีค่ะ”
พวกเราเดินออกไปอีกครั้ง โห ไม่น่าหนักมือเลยเรา รู้งี้เอาแค่หยุดพี่เค้าก็พอ เฮ้อ
ผมเดินตามกลุ่มเด็กนักเรียนที่ตามวิญช์อีกที ฐานที่5 จะเป็นยังไงนะ
ผมคิดไป แล้วหันจะไปถามพัฒน์ อ้าว ใช่ เราไม่ได้มาพร้อมกันนี่ สงสัยไปกับวิญช์แล้วมั้ง
ผมคิด แล้วก็ก้มลงผู้เชือกรองเท้าให้แน่นขึ้น มีขาคู่หนึ่งเดินมาจากด้านหลังแล้วมาหยุดที่หน้าผม
ผมเงยหน้าขึ้น พัฒน์นั่นเอง
ระหว่างเดินไปนั้น มีคนเข้ามาถามพัฒน์หลายคน
“ไหวไหม นาย”
“ไหวสิ” นายคนนั้นตอบ แม้จะไม่ได้มองหน้าก็ตาม
เมื่อเดินเข้าไป ก็เห็นรุ่นพี่ผู้หญิงกับพี่ผู้ชาย 2 คน (อีกแล้ว) กำลังวุ่นอะไรอยู่ด้านหลัง
“น้องๆ เข้ามาแล้วนั่งตรงนี้นะ”พี่ผู้ชายที่ใส่กางเกงยีนส์ชี้ไปที่ว่างๆเมื่อเห็นเราเข้ามา
“รอหน่อย ตอนนี้กำลังปฐมพยาบาล เพื่อนน้องกลุ่มที่แล้วแขนหักนะ”
หา!!! แขนหัก อะไรเนี่ยะ เห็นว่าจะไม่อันตรายไง
เสียงนักเรียนดังขึ้น ผมมองไปรอบๆ ก็ไม่มีอะไรสูงๆที่พอจะให้ตกลงมาแขนหักได้เลย
คิดยังไงก็คิดไม่ออก เฮ้อ!!! 
มีเด็กไม่น้อยที่พยายามชะเง้อดูว่าคนที่ข้างหลังนั้นเป็นอะไรมากหรือไม่ แต่ก็ไม่เห็นแล้วพี่คนเดิมที่บอกให้เรานั่งลงก็ออกมา
“เอาละ เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวน้องคนนั้นก็ถูกส่งไปโรงพยาบาลแล้ว คราวนี้ก็ตาพวกน้องแล้วนะ”
รุ่นพี่ไม่ทันจะพูดจบ เสียงว่าที่หัวหน้าห้องก็ดังมาเสียก่อน
“รุ่นพี่ครับ ไหนว่าจะไม่มีอันตรายไง”เสียงวิญช์ถามเครียดๆ
“ก็... อันที่จริง ตอนที่ประชุมกับอาจารย์ก็บอกอีกเรื่องไป  แต่มันไม่สนุกอะ ตอนที่พี่เข้ามารุ่นพี่ของพี่ก็รับพี่แบบนี้ มีเด็กพิการไป2คน”รุ่นพี่
คนนั้นเล่า
“อันที่จริงแล้ว พี่เองก็อยากเห็นเลือด อยากได้ยินเสียงกรีดร้อง”พี่คนนั้นพูดเสียงเบาเกือบกระซิบ เด็กนักเรียนในห้องเราหน้าซีดอย่างเห็นได้
ชัด
“โธ่ ไอมิคบ้า ไปแกล้งน้องเค้า น้องๆคะ พี่เค้าล้อเล่นนะ คือน้องคนเมื่อกี้เหยียบเปลือกกล้วยแล้วหกล้มแขนกระแทกกับพื้น แขนเลยหัก ไม่มี
อะไรหรอกค่ะ” พี่ผู้หญิงท่าทางใจดีพูดขึ้น พร้อมทำตาขวางไปที่รุ่นพี่ผู้ชาย2คนที่กำลังหัวเราะกันอยู่
