ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณเชื่อในพรหมลิขิตมั้ย

    ลำดับตอนที่ #2 : โศกนาฏกรรม

    • อัปเดตล่าสุด 1 มี.ค. 51


    เชนพยายามอยู่หลายวันที่จะค้นหากล่องสีดำกำมะหยี่ที่มีสร้อยทองพร้อมล๊อกเกตรูปนกฟินิกซ์ แต่หาจนแล้วจนเล่าก็ไม่พบ เชนรู้สึกเสียใจมาก แต่เขาก็ได้กำลังใจจากพีชตลอด "ใจเย็น ๆ นะเชน ถ้ามันหายจริง ๆ เราก็ไปให้ช่างทำขึ้นมาใหม่ได้ แต่เราคิดว่านายยังไม่ต้องรีบทำหรอก เพราะว่านายยังไม่เจอคนคนนั้นเลย ให้พบเสียก่อนเถอะ" พีชตบบ่าเพื่อนเบา ๆ เป็นเชิงปลอบใจเชน ที่นั่งเหม่อลอยอยู่นอกระเบียง สักพักเชนก็นึกอะไรออกขึ้นมา จึงลุกพรวดไปที่กระดาษวาดเขียนของเขา แล้วหยิบอุปกรณ์วาดภาพทั้งหมดออกมา "เฮ้ยเชน นายจะทำอะไรอ่ะ ลมแรงจะตาย อย่าบอกนะจะวาดรูปทั้ง ๆ ที่ลมแรงขนาดนี้อ่ะ" พีชงุนงงกับความคิดประหลาดของเชน "ใช่เราจะวาด พอดีเมื่อคืนเราฝันถึงสถานที่นึง มันสวยมากเลย เชื่อมั๊ยเพื่อน เกิดมาเราไม่เคยฝันเลย ให้ตายเถอะ" เชนพูดพลางคว้ากระดาษและหยิบพู่กันล้างน้ำและเช็ดปลายเบา ๆ "จริงเหรอ เชน นายฝันเหรอ ถ้าพูดถึงความฝัน เมื่อคืนเราก็ฝันนะ แต่เราอ่ะฝันแปลก เราฝันว่าเราไปเจอผู้หญิงคนนึง เธอใส่เสื้อคลุมสีดำ คลุมถึงขาเลยน่ะ เดินถ่ายรูปอยู่ พอเธอหันหน้ามานะ เธอสวยมาก ๆ เลย ในฝันเราถีบจักรยานให้เธอซ้อนด้วย ขี่ไปตามทางริมแม่น้ำ สวยมาก ๆ เลย ไม่รู้ว่าสถานที่นั้นอยู่ที่ไหน แต่จับความรู้สึกได้ว่าอากาศเย็นมาก และเราก็หลงรักผู้หญิงคนนั้นเมื่อเราเห็นหน้าครั้งแรกเลย" พีชพูดนัยตาเป็นประกายอย่างที่เชนไม่เคยพบเห็นมาก่อน เชนส่ายหัวก่อนที่จะเดินเข้าไปตบบ่าเพื่อน" แกอย่าบ้าไปหน่อยเลย ใครกันจะไปตกหลุมรักผู้หญิงในฝัน ฝันก็แค่ฝัน มันไม่มีทางเป็นความจริงได้หรอก" แล้วเชนก็นั่งนึกถึงสถานที่ที่เขาฝันถึงเมื่อคืนอีก "แล้วนายล่ะเชน ถ้าฝันมันไม่มีวันเป็นจริงได้ ทำไมนายถึงคิดจะวาดภาพนั้นล่ะ เพื่ออะไร" พีชถามเชนอย่างจริงจัง "ก็เพราะว่ามันไม่มีอยู่จริง มันสวยกว่าความเป็นจริง เราจึงจะวาดรูปเก็บมันเอาไว้ เพราะชาตินี้เราคงไม่มีวันได้เจอสถานที่นี่จริง ๆ เข้าใจไหมเพื่อน" เชนหันมองหน้าพีชและอมยิ้มเหมือนอยากจะพยายามบอกอะไรบางอย่างกับพีช และหันกลับไปวาดรูปต่อ "เหอะๆ นี่นายคิดจะบอกเราใช่ไหม ว่าผู้หญิงที่เราหมายถึงสวยกว่าความเป็นจริง แล้วชาตินี้เราคงไม่มีทางได้พบ" พีชพูดกับเชนอย่างรู้สึกสิ้นหวัง เชนพังประโยคนั้นจึงวางพู่กันลงและหันมาทางพีชอีกรอบ "เราไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นหรอก แต่ทุกสิ่งที่มันเกินกว่าความเป็นจริง มันก็ไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ก็อีก นายอาจจะได้พบผู้หญิงในฝันคนนั้นในสักวันหนึ่งก็ได้นะ น่าเสียดายที่สมองจูนคลื่นเข้าหากันไม่ได้ ไม่งั้นเราจะวาดรูปผู้หญิงคนนั้นให้ ให้นายเอาไปนอนฝันทั้งวันทั้งคืน" เชนอดขำกับคำพูดตัวเองไม่ได้แล้วนั่งวาดรูปของเขาต่อ
     
