คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : :นะ.....นาย.......เฮือก!:
“ยัยหวาย ไปซื้อของกัน”หนามพูดขึ้นขณะที่ฉันกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในตอนเช้าวันแรกของการปิดเทอมที่ผาสุข
“จะไปซื้ออะไรเล่าหนาม เสื้อผ้าก็มีแล้ว”
“ก็ไปซื้อของฝากครอบครัวอุปถัมภ์ที่เราจะไปอยู่ด้วยไง”
“แต่พี่ไผ่ก็จ่ายเงินให้เค้านะ”
“น้ำใจไงยัยหวาย เธอรู้จักไหมยัยงก หรือว่า ในหัวสมองเธอมีแต่คำว่างก”
“โอ๊ย รู้แล้วน่า แล้วจะไปที่ไหนละ”ฉันถาม
“จตุจักร”
“ไม่มีทาง”ฉันพูดแล้วไม่สนใจหนามอีกต่อไป
ไม่น่ามาเลยฉัน เฮ้อ ร้อนก็ร้อน ร้อนจะตายอยู่แล้ว ฮ่วยๆๆๆๆๆ นายหนามนะนายหนาม ลากฉันมาจนได้
“ได้รึยังเล่าหนาม นานแล้วนะ”ฉันถามหนาม ขณะที่อีกตานี่กำลังเลือกถ้วยเบญจรงค์ไปฝาก Host family
“ได้แล้ว บ่นจริงๆเลยน้องฉัน”
“ของฝากก็ได้ครบแล้ว กลับบ้านกัน”ฉันพูดขณะเดินออกจากร้านเครื่องเบญจรงค์
“โห อุตส่าห์มาทั้งที ไม่คุ้มค่าแท๊กซี่เลยนะยัยหวาย”
“ไม่คุ้มก็ช่างดิ เงินพี่ไผ่ หามาไม่ได้ลำบากไรเลย”
“เธอนี่ไม่รู้จักคุณค่าของเงินเลยยัยตัวเล็ก ไปดูเสื้อผ้ากันก่อนไป”
“ไม่เอาหนาม หวายร้อน แล้วหวายก็อยากกลับบ้าน”
“ไม่ หนามยังไม่อยากกลับ แล้วหวายก็ต้องไปดูเสื้อผ้ากับหนามด้วย”
“แล้วทำไมหวายต้องทำคามที่หนามบอกเล่า”
“ก็เพราะ หนามเป็นพี่ชายสุดหล่อของหวายไงล่ะ แล้วถ้าหวายไม่ทำตามนะ หนามก็จะบอกพี่ไผ่”
นายหนาม อะไรอะไร ก็อ้างพี่ไผ่ ห่วย จำไว้เลยนะ
นี่มันจะครบร้อยร้านแล้ว ทำไมหนามยังไม่กลับบ้านอีกเนี่ย ฉันเหนื่อยแล้วนะ ฮ่วยๆๆๆๆๆๆๆ
“นี่ หวาย เหนื่อยแล้วหรอ”
“ก็ใช่อะดิ ใครจะพลังช้างเท่าหนามเล่า อึดเป็นบ้า”
“อะไรกันเล่า ผู้หญิงเค้าต้องช๊อปเก่งๆ ไม่ใช่หรือไง”
“งั้นก็ขอโทษทีเถอะหนาม ผู้หญิงคนนั้นคงไม่ใช่หวายอะ มาได้ไงกัน ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย คนก็เยอะ”
“ของก็เยอะด้วยนะยัยหวาย เออๆ อย่าทำหน้ายักษ์อย่างงั้นน่า ไปนั่งรอในร้านขายเค้กตรงนั้นก่อนก็ได้ เดี๋ยวหวายตามไป”
“จริงหรอ”ฉันรีบปรับสีหน้าบูดๆของฉันให้เป็นหน้าสวยทันที แต่นะ หน้าไหนมันก็สวยอยู่แล้วอะ