“ใช่ ลืมไป พี่ชื่อพี่โอ๋ ไอบ้านั้นชื่อพี่มิค โน้นก็พี่แมค แฝดเค้า”
เสียงถอนหายใจดังไปทั่ว พร้อมกับมองไปที่พี่ที่ชื่อมิคแบบไม่ค่อยจะชอบใจเท่าไร
“โถ่ น้องๆครับ พี่ขอโทษ แบบสถานการณ์มันพาไปนี่ พี่คิดว่าน้องๆอาจจะชอบเรื่องตื่นเต้นนี่”
ม่ายยยยยยยยยยย  ทุกคนตะโกนเป็นเสียงเดียวกัน พี่มิคเอามือปิดหูพร้อมกับโบกมือให้น้องๆเงียบ
“เอาละครับ ถือว่าพี่ผิดเองละกัน ยกโทษให้นะครับ”
เสียงนักเรียนพึมพำไปทั่ว ทำนองว่า ไม่เป็นไร
“ขอบคุณมากเลยครับน้องๆ ใจดีจัง”พี่มิคพูดยิ้มๆ
“มาเข้าเรื่องของเราเลยดีกว่า น้องๆคงหิวกันแล้วใช่ไหมครับ ดูจากสภาพน้องบางคน”พี่มิคพูดพร้อมมองไปที่พัฒน์ “คงไม่ค่อยดีเท่าไร เอา
เป็นว่า ด่านนี้พี่มีของกินให้แล้วกัน”
พี่มิคพูดพลางชี้ไปที่ตะกร้า
“การกินผลไม้เป็นประโยชน์ต่อร่างกายนะ เพราะฉะนั้นพี่จะให้กินกล้วย ไม่ใช่กล้วยธรรมดาแต่เป็นกล้วยหอมด้วย น่าสนใจปะละ”
กินกล้วยเหรอ ด่านนี้คงไม่มีอะไรมากหรอกเนอะ
“แต่ กินอย่างเดียวก็ไม่สนุก เราต้องมีกติกานะ”พี่มิคพูดแล้วยิ้มมุมปาก แล้วยกกล่องกระดาษ
“ในกล่องนี้มีกระดาษม้วนอยู่4ใบ เป็นกติกาของเราในวันนี้ มี ข้อหนึ่ง กล้วย1ใบให้ทุกคนทั้งห้องช่วยกันกิน เน้น ทุกคนนะครับ ข้อสองกล้วย
บด หนึ่งชามช่วยกันทั้งห้อง ข้อสามกล้วย10หวีช่วยกันกินทั้งห้อง และข้อสี่ คาบกล้วยส่งต่อกันไปทั้งห้องเวียนกลับมาคนแรก เข้าใจไหม”
เสียงพึมพำดังขึ้นอีก นั่นสิ จะทำได้ยังไง กล้วยใบเดียวจะเวียนกับจนครบได้ไง สภาพมันคงเละเต็มที กล้วยบด แหวะ ใครจะกินได้ กล้วย20
หวี คนนะไม่ใช่ลิงจะได้กินหมด คาบกล้วย เหอะๆคาบไง กัดมันก็ขาด คาบก็ หุหุ  ไม่อยากจะคิด-*-
นักเรียนแต่ละคนก็สีหน้ากังวลไม่แพ้กัน ภารกิจนี้ มันยากเย็นเหลือเกิน
“เป็นอะไรไปทุกคน เรื่องกล้วยๆแค่นี้เอง”พี่แมคพูดขึ้นมาบ้าง
“ตัวแทนออกมาจับฉลากเลย”
และแล้ว วิญช์ก็ออกไปหยิบ
“เพื่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ช่วยกันจนถึงที่สุดนะ”วิญช์คราง พร้อมกับล้วงมือไปหยิบ เมื่อได้ก็หยิบส่งไปให้พี่มิค
“ไหนดูซิ โอ้ ไม่เลว ไม่ยากเท่าไรนะ ข้อ 4 ส่งกล้วย เดี๋ยวพี่ปอกให้”