    พีชคิดว่าเขาไปนั่งดูเชนวาดภาพเฉย ๆ ก็คงจะเบื่อเพราะไม่มีอะไรให้ทำจึงเดินกลับเข้าไปที่ครัว แล้วทำอาหารให้ตัวเองกับเชน เมนูวันนี้ก็ไม่พ้นข้าวผัดทะเลไข่ดาวที่นายเชนชอบนักหนา พีชมีฝีมือในการทำอาหารมาก เหมือนเป็นพรสวรรค์เลยก็ว่าได้ แต่ในขณะที่เขากำลังตักข้าวใส่จานเตรียมจะเอาไปให้เชน ช้อนในมือเขากลับงอลง ทำให้พีชตกใจมากวิ่งถือช้อนเอาไปให้เชนดู อย่างแตกตื่น "เชน ๆ นายต้องไม่เชื่ออะไรนี่แน่ เรามีพลังจืต พอเรามองไปที่ช้อนเนี่ยมันก็งอลงเองเลย อ่อนไปหมดเลย สะบัดทางไหนมันก็ไปทางนั้นเลย ดูซิยังกะเหล็กไหลแน่ะ" พีชพูดรัวเป็นปืนกล และรู้สึกตกใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เชนเปิดประตูเดินเข้ามาดู ก็เห็นเพียงแค่ช้อนธรรมดาอันนึง เชนกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว และเดินเข้าไปตบบ่าเพื่อนอย่างขำขัน "ไอ้พีชเอ้ย ช้อนบ้าที่ไหนมันจะไปงอได้ นั่นมันมายากลโชว์ พลังจิตบ้าบออะไรกันล่ะ นี่มันก็แค่ช้อนธรรมดา นายเห็นมั๊ยเนี่ย" พูดแล้วเชนก็คว้าช้อนส่งให้พีชดู พีชมองก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมช้อนกลับมาสู่สภาพปกติ "เฮ้ย เป็นไปได้ยังไงกัน ตะกี๊นี้ช้อนมันงอได้จริง ๆ นะ เราไม่ได้พูดเล่นด้วย แค่เรามองช้อนมันก็งอลงไปเลย" พีชมองอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ในขณะที่เชนรู้สึกปลงกับความเพ้อเจ้อของเพื่อนสนิท "เอางี้แล้วกันนะ โอเคนายมีพลังจิต แต่ที่แน่ ๆ เราหิวข้าว ไปเอาข้าวมากินกันดีกว่านะ ขืนหิว ๆ แบบนี้พลังจิตก็หายหมดแล้วล่ะ กองทัพมันต้องเดินด้วยท้อง" ว่าแล้วพีชจึงเดินกลับไปที่ห้องครัว เชนที่ยืนมองพีชอยู่พูดกับตัวเองเบา ๆ ว่า "เพื่อนกูส่งสัยจะเป็นประสาทอ่อน ๆ แล้ว เฮ้อ"
     