“เออ แล้วก็ แบบของไปด้วย หนามขี้เกียจถือ”
กว่าฉันจะแบกของที่หวายและฉันซื้อเข้ามาในร้านได้ก็ปาไปห้านาที(เวอร์ไปไหม) เฮ้อ ร้อนเป็นบ้า ฉันนั่งแล้วก็หอบด้วยความเหนื่อย
ห้านาทีผ่านไป ก็ยังไม่มี พนักงานเสิร์ฟท่านใด เดินมารับออเดอร์ที่โต๊ะฉัน ให้ตายดิ คนยิ่งร้อนๆอยู่ด้วย
“นั่งด้วยคนนะ”ผู้ชายคนนึงเดินมาแล้วนั่งตรงข้ามฉัน แล้วรีบเอาเมนูมาปิดหน้า
แล้วมันเป็นใครกันฟะเนี่ย ใส่หมวก ใส่แว่นกันแดด เสื้อแขนยาวมีฮู้ด กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ให้ตายเหอะ ไม่ร้อนหรือไงกัน
“สวัสดีคะ รับอะไรดีคะ อ้าวคุณนาย”พี่พนักงานเสิร์ฟเดินมาที่โต๊ะฉัน
หนอยหล่อน พอเห็นผู้ชายละ รีบมารับออเดอร์เลยนะยะ แล้วอะไรกันเนี่ย ผู้ชาย มาเรียกคุณนายได้ไง ไม่ไหว ไม่ไหว
“ผมขอกาแฟ แล้วก็ เอแคร์นมสดสิบลูกแล้วกันครับพี่ลูกแก้ว”ตานั่นพูดพลางยิ้ม
“ของฉัน ขอไอศครีมสอตเบอรี่ห้าลูกนะคะ ไม่ใส่เชอรี่คะ แล้วก็ไม่ต้องใส่วิปครีมด้วย ทอปปิ้งก็ไม่ต้องนะคะ แล้วก็ เอาน้ำแตงโมปั่น ไม่ต้องเอาเม็ดออกนะคะ ไม่ต้องใส่เกลือล่ะ แล้วก็ ขอเค้กกาแฟ แครอทเค้ก พายไก่ พายสับปะรด ใส่กล่องกลับบ้านนะคะ อย่างละสองชิ้น”ฉันสั่ง
“ทำไมสั่งเยอะจังคะ”พี่พนักงานพูด
“แล้วทำไมละคะ หรือว่าไม่ดีที่มีคนมาซื้อของร้านคุณเยอะ”
“ป่าวคะ แต่พี่แค่สงสัย”
“แล้วพี่สงสัยทุกคนเลยรึเปล่าล่ะคะ หรือ สงสัยแค่หนู”
“ก็พี่/พอเถอะครับ ผมหิว”อีตาบ้า ที่นั่งตรงข้ามฉันพูดขึ้นมา แล้วพี่คนนั้นก็ยิ้มให้แล้วเดินจากไป
“เธอนี่ปากจัดดีนะ”นี่มันชมหรือมันด่ายะ
“ฉันแค่โมโหหิวนะ แล้ว ทำไมนายมานั่งตรงนี้ละ โต๊ะก็ว่างตั้งหลายตัว”
“ก็ ฉันพอใจ เธอมีปัญหารึไง”อีตานั่นพูดพลางยิ้มกวนประสาทฉัน อ๊าก อีตาบ้า ดูๆไป อีตานี่ก็มีเค้าโครงความหล่อเหมือนกันนะเนี่ย แต่ไม่รู้ว่า ถ้าทอดแว่นแล้ว ยังจะหล่อเหมือนเดิมไหม
สักพักนึง ไอศครีม ขนม และก็กาแฟ ห็ถูกเสิร์ฟลงข้างหน้าฉัน
“นี่ เธอหิวมากเลยรึไง”
ทำไมยะ ฉันกินไอศครีม แค่ห้าลูกนี่มันแปลว่าฉันหิวมากเลยหรือไงกัน
“เปล่า ฉันก็กินปรกติของฉันนะ”