โห เสียงนักเรียนดักขึ้น พร้อมกับมองวิญช์ วิญช์ยิ้มแหยๆ แล้วเด็กก็เริ่มตั้งแถว ผมก็ออกมาตั้งแถวพัฒน์ก็ลุกขึ้นมายืนหลังผมอีกครั้ง
พี่มิคส่งกล้วยเข้าปากคนแรก คนแรกก็ส่งให้คนที่สองอย่างรวดเร็ว พอจะเข้าใจว่าทำไม
กล้วยส่งต่อมาเรื่อยๆแล้ว แล้วก็มาถึงวิญช์ แล้วก็ถึงผม
ผมพยายามไม่คิดอะไรมาก หลับตา เพื่อจะได้ไม่เห็นอะไรรับกล้วยจากวิญช์ แล้วส่งให้พัฒน์ พัฒน์ก็ส่งให้ผู้หญิงต่อไป แต่ละคนสีหน้าบอก
ไม่ถูกอีกแล้ว-*-
แล้วก็ถึงคนสุดท้าย (โชคดีหรือว่าโชคร้ายกันแน่) หลังจากรับมาก็กลับไปส่งให้ผู้ชายคนแรก
เฮ้อ จบซะที ผมคิด
“เยี่ยมมากเลยน้องๆ 20คะแนนไปเลยนะ”พี่โอ๋พูด
“ยังไงเพื่อนก็คือเพื่อนของเรา อย่ารังเกียจกันนะ ในยามฉุกเฉินบางครั้ง เราอาจต้องทำมากกว่าแค่ส่งกล้วย เข้าใจไหม”
เสียงตอบรับพึมพำ
“พวกเรา เตรียมไปฐานต่อไป”วิญช์พูดพร้อมกับนำเดินนำไป
ผมพยุงพัฒน์ที่ดูว่าเริ่มออกอาการแล้ว หน้าเริ่มแดง เหงื่อไหลลงจากใบหน้า
ผมเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อให้พัฒน์ ดูท่าเค้าไม่ค่อยดีเลย
“นาย ไหวไหม เดี๋ยวเราพาไปนอนพัก”
“ไม่ ไม่เป็นไร อีก2ฐานเอง เดี๋ยวก็ได้พักแล้ว”เสียงพัฒน์เบาเกือบไม่ได้ยิน
ผมพาพัฒน์เดินไป ตามกลุ่มเด็กข้างหน้า ไม่ได้สังเกตเลยว่าเดินไปทิศไหน
เมื่อเห็นที่ที่วิญช์เดินไปข้างหน้าไม่มีเต็นท์อย่างเคยมีแค่ป้ายบอกว่าฐานที่ 4 มีรุ่นพี่นั่งอยู่2คน ทำไมไม่ใช่ 3 อย่างเคย
เมื่อเข้าไปใกล้ๆเห็นรุ่นพี่ผู้หญิงกำลังนั่งอยู่ สีหน้าไม่ค่อยดีนัก แล้วพูดกับอีกคน
“เตย โอ๊ตไปไหน หนีงานอีกแล้ว ถ้าไม่อยากทำไม่รู้จะสมัครมาทำไม ถ้าอาจารย์เพ็ญรู้ โดนม.ผ. กิจกรรมแน่ๆ”
“ไม่รู้สิอิ๋ว เดี๋ยวก็คงมาแหละ นั่น น้องๆมากันแล้ว น้องๆคะ ทางนี้ค่ะ นั่งก่อน พี่เตรียมของแปป”พี่ที่ชื่อเตยลุกไปด้านหลังพร้อมกับค้นหาของ
ในตะกร้า
“อิ๋ว ทำไมกระดาษไม่มีละ หมดแล้วเหรอ เตยว่าเตยเตรียมไว้พอนะ”
“อ้าว ก็นายโอ๊ตบอกว่าเขาลืมอีกถุงไว้ที่ห้องกิจกรรม ยังไม่ได้ไปเอามาอีกเหรอ แย่จริงๆ”พี่ที่ชื่อ    อิ๋วบ่น ทำสีหน้ารำคาญ