    "ข่าวด่วนเกิดเหตุเครื่องบินตกบริเวณใกล้เคียงกับเมืองลอนดอนประเทศอังกฤษ ของสายการบิน QANTAS ที่บินมาจากประเทศนิวซีแลนด์ ทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างมาก และเสียชีวิตอีกประมาณสี่คน นอกจากนี้ในเหล่าบรรดาผู้บาดเจ็บเรายังไม่ทราบเลยว่าจะสามารถรอดชีวิตได้หรือไม่ จากเหตุการณ์ครั้งนี้..."
    "ดูซิเชน ข่าวเครื่องบินตกอีกแล้วอ่ะ ทำไมช่วงนี้เครือ่งบินตก เครื่องบินลงไม่ตรงรันเวย์นี่ออกข่าวบ่อยจัง น่ากลัวจริง ๆ เลย" พีชหันไปมองทีวีแล้วกลับมาพูดกับเชนที่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จา "QANTAS เหรอ... เพื่อนเราเป็นแอร์ในสายการบินนี้นี่นา" เชนพึมพำกับตัวเอง อย่างไม่สบายใจ เขาลุกขึ้นเดินไปคว้าโทรศัพท์มือถือและโทรไปหาครอบครัวเขาที่ลอนดอน "Hello! Monty speaking..." "แม่ครับนี่เชนพูดเองครับ แม่ทราบข่าวเครื่องบินตกแล้วใช่ไหมครับ" เชนถามแม่หยั่งเชิงว่าจะรู้หรือไม่ว่าเขาโทรมาถามเรื่องอะไร "อ๋อ...นี่จะโทรมาถามเรื่องหนูซองชีใช่ไหมลูก ตอนนี้แม่ก็ถามข่าวให้อยู่นะจ๊ะ เพราะว่าเท่าที่แม่ทราบมาหนูซองชีอยู่ใน flightนี้พอดีด้วยจ๊ะลูก" มอนตี้พูดกับลูกชายอย่างราบเรียบ "จริงเหรอครับแม่ แล้วอย่างนี้ซองชีจะเป็นอะไรมากไหมครับแม่ ถ้าทราบข่าวซองชีแล้ว แม่รีบบอกผมเลยนะครับผมจะได้กลับไปเยี่ยมเธอ" เชนย้ำกับแม่ "ได้จ๊ะลูก เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะจ๊ะ แม่จะโทรไปถามกับแม่ของหนูซองชีอีกที แล้วจะรีบแจ้งข่าวกลับไป"
     
    เชนวางโทรศัพท์ด้วยใจกระวนกระวาย เขาเดินไปเดินมาอยู่ตรงนั้น ทำให้พีชที่นั่งกินข้าวอยู่ต้องหยุดวางช้อน "เฮ้ยเชน นายเป็นอะไรของนายว่ะ เดินไปเดินมาจนตาเราลายไปหมดแล้วเนี่ย" พีชว่าพลางทำมือทำไม้เหมือนปล่อยมุขให้เชนขำตามเขา แต่เชนกลับหันมามองยืนนิ่ง แล้วกลับมานั่งที่โต๊ะกินข้าวต่อไปไม่พูดไม่จา พีชหยุดมองเพื่อนอดสงสัยในใจไม่ได้ จึงตัดสินใจถามเชน "เกิดอะไรขึ้นเหรอ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?" เชนหันมองสบตาพีชและตอบด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลมากว่า "เพื่อนสนิทเราอยู่ใน flight บินเที่ยวที่ตก เธอเป็นแอร์โฮสเตส เราเป็นห่วงว่าเธอจะสบายดีไหม เรากลัวว่าจะเกิดสิ่งไม่ดีกับเธอ"
     