“เนี่ยนะ ปรกติ ฉันอยากรู้จังว่า ไม่ปรกติ ของเธอเนี่ย มันคืออะไร”
“ก็คือ การที่มานั่งกินอาหารร่วมโต๊ะกับคนที่ไม่รู้จัก ทั้งๆที่ยังมีโต๊ะเหลือไงเล่า”
“อ๋อหรอ นี่ฉันอุตส่าห์มานั่งคุยเป็นเพื่อนเธอนะเนี่ย”
“ฉันไปขอร้องนายตอนไหนมิทราบ นายถึงต้องอุตส่าห์ มานั่งคุยเป็นเพื่อนฉันเนี่ย ห๊ะ ฉันบอกนายรึไง ว่าฉันเหงา อยากมีเพื่อนคุย
ฉันบอกนายสักคำรึยังห๊ะ ท่าทางก็น่ากลัวอย่งนายเนี่ยอยากให้มานั่งด้วยตายละ”
“เธอว่าฉันหน้าเหมือนโจรหรอ”
“ใช่อะดิ นายอะ หน้าเหมือนโจร น่ากลัวยิ่งกว่าโจรก่อการร้ายภาคใต้ซะอีก แล้วเนี่ยมัน จตุจักรนะไม่ใช่ สยามพารากอน ที่จะได้แอร์เย็นช่ำชื่นใจ ถึงขนาดจะต้องใส้เสื้อแขนยาว ใส่หมวก ใส่ยีนส์ ใส่ผ้าใบ แถมด้วยแว่นกันแดด นึกว่ามันเท่ห์นักรึไงยะ”
อันที่จริงเค้าก็เท่ห์จริงๆนั่นแหละนะแต่ว่า ปากมันพาไปอะ แหะๆ
“ไม่ต้องคิดหรอกนะ เพราะฉันน่ะ เท่ห์อยู่แล้ว”อีตานั่นพูดแล้วยิ้มกวนประสาท
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
นิสัยหลงตัวเองแบบนี้ มันเหมือน พี่ไผ่กับตาหวายเลย เฮ้อ ผู้ชายหน้าตาดีนี่ เป็นอย่างนี้กันทุกคนเลยหรือไงเนี่ย
“ตั้งแต่เกิดมานะ ฉันยังไม่เคยเห็นใคร หลงตัวเองได้เท่านายเลย”
“อะไรนะ ไม่เคยเห็นใครหล่อเท่าฉันหรอ อันนั้นมันก็แน่นอนอยู่แล้วอะนะ เพราะฉันก็ยังไม่เคยเห็นใคร หล่อเท่าตัวฉันเหมือนกัน”
“อ๊าก ไอ้บ้า ไม่ใช่ย่ะ ฟังให้ดีนะ นายมัน หลงตัวเองที่สุดในจักรวาล”
“จริงอะ ฉันว่า การยอมรับความจริงมันก็ไม่ผิดไม่ใช่หรอ”
“พูดกับนยนี่มนยากกว่า สอนหมูให้กินข้าวซะอีก”
“นี่เธอมันจะยากยังไงกับการสอนหมูให้กินข้าวเนี่ย”
“ฉันก็แค่เปรียบเทียบย่ะ”
“เปรียบเทียบอะไรของเธอ ยัยปัญญาอ่อน”
“เอ๊ะนาย/นี่มันอะไรกันคะนาย”ฉันยังไม่ทันพูดจบก็มีเสียงเด็กผู้หญิงแทรกขึ้น ฉันหันไปมองหาเจ้าของเสียงแจ๋นๆ
เหอะ ถ้าฉันเรียกเจ้าของเสียงเมื่อกี๊ว่าเด็ก ก็คงจะเป็นเด็กรุ่นป้าแน่นอนเลย ดู แต่งหน้าเข้าสิ อย่างกับป้า
“อ้าว หวัดดี พีนัท”ตานั่นพูดพลางยิ้มยิงฟัน
“นี่มันอะไรกันคะนาย”ยัยป้าพีนัทพูดพลางมองฉันด้วยหางตา
“นี่ มันก็คนไงครับ”