“น้องค่ะ รอนิดนะคะพอดี ของที่จะทำกิจกรรมยังมาไม่ถึง”พี่อิ๋วพูดเสียงละห้อย
พวกเราตอบว่าไม่เป็นไร ทำไมบรรยากาศมันน่ากลัวแบบนี้นะ ดูเครียดๆไงไม่รู้
“ไง น้องเค้ามากันแล้วเหรออิ๋ว เตย โทษทีผมร้อนเลยไปนั่งเล่นที่ริมสระ”พี่ที่น่าจะชื่อโอ๊ตเดินเข้ามา
“ใช่ มานานแล้วด้วย อันที่จริงเราก็ให้น้องเค้าทำกิจกรรมไปนานแล้ว ไม่ต้องมีนายหรอก แต่ว่าของที่นายบังเอิญลืมไว้ แล้วอิ๋วให้นายไปเอา
มามันไม่มี”พี่ที่ชื่ออิ๋วพูดโกรธๆ
“เออ ใช่ ลืม เดี๋ยวผมไปเอาให้”
“เหรอ แค่เนี่ยะเหรอ น้องเค้าเสียเวลารู้มั้ย โอ๊ต ทำไมนายไม่รับผิดชอบเอาเสียเลย แทนที่นายจะไปเอาของมาให้ก่อน แล้วนายจะไปไหนก็
ไป นายกลับไปพักก่อน”พี่อิ๋วพูดเสียงสั่นๆ ดูจะมีน้ำตาด้วย
“อิ๋ว ผมบอกแล้วไง ว่าผมร้อนมาก กะว่าหายร้อนแล้วจะไปเอาให้ แต่ผมลืม แล้วนี่ผมจะไปเอาให้แล้วทำไมยังมีปัญหาอีก น้องเค้าทำกันทัน
อยู่แล้ว มันก็ไม่ได้ยากอะไรนัก”
“เหรอ อิ๋วกับเตยไม่ร้อน ไม่เหนื่อยละสิ เราเป็นผู้หญิงนะ ยังไม่บ่น นายเป็นผู้ชายแท้ๆ ชิอาเปรียบผู้หญิง\" พี่อิ๋วตะโกน น้ำตาออกมามากกว่า
เดิม พี่เตยมาจับมือ แต่พี่อิ๋วสะบัดมือ
“นี่อิ๋ว จะมากเกินไปแล้วนะ ผมบอกแล้วไงว่าผมลืม คนจะลืมห้ามกันได้เหรอ”
“แต่แบบนายเค้าไม่ได้เรียกว่าลืม เค้าเรียกว่าไม่รับผิดชอบ”
“อิ๋ว หุบปาก!! จะมากเกินไปแล้ว เธอไม่ใช่แม่เรานะ จะมาว่าเราแบบนี้ไม่ได้”
“แล้วไง ทำไมจะว่าไม่ได้ ก็นายมันไม่รับผิดชอบจริง เราทนมาหลายครั้งแล้ว ไม่ว่างานกลุ่มงานห้อง นายไม่เคยช่วยสักครั้ง”
“อิ๋ว โอ๊ต อย่าทะเลาะกันแบบนี้ น้องๆเค้าดูอยู่นะ ให้เสร็จงานก่อนไม่ได้เหรอ”พี่เตยพูด พลางหันมามองพวกเราที่อ้าปากค้าง บางคนเอามือ
กุมที่ปาก บางคนน้ำตาเริ่มคลอ
“แล้วจะทำไม เด็กมันก็ไม่ได้เล็กแล้ว ช่างมันเหอะ”พี่โอ๊ตตะโกนใส่พี่เตย
“นี่นอกจากนายจะไม่รับผิดชอบแล้วยังไม่มีหัวใจอีกด้วย ถึงว่า ทำไมรินถึงเลิกกับนายไปหาอิง ชั้นเข้าใจแล้ว เค้าทนนิสัยเลวๆนายไม่ไหวนะ
สิ”พี่อิ๋วพูดทั้งน้ำตา
“อิ๋ว เงียบนะ ห้ามพูดถึงรินกับไอ้อิงอีก”
“ทำไม ชั้นจะพูด”
“เงียบนะ”
“ไม่เงียบ”
ฉาด!!!