    ที่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ
    จวนชองชีหนึ่งในแอร์โฮสเตสของสายการบิน QANTAS ที่เครื่องบินตก ได้รับอุบัติเหตุสาหัส ตอนนี้เธอได้แต่นอนอาการโคม่าอยู่ในห้องไอซียูของโรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งใจกลางเมือง หมอได้ออกมาเผยอาการให้กับญาติของจวนซองชีว่าเธอมีโอกาสเป็นเจ้าหญิงนิทราได้ เพราะประสาทสมองส่วนหนึ่งได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก มอนตี้แม่ของเชนเมื่อทราบข่าวนี้ก็รีบตรงไปที่โรงพยาบาลทันที
    "นี่โอปอ ลูกสาวเธออาการเป็นอย่างไรบ้าง ตาเชนเป็นห่วงมากเลยให้ฉันมาดูอาการของหนูซองชีน่ะ" มอนตี้ถามโอปอแม่ของซองชีอย่างเป็นห่วงและอยากทราบอาการของซองชี โอปอได้แต่ร้องไห้ มองดูลูกจากด้านนอก และหันมากอดมอนตี้ "มอนตี้ลูกสาวฉันอาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทราไปตลอด ฉันทำใจไม่ได้หรอกนะ ฉันมีลูกสาวที่รักคนเดียว ก่อนหน้านี้ลูกชายคนโตของฉันมินวูก็เสียชีวิตที่เมืองไทยไปคนนึงแล้วนะ ถ้าฉันไม่มีลูกแล้วฉันจะอยู่ยังไง" มอนตี้ลูบหลังโอปออย่างปลอบใจ "ฉันเชื่อนะโอปอว่าหนูซองชีต้องหาย เธอเป็นคนดี ยังไงฉันก็เชื่อว่าพระเจ้าต้องคุ้มครองเธอนะ ฉํนเห็นเธอแต่เด็ก ๆ แล้วเธอก็ไม่เคยทำสิ่งไม่ดีเลย" มอนตี้พูดปลอบใจโอปออีกครั้ง ขณะที่มอนตี้กำลังพยายามปลอบใจโอปอเรื่องของซองชี นายแพทย์ประจำตัวของจวนซองชีก็ออกมาและเรียกโอปอเข้าไปพบเป็นการส่วนตัว มอนตี้จึงรีบคว้าโทรศัพท์โทรหาลูกชายอย่างรีบเร่ง
     
    พีชนั่งนิ่งมองเชนอยู่ครู่ใหญ่แล้วนึกเรื่องบางเรื่องขึ้นมาได้ จึงเล่าให้เชนฟัง "นี่เชน เรามีเรื่องเล่าให้นายฟัง แต่เราคิดว่านายคงไม่เชื่อเราหรอกนะ เราฝันว่ามีผู้ชายถูกคลื่นทะเลหอบลงไป คลื่นก่อตัวกันรูปร่างเป็นปีศาจมหึมาน่ากลัวมาก เราฝันแบบนี้มาติดกันหลายปีจนเราคิดว่ามันน่าจะเป็นเหตุการณ์จริงที่ไหนสักแห่งนะ" พีชเล่าและพยายามนึกถึงสถานที่นั้น ในขณะที่เชนหันไปฟังเพื่อนและทำหน้าเอือมระอาราวกับว่าเป็นเรื่องไร้สาระ "นี่พีชเราไม่มีเวลามานั่งคิดเรื่องความฝันบ้าบออะไรของนาย ก็ใช่มันอาจจะเป็นจริงนะ แต่ว่าจะมีคลื่นทะเลที่ไหนโผล่ขึ้นมาหอบคนที่เดินอยู่ลงไป แถมยังมีรูปร่างเหมือนยักษ์อีก ประสาทรึเปล่า เราว่านายคงจะดูหนังผีไทยมากเกินไป" และเสียงโทรศัพท์ของเชนก็ดังขึ้น
     