“นายคะ ไม่ตลกเลยนะคะ พีนัทหมายถึงว่า ยายเด็กนี้นะ เป็นใครกัน”
“แล้วพีนัท คิดว่า ผู้หญิงกับผู้ชาย มาเที่ยวด้วยกันสองคน มันเรียกว่าอะไรล่ะครับ”อีต้านั่นพูดพลางยิ้มยิงฟัน
เฮ้ย พูดอะไรของนายเนี่ย พูดซะคลุมเครือเชียว เราเพิ่งรู้จักกันได้เพียงสิบสามนาที ยี่สิบสองวิเองนะเฟ้ยเห้ย
“หมายความว่ายังไงคะนาย พี่นัทไม่เข้าใจ”
“ก็หมายความว่า ผมมาเดทกับเธอครับ”อีตานั่นพูด แล้วยิ้มยิงฟัน
“เดท นายกำลังแกล้งพีนัทหรอคะ ทำไมนายมาเดทกับผู้หญิงอื่น ทั้งๆที่/เราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะพีนัท อย่ามาพูดเรื่องนี้กับฉันอีก”อีตานั่นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา น่ากลัวแหะ
ยัยพีนัททำหน้าบูดแล้วลากสังขารป้าๆ ของตัวเองเดินออกนอกร้านไป
“เหอะ ผู้หญิงนี่น่าเบื่อเนอะ”
“ไม่ใช่ทุกคนหรอกน่า”
~ยัยเตี้ย มัดหวาย รับโทรศัพท์ด่วน~ อ๊าก ตาหนามบ้า บังอาจมาเปลี่ยนเสียงโทรศัพท์ฉัน
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”อีตานั่นหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย
“เงียบได้ไหม”ฉันหันไปตวาดแต่เขาก็ยังคงหัวเราอยู่
ฮึ่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
“หนาม ใครใช้ให้หนามมาเปลี่ยนเสียงเรียกเข้าหวาย”
:ไม่มีใครใช้หรอกหวาย แต่ใจหนามมันเรียกร้อง:
“มันคงเรียกร้องที่จะตายด้วยน่ะสิ”
:ง่ะ หนามขอโทษนะหวาย:
“อื้อๆ แล้วอยู่ในแล้วเนี่ย หวายรอหนามนานแล้วนะ”
:กำลังจะบอกว่า จะถึงแล้ว หวายอยู่ร้านไหนเนี่ย:
“ร้าน ลิตเติ้นทวิน อะ เข้ามาเร็วๆเข้าล่ะ แค่นี้นะ”ฉันกดวางสายด้วยความโมโห ไม่ได้โมโหที่หนามมาเปลี่ยนเสียงหรอกนะ แต่โมโหที่หนามมาว่า ฉันเตี้ย หวายรับไม่ได้คะ
“ชื่อ มัดหวายหรอ น่ารักดีนะ”
“ชื่อหวาย เฉยๆ ไม่ได้ชื่อมัดหวายหรอก แต่พี่ฉัน คนที่ชื่อหนามน่ะ ชอบเรียกฉันว่า มัดหวาย”
“อ่อ ฉันชื่อนายนะ”
“ฉันถามนายเมื่อไหร่กัน”
“เอ๋า ฉันก็นึกว่าเธออยากรู้ ผิดอีกเรา”
“อ่าๆๆๆๆๆ ขอโทษที อารมณ์ไม่ดีไปหน่อย”
“เธอเคยอารมณ์ดีด้วยหรอ”
“นี่นาย/อ้าว ไอ้นาย ยัยหวายทำไมมานั่งด้วยกันเนี่ย”
ความคิดเห็น