เสียงที่พี่โอ๊ตฟาดฝ่ามือไปที่หน้าของพี่อิ๋ว ด้วยแรงฝ่ามือ พี่อิ๋วล้มลง พี่เตยลงไปช่วยพี่อิ๋วให้ลุกขึ้น มีเลือดไหลที่มุมปาก พวกเราตะลึงกับสิ่งที่
เกิดขึ้นเบื้องหน้า เด็กผู้หญิงหลายคนกรีดร้อง พวกผู้ชายลุกขึ้นไปห้ามพี่โอ๊ตที่คิดจะเข้าไปซ้ำพี่อิ๋วอีก
“นี่พวกมึง อย่ามายุ่งนะ เป็นแค่รุ่นน้อง อย่ามาทำเป็นพระเอก ดีไม่ดีกูจะเล่นพวกมึงด้วย” พี่โอ๊ตตะโกนพร้อมกับชักคัตเตอร์ที่อยู่ในกระเป๋า
ออกมา
“แก ไอ้โอ๊ต แกมันเลว ทำได้แม้กระทั่งผู้หญิง นี่จะยังทำรุ่นน้องอีก”พี่อิ๋วตะโกนมาทั้งๆที่ยังเจ็บอยู่
“ใช่ กูมันเลว ยังไงก็ไม่มีใครว่าดี จะเลวจะดียังไงก็ค่าเท่ากัน ดูไอ้อิงมันสิ เอาเหล้ามาให้เด็กกิน ไม่มีใครว่ามันไม่ดีสักคน มันเมาเช้าเมาเย็น
จีบผู้หญิงเป็นว่าเล่น ใครก็ว่ามันเป็นคนดี นั่นสินะ คนมันดี จะทำอะไรก็ดี แต่คนมันเลว ทำอะไรก็เลว ได้  วันนี้กูจะเลวให้สุดๆไปเลย”
“หยุดนะ รุ่นพี่ รุ่นพี่จะทำแบบนี้ไม่ได้นะ”วิญช์ออกไปห้ามพี่โอ๊ตที่กำลังจะก้าวไปหาพี่อิ๋วกับพี่เตยอีก
“วะ ไอหน้าอ่อน กุเตือนมึงแล้วนะไม่กลัวใช่ไหม อยากเจ็บตัวใช่ไหม ได้”
พี่โอ๊ตต่อยวิญช์ที่ท้อง วิญช์ลงไปนอนเอามือกุมท้อง ผมเห็นดังนั้นก็ตัดสินใจเดินก้าวออกไป
“อ้อ มีอีกคน ไม่กลัวกันจริงๆ ต้องให้เห็นเลือดกันก่อนมั้ง”
“พวกเธอ ดูแลพี่อิ๋วกับวิญช์นะ มล ออย ดูพี่อิ๋วด้วยว่าเป็นอะไรมากไหม ห้ามเลือดให้ด้วย”ผมพูดกับเพื่อนข้างหลัง เด็กผู้หญิงพยักหน้าแล้วก็
ลงดูพี่อิ๋วที่พี่เตยประคองอยู่ ส่วนไอตัวข้างหน้านี้ มันต้องเจอกันหน่อย
“อ้อ พระเอกอีกคน เดี๋ยวขอเตะพระเอกหน่อย” พี่โอ๊ตพูดพลางเตะมาที่สีข้าง ผมเกรงกล้ามเนื้อรับ โห เตะหนักเหมือนกันวะ ผมจับขาไว้แล้ว
บิดพี่โอ๊ตร้องลั่นแล้วล้มลง เมื่อพี่โอ๊ตพยายามลุกขึ้นยืนผมก็ปล่อยหมัดไม่ยั้ง ทั้งบนหน้าทั้งท้อง กระชากคอเสื้อแล้วพลักไปข้างหลัก โห
หนักมือไปเปล่าวะ -*- ลืมไปไม่ได้อยู่ในเวที แย่แล้ว-*-
“โห กฤษ แกเก่งวะ เป็นมวยด้วยเหรอ” เสียงหมูที่ยืนดูอยู่พูดอย่างตื่นเต้น
“ก็เป็น เมื่อก่อนอยู่ชมรมมวยนะ” ผมพูด เสียงเด็กผู้หญิงกระซิบกับเสียงดัง
“กฤษ ไม่อยากเชื่อว่านายดูผอมแห้งเหมือน ดูเหมือนพวกคุณหนูแบบนี้เคยอยู่ชมรมมวยมาก่อน”เสียงเด็กผู้หญิงคนนึงพูดขึ้น
“ที่จริงเราคิดว่านายเป็นเกย์ด้วยนะ สงสัยต้องเปลี่ยนความคิดแล้ว”ผู้หญิงคนเดิมพูดขึ้น
ผมสะดุ้งเฮือก ทำไมสงสัยได้แม่นจังเลย ทำไม เป็นเกย์แล้วอยู่ชมรมมวยไม่ได้เหรอ-*-
“นี่ จิ๊บ อย่าเพิ่งไปว่าเค้าสิ เราแค่สงสัยนะ ขอโทษนะกฤษ”
ผมพยักหน้าเชิงว่าไม่เป็นไร ผมหันมองไปทางพัฒน์ พัฒน์ก็มองผมอยู่ ผมเดินไปหาเขา
“นาย ดีขึ้นยัง”
“ไม่เลย แย่กว่าเดิมอีก ไม่น่าหักโหมเลยเรา”
“แล้วนี่จะไปไหวไหม”
“ไหว”
ผมทำท่าจะลุกไปดูพี่โอ๊ตที่นอนบิดอยู่ แต่พัฒน์ก็จับมือผมไว้
“กฤษ”
“มีอะไรเหรอ”
“นายเป็นเกย์ใช่ไหม”
“หา ทำไมถามเราแบบนี้ละ”
“นายเป็นเกย์ใช่ไหม ตอบเราสิ”
“เอ่อ.. เรา เราแค่....”