    "ครับคุณแม่" เชนรีบรับสายทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นแม่ของเขาโทรเข้ามา "ลูกเชนรีบบินมานี่เลยได้ไหมลูก ซองชีอาการหนักมาก ยังไงลูกควรมาดูอาการเธอด่วนเลยนะ แม่กลัวว่ามันจะสายเกินไปถ้าลูกมาช้า" มอนตี้พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสลด เชนที่ฟังอยู่ถึงกับนิ่งอึ้ง น้ำตาของเขาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว เชนหลับตาคิดอะไรอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องไปทิ้งให้พีชนั่ง งง อยู่คนเดียวว่าเกิดอะไรขึ้นกับเชนกันแน่ แล้วเพื่อนของเชนคนนี้คือใคร แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนของเชนด้วย หลายคำถามที่ประดังเข้ามาที่พีช แต่พีชก็ยังหาคำตอบไม่เจอ เขาลงไปนอนคิดจนเผลอหลับไปอีก และพีชก็ฝันอีกครั้งหนึ่ง เขาฝันถึงสถานที่เดิมริมแม่น้ำที่สวยงามมาก มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนถ่ายรูปอยู่ และเขาก็กำลังขี่จักรยานเข้าไปหา เขาสะกิดผู้หญิงคนนั้น และเธอกำลังหันมา แต่ว่า..."เฮ้ยพีช นี่นายหลับไปตั้งแต่เมื่อไร" เชนเข้ามาเขย่าตัวพีชที่เผลอหลับอยู่บนโซฟา พีชลุกขึ้นมาท่าทางหงุดหงิดในอารมณ์เหลือเกิน "นี่เชน นายรู้ไหมเรากำลังฝันถึงนางในฝันของเราอยู่นะ เขากำลังจะหันหน้ามาอยู่แล้ว เลยไม่ต้องเห็นกันเลย" เชนฟังอย่างนั้นก็อดหัวเราะไม่ได้ "อ้าวก็ไหนนายบอกว่านายเห็นเขาแล้วไง เธอสวยเกินกว่าความเป็นจริง You just too good to be true ไงล่ะ แล้วอะไรกันมาบอกว่าไม่เห็นหน้าอีกแล้ว" เชนส่ายหัวกับเรื่องความฝันของพีช "นี่นายเข้าใจไหมเราก็อยากเห็นหน้าเธอให้ชัด ๆ ให้จำแม่น ๆ เผื่อเราจะได้ให้นายสเก๊ตซ์ภาพให้เราได้ไง แล้วคอยดูเถอะถ้านายเห็นเธอนายอาจจะตกหลุมรักแบบเราก็ได้" เชนฟังอย่างนั้นก็ขำออกมาอีก "เหรอ งั้นนายก็นอนให้พอใจเลยแล้วกันนะ จะได้ฝันชัด ๆ นาน ๆ แล้วระวังอย่าให้แมวมันมาข่วนให้ตื่นล่ะ" ว่าแล้วเชนก็เดินออกไปจัดการะเป๋าเสื้อผ้าของเขาต่อ "เฮ้ยนี่เชน นายจะไปไหนน่ะ" พีชเห็นเชนจัดกระเป๋าเสื้อผ้าก็รู้สึกแปลกใจ "เราจะกลับลอนดอนน่ะ ไปสักประมาณอาทิตย์นึง แล้วเดี๋ยวจะกลับมาใหม่ ถ้ายังไงฝากคอนโดของเราด้วยนะ" เชนพูดกำชับกับพีช แต่พีชตะกุกตะกักที่จะตอบ "คือ...แล้วหอพักเราล่ะเราก็ต้องอยู่หอพักก่อนเพราะเราก็จ่ายเงินค่าหอพักไปแล้ว อีกอย่างต้องไปเตรียมงานด้วย อีกเดือนเดียวก็จะเปิดเทอมแล้วต้องเตรียมกิจกรรมสำหรับรุ่นน้องปี 1" พีชแจกแจงเหตุผลของเขากับเชน เชนส่ายหัวให้พีชอีกครั้ง "เอาน่า...อาทิตย์เดียวเอง นายมาอยู่นี่ก่อน แล้วถ้ามีปัญหายังไงก็โทรแจ้งเราทันทีนะ และนี่เบอร์เราที่เมืองนอกโทรได้ตลอดเวลา แล้วเจอกันเพื่อน" เชนยื่นกระดาษโน๊ตแผ่นเล็กให้พีชและก็ลากกระเป๋าเดินออกไป "เฮ้ยไอ้เชนนายอย่าบอกนะว่าจะไปคืนนี้เลย" พีชตะโกนถามเชน เชนหยุดเดินและหันหลังกลับมาบอกพีชพร้อมยิ้มอย่างมีเลศนัยว่า "แน่นอนที่สุด"
     
    "เฮ้อเพื่อนเรานี่มันเป็นคนไวดีจริง ๆ แล้วเราจะเอายังไงว่ะเนี่ย เชนมันจะให้เฝ้าคอนโดมัน แล้วกุญแจล่ะ อ้าวไอ้เชนไม่ได้ให้กุญแจมา" พีชพูดกับตัวเองแล้วนึก ขึ้นได้ รีบวิ่งตามเชนไปอย่างเร็ว เขาตะโกนจากชั้นสามลงมาชั้นหนึ่งว่า "ไอ้เชนโว้ยยยยเอากุญแจมาด้วย...."
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×