ผมไม่ทันจะพูดอะไร มีเสียงพี่อิ๋วกับพี่เตยดังขึ้นมาเสียก่อน
“ว้าย โอ๊ต ทำไมเป็นแบบนี้อะ\"
“นั่นสิ สงสัยเจอของจริงเข้าแล้วละ”
พี่อิ๋วกับพี่เตยพูดพลางหัวเราะ แล้วก็พยุงพี่โอ๊ตขึ้นมา
“โห หัวเราะอะไรอะ อิ๋ว เตย ผมงี้เจ็บแทบแย่ เด็กอะไรหมัดหนักชิบ โอ้ย หน้าผม”พี่โอ๊ตพูดพลางเอามือลูบหน้าตนเอง
“เอาน่า ถือว่าหายกันกับอิ๋ว อิ๋วชาๆด้วยนะเนี่ยะ อิอิ”
รุ่นพี่คุยกันอย่างสนิทสนม พวกเรายืนงง
“พี่ครับ อะไรกันครับ ทำไม..”วิญช์ถาม
“อ๋อ ไม่มีอะไรค่ะ แค่แสดงละครเล่นนะ” พี่อิ๋วพูดยิ้มๆ
หา!!! แสดงละคร นักเรียนพูดพร้อมกัน
“ด่านนี้ก็คือให้รู้จักความกล้านะ เอ่อ...ซึ่งน้องๆก็มีครบถ้วน พี่ให้ผ่านเลยนะคะ”พี่เตยพูด
อะไรกันเนี่ยะ เสียงเด็กพูดกันระงม ทำไมๆๆๆ นี่เราโดนหลอกเหรอ -*-
“โห อิ๋ว แสดงละครที่ไหน น้องคนนั้นต่อยผมจริงเลยนะนั้นอะ โอ้ย”พี่โอ๊ตพูดพลางประชด
“สงสัยกลุ่มต่อไปต้องเปลี่ยนเรื่องแล้วละเตย เอาเป็นว่าเจอคนโดนทำร้ายแล้วให้ปฐมพยาบาลดีไหม”พี่อิ๋วพูดกับพี่เตย แล้วหัวเราะอีกครั้ง
แสดงละครเหรอ ซวยแล้วสิเรา-*-
“พี่ครับ พี่โอ๊ต ผมขอโทษ คือผมไม่ได้...”
“เออ.. ไม่เป็นไร ค่อยเลี้ยงข้าวพี่สักอาทิตย์ละกัน โอ้ย เจ็บจริงๆ หมัดหนักนะเนี่ยะเรา ตัวก็ไม่ได้ใหญ่เลย กล้ามก็แทบไม่มี ทำไมหมัดหนัก
นักนะ โอ้ย”
“นี่ โอ๊ต อย่าพูดมากสิ เดี๋ยวก็ช้ำในตายหรอก สงสัยต้องให้น้ำใบบัวบกเป็นรางวัลแล้วละ น้องๆคะ ไปฐานต่อไปได้แล้วคะ โชคดีค่ะ”
พวกเราเดินออกไปอีกครั้ง โห ไม่น่าหนักมือเลยเรา รู้งี้เอาแค่หยุดพี่เค้าก็พอ เฮ้อ
ผมเดินตามกลุ่มเด็กนักเรียนที่ตามวิญช์อีกที ฐานที่5 จะเป็นยังไงนะ
ผมคิดไป แล้วหันจะไปถามพัฒน์ อ้าว ใช่ เราไม่ได้มาพร้อมกันนี่ สงสัยไปกับวิญช์แล้วมั้ง
ผมคิด แล้วก็ก้มลงผู้เชือกรองเท้าให้แน่นขึ้น มีขาคู่หนึ่งเดินมาจากด้านหลังแล้วมาหยุดที่หน้าผม
ผมเงยหน้าขึ้น พัฒน์นั่นเอง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น